ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : แผนจัดงานและวิธีปราบคาโล...
                “งานคราวนี้ข้าอยากจะให้ยิ่งใหญ่กว่างานคราวที่แล้ว ข้าจะจัดให้มีพื้นที่จัดงานเทศกาลมากขึ้น และติดป้ายเชิญชวน
ตามเมืองต่างๆ ด้วย” จ้าวเอวิเดสกล่าวขึ้นกลางที่ประชุม
    “ก็ดีนี่เพคะ งานสนุกสนานแบบนี้หลานทั้ง 2 จะต้องชอบแน่ ๆ” ราชินีแห่งนครจันทรา กล่าวขึ้นสนับสนุน
    “แล้วแต่เสด็จพี่แล้วกันพระเจ้าค่ะ ขาดเหลืออะไรก็บอกหม่อมฉันแล้วกัน” เสียงเกรเซอร์กล่าวเสริม
    “งั้นข้าจะให้เจ้าโกโดม วางแปลนงานก่อนแล้วจะแบ่งหน้าที่ให้ทีหลัง” จ้าวเอวิเดสกล่าวปิดท้าย แล้วออกไปจากโต๊ะ
ประชุมตามด้วยท่านอาทั้ง 2
    แล้วจ้าวเอวิเดสก็บังเอิญเดินผ่านสวนที่ เจ้าชาย คาโลและเจ้าหญิงเฟลิโอน่านั่งเล่นกันอยู่ และยิ่งบังเอิญเมื่อภาพ
ที่พบคือเจ้าหญิงเฟลิโอน่าอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าชายแห่งคาโนวาล ในความรู้สึกของจ้าวเอวิเดสมันผสมปนเประคนกันอย่าง
บอกไม่ถูก ทั้งที่ในใจเคยคิดว่าดีที่ลูกสาวมีคนรักใคร่ชอบพอเป็นถึงว่าที่กษัตริย์แห่งคาโนวาล แต่ในใจลึก ๆ จริง ๆ ก็เป็น
สัญชาติญาณของคนเป็นพ่อ ก็คือ “หวงลูกสาว” ทำให้จ้าวเอวิเดสเริ่มไขว้เขวในเรื่องนี้ จึงยืนแอบดูอยู่เงียบ ๆ ว่าทั้ง 2 จะมี
ปฏิกิริยาต่อกันอย่างไร แต่ก็ไม่มีอะไร ดังที่คาดว่าน่าจะเป็น จ้าวเอวิเดสจึงเก็บความกังวลในไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ
เพราะตอนนี้จ้าวเอวิเดสผู้ยิ่งใหญ่ต้องการจะมอบความสุขให้กับลูกมากกว่าสิ่งอื่นใด เพื่อให้สามารถชดเชยการละเลยในอดีต
ที่ทำไว้กับลูกทั้ง 2 เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในพระราชวัง...
    ทางด้านเจ้าเฟริน กับ เจ้ากวาง
    “พระโอรสเสด็จกลับได้แล้วพระเจ้าค่ะ เย็นแล้วเดี๋ยวก็โดนท่านอาดุเอาหรอก ทำเหมือนไม่เคยเที่ยวไปได้” เสียง
เจ้ากวางดังขึ้นขัดจังหวะความเพลิดเพลินของเฟริน แถมยังประชดให้ข้างท้ายทำให้เฟรินรู้สึกสะใจไม่น้อยที่ทำให้เจ้ากวาง
กระวนกระวายได้ แต่เขาหรือจะสนคำเตือนเจ้ากวาง
    “โธ่ เอ๊ย อะไรกันเจ้ากวาง ข้าออกมาแป๊บเดียวเอง อยู่ในร่างเฟลิโอน่ามาตั้งนาน ไม่สงสารข้าบ้างเลยหรือไง”
เสียงเจ้าเฟรินออดอ้อนอย่างน่าถีบ (หุ หุ)
    “ก็รู้อยู่ว่าพูดแล้วไม่ฟัง แต่มันก็เป็นหน้าที่ของหม่อมฉันนะพระเจ้าค่ะ” เสียงเจ้ากวางตอบกลับมาคราวนี้ทำให้เฟริน
ใจอ่อนลงได้ไม่น้อย
    “โอ เค ๆ กลับก็กลับ นี่กลัวว่าท่านอาจะดุเอานะ ไม่ได้เห็นแก่เจ้า” ว่าแล้วเฟรินก็เดินเลี้ยวกลับอย่างไม่สนใจเจ้ากวาง
ที่คอยวิ่งตามทุกอิริยาบถ
                                                        - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    “เฮ้...คาโล เฟลิโอน่า มานี่หน่อยดิ่ ขอปรึกษาอะไรด้วยหน่อย” เสียงเฟรินดังขึ้น เมื่อเห็นคาโลกับเฟลิโอน่าเดินมา
ตามโถงทางเดิน
    “ตามมาที่ห้องฉันก็แล้วกัน” ว่าแล้วเฟรินก็ผลุบหายเข้าไปในห้องทัน ทิ้งให้ทั้งสองเดินตามกันมาเงียบ ๆ
    “มีอะไร เฟริน อย่าให้มันไร้สาระเหมือนที่ปกตินายถามก็แล้วกัน” เสียงเจ้าชายคาโลเปรยขึ้นอย่างรำคาญ
    “เออ...พ่อคู้น แค่อยากจะถามว่า งานคราวนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ รุ่นพี่มาร่วมงานกันเยอะ ๆ ดีไหมวะ”
เสียงเฟรินถามอย่างไม่โยกโย้
    “ก็ดีสิเพคะ หม่อมฉันว่าคนเยอะ ๆ สนุกดี หม่อมฉันก็ชอบเหมือนเสด็จพี่เฟรินแหละเพคะ แล้วอย่าลืมชวนพี่แองจี้มา
ด้วยนะเพคะ หม่อมฉันอยากเห็น” เสียงเฟลิโอน่าเสนอความเห็นอย่างอารมณ์ดี
    “แองจี้เหรอ...ทำไมถึงอยากเจอแองจี้หล่ะ” เฟรินถามด้วยความสงสัย
    “ก็เจ้าพี่คาโลบอกว่า...” เสียงเจ้าหญิงเฟลิโอน่ากำลังจะพูดต่อ เจ้าชายคาโลก็รีบพูดขัดขื้น
    “เอ่อ...ฉันว่าตามใจนายก็แล้วกัน เพราะงานจัดให้นายกับเฟลิโอน่า เฟลิโอน่าเห็นด้วยก็ โอ เคแล้วนี่”
    “เฮ้...เดี๋ยวเฟลิโอน่ายังไม่ได้ตอบพี่เลย ว่าทำไมอยากเจอแองจี้ล่ะ” เสียงเฟรินยังซักต่อ
    “ฝ่าบาทรีบเข้าบรรทมเถิด พระเจ้าค่ะ พรุ่งนี้สัญญากับหม่อมฉันว่าจะพาไปชม ทุ่งใกล้ป่าหลงลืมไม่ใช่หรือพระเจ้าค่ะ”
เสียงคาโลโพล่งขึ้นมาขัดอีกรอบ ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
    “เอ่อ...เพคะ งั้นหม่อมฉันขอตัวนะเพคะเสด็จพี่เฟริน” ว่าแล้วเจ้าหญิงเฟลิโอน่าก็รีบเผ่นออกมาจากห้อง ตามมาติด ๆ
ด้วยเจ้าชายคาโล ที่เกือบทำความลับแตก
    ทั้งคู่เดินด้วยกันเงียบ ๆ ไปถึงหน้าห้องบรรทมของเจ้าหญิงเฟลิโอน่า
    “ฝันดีนะฝ่าบาท งั้นหม่อมฉันขอตัว พรุ่งนี้เจอกันที่สวนเหมือนเดิมนะพระเจ้าค่ะ” เสียงของคาโลเย็นยะเยียบราวน้ำแข็ง
    “เจ้าพี่ หม่อมฉันขออะไร ซักอย่างได้ไหมเพคะ” เสียงเจ้าหญิงเฟลิโอน่ากล่าวขึ้น
    “อะไรหรือฝ่าบาท” เจ้าชายคาโลย้อนถาม
    “ทรงเรียกหม่อมฉันว่าเฟลิโอน่าเฉย ๆ เถอะนะเพคะ อย่าเรียกว่าฝ่าบาทเลย ไว้เรียกกับเสด็จพ่อดีกว่า แล้วแทนตัว
เจ้าพี่ว่าพี่เฉย ๆ นะเพคะไม่ต้องแทนว่าหม่อมฉันหรอก” เจ้าหญิงเฟลิโอน่าพูด เบา ๆ แล้วก้มหน้าหลบสายตา
    “ได้สิ เฟลิโอน่า ให้พี่เรียกอย่างงี้ใช่ไหม” น้ำเสียงของเจ้าชายคาโลอ่อนลง ปนน้ำเสียงขำ ๆ
    “ทรงขัน มากหรือเพคะ” น้ำเสียงของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าเริ่มออกอาการงอนนิด ๆ
    “เปล่าซะหน่อย” เจ้าชายคาโลรีบแก้ตัวให้พ้นผิด
    “ขันหม่อมฉันมาก ก็ไม่ต้องมาแล้วเพคะ พรุ่งนี้หม่อมฉันจะอยู่แต่ในห้อง ส่วนจะเรียกหม่อมฉันว่าอะไรก็ตามแต่
พระทัยเพคะ” เจ้าหญิงเฟลิโอน่าเริ่มกระแทกเสียง พร้อมแสดงอาการงอนอย่างเด่นชัด ทำท่าจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง
    “เอ่อ...พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ” เจ้าชายคาโลเริ่มจะทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นว่าเจ้าหญิงเฟลิโอน่าโกรธจริง ๆ
    “ช่างเถอะเพคะ งั้นราตรีสวัสดิ์นะเพคะ” เสียงเจ้าหญิงเฟลิโอน่ากระแทกประตูปิดดังปัง!
    แล้วเอาหูแนบประตูอยู่นานจนได้ยินเสียงฝีเท้าลับหายไป จึงแอบหัวเราะ คิกคัก ๆ อยู่คนเดียว
        “นี่แหละน๊า วิธีปราบเจ้าชายน้ำแข็ง เสด็จพี่เฟรินนี่แม่นจริง ๆ เจ้าพี่คาโลนี่ พอเรางอนเข้าหน่อยทำอะไรไม่
ถูกเชียว อย่างงี้ต้องแกล้งบ่อย ๆ” ว่าแล้วเจ้าหญิงเฟลิโอน่าก็หลับไปด้วยความสบายใจ
    (เอไอนิสัยแกล้งคนนี่ไปเอาจากใครมาน๊า เหมือนกันเปี๊ยบเชียว หุ ๆ)
    วันรุ่งขึ้น เจ้าหญิงเฟลิโอน่าก็ตรงไปยังที่นัดหมายคือสวนที่เดิม ก็พบว่าเจ้าชายคาโลรออยู่ด้วยท่าทีกระวนกระวาย
เป็นอย่างยิ่ง เมื่อเห็นเจ้าหญิงเฟลิโอน่าก็ออกอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด 0_0
                                              *************************************************
การออกไปเที่ยวในทุ่งใกล้ป่าหลงลืมจะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด หากมีโจรกลุ่มหนึ่งบังเอิญผ่านมาพบทั้งคู่ เรื่องวุ่น ๆ
จึงตามมาอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
** มาอัพให้ซักหน่อยกลัวทิ้งกันไปหมด เราใกล้หายดีแล้ว เพราะยาใกล้หมดแล้ว...
ขอโทษนะที่วันนี้อัพน้อยไปหน่อย สัญญาว่าพรุ่งนี้จะอัพตอนใหม่ให้ยาวกว่านี้ 2 เท่าเลย แต่ขอคอมเม้นเป็นยาใจด้วยน๊า...หุ ๆ
(อ้อนแล้วนะเนี่ย)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น