ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF Where's the love I can find? ...รักแท้อยู่ไหนกัน

    ลำดับตอนที่ #20 : Trick 13 แม่หมอมาเอง

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 57


                    “ดงเฮนูนา!!! ขึ้นมานี่ก่อนสิครับมือหนาดันหน้าต่างห้องเรียนให้เปิดออกกว้างขึ้น ปากก็ตะโกนร้องเรียกให้คนที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งขึ้นมาหาตนเองที่ห้อง ดงเฮเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียกก็เจอเด็กหนุ่มที่ตนมารอรับยื่นส่งยิ้มแป้นมาให้จากชั้น 3 ของอาคาร ร่างบางเก็บหนังสือมนต์คาถาที่เพิ่งไปยืมจากร้านอาแปะมาลงกระเป๋า พลางสาวเท้าขึ้นไปหาคนร่างสูงด้านบน ท่ามกลางสายตาของเด็กนักเรียนวัยใสที่ต่างก็จ้องคนมาใหม่คนนี้อย่างไม่วางตา

                    “เลิกเรียนแล้วหรอ วันนี้เลิกเร็วจังเลยนะดงเฮวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะเรียนของคิบอม พลางทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้านข้างคนร่างสูงที่เป็นที่นั่งของคยูฮยอน

                    อาจารย์ติดประชุมน่ะครับเลยปล่อยเร็ว นี่เราจะไปกันเลยหรือเปล่าครับเนี่ย นูนารีบมั้ยครับคิบอมเดินไปลบกระดานหน้าห้องที่มีตัวหนังสือเขียนจนรกไปหมด ปากก็เอ่ยถามอีกคนที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้

                    ไม่หรอก เห็นฮยอกว่าวันนี้ซองมินเข้างานบ่าย กว่าจะเลิกก็น่าจะเย็นๆนู่นล่ะ เราไปกินข้าวดูหนังยังเตรียมตัวทันเลยวันนี้เป็นวันปฎิบัติตามแผนการ ล้วงลับอดีตของลีซองมิน ดงเฮก็เลยมารับคิบอมไปปฏิบัติภารกิจนี้ทุกวัน (จริงๆข้ออ้างนะ นางมารับทุกวันละ 5555)

                    อ่า...ถ้างั้นขอผมทำเวรทำกรรมแปปนึงได้มั้ย เดี๋ยวผมเอาแปรงไปเคาะก่อน แล้วก็จะเอาน้ำไปเปลี่ยนด้วยเลย ดงเฮนูนารอที่นี่นะครับเดี๋ยวผมมา คิบอมหันกลับมาบอกอีกคน พลางหิ้วแปรงลบกระดานพร้อมทั้งน้ำออกไปจากห้อง ดงเฮพยักหน้ารับ พลางมองสำรวจบริเวณโต๊ะที่คิบอมนั่งอยู่

                    อ๊ะ...เพิ่งนึกขึ้นได้ เมื่อกี้อ่านเจอทริคนี่นา ลองสักหน่อยดีกว่ามือบางล้วงหยิบหนังสือทริคที่เพิ่งได้มาใหม่ขึ้นมาเปิดหาหน้าที่ต้องการ นิ้วเรียวไล่ไปตามตัวหนังสือ ก่อนจะมาหยุดที่ทริคที่ต้องการ

                    ทริคสร้างสัมพันธ์สนิท : ให้นั่งบนเก้าอี้ของคนที่แอบชอบ  แล้วภาวนาในใจว่า ขอให้เราสองคนสนิทกันมากขึ้น  ระหว่างภาวนาให้ลุกเดินรอบเก้าอี้โดยหมุนเวียนซ้ายสามรอบไปด้วย

                    “บ๊ะ ถ้าจะง่ายขนาดนี้ ....ลองดูๆๆมือบางพับหน้าหนังสือเอาไว้ พลางลุกขึ้นเดินวนรอบเก้าอี้ของคิบอม ปากก็บ่นพึมพำๆขณะที่ปฏิบัติตามทริค

                    ขอให้สนิทกันมากขึ้น ๆๆๆๆๆร่างบางเดินเวียนรอบโต๊ะของคนร่างสูง สมาธิและจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ตนกำลังภาวนา จนไม่ได้สังเกตว่าคนร่างสูงกลับมายืนมองตนอยู่ที่หน้าประตูห้องแล้ว

                    นูนา....เดินจงกรมหรอครับคนร่างบางที่เดินวนซ้ายจนครบ 3 รอบและเตรียมจะทิ้งตูดลงบนเก้าอี้เพื่อเป็นอันเสร็จทริค แต่กลับมีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังแทรกมาจากด้านหลังเสียก่อน

                    คิบอม....มาเมื่อไรดงเฮรีบหันขวับกลับไปมองที่ต้นเสียง หน้าหวานแดงซ่านด้วยความอายเมื่อกลัวว่าจะถูกจับได้ว่าตนกำลังใช้ทริคอยู่

                    มาตั้งแต่นูนาเริ่มเดินจงกรมน่ะครับ สวดมนต์อยู่หรอครับ เห็นพึมพำๆอะไรด้วยคิบอมก็ยังแซวอีกคนไม่เลิก ก็รู้อยู่หรอกนะว่าดงเฮชอบเรื่องอะไรแบบนี้ ใช่ว่าจะไม่เคยจับได้ เรียกได้ว่าแทบทุกครั้งเลยเถอะ เวลาที่ดงเฮจะใช้ทริคอะไรพวกนี้ เค้าจับได้ตลอดละ

                    “เอ่อ...พอดีช่วงนี้จิตใจไม่ค่อยสงบน่ะ กังวลเรื่องซองมินมากไป คือ...คือไปอ่านเจอในหนังสือมาเค้าบอกเวลาที่เราเครียดหรือฟุ้งซ่านให้ลองทำสมาธิกำหนดจิตใจน่ะ ยุบหนอ....พองหนอ....ร่างบางหายใจลึกๆก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมายาวๆประหนึ่งเป็นแม่ชีที่เดินจงกรมในยามเช้า

                    ฮ่าๆๆ ว่างวันไหนเดี๋ยวผมขอไปยุบหนอ พองหนอด้วยคนนะครับ อยากจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจแบบนี้บ้างน่ะร่างสูงยิ้มๆพลางทำท่ายุบหนอพองหนอตามที่อีกคนทำเมื่อกี้

                    คิบอมอ่า...ไม่ต้องมาเลียนแบบเลยนะ รีบทำเวรให้เสร็จเลย จะไปแล้วร่างบางรีบไล่อีกคนกลับไปทำเวรทำกรรมที่มีอยู่ให้เสร็จ ส่วนตัวเองก็ลงนั่งรออีกคนที่เดิม

                    จะว่าไปก็แอบเสียดายน้า เลยไม่รู้เลยว่าหนังสือทริคเล่มนี้ใช้ได้ผลหรือเปล่า เฮ้อ....ไม่เป็นไรๆ ครั้งหน้าลองใหม่แล้วกันนะได้แต่เอ่ยปลอบใจตัวเองเบาๆในใจ ตาก็แอบชำเลืองมองอีกคนที่ตนหวังจะทำของใส่ในทุกวัน

                    เราจะไปไหนกันครับนูนาหลังจากที่เคลียร์ห้องเรียนเสร็จ คิบอมกับดงเฮก็พากันออกมาจากโรงเรียน พลางมุ่งหน้าสู่แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโซล

                    แปลงโฉม!!!” ว่าพลางกึ่งลากกึ่งจูงคนตัวใหญ่กว่าให้เดินตามตนเองมา

                    นูนานี่มันร้านเสื้อผู้หญิงนี่ครับ นูนาจะซื้อหรอ???คิบอมกระตุกมือดงเฮให้หันกลับมาฟังตนก่อน

                    อื้อ รับรองเด็ด ถ้าไปในสภาพผู้ชายซองมินก็จับได้น่ะสิ แต่งหญิงน่ะดีแล้ว อันนี้สวยมั้ยคิบอมดงเฮคว้ากำไรข้อมือสีทองวงใหญ่ขึ้นมาสวมหลายๆอัน พลางโชว์ให้คนร่างสูงดู

                    สวยครับ ดงเฮนูนาใส่อะไรก็สวย มาคิบอมช่วยเลือกนะทั้งสองคนต่างหยิบจับเสื้อผ้าและเครื่องประดับผู้หญิงมาทดลองใส่กันแบบไม่แคร์สายตาผู้หญิงที่เดินเลือกของกันอยู่ในร้านแม้แต่น้อย

                    ผ้าอันนี้สวยนะครับ เดี๋ยวคิบอมใส่ให้นะผ้าสีม่วงอ่อนถูกนำมาปิดช่วงหน้าครึ่งล่างของดงเฮเหลือไว้เพียงดวงตาคู่สวยที่จ้องมองคนที่กำลังสวมผ้าให้

                    น่ารักจังเลยนะ เหมือนจินนี่ในตะเกียงแก้วเลย ดงเฮนี่สวยจังเลยน้าคิบอมชมอีกคนไม่ขาดปากเมื่อดงเฮหยิบจับอะไรมาใส่ก็ดุจะสวยไปซะหมดเลย

                    ชมแบบนี้เค้าเขินนะคิบอม ไม่เอาแล้ว ไปลองเสื้อผ้าในนู้นดีกว่าร่างบางรีบเดินหนีอีกคนไปหยิบเสื้อผ้าจากราว พลางเข้าไปลองแต่งในห้องแต่งตัวของร้าน

                    สวยมั้ย.....ร่างบางออกมาจากห้องแต่งตัวหลังจากที่เข้าไปสวมกระโปรงยาวสีม่วงเข้มที่ยาวปิดถึงตาตุ่ม มือบางสะบัดชายกระโปรงให้พลิ้วไหวโชว์คนที่กำลังยืนอึ้งในความงาม เสื้อแขนยาวสีเดียวกันกับกระโปรงถูกคลุมทับด้วยผ้าผืนบางสีม่วงอ่อนที่คลุมตั้งแต่ศีรษะมาจนถึงบ่า แม้ว่าทุกส่วนของร่างกายจะถูกปิดด้วยผ้าสีม่วงจนมิดแทบมองไม่เห็นอะไรนอกจากดวงตาที่โผล่มาพ้นผืนผ้าเพียงอย่างเดียว แต่ดงเฮกลับดูน่ารักปนลึกลับน่าค้นหามากจริงๆ

                    สวยครับ....สวยที่สุด จริงๆ....คิบอมได้แต่พยักหน้ารับคำอีกคน ตาก็จ้องคนตรงหน้าไม่กระพริบ คิบอมจะรู้มั้ยนะ ว่าใต้ผ้าผืนนี้ที่ปิดหน้าอยู่มันซ่อนหน้าแดงๆที่ปิดความเขินอายของดงเฮไว้ได้ไม่มิดเลย

                    ถ่ายรูปไว้ได้มั้ยขออนุญาตคนร่างบางทั้งๆที่มือก็เตรียมกดชัตเตอร์อยู่แล้ว พออีกคนพยักหน้ารับคิบอมก็รัวชัตเตอร์ด้วยมือที่สั่นระรัวนั้นไม่ยั้งทันที สงสัยกะเก็บเป็นอัลบั้มเลยนะนั่น

                    ขอโทษนะครับ ช่วยถ่ายรูปคู่ให้เราด้วยได้มั้ยครับคิบอมเดินไปหาพนักงานของร้าน ก่อนจะเอ่ยวานให้เค้าช่วยถ่ายรูปคู่ให้ตนกับดงเฮ กว่าจะถ่ายกันเสร็จคนถ่ายให้ก็รัวนิ้วลงบนชัตเตอร์จนนิ้วแทบล็อกเลยเชียว เมื่อคนร่างสูงร้องขออีกหลายๆภาพ

                    งั้นเอาชุดนี้แหละเนอะ สวยดี ....พี่ฮะ เอาชุดนี้แต่ขอไซส์ใหญ่กว่านี้นะฮะ เอา XL ไปเลยฮะดงเฮยื่นชุดทั้งหมดให้พนักงานดูพลางสั่งไซส์ที่ตนเองต้องการ

                    มันแน่นไปหรอครับ?? ขนาดเมื่อกี้ใส่ก็สวยอยู่แล้วนี่ จะเปลี่ยนไซส์ทำไมครับ คิบอมถามอย่างงงๆที่อยู่ๆดงเฮก็เปลี่ยนไซส์

                    “เดี๋ยวใส่ไม่ได้น่ะ ไปเถอะ เสร็จละ เรายังต้องไปเตรียมของกันอีกนะดงเฮคว้ามือคนขี้สงสัยมาจูงให้เดินตามตนออกมาจากร้าน คิบอมมองไปตามมือเรียวที่จับอยู่ที่มือของตนพลางอมยิ้มเดินตามคนร่างบางต้อยๆไม่ถามซอกแซกอะไรอีกเลย

                    ‘ซองมินเลิกงานแล้ว เดี๋ยวฮยอกพามินนี่ไปเดินเล่นก่อน จัดเตรียมให้เรียบร้อย เสร็จแล้วยิงมาหาฮยอกนะอึนฮยอกส่งข้อความเข้ามาในมือถือของดงเฮ ให้ร่างบางกับว่าที่เนื้อคู่รีบเตรียมตัวกันให้เสร็จก่อนที่คนสำคัญจะมาถึงที่นี่

                    คิบอมมาช่วยดงเฮกางเต้นท์หน่อยสิร่างบางร้องเรียกให้อีกคนช่วยในขณะที่ตนเองก็กางโครงเหล็กของเต้นท์ให้ตั้งขึ้น ผ้าใบสีดำขนาดใหญ่ถูกนำมาปกคลุมโครงเหล็กให้ดูอึมครึมลึกลับน่ากลัวยิ่งขึ้น ภายในเต้นท์ขนาดกลางนี้มีโต๊ะสีดำตัวเล็กพร้อมเก้าอี้อีก 2 ตัวที่ถูกจัดเตรียมไว้กลางเต้นท์ โต๊ะสีดำถูกปูผ้าด้วยกำมะหยี่สีแดง บนโต๊ะมีสารพัดสิ่งที่ดูขลังเหลือเกิน ทั้งลูกประคำ ลูกแก้วใส ไพ่ยิบซี่ รวมไปถึงหัวกะโหลกที่ด้านในมีเทียนหอมจุดไว้ส่งกลิ่นอบอวลไปทั่วเต้นท์

                    นูนาครับ ผมว่ามันดูน่ากลัวไปนะ ซองมินฮยองเค้าจะกล้าเข้าหรอครับ น่ากลัวแบบนี้น่ะคิบอมมองสภาพของสถานที่ที่ถูกเซ็ทขึ้นมาอย่างดี พลางหันมาถามคนที่จัดเตรียมการทุกอย่าง

                    ก็ถ้าดูไม่ขลังแล้วซองมินจะเชื่อเราหรอคิบอม เอาแบบนี้ละ ไม่น่ากลัวหรอก ฉันว่ามันดูน่ารักกุ๊กกิ๊กไปด้วยซ้ำนะคอบมเบิกตาโตแทบถลนออกจากเบา ร่างสุงมองเต้นท์สีดำสนิทที่เริ่มกลืนไปกับพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินสลับกับการมองหน้าคนร่างบางที่ยืนมองผลงานของตนเองอย่างภาคภูมิใจ นี่น่ะหรือ สิ่งที่ดงเฮเรียกมันว่าน่ารัก ....ถ้าอย่างนี้เรียกน่ารัก พวกคิตตี้สีชมพูก็คงเป็นอะไรที่น่าสยดสยองของดงเฮสินะ

                    อ่า....แล้วดงเฮนูนาไม่แต่งตัวหรอครับ ฮยอกแจฮยองโทรมาเร่งแล้วไม่ใช่หรอ เดี๋ยวผมเฝ้าเต้นท์ให้ก็ได้ครับ ฮยองไปแต่งตัวเถอะร่างสูงเอ่ยบอกให้อีกคนไปจัดการปราการอย่างสุดท้าย นั่นก็คือการแปลงโฉมด้วยของที่เพิ่งจะไปเลือกช้อปมาเมื่อกี้

                    เดี๋ยวเปลี่ยนหลังพุ่มไม้นี่ก็ได้ดงเฮเดินไปหยิบถุงช้อปปิ้งมากมายที่วางอยู่หลังเต้นท์มาส่งให้คิบอมถือ

                    ครับ?? ไม่ได้นะ เปลี่ยนตรงนี้ไม่ได้ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า ผมไม่อยากให้ใครเห็นผิวขาวๆของดงเฮนูนาเหมือนที่ผมเคยเห็น ผมต้องได้ดูคนเดียว หวง!!!” คิบอมรีบร้องห้ามอีกคนเสียงแข็ง ไม่ยอมให้ดงเฮไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่พุ่มไม้ด้านหลัง

                    ใครบอกว่าฉันจะเปลี่ยน ?  ชุดนี้ไม่ใช่ของฉัน.... ฉันซื้อมาให้คิบอมต่างหาก ไปเปลี่ยนดูสิ เดี๋ยวฉันเฝ้าของตรงนี้ให้ดงเฮยัดของทุกอย่างใส่มือคิบอมพลางดันหลังให้อีกคนไปเปลี่ยนชุดหลังต้นไม้

                    เดี๋ยวครับ เดี๋ยวๆๆ ทำไมผมต้องใส่ชุดนี้อ่า แล้วทำไมนูนาไม่แต่งละครับ เดี๋ยวๆๆๆ อย่าเพิ่งถอด ดงเฮนูนา!!!” เมื่อเห็นคิบอมดิ้นเป็นดักแด้โดนน้ำร้อนลวกแถมยังปฏิเสธหัวชนฝาไม่ยอมใส่ชุดที่เตรียมมาให้อีก อย่างนี้คงต้องลงมือเองแล้วล่ะ

                    คิบอมอ่า ถ้าฉันแต่ง ซองมินก็ต้องจำได้สิ เวลาจะทำพิธีที่บ้านก็ใส่ชุดพวกนี้ออกบ่อยไป ยังไงซองมินก็จำได้อยู่แล้ว คิบอมแต่งน่ะดีแล้วนะ มาๆๆ รีบๆแต่ง เดี๋ยวช่วยใส่นะดงเฮเดินเข้าไปประชิดตัวคนร่างสูงที่ถอยหลังกรูดหนี มือบางยื่นเข้ามาปลดกระดุมเสื้อนักเรียนก่อนจะแหวกออกให้หลุดจากตัว

                    ดงเฮนูนา ไม่เอาครับ เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำก็ได้ เดี๋ยวผมทำเองนะ ตรงนี้มันไม่เหมาะนะครับ คิบอมร้องขอพลางพยายามดึงเสื้อลงมาใส่ให้เหมือนเดิม แต่ก็โดนมือเล็กๆกระชากเสื้อให้หลุดออกจากตัวจนได้ คิบอมได้แต่เอามือปิดอกกว้างของตัวเองไม่ให้โป๊ ตาคมสอดส่ายมองรอบนอกว่ามีใครเดินผ่านมาทางนี้หรือเปล่า

                    ใส่ตรงนี้ละ ไม่มีใครเห็นหรอกอยู่หลังพุ่มไม้แบบนี้ ถ้าปล่อยไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำเดี๋ยวคิบอมหนีจะทำยังไงละ มาๆใส่เสื้อๆ   ดงเฮพยายามยัดแขนล่ำๆของอีกคนลงในเสื้อแขนยาวสีม่วง แต่คิบอมดูจะไม่ให้ความร่วมมือเอาซะเลย คนตัวเล็กโถมตัวเข้าหาเพื่อจะใส่เสื้อให้อีกคน ขายาวๆที่ก้าวถอยหนีนั้นก็ดันสะดุดเข้ากับก้อนหินที่อยู่ที่พื้น

                    “เห้ย!! /// เหวอออ!! คิบอมมมมสองเสียงร้องกันลั่น เมื่อคนทั้งคู่ต่างพากันล้มตึงลงบนพื้นหญ้า ร่างสูงที่หงายหลังทิ้งตัวลงนอนกับพื้นแข็งๆถูกทับด้วยร่างบางที่ตามมาติดๆเพราะมือของเจ้าตัวยังคงค้างอยู่ในเสื้อที่กำลังสวมให้คนร่างสูง

                    นูนา เป็นอะไรหรือเปล่าครับคิบอมรีบดึงเสื้อที่ค้างอยู่ออกจากตัว ก่อนจะร้องถามคนที่นอนทับอยู่บนตัวเค้าด้วยความเป็นห่วง ดงเฮซบลงบนอกกว้างหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ

                    ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...คิบอมมองคนบนร่างที่นอนนิ่งหลับตาพริ้มซบอยู่บนแผงอกกว้างของเค้า มือหนายกขึ้นลูบผมคนตัวเล็กอย่างเบามือด้วยความเอ็นดู ดงเฮนอนแนบหูลงบนอกฟังเสียงอวัยวะที่ดังเป็นจังหวะอยู่ภายในกายของคนร่างสูง

                    นูนาครับ...เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอีกคนที่ไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน ร่างสูงเลื่อนมือจากหัวเล็กๆลงมากอดที่เอวบางหลวมๆ

                    อยู่แบบนี้สักพักนะคิบอมดงเฮตอบกลับมาทั้งๆที่ยังนอนหลับตานิ่ง รอยยิ้มเล็กๆปรากฏบางๆที่มุมปากของคนร่างสูง รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก แม้จะแค่นอนกอดกันเฉยๆก็ตามที

                    ครืดดดด....ครืดดดด...เค้าว่ากันว่าความสุขมันอยู่ได้ไม่นานหรอก นอนสูบความสุขกันอยู่สักพักก็มีมารมาผจญเสียนี่

                    นูนาครับ...มันดังรอบที่ 7 แล้วนะครับ รับเถอะครับเผื่อมีอะไรด่วนนะคิบอมปลุกอีกคนให้ลุกมารับโทรศัพท์ ดงเฮฮึดฮัดๆทำท่าอิดออดไม่ยอมจะลุก แต่พอมือถือดังรอบที่แปดก็จำเป็นต้องรับมัน

                    ฮัลโหล....อ่า ฮยอก .....ขอโทษๆๆ พอดีด๊องยุ่งกับเตรียมสถานที่นิดหน่อยเลยไม่ได้รับน่ะ ...ว่าไงนะ!!! มาแล้วหรอ แปปๆๆ ถ่วงเวลาไว้ก่อนๆๆ ขอ 10 นาที ยังไม่เสร็จ แค่นี้ก่อนนะ เสร็จแล้วจะยิงไปมือบางต้องดึงโทรศัพท์ออกจากหูขณะคุย เมื่อเจอเพื่อนอีกคนแว้ดๆๆมาตามสายด้วยความโมโหที่โทรหาแล้วตนเองไม่รับสายเสียที  พอปลายสายบอกว่ากำลังจะมาถึงแล้วร่างบางก็ตาโตเป็นไข่ห่านด้วยความตกใจ มือบางรีบกดวางสายพรางตารีตาเหลือกเตรียมสถานที่

                    ตายแล้วคิบอม ตายแล้วๆๆๆ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย ไม่ทันแล้ว ซองมินกำลังจะมาแล้ว เตรียมตัวก่อนเร็วๆมือบางดึงฉุดคนร่างสูงให้ลุกขึ้นยืน พลางโยนเสื้อผ้าที่กองอยู่ที่พื้นให้คนร่างสูงใส่ ส่วนตัวเองก็วิ่งเข้าไปในเต้นท์เพื่อเตรียมของด้านในให้เรียบร้อย หมดเวลาอ้อยอิ่งของลีดงเฮแล้วละตอนนี้ .....ไม่น่ามัวเคลิ้มเลยจริงๆ

                    คุยกับใครหรอฮยอก ? แล้วไหนบอกจะพาไปทำธุระไง ไหนละ?ซองมินเดินไปกดสเลอปี้มาเสียพูนแก้วพลางเดินดูดจ๊วบจ๊าบๆกลับมาหาอึนฮยอกที่ยืนคุยโทรศัพท์แถวๆหน้าเคาน์เตอร์

                    เอ่อ...คือ ...อ้อ พอดีฮยอกจะมาซื้อของน่ะเลยชวนมินนี่มาซื้อด้วยกัน ไม่อยากมาคนเดียวน่ะ นี่...นี่ไงๆๆ ฮยอกจะซื้อหมากฝรั่งอันนี้ อร่อยมากเลยนะมินนี่ออกใหม่ รสสตอเบอร์รี่อึนฮยอกหันไปคว้ากล่องสีชมพูทางด้านหลังมาโชว์ให้ซองมินดูว่าตนชวนมาซื้อเจ้ากล่องนี้ด้วยกัน

                    “Durex….??  หมากฝรั่งยี่ห้อใหม่หรอ ไม่เคยได้ยินชื่อเลย อร่อยหรอ ขอมินดูหน่อยสิซองมินดึงกล่องจากมืออึนฮยอกไปสำรวจด้วยความอยากรู้อยากเห็น เรื่องของกินนี่ขอให้บอก ยิ่งพวกของหวานๆอย่างลูกอม หมากฝรั่งพวกนี้แล้วด้วยละก็ เค้าไม่มีทางพลาดแน่นอน

                    ถุง....ยางอนามัย .....ฮยอก!! ฮยอกชวนมินนี่มาซื้อไอนี่น่ะหรอ !! จะเอาไปทำอะไร หรือว่าพี่หมอ....!!!!!!” ซองมินถลึงตาโตด้วยความตกใจ เสียงหวานร้องลั่นถามเพื่อนที่ยืนนิ่งหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ตาคู่สวยเบนสายตาไปมองยังกล่องเล็กๆเจ้าปัญหาในมือของเพื่อนพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างยากลำบาก .....ซวยแท้ หยิบอะไรทำไมไม่ดูฮะอึนฮยอก อยากจะเขกหัวตัวเองจริงๆ

                    มาเคลียร์กับมินนี่ก่อนเลย จะซื้อถุงยางไปทำไม...อย่าบอกนะว่าพี่หมอเค้า...ฮยอกจะโซเดมาคอมกับพี่หมอหรอ??    ซองมินจ้องหน้าเพื่อนพลางถามอย่างคาดคั้น รู้นะว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเพื่อนที่จะโซเดมาคอมกับใครก็ได้ แต่...เค้าก็เป็นห่วง     อึนฮยอกนี่นา

                    เอ่อ...คือ ....มินนี่ฟังฮยอกก่อนนะ ใจเย็นๆนะ เดี๋ยวเราออกไปเคลียร์กันด้านนอกดีกว่า ฮยอกว่าตรงนี้คงไม่เหมาะเท่าไรฮยอกแจรีบดึงกล่องเจ้าปัญหานั่นกลับไปวางที่เดิม ก่อนจะฉุดมือเพื่อนให้ออกมายืนคุยกันนอกร้าน เพราะเสียงของเพื่อนที่ดังลั่นไปทั่วร้านทำให้ทุกคนหันมามองคนที่ซื้อถุงยางกลิ่นสตอเบอร์รี่กันเป็นทิวแถว ไหนจะสายตาอิจฉาของเหล่าเด็กสาวที่มองมาแล้วก็ซุบซิบๆ เมื่อได้ยินว่าเค้ากำลังจะได้โซเดมาคอมกับพี่หมอ

                    ว่ามาเลยฮยอก มินนี่รอฟังคำแก้ตัวอยู่ ตกลงยังไง ทำเพราะอะไร ตัวเองจะมีอะไรกับพี่หมอจริงๆหรอร่างอวบยืนกอดอกกดเสียงดุใส่เพื่อน พลางทำหน้าเข้มรอคำตอบ

                    เปล่า....เค้าไม่ได้จะมีอะไรกับพี่หมอซักหน่อยนะ เค้าแค่...แค่...แค่หยิบผิดน่ะ แหะๆ จะหยิบหมากฝรั่งกล่องข้างๆแต่มือเผลอไปหยิบโดนถุงยางซะได้ น่าอายเนอะ ...ฮยอกนี่แย่จริงๆเลยมือบางเขกหัวตัวเองเบาๆเป็นการลงโทษในความเบ๊อะบ๊ะของตัวเอง พลางแก้ตัวกลับไปน้ำขุ่นๆ

                    แน่นะ ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อแน่นะ อย่าให้มินนี่รู้นะว่าฮยอกชิงสุกก่อนห่ามนะ ถ้ามินนี่รู้ว่าพี่หมอตั้งใจจะล้วงตับฮยอกไปกินก่อนที่จะขอฮยอกเป็นแฟนนี่ มินนี่จะไปถล่มบ้านพี่หมอให้พังเลยนะ บอกไว้เลยว่าเอาจริงไม่ได้ขู่ด้วย!!” ร่างบางจิ้มจึกเข้าที่หน้าผากนูนของเพื่อน ทั้งห่วงทั้งหวงเพื่อนคนนี้ ถึงจะเป็นพี่หมอก็ไม่ยกให้ง่ายๆหรอกนะจริงๆ

                    จ้าๆๆ ฮยอกจะไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่นอน ไว้จะกินตับกับพี่หมอแล้วจะโทรบอกมินนี่ก่อนนะว่าจะกินกันแล้ว มินนี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเค้า ดีมั้ย

                    เดี๋ยวเถอะ ประชดมินนี่หรอ คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วงนะ เชอะ!!” ตูดงอนๆสะบัดเชิดหนีเพื่อน พลางโยกย้ายสะโพกเดินหนีไปอีกทาง ปล่อยเพื่อนตัวผอมแห้งต้องวิ่งไปตาม

                    มินนี่ ...เดี๋ยวสิ รอฮยอกก่อน มินนี่ ๆๆ หยุดก่อน เดี๋ยวสิอย่าเพิ่งไป รอฮยอกด้วย!!!” อึนฮยอกวิ่งตามมาอย่างไม่ลดละ ปากก็ตะโกนร้องเรียกเพื่อนตัวอวบให้หยุดเดินก่อน

                    ไม่ต้องมาง้อเค้าเลย คนนิสัยไม่ดี ปฏิเสธความหวังดีของเพื่อน พอเค้างอนค่อยมาตามง้อ ชิ!!!”

                    คือ....เค้าจะบอกว่า มินนี่ลืมจ่ายเงินค่าสเลอปี้นั่นน่ะฮยอกแจหอบแฮ่กๆพลางชี้ไปที่แก้วในมือของซองมิน

                    ตายแล้ว ลืมเลยยยยยย ต้องวิ่งกลับไปจ่ายก่อน ทำไมฮยอกไม่บอกมินนี่ตั้งแต่แรก ดูซิเนี่ยออกมาตั้งไกลละ เดี๋ยวมินนี่  กลับไปจ่ายเงินก่อน ฮยอกรอตรงนี้นะ อย่าไปไหนละคนตัวอวบรีบวิ่งกลับไปจ่ายตังค์ค่าสเลอปี้ที่ร้าน ปล่อยให้เพื่อนตัวแห้งยืนรออยู่คนเดียวที่ริมทาง

                    ติ๊ดๆ.....เสร็จแล้วฮยอก มาได้เลย ทุกอย่างพร้อมแล้วอึนฮยอกหยิบมือถือขึ้นมาดูเมื่อมีข้อความเข้ามา สัญญาณจาก     ดงเฮถูกส่งมาหลังจากที่สถานการณ์ฝั่งนู้นคลี่คลายทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

                    เดี๋ยวฮยอกไป รอแปปนึงนะ ไม่เกิน 10 นาที เจอกันนิ้วเรียวรัวแป้นส่งข้อความตอบกลับไป ก่อนจะรีบเก็บมันลงกระเป๋าเมื่อคนตัวอวบวิ่งกระหืดกระหอบกลับมายืนข้างๆตนแล้ว      

                    แน่ะ ...คุยกับใครอีกแล้วเนี่ยซองมินร้องถามอย่างจับผิดเมื่อเพื่อนดูมีพิรุธเหลือเกิน ตั้งแต่ทำลับๆล่อๆคุยโทรศัพท์เมื่อกี้แล้ว

                    เปล๊า....ไม่มี๊....อึนฮยอกพยายามปั้นสีหน้าและน้ำเสียงให้ไม่มีพิรุธ ใจเต้นระทึกกลัวว่าอีกคนจะจับได้แล้วแผนจะแตกเพราะตน

                    อื้อหือ เสียงไม่มีพิรุธเล้ยยยยย เดี๋ยวนี้มีความลับกับมินนี่นะฮยอก เดี๋ยเวถอะๆๆนิ้วเรียวชี้เพื่อนอย่างคาดโทษ แต่ก็ไม่คาดคั้นอะไรต่อ เมื่อเพื่อนไม่อยากบอก เค้าก็จะไม่ถาม

                    จะไปกันยังฮยอก เดี๋ยวมืดค่ำกันพอดี ไปซื้อกับข้าวกัน เย็นนี้มินนี่ขี้เกียจทำซองมินจูงมือเพื่อนให้เดินตามตนไปหาซื้อของไว้ทานเป็นมื้อเย็นด้วยกัน

    ..............................................................................

     

    คิบอม เสร็จหรือยังทางด้านดงเฮ หลังจากที่เตรียมสถานที่จนเสร็จแล้วก็ส่งข้อความบอกเพื่อนทันที ก่อนจะเดินมาดูแม่หมอจำเป็นที่ต้องมารับหน้าที่แบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ร่างบางตะโกนเรียกคนตัวใหญ่ที่มาด้วยกัน แต่ตอนนี้เข้าไปเปลี่ยนชุดอยู่ในห้องน้ำอยู่นานสองนาน

    นูนาครับ ไม่ทำได้มั้ยอ่า ไม่อยากทำแล้ว นี่มันชุดอะไรครับเนี่ย น่าเกลียดแท้คิบอมร้องครวญครางไม่ยอมเปิดประตูออกมาให้อีกคนดูตัวเลยว่าเป็นยังไงบ้าง

    ออกมาก่อนเถอะน่า เดี๋ยวดูให้ ไม่ต้องกลัวหรอก เร็วๆคิบอม เดี๋ยวฮยอกกับมินนี่จะมาแล้ว อย่าให้เสียแผนเพราะเราสิ  ดงเฮยังเร่งเร้าให้อีกคนออกมาจากห้องน้ำ มือบางพยายามดึงลูกบิดประตู พยายามที่จะเปิดประตูเข้าไปด้านในให้ได้

    ถ้าผมออกไป นูนาห้ามหัวเราะนะ สัญญาก่อน

    อือ สัญญา ฉันจะไม่หัวเราะ ออกมาเถอะดงเฮให้สัญญา พลางก้าวถอยออกมายืนรอดูคิมคิบอมที่ค่อยๆแง้มประตูออกมาให้ชมโฉม

    โอ๊ะ ...ฮ่ะๆ อุ๊บส์....ไม่เอา ไม่หัวเราะ ....สวยจ้ะสวย คิบอมสวยที่สุดดงเฮชมคำเดียวกับที่เมื่อชั่วโมงก่อนคนร่างสูงเพิ่งชมตนไป แต่ดูอารมณ์มันจะต่างกันนะ เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้จริงๆ หนุ่มล่ำกล้ามเป็นมัดๆผิวสีคล้ำในชุดกระโปรงส่าหรีสีม่วงกับเสื้อแขนยาวของผู้หญิงที่แน่นฟิตเสียจนเหมือนแขนมันจะระเบิด แม้จะมีผ้าพันจนมิดตัวแต่ก็ปิดบังความล่ำกำยำไว้ไม่มิดเลย เห็นแล้วฮาแท้

    นูนา ไหนสัญญาว่าจะไม่หัวเราะไงครับ ไม่เอาแล้ว ไม่ทำแล้ว ขนาดนูนายังหัวเราะเลย แล้วจะให้ผมเดินออกจากห้องน้ำไปแบบนี้ได้ยังไงกันคิบอมทำท่าจะปิดประตูห้องน้ำกลับเข้าไปใหม่ แต่ขาเล็กๆก็รีบยื่นมากันประตูไม่ให้ปิดลงไปเสียก่อน

    เราไม่มีเวลาแล้วนะคิบอม ไปกันเถอะ แบบนี้ละดีแล้ว ดูขลังดีออก ไปๆๆๆ ประจำที่ๆดงเฮฉุดแขนล่ำให้เดินตามตนไปยังเต้นท์ที่เตรียมไว้ ก่อนจะยัดคนร่างสูงเข้าไปด้านในให้นั่งรอประจำที่ พร้อมกับนัดแนะแผนการอีกครั้งเพื่อความชัวร์

    คิบอม......แชะ!!!” ดงเฮเรียกคนร่างสูงจากทางด้านหลัง พอคิบอมหันไปตามเสียงเรียกก็ปะทะเข้ากับแสงแฟลชสว่างวาบเข้าพอดี ร่างบางยิ้มหวานกดรัวชัตเตอร์ใส่คนที่เอามือปิดหน้าปิดตาสุดกำลัง

                    นูนา ลบเลยนะครับ ไม่อาววววววววคิบอมพยายามแย่งกล้องคืนแต่ดงเฮก็รีบเอาเก็บใส่กระเป๋าพลางกดไหล่คนร่างสูงให้นั่งรอนิ่งๆตามเดิม

                    ทีคิบอมยังถ่ายรูปฉันได้เลย ใส่เสื้อคู่ไง  ไม่ดีใจหรอ...เสียงแผ่วก้มลงกระซิบข้างๆหูคนร่างสูง มือบางกอดคล้องคอพลางซบหน้าลงกับไหล่อีกคนอย่างให้กำลังใจ รู้ดีว่าคนร่างสูงไม่อยากทำ เค้าเองก็ไม่ได้อยากให้คิบอมแต่งตัวแบบนี้หรอก แล้วเค้าก็รู้ดีว่าที่คิบอมยอมทำก็เพื่อช่วยเค้ากับเพื่อน

                    สู้ๆนะ นายทำได้ ผ่านงานนี้ไปจะให้รางวัลเป็นการขอบคุณอย่างงามเลยละดงเฮอัดฉีดรางวัลให้อีกคนฮึกเหิมกับภารกิจ

                    มัดจำไว้ก่อนได้มั้ยครับพอได้ยินว่ามีตบรางวัลให้ คิบอมก็ค่อยยิ้มออกหน่อย แต่ก็นะ ขอหลักประกันไว้ก่อนว่าที่พูดไว้น่ะจะทำให้กันจริงๆ

                    ว่ามาสิ อยากได้อะไร ให้ได้จะให้สิ้นเสียงหวานร่างสูงก็ทำแก้มพองพลางชี้นิ้วลงที่แก้มป่องที่อยู่ใต้ผ้าผืนบางสีม่วง

                    ตรงนี้หรอ......จุ๊บร่างบางยื่นหน้าเข้าไปใกล่ พลางตั้งใจจะจุ๊บลงบนแก้มป่องๆนั้น แต่คนขี้โกงกลับหันหน้าเข้ามาหาแทนที่จะยื่นแก้มมาให้จุ๊บตามที่ขอไว้ งานนี้จากแก้มเลยพลาดมาโดนปากเสียได้ กำไรเต็มๆนะคิม คิบอม

                    นี่คิบอม....ขี้โกงนี่นา ไหนบอกให้จุ๊บแก้มไงดงเฮตีไหล่คนที่ยิ้มหวานลอยหน้าลอยตาอย่างอารมณ์ดีพลางเอ่ยบ่นที่อีกคนขี้โกง แต่ก็ใช่ว่าคนเสียเปรียบจะสลดนะ นี่ก็แอบดีใจอยู่ลึกๆพอกันละ 555

                    ถ้ากลัวขาดทุน เดี๋ยวตอนจ่ายเต็มราคา ผมจะแถมคืนให้นูนานะครับ ^^” แหม่ มีการคืนกำไรให้กัน นี่มันธุรกิจครอบครัวชัดๆ ผลัดกันได้ผลัดกันเสีย ผลัดไปผลัดมาก็ได้เสียกันซะเลย (ห๊ะ !! =[]= ไม่ใช่ละ) 

                    ฉันเสียเปรียบอยู่คนเดียวเลย ไม่เอาแล้ว ไปเตรียมตัวดีกว่า อย่าพลาดแล้วกันนะ ถ้าพลาดงานนี้จะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกเลยนะร่างบางว่าไว้แค่นั้นก่อนจะมุดเต้นท์ออกไปทางด้านหลัง รอเวลาให้เพื่อนอีก 2 คนมา เพื่อดำเนินตามแผนต่อไป

                    ..............................................................................

     

                    “ซองมินๆ ซุปไก่นี่เก็บไว้พรุ่งนี้เช้าดีมั้ย ฮยอกอยากจะตื่นมาซดน้ำซุปเป็นอาหารเช้าอึนฮยอกมองถุงกับข้าวสามสี่ถุงในมือพลางเลือกเมนูที่จะทาน โดยมีคนตัวอวบเดินนำกลับบ้าน หลังจากที่คนทั้งคู่ซื้อข้าวของกลับมากันเต็มไม้เต็มมือ

                    ฮยอก...นั่นอะไรน่ะระหว่างทางกลับบ้านที่ต้องเดินผ่านสนามเด็กเล่นก็อดที่จะมองสถานที่ในความทรงจำไม่ได้จริงๆ แต่ในวันนี้ดูเหมือนสถานที่แห่งนี้จะมีอะไรที่มันแปลกไป นิ้วอวบชี้ไปที่มุมด้านหลังของสนามเด็กเล่นที่มีเต้นท์สีดำทะมึนตั้งอยู่

                    อะไรน่ะ...ไปดูกันเถอะมินนี่ ฮยอกอยากรู้อึนฮยอกทำหน้าแบ๊วใสๆ พลางลากแขนเพื่อนให้เข้าไปดูใกล้ๆว่าสิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่

                    อ่า...สำนักดูดวงนี่นา มาเปิดอะไรตรงนี้นะป้ายด้านหน้าเต้นท์มีตัวหนังสือโฟมเขียนไว้ด้วยฟ้อนต์หลอนๆสีแดงทะมึนๆ

                    น่ากลัวจะตายฮยอก เชื่อได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ จู่ๆมาผุดในสนามเด็กเล่นได้ยังไงกัน ทุกวันไม่เห็นมี แล้วดู...นี่คือป้ายเชิญชวนคนเข้ามาดูดวงหรือ ฟ้อนต์หลอนขนาดนี้ ยังกับป้ายหน้าโรงฆ่าสัตว์ ถึงจะชินกับของพวกนี้ เพราะน่ากลัวพอๆกับของของดงเฮ แต่ว่างานนี้มินนี่ไม่เอาด้วยหรอกนะซองมินส่ายหน้ารัวปฏิเสธไม่ยอมเข้าไปข้างในโดยเด็ดขาด แม้ว่าเพื่อนจะส่งสายตาเป็นประกายขอร้องให้เข้าไปด้านในก็ตามที

                    “ซองมินอ่า เข้าไปดูดวงกันหน่อยเถอะนะ นะๆๆๆ เอาจริงๆช่วงนี้ฮยอกไม่สบายใจเลย พี่ซีวอนก็เจอกันแค่อาทิตย์ละครั้ง ฮยอกกลัวเค้าลืมหน้า กลัวว่าเราจะห่างกัน ซองมินเข้าไปดูดวงเป็นเพื่อนเค้านะ เค้าอยากจะปรึกษาแม่หมอว่าเค้าควรทำไงดี นะๆอึนฮยอกร้องขออ้อนวอนเพื่อนให้เข้าไปดูดวงเป็นเพื่อนตนหน่อย ซองมินยืนมองเพื่อนที่ทำตาแป๋วแถมยังออดอ้อนไม่ขาดปาก

                    ข้างนอกนั่นน่ะ เข้ามาเถอะ เจ้ากำลังมีทุกข์นะเสียงทุ้มใหญ่ๆของแม่หมอที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้หญิงแต่กลับเสียงแมนสมชายชาตรีอย่างมากดังแทรกบทสนทนาเข้ามาเร่งเร้าให้คนตัวอวบตัดสินใจให้ไวขึ้น สุดท้ายซองมินก็ต้องยอมใจอ่อนเข้าไปจนได้

                    ฮ่าๆๆๆ ว่าแล้วว่าเจ้ากำลังเป็นทุกข์ นั่งก่อนๆๆ ข้าจะดูให้เจ้าเองพอเปิดเต้นท์เข้ามาด้านในคนทั้งคู่ก็ถึงกับผง้เมื่อเห็นแม่หมอรูปร่างสูงใหญ่ แต่แต่งกายมิดชิดจนเหลือแค่ลูกกะตาไว้ให้มอง ดูแล้วช่างน่าเกรงขามนัก ซองมินค่อยๆเดินแบบกล้าๆกลัวๆเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับของแม่หมอ โดยมีอึนฮยอกเดินตามไปทั้งๆที่ตาก็ยังจับจ้องไปที่แม่หมอไม่ละสายตา ....นี่มันไม่ใช่ดงเฮนี่หว่า ใครเนี่ย ???

                    มีเรื่องอะไรไม่สบายใจละ หืม?...อะๆๆ ไม่ต้องพูดๆ แม่หมอรู้ แม่หมอเข้าใจเสียงเข้มเอ่ยถามแบบเนิบนาบเหมือนเสียง ของหญิงชราตอนป่วยระยะสุดท้าย ฟังแล้วมันน่ากลัวพิกลๆยังไงไม่รู้

                      “มีปัญหาเรื่องความรักมาใช่มั้ย...อ่า ที่นี่สินะคิบอมเองก็พูดไปตามบทที่ได้ยินจากดงเฮที่สั่งการผ่านมาทางโทรศัพท์มือถือที่เสียบ small talk ไว้อยู่

                    เอ่อ...คือ ไม่ใช่ซองมินพยายามจะอธิบายว่าที่เข้ามานั่งนี่ อึนฮยอกจะมาดูดวง ไม่ใช่ตน แต่ดูเหมือนว่าแม่หมอจะยิงคำถามมาที่ตนเสียเหลือเกิน

                    ไม่ต้องๆ แม่หมอรู้ แม่หมอเห็น....กังวลใช่มั้ย สถานที่แห่งนี้ยังฝังลึกใช่มั้ย....ปลดปล่อยมันออกมาสิ หลับตาลงคิดถึงสถานที่แห่งนี้ แล้วปลดปล่อยมันออกมา...มันจะช่วยบรรเทาทุกข์ของเจ้าได้นะไหนๆก็ไหนๆแล้ว ใช่ว่าใจเค้ามันจะไม่ทุกข์ ในเมื่อแม่หมอว่ามางี้ก็ลองซักหน่อยแล้วกันนะ ซองมินค่อยๆหลับตาลงแล้วนึกถึงสถานที่แห่งความทรงจำนี้อีกครั้ง ความทุกข์ที่ถูกเก็บไว้ด้านในค่อยๆพร่างพรูออกมาให้คนแปลกหน้าได้ฟังและช่วยปลดทุกข์ให้กับเค้า

                    เมื่อ 12 ปีก่อน เคยให้สัญญากับนายอมยิ้มไว้ เค้าบอกว่าให้รอ เค้าจะกลับมาหา ก็รอ....จนวันนี้สัญญาที่ตั้งมั่นไว้ตลอด 12 ปีกับการรอคอยคนในอดีต แม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหน แต่คนที่ยังยึดมั่นในสัญญานั้นก็ยังคงยึดติดมันไว้ไม่ยอมตัดใจ หวังเพียงว่าสักวันนึงคู่สัญญาจะกลับมา อย่างที่ได้สัญญากันไว้

                    บางครั้งการยึดติดกับอดีตมากไปมันก็ทำให้ใจเจ็บปวดนะ ลองเงยหน้ามองรอบๆตัว บางทีอาจจะมีใครสักคนที่รออยู่ก็ได้

                    ก็เคยลองแล้วนะ แต่ว่า...พอใครทำอะไรที่เหมือนกับนายอมยิ้มเข้าหน่อย ก็จะคิดว่าเป็นนายอมยิ้มไปซะหมด ก็ถ้าคบแล้วใจยังคิดถึงคนอื่นก็เลยคิดว่างั้นรอเค้าจะดีกว่ามั้ย จะได้ไม่ต้องทำให้คนอื่นเจ็บอึนฮยอกจับมือเพื่อนพลางบีบเบาๆอย่างให้กำลังใจ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเพื่อนเจ็บปวดแบบนี้ ไม่เคยรู้เหตุผลที่แท้จริงมาก่อนเลยว่าการที่ซองมินไม่ยอมคบใครนั้นมันเป็นเพราะอะไร แต่วันนี้เค้ารู้แล้วละว่าทำไม ....เพื่อนเค้าคนนี้เข้มแข็งมากจริงๆ

                    ในเมื่อใจเจ้าปรารถนาในตัวเค้า และเพื่อคลายทุกข์ให้เจ้า แม่หมอก็จะดลให้เจ้าได้ตามที่ปรารถนา .....นับจากเวลานี้ไป หากเจ้าก้าวออกไปจากสถานที่แห่งนี้ ชายใดที่เจ้าได้พบเจอเป็นคนแรก ชายผู้นั้นจักเป็นคนที่เจ้านั้นตามหา.....

                    เอ๋.....จะ...จริงหรอ 12 ปีที่คอยมา...จะเจอเค้าหรอ??ซองมินออกอาการเหวอกับสิ่งที่แม่หมอพูด และก็ได้รับการยืนยันคำตอบกลับมาด้วยการพยักหน้าคำของแม่หมอ

                    ไปสิ ...ช้ากว่านี้ เดี๋ยวเค้าก็หายไปหรอกซองมินตั้งท่าจะลุกออกไปแต่ใจกลับพะวงถึงเพื่อนตัวบางที่นั่งข้างกาย ร่างบางยังคงลังเลว่าจะไปหรือจะยังอยู่ที่นี่ดี

                    ไปเถอะ ขอให้มินนี่โชคดีนะ ฮยอกอยากให้มินนี่มีความสุขกับใครสักคนเสียที สู้ๆนะ ไม่ต้องห่วง ฮยอกกลับเองได้^^” อึนฮยอกส่งยิ้มให้เพื่อนที่ยังเป็นห่วงตนแม้ใจอยากจะออกไปพบใครอีกคนแล้วก็ตาม นี่ละนะที่ทำให้เค้ารักเพื่อนคนนี้มาก

                    ขอบใจนะฮยอก กลับบ้านดีๆนะสองคนจับมือกันแน่นพลางส่งยิ้มบางๆให้กัน ก่อนที่ซองมินจะแยกตัวออกไปด้านนอก

                   

    ..............................................................................

     

    เราไม่ใจร้ายกันเกินไปหน่อยหรอที่ทำแบบนี้น่ะพอคล้อยหลังซองมินไปอึนฮยอกก็รีบหันกลับมาถามเพื่อนตัวเองที่เพิ่งมุดเข้ามาในเต้นท์ทันที ใจคนทั้งคู่ต่างรู้สึกเป็นกังวลกับสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่มาก ยิ่งนึกไปถึงความเศร้าที่รับรู้ได้จากเพื่อนตัวอวบเมื่อสักครู่ยิ่งรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตนกำลังทำกันอยู่

                    ฉันรู้ว่ามันใจร้ายกับมินนี่มากถ้ามินนี่รู้ความจริง การที่เราหลอกมินนี่คราวนี้ก็เพื่อให้มินนี่เปิดใจไม่ใช่หรอฮยอก เราไม่อยากให้มินนี่จมกับอดีตไม่ใช่หรอ ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ ไม่เปิดโอกาสให้มินนี่ได้คบใครใหม่ แล้วมินนี่จะลืมได้ยังไงกันละ ต่อให้ย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง ฉันก็ยังยืนยันที่จะทำแบบนี้นะ เพื่อมินนี่เอง ...เราผิดที่หลอก แต่เราถูกที่ให้โอกาสเพื่อนได้เปิดใจนะดงเฮเดินเข้าไปกอดอึนฮยอกที่แสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีใครอยากจะหลอกเพื่อนตัวเองหรอกจริงๆ แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องทำ

                    แล้วเราจะมั่นใจได้ยังไงด๊อง ว่าสิ่งที่เราทำจะไม่เป็นการทำให้มินนี่เสียใจอีกครั้งในอนาคตน่ะอึนฮยอกกอดเอวบางของเพื่อนไว้แน่นพลางซบหน้าลงกับหน้าท้องราบของดงเฮ คิ้วเรียวขมวดกันมุ่นจนดงเฮต้องเอามือมานวดหว่างคิ้วอีกคนให้คลายความเครียดนี้ลง

                    มันเป็นเรื่องของคนสองคน เราเป็นแค่สะพานให้เพื่อนข้าม แต่จุดหมายที่เค้าไปจะจบลงด้วยกันมั้ย มันก็อยู่ที่พวกเค้านะ ว่าพวกเค้าจะจูงมือกันไปได้จนสุดทางหรือเปล่าน่ะ เราทำได้แค่ส่งเพื่อน ในวันไหนที่เพื่อนเราไปต่อไม่ไหว เราก็แค่รับเค้ากลับมา      นี่คือคนที่เรียกว่าเพื่อนไงฮยอก เลิกกังวลได้แล้ว เรากลับบ้านไปทานข้าวกันดีกว่านะ ^^“ มือบางขยี้ลงบนผมสีสว่างของเพื่อน  พลางยิ้มหวานให้อีกคนสบายใจขึ้น

                    อื้อ ไปกันเถอะ ช่วยกันเก็บของแล้วกลับไปทานข้าวกัน วันนี้ฮยอกซื้อกับข้าวอร่อยๆมาเต็มเลย มีของชอบด๊องด้วยนะสองคนต่างกอดคอกันอย่างอารมณ์ดี มือก็ช่วยกันเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้าน โดยหลงลืมใครอีกคนที่นั่งอยู่ภายในเต้นท์นี้ด้วยกันอยู่นานสองนาน

                    นูนา...แล้วผมละครับร่างสูงลุกขึ้นเดินตามคนร่างบางที่ก้มๆเงยๆเก็บของอยู่หลังเต้นท์ มือหนากระตุกชายเสื้ออีกคนให้หันมามองตน

                    อ้าว คิบอม....นึกว่าไปเปลี่ยนชุดแล้ว ทำไมยังอยู่ในชุดนี้อยู่ละ ติดใจหรอดงเฮหันกลับมามองคนที่ยังอยู่ในชุดจินนี่จ้ะ  ไม่ยอมเปลี่ยน เห็นทีไรก็อดขำไม่ได้ซักที

                    อยากเปลี่ยนจะแย่แล้วครับ แต่กลัวว่าถ้าเดินไปเปลี่ยนแล้วดงเฮนูนาจะหนีกลับบ้านไม่ยอมรอกัน เมื่อกี้ก็กอดกันกลมอยู่สองคนไม่สนใจผมเลย ผมเสียใจนะ  T^T” ลงทุนแต่งตัวทุ่มสุดตัวขนาดนี้แล้ว แต่เค้าดันลืมเราซะได้ เฮ้อ น้อยใจจริงๆ

                    โอ๋ๆๆๆ ทำหน้าเศร้าเชียว ใครจะไปลืมคิบอมได้ละ ไปๆ เปลี่ยนชุดก่อน เดี๋ยวกลับไปทานข้าวด้วยกันที่บ้านนะมือบางหยิกแก้มย้วยใต้ผ้าสีม่วงอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะไล่อีกคนให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะตนเริ่มจะทนดูมันไม่ไหวละ 5555

                    ห้ามทิ้งกันนะครับ รอตรงนี้นะ เดี่ยวผมจะรีบไปรีบมาคิบอมรีบคว้าเสื้อผ้าของตัวเองแล้ววิ่งจู๊ดไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำทันที

                    คิดยังไงให้คิบอมมาแต่งหญิงเนี่ย ตลกชะมัด เห็นตอนแรกนะฮยอกแทบหลุดขำอึนฮยอกมองตามคนของเพื่อนที่วิ่งหายไปในห้องน้ำสาธารณะ มองทีไรก็รู้สึกขำกับกล้ามใหญ่ๆที่ไม่เข้ากับชุดนั่นจริงๆ

                    ก็กลัวแต่งเองแล้วมินนี่จับได้น่ะเลยให้คิบอมแต่ง แต่เค้าก็น่ารักนะ ยอมทำให้ทุกอย่างเลยดงเฮยิ้มบางๆอย่างภูมิใจในตัวอีกคน เชื่อฟังและว่าง่ายจริงๆ หนุ่มน้อยของเค้า หึหึ

                    น่ารักอย่างนี้สินะ ถึงได้รักมาก 5555อึนฮยอกเอ่ยแซวเพื่อนที่ยืนยิ้มหวานชื่นชมคนของตัวเองไม่ขาดปาก

                    อือ รักมากๆ พอใจหรือยัง จะมาแซวเค้าทำไมเนี่ย รีบๆเก็บของเลย เค้าอยากกลับบ้านแล้วดงเฮรีบหันกลับไปเก็บของที่เหลืออยู่ลงถุงดำ ก่อนจะเดินลากออกไปจากที่แห่งนี้ด้วยความเขิน ทิ้งให้เพื่อนได้แต่ยืนยิ้มส่ายหัวกับท่าทางเขินๆที่หาดูได้ยากนี้

    ..............................................................................

                    ทางด้านคนตัวอวบที่วิ่งออกจากเต้นท์มาก็พยายามที่จะมองหาสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ที่อยู่ภายในบริเวณสนามเด็กเล่นแห่งนี้ ด้วยเวลานี้เป็นเวลาที่ค่อนข้างจะเย็นมากแล้ว แสงอาทิตย์ที่มีก็ค่อยๆดับลง อากาศที่เย็นลงจนขนลุกนี้ทำให้ไม่มีคนอยู่ในสนามเด็กเล่นแห่งนี้เลยสักคน

                    เฮ้อ....โดนหลอกอีกแล้วสินะซองมินได้แต่ทอดถอนใจที่ตัวเองดันเชื่อคำคนอื่นง่ายๆ มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน 12 ปีที่เค้ารอคอยมานี้ คนๆนั้นยังไม่กลับมา แล้วจู่ๆพอมีคนทักก็ดันเผลอคิดไปว่าอาจจะได้พบเค้าอีกครั้งก็ได้ ....เรานี่มันบ้าจริงๆเลย

                    อ๊อด..แอ๊ด.....อ๊อด....แอ๊ด...เสียงโซ่สนิมขูดกับเสาเหล็กที่ได้ยินเป็นประจำเมื่อมาสถานที่แห่งนี้ เสียงอขงเครื่องเล่นที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก ตั้งแต่สมัยที่คนร่างอวบยังเป็นเด็ก จากที่คิดว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่ กลับต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อชิงช้าไม้ที่มานั่งเป็นประจำส่งเสียงเรียก ร่างบางค่อยๆก้าวไปยังที่ตั้งของชิงช้าที่ซึ่งอาจมีใครบางคนนั่งคอยอยู่

                    ตึกตัก...ตึกตัก...ยิ่งเข้าใกล้เสียงนั้นมากเท่าไร เสียงหัวใจยิ่งเต้นดังถี่ขึ้นมากเท่านั้น ซองมินสูดลมหายใจลึกๆ ขาเรียวค่อยๆก้าวไปยังจุดหมาย ก่อนจะปรากฏให้เห็นแผ่นหลังของชายคนนึงที่นั่งหันหลังให้กับเค้าอยู่บนชิงช้าไม้อันเก่า

                    “นาย....อมยิ้มเสียงหวานเอ่ยเรียกอีกคนแผ่วเบาราวกับไม่แน่ใจนักว่าคนตรงหน้าใช่คนที่ตนกำลังตามหามั้ย มือบางกุมหัวใจที่เต้นแรงราวกับจะระเบิดคาอก 12 ปีที่ไม่ได้เจอกัน อยากจะรู้ว่าเค้าเป็นยังไงบ้าง โตขึ้นมาแล้วหน้าตาเป็นยังไง จะยังยิ้มน่ารักเหมือนเดิมมั้ย และ....สัญญาเมื่อ 12 ปีก่อนเค้าจะยังจำมันได้หรือเปล่า

                    ใช่...ใช่นายหรือเปล่าร่างบางถามย้ำอีกครั้งเมื่ออีกคนยังไม่ยอมหันหน้ามาพบตน  มือบางยื่นไปแตะไหล่คนบนชิงช้าเบาๆ ใบหน้าคมค่อยๆหันกลับมาหาคนร่างอวบช้าๆ.....ทีละนิด.....ทีละนิด.....ก่อนที่ซองมินจะยืนช็อกค้างกลางอากาศเมื่อพบว่าคนที่นั่งอยู่นี้เป็นใคร

                    คะ....คยูปากบางหลุดเรียกชื่อคนที่ส่งยิ้มบางๆกลับมาให้ด้วยความตกใจ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนที่ตัวเองจะมาพบจะเป็นคนๆนี้ ....มันบังเอิญ หรือว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกันแน่ .... คยูคือนายอมยิ้มหรอ????

                    “ซองมิน...ผมคิดถึงจะแย่ ทำไมถึงหลบหน้าผมละครับ?ร่างสูงดึงตัวอีกคนเข้ามากอดด้วยความคิดถึง ซองมินเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน มันรู้สึก...สับสน งุนงงไปหมดเลยจริงๆ

                    นายมาทำอะไรที่นี่ นี่มันเย็นมากแล้วนะ เดี่ยวก็ไม่สบายหรอกมือเย็นๆที่วางทาบลงบนมือของเค้าทำให้รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้นั่งอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหน

                    มารอกระต่ายขาวไงครับ ในเมื่อไปที่ร้านก็ไม่ได้เจอ ไปที่บ้านก็ไม่ได้พบ ผมก็เลยมารอที่นี่ไง ว่าแล้วว่ากระต่ายขาวต้องมา ดีใจจังเลยน้ารอยยิ้มเหมือนเด็กๆผุดพรายระบายเต็มใบหน้าด้วยความดีใจ ซองมินมองอีกคนด้วยน้ำตาที่รื้นขึ้นเต็มดวงตาคู่สวย

                    มารอฉันงั้นหรอ ....นายจะรอฉันทำไมคยูถามอีกคนอย่างไม่เข้าใจ มีเหตุผลอะไรกันทำไมถึงต้องมารอเค้า ทั้งๆที่อากาศเย็นแบบนี้ แค่ไม่พบหน้าก็น่าจะรู้แล้วไม่ใช่หรอ .....ว่าไม่จำเป็นต้องรอกัน

                    ตามสัญญาไงครับ บอกว่าจะรอ ....ก็คือรอเหมือนว่าการรอตลอดเวลา 12 ปีมันจะจบสิ้นลงเสียที สัญญาที่เคยผูกพันมาในที่สุดเค้าก็กลับมา ความตื้นตันที่ได้เจอถูกชะล้างด้วยน้ำตาที่พร่างพรูออกมาเต็มใบหน้า

                    ซองมิน เป็นอะไร ร้องไห้ทำไมคยูถึงกับตกใจรีบเข้าไปปาดสายน้ำที่หลั่งออกมาเป็นสายไม่ยอมหยุด

                    คนบ้า!!! นายไปไหนมา ....นายปล่อยฉันไว้แบบนี้ได้ยังไง นายมันบ้าๆๆๆๆ คยู คนบ้า ฮึก....ฮืออออออ ไอคนบ้ามือเล็กทุบอกกว้างของคนที่โอบกอดตัวเค้าไว้ ร่างอวบในอ้อมกอดสะอึกสะอื้นจนตัวโยน ปากก็พร่ำกร่นด่าอีกคนไม่ยอมหยุด

                    ผมจะไม่หายไปไหนแล้ว ....ผมจะอยู่ตรงนี้กับซองมินนะ ไม่ร้องนะครับ จะไม่ทิ้งไปไหนอีกแล้วละ สัญญาเลยคยูฮยอนทั้งปลอบทั้งโอ๋อีกคนให้นิ่งลง เสื้อนักเรียนที่ใส่อยู่นั้นเปียกไปด้วยตาของคนตัวอวบจนมันแฉะไปหมดทั้งตัว

                    ไม่ต้องมาสัญญาเลยนะ ฮึก...เดี๋ยวนายหายไปอีก ...ไม่อยากให้สัญญาแล้วพันธนาการที่ผูกมัดกันด้วยสัญญาตอนนี้กลับคลายลงแล้วเมื่อได้พบกัน มือเล็กกำเสื้อของอีกคนไว้แน่น ตากลมโตจ้องมองอีกคนอย่างไม่ละสายตา กลัวว่าหากกระพริบตาแม้เพียงสักครั้ง เค้าคนนี้จะหายไปอีก

                    นายกลับมาแล้ว ฮึก...ห้ามทิ้งฉันอีกนะ นายอมยิ้มตาที่เป็นประกายวิบวับไปด้วยหยาดน้ำด้านในกับคำอ้อนวอนขอร้องนี้ทำให้คยูฮยอนถึงกับใจอ่อนยวบจนทำอะไรไม่ถูก ร่างสูงค่อยๆพยักหน้ารับคำอีกคน ก่อนจะดึงซองมินกลับเข้ามากอดเอาไว้แน่น

                    ถ้าซองมินอยากจะให้ผมเป็น ผมก็จะเป็น....เพื่อซองมิน

                    ซองมิน....เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอีกคนด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบที่ซองมินไม่เคยได้ยินมันมาก่อน ร่างอวบเงยหน้าขึ้นมองอีกคนตามเสียงเรียกอย่างสงสัย

                    หืม?

                    “เป็น....เป็น....เอ่อ....อยู่ๆจะมาติดอ่างอะไรตอนนี้นะ ให้ตายเถอะ

                    เป็นอะไรหรือเปล่า?ถามอีกคนอย่างไม่เข้าใจเมื่อคนร่างสูงทำท่าจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่พูดมันสักที

                    คือ...เป็น....พูดสิคยู พูด!!!!!! นายทำได้ พูดสิวะ!!!

                    เป็นแฟนกับผมนะ ซองมินในที่สุดก็หลุดออกมาจนได้ ความในใจที่เก็บเอาไว้มาหลายเดือน ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าพูดมันออกไปจนได้สินะ

                    .......เงียบ....ไร้ซึ่งการตอบรับใดๆจากอีกคน ทำเอาคนสารภาพถึงกับใจเสีย

                    ขอบคุณนะ^^” มือบางลูบแก้มสากที่เย็นเฉียบของคนตัวสูง รอยยิ้มหวานฉาบขึ้นมาบนใบหน้าสวย แก้มใสแดงระเรื่อด้วยความเขิน ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไรดี เพราะที่ผ่านมาเคยทำแต่ปฏิเสธในยามที่โดนบอกรัก เลยไม่รู้ว่าการรับรักนั้นเค้าทำกันยังไง

                    ขอบคุณนี่คือ ???เมื่อคำตอบที่ได้รับมันยังไม่ชัดเจนพอจึงต้องถามซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจในความสัมพันธ์

                    โง่จริงๆเลยนะ นายเนี่ย ......จุ๊บร่างอวบเขย่งตัวขึ้นจุ๊บบนกลีบปากหนาของอีกคนแทนคำตอบทั้งหมดที่มีให้ ก่อนจะรีบผละออกมาด้วยความเขิน แต่ก็โดนมือหนารั้งคอไว้ไม่ให้หนีไปไหน ร่างสูงกดจูบลงบนริมฝีปากบางอีกครั้ง เรียวปากอิ่มบดเบียดแลกเปลี่ยนความหวานให้กัน แทนความรู้สึกที่มี แทนคำตอบของทุกคำถามที่ตอบกลับด้วยรสจูบหวานๆนี้

                    ขอจูบนะครับ....

                    “ทำแล้วมาขอ นี่มันนายชัดๆ...โจว คยูฮยอนขอแค่นี้ แค่แบบนี้ แค่คิดว่าคนตรงหน้าเป็นผม เป็นโจวคยูฮยอนที่เป็นคนรักของพี่ ไม่ใช่คนในอดีต แต่เป็นคยูฮยอนคนปัจจุบันที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผมต้องการแค่นั้นจริงๆ

                    ขอบคุณนะครับกระต่ายขาว ^^”

                    “อื้อ....กลับบ้านกันเถอะ ปะ...ร่างบางส่งมือให้อีกคนจับ คยูฮยอนรีบคว้ากระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพาย มือนึงก็ยื่นไปกุมมือเล็กที่ส่งมาให้ แม้ว่าอากาศจะหนาวจนมือเย็นจนแข็งไปหมดก็ตาม แต่พอมือทั้งสองกอบกุมกันไว้ ความอบอุ่นก็ค่อยๆขับไล่ความเย็นในตัวออกไปจากร่างกาย นิ้วเรียวสอดประสานกันเอาไว้ตลอดทางที่เดินกลับไปด้วยกัน ดูเหมือนว่าการกลับบ้านในวันนี้คนทั้งคู่จะมีความสุขมากกว่าวันอื่นๆเป็นเท่าตัวเลยสินะ

    ......คบกันนานๆนะ คยูฮยอน & ซองมิน......




    Talk : อัพทีก็หายไปสิบปีแสงแล้วกลับมาอัพใหม่ 5555 ขออภัยอย่างสูงค่ะ แก้ตัวทุกครั้งที่มาอัพเลย บอกเลยว่าเรื่องนี้แต่งยากมากจริงๆค่ะ ไม่รู้ทำไมเข็นไม่จบซักที วันนี้เอาคยูมินมาลงให้ ในที่สุดก็ลงเอยกันแล้ว แต่ว่าดูเหมือนมันจะทำให้เรื่องยุ่งๆตามมานะลงเอยกันแบบนี้เนี่ย ไม่รู้จะถูกใจกันหรือเปล่า สารภาพเลยว่าไรเตอร์แอบลืมเนื้อเรื่องไปเยอะแล้ว แต่งไปก็ต้องไปนั่งค้นตอนเก่าดูว่าถึงไหนบ้างแล้ว ไม่ว่ากันเนอะ ใจอยากแต่งให้อ่าน แต่สมองกับมือมันไม่ยอมไปตามเลย ขอโทษจริงๆนะคะ ช่วงนี้ก็วุ่นๆกับการทำฟิคโปรเจคด้วย เปิดขายแล้ว เดี๋ยวเอารายละเอียดมาลงให้ดูนะ เผื่อว่าใครจะสนใจ  ใจอยากรวมเรื่องนี้ไปขายงานฟิค เดือนกันยามากๆค่ะ แต่ว่ามันไม่ทันจริงๆค่ะ
    คงมีโอกาสได้รวมเล่มกับเค้าสักวันนะคะเรื่องนี้ สัญญาแล้วว่าจะเอาให้จบ ก็ต้องเอาให้จบค่ะ แต่อาจช้านิดนึง อย่าเพิ่งทิ้งกันไปก่อนเนอะ รักทุกคนเสมอค่ะ ^^ ขอบคุณที่ยังติดตาม แม้ว่าไรเตอร์จะหายไปนานมากก็ตามที ยังพูดคุยกันได้นะคะ ยินดีคุยกับแฟนฟิคมากๆ

    ตามไปพูดคุยกันได้ที่เพจ  ทวงได้นะคะ ไม่ว่ากัน แต่ทวงแบบสุภาพเนอะ มีคนทวงมาเราก็มีกำลังใจอัพให้ค่ะ ^^


    คลิก   วิจารณ์ได้นะคะ มีความรู้สึกว่าตัวเองแต่งได้แย่ลงไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือรู้สึกไปเอง คอมเม้นบอกกันได้จะได้ปรับปรุง

    แจ้งเลยว่า ไรเตอร์ไปงานฟิคนะคะ เจอกันที่ บูธ B9  มีไปขาย 3 เรื่อง

    marry u อันนี้ดหลือแค่ 7 ชุดแล้วค่ะ ใครอยากได้รีบจับจองนะ ไม่มีตีพิมเพิ่มแล้วจริงๆ 

    Desperate affair อันนี้ตีมาใหม่ 20 ชุด  เพิ่งตอนของฮันชอลให้ตอนนึงด้วยละ เอาไปอ่านกันให้น้ำตาไหล

    แล้วก็พิเศษสุดๆ กับโปรเจคพลอตเขาเราแต่ง ที่แต่งร่วมกับพี่ EunBoMee และ Bluelotus 

    กำลังเปิดจองอยู่นะคะ ใครสนใจตามลิ้งด้านล่างนี้ไปเลย (งานนี้นอกจากแต่ง ยังมีโอกาสได้ทำปกเองด้วยละ สวยนะ)


    http://writer.dek-d.com/sisterhood/story/viewlongc.php?id=906716&chapter=18




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×