ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอส...ภาคพิเศษ

    ลำดับตอนที่ #11 : เซอร์ไพรซ์ของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าและจ้าวเอวิเดส

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.09K
      3
      22 เม.ย. 48



                    วันนี้เฟรินตื่นเช้ากว่าปกติ สร้างความแปลกใจให้แก่จ้าวเอวิเดสเป็นอย่างมาก



        “เสด็จพ่อ งานเทศกาลจะเริ่มเมื่อไหร่พระเจ้าค่ะ” เสียงเฟรินเอ่ยถามขณะกำลังตรวจรายการของใช้



        “ตอนบ่าย ๆ ใกล้ค่ำน่ะ มีอะไรหรือเปล่าเฟริน วันนี้ตื่นแต่เช้าเชียว นอนไม่หลับเหรอ” จ้าวเอวิเดสถามขึ้นอย่างสงสัย



        “เปล่าหรอกพระเจ้าค่ะ แค่อยากช่วยก็เท่านั้น” เสียงเฟรินตอบอย่างทะเล้น แววตาดูมีแผนการอย่างบอกไม่ถูก



        “งั้นพ่อไม่กวนแล้ว เอ้อ...พ่อส่งข่าวไปบอกมาดัสแล้ว แต่เขามาไม่ได้นะ บอกว่าติดงาน” ว่าแล้วจ้าวเอวิเดสก็เดินจากไป



        “ให้มันได้อย่างงี้สิ...” เสียงเฟรินบ่นพึมพำ



        “พระโอรส พวกเพื่อน ๆ ของพระองค์มากันแล้วพระเจ้าค่ะ” เสียงโกโดมกระหืดกระหอบรีบมาส่งข่าว



        “จริงดิ่...มากันแต่หัววันเลย ดี ๆ จะได้ช่วยกันทำมาหากินหน่อย” เสียงเฟรินกล่าวอย่างดีใจ



        “จะให้หม่อมฉันจัดห้องไว้รับรองกี่ห้องดีพระเจ้าค่ะ” เสียงเจ้าโกโดมถามต่อ



        “นี่เจ้ากวาง แกเคยเรียนหนังสือหรือเปล่า” จู่ ๆ เฟรินก็ถามขึ้นสร้างความงุนงงให้แก่โกโดมอย่างยิ่ง



        “เคยสิพระเจ้าค่ะ ไม่เคยจะได้มาเป็นพี่เลี้ยงของพระโอรสพระธิดาหรือพระเจ้าค่ะ” เจ้าโกโดมตอบอย่างภูมิใจ



        “แล้วจำนวนคนไม่กี่คน แกนับไม่ได้หรือไงเจ้ากวาง ตอนเรียนเขาสอนนับเลขหรือเปล่า ฮึ” เฟรินย้อนเข้าให้แล้ว



    เดินไปต้อนรับพวกเพื่อน ๆ ในทันที ทิ้งให้โกโดมที่ถูกหลอกด่า ยืนอึ้งอยู่คนเดียว...



        เฟรินยืนรออยู่ประตูวัง กะจะต้อนรับเพื่อน ๆ เป็นคนแรก



        “พระโอรส มารอใครหรือพระเจ้าค่ะ” เสียงทหารยามคนหนึ่งถามขึ้น



        “ก็พวกเพื่อน ๆ ฉันน่ะสิทำไมป่านนี้ยังมาไม่ถึงอีกล่ะ” เฟรินถามขึ้นอย่างหงุดหงิด



        “เอ่อ...ที่มีนักฆ่า แล้วก็เจ้าหญิง ใช่ไหมพระเจ้าค่ะ” เสียงทหารยามคนเดิมถามต่อ



        “เออ...เออ...ใช่ ตอนนี้อยู่ไหนล่ะ” เฟรินถามต่ออย่างมีหวัง



                    “เข้าไปในพระราชวังตั้งนานแล้วพระเจ้าค่ะ” ทหารยามตอบปนขำนิด ๆ



        “แล้วทำไมแกไม่บอกฉันวแต่แรก ให้ยืนอยู่ได้ตั้งนาน” ว่าแล้วเฟรินก็รีบกลับเข้าไปยังพระราชวังทันที



        ที่พระราชวังชั้นในบริเวณห้องรับรองเจ้าหญิงเฟลิโอน่า กำลังยืนจัดดอกไม้ใส่แจกันอยู่ เพื่อเตรียมต้อนรับแขก



        “เฮ้...เฟริน เดี๋ยวนี้จะกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วเหรอ จัดดอกไม้เป็นด้วย” เสียงคิลมัส ดังขึ้นพร้อมกับตบไหล่



    เจ้าหญิงเฟลิโอน่าดังพั่บ



        “อุ๊ย...เอ่อ...คุณคิล มาแล้วเหรอคะ ขอโทษนะคะยังเตรียมการรับรองไม่เสร็จเลยค่ะ” เจ้าหญิงคนดีสะดุ้งเมื่อถูกตบ



    เข้าที่ไหล่ แล้วจึงหันมาทักทายผู้มาเยือน



        “เฮ้ย...เฟริน แกเล่นสมบทบาทไปหน่อยว่ะ ไม่ต้องมาหลอกฉัน ทำเป็นเรียบร้อยเชียว” ว่าแล้วคิลก็หัวเราะ



        แล้วเจ้าหญิงเรนอน และแองเจลิน่าก็ตามมาสมทบ



        “เอ่อ สวัสดีค่ะ คุณเฟริน” เจ้าหญิงเรนอนเอ่ยทัก



        “เอ่อ...คือว่า  คือ...” ยังไม่ทันจะแก้ต่างอะไรแองเจลิน่าก็พูดขัดขึ้นมาก่อน



        “ว่าไงเฟริน แต่งหญิงซะขนาดนี้ แก้ตัวไม่ออกล่ะสิ”



        “คิล แกจะทำอะไรน้องฉัน” เสียงเฟรินโพล่งขึ้นมาทางประตู ก่อนที่เรื่องจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้



        “เฮ้ย...แก...เฟริน แล้ว นี่ล่ะ” คิลพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ หน้างงเหมือนไก่ตาแตก พลางชี้มาที่เจ้าหญิงเฟลิโอน่า



    เจ้าหญิงเรนอนและแองเจลิน่าดูสีหน้าก็ไม่ต่างจากคิลมากนัก



        “เออ...ฉันไง เฟริน แกจำเพื่อนเก่าอย่างฉันไม่ได้เหรอ คิล อ้าว สวัสดีเจ้าหญิงเรนอน ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ แองจี้”



    เฟรินกล่าวแกมหยอกกับนางทั้ง 2



        “แล้วนี่ล่ะ ใคร” เสียงคิลถามต่อ



        “ก็น้องสาวฉันไง เจ้าหญิงเฟลิโอน่า” เฟรินตอบราวกับเป็นเรื่องแสนจะธรรมดาและเป็นปกติ



        “อ้าว...มันยังไงกันคะ คุณเฟริน แล้วทำไมคุณกับเฟลิโอน่าถึงไม่อยู่ในร่างเดียวกัน แล้วทำไมถึงแยกเป็น 2 คนล่ะคะ”



    เจ้าหญิงเรนอนถามขึ้นในที่สุด



        “สงสัย เจ้าหญิงเฟลิโอน่าคงจะทนกับความกะล่อนของเฟรินไม่ไหวละม้าง” แองจี้พูดสำทับ



        “ไม่ใช่หรอก เพราะอยู่ในร่างฉันน่ะ ฉันจีบสาวไม่ได้ต่างหากล่ะจ๊ะแองจี้” เฟรินทำเสียงทะเล้นแถมยังส่งสายตาเจ้าเล่ห์



    ไปยังแองเจลิน่าอีกด้วย



        “โป๊ก!!!” คทาจากมือของจอมเวทย์สาวน้อยลอยละล่องไปสัมผัสกับศีรษะของเจ้าคนปากดี ทำให้เจ้าตัวต้องคลำหัว



    ป้อย ๆ



        “บ้า” ตามด้วยถ้อยคำที่คุ้นเคยจากเจ้าของคทา



        “นี่แองจี้ฉันว่าจะสั่งเจ้าโกโดมทำหมวกเหล็กพิเศษไว้สำหรับคุยกับเธอโดยเฉพาะแล้วหล่ะ” เฟรินยังไม่เข็ด



        “เออ...เฟริน นายจะไม่แนะนำพวกเรากับน้องสาวนายหน่อยเหรอ” เสียงคิลดังขึ้นเพื่อสงบศึก



        “อืม...เฟลิโอน่า นี่เพื่อนพี่นะ คนนี้ชื่อคิล นี่เจ้าหญิงเรนอน ธีน๊อท ญาติของเจ้าคาโลน่ะ แล้วนี้ก็แองเจลิน่าหรือแองจี้



    เป็นแม่มดจาดวิชท์” เฟรินแนะนำอย่างเป็นทางการ



        “สวัสดีค่ะ พี่ ๆ ทุกคน” เจ้าหญิงเฟลิโอน่าเอ่ยอย่างนอบน้อม



        “เออ...แฮะ หน้าตาก็ฝาแฝด แต่นิสัยและมารยาทคนละขุมเลยว่ะ” คิลเปรยเบา ๆ แต่ก็ไม่พ้นหูของเฟรินไปได้



    หมัดหยอกจึงถูกประเคนไปยังท้องของคิลแทบจะในทันที



        “ยินดีที่ได้รู้จักเพคะ เจ้าหญิงเฟลิโอน่า” เจ้าหญิงเรนอนทักทายอย่างอ่อนโยน



        “เช่นกันเพคะ พี่หญิงเรนอน” เฟลิโอน่าตอบกลับอย่างเป็นกันเอง



        “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน เจ้าหญิงเฟลิโอน่า” แองเจลิน่ากล่าวทักทายบ้าง



        “เพคะ พี่หญิงแองจี้” เฟลิโอน่าทักทายกลับ “พี่ทั้งสอง เชิญไปพักผ่อนที่ห้องก่อนมั๊ยเพคะ ทางเราจัดเตรียมไ



    ว้ให้แล้ว”



        “เฟริน ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกฉันฟังเลยนะ นายนี่จริง ๆ ไม่ยอมส่งข่าวบ้าง ฉันตกข่าวดูสิหน้าแตกหมอไม่



    รับเย็บ แล้วนี่เจ้าคาโลอยู่ไหนเนี่ย ไม่ออกมาต้อนรับเพื่อนฝูงบ้างเลยนะ” คิลกล่าวขึ้นระหว่างเดินไปยังห้องพัก พร้อมกับเจ้าหญิง



    เรนอนและแองจี้



        “เออ....เออ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดเลย แล้วตอนนี้คาโลมันกำลังซ้อมอยู่” เฟรินตอบกลับแล้วก็ต้องสะดุดกึก



    กับประโยคหลังที่พูดออกไป



        “ซ้อมอะไร ฮึ” คิลเค้นถาม



        “อะ อ๋อ ก็ซ้อมพิธีเปิดน่ะสิ ไม่มีอะไรหรอก อยากฟังเรื่องของฉันไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”





        ณ งานเทศกาล



        “ได้เวลาแล้วล่ะพระเจ้าค่ะ จะให้หม่อมฉันไปทูลเชิญพระธิดาและพระโอรสเลยไหมพระเจ้าค่ะ” เสียงโกโดมเอ่ยถาม



    จ้าวเอวิเดส



        “อืม...แล้วก็พวกเพื่อน ๆ ของเฟรินด้วย” จ้าวเอวิเดสว่าแล้วเดินไปประทับยังบัลลังก์กลางพิธี



        “ไม่ต้องตามหรอกพระเจ้าค่ะ พวกหม่อมฉันมากันแล้ว” จ้าวเอวิเดสหันไปทางต้นเสียงก็พบกับเฟริน เฟลิโอน่า



    และเพื่อนๆ ซึ่งดูวันนี้เฟรินจะแต่งตัวภูมิฐานกว่าปกติซัก 1000 เท่าได้ เพราะวันนี้เฟรินทรงเครื่องแบบเจ้าชายครบสูตร แถมยังมี



    ที่ห้อยดาบหรือกระบี่อะไรซักอย่างเพิ่มความเท่ห์ให้อีกด้วย ผมเผ้าก็จัดการซะดูดี จนจ้าวเอวิเดสยังอดแปลกใจไม่ได้



        “อืม...งั้นก็ดี เชิญ ๆ ตามสบาย” จ้าวเอวิเดสเอ่ยกล่าวกับคิล เจ้าหญิงเรนอน และ แองเจลิน่า



        “เสด็จพี่เพคะ แล้วเจ้าพี่โรเวน กับ น้องหญิงวิเวียนนานีย่าล่ะเพคะ” เสียงเจ้าหญิงเฟลิโอน่าถามขึ้นเบา ๆ



        “พี่ก็ยังมองหาอยู่ สงสัยยังมาไม่ถึงละมั้ง แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก มาไม่ทันงานเปิด แต่ก็ได้มาเที่ยวงานเทศกาลอยู่ดี



    น่ะล่ะ”เฟรินกล่าวอย่างอารมณ์ดี



        “แล้ว...เอ่อ...เอ่อ...” เจ้าหญิงเฟลิโอน่าพูดตะกุกตะกัก หลังจาก ที่มองหาคนคนหนึ่งอยู่นานแต่ก็ไม่เจอซักที



        “อ๋อ...คาโลน่ะเหรอ เดี๋ยวก็มา” เฟรินว่าแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์



        “อะ แฮ่ม บัดนี้ก็ได้เวลาเปิดงานเทศกาลแล้วของเชิญท่านจ้าวเอวิเดสกล่าวเปิดงาน พระเจ้าค่ะ” เสียงโกโดมดังขึ้น



    ทำให้การพูดคุยต้องชะงักลง



        “ข้ามีความยินดี ที่ได้จัดงานเทศกาลครั้งนี้ เนื่องในโอกาสที่ข้าได้อยู่พร้อมหน้ากับลูกชาย และ ลูกสาวของข้า



    เจ้าชายเฟรินและเจ้าหญิงเฟลิโอน่า เพื่อเฉลิมฉลองในงานที่น่ายินดีเช่นนี้ ข้าก็ขอให้ประชาชนของข้า เที่ยวงานอย่างสนุกสนาน



    และ กินให้อิ่ม ข้าขอเปิดงานเทศกาล ณ บัดนี้” จ้าวเอวิเดสว่าแล้วกล่าวมุขตลกปิดทิ้งท้าย



        ขณะที่ประชาชน กำลังจะทยอยแห่เข้างาน เฟรินก็ลุกขึ้น



        “เดี๋ยวทุกท่าน พิธีเปิดยังไม่เสร็จสิ้น ข้าได้จัดงานรื่นเริงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเสด็จพ่อและน้องสาวของข้า ขอให้ทุกท่าน



    ช่วยอยู่ชมเพื่อเป็นเกียรติ แก่ข้าด้วย” เฟรินว่าเสร็จก็ตามด้วยเสียงปรบมือกราวจากประชาชนเป็นจำนวนมาก



        “ขอบคุณทุกท่าน...เริ่มได้” เฟรินว่าตามด้วยคำสั่งปิดท้าย



        สิ้นคำสั่งก็ปรากฎเวทีใหญ่ยักษ์ กลางงาน โดยหันหน้าเวทีประจัญกับบัลลังก์ทองของจ้าวเอวิเดส เครื่องดนตรีทุกชนิด



    ถูกวางไว้บนเวทีเรียบร้อย และตามด้วยนักดนตรี แล้วดนตรีก็ขึ้น สร้างความงุนงงและความประหลาดใจให้กับจ้าวเอวิเดสและ



    เจ้าหญิงเฟลิโอน่าเป็นอย่างมาก แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร ทันทีที่เสียงคนร้องขึ้นก็ทำให้เจ้าหญิงเฟลิโอน่าแทบจะลุกพรวดขึ้นมา



    จากที่ประทับทันที มันเป็นเสียงร้องของ “เจ้าชายคาโล แห่งคาโนวาล” ปรากฎกายในชุดเจ้าชายเต็มยศสีขาว เมื่อได้ฟังเนื้อร้อง



    เจ้าหญิงเฟลิโอน่าก็ถึงกับน้ำตาไหลด้วยความปลื้มระคนดีใจ



        “มีคนนึงพอถึงเวลา แค่เพียงคุณเดินผ่านมาก็ขาสั่น คุณคนเดียวที่เขาเห็นความสำคัญ คิดถึงคุณทุกวันก่อน



    อาหารเลย เขาก็เตรียม เตรียมคำพูดดีดี แต่เจอะคุณทุกทีก็ไม่กล้าเอ่ย ดอกไม้ในมือ หยิบมาถือก็ไม่คุ้นเคย



    ความรักก็อยากเปิดเผยแต่ ไม่รู้วิธี



             ** อยู่โรงเรียนผู้ชาย มีแต่ชายล้วน ไม่ใช่พวกอ่อนหวาน ไม่ใช่คนอ่อนไหว หมดหัวใจ เขาให้คุณเก็บไว้



    แต่เขินและ ยังอายอาย อยากบอกรักต้องทำยังไงก็ไม่รู้ (เพราะอยู่โรงเรียนผู้ชาย)**



        คนคนนึงที่ทำซึ้งไม่ค่อยเป็น ฟังเพลงก็เพลงร๊อคที่กระแทกใจ คำดีดี ไม่ค่อยมีจะอ้อนใคร



    เน้นแต่คำจริงใจ เอาแค่นั้นพอ เพื่อนที่มี มีแต่เพื่อนผู้ชาย ไม่มีผู้หญิงที่ไหนให้เขาเคล้าคลอ  เขาก็คือ ผมคนนี้ที่



    ยังเฝ้ารอ  คนที่อาจดีไม่พอ แต่ก็รักคุณจริง  



                เพราะอยู่โรงเรียนผู้ชาย มีแต่ชายล้วน  ไม่ใช่พวกอ่อนหวาน ไม่สมควรอ่อนไหว ก็ผู้หญิงเขาชอบคนแบบ



    ไหน เขาคิดอะไรในใจ เขาชอบอะไรยังไงไม่รู้เลย...”
      ถึงแม้น้ำเสียงที่ร้องของเจ้าชายคาโลจะไม่ได้เพราะพริ้ง



    เหมือน นักดนตรีมืออาชีพ แต่เนื้อร้อง ของเพลง และจังหวะก็ตราตรึงอยู่ในหัวใจของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าแทบจะในทันที



    แล้วเมื่อเพลงจบลง ประโยคสุดท้ายของนักร้องมือสมัครเล่นที่กล่าวก่อนจะลงเวทีก็คือ



    “เพลงนี้ข้าร้องด้วยใจ แม้จะไม่มีค่า แต่ก็ขอให้รู้ว่า ข้าขอมอบให้เจ้าหญิงในดวงใจของข้าเพียงคนเดียว



                                                      เจ้าหญิงเฟลิโอน่า”




    + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +



    จ้าวเอวิเดส จะทำยังไงเมื่อคาโลยอมทำให้เฟลิโอน่าถึงขนาดนี้ ติดตามตอนต่อไป>>>>>



    ขอโทษนะคะ จะมาอัพให้ตั้งหลายวันแล้วแต่มะมีตังค์ซื้อเน็ตอ่ะ...เพิ่งไปซื้อมาเมื่อกี๊อ่ะค่ะ



    อยากให้อัพต่อไว ๆ คอมเม้นเยอะ ๆ น๊า คะแนนด้วยก็ได้ถ้ากรุณา โรบาเทียสตัวน้อย ๆ ฮับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×