ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราชันย์บัลลังก์เลือด

    ลำดับตอนที่ #2 : เยี่ยฟงอวิ๋น

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 62


         สายลมเย็นยะเยือกบาดผิวบ่งบอกถึงฤดูหนาวที่มาเยือนอีกครั้ง แสงจันทร์ทอแสงอ่อนไล้ดวงหน้าหวานคม พวงแก้มใสถูกสายลมกรีดจนแดงระเรื่อ ริมผีปากหยักราวคันศรแย้มยิ้มอ่อนโยน ดวงตาสุกใสราวกวางป่าจ้องมองออกไปยังท้องฟ้ากว้างไกล หมู่ดาวนับล้านยังพ่ายแพ้ต่อดวงตานางคู่นั้น
         โหยหา...โหยหาเหลือเกินนี่เขาเป็นอะไรไปกันนี่ เขาปรารถนาที่จะโอบกอดร่างบางตรงหน้าไว้ในอ้อมแขนแกร่ง ปรารถนาที่จะมีนางยิ้มแย้มสดใสอยู่เคียงข้าง
         มือใหญ่เอื้อมคว้าออกไปข้างหน้า ใฝ่หานางผู้เป็นดวงใจ แต่ยิ่งไขว่คว้ามากเท่าไหร่ ร่างบางก็ยิ่งไกลเกินคว้ามากเท่านั้น เขาพยายามไล่ตาม แต่ยิ่งตามก็ดั่งยิ่งไกล จนสุดท้ายร่างนั้นก็ลับจากสายตา....

         พรวด!!!


         อีกแล้ว...นางผู้นั้นเป็นใครกันนะ ช่างบังอาจเข้ามาในฝันของข้านานนับสามปี สามปีที่ข้าเห็นนางอยู่ทุกคืน แต่ไม่มีคืนไหนที่ข้าได้สัมผัสนาง...ไม่มี
         มือหนายกขึ้นเสยผมด้านหน้าที่เปียกชื้นจากเหงื่อขึ้น เขาลุกออกจากเตียงกว้างผ้าแพรสีแดงที่ปกคลุมร่างหล่นกองแทบพื้นเผยให้เห็นร่างกำยำสมชาย ผิวสีน้ำผึ้งอ่อนๆ บ่งบอกถึงพลานมัยที่สมบูรณ์พร้อม ทั่วลำตัวของเขามีแผลเป็นประปรายไปทั่ว ใบหน้านิ่งสงบ ดวงตาสีดำดุจหลุมลึกคมดุจใบมีดแลกวาดไปทั่วห้องบรรทม

         "ลี่เหริน"
         สุรเสียงแหบห้าวดังกังวาลเรียก แทบจะทันใด ราชครูคู่บัลลังก์ของเขาก็เดินเข้ามาในห้องบรรทม การย่างเท้าของเขาไม่ก่อให้เกิดเสียงใดๆ ขึ้น ใบหน้าเรียบสุขุมอ่านความคิดไม่ได้
         "พะย่ะคะฝ่าบาท กระหม่อมอยู่นี่"
         "เรื่องที่ข้ามอบหมายให้เจ้าไป ว่าอย่างไรบ้าง"
         "เป็นอย่างที่พระองค์ตรัสจริงๆ พะย่ะคะ แคว้นซิ่วคิดกบฏกับราชนักจริงๆ "
         "ข้ามอบหมายให้แม่ทัพหยางจัดการ มอบทหารให้เขาสิบหมื่นนาย ปราบกบฏแคว้นซิ่วให้ราบ ทัพรองมอบให้แม่ทัพฝานดูแล มอบทหารให้เขาไปหกหมื่นนายพร้อมเสบียงกรังและอาวุธ จัดการพวกมันให้ได้ ให้พวกมันได้รู้ว่าตราบใดที่ข้า เยี่ยฟงอวิ๋นยังครอบครองบัลลังก์ พวกเมืองขึ้นคิดกบฏต้องตายสถานเดียว!"
         "ข้าจะร่างราชองค์การเดี๋ยวนี้ฝ่าบาท"
         "อ๋องและราชนิกุลต่างๆ ให้ตัดหัวเสียบประจานไว้หน้าเมือง ดูสิว่าจะมีใครนึกหาญก่อกบฏกับข้าอีกไหม!"
         "ตามบัญชาพะย่ะคะฝ่าบาท"
         "เจ้าจงออกไปเตรียมม้าให้ข้า ข้าจะออกไปเยี่ยมสหาย"
         "ท่านอ๋องแปดหรือพะย่ะคะ"
         "อืม เจ้าก็ต้องออกไปกับข้าด้วย"
         "รับบัญชาฝ่าบาท"


    --------------------------------------------------------------------------------------------------------

         ในยามเช้าบรรยากาศสดใส ตลาดในเมืองหลวงคึกคักดังเช่นทุกวัน เสียงพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าดังระงม การเป็นอยู่ของราษฎรกินดีอยู่ดีมีความสุขถ้วนหน้า ไป่ลี่เหรินมองภาพนั้นสงบนิ่งก่อนจะหันมามองคนที่นั่งข้างๆ เขา ราชาผู้ปราดเปรื่องและกล้าหาญเขาเป็นผู้รวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงแม้ในบางคราเขาจะรู้สึกว่าวิธีการบางอย่างนั้นจะเหี้ยมโหดไปบ้างก็ตาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเรียกว่าเลิศรส
         "หลี่ฮานมาช้าตามเคย"
         "ท่านอ๋องคงมีธุระกระมังฝ่าบาท"
         "อยู่นอกวังเรียกข้าว่าฝ่าบาททำไมลี่เหริน"
         "ขออภัยคุณชายเยี่ย"
         "สหายของข้า ข้ามาแล้ว"เสียงทุ้มกังวาลดังขึ้น เขาทั้งสองมองตามเสียงนั้นไปจนเห็นร่างสูงโปร่งของอ๋องหมินหนั๋นหรือท่านอ๋องแปดซึ่งโอบเอวบางของสาวร่างบางคนหนึ่งไว้
         "คุณชายตง ท่านมาช้านัก"เสียงนุ่มทุ้มตำหนิ
         "ไป่ลี่เหริน เจ้าอย่าเคร่งนักซี่ เดี๋ยวหน้าหวานๆ นั้นเป็นรอยหมด ข้าไม่ชอบให้ของสวยๆ งามๆ เสียหายนะ"
         "คุณชายทั้งสอง ข้าฮวาเม่ยเอ๋อร์ ยินดีที่ได้พบคุณชายทั้งสอง"สาวงามย่อกายคำนับพร้อมส่งยิ้มยั่วยวน นางทิ้งกายนั่งลงข้างตงหลี่ฮานแต่สายตากลับจับจ้องบุรุษผิวสีน้ำผึ้งตรงหน้าตาเป็นมัน
         "ฟงอวิ๋น เจ้าสั่งอะไรมาบ้างข้ารึหิวจะแย่แล้ว"
         "นอกจากชาแล้ว ข้าไม่ได้สั่งอะไร เจ้าอยากอะไรก็สั่งเองเถอะ"
         "ลี่เหรินเจ้าจะเอาอะไรไหม"
         "ไม่ครับคุณชาย"
         "มาคุณชงคุณชายอะไรกัน เจ้าเรียกข้าว่าหลี่ฮานก็ได้นี่นา เราก็เพื่อนกันนี่"
         "ข้าไม่อาจเอื้อมดีกว่า"
         หลี่ฮานมองใบหน้าหวานล้ำเกินบุรุษอย่างพินิจ พวกเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังเยาว์ นิสัยสงบนิ่งเกินงามของลี่เหรินเป็นอย่างไรก็ยังคงเป็นอย่างนั้น เขานึกเสียดายใบหน้างามนั้นขึ้นมาครามครั่น หากลี่เหรินเป็นสตรี เขาจะไม่รอช้าที่จะสู่ขอมาเป็นพระชายา หากแต่การเป็นสหายกันมาแต่เยาว์ทำให้เขารู้แน่ว่าคนหน้าหวานตรงหน้าเป็นบุรุษที่สมชายชาตรี คนที่กล่าวว่าเขาหน้าคล้ายสตรีคนล่าสุดยังคงหายสาปสูญไร้ร่องรอย...คิดดูอีกทีไม่เอาเขาเป็นชายาดีกว่า...
         "หลี่ฮานอีกสี่วันข้าอยากจะให้เจ้าเดินทางไปเมืองหลิวอัน เจ้าว่าอย่างไรบ้าง"
         "มีอะไรให้เข้าทำอย่างนั้นหรือ"
         "พักนี้ข้ามักได้ยินข่าวพรรคน่าหลันติดต่อกับพวกมองโกล"
         "อ้อ...เม่ยเอ๋อร์ เจ้าออกไปรอข้าข้างนอกไป"
         ร่างอวบอิ่มด้วยเลือดเนื้อสาวที่กำลังปรนิบัติเขาอยู่ชะงักเพียงนิดก่อนจะปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว

         "เม่ยเอ๋อร์ทราบแล้ว" ร่างอวบอิ่มงดงามยอบกายลงก่อนค่อยหันหลังจากไป 

         "ท่านอ๋องเอ่ยปากขับไล่หญิงงามออกไปเช่นนั้น ไม่เกรงว่านางจะเกี่ยงงอนท่านภายหลังรึ"
         "...นั่นงามแล้วหรือ นางก็แค่พอดูได้ พูดถึงเรื่องความงาม ข้าว่าท่าน......" ท่านอ๋องมองคู่สนทนาตรงหน้าก่อนตัดสินใจเก็บคำพูดประโยคหลังไว้เสีย
        
         "ราชสำนักไม่ยุ่งเกี่ยวกับสำนักพรรคต่างๆ ไม่ใช่หรือ เราน้ำบ่อจะไปยุ่งกับน้ำคลองทำไม"
         "ข้าคงไม่ยุ่ง หากพวกที่พรรคนั้นติดต่อไม่ใช่มองโกล"
         "เฮ้อ ตามใจเจ้า ข้าจะไปดูแล้วแล้วกัน ได้ข่าวว่าบุตรีประมุขพรรคน่าหลันรูปโฉมงดงามเสียด้วยสิ"
         "อ๋องหมินหนั๋น พระสนมมากมายในวังของท่านยังไม่พออีกหรือ"
         "นารีมีมากมาย พวกนางก็เหมือนดอกไม้ มันสวยก็จริง แต่พอดูนานๆ ก็เบื่อแถมยังเหี่ยวเฉาจนข้าเศร้าใจ"
         "เลยต้องหาสตรีคนใหม่เรื่อยๆ สินะ"
         "แหม อย่าเหน็บแนบข้าเลยน่าท่านราชครู ข้าไม่เหมือนฝ่าบาทของเจ้าเสียหน่อย นางสนมต่างแคว้นส่งมาบรรณาการมากมายไม่สนใจ มองหาแต่นางในความฝันที่ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่"
         "นางมีตัวตน ข้ารู้สึกเช่นนั้น"
         "เอาเถอะๆๆ หากข้าเจอ ข้าจะรีบบอกเจ้าแล้วกันนะ จากรูปที่เจ้าลงมือวาดเอง ข้าว่างนางคงงดงามน่าดูชม"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×