คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : หอสมุดหลวง
หลังจากผมอาบน้ำด้วยตัวเองแล้ว..เรื่องใส่เสื้อผ้าผมก็ตัดสินใจหลับตาใส่..เพราะยังทำใจให้ชินกับร่างกายที่เป็นผู้หญิงยังไม่ค่อยได้..อีกอย่างชุดสีขาวแบบนี้มัน..ผ้ามันจะบางไปรึเปล่าถึงจะเป็นเนื้อผ้าที่ให้ความรู้สึกดีเวลาใส่..แต่ก็ช่างเถอะ..
“ คาน่าเข้ามาได้แล้ว..”
“ เพค่ะองหญิง— ”
แต่ทันทีที่คาน่าเปิดประตูเข้ามาเธอทำหน้าตาตกใจอะไรสักอย่างก่อนที่ คาน่าจะรีบตรงดิ่งมาหาผมในทันที..จนตัวผมลืมคิดไปว่าก่อนหน้านี้เผลอวิ่งไปเข้าห้องน้ำทั้งๆที่ร่างกายนี้อ่อนแอแค่ไหน..แบบนี้มัน..
“ องค์หญิงเพค่ะ ทำไมถึงปล่อยให้ผมเปียกน้ำแบบนี้ล่ะเพคะ!! แล้วผมที่ยุ่งกระเซิงแบบนี้อีก..นั่งก่อนนะเพค่ะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะช่วยทำผมให้แห้ง.. ”
“ อ่ออ..เข้าใจแล้ว..งั้นก็ฝากเธอด้วยนะคาน่า.. ”
“ เป็นหน้าที่ของหม่อมฉันอยู่แล้วเพค่ะ.. ”
ผมนั่งลงตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง..ทันทีที่ผมนั่งลงคาน่าก็ขออนุญาติจับเส้นผม ของผมเอง.. ก่อนจะมีวงแหวนเวทย์สีเขียวปรากฏขึ้นมาพร้อมกับลมเย็นๆที่พัดออกมา..ทำให้ตัวของผมนั้นรู้สึกเย็นสบายเหมือนกับว่าเป็นหนึ่งเดียวกับสายลม..
“ นี่มัน..เวทย์มนต์..คาน่าก็ใช้เวทย์มนต์ได้อย่างงั้นเหรอ..”
ทันทีที่ผมถามออกไปตัวของคาน่าก็แสดงท่าทีแปลกใจเล็กน้อย..
“ เพค่ะ..ปกติแล้วคนส่วนใหญ่ในจักรวรรดิก็สามารถใช้เวทย์มนต์กันได้ทั้งนั้น แต่ถึงอย่างงั้นก็มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน เพราะว่า มานาส่วนใหญ่ของชาวบ้านทั่วไปนั้นจะอยู่ในระดับมาตราฐานเพค่ะ…ไม่มากแล้วก็ไม่น้อยจนเกินไป..ส่วนแก่นแท้ของมานา นั้นจะแตกต่างออกไปเพค่ะ เพราะว่า แก่นแท้ของมานาเปรียบเสมือนพลังชีวิตของเรา ถ้าเราใช้แก่นแท้..พลังชีวิตของเราก็จะถูกดึงออกไป..แลกกับพลังเวทย์มหาศาลในช่วงระยะเวลาหนึ่ง..ส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่จำเป็นจนถึงอันตรายชีวิตจริงๆ คนส่วนใหญ่จะพยายามหลีกเลี่ยงกัน แต่มานาทั่วไปเหมือนที่หม่อมฉันใช้อยู่ตอนนี้ เป็นมานาปกติทั่วไป ถึงใช้ไปแล้วก็สามารถฟื้นกลับคืนมาได้ แค่นอนพักผ่อน แตกต่างจากแก่นแท้ของมานาที่ไม่สามารถฟื้นคืนมาได้เพค่ะ.. ”
ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเกิดความรู้สึกสนใจในเวทย์มนต์ในทันที..เพราะว่าตัวผมในตอนนี้สามารถสัมผัสได้ถึงมานาลึกๆภายในตัวของผม…อาจจะเป็นสิ่งที่เลเชียพูดถึง..แล้วก็รวมถึงหาข้อมูลของโลกใบนี้ด้วย..แต่ว่า..
“ แล้วทำไมฉันถึง..ไม่มีมานาเหมือนกับคนอื่นๆอย่างงั้นเหรอ…”
สิ่งที่ผมถามก็เพียงแค่อยากจะทดสอบบางอย่างกับคาน่า..แน่นอนว่าคาน่าเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเลเชียมากที่สุด..แต่ผมก็ยังไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น..หากไม่ทราบเจตนาที่แท้จริงของคาน่า..
“ เรื่องนั้น..ไม่ใช่ความผิดขององค์หญิงเพค่ะ..ไม่ว่าองค์หญิงจะมีหรือไม่มีมานา หม่อมฉันก็จะขอรับใช้องค์หญิงไปตลอดชีวิต..นั่นคือสิ่งที่หม่อมฉันเชื่อมั่น แม้แต่ชีวิตนี้หม่อมฉันก็ไม่คิดเสียดาย..”
และคำตอบที่คาน่าตอบมานั้นก็ยังไม่ใช่คำตอบที่ผมต้องการ..แต่ว่าผมในตอนนี้พอจะสามารถคาดเดาได้ว่าใครโกหก หรือพูดจริง จากกระแสมานา ที่อยู่รอบตัวและในตัวของคาน่า…
แน่นอนว่าถ้าคาน่าเกิดโกหกขึ้นมา มานาจะเกิดความผันผวนเล็กน้อยเท่านั้น..แต่มานาของคาน่านั้นกลับสงบเยือกเย็นและบริสุทธิ์…ไม่เหมือนกับสาวใช้ทั่วไป..ผมคิดแบบนั้น แต่ก็นะ ดูเหมือนว่าคาน่าจะเป็นคนที่ผมสนิทด้วยที่สุดในตอนนี้ละนะ อีกอย่างตัวผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง..
“ ขอบคุณนะ..คาน่า..ฉันตัดสินใจได้แล้ว.. ”
“ ตัดสินใจอะไรอย่างงั้นเหรอเพคะองค์หญิง? ”
“ ฉันอยากจะไปหอสมุดหลวงฝากนำทางหน่อยนะคาน่า…”
ตัวของเลเชีย..ไม่สิ ตัวผมในตอนนี้จำเป็นจะต้องเรียนรู้เวทย์มนต์ให้เร็วที่สุด…เพราะถ้ามันเป็นไปตามนิยายส่วนใหญ่ที่ผมเคยอ่าน จะต้องมีคนมาลอบสังหารตัวผมอย่างแน่นอนในอนาคตหรือไม่ก็..เพราะแบบนั้นผมจึงต้องเรียนรู้เวทย์มนต์โดยเร็วที่สุดและแข็งแกร่งขึ้นให้ไว้ที่สุดเพื่อปกป้องตัวเอง..แต่ทำไมท่าทีของคาน่าถึงเป็นแบบนั้น..
“ มีอะไรอย่างงั้นเหรอคาน่า..”
“ คือว่าองค์หญิงอาจจะไม่ทราบเพราะว่าองค์หญิงไม่ค่อยได้ออกไปไหนบวกกับองค์หญิงพึ่งฟื้นขึ้นมา..ตอนนี้หอสมุดหลวงถูกย้ายไปอยู่ที่ โรงเรียนเวทย์มนต์แห่งจักรวรรดิแล้วเพค่ะ ”
อ่า..เเบบนี้เองสินะ..แต่ว่าอะไรนะ!!
“ โรงเรียนเวทย์มนต์แห่งจักรวรรดิ?..แล้วตอนนี้โรงเรียนนั่นอยู่ที่ไหนอย่างงั้นเหรอ.. ”
ดูจากที่ผมถาม คาน่าทำท่าทางกระอักกระอ่วนผมก็พอจะเข้าใจได้แล้วว่ามันคือที่ไหน…
“ ตั้งอยู่ใกล้กับเขตพระราชวังสินะ..ไม่เป็นไร ช่วยนำทางฉันหน่อยนะคาน่า..แล้วก็ขอเสื้อคลุมด้วย..”
“ ถ้าองค์หญิงทรงพูดแบบนั้น..หม่อมฉันก็ยินดีจะนำทางให้เพค่ะ..”
“ ขอบใจนะ.. ”
โรงเรียนเวทย์มนต์อย่างงั้นเหรอ..ทำไมหอสมุดหลวงถึงถูกย้ายเข้าไปอยู่ที่นั่น…อีกอย่างที่นั่นเป็นสถานที่ที่รวมเหล่าขุนนางและสามัญชนผู้มีความสามารถเข้าด้วยกัน..หวังว่าคงจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นหรอกนะ…
หลังจากนั้นไม่นานคาน่าก็เตรียมเสื้อคลุมสีขาวมาให้..ลายของมันดูเหมือนว่าจะผสมเส้นด้ายสีทองเข้าไปด้วยนิดหน่อย..ก็สวยดีไปอีกแบบ..
“ งั้นเดี๋ยวหม่อมฉันจะไปบอกอัศวินที่ประจำอยู่ที่นี่ให้เตรียมรถม้าให้นะเพค่ะ.. ”
“ ไม่เป็นไร ไปด้วยกันนี่แหละ.. ”
“ แต่ว่า— ”
“ ไปด้วยกัน.. ”
ผมยืนยันคำเดิมพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่น คาน่าเห็นแบบนั้นก็รู้สึกใจอ่อนในทันที..
คาน่าเปิดประตูให้กับผม เป็นครั้งแรกที่ผมออกมาจากห้องของตัวเอง..ทางเดินเป็นห้องโถงยาว พร้อมกับมีอัศวินรักษาการณ์อยู่ตลอดสองข้างทาง..แต่ว่าทันทีที่ผมก้าวเท้าออกมาจากห้องสายตาของเหล่าอัศวินกว่า 10 คนล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึง..
เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอารมณ์ที่หลากหลายและสงสัย..
“ ถวายความเคารพ องค์หญิงเลเชีย..ไม่ทราบว่าองค์หญิงเลเชียต้องการสิ่งได้อย่างงั้นเหรอขอรับ..”
อัศวินรูปร่างดูสมส่วนเส้นผมสีน้ำตาล นัยต์ตาสีน้ำผึ้ง..ผิวสีแทนนิดๆ..ถ้าเป็นโลกนู้น เป็นนายแบบ กับ ไอดอลได้สบายๆเหมือนกันเลยนะเนี่ย..
“ ฉันอยากไปหอสมุดหลวง ช่วยเตรียมรถม้าให้หน่อยนะ..”
ผมพูดไปแบบนั้นแต่ดูเหมือนว่า ปฏิกิริยาตอบรับแบบนั้นเหนือความคาดหมายจริงๆด้วย…ผมพอจะเข้าใจแล้ว..อัศวินพวกนี้ไม่ได้ประจำอยู่เพื่อดูแลผม…แต่เพื่อจับตามอง..แต่ว่ามานาที่ไหลอยู่ในตัวของอัศวินคนนี้มันออกจะ…
“ กระหม่อมขอบังอาจถามได้หรือไม่ ว่าพระองค์ไปที่หอสมุดหลวงเพื่อไปทำอะไร— ”
“ ท่านคงเข้าใจอะไรผิดสักอย่าง…ข้าจำไม่เห็นได้ว่าท่านมีอำนาจในการไต่ถามเรื่องส่วนตัวของข้า..หรือเพราะใครๆก็ต่างพากันเรียกข้าว่าองค์หญิงขยะ..เลยจะทำยังไงกับฉันก็ได้อย่างงั้นเหรอ?.. ”
ดูท่าจะได้ผลอีกแล้ว อัศวินพวกนั้นตัวสั่นเหมือนลูกนกเลย..แต่มันก็น่าโมโหจริงๆนะ ไปหอสมุดก็ต้องไปอ่านหนังสือสิ จะให้ไปล้างจานรึยังไง!!
“ กะ..กระหม่อมขออภัย กระหม่อมไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกท่านเช่นนั้น พวกข้าจะไปเตรียมรถม้ามาให้โดยเร็วที่สุด!!.. ”
“ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าข้า เป็นองค์หญิงขยะ…พวกท่านช่างเป็นอัศวินที่ดีกันซะจริงๆ..ใครเป็นคนส่งพวกเจ้ามากันแน่..แต่ก็ช่างเถอะ ”
ผมพูดไปแบบนั้น อัศวินเหล่านั้นก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตา แต่มีอัศวินอยู่คนหนึ่ง..ที่ดูแตกต่างไปจากอัศวินพวกนี้คือ ท่าทางที่สุขุมแบบนั้น..และมานาที่เป็นเอกลักษณ์ แม้จะสวมชุดคลุมสีแดงอยู่ก็ตาม..
“ พวกเจ้าไม่ต้องติดตามข้ามา..ยกเว้นแค่อัศวินคนนั้นคนเดียว..ที่เหลือกลับไปทำหน้าที่แล้วก็เรียกรถม้ามาให้ข้าด้วย..ข้าจะไม่พูด.ซ้ำเป็นครั้งที่สอง…”
แต่ดูเหมือนว่าคนที่ชอบใจมากที่สุดก็ดูเหมือนจะเป็นคาน่า ที่พยายามกลั้นหัวเราะออกมาสุดชีวิต..
ส่วนอัศวินที่ผมชี้นิ้วไปทางเขา..ตัวของอัศวินคนนั้นชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะเดินมาหาผมและคุกเข่าลงตรงหน้าของผม..
อย่างที่คิด..อัศวินคนนี้แตกต่าง…แต่มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอน…เพราะว่าเมื่อครู่อัศวินนี้..ดูเหมือนว่ากำลังจะจับดาบ…แต่ก็สัมผัสถึงเจตนาร้ายไม่ได้..
“ กระหม่อม โนอาห์ มาตามคำเรียกขององค์หญิงเลเชียแล้วพะย่ะค่ะ.. ”
แต่ก็นะ ดูเหมือนจะไม่ได้ตั้งตนเป็นศัตรูกับเราด้วย..มีคนแบบนี้ไปกับเราดีกว่าพวกช่างถามกับชอบจับตามอง..
……………………………………………………
[ ในมุมมองของโนอาห์ก่อนหน้านี้ ]
สายตากับคำพูดขององค์ที่พูดกับหัวหน้าอัศวินคนนั้นช่าง..ไม่เหมือนกับข่าวลือเลยสักนิด..ไม่มีมานาอย่างงั้นเหรอ…ทั้งๆที่ไม่มีมานาแต่เรายังรู้สึกกดดันเนี่ยนะ…มันคืออะไรกันแน่!!..
แต่เหนือสิ่งอื่นใดเราต้องรีบนำข้อมูลนี้ไปบอกให้ท่านผู้นั้น…
เดี๋ยวนะ..แล้วทำไมคนอื่นๆถึงมองมาที่เราแบบนี้…ก่อนที่ผมจะสังเกตเห็นว่า องค์หญิงเลเชียนั้นชี้นิ้วมาที่ผม..หรือว่าเรื่องที่เราเป็นสายลับของจักรวรรดิฝั่งตะวันตกจะถูกเปิดโปงอย่างงั้นเหรอ..
บ้าน่า!! แบบนี้ไม่มีทางเลือกคงจะต้องจับองค์หญิงมาเป็นตัวประกันเพื่อหลบหนี..ผมตัดสินใจแบบนั้นก่อนที่จะนำมือไปจับดาบ..ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ผมก็ไม่ได้มีเจตนาประสงค์ร้ายต่อองค์หญิง..ถึงมันจะย้อนแย้งก็เถอะ..อีกอย่างอัศวินตรงนี้มี 8 คนที่เราพอจะรับมือไหวถ้าไม่นับรวมหัวหน้าอัศวิน…
“ โนอาห์นายกำลังทำอะไร องค์หญิงเรียกนายให้ติดตามไปด้วย ยื่นนิ่งอยู่นั่นแหละ.. ”
“ ………. ”
จบตอน..
ความคิดเห็น