ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่ทั้งที ทำไมกลายเป็นผู้หญิงไปได้ฟะ!!!

    ลำดับตอนที่ #2 : องค์หญิงผู้อ่อนแอ

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 66


     

    ผมอยู่ที่ไหน..มืดจัง นี่หรือว่าจะเป็นโลกหลังความตาย..ทั้งมืดทั้งรู้สึกหนาวขนาดนี้เชียว..จริงสิป่านนี้ยัยคาร่าจะเป็นไงบ้างนะ..

     

    “ องค์หญิง..”

     

    องหญิงอย่างงั้นเหรอ..เดี๋ยวแล้วนี้มันเสียงของใครกันไม่ใช่ว่าผมตายไปแล้วอย่างงั้นเหรอ!!!..เสียงนี่มาจากไหนกัน..

     

    ผมได้ยินเสียงเรียกของหญิงสาว เรียกใครบางคนว่าองค์หญิง…หรือเราจะหูฝาด..ไม่สิ เอเดน นายต้องตั้งสตินะ นายตายไปแล้ว..ในขณะที่ตัวผมคิดได้เแบบนั้นอยู่ๆปลายทางของความมืดก็ปรากฏแสงสว่าง..ขึ้น..

     

    “ แสงสว่าง…เดี๋ยวนะ!! เหมือนกับนิยายกับอนิเมะที่ผมเคยดูเลยนิ..อย่าบอกนะว่า โลกหลังความตายมันเป็นแบบนี้จริงๆ!! ปกติถ้าเป็นแบบนั้นจะต้องมีเทพธิดาแสนสวยสุดอึ๋ม มาต้อนรับเราแล้วสิ…”

     

    นั่นแหละครับ ผมพูดในสิ่งที่ผมคิดออกมาแต่ว่าผมยังไม่คิดจะเดินไปสุดปลายทางที่มีแสงสว่างรออยู่..ตอนนี้ผมต้องการเตรียมตัวก่อน..แต่ว่าทำไมผมรู้สึกว่าปลายทางของแสงสว่างมันสั้นลง!!!

     

    “ เดี๋ยวนะๆ ปลายทางแสงสว่างมันกำลังพุ่งมาตรงนี้!! ไม่ใช่ว่าต้องรอให้ผมเดินเข้าไปตามพร็อตเรื่องไม่ใช่รึไง!! ”

     

    ผมที่กำลังจะก้าวขาวิ่งเพื่อหนีแสงสว่างที่กำลังพุ่งตรงมาเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังร้องไห้…และพูดด้วยความเศร้าทำไมตัวผมนั้นหยุดชะงักและถูกแสงสว่างกลืนกินในที่สุด…

     

    “ องค์หญิงเลเชีย..ได้โปรดโถดเพค่ะ ได้โปรดลืมตาตื่น.. ”

     

    เสียงพูดดังกล่าวของผู้หญิงคนนั้นดังชัดขึ้น หรือผมคิดไปเอง ไม่สินี่มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่า นี่คือสิ่งที่เรียกว่าการเกิดใหม่อย่างงั้นเหรอ..

     

    “ ทะ..ที่นี่คือ.. ”

     

    เดี๋ยวนะ…ทำไมเสียงผมมันหวานใสเหมือนกับเสียงผู้หญิงแบบนี้!! หรือว่า..ผมกลายเป็นผู้หญิงไปแล้ว!! จุนจุนมารุตัวน้อยของผม..ได้จากผมไปแล้ว..

     

    “ องค์หญิงทรงฟื้นแล้ว!!! องค์หญิง ”

     

    ผมรู้สึกสับสันและแปลกใจกับท่าทีของผู้หญิงคนนี้อยู่ไม่น้อย..แต่ว่าตัวผมในตอนนี้ก็กำลังรู้สับสนอยู่พอสมควรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น..แต่ก่อนอื่นเลยจะปล่อยให้ผู้หญิงร้องไห้ไม่ได้!!

     

    “ อย่าร้องไห้สิ…แต่ว่าที่นี่มันคือที่ไหนกัน ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่.. ”

     

    ผมพูดออกไปแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นผู้หญิง..แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นที่ใส่ชุดเหมือนแม่บ้านจะตกตะลึงค้างไปเลย…

     

    “ อะ..องค์หญิงสูญเสียความทรงจำ!!..ต้องไปตามหมอหลวง... ”

     

    แบบนี้มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว!!..ผมคิดแบบนั้น อยู่ๆความทรงจำบางส่วนก็ไหลผ่านเข้ามาภายในจิตใต้สำนึกของผม..แน่นอนว่าความทรงจำเหล่านี้มันไม่ได้เป็นความทรงจำของผม..แต่เป็นของร่างกายนี้..

     

    คาน่า สงบสติอารมณ์เอาไว้ก่อนฉันไม่ได้สูญเสียความทรงจำ ”

     

    ใช่พูดให้ถูกก็ไม่ได้เสีย..แต่วิญญาณดั้งเดิมของร่างกายนี้ได้ตายไปแล้วต่างหาก…หรือไม่ก็..

     

    “ หม่อมฉันได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจ เพคค่ะ องค์หญิงทรงหลับไปนานขนาดนั้น…”

     

    “ ความทรงจำของฉันมันเรือนราง อาจจะเป็นเพราะตัวฉันหลับนานจนเกินไป ฉันอยากรู้ว่าตัวฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้ว.. ”

     

    อย่างแรกเลย ผมต้องพูดออกไปแบบนั้นเพราะไม่ให้เรื่องมันบานปลายไปกันใหญ่ แต่ดูท่าจากท่าทางแบบนั้น น่าจะนานเอาเรื่องสินะ..แต่ว่า ทำไมแขนผู้หญิงคนนี้ถึงบอบบางได้ถึงขนาดนี้…อีกทั้งร่างกายนี้รู้สึกได้ว่าแรงจะเดินยังไม่ค่อยจะมีเลย..มันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าของร่างนี้กัน…

     

    “ เอ่อ..ประมาณครึ่งเดือนเพค่ะ..นับตั้งแต่องค์หญิงทรงกระโดดลงไปในสระน้ำ โชคดีที่มีอัศวินแถวนั้นเดินผ่านมาเห็นพอดี…งั้นเดี๋ยวหม่อมฉันจะไปแจ้งให้องค์จักรพรรดิทรงทราบ ว่าองค์หญิงทรงฟื้นแล้ว…แล้วหม่อมฉันจะไปตามหมอหลวงให้มาดูอาการ ขององค์หญิง”

     

    ห้ะ!! เดี๋ยวนี่เธอจะกระโดดลงไปในน้ำทำไมเนี่ย!! มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย…ผมตัดสินใจถามผู้หญิงคนนี้ที่ดูท่าทางแล้วจะเป็นสาวใช้ของเจ้าของร่างก่อนหน้านี้…

     

    “ ฉันกระโดดลงไปในน้ำ? ”

     

    “ เพค่ะ นับตั้งแต่นั้นมา องค์หญิงก็ทรงสลบไปประมาณครึ่งเดือนจนถึงวันนี้..นี่ก็จะถึงช่วงบ่ายแล้วเดี๋ยวหม่อมฉันจะไปแจ้งข่าวให้หมอหลวงทราบแล้วให้ทางหมอหลวงมาตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง..”

     

    หลังจากสาวใช้ผมสีน้ำตาลคนนั้นพูดจบเธอก็ก้มหัวแสดงความเคารพผมก่อนจะเปิดประตู เดินออกไป…

     

    “ แปลกมากถ้าเจ้าของร่างนี้เป็นผู้หญิงจริงๆ ถึงฉันจะคิดเล่นๆ แต่ทำไมถึงมีสาวใช้แค่คนเดียวที่คอยดูแลร่างนี้อยู่..จริงสิ ตอนนี้ต้องหากระจก.. ”

     

    ผมมองหากระจกภายในห้องที่ดูโอ่อ่าหรูหรา..ดูแล้วห้องนี้จะถูกประดับไปด้วยเพชรพลอย เป็นห้องที่กว้างมาก เทียบเท่าบ้านเราหนึ่งหลังได้ล่ะมั้งเนี่ย…อ่าว กระจกอยู่ข้างๆเราเองนิ..แม้แต่กระจกยังสูงกว่าตัวเราในชาติก่อนอีก…

     

    “ อย่างแรกเลย..จุนจุนมารุน้อยของฉันไม่มีอีกต่อไปแล้ว..น้องชายสุดที่รักของฉัน..เจ้าจุนจุนมานุน้อย ขอบคุณนะที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 20 ปี เอาล่ะ ต่อมาเราต้องลุกขึ้นจากเตียงนอนนี่ก่อน.. ”

     

    ผ้าผู้ที่นอนใหญ่ชะมัด ผมคิดแบบนั้น แต่ว่าผมก็ยังรู้สึกแปลกๆตรงระหว่างขาอยู่ดี มันรู้สึกเปลี่ยวๆยังไงไม่รู้…แขนที่บอบบาง..กับขาที่ยาวเรียล อีกอย่างพอมาสังเกตุดูแล้วผิวพรรณดีใช่เล่นเลยนะเนี่ย..

     

    “ แต่ว่าทำไมร่างกายของเราไม่ค่อยมีแรงเลยล่ะ.. ”

     

    ตัวผมค่อยๆขยับออกจากเตียงและพยายามใช้ที่นอนเป็นตัวค้ำไม่ให้ผมล้มลงไป…หลังจากลุกขึ้นยืนได้ผมก็เดินไปที่หน้าที่หน้ากระจก สิ่งแรกที่ผมตกตะลึงเลยก็คือ ความงดงามของเธอคนนี้…

     

    “ เส้นผมสีทองยาวถึงกลางแผ่นหลัง นัยน์ตาสีแทงทับทิม ผิวพรรณขาวสดใสเหมือนกับ หิมะแรกแย้มของปี แขนที่บอบบางราวกับถ้าออกแรงบีบเพียงนิดเดียวก็ทำให้แขนทั้งสองข้างบาดเจ็บได้ แล้วก็พุดดิ้งทั้งสองข้างนี่อีก..ให้ตายเถอะนี่เรามาเกิดใหม่ในร่างของผู้หญิงคนนี้อย่างงั้นเหรอ!! แต่ว่าดูจากสัดส่วน รูปร่างหน้าตา..ส่วนสูงก็ 170 ถ้าเป็นในโลกก่อนเด็กคนนี้น่าจะอายุ 17-18 ปี เป็นน้องสาวเรา 2 ปีสินะถ้าให้เทียบ…”

     

    นั่นแหละครับตัวผมในชีวิตใหม่..ผมยังรู้สึกสับสนอยู่ไม่น้อย ทั้งสาเหตุที่เจ้าของร่างเก่า พูดให้ถูกก็คือทำไมองค์หญิงเลเชียต้องทำแบบนี้…

     

    “ น้ำหนักน่าจะ 45 ถ้ารูปร่างหน้าตาขนาดนี้คงเป็นไอดอลในโลกของเราได้สบายๆเลย..แต่ว่าทำไมรู้สึกเจ็บ..”

     

    ผมเอามือมาจับที่หัวเอาไว้..เพราะความเจ็บปวดในตอนนี้นั้นมันเเล่นเข้าสู่สมองโดยตรง..ตัวผมค่อยๆนั่งทรุดลงตรงข้างกระจก..ความทรงจำทั้งหมดของร่างนี้ก็ถาโถมเข้ามา..เป็นความทรงจำตั้งแต่วัยเด็กจนถึงตอนนี้..ราวกับว่าความทรงจำของผมและเจ้าของร่างนี้กำลังหลอมรวมเข้าด้วยกัน!!

     

    รวมไปจนถึงสาเหตุของการที่เด็กผู้หญิงคนนี้ถึงกับต้องกระโดดน้ำลงไป…ผมได้เห็นความทรงจำของร่างนี้ทั้งหมด..

     

    “ ความทรงจำนี่มัน…เด็กคนนี้ต้องแบกรับความเจ็บปวดไว้มากขนาดนี้เลยเหรอ…แม้แต่ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองยังไม่เคยมาเยี่ยมสักครั้ง รวมไปจนถึงเหล่าพี่น้อง..เด็กคนนี้ก็แค่..ต้องการความรักเท่านั้นเองไม่ใช่รึไง!!! ”

     

    น้ำตาของผมไหลออกมา..เพราะเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแค่นี้เพียงแค่ต้องการความรักจากผู้เป็นพ่อแท้ๆ..จวบจนกระทั่งช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต…ผมเข้าใจสาเหตุทั้งหมดแล้วในสิ่งที่เด็กคนนี้ทำ เพียงแค่ต้องการความรักความห่วงใย..แต่สิ่งที่ได้กลับมา…มันช่างเป็นตลกร้ายสำหรับเด็กตัวเล็กแค่นี้…

     

    “ พ่อเป็นถึงจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิ..หึ!! คนคนนี้ไม่สมควรเรียกตัวเองว่าพ่อด้วยซ้ำ..เป็นแค่สวะตัวนึงเท่านั้น..เพียงเพราะลูกเกิดมาร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังไม่มีพลังเวทย์..เพราะแบบนี้เด็กคนนี้ถึง.. ”

     

    ผมได้เห็นถึงเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา และฉายาที่เหล่าขุนนางและข้ารับใช้ใน วังหยกแห่งนี้ใช้เรียกเด็กผู้หญิงที่เพียงแค่ต้องการความรักตั้งแต่เด็กๆ องค์หญิงขยะ แห่งวังหยก

     

    แน่นอนว่าเรื่องนี้รับรู้กันในเพียงแค่วังหยกแห่งนี้เท่านั้น..เพราะถึงจะเป็นขยะยังไงก็ยังเป็นเชื้อพระวงศ์…

     

    “ เธอแค่เกิดมาผิดที่เท่านั้นเอง ยัยเด็กโง่ ชีวิตต่อจากนี้ฉันจะใช้ชีวิตในฐานะองค์หญิง ขยะแห่งวังหยกให้เอง..ความรักที่แลกมาด้วยความเจ็บปวดมันไม่ใช่ความรักที่แท้จริง..หรอกนะ ”

     

    ขณะที่ผมกำลังนำมือมากอดตัวเองไม่สิ ผมกำลังปลอบเจ้าหญิงเลเชีย..เวลาในห้องก็หยุดเดิน ทุกอย่างนิ่งสนิท..ราวกับว่ากาลเวลากำลังถูกแช่งแข็ง..

     

    “ นี่มัน… ”

     

     

     

    จบตอน

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×