คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Trick 10 หนุ่มเนิร์ด....
“ตื่นๆๆๆๆ ยินดีต้อนรับเช้าวันจันทร์ที่แสนโหดร้ายยยยย เพล้งๆๆๆๆ!!” ซองมินกระโดดขึ้นเตียงของเพื่อนพลางเอาฝาหม้อมาตีกระทบกันเป็นฉาบ ร่างบางร้องเรียกเพื่อนให้ลุกจากที่นอนในเช้าวันแรกของอาทิตย์
“มินนี่ ~~ อย่าพูดคำหยาบแบบนั้นแต่เช้าสิ” อึนฮยอกต่อว่าเพื่อนพลางเอาหน้าซุกลงกับหมอนใบใหญ่ มือทั้งสองข้างดึงปีกหมอนมาปิดหูไว้กันเสียงของกระต่ายตัวอ้วนที่แหกปากร้องไม่เลิกข้างหู
“เอ๋ มินนี่ยังไม่ได้พูดจาหยาบคายเลยนะ ฮยอกมาว่ามินนี่แบบนั้นได้ไง ลุกเลยๆ เดี๋ยวก็ไปเรียนสายกันหมดนี่หรอก” ซองมินเอ่ยถามเพื่อนอย่างงงๆในเมื่อบทสนทนาเมื่อครู่ไม่ได้มีคำหยาบใดๆเลย
“ก็ซองมินบอกว่าวันนี้วันจันทร์ นี่เป็นคำหยาบที่สุดในชีวิตฮยอกเลยนะ ไม่เอาไม่ไป ฮยอกอยากจะนอนนนนนน” ร้องงอแงเมื่อโดนเพื่อนปลุกให้ตื่นนอน ซองมินย้ายร่างอวบๆของตัวเองมาที่อีกเตียงนึงแทน เมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวแห้งๆของเค้าคงยังไม่ยอมลุกจากที่นอนแน่ๆ
“ดงเฮอ่า ตื่นได้แล้วนะ เช้าแล้ว วันนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่หรอ ลุกไปอาบน้ำ ทานข้าวได้แล้ว ” มืออวบๆเขย่าตัวเพื่อนรักให้ตื่นนอน
“งืมๆ..งึมงำๆๆๆ” ดงเฮพลิกตัวหันหลังให้คนที่พยายามจะปลุก ก่อนจะบ่นอะไรงึมงำๆเหมือนบทสวดสักอย่าง ซองมินพยายามเงี่ยหูฟังในสิ่งที่เพื่อนพูด
“....เทพเจ้าช่วยสาปแช่งคนที่ปลุกข้าให้ตื่นจากความฝันอันสวยงามนี้ด้วยเถิด ข้าจะเผาพริกเผาเกลือถวายยยย” เมื่อได้ยินชัดเจน ร่างอวบถึงกับสะดุ้งเฮือก นี่ดงเฮทำพิธีแม้กระทั่งในฝันเลยหรอเนี่ย
“ก็ได้ ถ้าสองคนไม่ยอมตื่น มินนี่ไปเรียนคนเดียวก็ได้ อึนฮยอกก็จะได้อดเจอพี่หมอ ส่วนดงเฮก็จะไม่ได้ไปโรงเรียนกับคิบอม ไอเราก็อุตส่าห์หวังดีมาปลุกสองคนแต่เช้า สงสัยคงไม่อยากจะไป งั้นมินนี่ไม่เรียกแล้ว ชิ งอน!!!” ว่าอย่างงอนๆพลางสะบัดตูดที่งอนกว่าหน้านั้นออกจากห้องไป
“งืมมม...พี่หมออออ หา!!! พี่หมอ ตายแล้วๆๆๆ กี่โมงแล้วเนี่ย ว๊ากกก 9 โมงแล้ว พี่หมอมาเวลานี้ทุกวัน ทำไงดีๆๆ มินนี่ทำไม่ไม่ปลุกฮยอก!!!!” หูที่ได้ยินอะไรเกี่ยวกับพี่หมอแว่วๆจากปากเพื่อน พอคิดทบทวนด้วยสติที่มีน้อยนิดในยามเปิดเปลือกตาครั้งแรกของเช้าวันใหม่ ก็ทำให้การประมวลผลค่อนข้างจะช้า กว่าจะรู้ตัวตื่นเพื่อนที่มาปลุกก็งอนตุ๊บป่องเดินหนีไปเสียแล้ว ร่างบางกระวีกระวาดวิ่งลงจากเตียงพลางคว้าผ้าขนหนูไปทำธุระส่วนตัวด้วยความรีบเร่ง แต่เพื่อนอีกคนที่กำลังทำพิธีเข้าเฝ้าพระอินทร์อยู่นั้นยังคงนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขอยู่บนเตียงต่อไป
“กระต่ายขาววววว ออกจากบ้านแต่เช้าเชียว วันนี้มีเรียนหรอครับ” คยูที่มายืนดักรอซองมินอยู่ที่หน้าบ้านเอ่ยถามคนร่างบางที่ออกจากบ้านมาทั้งชุดนักศึกษา
“แต่งชุดนี้ไปเล่นเจ๊ทสกีมั้ง ก็มีเรียนน่ะสิ แล้วนี่นายมาทำอะไรแต่เช้าเนี่ย” ถามอีกคนพลางมองร่างสูงที่อยู่ในชุดนักเรียนพร้อมกระเป๋าเป้สีดำที่สะพายไหล่ข้างเดียว (ดูๆไปมันก็แอบน่ารักนะนายเนี่ย >//< : มินนี่)
“ผมก็คงมาทำกับข้าวที่หน้าบ้านพี่มั้งครับ แต่งชุดนักเรียนเต็มยศขนาดนี้ก็กำลังจะไปเรียนน่พสิครับ แต่ว่าแวะมารับพี่ก่อน ” บอกพลางยิ้มให้อีกคนอย่างกะล่อน ซฮงมินมองใบหน้ากวนๆนั้นอย่างหงุดหงิด
“ไอ้นี่ กวนอวัยวะเบื้องล่างแต่เช้า เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวติดกำแพง แล้วนี่มาคนเดียวหรอ” ทำท่าจะเหนี่ยวคนตรงหน้าจนคยูต้องถอย ร่างบางเก็บมือลงพลางมองหาคนที่น่าจะมากับคยู
“กระต่ายขาวมองหาใครละครับ ผมน้อยใจนะเนี่ย ผมมายืนรอพี่แต่พี่มายืนมองหาคนอื่น ...ถ้าพี่มองหาไอคิบอม มันลืมของไว้ที่บ้านน่ะครับเลยวิ่งกลับไปเอา มันให้ผมเฝ้าหน้าบ้านไว้เนี่ยละ เผื่อพี่ดงเฮลงมาจะได้บอกให้รอกันก่อน แล้วนี่พี่ดงเฮละครับ” ถามหาเพื่อนของคนร่างอวบบ้าง เมื่อตนเองยืนรอมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่เห็นออกมาเลย
“ดงเฮยังไม่ตื่นน่ะ ปลุกแล้วก็ไม่ยอมตื่น คงอีกยาว บอกให้คิบอมไปเรียนก่อนเถอะ ไม่ต้องรอหรอก พูดถึงไปเรียน นี่ก็ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว เดี๋ยวฉันไปก่อนดีกว่า ไม่อยากเข้าเรียนสายเหมือนเพื่อนตัวดีทั้งสองคน” ใบหน้าหวานง้ำงอพยักเพยิดไปทางห้องนอนที่มีเพื่อนนอนอุดตุอยู่บนห้อง พลางเดินจ้ำอ้าวไปเรียนด้วยความงอนเต็มพิกัด
“เดี๋ยวสิกระต่ายขาว รอผมก่อนๆๆ ผมไปด้วย เดี๋ยวไปส่ง” ขายาวๆรีบวิ่งตามคนร่างบางไปทันที มือหนาคว้าแขนกระต่ายตัวอวบไว้ได้
“ไปเรียนสิเสี่ยวเอ๋อ โรงเรียนไม่ได้เข้าตอนบ่าย 2 นะ ทำไมป่านนี้ยังไม่ไปเรียนอีก ไปๆๆ แยกย้ายกันไปได้แล้ว เดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทัน” ซองมินเอ่ยไล่อีกคนพลางตั้งท่าจะเดินต่อ แต่ติดที่มือหนายังเกี่ยวแขนไว้แน่น
“ให้ผมไปส่งพี่นะ ผมอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามารอรับพี่เลยนะ น้าพี่ซองมิน นะๆๆ” เอ่ยอ้อนจนซฮงมินอดใจอ่อนไม่ได้ ร่างบางพยักหน้ารับคำอีกคน คยูฮยอนยิ้มกว้างรีบวิ่งไปลากพาหนะคู่ใจของตัวเองมาจอดตรงหน้าร่างบาง
“นี่คือ ?” ซองมินชี้ไปจักรยานพลางเอ่ยถาม
“รถฟักทองมั้งครับพี่ ก็เห็นอยู่ว่าจักรยาน”
“ถ้านายยังตอบคำถามกวน...อยู่แบบนี้ พี่จะเดินไปเองแล้วนะคยู” เอ่ยบอกอย่างงอนๆพลางสะบัดหน้าหนี (เกรงว่าถ้าซองมินขี้งอนแบบนี้ อาจจะคอเคล็ดก็เป็นได้ สะบัดบ๊อบตลอดเวลา:ไรเตอร์)
“โอ๋ๆๆ อย่าโกรธเลยนะ ผมหมายถึงพี่เป็นเจ้าหญิงซินเดอเรลล่าของผมไงครับ เชิญเจ้าหญิงเสด็จขึ้นรถฟักทองครับ” ร่างสูงขึ้นคร่อมประจำตำแหน่งคนขี่ ตามมาด้วยคนร่างบางที่นั่งซ้อนท้ายอยู่ด้านหลัง
“เกาะแน่นๆหน่อยนะน้องนะ เกาะแน่นๆหน่อยนะจ้ะประเดี๋ยวตก ~~” ร่างสูงร้องเพลงของอนันอันวาที่สามารถบ่งบอกอายุได้เลยว่าแก่แค่ไหนแล้ว พลางจับมือบางที่เกาะชายเสื้อตัวเองให้มาวางที่หน้าท้องแทน ซองมินขืนตัวเบาๆ คยูที่เห็นคนร่างบางจะปล่อยก็แกล้งปล่อยมือออกจากแฮนด์จักรยาน จนรถส่ายไปส่ายมา
“จะบ้าหรือไงนายเสี่ยวเอ๋อ ปล่อยมือทำไมเนี่ย ขับดีๆสิ เดี๋ยวก็เจ็บตัวทั้งคู่หรอก” ร้องเตือนอีกคน พลางตีไหล่หนาตรงหน้า
“ก็ถ้าไม่อยากตกลงไปก็เกาะแน่นๆสิครับกระต่ายขาว” เมื่อเห็นว่าร่างสูงคงไม่ยอมเลิกเล่นพิเรนท์แบบนี้แน่ๆ ซองมินจึงต้องจำใจเกาะพุงน้อยๆของคยูไปตลอดทาง เจ้าของชั้นไขมันได้แต่นั่งยิ้มแก้มปริอย่างอารมณ์ดี พลางปั่นจักรยานนำพาคนร่างบางซ้อนท้ายไปเรียนแบบไม่กลัวน่องจะโป่ง
“ขอบใจนะเสี่ยวเอ๋อ อ่านี่ ของตอบแทนที่มาส่ง” ซองมินเอ่ยขอบคุณคนร่างสูงพลางค้นกระเป๋าหยิบอมยิ้มออกมาส่งให้คนร่างสูง
“แหม~~ แค่มาส่งแค่นี้ทำไมต้องเขินด้วยครับ” ร่างสูงมองอมยิ้มในมืออีกคน มือหนารับมาแกะห่อพลางส่งอมยิ้มเข้าปาก
“เขินบ้าอะไร ฉันแค่ให้เป็นของตอบแทนไม่ให้เราเป็นหนี้บุญคุณกันหรอก”
“อ่าว ไม่เขินแล้วมายืนอมยิ้มให้ผมทำไมครับ” ถามอีกคนพลางส่งยิ้มกวนๆตามแบบฉบับของคยูฮยอน
“จะบ้าหรอ ให้อมยิ้ม เค้าเรียก “ยื่น” สะกดภาษาให้ถูกต้องน่ะเป็นมั้ย ยื่นน่ะยื่น ไม่ใช่ยืน คุยกับนายแล้วปวดประสาทจริงๆเลย ไปๆ ไปเรียนได้แล้ว นายเสี่ยวเอ๋อ ตั้งใจเรียนละ จะได้สะกดคำเป็น ฉันไปนะ” ร่างบางโบกมือบ๊าย บายอีกคนพลางเอ่ยปากไล่ ว่าจบก็หันหลังเดินเข้ามหาลัยตัวเองไป
“กระต่ายขาว จุ๊บ~~ อรุณสวัสดิ์นะครับ” ร่างสูงเอ่ยเรียกอีกคนไว้ก่อน มือหนาจับแขนของคนร่างบางไว้ ซองมินหันกลับมามองเป็นจังหวะเดียวกับที่คยูยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆพอดี เรียวปากอิ่มสัมผัสโดนแก้มอูมของกระต่ายขาวตัวอวบเข้าอย่างจัง คยูฮยอนรีบสูดความหอมของแก้มนวลไว้ให้เต็มปอด พลางเอ่ยอรุณสวัสดิ์คนร่างบาง ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นจักรยานแล้วปั่นหนีไปด้วยความเร็วแสง
“ไอเสี่ยวเอ๋อ ไอเด็กบ้า มาขโมยหอมแก้มฉันทำไมเนี่ย!!!!” ร่างบางยืนนิ่งอึ้งกับเหตุการณ์อยู่สักครู่ กว่าจะตั้งสติได้ร่างสูงก็ปั่นหนีไปไกลแล้ว ภาพสุดท้ายที่เห็นคือใบหน้ากวนๆที่หันมายักคิ้วให้ มือบางลูบแก้มที่โดนอีกคนขโมยหอมเบาๆ ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ ปากบางระบายยิ้มอย่างเขินๆ ก่อนที่ซองมินจะสะบัดหัวเบาๆไล่ความคิดบ้าๆพวกนี้ออกไปจากหัวแล้วรีบสาวเท้าเข้าไปยังตึกเรียนโดยไว
ทางด้านเพื่อนตัวบางเฉียบผิดกับหุ่นของเพื่อนสนิททั้งสอง หลังจากที่ทำการวิ่งผ่าน้ำเร็วกว่าความไวแสงแล้วนั้นก็รีบแต่งตัวเตรียมจะออกไปเรียนบ้าง ไม่ใช่ว่ารักดีห่วงเรียนเสียจนรีบมาก แต่ไอที่ห่วงเนี่ย คือ ห่วงคนที่มาคอยรับส่งต่างหากละ ถึงคนร่างสูงจะบอกว่าแค่ผ่านมาทางนี้เลยแวะมารับอึนฮยอกไปเรียนด้วยก็ตาม แต่แค่มารับมาส่งถึงหน้าบ้าน มันก็ทำให้ใจดวงน้อยคึกคักโครมครามจะแย่อยู่แล้ว
“เฮ้อ ~ 9.30 แล้ว พี่หมอเค้าคงไปแล้วละมั้ง ใช่สินะ เค้าก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกัน จะมาคอยรับส่งนายได้ยังไงละอึนฮยอก” ร่างบางยืนบนกับตัวเองอยู่หน้าบ้านคนเดียวพลางถอนหายใจหนักๆเฮือกใหญ่
“มายืนบ่นอะไรคนเดียวละเราน่ะ แล้วนี่แต่งตัวอะไร พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามแต่งตัวแบบนี้ออกไปเรียนอีกน่ะ รีบขึ้นไปเปลี่ยนเลยนะอึนฮยอก” นอกจากจะไม่เจอคนร่างสูงแล้วยังมาเจอพี่ชายสุดโหดข้างบ้านแทน อึนฮยอกก้มลงมองสภาพตัวเองที่แต่งตัวเหมือนทุกๆวันที่ไปเรียน เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกับกางเกงแสล๊คขากระบอกใหญ่ พ่วงด้วยรองเท้าหนังหัวตัด และปิดท้ายด้วยกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลอ่อนสะพายข้างที่พาดอยู่ที่เอว
“ยืนมองอะไรละเรา พี่บอกให้ไปเปลี่ยนชุดไง ออกไปเป็นยัยเฉิ่มให้คนเค้าล้อเหมือเดิมหรือไงเล่า”
“แต่...แต่มันใกล้เวลาเรียนฮยอกแล้วนะฮะพี่ฮีชอล” ร่างบางเอ่ยอ้างเมื่อขี้เกียจขึ้นบ้านไปเปลี่ยนชุดใหม่ กลัวว่าท่าคลาดสายตาไปจากประตูบ้านอาจจะทำให้คลาดกับคนร่างสูงก็เป็นได้ แต่เมื่อหันไปเห็นสายตาดุๆของพี่ชายคนสวยก็ต้องเดินคอตกกลับเข้าบ้านไปเปลี่ยนชุดออกมาใหม่
“เออ อย่างงี้สิ ค่อยโอเคหน่อย ไปเรา ไปเรียนได้แล้ว ไปกับพี่มั้ย พี่กำลังจะไปคลินิกพอดี ต้องผ่านมหาลัยเราอยู่แล้ว ไปๆขึ้นรถ” อึนฮยอกกลับลงมาอีกทีพร้อมชุดที่ฮีชอลเคยดูไว้ให้ว่าควรใส่อะไรไปเรียน เสื้อเชิ้ตสีขาวรัดรูปกับกางเกงขาเดฟสีดำแนบเรียวขาสวย รองเท้าผ้าใบสีฉูดฉาดมาพร้อมกับกระเป๋าใบหรูที่เข้ากันกับชุด ฮีชอลมองน้องอย่างพอใจพลางจูงมือน้องขึ้นรถให้ไปด้วยกัน
“เดี๋ยวฮะพี่ฮีชอล เอ่อ...พี่ไปเถอะฮะ เดี๋ยวฮยอกไปเอง ฮยอกเกรงใจ”
“เกรงใจอะไรกันเล่า เราน้องพี่ ทำไมพี่จะไปส่งเราไม่ได้ ขึ้นรถเร็ว เดี๋ยวก็ไปเรียนไม่ทันหรอก” ฮีชอลเปิดประตูด้านข้างคนขับให้คนร่างบาง พลางดันหลังให้เข้าไปนั่ง อึนฮยอกเองก็ยังคงพะวงกลัวว่าร่างสูงจะมารับแล้วจะรอเก้อ คนตัวบางชะเง้อคอมองด้านนอกรถ เพื่อดูว่ามีออร์ดี้อาร์8คันไหนมาขับรถเล่นแถวนี้หรือเปล่า
“เอ้า ชะโงกซะคอจะหลุดแล้ว เดี๋ยวมีรถวิ่งผ่านมาก็สอยหัวไปหรอก พี่ยังไม่อยากขับรถพาน้องหัวขาดไปเรียนนะ นี่เรารอใครหรือเปล่าเนี่ย ดงเฮ ? ซองมิน? แต่ซองมินพี่เห็นว่าออกไปกับหนุ่มอีกคนตั้งแต่เช้าละ งั้นตัดไป แล้วดงเฮละ ไปเรียนหรือยัง” ถามถึงน้องชายอีกคนที่ยังไม่เห็นหน้าเห็นตาตั้งแต่เช้า
“ด๊องยังนอนอยู่บนห้องเลยฮะ ปลุกเท่าไรก็ไม่ตื่นฮยอกเลยปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นเลย เดี๋ยวเข้าเฝ้าพระอินทร์เสร็จดงเฮก็เสด็จกลับลงมาจากสวรรค์ชั้นวิมานเองละฮะ” ปากก็ตอบกลับ แต่ตายังคงมองกระจกด้านหลังอย่างไม่ละสายตา
“แล้วเรามองหาใครละ”
“เอ่อ...คือ ฮยอกแค่สงสัยน่ะฮะ ปกติจะเห็นพี่หมอขับรถเล่นแถวๆนี้ตอนเช้าๆน่ะฮะ แปลกใจที่วันนี้ไม่เห็นมาเท่านั้นเอง” ร่างบางหันกลับมานั่งดีๆ พลางกลบเกลื่อนว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร
“55 อาการเรานี่มันมากกว่าคำว่าสงสัยไปเยอะแล้วนะฮยอก คิดถึงเค้าละสิ วันนี้ไอวอนมันไม่มาหรอก มันมีเข้าเวรแต่เช้า เพราะตอนเย็นมันมีภารกิจที่ต้องทำ”ฮีชอลอมยิ้มกับอาการของน้องที่ดูกระสับกระส่ายเสียเหลือเกิน ยิ่งพอรู้ว่าอีกคนไม่มายิ่งน่าสลดลง
“เอ้า ถึงแล้ว ตั้งใจเรียนละเรา อ้อ เอานี่ไปด้วย อย่าลืมนะว่าวันนี้มี คอร์สภาคสนาม ตอนเย็นให้เราไปที่นี่แล้วจะเจอคนของพี่ อย่าลืมทำตามที่พี่สอนนะอึนฮยอก” ฮีชอลส่งกระดาษแผ่นเล็กให้น้องชายคนสวย
“ขอบคุณนะฮะพี่ฮีชอล ขับรถดีๆนะฮะ ^^” ร่างบางโบกมือบ๊ายบายพี่ พลางมองกระดาษในมือ
‘ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย หนุ่มเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำตาล กางเกงขายาวสีน้ำตาลกับแว่นอันโต’ ฮีชอลเขียนอธิบายถึงสถานที่และลักษณะของหนุ่มที่เตรียมมาให้ให้คนร่างบางหาเจอได้ง่ายขึ้น อึนฮยอกพับกระดาษเก็บเข้าไปในกระเป๋า
“เฮ้อ อดเจอพี่หมอเลยวันนี้ เซ็งจริงๆเลยเช้าดันติดงาน เย็นเค้าก็ไม่ว่างอีก อุปสรรคทำไมเยอะจัง” ถอนหายใจอย่างเสียดายที่วันนี้ไม่ได้เจอพี่หมอคนโปรด ร่างบางเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยโดยไม่ทันสังเกตบรรยากาศรอบๆตัวที่เปลี่ยนไปจากวันก่อนๆ ยัยเฉิ่มที่เป็นถึงดาวคณะบัญชี จะสวยก็เฉพาะถูกจับมาแต่งตัว สายตาที่เคยดูถูกคนแต่งตัวเฉิ่มๆคนนี้กลับเปลี่ยนไป เมื่อคนทุกคนจ้องมองมาที่คนร่างบางที่วันนี้แต่งตัวสวยผิดหูผิดตา ผมลีบลอนด์ที่โดดเด่นเห็นมาแต่ไกล เอวบางร่างเล็กภายใต้เสื้อพอดีตัว ขาเรียวสวยก้าวอย่างเร่งรีบเพื่อขึ้นเรียน ทุกอิริยาบถทำให้ชายหญิงที่เดินผ่านต่างจ้องมองกันอย่างไม่วางตา
“สำเร็จไปอีกหนึ่งขั้น สวยขึ้นเยอะเลย เจอกันเย็นนี้นะครับ อึนฮยอก^^” ชายหนุ่มร่างสูงมายืนซุ่มดูอยู่ที่หลังต้นไม้หน้าคณะบัญชี ร่างสูงกวาดตามองรอบบริเวณที่ผู้คนต่างยืนมองคนร่างบางที่วันนี้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยเชียว
“นูนาครับ.....นูนา ตื่นเถอะครับ” มือหนาเขย่าตัวคนที่นอนอยู่บนเตียงให้ลุกจากที่นอน
“ฮึ่ยยย มินนี่อ่า เค้ากำลังทำพิธีอยู่นะ มาชวนกินหนูนาอะไรเล่า ไม่กินนน ” ร่างบางสะบัดแขนที่โดนสะกิดอย่างนึกรำคาญ เมื่ออยู่ๆเพื่อนก็มาปลุกตนให้ลุกไปกินหนูนา(?)ด้วยกัน
“ดงเฮนูนา ตื่นเถอะครับ ผมมาปลุกไม่ได้มาชวนไปกินหนูนาสักหน่อย ถ้าไม่ตื่นผมจะปลุกด้วยวิธีอื่นแล้วนะครับ” คิบอมที่เห็นอีกคนนอนไม่ยอมตื่นก็นึกสนุก ร่างสูงทิ้งตัวลงนอนข้างๆคนร่างบาง มือหนาจับมือบางมาวางตรงเอวของตน พลางเบียดตัวให้แนบชิดราวกับเตียงแคบมาก ร่างสูงนอนจ้องหน้าอีกคนที่หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข เรียวปากสวยยกยิ้มกว้างเมื่อได้เห็นหน้าคนตรงหน้าในระยะใกล้เช่นนี้ โคตรโชคดีเลยที่พี่สาวคนสวยของบ้านนี้อีกคนนึงเจอกับเค้าก่อนออกจากบ้าน เลยให้กุญแจไว้เพื่อให้ขึ้นมาปลุกนูนาบนห้อง
“ง่ำๆ เนื้อคู่จ๋า กอดกันน้าๆๆๆ” ขาเรียวตวัดพลาดบนตัวคนร่างสูง พลางซุกหน้าลงกับอกอุ่นข้างกาย สุภาพบุรุษคิบอมเจออีกคนกอดแน่นเช่นนี้ ด้วยความเป็นคนดี มีหรือจะไม่แต๊ะอั๋ง ...(เอ๊ะ ยังไง 555) จมูกโด่งฝังลงบนแก้มเนียนขาวทั้งสองข้าง พลางไล่ลงมาที่ริมฝีปากสวย เรียวปากหนาค่อยๆแนบลงกับกลีบปากบาง เพียงแค่แตะก็ตื่นเต้นจนแทบบ้าแล้ว คนที่นอนอยู่รู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆมาแนบอยู่ที่ปาก ด้วยความคิดที่ว่าเพื่อนคงเอาของมาให้กินจึงอ้าปากรับของหวานที่จ่ออยู่ เมื่อสบโอกาสเหมาะลิ้นหนาก็ดุนดันเข้าไปส่งมอบขนมหวานให้ถึงภายในกันเลยเชียว
“อื้อออ....” ร่างบางร้องครางเมื่อความหวานแทรกซึมเข้ามาภายในโพรงปาก ลิ้นเล็กไล้เลียสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาภายในราวกับกำลังละเลียดชิมขนมหวาน คิบอมกดจูบหนักๆลงบนกลีบปากบาง ก่อนจะถอนจูบออกมาเมื่อเห็นอีกคนเริ่มหอบ
“มินนี่อ่า....ขนมอะไรอร่อยจังเลย” ร่างบางค่อยๆปรือตาขึ้นมองขนมที่เพิ่งผละออกไปเมื่อครู่ ด้วยใจที่อยากจะกินอีกทำให้ร้องถามเพื่อนรักที่เอาขนมมาให้
“อรุณสวัสดิ์ครับนูนา” ดวงตาคู่สวยที่ปรืออยู่เมื่อคู่ลืมตาโพลง ตาสว่างขึ้นทันใดเมื่อเห็นว่าใครอยู่ตรงหน้า
“บ้าแล้วๆๆ คิดถึงขนาดเก็บมาฝันขนาดนี้ นี่มัน 3D มากๆเลยนะเนี่ย ฝันเสมือนจริงสุดๆ ดูสิเหมือนสัมผัสตัวได้เลย” ดงเฮยังคงคิดว่าตัวเองกำลังนอนฝันหวานอยู่บนเตียงกว้าง มือบางดึงแก้มอูมของคนตรงหน้าจนคิบอมถึงกับร้อง
“แหม เสียง Soundtrack เป็นเลิศ ร้องเสมือนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงด้วยกันเชียว” ร่างบางปล่อยแก้มบวมๆ พลางพูดกับความฝันของตนเอง
“นูนาครับ ผมเจ็บนะ มาดึงแก้มผมทำไมกัน ตื่นได้แล้วครับ นี่มัน 10.30 แล้วนะ มีเรียน 9.30 ไม่ใช่หรอครับ” คิบอมเอ่ยเตือนคนร่างบางที่นอนกินบ้านกินเมืองจนเพื่อนๆหนีไปเรียนกันหมดแล้ว
“อื้อ...กี่โมงแล้วนะ ...หา!!! 10.30 แม่เจ้าโว้ยยยยย 10.30 ตายแล้วๆ” ร่างบางร้องอย่างตกใจเมื่อเหลือบไปมองนาฬิกาที่หัวเตียงของตนเอง พลางรีบวิ่งลงจากเตียงไปอาบน้ำทันที คิบอมนั่งมองอีกคนพลางยิ้มขำกับท่าทางของนูนาคนสวย
“สายขนาดนี้ คิบอมคงไปเรียนแล้วมั้งเนี่ย เฮ้อ นึกว่าจะได้ไปเรียนด้วยกัน” ร่างบางเดินเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ บนตัวมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวที่ปิดบังร่างกายส่วนล่าง เพราะปกติอยู่กับอึนฮยอกและซองมินก็แต่งแบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งวันนี้อยู่คนเดียวจะแก้ผ้าเดินก็ยังได้ แต่เกรงใจตัวเองน่ะ
“ผมก็รอไปเรียนกับนูนาอยู่นี่ไงครับ ....ผมเพิ่งรู้นะครับเนี่ยว่านูนาขาวมาก”คิบอมจ้องมองคนตรงหน้าไม่วางตา ลิ้นเรียวไล้เลียรอบริมฝีปากอย่างหื่นกระหาย
“เห้ย !! คิบอม เข้ามาได้ยังไงกันเนี่ย” ดงเฮร้องลั่นอย่างตกใจพลางเอาผ้าที่กำลังเช็ดหัวมาปิดร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่า ก่อนจะวิ่งหอบเสื้อผ้าเข้าไปใส่ชุดในห้องน้ำอย่างไว
“นายเข้ามาได้ยังไงเนี่ย แล้วมาอยู่ในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไร บอกฮยองมานะ” ร่างบางที่แต่งตัวเตรียมไปเรียนเรียบร้อยมานั่งหน้าแดงสืบสาวความยาวกับอีกคนที่เข้าห้องนอนมาได้ยังไง แล้วมาเมื่อไรก็ไม่รู้
“ก็ผมเข้ามาปลุกนูนาไงครับ ผมมายืนรออยู่หน้าบ้านตั้งแต่ 8 โมงกว่าแล้ว จนพี่ซองมินออกไปเรียนกับไอคยูแล้ว ผมยืนรอจน 9 โมงกว่าก็แล้ว พอดีเจอพี่คนสวยอีกคนนึงเค้าออกมาจากบ้าน เค้าเลยเอากุญแจให้ บอกให้เข้ามาปลุกนูนาให้ที ผมก็เลยเข้ามาปลุกตามคำบอกของพี่เค้า”คิบอมเล่าเรื่องราวตั้งแต่เช้าตรู่ยันสายโด่ป่านนี้ให้อีกคนฟังอย่างใจเย็น
“แล้วทำไมมานอนบนเตียงฮยองละ”
“ก็ผมเรียกนูนาตื่นๆๆ นูนาก็บอกแต่ไม่เอาไม่กินหนูนา ผมก็เลยใช้วิธีปลุกของผมเท่านั้นเอง”
“ปลุกโดยใช้ขนมหวานล่อใช่มั้ย ขนมอะไรอ่า อร่อยมากๆเลย” เอ่ยถามอีกคนพลางคิดไปถึงรสชาติขนมหวานที่ทำให้เค้าตื่น พูดแล้วก็อยากกินอีก
“เป็นความลับครับ ถ้านูนาอยากกินทุกวัน ก็ให้ผมมาปลุกทุกวันสิครับ แล้วจะเอาขนมให้กินทุกวันเลย ^^” ยิ้มหวานให้อีกคน เก็บงำความลับไว้อย่างดี
“ไม่เอาหรอก ฮยองตื่นมาต้องตกใจทุกวันแน่ๆเลยมีนายมานอนข้างๆแบบนี้น่ะ แล้วนี่ไม่ไปเรียนหรือไง มานอนกลิ้งเกลือกอยู่ตรงนี้ วันหลังถ้าฮยองสายเราก็ไปเรียนเลยนะ เข้าใจมั้ย ไม่ต้องรอล่ะ เสียการเรียนหมด”
“ไม่เอา วันหลังผมจะเข้ามาปลุกนูนาอีก ผมแอบจดตารางเรียนนูนาไว้แล้ว เดี๋ยวจะเข้ามาปลุกก่อนเวลา จะได้ไปเข้าเรียนทัน”
“นายนี่มันจริงๆเลยนะคิบอม แล้วนี่จะไปเรียนมั้ยเนี่ยเราน่ะ” ถามอีกคนที่นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนเตียง
“ไปครับ เดี๋ยวไปตอนพักแล้วเข้าเรียนบ่ายก็ได้ นูนาละครับไปเรียนไหม”
“ไป เดี๋ยวฮยองไปส่งงานแล้วกลับเลย ไม่เรียนมันละ” ดงเฮว่าอย่างเซ็งๆที่ตนเข้าเรียนไม่ทันอีกแล้ว นึกงอนเพื่อนอีกสองคนที่ไปเรียนกันโดยไม่เรียก(?)
“’งั้นไปส่งงานนูนาก่อนแล้ว นูนาไปส่งผมที่โรงเรียน ดีมั้ยครับ เพราะนี่มันยังไม่ถึงเวลาพักเลย ไปครับ เราไปหาอะไรทานกันก่อนแล้วค่อยไปเรียนก็ได้” ในที่สุดก็ไปเรียนกันครบทั้งสามคู่จนได้ ช่างเป็นเช้าที่วุ่นวายเสียจริงเลย
เวลาเรียนผ่านไป ต่างคนต่างก็ทำหน้าที่ที่ตนเองต้องรับผิดชอบไปจนกระทั่งตกเย็น
“ฮยอก กลับบ้านพร้อมมินนี่หรือเปล่า” ซองมินตะโกนถามเพื่อนสนิทที่เดินออกจากตึกเรียน อึนฮยอกหันมามองเพื่อนพลางเดินตรงเข้าไปหา
“ว้าววว วันนี้แต่งตัวซะสวยเชียวนะฮยอก จะแต่งตัวไปไหนเนี่ย ดูสิมีแต่คนมองเต็มไปหมด ป๊อบใหญ่แล้วเพื่อนเค้า” มินนี่เอ่ยแซวอีกคนเมื่อเห็นสายตาน้อยใหญ่ส่งมาให้คนร่างบางไม่ขาดสาย
“มินนี่อย่าแซวสิ ยิ่งเขินๆอยู่ที่ต้องแต่งตัวแบบนี้ ไม่ชินเลย เมื่อเช้าก็แต่งมาเหมือนทุกวันละ แต่เจอพี่ฮีเข้าเลยโดนไล่ไปเปลี่ยนน่ะ”
“ขนาดผู้ชายคนอื่นยังมองตาเป็นมันขนาดนี้ แล้วพี่หมอที่มาส่งเมื่อเช้าไม่จ้องจนตาถลนเลยหรือไงกันเนี่ย”
“จ้องอะไรเล่า ตั้งแต่เช้ายังไม่เจอพี่หมอเลย ฮยอกจะเหี่ยวตายแล้วเนี่ยมินนี่ คิดถึงเค้ายังไงก็ไม่รู้” เอ่ยบอกเพื่อนอย่างห่อเหี่ยว เหมือนกับต้นไม้ขาดน้ำ
“อ้าว งั้นเมื่อเช้ามาเรียนยังไงละ เอาน่าเดี๋ยวตอนเย็นก็เจอกันนะ แล้วนี่จะไปหาพี่หมอหรือว่าจะกลับบ้านละ” ซองมินตบบ่าเพื่อนอย่างเห็นใจ
“เมื่อเช้าพี่ฮีมาส่งน่ะ ตอนเย็นก็อดเจอด้วย พี่ฮีบอกว่าวันนี้ไม่ต้องไปที่คลินิก วันนี้ให้มาออกภาคสนามกับหนุ่มที่พี่ฮีจัดไว้ให้อ่า แต่ฮยอกอยากเจอพี่หมอมากกว่าหนุ่มคนนี้นี่นา” ฮยอกแจหน้าง้ำหน้างออย่างงอแง
“เค้าอาจจะหล่อกว่าพี่หมอก็ได้นะ ลองไปดู เผื่อฮยอกอาจจะติดใจ ไปๆเดี๋ยวมินนี่ไปส่งก็ได้” ซองมินเสนอตัว เพราะอยากจะเห็นหน้าหนุ่มหล่อที่พี่ฮีชอลจัดมาให้เพื่อนรัก ระดับพี่ฮีชอลแล้ว สายตาเฉียบคมเป็นเลิศ ต้องหล่อมากแน่ๆ ถ้าอึนฮยอกไม่เอา มินนี่เอาเองก็ได้ คิคิ
“กระต่ายขาวจะไปไหนครับ” ยังไม่ทันได้ไปไหน ดูเหมือนเจ้าของกระต่ายก็มาทวงกระต่ายขาวตัวปุยคืนเสียแล้ว
“อ่า...เสี่ยวเอ๋อ นายมาที่นี่ทำไมเนี่ย” ซองมินมองอีกคนอย่างหงุดหงิดที่มาขัดขวางการไปส่องหนุ่มของตน
“คนนี้คือ....” ฮยอกแจร้องถามพลางมองหน้าคนตรงหน้า หนุ่มน้อยรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาดีใช้ได้เลยเชียว ถึงจะไม่เท่าพี่หมอก็เถอะ ซองมินเรียกเสี่ยวเอ๋องั้นก็คงจะเป็น...
“สวัสดีครับ โจว คยูฮยอน แฟนพี่ซองมินครับ” โค้งให้คนสวยอีกพลางเอ่ยแนะนำตัวอย่างสุภาพ
“ลี อึนฮยอก เพื่อนสนิทซองมิน ยินดีที่ได้รู้จักนะ” อึนฮยอกเอ่ยทักทายอีกคนพลางส่งสายตาล้อเลียนไปให้ซองมิน
“น่ารักดีออกนะมินนี่ ฮยอกเชียร์ คิคิ” กระซิบกระซาบบอกเพื่อนสนิทอย่างแซวๆ มินนี่ตีไหล่บางของอีกคนเสียตุบใหญ่ที่มาล้อเลียนกันแบบนี้
“ยังไม่ตอบเลย พี่ถามว่านายมาทำอะไรที่นี่” หันไปค้อนใส่อีกคนที่มาแนะนำตัวให้เพื่อนตนเองล้อ
“ก็มารับกระต่ายขาวกลับบ้านไงครับ” ยืนยิ้มกว้างโชว์ฟันสวยให้อีกคน
“ฉันยังไม่คิดบัญชีกับนายเลยนะ มาขี้ตู่ว่าฉันเป็นแฟนนายให้เพื่อนฉันเข้าใจผิดแล้วไหนจะเมื่อเช้าที่นายหอมแก้มฉัน ...อุ๊บ!!!” ซองมินรีบปิดปากตัวเองเมื่อหลุดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมา อึนฮยอกที่ยืนมองทั้งคู่คุยกันอยู่นั้นส่งสายตาล้อเลียนให้เพื่อนสนิท
“ฮยอก เดี๋ยวมินนี่กลับบ้านก่อนแล้วกันนะ ไว้เจอกันที่บ้านนะ” ซองมินรีบลาเพื่อนพลางหลบสายตาที่เพื่อนส่งให้ด้วยความเขิน ก่อนจะรีบก้าวฉับๆออกไปจากพื้นที่ตรงนี้ด้วยความอาย
“กระต่ายขาว รอผมด้วยสิ เดี๋ยวผมไปส่งบ้าน” คยูฮยอนหันมาโค้งให้ร่างบางอีกคนที่ยืนหัวเราะคิกคักกับอาการของเพื่อน ก่อนจะวิ่งตามกระต่ายขาวตัวปุยของเค้าไป
“ออกจะน่ารัก มินนี่นี่น้า ดื้อจริงๆเลย” อึนฮยอกส่ายหัวกับให้กับเพื่อนรักของตนเองที่เอาแต่ปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาจีบ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลองศึกษาดูใจอะไรกันก็ปฏิเสธเค้าซะแล้ว ไม่รู้คนนี้จะทนความดื้อดึงของกระต่ายขาวของเค้าได้ไหม
“เฮ้อ ไปจัดการเรื่องของตัวเองดีกว่า” ถอนหายใจอย่างหน่ายๆพลางเดินไปยังสถานที่นัดหมายที่พี่ชายหน้าสวยนัดหนุ่มที่ไม่รู้จะหล่อเท่าพี่หมอหรือเปล่าไว้ให้
‘ฟังนะอึนฮยอก การจะจีบหนุ่มเนิร์ดเนี่ย มันอาจจะยากสักนิดนึง พี่เลยให้เราเริ่มตรงนี้ ที่ว่าจีบยากเป็นเพราะหนุ่มเนิร์ดมักจะไม่สนใจโลกภายนอกหนังสือ จะดึงดูดความสนใจจากหนุ่มประเภทนี้ได้ เราต้องทำตัวให้น่าสนใจกว่าหนังสือตรงหน้าเค้า เริ่มแรกเลยนะกับการจีบหนุ่มเนิร์ด เราก็ต้องเข้าไปทำความรู้จักเค้าในแหล่งที่สิงสถิตของเค้าก่อน’ คำสอนของพี่ชายคนสวยดังก้องในหัว
ขาเรียวบางภายใต้กางเกงขาเดฟรัดรูปค่อยๆเดินทอดน่องเข้ามาในห้องสมุดสถานที่นัดหมาย นัยน์ตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆห้องที่มีคนอยู่บางตา สายตาไปสะดุดที่หนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่ตรงหน้าชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่ แม้จะเห็นเพียงด้านหลังก็รู้ว่าคนตรงหน้านี่ต้องหล่อแน่นอน อึนฮยอกค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆแผ่นหลังกว้างนั้นช้าๆพลางเช็คให้แน่ใจถึงลักษณะที่พี่ฮีชอลเขียนให้
‘เชิ้ตแขนสั้นกับกางเกงขายาวสีน้ำตาลกับแว่นตาสีดำ นั่งอ่านหนังสือบริเวณหลังตู้หนังสือใหญ่’ อึนฮยอกทวนรายละเอียดของบุคคลลึกลับอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆโต๊ะที่คนร่างสูงนั่งอยู่พลางทำทีเป็นหาหนังสือ
‘ข้อที่ 1 แกล้งทำทีเป็นหยิบหนังสือจากชั้นสูงๆ ถ้าเค้าลุกมาช่วยเราก็ถือว่าเค้าผ่านคุณสมบัติ 1 ข้อ’ อึนฮยอกคิดในใจถึงสิ่งที่เรียนมา พลางเดินไปหยุดยืนด้านหลังพ่อหนุ่มร่างใหญ่ ขาเรียวเขย่งสุดเท้า มือบางพยายามคว้าหนังสือจากชั้นสูง
“อ่า....อยู่สูงจังเลยน้า หยิบไม่ถึง อึ๊บ!!” ร่างบางพึมพำเบาๆให้คนที่นั่งอยู่ได้ยิน พลางลอบสังเกตอาการของอีกคนว่าจะลุกมาช่วยตนมั้ย
“อ๊า...อีกนิดนึง จะถึงแล้ว ...ว๊ายยยย!!!” ร่างบางร้องลั่นเมื่อหนังสืออีกสองสามเล่มที่หนายังกับคัมภีร์ถูกวางบนชั้นอย่างหมิ่นเหม่กำลังจะตกลงมากระแทกหัว ร่างบางหลับตาปี๋พลางเตรียมตัวน็อกคาชั้นหนังสือ
“อยากได้เล่มนี้อหรอครับ” เสียงทุ้มนุ่มก้มลงกระซิบข้างหูของคนร่างบาง อึนฮยอกค่อยๆลืมตาขึ้นมา ดวงตาคู่สวยปะทะเข้ากับสายตาคมภายใต้กรอบแว่นหนาที่ไร้เลนส์ หัวใจเต้นโครมครามราวกับจะระเบิดเมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รินรดอยู่ที่ต้นคอ ร่างบางก้มหน้างุดๆหลบสายตาอีกคนด้วยความเอียงอาย
“ขอบคุณฮะที่ช่วยฮยอกไว้” เอ่ยขอบคุณอีกคนเบาๆ ใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีชมพูระเรื่อเมื่อรู้สึกได้ถึงมือหนาที่ยังคงประคองเอวของตนเอาไว้ไม่ปล่อย ร่างบางขยับตัวเล็กน้อย คนร่างสูงคงจะเพิ่งรู้สึกตัว จึงปล่อยมือออกจากเอวบาง ชายหนุ่มโค้งให้อีกคนเป็นการขอโทษที่ล่วงเกิน ก่อนจะกลับไปนั่งอ่านหนังสือที่เดิม
‘ทำบ้าอะไรเนี่ยฮยอก โหยยย โอกาสดีแล้วแท้ๆ ไม่น่าให้เค้าปล่อยเลย // น้อยๆหน่อยฮยอก เจอหนุ่มเข้าหน่อยละระริกระรี้ลืมพี่หมอเชียวนะ’ สองเสียงในกายบางเถียงกันไปมาจนร่างบางรู้สึกวิงเวียนเสียเหลือเกิน
“ขอโทษนะฮะ ฮยอกขอนั่งด้วยคนได้มั้ยฮะ” มือบางหยิบหนังสือสองสามเล่มจากชั้นมาวางบนโต๊ะพลางขออีกคนนั่งด้วย ร่างบางเอียงคอถามอย่างน่ารัก แต่หนุ่มแว่นหนาคนนั้นกลับจ้องมองแต่หนังสือ พลางส่งเสียงครางตอบรับในลำคอเพียงเท่านั้น อึนฮยอกรู้สึกขัดใจนักที่คนร่างสูงไม่มีทีท่าว่าจะสนใจตนแบบเมื่อครู่อีก
“มาอ่านหนังสือที่นี่บ่อยหรอฮะ ฮยอกก็ชอบมาอ่านหนังสือที่นี่ ...เอ๊ะ ชอบหนังสือแนวนี้ด้วยหรอฮะ ชอบเหมือนกันเลย เล่มนี้ฮยอกอ่านมา 108 ตลบแล้วล่ะฮะ จำได้แทบทุกบรรทัดเลย” ยิ้มหวานพลางชวนอีกคนคุยเพื่อนทำลายบรรยากาศกระอักกระอ่วนที่เป็นอยู่ ไอที่พูดมานี่โกหกทั้งนั้น ห้องสมุดหรอ ....เรียนมายันปี 3 เพิ่วเคยเหยียบเข้ามานี่ละ เกือบลืมไปแล้วว่ามหาลัยมีห้องสมุด อย่าถามเนื้อในหนังสือขึ้นมาเชียวนะ อย่าว่าแต่ชอบเลย หนังสือเนี้ยเพิ่งเคยแตะเป็นครั้งแรก หนายังกับคัมภีร์ อ่านจบก็บ้าแล้ว
“ครับ” เอ่ยรับคำคนร่างบางเพียงสั้นๆ สายตายังคงจดจ้องที่หน้าหนังสืออย่างตั้งใจ ใบหน้าสวยยู่หน้าอย่างขัดใจที่อีกคนไม่สนใจตน ทั้งๆที่เสนอตัวชวนคุยขนาดนี้แล้วเชียว
“ถ้าไม่รังเกียจ คราวน่าขอมานั่งอ่านด้วยคนได้มั้ยฮะ หาคนอ่านหนังสือแนวนี้เหมือนกันยากมากเลย เผื่อมีอะไรสนุกๆเราจะได้มาเปลี่ยนกัน ดีมั้ยฮะ ...อ่า เรายังไม่รู้จักกันเลยนี่เนอะ ลีอึนฮยอก นักศึกษาปี 3 เอกบัญชี ยินดีที่ได้รู้จักฮะ” ว่าพลางยื่นมือไปตรงหน้า วางคั่นระหว่างใบหน้าหล่อที่แม้หันข้างยังดูดีกับหนังสือเล่มหนาที่ดูแล้วไม่น่ามีอะไรน่าดึงดูดมากกว่าตนแม้แต่น้อย ร่างสูงนิ่งไปสักพัก บรรยากาศภายในห้องสมุดเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของทั้งสองคน อึนฮยอกได้แต่ลุ้นว่าคนร่างสูงจะรับไมตรีที่ตนส่งให้หรือไม่
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเชว ซีวอนครับ” ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มหวานที่ปรากฏบนใบหน้า อึนฮยอกถึงกับตาค้างเมื่อได้เห็นหน้าคนร่างสูงชัดๆ
“พี่หมอ!!!!” ร้องเรียกอย่างตกใจระคนดีใจ เรียวปากบางเผยรอยยิ้มกว้างเมื่อคนที่ตนคิดถึงมานั่งอยู่ตรงหน้า
“ชู่ววว!!! นี่มันห้องสมุดนะครับน้องฮยอก เดี๋ยวก็โดนดุเอาหรอกครับ” เอ่ยเตือนอีกคนเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่รอบๆห้องหันมองคนทั้งคู่ อึนฮยอกลดเสียงลงแต่ยังไม่คลายความตื่นเต้น
“ฮยอกคิดว่าวันนี้จะไม่เจอพี่หมอซะแล้ว ดีใจจังเลย แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ละฮะ จริงๆแล้วต้องเป็นคนที่พี่ฮีชอลส่งมาไม่ใช่หรอฮะ”
“ก็พี่หมอไงครับ บอกแล้วว่าภาคปฏิบัติพี่หมอกับพี่ฮันเป็นคนสอนเราไงครับ แล้ววันนี้เราก็ทำได้ดีด้วย พี่ให้ผ่าน!!!” มือหนาขยี้ผมคนตัวเล็กที่ยิ้มซะจนตาหยีอย่างเอ็นดู
“เย้ๆๆ ...ถ้ารู้ว่าเป็นพี่หมอ ฮยอกว่าฮยอกจะทำได้ดีกว่าเมื่อกี้นะฮะ” อึนฮยอกดูจะกระดี๊กระด๊ากว่าเดิมเป็น 10 เท่า
“ไม่รู้สิครับถึงจะดี จะได้รู้ว่าเราทำได้ดีจริงๆหรือเปล่า คราวน่าถ้าต้องเรียนนอกพื้นที่แบบนี้อีกก็ให้ทำเป็นว่าเราไม่รู้จักกันนะครับ ให้คิดว่าพี่เป็นคนที่ไม่รู้จักแล้วเราต้องมาจีบ ในแต่ละวันพี่จะเก็บแต้มของเราว่าผ่านที่คะแนนเท่าไร แล้ววันสุดท้ายเราจะมาประเมินแล้วเลือกผู้ชายในสเปคอีกครั้ง แล้วน้องฮยอกก็จะได้ลองสถานการณ์จริงเลย” ร่างสูงอธิบายในส่วนของการเรียนคอร์สเพิ่มเติมนี้ให้ร่างบางรู้
“ถึงวันนี้น้องฮยอกจะผ่านแต่พี่ก็ให้คะแนนแค่ 7 เต็ม 10 เท่านั้นนะครับ สิ่งที่น้องฮยอกพลาดคือการโกหกพี่หมอ”
“โกหก...ฮยอกโกหกอะไรหรอฮะ”เอ่ยถามอีกคนอย่างงงๆว่าตนไปโกหกอะไรไว้
“ก็นั่งฮยอกโกหกว่ามาที่ห้องสมุดบ่อย แถมยังบอกว่าชอบอ่านหนังสือแนวนี้แล้วก็อ่านมาแล้ว 108 ตลบอีกด้วย” ว่าพลางเขกหัวอีกคนเบาๆเป็นการทำโทษที่โกหก
“พี่หมอรู้ได้ไงฮะว่าฮยอกโกหก ฮยอกอาจจะพูดจริงก็ได้นะฮะ”
“เพราะแม้แต่ทางมาห้องสมุดเรายังไม่รู้เลย พี่มองเราตั้งแต่ออกจากอาคารเรียนแล้ว เห็นเดินถามทางมาห้องสมุดตลอดทางเลย แล้วที่พี่รู้ว่าเราโกหกว่าอ่านหนังสือเป็นเพราะว่า หนังสือเล่มนี้ไม่มีตัวหนังสือ นี่เป็นสมุดบันทึกเก่าๆที่เค้าเอามาโชว์เฉยๆ พี่ไปขอยืมมาทดสอบเราเท่านั้นเอง” อธิบายถึงเหตุผลที่จับไต๋คนร่างบางได้ ร่างบางได้แต่ทำหน้าสลดที่โดนอีกคนจับได้
“ดีที่วันนี้เป็นพี่ที่นั่งอยู่ตรงนี้ ถ้าจริงๆแล้วเป็นคนที่น้องฮยอกต้องเข้าไปจีบ เกิดเค้าถามขึ้นมาละครับว่าเนื้อหาเป็นยังไง ถ้าน้องฮยอกตอบไม่ได้บทสนทนาจะถูกตัดทันทีแล้วเค้าก็จะมองเราในแง่ลบ้วยทันทีเหมือนกัน จำไว้เป็นบทเรียนนะครับ” ร่างสูงยิ้มบางๆให้อีกคนที่โดนดุ
”ถือซะว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก พี่แค่สอนให้เรารู้ พี่จะไม่บอกฮีชอลแล้วกัน เราจะได้ไม่โดนดุอีก เป็นความลับของเราสองคน ดีมั้ยครับ” มือหนาประคองใบหน้าหวานให้มองหน้าตนพลางจ้องมองดวงตาคู่สวยตรงหน้า นิ้วเรียวยื่นไปให้แทนคำสัญญาให้กับคนที่นั่งหน้าเศร้าอยู่บนเก้าอี้
“จริงนะฮะ พี่หมอจะไม่บอกพี่ฮีชอลใช่มั้ยฮะ เก็บเป็นความลับของเรานะ ^^” พอบอกว่าจะไม่บอกฮีชอลให้อึนฮยอกต้องโดนดุอีก ร่างบางก็ค่อยยิ้มออก นิ้วเล็กเกี่ยวกับนิ้วของอีกคนแทนคำสัญญาในการเก็บความลับของทั้งคู่
“น่ารักมากครับคนเก่ง เอาเป็นว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อน นี่ก็เย็นแล้ว เดี๋ยวห้องสมุดจะปิดแล้ว เราไปหาอะไรทานแล้วพี่ไปส่งที่บ้านนะครับ ^^” ว่าพลางหยิบหนังสือไปเก็บเข้าชั้น ก่อนจะจูงมือบางให้เดินไปขึ้นรถแล้วขับพากันออกไป
นี่เป็นแค่บทเรียนแรกที่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ดูท่าว่าบทเรียนนี้ยังคงสร้างความวุ่นวายได้อีกนาน และคนไข้คงไม่อยากจบหลักสูตรนี้ง่ายๆหรอกนะ จริงมั้ย อึนฮยอก
เอาพ่อหนุ่มเนิร์ดมาฝากกันด้วย หล่อปะละ ไม่หลงได้ยังไงกัน
Talk: จบเสียที ที่ต้องทนทรมาน~~ แต่งเรื่องนี้ใช้พลังงานอย่างมากเลยจริงๆ 3 วันกับการปลุกปล้ำกับมัน ช่างยากเย็นเหลือเกินค่ะ ตอนนี้ก็เบาๆใสๆกันไปนะคะ อ่านคลายเครียดพักสมองเนอะ ขอโทษที่มาอัพช้ามากกกก หายไปเลยยยยย เพราะติดสอบ สอบเสร็จปีใหม่ก็ปั่นฟิคประกวดบ้านวอนฮยอกแล้วก็ปั่นฟิคโปรเจคทำบุญด้วย เลยทำให้เพิ่งได้มาแตะเรื่องนี้ ใจจริงอยากปั่นให้เสร็จทันวันงานฟิค แต่เริ่มไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้มั้ย จบเรื่องนี้ไรเตอร์มีโปรเจคใหม่ต่อเลย ใจไปเรื่องนู้นแล้วแต่มือยังคงพิมฟิคเรื่องนี้ต่อไป อยากถามทุกคนว่ามีใครอยากได้เรื่องนี้มั้ยคะ แล้วอยากให้เอาไปขายงานฟิคไหม ท่ามีคนอยากได้ ไรเตอร์จะพยายามเร่งปั่นสุดกำลังให้มันทันให้ได้ แต่ถ้าไม่มีคนอยากได้มัน ไรเตอร์อาจจะแต่งเอื่อยๆต่อไป 5555 เอาเป็นว่าอยู่ที่การตัดสินใจของรีดเดอร์นะคะ ถ้ายังมีคนตามอยุ่ไรเตอร์ก็จะแต่งต่อค่ะ
ปล ไรเตอร์เปิดเพจแฟนฟิคแล้วนะคะ เผื่อใครยังไม่ทราบ เข้าไปกดไลค์เพจแล้วสามารถทวงฟิคไรเตอร์ได้นะคะ ตามไปสูบรูปสูบคลิปได้นะ
คลิก
ฝากอีก 2 โปรเจคที่ไรเตอร์มีส่วนร่วมด้วย
ฟิคประกวด
Used to be love แค่คนเคยรัก
คลิก
เข้าไปอ่านกันได้ที่ลิ้งด้านบนนะคะ ถ้าอ่านแล้วถูกใจรบกวนโหวตให้ไรเตอร์ด้วยนะคะ โดยสามารถโหวตได้ตามวิธีการด้านล่าง
คลิก พิมชื่อเรื่องลงในคอมเม้นนี้ค่ะ ใครไม่มียูสก็สามารถโหวตได้นะคะ คนที่โหวตมีสิทธิ์ได้รับของรางวัลด้วย เข้าไปอ่านไปโหวตกันหน่อยนะจ้ะ
ปิดโหวต 4/01/13 ตอนเที่ยงคืนนี้แล้ว วู้วๆๆๆ
ฟิคโปรเจค Pour Elle รวมตัวกันของ 6 นักเขียน เป็นฟิคสั้นวอนฮยอก คิเฮนะคะ ร่วมกันทำบุญรบปีใหม่เนอะ จะได้เฮงๆนะคะ
คลิก
ฝากติดตามและให้กำลังใจผลงานของไรเตอร์กันต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนมากๆที่ไม่ทิ้งกัน รักทุกคนเสมอค่ะ เดี๋ยวขอเวลาปั่นฟิคโปรเจคเสร็จก่อนแล้วจะมาลุยเรื่องนี้ให้จบนะคะ ^^ รอกันนิดนึงน้าาาา~~~
ความคิดเห็น