ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอส...ภาคพิเศษ

    ลำดับตอนที่ #6 : เที่ยวงานเทศกาล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 937
      2
      6 เม.ย. 48



    ตอนนี้งานกำลังจะเริ่มแต่ก็มีปัญหา คือ กำลังรอ...จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าหญิงเฟลิโอน่า





    “เสด็จพ่อ...หม่อมฉันมาแล้วเพคะ...เชิญเสด็จเถอะเพคะ” เจ้าคนตัวดีรีบวิ่งมา พูดไปก็หอบไป



    “แล้ว...แล้วทำไมลูกหญิงแต่งตัวอย่างนี้ ฮึ” จ้าวเอวิเดสถึงกับ อึ้งเพราะลูกสาวตัวเองแต่งตัวอย่างกับ“เจ้าชาย” เสียเต็มยศ



    “ก็หม่อมฉัน...คิดว่าถ้าแต่งเป็นผู้หญิงเต็มตัวจะไม่สะดวกนี่เพคะ คนก็เยอะ เคลื่อนไหวก็ลำบาก อีกอย่างจะถูกเพ่งเล็ง



    อีกต่างหาก”เจ้าหญิงเฟลิโอน่าจอมกะล่อนรีบหาข้อแก้ตัว



    “แต่...” จ้าวเอวิเดสกำลังจะค้าน



    “อุ๊ย...เสด็จพ่อได้เวลาเปิดงานเทศกาลแล้วนะเพคะ” เจ้าคนตัวดีรีบตัดบท แล้วจูงคาโลไปที่ประตูวังทันที



    “เฮ้อ...คาโลเอ้ย...จะรับมือลูกหญิงของข้าได้อีกนานเท่าไหร่ รออีกหน่อยแล้วกัน ยาคงกำลังจะปรุงเสร็จแล้ว”



    เอวิเดสรำพึงกับตัวเองอย่างท้อใจ



        

            งานเทศกาลเนืองแน่นไปด้วยผู้คนและผู้ไม่ใช่คน เพราะตอนนี้เมืองเดมอสและเอเดน ได้ยินยอมที่จะรวม



    แผ่นดินเป็นผืนเดียวกันแล้ว...ผู้คนจากทุก ๆ เมืองจึงต่างมารวมกันที่งานเทศกาลสุดพิเศษนี้






    “คนเยอะจังเพคะเสด็จพ่อ” เจ้าหญิงเฟลิโอน่ากล่าวอย่างตื่นเต้น เพราะมีสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจไม่น้อยในขณะนี้ ทั้งโชว์คนประหลาด



    ร้านค้าอาหาร ซุ้มเกมการพนันต่าง ๆ



    “งานนี้ลูกหญิงกินฟรี เที่ยวฟรีตลอดงานนะ” จ้าวเอวิเดสกล่าวเพราะกลัวลูกสาวตัวดีจะเผลอใช้นิสัยขโมยให้เสื่อมเสียอีก



    “ดีจังเสด็จพ่อ ดีจังเนอะคาโล งานนี้แกกับฉัน พุงกางแน่ว่ะ” เจ้าหญิงตัวดีพูดกับเจ้าชายคนข้าง ๆ ที่นั่งเงียบอยู่นาน



    “อืม มั้ง” คาโลตอบอย่างปัดๆ เขารู้สึกแปลก ๆ คงเป็นเพราะเจ้าหญิงองค์นี้ความจำสั้น หรือเป็นคนไม่สนใจอะไรมากมายมั้ง



    ขนาดเรื่องเพิ่งเกิดเมื่อกลางวัน ยังไม่คิดติดใจ อะไรสงสัยจะลืมไปแล้วซะด้วยละมั้ง หรือแกล้งทำเป็นไม่สนใจเพราะกลัวอายก็ไม่รู้



    “ท่านจ้าว และพระธิดาเสด็จแล้ว” เสียงราชองครักษ์ประกาศตามด้วยเสียงแตร ซึ่งเจ้าหญิงบ่นว่ามันเหมือนเสียงสัตว์ประปลาดร้อง



        

                    ท่านจ้าวเอวิเดสประทับบนบัลลังก์ทอง...ส่วนเจ้าหญิงเฟลิโอน่ากับเจ้าชายคาโล ประทับอยู่ข้าง ๆ



    “ได้เวลาแล้วฝ่าบาท” เจ้าโกโดมเสนอหน้ามาตามเคย



    “ข้า เอวิเดส กษัตริย์แห่งเดมอส ของเปิดงานเทศกาล เนื่องในโอกาสที่ลูกข้าจบการศึกษาจากเอดินเบอร์ก   ขอให้ประชาชน



    ของข้า และ นักท่องเที่ยวจากต่างเมือง มีความสุขกับเทศกาลอันสุดพิเศษ ข้าขอเปิดงานเทศกาล ณ บัดนี้” พูดจบเสียงเฮ



    ก็ดังขึ้นจากประชาชน ประตูสู่งานเทศกาลถูกเปิดขึ้น ตอนนี้ เมืองแห่งปิศาจ นามเดมอส กลายเป็นเมืองแห่งความหรรษาไป



    เสียแล้ว



    “เสด็จพ่อ...หม่อมฉันขอพาคาโลไปเที่ยวนะพระเจ้าค่ะ เอ้ย เพคะ” เจ้าหญิงจอมจุ้นกล่าวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ภายในงานเริ่ม



    คึกคักแล้ว



    “อืม...ไปเถอะ...แล้วอย่ากลับวังค่ำนักล่ะ” จ้าวเอวิเดสกำชับแล้วหันไปคุยกับโกโดม



    “เพคะ...ไม่กลับค่ำแต่อาจไม่กลับเลย อิ ๆ” วลีแรกตอบรับอย่างชัดถ้อยชัดคำ แต่ประโยคหลังนี่สิ เบาจนแทบไม่ได้ยิน



    ทำเอาเจ้าชายน้ำแข็งหันมาถลึงตาใส่กับคำพูดนั้น



    “ไปเหอะ คาโล ในงานมีอะไรน่าสนใจกว่าตรงนี้เป็นสิบเท่า” ว่าแล้วเจ้าหญิงตัวดีก็ลากคาโลเข้าสู่งานเทศกาล



        

                   เมื่อเห็นว่าลูกสาวตัวดีเดินลับตาไปแล้ว



    “ยาของคนแคระดำใกล้เสร็จหรือยัง ข้าชักจะไม่ไหวแล้วนะ โกโดม” เสียงจ้าวเอวิเดสเอ่ยอย่างเป็นกังวล



    “อ้อ...ฝ่าบาท ยาเสร็จพร้อมสำหรับพระธิดาแล้วพระเจ้าค่ะ...ตอนนี้มันอยู่กับหม่อมฉันแล้ว” ว่าแล้วเจ้าโกโดมก็ชูขวดแก้วเล็ก ๆ



    ที่บรรจุน้ำสีฟ้า ๆ ข้นคลั่กให้กษัตริย์เอวิเดสชม พร้อมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ



    “ลูกหญิง วันนี้เที่ยวให้สนุกนะลูก วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ วิญญาณส่วนหนึ่งของชายนาม เฟริน จะอยู่ร่วมกับเจ้า”



    เสียงเอวิเดสรำพึงอย่างอาลัยอาวรณ์



    “เอ่อ...ฝ่าบาท แล้วพอแยกเจ้าหนุ่มน้อยเฟรินออกมาแล้วจะเอายังไงต่อล่ะพระเจ้าค่ะ” เจ้าโกโดมถามด้วยความสงสัย



    “เฟรินก็ลูกข้าเหมือนกัน...ก็ดีข้าก็จะได้มีทั้งลูกสาวและลูกชาย ส่วนเขาจะอยู่กับข้าหรือไม่มันก็อีกเรื่อง ถ้าไม่อยู่ก็คงตาม



    มาดัสไปน่ะแหละ” จ้าวเอวิเดสตอบอย่างสบายใจ



    “พระเจ้าค่ะ ฝ่าบาท” โกโดมว่าแล้วทำท่าจะไป



    “เอ่อ...เดี๋ยวโกโดม พรุ่งนี้ เจ้าจัดการด้วยนะ...ทำเหมือนกับพิธีตอนที่ทำให้ลูกข้าเป็นผู้หญิงน่ะแหละแล้วอย่าให้ข่าวรู้ไป



    ถึงลูกข้าล่ะ” จ้าวเอวิเดสกำชับแล้วเดินทางกลับสู่ราชวังด้วยความสบายใจ



    “พระเจ้าค่ะ ฝ่าบาท หม่อมฉันจะปิดไม่ให้พระธิดารู้และจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย” เสียงเจ้าโกโดมบอกถึงความมั่นใจ



                - - - - - - - - - - - - - - - *- - - - - - - - - - - - - - - - * - - - - - - - - - - - - - - -



    “เออ...คาโล แกอยากไปไหนก่อนล่ะ” เสียงเจ้าหญิงเฟลิโอน่าถาม



    “นายอยากไปไหน ฉันก็อยากไปนั่นแหละ” เสียงเจ้าชายคาโลตอบ



    “ไม่ต้องมาหวานแถวนี้นะโว้ย...ทำปากหวานระวังปากเจ่อแบบเมื่อกลางวันนะ หาว่าไม่เตือน” เสียงเฟลิโอน่าตอบแก้เขิน



    เพราะตอนนี้คนรอบข้างมองกันเป็นตาเดียว จึงรีบลากเจ้าชายคาโล ไปที่ซุ้มมนุษย์ประหลาด



    “นี่คาโลเข้าไปดูกันเหอะนะ...พวกเราดูฟรี ฉันอยากรู้ว่าจะประหลาดยังไงน่ะ” เสียงเฟลิโอน่าชักชวนแกมบังคับ



    “อืม...ไปก็ไปสิ” คาโลทำหน้าเบื่อ ๆ แล้วเดินตามเข้าไป เพราะที่จริงเขาสนใจซุ้มที่สาธิตการตีดาบมากกว่า





    “เอ้าเร่เข้ามาเร่เข้ามา...มาชมมนุษย์ประหลาด กันดีกว่าพ่อแม่พี่น้อง งานนี้ฟรี ไม่เสียค่าเข้าชม” เสียงเจ้าของซุ้มโฆษณา



    “ก็แหงล่ะสิ ประชาชนไม่เสีย แต่ก็ไม่เก็บกับพ่อข้านี่หว่า” เสียงเจ้าหญิงเฟลิโอน่าเริ่มหงุดหงิด



    “เอ้า...เราจะเริ่มจากมนุษย์ประหลาดคนแรก...มนุษย์หมาป่า” ว่าแล้วเจ้าของซุ้มก็เปิดผ้าคลุมกรง ภายในเป็นมนุษย์ที่ผิวกาย



    มีแต่ขน แต่รูปร่างเหมือนมนุษย์หน้าคล้ายหมาป่า แต่เมื่อสังเกตดี ๆ



    “เฮ้...พี่ชาย...ชุดขนสัตว์เนี่ยพี่ชายตัดร้านไหนเหรอ...เย็บมีฝีมือดีนี่นา” เสียงเจ้าคนปากไม่ดีดังขึ้น สร้างเสียงฮือให้กับผู้ชม



    “เอ่อ...เอ่อ...” ผู้คุมเริ่มอ้ำอึ้งเพราะรู้ตัวว่าถูกจับผิดจนได้



    “เอ้อ...น้องสาวตาแหลมคมดีนี่นา นี่แค่ประเดิมเท่านั้นแหละชุดต่อไปของจริง” เจ้าของซุ้มรีบแก้สถานการณ์



    “ต่อไปขอเชิญพบกับนางเงือกของจริง” ว่าแล้วก็มีคนเข็นโต๊ะออกมา บนโต๊ะเป็นหญิงสาว เปลือยท่อนบน ผมยาว ท่อนล่าง



    มีหางคล้ายปลา หน้าตาสะสวยทีเดียว



    “เฮ้...พี่ชาย...ผ้าระบายสีเขียวที่เอามาทำหางปลาพี่ชายซื้อมาจากที่ไหนน่ะ...ข้าอยากได้มาตัดชุดบ้างจัง” เสียงเจ้าคนตัวดี



    โพล่งขึ้นมาอีกเช่นเคย...คราวนี้เรียกเสียงฮือจากผู้คนได้มากกว่าครั้งก่อน ทำให้ผู้ชมทยอยเดินออกไปจนแทบจะไม่เหลือเลย



             ด้วยความอดรนทนไม่ได้ของเจ้าของซุ้มจึงตรงรี่มาที่เจ้าหญิงเฟลิโอน่าทันที



    “นี่ยัยตัวดี แกมาพังร้านฉันหรือไง ใครจ้างแกมาบอกมาสิ” เจ้าของซุ้มตะโกนขึ้นเสียงทำท่าเอาเรื่อง



    “อ้าว ก็พี่ชายอยากมาหลอกประชาชนทำไม หลอกเขา บาปรู้ไหม” เสียงเจ้าหญิงตัวดีเถียง



    “นังตัวดี...แกต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง” ว่าแล้วเจ้าของร้านก็เงื้อมือขึ้น ก่อนที่มีได้ลงมือก็รู้สึกได้ถึง ความเย็นยะเยียบของ



    แผ่นเหล็กคม ๆ ที่ประกฎอยู่บริเวณคอหอย



    “นี่พี่ชาย...นี่คู่หมั้นข้า...ถ้าทำอะไรมากกว่านี้ เจ้าผ่าปฐพีคงไม่ยั้งมือแน่” เสียงเจ้าชายคาโลดุดันและท่าทางเอาจริงทำให้เจ้า



    ของซุ้มยอมรามือ ด้วยความเกรงใจเจ้าผ่าปฐพี



    “รู้ไหมว่าคู่หมั้นข้าเป็นใคร” เสียงอันเยือกเย็นของเจ้าชายคาโลพูดเป็นครั้งที่สองพร้อมกันเฟลิโอน่าเจ้าหญิงตัวดีมาไว้ข้างหลัง



    ตนเองเพื่อปกป้อง



    “จะเป็นใคร...ก็คงเป็นพวกจรจัดล่ะสิ เชอะมาทำอวดดี” เจ้าของซุ้มยังคงไม่ลดละ



    “ข้าจะบอกให้สมองกลวง ๆ ของเจ้ารู้ไว้ ว่า นังนี่ ของเจ้าน่ะ คือ เดอะปรินเซสเฟลิโอน่า เกรเดเวล ออฟ เดมอส”



    ว่าแล้วเจ้าชายคาโลก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรอีกต่อไปอีก รีบจูงมือของเจ้าหญิงตัวดีออกจากซุ้ม ทิ้งเจ้าของซุ้มผู้ไม่รู้



    ชะตาตัวเอง คุกเข่าขอโทษอยู่ด้านหลัง...



    “เอ่อ...คาโล...ข้าขอโทษนะ ที่ทำให้วุ่นวาย แต่ถามไรอย่างดิ่” เจ้าคนตัวดีน้ำเสียงสำนึกผิด



    “อะไร” เจ้าชายคาโลตอบโดยไม่มองหน้า



    “ฉันไปเป็นคู่หมั้นแกตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” เจ้าหญิงตัวดีเริ่มขึ้นเสียง



    “ตั้งนานแล้ว...แต่ไม่ได้บอกใคร...ไม่เชื่อก็ถามใจนายดูสิ” คาโลตอบตัดบท แล้วจูงเฟลิโอน่าไปซุ้มของกิน



    “ไอบ้า...นึกเองคนเดียว...ฉันก็อายเป็นนะโว้ย” เจ้าคนตัวดีหน้าแดงแล้วนึกบ่นอยู่ในใจ



    “นี่ อยากกินอะไรหรือเปล่าล่ะ” เสียงคาโลถาม



    “ฉันอยากกินขนมหวานน่ะ” เฟลิโอน่าตอบ เพราะตอนนี้น้ำลายแทบหกเพราะเห็นสายไหมสด ๆ ที่เพิ่งทำขึ้นมา



    “ฉันยังหวานไม่พออีกหรือไง ถึงอยากได้ของหวานอีก” เสียงเจ้าชายคาโลกระซิบข้าง ๆ หูทำให้หน้าร้อนผ่าวไปหมด



    “เออ...เออ...ไม่กงไม่กินมันแล้ว” ว่าแล้วเจ้าหญิงตัวดีก็รีบเดินออกจากซุ้มไป



    “เอ่อ...เอาสายไหมให้ 2 ครับ ของเจ้าหญิงเฟลิโอน่า” เสียงคาโลสั่ง เมื่อได้ก็รีบวิ่งตามเจ้าหญิงขี้งอนมาติด ๆ



    “รอด้วยซิ...จะกินใหมเขาทำพิเศษให้เลยนะเนี่ย หอม แล้วก็อร่อยมากด้วย” คาโลเจ้าชายมาดขรึมพลิกบทบาทโดยสิ้นเชิงเมื่อ



    ต้องมารับบทเป็นฝ่ายง้อ



    “กินก็ได้” เจ้าหญิงตัวดีทนไม่ไหว ในเมื่อของโปรดอยู่ตรงหน้าชวนกินขนาดนั้น ก็สลัดศักดิ์ศรีความงอนทิ้งไปในทันที



                                                          =-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=              



        

                      ทั้งสองเที่ยวเล่นกันจนดึก เมื่อร้านรวงเริ่มเก็บข้าวของกันแล้วจึงกลับสู่ราชวัง

        

                       คาโลมาส่งเฟลิโอน่าที่หน้าห้อง



    “คาโล...ขอบใจนะที่ไปเที่ยวเป็นเพื่อน” เสียงเจ้าหญิงเฟลิโอน่ากล่าวอย่างขอบคุณ



    “ไม่เป็นไร...ฉันก็มาเพื่องานนี้อยู่แล้วนี่ พรุ่งนี้จะไปอีกก็บอกแล้วกัน” เสียงเจ้าชายคาโลตอบเป็นเชิงชวน



    “อืม...ขอบใจว่ะ...นายเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ” เฟลิโอน่าว่าแล้วทำท่าจะเดินเข้าไปในห้อง



    “ขอบใจต้องแถมกู๊ดไนท์คิสด้วยสิ” ว่าแล้วเจ้าชายคาโลก็ไม่รอช้า ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของเจ้าหญิงเฟลิโอน่า ทันที

        



                        เจ้าหญิงเฟลิโอน่ารู้สึกจะมึนไปชั่วขณะ เมื่อได้สติ เจ้าคนที่มอบกู๊ดไนท์คิสให้ก็วิ่งกลับห้องไปแล้ว



    “ไอบ้าคาโล....แกทำอย่างงี้กับฉันอีกแล้วนะโว้ย...เจ็บใจจริง ๆ วันเดียวเสียรู้มันตั้ง 2 รอบ” เจ้าหญิงเฟลิโอน่าบ่นในใจที่จริง ๆ



    แล้วดีใจ จนลิงโลด แล้วจึงเดินเข้าไปในห้องบรรทม เพื่อรอวันสำคัญวันพรุ่งนี้ วันที่แม้เจ้าตัวก็ยังไม่รู้โชคชะตาของตัวเอง...



                                              =-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=



    หุ ๆ ๆ พรุ่งนี้เจ้าหญิงจะเป็นอย่างไร เมื่อถูกแยกร่าง...ติดตามให้ได้นะ...



    ขอคอมเม้นเยอะ ๆด้วย ช่วงนี้เป็นไรไม่รุ ขาดคอมเม้นแล้วหงุดหงิดอ่ะ...อิ ๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×