ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ...Miracle&Unbelievable Destination...[TVXQ-Yaoi][Episode2]

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 1[100%]

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 51


                    ร่างบางเดินไปตามทางเดินที่เป็นก้อนหินขนาดใหญ่วางเรียงรายโดยมีสายตาของคนรักมองอยู่ไม่ห่าง ใบหน้าหวานยิ้มแย้มอย่างมีความสุข เสียงหัวเราะดังเบาๆคลอกับเสียงลมที่พัดไอชื้นของหน้าฝนมาด้วย ยุนโฮเข้าไปรวบเอวคนสวยจอมซนแล้วรีบพากลับบ้านเมื่อเห็นว่าเมฆสีดำกำลังก่อตัว


     
                    “กลับบ้านได้แล้วแจจุง ฝนจะตกแล้วนะ” ร่างสูงว่าพลางกระชับร่างบางเข้าหาตัวแต่คนสวยก็ดิ้นจนหลุด

     
                    “คิกๆๆ ไม่กลับหรอก อยากให้กลับก็จับแจจุงให้ได้สิ” ร่างบางหัวเราะร่าแล้ววิ่งไปทั่วทั้งสวนสาธารณะกว้าง ใบหน้าหวานแต่งแต้มด้วยความสุขล้นเหลือ


      
                    ร่างสูงส่ายหัวไปมาอย่างเอือมระอา นับวันแจจุงก็ยิ่งทำตัวเป็นเหมือนเด็กตัวเล็กเข้าเรื่อยแต่จนแล้วจนรอดคนตัวโตก็ยอมกลายเป็นเด็กร่างยักษ์วิ่งไล่จับคนสวย เสียงหัวเราะและเสียงโวยวายดังไปทั่วทั้งบริเวณ สายตาของผู้สัญจรผ่านไปมามองด้วยความเอ็นดู ท่านประธานชองนั้นมีชื่อเสียงอยู่ในวงการสังคม ยิ่งก่อนที่จะมาพบแจจุงแล้วเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มเนื้อหอมจอมเจ้าชู้ ส่วนคิมแจจุงเองก็ใช่ย่อย คุณหนูใหญ่แสนสวยแห่งคิมกรุ๊ปก็ยังคงเป็นที่สนใจในแวดวงธุรกิจอยู่ไม่น้อย ใครจะคิดว่าทั้งคู่จะมาเล่นวิ่งไล่จับกันในที่แบบนี้

      
                    เม็ดฝนเริ่มโปรยปรายแล้วค่อยๆทวีความรุนแรงมากขึ้น ร่างสูงพยายามคว้าคนรักเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เนื้อตัวของคนสวยเปียกปอน ไรผมเรี่ยคอลู่ลงเพราะหยดน้ำแต่ดวงหน้าขาวยังคงยิ้มแย้ม เสียงหวานดังท้าทายร่างสูงอยู่ไม่ขาด ร่างบางสะดุดล้มลงเพราะมัวแต่ล้อเลียนหมีอ้วน ยุนโฮหัวเราะเสียงดังในความซุ่มซ่ามของคนสวยแล้วรีบยกคนรักขึ้นแนบร่าง แจจุงเบ้หน้าด้วยความหงุดหงิด นานๆจะได้แกล้งยุนโฮสักที ทำไมโชคไม่เข้าข้างเขาบ้างเลย!


      
                    “สมน้ำหน้า ผมบอกแล้วว่าให้กลับบ้าน เห็นไหม...เปียกหมดแล้ว” 

      
                    “ก็แจจุงไม่อยากกลับบ้าน” ร่างบางทำหน้าน่ารักจนร่างสูงอดที่จะขโมยหอมฟอดใหญ่ไม่ได้


      
                    คู่รักหวานชื่นกลับมายังคฤหาสน์คิมด้วยเนื้อตัวเปียกชื้นจนโดนแม่บ้านซองอาโวยวายเอายกใหญ่ ยุนโฮพยายามห้ามก่อนจะรีบพาแจจุงขึ้นมายังห้องนอน ร่างสูงจัดแจงเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองและคนรักแล้วพากันลงไปแช่น้ำอุ่นในอ่างที่คนใช้เตรียมไว้ให้


      
                    “เดี๋ยวกินยาแล้วนอนซะนะแจจุง” มือหนาบีบแชมพูชโลมบนไรผมดำของคนรักแล้วนวดไปมาเบาๆ ร่างบางพยักหน้ารับทั้งที่ดวงตากลมโตยังคงหลับพริ้มด้วยความสบาย


      
                    ไม่นานนักยุนโฮก็พาเด็กดื้อในคราบคนสวยออกมาจากห้องน้ำ ไรผมเปียกชื้นถูกมือใหญ่คอยเช็ดให้จนแห้งสนิท แจจุงยิ้มน้อยๆเมื่อรู้สึกถึงความนุ่มบนแผ่นหลัง


      
                    “นอนคนเดียวได้ไหม...ผมขอไปเคลียร์งานแป๊ปนึงนะ” คนสวยหน้าบึ้งแต่ก็ยอมปล่อยร่างสูงไปแต่โดยดี


      
                    เสียงประตูที่ปิดลงเบาๆทำให้ร่างบางลืมตาขึ้นช้าๆ คงจะมีงานด่วนมากแน่ๆถึงทำให้ยุนโฮต้องเร่งรีบแบบนี้ แม้ว่าในใจจะยังคงคิดสงสัยวนเวียนถึงสาเหตุที่ทำให้คนรักต้องผละออกไปแต่ความอ่อนเพลียของร่างกายก็ทำให้ร่างบางผล็อยหลับไปอย่างง่ายดาย
     
      
     
    ...Miracle&Unbelievable Destination...

      
     
                ความรักอบอวลไปทั่วคฤหาสน์ตระกูลคิมจนเหล่าแม่บ้านรู้สึกอบอุ่นจนแทบร้อน ทุกสิ่งทุกอย่างคงจะสมบูรณ์แบบไร้ที่ติถ้าหากร่างโปร่งยังคงมีร่างเพรียวอยู่เคียงข้างอย่างเมื่อหลายเดือนก่อน แม้พี่ชายหน้าหวานทั้งสองจะพยายามสร้างความสดใสร่าเริงให้แต่มันก็ไม่เหมือนเดิม

      
                    ร่างโปร่งทรุดนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างเหนื่อยอ่อน เขารับน้ำจากสาวใช้มาดื่มแก้กระหายก่อนจะถอนหายใจแรงๆ นานแล้วที่เขาย้ายจากบ้านที่อาศัยมาตั้งแต่เกิดมายังบ้านหลังใหม่ บ้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของคนรัก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไร...ความคิดถึงที่เขามีให้จุนกิก็ไม่เคยลดลงแต่มันกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเขาห้ามตัวเองไม่ได้ 

      
     
                        ทุกค่ำคืนที่พร่ำเพ้อถึงใบหน้าสวย...
      
                ทุกวินาทีที่นึกถึงใบหน้าหวาน... 
      
                ทุกครั้งที่หัวใจเรียกหา...
       
      
                    ...จะดังกึกก้องแค่ไหน จะนานเท่าไหร่...คนๆนั้นก็ไม่มีวันกลับมา...


      
     
                    ชางมินปาดความชื้นที่หางตาออกก่อนจะพาร่างขึ้นไปยังห้องนอน ร่างโปร่งออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนสีเขียวอ่อนบางสบาย นิ้วเรียวกดเปิดเครื่องสเตอริโอเล็กๆแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ดวงตาคมปิดลงด้วยความเหนื่อยล้า เสียงหวานคุ้นเคยขับขานบทเพลงรักเพลงแล้วเพลงเล่าจนเงียบลงแต่ร่างโปร่งก็ยังไม่จมสู่ห้วงนิทรา ชางมินพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะนอนหลับพักผ่อนแต่ก็ไม่สำเร็จ ท่านประธานอายุน้อยจึงเลือกที่จะสวมเสื้อคลุมตัวบางก่อนจะเดินไปยังห้องทำงานที่อยู่ไม่ไกลนัก
     
      
                    นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เลื่อนไปตามตัวเลขและข้อความซับซ้อน มือหนาเขียนแผนงานต่างๆที่หลั่งไหลออกมาจากสมองปราดเปรื่องอย่างรวดเร็ว เหตุผลที่กิจการของคิมกรุ๊ปเติบโตขึ้นมาคงไม้พ้นร่างโปร่งที่กำลังเคร่งเครียดอยู่กับการงานในยามดึก เวลาส่วนมากที่ชายหนุ่มเสียไปล้วนแต่เกี่ยวกับการงานทั้งสิ้นและดูเหมือนว่าจะต้องพยายามมากขึ้นอีกเมื่อตลาดของบริษัทขยายกว้างขึ้น ยิ่งมีชเวคังจีฮุนผู้เป็นพี่ชายแท้ๆคอยสนับสนุนอยู่ด้วยแล้วการคืบคลานเข้าไปเป็นอีกหนึ่งผู้มีอิทธิพลทางธุรกิจของโลกก็คงไม่ยากนัก

      
                    มือใหญ่ปล่อยปากกาลงด้วยความล้า มืออีกข้างยกขึ้นกุมขมับ อีกครั้งแล้วที่ดวงหน้าคุ้นเคยลอยขึ้นมาในความคิด เขาเองเคยดูแลธุรกิจค่ายเพลงอยู่หลายปีและในตอนนี้ก็ยังคงบริหารกิจการนั้นอยู่ ทุกครั้งที่เห็นศิลปินหน้าใหม่ออกมาทำให้เขาอดปวดใจไม่ได้กับความคิดเดิมๆเพราะถ้าหากจุนกิยังอยู่เคียงข้างเขา เขาก็คงมีเสียงไพเราะคอยขับกล่อมอยู่ไม่ห่าง
     

      
                    ...ฉันอยากได้ยินเสียงของนายเหลือเกิน จุนกิ...
     
      

    ...Miracle&Unbelievable Destination...

      

     

             รถราในกรุงโซลวิ่งวนบนถนนกันขวักไขว่จนแทบไม่เหลือที่ว่าง ยานยนต์ราคาแพงหนึ่งหยุดลงหน้าคิมกรุ๊ปช้าๆ หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านในรั้งเด็กหนุ่มวัยยี่สิบก่อนที่เขาจะได้ก้าวลงจากรถ


      

                    เดี๋ยว! ฟังฉันก่อน เขาพยักหน้าอย่างง่ายดาย จะให้เขาขัดได้อย่างไรในเมื่อหญิงสาวคนนี้เป็นคนช่วยเขาไว้เมื่อเจ็ดปีก่อน

      

                    เป้าหมายของแกคือจับไอ้ชางมินให้ได้ 

      

                    คิมชางมินทำอะไรผิดเหรอครับคุณผู้หญิง? 

      

                    มันฆ่าน้องสาวของฉัน!!!” เธอว่าแล้วผลักให้เด็กหนุ่มลงจากรถก่อนจะสั่งให้คนขับรถเคลื่อนตัวออกไป


      

                    ยูฮวานคลำหัวป้อยๆด้วยความเจ็บก่อนจะตะลึงงันด้วยความอลังการของงานเบื้องหน้า แม้จะเป็นเพียงการเปิดออดิชั่นเพื่อรับศิลปินหน้าใหม่เข้าสู่ค่าย แต่ก็ดูยิ่งใหญ่กว่างานเปิดตัวของศิลปินค่ายอื่นเสียด้วยซ้ำไป ร่างเพรียวรีบพาตัวเองเข้าไปยังซุ้มของผู้สมัครก่อนจะหาที่นั่งเพื่อรอทำการแข่งขัน

      

                    ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าที่เด็กหนุ่มหน้าใสต้องนั่งทนร้อนอยู่ในลานกว้าง ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะต้องแสดงความสามารถ ทั้งการร้องการเต้นและการแสดงที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีถูกนำมาใช้จนหมด เขาค้อมศีรษะลงเล็กน้อยแล้วเดินลงจากเวทีประกวดเมื่อการแสดงสิ้นสุดลง ก้อนเนื้อในทรวงอกเต้นระส่ำแม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้แสดงฝีมือแต่สายตาคมที่จ้องมองลงมานั้นดูลึกลับทำให้เขาอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นเสียตอนนี้ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคนๆนี้เป็นใคร 
      

     

                    ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวแสนสวยในชุดล่อแหลมหรือชายหนุ่มหน้าตาดีกับเสียงนุ่มรื่นหูก็ไม่อาจทำให้ท่านประธานผู้นี้สนใจได้จนกระทั่งเด็กหนุ่มคนนึงก้าวขึ้นมาบนแสตนประกวด ทั้งๆที่หน้าตาก็ไม่ได้โดดเด่น เสื้อผ้าหน้าผมก็ไม่ได้ส่อเค้าแววว่าจะได้เป็นดาราใหญ่แต่ฝีไม้ลายมือนั้นเกินตัว ไม่ใช่ความสามารถที่ทำให้เขาสนใจร่างตรงหน้าแต่เป็นความเหมือนจนน่าตกใจ ทั้งสไตล์ของการใช้เสียงและวิธีการเคลื่อนไหวร่างกาย เด็กคนนี้เหมือนจุนกิเหลือเกิน...


      

                    ซีวอน เด็กคนนั้นเป็นใคร เสียงเข้มหันไปกระซิบกับคนสนิทที่นั่งอยู่ด้านข้าง ซีวอนเดินออกไปหาข้อมูล ไม่นาน...เขาก็ได้คำตอบกลับมา

      

                    ฮันยูฮวาน ทราบเพียงแค่ว่าเป็นเด็กที่โตขึ้นมาในแถบชาญเมืองของโซลครับ นอกจากนั้นก็ไม่ได้แจ้งรายละเอียดอะไรไว้อีกเลย 

      

                    งั้นเหรอ? ดูซิว่าท่าทางแบบนี้จะไปได้สักแค่ไหนเชียว แม้น้ำเสียงจะดูสบายๆแต่ซีวอนก็สังเกตเห็นถึงประกายตาที่ดูตื่นเต้นผิดปกติของผู้เป็นนาย ทำงานรับใช้มาตั้งนาน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคุณชางมินสนใจเด็กคนนี้เพราะอะไร
     
      

                    ไม่ต้องไปบอกใครทั้งนั้น...เด็กนั้นเก่งพอตัว ปล่อยเขา แขนแกร่งรั้งผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่กำลังจะออกตัวไปบอกกรรมการตัดสินไว้แล้วหันไปสนใจการแข่งขันอย่างเดิม   

      

                    บางครั้ง...วันออดิชั่นก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดนะ...” 

       
      

                    ประสบการณ์การทำงานเป็นท่านประธานของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในเครือคิมกรุ๊ปทำให้การคาดเขาของร่างโปร่งเป็นไปอย่างแม่นยำ ฮันยูฮวานถูกคัดเลือกให้เข้ามาเป็นหนึ่งในยี่สิบคนสุดท้าย ปากหนาแย้มออกน้อยๆเมื่อเห็นรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าขาว หลังจากที่ทนนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่นานเขาก็ลุกขึ้นแล้วบิดร่างไปมาเพราะความขบเมื่อย


      

                    ไปหาพี่ฮีชอลก็ได้นะ...ฉันจะแวะไปหาจุนกิแล้วจะกลับบ้าน ร่างโปร่งว่าก่อนจะเดินฝ่าฝูงชนออกไปอย่างรวดเร็ว 


      

                    ชางมินสั่งให้สารถีชินดงเลี้ยวไปทางสุสานที่ห่างจากคฤหาสน์ตระกูลคิมเล็กน้อยก่อนจะลงจากรถเมื่อถึงจุดหมาย ร่างโปร่งสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดแล้วนั่งลงหน้าป้ายหินอ่อน ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยร่องรอยของความคิดถึง หลายเดือนแล้วที่ไม่มีร่างนั้นในอ้อมกอด หลายคืนแล้วที่เขาต้องทนเหงากับค่ำคืนเงียบสงัด หลายวันแล้วที่ผ่านไปโดยไม่มีใครบางคนอยู่รอบกาย หลายครั้งแล้วที่ต้องเสียน้ำตาเพราะคนๆนี้...คนที่ใจร้ายทิ้งเขาอย่างไม่มีวันหวนคืน


      

                    วันนี้มีออดิชั่นที่บริษัทด้วยล่ะจุนกิ ฉันเจอเด็กคนนึง หน้าเหมือนนายชะมัดเลยทั้งวิธีร้องทั้งวิธีเต้นก็เหมือนนาย ฉันคิดถึงนายมากนะ...รู้ไหม คิดถึงจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว กลับมาหาฉันสักทีเถอะจุนกิ... เฮ้อ...ถึงฉันจะดูเหมือนคนบ้าที่เอาแต่รอนายอยู่คนเดียว ใครจะว่าไงก็ช่างเพราะฉันก็จะรอนายต่อไป...ฉันรักนายนะ หนาวไหม...เอ้านี่! หายหนาวได้แล้วนะ เด็กดื้อ!” ร่างโปร่งเอาผ้าพันคอสีฟ้าสดใสที่ติดมือมาด้วยคลุมให้เบาๆก่อนจะประทับจุมพิตอุ่นบนแท่นหินอย่างเคย


      

                    ขาแกร่งก้าวกลับขึ้นไปบนรถคันสีดำแล้วมุ่งหน้ากลับไปยังบ้านอันแสนอบอุ่น รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าสีน้ำผึ้งเมื่อเห็นร่างบางของผู้เป็นพี่ชายก่อนจะหายไปในพริบตาเมื่อเหลือบเห็นมือหมีที่เกาะแกะอยู่บนเอวเล็ก 


      

                    วันนี้พี่มานอนด้วย...ทำไมวันนี้กลับดึกจัง เหนื่อยรึปล่าว พี่ทำข้าวเย็นไว้รอแล้ว ไปกินข้าวกันนะ อ๊ะ!!” เสียงหวานอุทานเบาๆเมื่อรู้สึกถึงแรงฉุดรั้งบนร่าง

      

                    หมีอ้วน! ปล่อยสิ! น่ารำคาญชะมัด! ไปกันเถอะชางมิน คนสวยหันมาเอ็ดคนรักก่อนจะทิ้งให้หมีอ้วนที่ว่านั่งอยู่คนเดียว สายตาคมจิกบนแผ่นหลังกว้างของชางมินอย่างอาฆาตแค้น มันเป็นใครมาจากไหนถึงมาแย่งภรรยาคนสวยไปจากเขาแบบนี้!


      

                    เสียงหวานที่คอยพูดนู่นพูดนี่เอาใจน้องชายดังอยู่เป็นระยะปะปนกับเสียงหวานดุดันที่คอยเอ็ดตะโรคนรักที่ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ แม้รอบข้างจะดูสดใสแค่ไหนหัวใจของเขาก็ไม่เคยร่าเริงอย่างที่เคยเป็น อาหารมื้อค่ำเป็นไปอย่างสนุกสนานท่ามกลางการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างสองหนุ่มหน้าคมโดยมีคนสวยคอยเป็นกรรมการ แจจุงรีบลั่นกระดิ่งหมดยกก่อนจะไล่ให้น้องชายของตัวเองขึ้นไปพักผ่อน วันนี้ชางมินคนทำงานมาหนักพอดู ได้ยินมาว่าวันนี้ที่ค่ายเพลงมีออดิชั่นครั้งใหญ่ ถึงจะสงสัยอยู่ว่าทำไมประธานบริษัทใหญ่อย่างชางมินจะต้องไปร่วมงานแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามเพราะกลัวว่าจะไปกระทบจิตใจของน้องชาย


      

                    เฮ้อออออ... ร่างโปร่งถอนหายใจเฮือก ร่างทั้งร่างพาดอยู่บนเตียงนอนใหญ่ นัยน์ตาคมค่อยๆปิดลงเพื่อขับไล่ความเหนื่อยล้าก่อนร่างทั้งร่างจะลุกยืนแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย


      

                    เสียงเพลงคุ้นหูถูกเปิดทุกวันจนเป็นปกติ ชางมินเอื้อมหยิบกรอบรูปเล็กๆบนหัวเตียงขึ้นมาดูแล้วประทับริมฝีปากลงไปเบาๆ ภาพนี้เป็นภาพที่เขาชอบและหวงแหนเป็นที่สุด เขายังจำบรรยากาศในวันนั้นได้ดี แม้อากาศจะหนาวเหน็บแต่การมีร่างเพรียวในอ้อมกอดก็เพียงพอแล้ว...


      

                    นายคิดอะไรเนี่ยชางมิน! ประสาทไปแล้วรึไง!” เสียงเข้มสบถด่าตัวเองเมื่อจู่ๆภาพของเด็กหนุ่มเมื่อตอนกลางวันก็ลอยขึ้นมาในความคิด ถึงจะไม่ได้รักหรือชอบแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาไม่อาจละสายตาจากเด็กคนนั้นได้เลย


      

     

                    ...ฮันยูฮวาน นายเป็นใครกันแน่?...


    ****TBC



      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×