ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF Where's the love I can find? ...รักแท้อยู่ไหนกัน

    ลำดับตอนที่ #11 : Trick 9 คนป่วย....

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 55


    อ่า ฮยอกอิจฉาทั้งสองคนจังเลยน้า ได้จุ๊บๆกับเนื้อคู่ด้วย ฮยอกไม่เห็นได้จุ๊บๆบ้าง สองคนขี้โกงอ่าแซงหน้าฮยอกไปได้ยังไงกัน จริงๆคู่ฮยอกมาก่อนทุกคู่เลยนะ ทำไมพี่หมอไม่จุ๊บๆฮยอกบ้างอ่าอึนฮยอกว่าอย่างงอนๆหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวของเพื่อนรักทั้ง 2 คนจบ

                    จะงอนทำไมละฮยอก พี่หมอดูแลดีซะขนาดนั้น แถมยังออกเงินซื้อของให้ พาไปแปลงโฉมให้สวยเช้งกะเด๊ะแบบฟรีๆอีกต่างหาก เป็นเค้านะ ดีใจตายเลย  ผู้ชายอะไร ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมเป็นหมออีก จะมาอิจฉาอะไรฉันกับด๊องกันละ ของฉันนี่เดินมาส่ง            แต่ฮยอกนี่ได้นั่ง Audi R8 ที่มีเพียง 333 คันบนโลกเท่านั้นนะ  แค่นี้ก็ฟินจะแย่แล้ว ฉันสิต้องอิจฉา ทำไมชีวิตนี้ไม่มีคนหล่อๆรวยๆแบบนี้มาจีบมั่งนะT^T” ซองมินเดินมาลงนั่งข้างๆเพื่อนพลางตัดพ้อชะตาชีวิตตัวเอง

                    มินนี่ก็มีน้องเสี่ยวเอ๋อไง ยังจะมาตัดพ้อต่อว่าชะตาชีวิตตัวเองทำไมอีกละดงเฮที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาร้องถามเพื่อนรักตัวอวบอย่างแซวๆ

                    ไม่ต้องมาแซวกันเลยนะดงเฮ ใช่สิ ใครจะเหมือนดงเฮละ เค้าจูบเข้าหน่อยก็เคลิ้มแล้วเถอะ ระวังเถอะไม่รักนวลสงวนตัว เดี๋ยวก็เสียสาว (?) ตอนยังเรียนไม่จบหรอก ชิ!!!” เมื่อโดนเพื่อนแซวมาแบบนี้มีหรือดงเฮจะยอมนิ่งเฉยได้

                    โด่ ว่าแต่เค้า ได้ข่าวตัวเองก็ไปจูบกับเค้ามาเหมือนกันไม่ใช่หรอจ้ะ     แม่กระต่ายขาว  เรื่องเสียสาวไม่ต้องห่วงหรอก อีกนานกว่าจะยอมเสียสาวเนี่ย  ฉันละห่วงแม่กระต่ายขาวมากกว่า กลัวจะโดนจับฟัดไปซะก่อนน่ะสิจ้ะดงเฮเถียงกลับทันควันเมื่อโดนเพื่อนกล่าวหาว่าตนไม่รักนวลสงวนตัว

                    เอาละๆๆ พอเลยๆ เลิกทะเลาะกันเถอะ ฮยอกหนีไปอาบน้ำดีกว่า ห้ามทัพทั้งสองคนที่ดูท่าจะก่อศึกย่อมๆใส่กันทางสายตา ก่อนจะลุกหนีไปอาบน้ำ ปล่อยให้เพื่อนทั้งสองคนทำสงครามทางสายตา ก่อนจะสะบัดหน้าหนีใส่กัน

                    ทำอะไรน่ะด๊อง?ซองมินร้องถามเพื่อน มือบางเช็ดผมที่เปียกหลังจากที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ พลางมองเพื่อนอย่างสงสัย อึนฮยอกเองก็ปิดหนังสือในมือลงพลางหันไปสนใจเพื่อนซี้อีกคนที่นั่งกางหนังสือบนหมอนใบใหญ่ ก่อนจะหลับตาท่องอะไรงึมงำๆอยู่คนเดียว 

                    นั่นสิ เห็นพึมพำๆอะไรอยู่นานสองนานละ ทำพิธีกรรมอะไรอีกละ อึนฮยอกเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน เค้าแทบไม่มีสมาธิอ่านหนังสือเลย เมื่อเสียงงึมงำๆที่จับใจความไม่ได้ของดงเฮดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท

                    คนที่ถูกกล่าวถึงได้แต่ยกมือทำท่าปางห้ามญาติใส่เพื่อนทั้งสองให้หยุดรบกวนการทำพิธีของตน ก่อนจะกลั้นใจท่องตามที่หนังสือบอกไว้ให้จบ....

                    ทำอะไรของเค้านะแม้จะโดนปางห้ามญาติไป แต่เหล่ามารผจญเนื้อคู่กลับยังไม่เลิกสงสัย อึนฮยอกและซองมินนำพาตัวเองมานั่งบนเตียงของดงเฮ     พลางชะเง้อคอมองหนังสือที่ถูกกางไว้

                    ทริคให้คนที่กำลังคิดถึงโทรมาหา......โหยยยย ด๊อง ทำไมมีของดีไม่แบ่งเพื่อนเลยอ่าอึนฮยอกเขย่าแขนเพื่อนที่นั่งทำสมาธิอยู่อย่างตื่นเต้นกับหนังสือตรงหน้า มือบางฉวยขึ้นมาอ่านวิธีอย่างอยากรู้

                    เฮ้อ!! เอาอีกแล้วฮยอก ทำลายพิธีฉันอีกแล้วนะดงเฮค่อยๆลืมตาขึ้นมามองเพื่อนพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

                    ง่า ฮยอกขอโทษนะด๊อง ฮยอกขอโทษๆๆๆเพิ่งรู้ตัวว่าตนมาทำลายพิธีของเพื่อนเข้าอีกแล้ว ปากเล็กๆนั้นจึงได้แต่เอ่ยขอโทษด้วยหน้าตารู้สึกผิดแบบสุดๆ

                    ช่างเถอะ ดูเหมือนมันจะไม่สำเร็จด้วยละ ลองมาหลายครั้ง กลั้นหายใจซะจะขาดใจตายแล้วยังไม่เห็นมีใครโทรมาเลย เฮ้อ~” ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ              เมื่อหนังสือที่ตนรักและบูชาอย่างยิ่งกลับทำแล้วไม่ได้ผลอย่างที่ใจหวังไว้

                    “ฮยอกอยากลองบ้างอ่า มันต้องทำไงอ่าด๊อง เผื่อมันได้ผล ลองด้วยกัน     อีกครั้งนะ ๆๆ น้า....เอ่ยอ้อนเพื่อนพลางเอาหัวถูแขนไปมา ดงเฮมองเพื่อนข้างกายที่วันนี้น่ารักกว่าวันก่อนๆมากอย่างเอ็นดู ก่อนจะยกมือขึ้นลูบผมสีบลอนด์สว่าง

                    โอเคๆ มาลองกันอีกครั้ง เผื่อมันจะได้ผลเนอะ ซองมินละ ลองด้วยกันมั้ยดงเฮหันไปถามเพื่อนอีกคนที่ทำหน้านิ่งตีเนียนนั่งเช็ดผมของตัวเอง

                    ไม่เอาละ ไม่มีคนที่คิดถึง ไม่รู้จะทำไปทำไม ยังไงก็ไม่มีคนโทรมาอยู่แล้วร่างอวบย้ายตูดกลับไปนั่งที่เตียงของตัวเอง ไม่สนใจสิ่งที่เพื่อนรักทั้งสองกำลังจะทำ

                    แล้วมันต้องทำยังไงอ่าด๊องทั้งสองคนละสายตาจากเพื่อนตัวอวบกลับมาสนใจหนังสือของตัวเองกันต่อ

                    ฮยอกอยากทำอันนี้หรอ ทริคให้เค้าโทรมาหานี่ใช่มั้ยถามเพื่อนพลางชี้ไปที่หน้าสมุดที่เปิดค้างไว้อยู่ ทริคที่เมื่อสักครู่ตัวเองได้ลองแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ          

                    ก่อนอื่นเลยนะ ฮยอกต้องหลับตาก่อน แล้วก็กลั้นหายใจ นานสามสิบนาที แล้วก็นึกถึงหน้าของเค้า แล้วเค้าก็จะโทรมาเอ่ยอธิบายให้เพื่อนฟัง

                    หลับตาใช่มั้ย....แล้วก็นึกถึงหน้า นับไปสามสิบนาที....หา!!!! สามสิบนาที เค้าจะไม่ขาดอากาศหายใจตายก่อนพี่หมอจะโทรมาหรอด๊องอึนฮยอกที่กำลังจะเริ่มนับเมื่อทวนคำบอกกับเพื่อนก็ถึงกับลืมตาโพลงอ้าปากค้าง

                    555 โทษทีๆ ด๊องอ่านผิด 30 วิ ต่างหากเล่า ลองดูใหม่สิฮยอกดงเฮเองก็เริ่มลุ้นว่าจะได้ผลจริงหรือเปล่า

                    เอานะ จับเวลาให้ด้วยนะ.....1...2...3..เมื่อให้สัญญาณกับเพื่อนเสร็จ อึนฮยอกก็หลับตาลงพลางนึกถึงหน้าคนที่คิดถึงไปพร้อมๆกับการนับของดงเฮ

                    28...29....ติ๊ดๆๆๆยังไม่ทันที่สามสิบจะหลุดออกมาจากปากบาง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขัดขึ้นมาเสียจนคนที่กลั้นหายใจอยู่ถึงกับสะดุ้ง รีบลืมตามารับโทรศัพท์แทบไม่ทันเลยทีเดียว

                    ฮะ...ฮัลโหล พี่หมอหรอฮะปากบางยกยิ้มกว้างอย่างดีใจ พลางเอ่ยทักคนปลายสายเสียงสั่นอย่างตื่นเต้น ดงเฮกับซองมินกระโดดเข้าไปเอาหูแนบโทรศัพท์ที่  อึนฮยอกถืออยู่อย่างอยากรู้

                    พี่หมออะไรของเราอึนฮยอก ไปเดทมาทีกลับมาเพ้อไปเลยหรือไง นี่พี่เองเสียงแหลมๆของฮีชอลดังทะลุโทรศัพท์มาทำลายความหวังของคนทั้งสามสะบั้น

                    อ่า ขอโทษฮะพี่ฮีชอล ฮยอกไม่ได้ดูชื่อก่อนรับสายน่ะฮะ พี่มีอะไรรึเปล่า

                    จริงๆไม่มีอะไรหรอก พี่แค่จะโทรมาถามเราว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง ซีวอนมันดูแลดีมั้ย แล้วไปเปลี่ยนอะไรมาบ้างร่างบางปลายสายรัวคำถามมาไม่ยั้ง

                    ใจเย็นนะฮะพี่ฮีชอล ฮยอกจะตอบพี่ทีละคำถามแล้วกันนะฮะ วันนี้พี่หมอดูแลฮยอกดีมากเลยฮะ ออกค่าใช้จ่ายให้หมดเลย แถมมารับมาส่งด้วยฮะ ส่วนที่ว่าเปลี่ยนพี่หมอจับไปเปลี่ยนทั้งตัวเลยฮะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฮยอกจะออกไปให้ดูตัวนะฮะ

                    “โอเค ค่อยหมดห่วงหน่อย พี่ก็ลุ้นแทบตาย ...เออ พรุ่งนี้เรามาหาพี่ที่บ้านนะ ไม่ต้องไปที่คลินิก เอาเป็นว่าแล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ อย่านอนดึกละเราพูดจบก็วางสายไปโดยไม่รออีกคนบอกลา ....นี่ละ พี่ฮีชอลเค้าล่ะ

                    โธ่ ไอเราก็นึกว่าเป็นพี่หมอ นึกว่าทริคนี้มันจะใช้ได้ผลซะอีกนะเนี่ยความหวังพังทลายลงพาลพาให้อารมณ์เสียตามไปด้วย

                    ติ๊ดๆๆๆเสียงมือถือเครื่องเดิมดังขึ้นจากเครื่องเดิม ทำให้คนทั้งสามตา  ลุกวาว ก่อนจะตรวจเช็คให้แน่ใจเสียก่อนจะได้ไม่ตื่นเต้นเสียเที่ยว

                    อ่า...ข้อความอ่า นึกว่าพี่หมอโทรมาซะอีกอึนฮยอกถึงกับเซ็งเมื่อการสั่นเตือนนั้นเป็นเพียงข้อความเข้าไม่ใช่ใครโทรเข้ามา

                    กรี๊ดดดดดด อ๊ายๆๆๆๆ ด๊อง มินนี่ ดูสิ อ๊ายยยย >////<” มือบางกดเปิดข้อความพลางกรีดร้องลั่นอย่างดีใจพลางส่งให้เพื่อนดู

                    เดทวันนี้สนุกมากๆเลย ขอบคุณที่ทำให้พี่หมอมีวันดีๆแบบนี้นะครับ           คืนนี้นอนหลับฝันดี อย่านอนดึกนะ แล้วเจอกันในฝันนะครับ คนไข้ของหมอ                     จากพี่หมอของคนไข้ ^^’ แม้เสียงจะไม่มาตามสาย แต่ตัวอักษรที่ส่งผ่านมาก็ทำเอาใจดวงน้อยเต้นแทบระเบิด ยิ้มหวานฉีกกว้างจนจะแหกไปถึงรูหูกันเลยทีเดียว

                    ดีใจด้วยนะฮยอก สำเร็จแล้ว !!! ทริคของด๊องก็ใช้ได้นะเนี่ย เย้ๆๆ ลูกรักของแม่ มาจุ๊บทีนึงมาลูกร้องดีใจกับเพื่อนพลางจุ๊บหนังสืออย่างรักใคร่

                    ฮยอกดีใจอ่า คืนนี้ต้องฝันดีแน่ๆเลย อ๊าย>///< ไม่เอาละ ไปนอนดีกว่า  พี่หมอรอฮยอกอยู่ในฝัน ฝันหวานนะทั้งสองคนว่าพลางเดินกลับไปล้มตัวลงนอน    ที่เตียง พลางปิดตาลงดิ่งสู่นิทราทันใด อ้อ...ก่อนนอนต้องตอบข้อความก่อนสิเนอะ

                    พี่หมอก็ทำให้วันนี้เป็นวันพิเศษของฮยอกเหมือนกันฮะ ฝันดีเช่นกันนะฮะ ฮยอกจะไปรอพี่หมอในฝันนะ  จากคนไข้ของพี่หมอสุดหล่อ ^^ ’        

                    สองเพื่อนปลากระต่ายได้แต่มองหน้าเพื่อนไก่ที่ชิ่งหนีไปนอนอย่างงงๆ  ก่อนจะหันกลับมาสนใจเจ้าหนังสือเล่มดังกล่าวกันอีกครั้ง

                    “งั้นเรามาลองกันอีกครั้ง ซองมินเอาด้วยปะหันไปถามเพื่อนก่อนจะได้การส่ายหัวกลับมาแทนคำตอบ ดงเฮจึงรวบรวมสมาธิ ก่อนจะทำตามทริคดังกล่าวอีกครั้ง

                    ....28....29.....30  ครืนนนน~~~” เมื่อนับมาจนสุดทาง เสียงมือถือก็สั่นเตือนขึ้นมาแทบจะทันที ดงเฮรีบคว้าโทรศัพท์ตัวเองมากดรับ แต่ก็ต้องหน้าแตก     เมื่อมือถือที่สั่นอยู่นั้นไม่ใช่เครื่องที่ตนถืออยู่ แต่กลับเป็นเครื่องของเพื่อนร่างอวบที่ปากบอกไม่สนใจ ไม่ได้ใส่ใจ แต่พอเพื่อนหลับตาปุ๊บก็แอบหลับตานับตามทันใด

                    ไหนบอกไม่ลองไงเล่าซองมิน แล้วไหงโทรศัพท์ถึงได้ดังขึ้นมาได้ละดงเฮกระเง้ากระงอดอย่างงอนๆ พลางทำท่าฟึดฟัดๆ กระโดดขึ้นเตียงพลางคลุมโปงนอน

                    ฮัลโหล.....ซองมินมองอาการเพื่อนขี้งอนของตัวเองอย่างขำๆ ก่อนจะกดรับสายเรียกเข้าที่โทรเข้ามา

                    นอนหรือยังครับซองมินปลายสายเอ่ยทักทันทีที่กดรับ

                    ว่าจะนอนแล้วละ นายโทรมามีอะไรหรอแหม อยู่ๆก็อยากนอนขึ้นทันใดเลยนะจ้ะแม่กระต่ายขาว ทีเมื่อกี้เห็นยังนั่งตากลมเช็ดผมอยู่เลยเถอะ

                    ว้า แย่จัง ผมนึกว่าวันนี้จะได้คุยกับกระต่ายขาวนานๆซะอีก แต่ไม่เป็นไร วันนี้กระต่ายขาวก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวจะเป็นไข้เอาได้

                    “ไข้อะไรกันละ แค่ออกไปเที่ยวแค่นี้จะเป็นไข้ได้ยังไง ไม่ได้ตากลมตากฝนซะหน่อยเถอะ

                    “เอ้า...ก็เป็นไข้ใจเพราะคิดถึงผมไงครับ อย่าแอบไปร้องไห้เพราะคิดถึงผมนะ ถ้าซองมินคิดถึงผมให้โทรมาหาผมได้ตลอด 24 ชม. แถมบริการดียิ่งกว่าเซเว่นด้วยครับ ร้านคยูฮยอนเดริเวอรี่ ยินดีบริการ ไม่ทราบจะรับขนมจีบเพิ่มมั้ยครับ

                    “นายนี่มัน.....เสี่ยวเข้าเส้นจริงๆเลยนายเสี่ยวเอ๋อ มาขายขนมจีบบ้าอะไรตอนจะเที่ยงคืนเนี่ย ไปหลับไปนอนเลยไป๊ปากก็ไล่เค้า แต่ไอที่ยิ้มซะหวานหยดนี่มันอะไรกันนะ ลีซองมิน

                    โธ่ อุตส่าห์มีโปรโมชั่นให้ขนาดนี้ ยังไม่รับอีก จริงๆที่มาขายขนมจีบตอนนี้เพราะผมหิวนี่นา

                    “นายหิวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับขายขนมจีบ....ไม่สิ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน

                    “ก็เห็นหน้าพี่ทีไร ผมอยากกินซาลาเปาทุกที ทั้งขาวทั้งอวบแบบนี้ ไม่ให้ขายขนมจีบให้ได้ยังกันละครับ

                    “บ้า >///<  หยุดเสี่ยวได้แล้ว ฉันจะอ้วก ไปนอนได้แล้วนายน่ะ ฉันก็จะนอนแล้วเหมือนกันตัดบทเพราะความเขินที่แล่นเป็นริ้วๆขึ้นมาที่หน้าหวาน  ทำเป็นว่าเค้าเสี่ยว แต่นิ้วเรียวนี่จิกผ้าปูที่นอนแน่นเลยเชียว

                    คร้าบบบบบ ไปนอนก็ได้ครับ แต่พี่อย่าเพิ่งวางนะ เดี๋ยวไอบอมมันขอคุยกับพี่ดงเฮต่ออ่า

                    “อือ ได้ๆ เดี๋ยวบอกดงเฮให้นะ บ๊าย บาย ฝันดี

                    “ครับ ฝันดีนะกระต่ายขาว ม๊วฟ!!!” เสียงจูบจากคนปลายสายดังลั่นออกมานอกโทรศัพท์ ทำเอาคนขี้อิจฉาต้องเลิ่กผ้าที่คลุมโปงออกมามองด้วยสายตาอิจฉา

                    ไม่ต้องมามองด้วยสายตาอย่างนั้นเลย จะคุยมั้ย โทรศัพท์น่ะซองมินหันไปมองสายตากึ่งอิจฉากึ่งแซวของเพื่อน ก็รีบแก้เขินด้วยการยื่นโทรศัพท์ให้คุยต่อ

                    ใครอ่า คยูหรอ ส่งมาให้เค้าทำไมอ่าดงเฮถามอย่างงงๆที่เพื่อนส่งมาให้

                    คิบอมเค้าขอคุยด้วยน่ะสิ จะคุยมั้ย ไม่คุยฉันกดวางนะร้องขู่จนดงเฮต้องรีบลนลานมาคว้าโทรศัพท์ไปทันที ซองมินมองเพื่อนอย่างขำๆ พลางล้มตัวลงนอน

                    “ฮัลโหล....คิบอมอ่า ทำไมเพิ่งโทรมา ฉันลองไปตั้งหลายครั้งแล้วนะประโยคชวนงงประโยคแรกที่ร่างบางพูด ทำเอาคิบอมถึงกับมึน

                    อ่า ขอโทษครับ ไม่รู้ว่านูนารออยู่ ผมอ่าอยากโทรใจจะขาด แต่ติดอยู่อย่างเดียวคิบอมเอ่ยขอโทษอีกคน พลางบอกถึงปัญหาที่ทำให้โทรมาช้า

                    ติดอะไร...ถ้านายกลัวว่าฉันจะไม่รับสาย นายไม่ต้องกลัวนะ ยังไงถ้านายโทรมาฉันก็รับแน่นอน จริงๆย้ำชัดๆให้มั่นใจว่าตัวเองนั้นตั้งตารอโทรศัพท์จากคนร่างสูงอย่างจริงจัง

                    จริงหรอครับ ผมดีใจนะเนี่ยที่นูนารอผม  แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงที่นูนาไม่รับสายผมหรอกครับ ปัญหามันอยู่ที่.....

                    “อยู่ที่อะไรหรอ ?”

                    “ปัญหามันอยู่ที่ผมไม่มีเบอร์นูนาต่างหากละครับ วันนี้ผมลืมขอ แหะๆ  เออ จริงด้วย เพิ่งนึกขึ้นได้ยังไม่แลกเบอร์กัน ก็ว่าทำไมทริคใช้ไม่ได้ผลซักที ไม่มีเบอร์แล้วเค้าจะโทรมาหาได้ยังไงเนอะ

                    ฉันก็ลืมไปว่ายังไม่ได้ให้เบอร์ นี่เบอร์ 010-xxx..........”

                    “ถ้างั้นพรุ่งนี้ผมโทรหานูนานะ นี่เครื่องไอคยูมัน มันเริ่มโวยวายละ เดี๋ยวเงินมันหมด แค่นี้นะครับนูนา หลับฝันดีนะ

                    “อื้อ ฝันหวานๆเหมือนกันนะคิบอม ^^ ” มือบางกดวางสาย ก่อนจะส่งคืนโทรศัพท์ให้ซองมินที่ล้มตัวลงนอนไปแล้ว

                    ลูกรักของแม่ แม่ภูมิใจในตัวหนูที่สุดเลยลูกว่าพลางกอดจูบหนังสือเล่มใหม่ที่เลื่อนขั้นมาเป็นหนังสือลูกรักเล่มโปรดซะแล้วตอนนี้

                    ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร อาจจะเป็นเพราะทริคจากหนังสือเล่มนี้อาจจะเป็นเพราะความบังเอิญที่เกิดขึ้น หรืออาจเป็นเพราะความคิดถึงของแต่ละคนที่มีให้กันที่ดลให้คนทั้ง 3 คู่โทรหากันในเวลาที่เหมาะเจาะแบบนี้ หรือสุดท้ายอาจจะเป็นเพราะพรหมลิขิตที่ขีดเขี่ยให้เนื้อคู่เค้าใจตรงกันก็เป็นได้           



                    และแล้วก็มาถึงเช้าวันใหม่ที่แสนหฤโหดสำหรับอึนฮยอก แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันอาทิตย์ที่ควรจะได้นอนตีพุงอยู่กับบ้าน แต่คนตัวบางกับถูกเรียกตัวมาเรียนมารยา เอ๊ย เรียนมารยาท กับอีทึกและฮีชอลในคอร์สติวเข้มแต่เช้า

                    เดินตรงๆสิฮยอก ถ้าทำหนังสือหล่นพี่จะให้เรามาเดินใหม่ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยเชียวฮีชอลเอ่ยขู่ เมื่อน้องชายตัวดีเดินแบบนี้มาจะ 10 รอบแล้วยังทรงตัวไม่ได้ซักที อึนฮยอกเดินประคองหนังสือที่วางแหมะอยู่บนหัวอย่างหวาดระแวงด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ จนฮีชอลถึงกับถอนหายใจกับท่าทางของน้อง

                    โอ๊ย พี่จะบ้า แล้วนี่อีทึกเมื่อไรจะมาช่วยกันดูน้องเนี่ย ถ้าให้พี่สอนเราเอง   พี่คงได้อกแตกตายแน่ๆเลยอึนฮยอกเอ่ยถึงเพื่อนอีกคนแล้วก็นึกหงุดหงิด นัดกันสอนน้องตั้งแต่เช้า ป่านนี้ยังไม่มาอีกเนี่ย

                    ตู๊ดดดด ~~  ฮัลโหล มือบางหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกมากดโทรออก รอซักพักเสียงปลายสายก็เอ่ยตอบกลับมา ฮีชอลที่กำลังจะอ้าปากด่าเพื่อนสนิทของตัวเองก็ต้องหุบปากฉับลงพลางจ้องมองหน้าจอมือถืออีกครั้งว่าตนต่อสายถูกหรือเปล่า

                    ฮัลโหล...นั่นใครน่ะ แล้วอีทึกอยู่ที่ไหนเมื่อเช็คจนแน่ใจแล้วว่าเบอร์ที่ตนโทรออกเป็นเบอร์ของอีทึกแน่ๆแล้ว ร่างบางจึงกรอกเสียงถามกลับไปตามสาย เสียงทุ้มของหนุ่มปลายสายเงียบไปซักพักก่อนจะเอ่ยตอบกลับมา

                    เอ่อ...ขอโทษนะครับที่ถือวิสาสะรับโทรศัพท์แทนเจ้าของเครื่อง แต่ตอนนี้คุณครูเค้าไม่สามารถมารับสายได้น่ะครับ ไว้คุณครูสามารถรับสายได้แล้วผมจะให้เค้าโทรกลับไปนะครับชายหนุ่มตอบกลับมาด้วยเสียงนิ่งๆอย่างสุภาพ จนฮีชอลอดสงสัยไม่ได้ว่าคนที่ตัวเองคุยอยู่ด้วยนี่เป็นใคร แล้วทำไมต้องมารับโทรศัพท์แทนอีทึก

                    “เดี๋ยวๆๆคุณ แล้วนี่อีทึกไปไหน ทำไมถึงมารับไม่ได้ละ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน

                    “เอ่อ...ตอนนี้คุณครูอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะครับ กำลังให้คุณหมอเช็คร่างกายอยู่ ท่ายังไงเดี๋ยวให้คุณครูโทรกลับนะครับ แค่นี้ก่อนนะครับไม่รอคำตอบจากคนร่างบาง ปลายสายก็ถูกตัดไป ฮีชอลมองโทรศัพท์อย่างเป็นกังวลเมื่อได้ยินว่าเพื่อนของตนอยู่ที่โรงพยาบาล

                    เกิดอะไรขึ้นหรอฮะพี่ฮีชอล แล้วสรุปพี่อีทึกมามั้ยฮะเห็นพี่ชายเงียบๆไป อึนฮยอกเลยถือโอกาสเอาหนังสือลงจากหัวพลางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้างๆฮีชอล     แอ๊บเนียนพักเหนื่อยหน่อยแล้วกัน เดินตัวตรงแน่วกระดูกสันหลังตั้งฉากกับพื้นโลกมานานมากแล้ว ปวดจะแย่ !!

                    อีทึกน่ะสิ เห็นว่าอยู่โรงพยาบาล ไม่รู้เป็นอะไร เป็นมากหรือเปล่าก็ไม่รู้ เฮ้อ แล้วฉันจะติดต่อเพื่อนฉันยังไงละเนี่ย อีตาบ้าที่รับสายนั่นก็ไม่ยอมบอกอะไรสักอย่างฮีชอลบ่นกระปอดกระแปดตอบกลับมา ก่อนจะหันมามองน้องด้วยสายตาดุๆ

                    พี่บอกให้เราเอาหนังสือลงจากหัวเมื่อไรกันอึนฮยอก ไม่ต้องมาแอ๊บเนียนเลยนะเรา

                    “โธ่ พี่ฮีชอลอ่า ก็ฮยอกเมื่อยนี่ฮะ พักแปปนึงนะฮะ ไว้รู้ข่าวพี่อีทึกแล้วเราค่อยฝึกกันต่อ ฮยอกก็เป็นห่วงพี่เค้าเหมือนกันนี่ฮะ ไม่มีกะจิตกะใจจะฝึกต่อหรอกฮะ นะๆตากลมโตเอ่ยอ้อนพลางส่งเสียงร้องอย่างเว้าวอน จนฮีชอลอดใจอ่อนไม่ได้

                    โอเคๆ พักก่อนก็ได้ ไว้รู้ข่าวอีทึกแล้วเรามาฝึกกันต่อแล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปโทรหาพ่อเถิกศักดิ์ของพี่ก่อน เผื่ออีทึกจะอยู่ที่โรงพยาบาลจะได้ให้ไปช่วยดูว่าพลางเดินแยกตัวออกไป ทิ้งให้อึนฮยอกนั่งทุบไหล่บีบนวดกายบางของตัวเองเบาๆด้วยความเมื่อยขบ

                    อ๊ะ ฮัน เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ เหมือนอีทึกจะโทรกลับมาแล้วละ....สัญญาณเตือนสายเข้าแทรกเข้ามาขณะที่ฮีชอลกำลังคุยอยู่กับคนรัก

                    ฮัลโหล อีทึก นายอยู่ไหน เป็นอะไรมากหรือเปล่า แล้วให้ใครมารับสาย แล้วนี่เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง ไปโรงพยาบาลทำไมเนี่ย แล้วทำไมไม่โทรมาบอก เมื่อกดรับสายฮีชอลก็ยิงคำถามใส่ปลายสายเสียชุดใหญ่

                    โอ๊ยยย ใจเย็นๆสิฮีชอล ถามมาขนาดนี้ฉันจะไปตอบทันได้ไงเล่า ตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ ฉันขอโทษด้วยที่วันนี้ไปสอน     อึนฮยอกตามที่เรานัดกันไว้ไม่ได้นะ ไว้เดี๋ยวฉันกลับจากโรงพยาบาลเมื่อไรจะไปช่วยนะ

                    “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันสอนน้องเองก็ได้ ว่าแต่นายเถอะไปทำอะไรมา ทำไมซุ่มซ่ามเกิดอุบัติเหตุได้ละ แล้วเจ็บตรงไหนมั้ยแม้ปากจะต่อว่าอีกคน แต่ก็แฝงไปด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเพื่อนไม่น้อยเลย

                    เรื่องมันยาวน่ะ เดี๋ยวไว้เจอกันจะเล่าให้ฟังนะ ตอนนี้ก็ยังเจ็บๆแขนอยู่นิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวก็คงหายดี

                    “อือ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไว้เสร็จจากสอนอึนฮยอกแล้วฉันจะไปเยี่ยมแล้วกัน นายก็พักสักหน่อยละ จะได้หายไวๆนะบอกเพื่อนด้วยความเป็นห่วงพลางร่ำลากัน

                    พี่อีทึกเป็นยังไงบ้างฮะ เค้าเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่ยอมมาละฮะ”  เจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาเอ่ยถามพี่ชายร่างบางที่เดินกลับมาหลังจากหายไปคุยโทรศัพท์เสียนาน

                    อีทึกเค้าเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะเลยมาไม่ได้ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลอึนฮยอกตาโตขึ้นทันใดเมื่อรู้ว่าพี่ชายอีกคนของเค้าอยู่ที่โรงพยาบาล

                    แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่าฮะ เราไปเยี่ยมพี่อีทึกกันดีมั้ยฮะพี่ฮีชอล

                “ไม่ต้องหรอก เราน่ะเรียนกับพี่ให้จบส่วนของวันนี้เถอะ สอนเสร็จพี่จะไปเยี่ยมอีทึกแล้วเนี่ย

              “ไม่เรียนแล้วได้มั้ยฮะ ฮยอกเหนื่อยแล้วอ่า ปวดหลังจะแย่ เกร็งจนกระดูกสันหลังจะเป็นตะคริวแล้วฮะเนี่ยว่าพลางเอามือทุบหลังตัวเองเพื่อให้คลายความปวดเมื่อยลงบ้าง

                    ไม่ต้องมาบ่ายเบี่ยงเลย ไม่หัดเดินให้ตรงๆ เวลาไปไหนมาไหนแล้วเินหลังคร่อมๆไม่อายคนอื่นเค้าหรอ หน้าตาก็ออกจะสละสลวยต่อว่าน้องที่ทำปากยื่นปากยาวอย่างงอนๆ ก่อนจะหยิบหนังสือที่น้องใช้วางบนหัวไปเก็บที่ชั้นวางหนังสือตามเดิม

                    เดี๋ยววันนี้เราเปลี่ยนไปเรียนอย่างอื่นดีกว่า เรื่องบุคลิกกับมารยาทไว้ให้อีทึกหายดีแล้วมาสอนเรา พี่ไม่ถนัดเรื่องมารยาท แต่ถ้าเรื่องมารยาน่ะพี่เชี่ยวมาก เรียนมารยา 108 เล่มเกวียนของพี่ก่อนแล้วกันนะว่าพลางเปิดพระคัมภีร์มารยา 108 เล่มเกวียนมาสอนน้องชาย

                    เราชอบผู้ชายแบบไหนอึนฮยอกปากบางเอ่ยถามน้อง สายตายังคงจดจ้องหนังสือเล่มหนาตรงหน้าเพื่อหาผู้ชายที่ตรงกับสเปคของน้อง

                    อ่า...ไม่รู้สิฮะ ปกติใครเข้ามาหาก็เออออไปกับเค้าหมด ไม่เคยได้คิดว่าตัวเองชอบแบบไหนน่ะฮะ แล้วผู้ชายแต่ละแบบเค้าต่างกันหรอฮะ ฮยอกก็เห็นแต่ละคนก็เหมือนๆกันทุกคนจากประสบการณ์เปลี่ยนผู้ชายเหมือนเปลี่ยนผ้าอนามัยของอึนฮยอกนั้น ทำให้ร่างบางมีความคิดที่ว่าผู้ชายก็ไม่ต่างกันเท่าไรนัก แต่ละคนก็หลงเพียงแค่หน้าตาและรูปร่างของตนเท่านั้นละ

                    อย่าเหมารวมแบบนั้นสิ ผู้ชายดีๆก็มีอยู่เยอะ เพียงแต่ต้องเอาพลั่วมาขุดหาเท่านั้นละ เอางี้นะเดี๋ยวพี่จะแบ่งผู้ชายให้เราดูคร่าว ประเภทของผู้ชายหลักๆก็จะมี พวกบ้ากีฬา หนอนหนังสือ คาสโนว่า พวกเย็นชา พวกซาดิสโหดๆ ถ้าแบ่งตามสถานะก็อาจจะเป็นเพื่อนสนิท รุ่นพี่ รุ่นน้อง อะไรแบบนี้ เราชอบแบบไหนละอธิบายแยกประเภทให้น้องฟังคร่าวๆแต่ดูเหมือนคนตัวบางของเราจะยังไม่ค่อยเก็ทเท่าไรนัก

                    เอางี้แล้วกันนะ พี่จะสอนวิธีจีบหนุ่มแต่ละแบบให้กับเรา แล้วเดี๋ยวจะจัดหนุ่มแต่ละแบบมาให้เราลอง ชอบแบบไหนแล้วมาบอกพี่ โอเคมั้ยฮีชอลเสนอแนวทางให้น้องได้ลองศึกษาเหล่าผู้ชายให้ถ่องแท้ จะได้ไม่โดนหลอกจนต้องมาร้องไห้ขี้มูกโป่งแบบนี้อีก

                    ฮะ เอาแบบนั้นก็ได้ฮะ แล้วพี่ฮีชอลจะไปหาหนุ่มๆแต่ละแบบมาจากไหนละฮะถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นว่าผู้ชายรอบๆตัวของพี่ชาย นอกจากพี่ฮันที่เป็นแฟนแล้วก็เห็นแต่จะมีเพียงพี่หมอเท่านั้น

                    เดี๋ยวพี่จัดให้เองละ แต่จำไว้นะอึนฮยอก ให้เล่นไปตามบทที่คนของพี่พาเราไป ทำตามที่พี่สอนแล้วทุกอย่างจะดีเอง โอเคนะอึนฮยอกพยักหน้ารับคำพี่ชายพลางส่งยิ้มบางๆให้

                    งั้นเรามาเริ่มกันที่หนุ่มเนิร์ดกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะส่งหนุ่มเนิร์ดของพี่ไปหาเราที่มหาลัย พรุ่งนี้ไม่ต้องไปหาพี่ที่คลินิกนะ พี่จะให้เราเรียนคอร์สนอกสถานที่บ้าง เค้าเรียกออกภาคสนามจ้ะ ^^ หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วทั้งสองหนุ่มร่างบางก็จมดิ่งลงสู่บทเรียนบทใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่ช้านี้....

                  


                     กลับมาที่ผู้ป่วยหมาดๆของเรากันบ้าง มาดูกันว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันนะ ทำไมอีทึกถึงไปอยู่โรงพยาบาลได้ แล้วผู้ชายที่รับโทรศัพท์แทนคนนั้นเป็นใครกัน

                    ย้อนกลับไปเมื่อตอนพระอาทิตย์ยามเช้าเพิ่งโผล่มาพ้นขอบฟ้าของวันหยุดสุดสัปดาห์

                    คนร่างบางที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีซีดขายาวที่แนบกับเรียวขาสวยค่อยๆเดินเอื่อยๆออกมาจากโบสถ์ที่เพิ่งเข้าไปสวดภาวนามาตอนเช้าตรู่       มือบางยกขึ้นดูนาฬิกาที่บ่งบอกเวลา 7 โมงเช้า วันนี้เค้ามีนัดกับเพื่อนซี้อย่างฮีชอลตอนือบๆเที่ยง ยังคงเหลือเวลาอีกมากมายที่ตัวเค้าไม่รู้จะทำอะไรในช่วงเวลาที่ว่างนี้ดี ร่างบางเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่รู้ตัวขาเรียวสวยนั้นก็ตรงมาหยุดที่สวนสาธารณะที่ประจำที่เค้าเคยมาอยู่บ่อยครั้ง ร่างบางเดินเข้าไปนั่งที่ม้านั่งตัวเดิมกับบรรยากาศเดิมๆที่เค้าคิดถึง

                    นานแล้วนะที่ไม่ได้มาที่นี่ ....คิดถึงนะเสียงแผ่วเอ่ยไปตามสายลมที่พัดพาความคิดถึงให้ลอยออกไป ตาคู่สวยจ้องมองรอบๆสวนที่มีดอกไม้นานาชนิดเรียงรายอยู่โดยรอบ ผู้คนที่มีอยู่บางตาไม่ได้ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเงียบเหงาเลยแม้แต่น้อย น่าประหลาดที่มันกลับดูอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

                    คุณครูคะ!!!!!” ในขณะที่นั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นความคิดของคนสวยก็ต้องสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงหวานๆของเด็กน้อยร้องเรียก อีทึกเงยหน้ามองเด็กน้อยที่โบกมือหยอยๆจากรถสีดำคันหรูที่ตนเคยนั่ง

                    คุณครูคนสวยจริงๆด้วย ปะป๊าเปิดประตูให้น้องกาอินหน่อยค่ะ น้องกาอินจะไปหาคุณครูคนสวย....คุณครูคะ เดี๋ยวน้องกาอินลงไปหานะคะ!!!” ประโยคแรกเด็กหญิงร่างเล็กเอ่ยบอกคนเป็นพ่อ ก่อนจะหันมาตะโกนบอกคุณครูคนสวยที่นั่งอยู่ไกลจากตัวรถเท่าไรนัก

                    เดี๋ยวเราเอารถไปจอดแล้วค่อยไปหาคุณครูก็ได้ครับลูก ลงไปคนเดียวมันอันตรายนะครับ ปะป๊าเป็นห่วงคนเป็นพ่อเอ่ยรั้งลูกน้อยของตัวเองไว้ แต่ก็ไม่เท่าทันความซนของลูก เมื่อกาอินเลื่อนมือไปปลดล็อกประตูรถ ก่อนจะเปิดประตูวิ่งลงไปหาคุณครูคนสวยอย่างไม่เชื่อฟังคำของคนเป็นพ่อ

                    น้องกาอิน อย่าวิ่งอย่างนั้นสิคะ !!!” อีทึกร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นเด็กน้อยเปิดประตูรถวิ่งลงมาหาตน ร่างบางรีบวิ่งไปรับทันที คังอินเองก็รีบจอดรถเข้าข้างทางก่อนจะวิ่งตามลูกลงมา

                    คุณครูคะ อ๊า........!!!” เด็กน้อยที่กำลังตื่นเต้นที่ได้เจอคุณครูคนสวยจึงไม่ทันมองจักรยานที่พุ่งตรงเข้ามาหาตัว กว่าจะหันไปเห็นก็ตอนที่จักรยานคันนั้นพุ่งเข้ามาประชิดตัวเสียแล้ว

                    น้องกาอิน!!!  //// กาอิน!!!” สองเสียงประสานกันอย่างตกใจ ขายาวๆของทั้งคู่รีบก้าวไปรับร่างน้อยให้พ้นจากอันตราย

                    ม่ายยยยย โครม!!!” แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว เหมือนภาพถูกตัดให้ช้าลง ระยะทางเพียงแค่เอื้อมแต่เหมือนใช้เวลานานเหลือเกินในการที่จะไปถึงที่หมาย นัยน์ตาคมเบิกกว้างเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏชัดแก่สายตา ภาพจักรยานที่พุ่งตรงมาที่เด็กน้อยที่ตนรักที่สุด .....ก่อนที่ใครอีกคนจะวิ่งเอาตัวมาบังลูกของตนไว้ได้ทัน

                    อีทึก !!!!” ร่างสูงร้องเรียกอย่างตกใจ เมื่อเห็นอีทึกที่วิ่งมาคว้าลูกของเค้าไว้ พลางเอาตัวบังไว้ไม่ให้รถจักรยานคันนั้นชนร่างเล็ก แต่กลับพุ่งเข้าหาเกราะกำบังอย่างคนตัวบางแทน คนขับจักรยานเบรกรถอย่างแรงเมื่อเห็นสิ่งกีดขวางเบื้องหน้า รถจักรยานคันใหญ่ที่ถูกกระตุกเบรกอย่างแรงนั้นลอยละลิ่วตีลังกาอยู่บนอากาศก่อนที่รถทั้งคันนั้นจะหล่นลงมาทับตัวคนร่างบาง

                    โอ๊ย!!!!” อีทึกร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อรถคันดังกล่าวหล่นลงมาใส่ตัว ก่อนที่เค้าจะหมดสติไป

                    คุณครูคะ!!! คุณครูอย่าเป็นอะไรนะ ฮึก คุณครู ฮือออเด็กน้อยในอ้อมกอดของคุณครูคนสวยร้องเรียกพลางเขย่าตัวคุณครูที่มีเลือกออกจนเสื้อสีขาวนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง

                    อีทึก คุณเป็นอะไรไหม ฟื้นสิคุณๆคังอินีบวิ่งมาดูคุณครูคนสวยที่นอนแน่นิ่งหมดสติไปอย่างใจเสีย มือหนาตบหน้าสวยเบาๆเพื่อเรียกสติ

                    ฮึก...ปะป๊าคะ...ฮือ คุณครูจะเป็นอะไร ฮึก... มั้ยคะ เด็กน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเป็นห่วงคุณครู คังอินมองหน้าลูกสาวตัวเองพลางคว้าตัวมากอดไว้

                    คุณครูจะไม่เป็นอะไรครับลูก เดี๋ยวเราพาคุณครูไปโรงพยาบาลกันนะครับว่าพลางช้อนตัวอุ้มคนตัวบางขึ้นแนบอก เด็กน้อยรีบวิ่งไปเปิดประตูรถให้คุณพ่อพาคุณครูเข้าไปนั่งด้านใน แต่ก่อนที่จะออกรถไปคังอินก็ไม่ลืมที่จะเดินไปขอโทษขอโพยเจ้าของจักรยานคันนั้นที่ดูจะตกใจไม่น้อย ดีที่เค้าไม่ถือสาหาความอะไรแถมยังแสดงความเป็นห่วงไปถึงคนร่างบางที่อยู่ในรถอีกด้วย ร่างสูงจึงรีบขอตัวพาอีกคนไปโรงพยาบาลเพื่อเช็คดูอาการก่อน

                    รถคันหรูพุ่งด้วยความเร็วสูงไม่นานนักก็มาถึงโรงพยาบาลใกล้ๆนี้ บุรุษพยาบาลรีบเตียงมารับผู้ป่วยเพื่อพาไปห้องฉุกเฉินทันที คังอินและกาอินีบตามไปเผ้าอาการที่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความเป็นห่วง

                    ฮือออออ....ปะป๊าขา น้องกาอินขอโทษนะคะร่างเล็กเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิด เด็กน้อยได้แต่โทษตัวเองว่าเป็นความผิดของตน คังอินส่งยิ้มบางๆให้ลูกที่กำลังเสียขวัญพลางกอดปลอบประโลม

                    ไม่เป็นไรครับลูก มันเป็นอุบัติเหตุนะครับ คุณครูของหนูจะไม่เป็นอะไรนะ

                    “แต่น้องกาอินทำคุณครูเจ็บ ฮึก....คุณครูเลือดไหลด้วยนะคะ คุณครูจะโกรธน้องกาอินมั้ยคะเด็กน้อยยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด

                    คุณครูไม่โกรธหนูหรอกค่ะ เชื่อปะป๊าสิ อย่าร้องไห้นะคะ เดี๋ยวคุณครูตื่นแล้วหนูก็เข้าไปขอโทษคุณเค้า คุณครูจะได้หายเจ็บไวๆดีมั้ยคะ ไม่ร้องนะคะร่างสุงทอดเสียงอ่อนคุยกับลูกอย่างใจเย็น มือหนาลูบผมนิ่มของเด็กน้อยอย่างปลอบโยน กาอินพยักหน้ารับคำปะป๊าพลางเอนหัวพิงซบอกแกร่งของคนเป็นพ่อ ดวงตากลมโตคู่สวยยังคงจดจ้องบานประตูห้องฉุกเฉินไม่วางตา

                    เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง คุณหมอในชุดสีขาวก็ออกมาจากห้องฉุกเฉินเสียที

                    คนไหนเป็นญาติของคุณอีทึกครับคุณหมอถามหาญาติของคนไข้ คังอินจึงรีบลุกไปหาทันที

                    ตอนนี้คุณอีทึกปลอดภัยดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนะครับ หมอเข้าเฝือกที่แขนให้แล้ว ส่วนี่ขาวทีอาการเคล็ดนิดหน่อย นวดและทายาสักสองสามวันก็น่าจะหายนะครับ อีกสักพักคนไข้คงจะฟื้น ที่คนไข้หมดสติไปคงเพราะตกใจมากเลยทำให้หมดสติไปน่ะครับ ระหว่างนี้หมอขอให้ญาติดูแลคนไข้ให้ดีนะครับ จนกว่าแผลที่แขนและขาจะหายนะครับคุณหมอเดินออกมาบอกอาการที่ไม่น่าเป็นห่วง(?) ของคนไข้ให้ฟัง ก่อนจะเดินออกไป ไม่นานนักนางพยาบาลก็เข็นเตียงผู้ป่วยออกมาจากห้อง

                    เดี๋ยวเชิญญาติคนไข้ไปที่ห้องพักด้วยนะคะ เดี๋ยวให้คนไข้ได้พักฟื้นสักครู่แล้วค่อยกลับบ้านนะคะ เชิญค่ะร่างสูงและลูกน้อยเดินตามนางพยาบาลไปยังห้องพักผู้ป่วย พลางนั่งรอดูอาการของคนร่างบางที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียง สำลีสีขาวถูกแปะไว้บริเวณคิ้วข้างซ้ายที่มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย แขนเล็กๆนั้นถูกเข้าเฝือกไว้เนื่องจากโดนจักรยานหล่นทับทำให้แขนซ้ายซ้น ส่วนข้อเท้าของร่างบางก็ถูกพันผ้าไว้เช่นกันเนื่องจากข้อเท้าเคล็ดตอนที่วิ่งเอาตัวไปบังลูกเค้าไว้ ...และนี่คืออาการไม่น่าเป็นห่วงที่คุณหมอว่า ....อ้อ มีอีกอย่าง คือร่างบางยังไม่ได้สติเลยหลังจากที่สลบไป

                    โอย...เจ็บอ่าร่างบางร้องครางทันทีที่รู้สึกตัว มือบางยกขึ้นแตะบริเวณแผลที่หน้าผากด้วยความเจ็บ  ดวงตาคู่สวยค่อยๆลืมตาขึ้นมองรอบๆกายช้าๆ

                    คุณครูฟื้นแล้วหรอคะ ....น้องกาอินขอโทษนะคะคุณครูทันทีที่เห็นคุณครูลืมตา กาอินก็รีบวิ่งมาเกาะขอบเตียงพลางเอ่ยทักคุณครูคนสวย

                    น้องกาอิน....เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เจ็บตรงไหนมั้ยร่างบางเอ่ยถามเด็กน้อยด้วยความเป็นห่วง กาอินส่ายหน้ากลับมาแทนคำตอบ พลางจับมือบางขึ้นมาถูไถกับแก้มเนียนของตัวเอง

                    น้องกาอินไม่เป็นอะไรเลยค่ะ เพราะคุณครูช่วยน้องกาอินไว้ ขอบคุณนะคะคุณครู ....น้องกาอินขอโทษนะคะเด็กน้อยเอ่ยบอกเสียงเศร้าอย่างรู้สึกผิด อีทึกยิ้มบางๆให้พลางลูบแก้มเนียนอย่างเบามือ

                    ไม่เป็นไรค่ะ แค่หนูปลอดภัยก็โอเคแล้วค่ะ แล้ว เอ่อ....คุณพ่อของหนูละคะ ทำไมปล่อยให้หนูอยู่คนเดียวเอ่ยถามไปถึงร่างสูงใหญ่อีกคนที่ไม่รู้หายไปไหน

                    คุณพ่อออกไปจ่ายเงินให้คุณครูค่ะ เดี๋ยวคงจะกลับมา คุณครูนอนเยอะๆนะคะ จะได้หายไวๆนะคะ ^^” เด็กน้อยยิ้มหวานให้คุณครูที่นอกจากจะไม่ถือโทษโกรธตนแล้วยังเป็นห่วงตนอีกต่างหาก...อย่างนี้น่าเอามาเป็นแม่ของน้องกาอินนักละ

                    “กาอิน ปะป๊า ซื้อขนมมาให้หนูทานกับ .... อ้าว ฟื้นแล้วหรอครับ คุณเป็นยังบ้างครับ เจ็บหรือปวดตรงไหนหรือเปล่าครับ ให้ผมตามหมอมาดูอาการอีกทีดีมั้ยครับร่างสูงรีบสาวเท้ามาหยุดยืนข้างเตียงทันทีที่เห็นว่าคนหน้าสวยฟื้นแล้ว

                    ไม่เป็นไรแล้วครับ เอ้ย ...ค่ะ ขอบคุณนะคะอีทึกที่หลุดแสดงความเป็นแมนออกมารีบแก้คำทันทีที่หันไปเห็นเด็กน้อยจ้องมองตนตาแป๋ว

                    อ้อ เพื่อนคุณโทรมาน่ะครับ ผมบอกเค้าไปว่าถ้าคุณฟื้นแล้ว เดี๋ยวจะให้คุณโทรกลับ ขอโทษที่ถือวิสาสะรับโทรศัพท์แทนนะครับว่าพลางยื่นโทรศัพท์คืนให้กับร่างสูง อีทึกยื่นมือออกไปรับ แต่ก็เหมือนจะยืดแขนไม่ถนัดนัก ร่างบางมองไปร่างของตัวเองใต้ผ้าผืนบางสีขาวแล้วก็ต้องตกใจที่ตามตัวมีผ้าพันแผลเต็มไปหมด

                    อย่ายืดแบบนั้นสิครับ เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก คุณครูจะนอนพักที่นี่สักสองสามวันมั้ยครับ ให้พยาบาลดูแล เดี๋ยวผมเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เองครับร่างสูงเสนอให้คนตัวบางนอนนิ่งๆอีกสักสองสามวันเพื่อดูอาการ แต่อีทึกก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที

                    ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับบ้านดีกว่า ไม่อยากรบกวนคุณมากไปกว่านี้แล้วค่ะร่างบางเอ่ยอกอย่างเกรงใจ

                    รบกวนอะไรกันครับ ผมต้องทำให้คุณมากกว่านี้ด้วยซ้ำ เพราะคุณช่วยชีวิตลูกผมไว้ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยดูแลกาอิน

                    “มันเป็นหน้าที่ของฉันค่ะ ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ คุณพ่อกับน้องกาอินกลับกันเลยก็ได้นะคะ ฉันไม่เป็นอะไรมากแล้ว เดี๋ยวจะไปจ่ายเงินแล้วกลับบ้านเหมือนกันค่ะ ขอบคุณนะคะที่พามาส่งที่โรงพยาบาลเอ่ยขอบคุณคนร่างสูงเบาๆ พลางตั้งท่าจะเดินลงจากเตียง ทันทีที่ขาแตะพื้นร่างบางก็ทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นทันที ดีนะที่ร่างสูงยื่นมือมารับคนตัวบางไว้ได้ทัน

                    นอกจากแขนคุณเจ็บแล้ว ข้อเท้าคุณก็เคล็ดด้วยครับ คงใช้เวลารักษาสักสองสามวัน ผมถึงอยากให้คุณนอนพักที่นี่สักพักแล้วค่อยกลับ

                    “ขอบคุณอีกครั้งนะคะ แต่ฉันว่าฉันกลับไปรักษาที่บ้านดีกว่าค่ะคนดื้อก็ยังเป็นคนดื้ออยู่วันยังค่ำ

                    คุณนี่ดื้อจริงๆเลยน้า เอาอย่างงี้แล้วกันนะครับ ในเมื่อคุณยืนยันว่าจะไม่นอนอยู่โณงพยาบาลแน่ๆ งั้นผมขออนุญาตพาคุณกลับไปดูแลที่บ้านนะครับ อย่างน้อยๆให้ผมได้ตอบแทนคุณบ้างก็ยังดี ....อย่าปฏิเสธเลยนะครับ ผมขอร้องร่างสูงรีบพูดดักคอไว้ก่อนที่ร่างบางจะอ่าปากปฏิเสธ อีทึกจึงต้องกลืนคำที่กำลังจะเอ่ยลงคอไป

                    นะคะคุณครู กลับไปอยู่ที่บ้านเรานะคะ เดี๋ยวน้องกาอินจะป้อนข้าวป้อนยาให้คุณครูเองนะคะ นะๆๆๆหนูน้อยช่วยคุณพ่อขอร้องด้วยอีกคน อีทึกมองหน้าสองพ่อลูกสลับกันไปมา อ้อนกันทั้งพ่อทั้งลูกแบบนี้ จะไม่ให้ใจอ่อนได้ยังไง

                    ก็ได้ค่ะ ขอรบกวนแค่ 2-3 วันเท่านั้นนะคะ ถ้าฉันหายแล้ว ฉันขอกลับบ้านตัวเองนะคะร่างบางพยักหน้ารับคำคนทั้งคู่เป็นอันตกลง สองพ่อลูกส่งยิ้มหวานให้กันทันทีที่ได้ยินคำของคนหน้าสวย

                    ไปครับ กลับบ้านของเรากันครับร่างสูงพยุงร่างบางให้ลงนั่งบนวิวแชร์ ก่อนจะพากลับบ้านของตน

                    เดี๋ยวฉันทำเองก็ได้ค่ะ อย่าลำบากเลยอีทึกได้แต่เอ่ยบอกประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมา เมื่อคนร่างสูงแทบไม่ให้เค้าขยับไปไหนเลย เค้าได้แต่นอนนิ่งๆยังกับเป็นอัมพาต แค่เค้าจะช่วยตัดโต๊ะอาหารร่างสูงยังไม่ให้ทำเลย

                    นั่งเถอะครับ เดี๋ยวผมทำให้เอง คุณครูนั่งให้กำลังใจผมก็พอร่างสูงหันมาบอกอีกคนที่ดื้อกว่ากาอินเสียอีก มือหนาจัดโต๊ะอาหารอย่างคล่องแคล่ว พลางยกอาหารที่ทำไว้มาวางบนโต๊ะ

                    หวังว่าจะทานได้นะครับร่างสูงวางจานข้าวที่มีข้าวสวยร้อนๆส่งกลิ่นหอมกรุ่นลงตรงหน้าคนตัวบาง ก่อนจะหันไปตักอาหารใส่ถ้วยเด็กให้ลูกน้อย

                    น่าทานมากค่ะ คุณคังอินนี่เป็นพ่อบ้านจังเลยนะคะอีทึกมองอาหารที่วางอยู่ตรงหน้าพลางเอ่ยชมคนเป็นพ่อ แม้จะต้องเลี้ยงลูกสาวอยู่คนเดียวแต่คังอินก็สามารถดูแลน้องกาอินได้ดีจริงๆ

                    หนุ่มโสด มีลูกติดก็ยังงี้ละครับ ต้องทำทุกอย่าให้เป็น คุณครูลองทานนี่ดูนะครับ ^^” ว่าพลางตักอาหารใส่จานให้อีกคน กาอินมองคุณพ่อที่วันนี้ดูจะอารมณ์ดีเสียเหลือเกิน ทำให้น้องกาอินพลอยมีความสุขตามไปด้วยจริงๆ

                    คุณครูอิ่มแล้วหรอครับ ทำไมทานน้อยจัง หรือว่าอาหารไม่ถูกปากครับ ให้ผมทำอย่างอื่นให้ทานมั้ยครับอีทึกทานได้ไม่กี่คำก็รวบช้อนเก็บ ทำเอาคนทำอาหารถึงกับใจเสีย

                    เปล่าหรอกค่ะ อร่อยมากๆเลย แต่ว่าทานไม่ค่อยถนัดเท่าไรน่ะค่ะ มีมือข้างเดียวนี่มันลำบากมากเลยจริงๆค่ะคังอินเห็นแล้วละ ท่าทางเก้ๆกังๆตอนที่ร่างบางใช้ช้อนด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด

                    งั้นผมขออนุญาตนะครับยังไม่ทันที่คนตัวบางจะรู้ตัวว่าร่างสูงขออนุญาตอะไร ช้อนสีเงินก็มาจ่ออยู่ที่ปากบางเสียแล้ว

                    ผมขออนุญาตป้อนข้าวคุณครูนะครับ ทานเยอะๆนะครับ จะได้ทานยาเอ่ยบอกอย่างเป็นห่วง อีทึกมองหน้าร่างหนาอย่างเกรงๆ คัวอินพยักหน้าให้อีกคนทานสิ่งที่อยู่ในช้อนนั้น ปากบางๆจึงอ้ารับอาหารเข้าปากไป

                    ปะป๊าป้อนน้องกาอินด้วยสิคะกาอินยื่นถ้วยข้าวของตัวเองให้ปะป๊าป้อนอย่างออดอ้อนบ้าง เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ใหญ่ทั้งสองได้เป็นอย่างดี

                    น้องกาอิน อ้ามมมมมมร่างสูงตักข้าวในชามป้อนให้ลูก สลับกับตักข้าวในจานป้อนให้คุณแม่ .....เอ้ย คุณครูของลูก

                    ทานยาด้วยนะครับร่างสูงถ้วยยาเล็กๆให้คนร่างบาง อีทึกรับไปพลางกระดกยาเม็ดหลากสีในถ้วยเข้าปาก ก่อนจะรับน้ำที่ร่างสูงส่งมาให้ดื่มตามเข้าไป

                    เก่งมากครับ เดี๋ยวอาบน้ำแล้วขึ้นไปนอนพักผ่อนนะครับ ต้องขอโทษด้วยที่บ้านผมมีห้องนอนห้องเดียว เดี๋ยวคุณครูนอนบนเตียงกับน้องกาอินแล้วเดี๋ยวผมนอนที่โซฟา คุณครูคงไม่ถือนะครับ

                    “ให้ฉันนอนที่โซฟาก็ได้นะคะ ฉันนอนได้อีทึกเอ่ยท้วง ไม่อยากให้เจ้าของบ้านต้องลำบากเพราะตน

                    ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณแขนเจ็บขาเจ็บ นอนบนเตียงสบายๆน่ะดีแล้วครับ  น้องกาอินพาคุณครูไปอาบน้ำที่ห้องน้ำสิครับลูกคุณพ่อเอ่ยบอกคุณลูกให้เข็นรถเข็นของคุณครูไปที่ห้องน้ำของบ้าน กาอินเองก็ทำตามคำคุณพ่ออย่างว่าง่าย เมื่อเห็นว่าเด็กดื้อทั้งสองไปอาบน้ำกันแล้ว คังอินก็เก็บถ้วยชามไปล้างให้เรียบร้อย

                    เดี๋ยวคุณครูนอนคอยสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมขออาบน้ำก่อน อย่าเพิ่งหลับนะครับคังอินเอ่ยบอกคนสวยที่นั่งเช็ดผมด้วยแขนข้างเดียว ก่อนที่ตัวเองจะขอตัวเข้าไปอาบน้ำบ้าง

                    คุณครูคะ น้องกาอินเช็ดให้นะคะเด็กน้อยหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กในมือคุณครูมาเช็ดผมสีน้ำตาลอ่อนนั้นให้ อีทึกยิ้มบางๆพลางนั่งนิ่งๆให้เด็กน้อยเช็ด

                    คุณครูใจดีจัง น้องกาอินอยากมีมาม๊าใจดีแบบนี้บ้าง คุณครูมาเป็นมาม๊าให้น้องกาอินได้มั้ยคะเด็กน้อยเอ่ยอ้อนคนตัวบาง พลางกอดร่างบางจากทางด้านหลัง อีทึกยิ้มบางๆค่อยๆหันกลับมามองเด็กน้อย

                    ถ้ามาม๊าจริงๆของหนูมาได้ยินจะเสียใจเอานะคะ แล้วจะให้คุณครูมาเป็นมาม๊าหนูนี่ถามปะป๊าหนุหรือยังคะอีทึกยิ้มขำกับเด็กน้อยที่ขออะไรตนด้วยความไร้เดียงสา

                    ปะป๊าอนุญาตแน่นอนถ้าคุณครูจะมาเป็นมาม๊าของน้องกาอิน น้องกาอินอยากได้มาม๊าใจดีเหมือนคุณครูอีทึก นะคะๆๆๆ เป็นมาม๊าให้น้องกาอินนะตากลมบ้องแบ๊วเอ่ยขอจนอีทึกรู้สึกลำบากใจเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยอยากให้เค้ามาเป็นแม่ให้จริงๆ

                    กาอิน อย่าทำให้คุณครูลำบากใจสิครับลูก ขอโทษด้วยนะครับที่ลูกผมเอาแต่ใจแบบนี้ ผมสอนลูกไม่ดีเองครับเอ่ยตำหนิคนเป็นลูกพลางโทษการสั่งสอนของตัวเอง อีทึกส่ายหน้าเป็นเชิงบอกไม่เป็นไร

                    เดี๋ยวคุณครูทำแผลใหม่นะครับ เดี๋ยวผมทำให้ร่างสูงเดินไปหยิบอุปกรณืทำแผลมาทำให้ร่างบาง มือหนาบรรจรงใส่ยา พลางติดผ้าพันแผลให้อย่างเบามือ ร่างสูงหยิบยานวดข้อเท้าที่คุณหมอให้มาออกมานวดให้คนร่างบาง

                    ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวที่เท้าฉันนวดเองก็ได้ค่ะ

                    “ได้ยังไงครับ แขนก็มีข้างเดียว ลำบากแย่เลย เดี๋ยวผมนวดให้น่ะแหละดีแล้วครับร่างสูงบีบเจลสีฟ้าอ่อนลงบนข้อเท้าบาง ก่อนจะไล้นิ้วไปบนเนื้อยาเพื่อทาให้ทั่วข้อเท้าเล้กพลางบีบนวดเบาๆให้หายเคล็ด

                    ขอบคุณนะคะที่คุณทำให้ฉันขนาดนี้อีทึกน้ำตาคลอ รู้สึกซาบซึ้งกับการกระทำของคนร่างสูงที่แม้แต่เท้าที่เป็นของต่ำของร่างกายเค้าก็จับอย่างไม่นึกรังเกียจ เค้าซึ่งไม่เคยได้รับการใส่ใจดูแลดีแบบนี้มาก่อนก็อดปลาบปลื้มไม่ได้เมื่อมีคนมาทำให้แบบนี้

                    “ไม่เป็นไรครับ เปลี่ยนจากคำขอบคุณที่เป็นทางการแบบนั้นมาเป็นคำขอบคุณที่ดูกันเองดีกว่ามั้ยครับ ผมไม่อยากให้คุณเกร็งเวลาอยู่กับผม อยากให้คุณคิดว่าคุณอยู่บ้านของเพื่อนคนนึงก็ได้ครับ จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดหรือเกรงใจมากมาย

                    “เอ่อ...จะดีหรอ....คะ

                    “ดีสิครับ เรียกผมว่าคังอิน แล้วผมก็จะเรียกคุณว่าอีทึก ดีมั้ยครับ คิดซะว่าผมเป็นเพื่อนของคุณก็ได้ครับ

                    “ก็ได้ค่ะ...คังอินอีทึกยิ้มรับคำของคนตัวสูง คังอินเองก็ส่งยิ้มตอบกลับมาเมื่อเห็นว่าร่างบางทำตามสิ่งที่เค้าขออย่างว่าง่าย ร่างสูงมองดวงตาคู่สวยนิ่ง อีทึกเองแม้จะเขินมากก็ตามแต่ก็อดที่จ้องมองนัยน์ตาสีนิลของคนตรงหน้าไม่ได้เหมือนกัน เหมือนมีอะไรบางอย่างดึงดูดให้คนทั้งคู่จ้องมองกันอย่างไม่ลดละ

                    ปะป๊าขา ถ้าปะป๊าจ้องคุณครูของน้องกาอินเสร็จแล้ว ปะป๊าอย่าลืมมาอ่านนิทานให้น้องกาอินฟังนะคะ น้องกาอินง่วงนอนแล้วละค่ะเด็กน้อยเอ่ยแซวผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่จ้องกันจนลืมไปเลยว่าตนก็อยู่ตรงนี้

                    เอ่อ...เสร็จแล้วละครับ พักผ่อนเถอะคนทั้งคู่รีบผละออกจากกันด้วยใบหน้าแดงๆด้วยกันทั้งคู่ อีทึกเขยิบตัวไปนั่งพิงกับหัวเตียง โดยมีน้องกาอินนั่งอยู่ในอ้อมกอด

                    เดี๋ยววันนี้ฉันอ่านนิทานให้น้องกาอินฟังเองก็ได้ค่ะ คุณเหนื่อยมากแล้วพักผ่อนเถอะคังอินส่งหนังสือนิทานให้ร่างบางอ่านให้ลูกของตนฟัง ส่วนตัวเองก็ลงไปนั่งที่พื้นที่มีผ้านวมปูรองไว้นอน มือหนาเท้าคางมองคนทั้งคู่ที่อยู่บนเตียงฟังนิทานที่มีเสียงหวานๆขับกล่อมไปกับลูกน้อย

                    สะดุ้งตื่นมาอีกทีก็เห็นว่าคนร่างบางและเด็กน้อยของเค้านอนหลับคาหนังสือนิทานกันไปเสียแล้ว คังอินจัดท่านอนให้กาอินนอนได้สบายขึ้นพลางก้มลงจุ๊บหน้าผากของลูกอย่างที่เคยทำทุกคืน ก่อนจะห่มผ้าให้กันลูกหนาว ร่างสูงหันไปมองอีกคนที่นอนอยู่ข้างๆลูกของตน พลางจัดท่านอนให้ร่างบางบ้าง ใบหน้าสวยยามหลับยังคงสวยไม่สร่างจนคังอินเองอดใจไม่ไหว ต้องก้มลงจุ๊บที่หน้าผากเหมือนที่ทำกับลูกของตน มือหนากระขับผ้าห่มให้คนตัวบาง พลางปิดไฟแล้วทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนที่ถูกปูไว้สำหรับตน

                    แม้วันนี้ที่นอนของเค้าจะนอนได้ไม่สบายตัวที่สุด แต่วันนี้เป็นวันที่เค้ารู้สึกสบายใจที่สุด คงเป็นเพราะวันนี้เค้ามีผู้ร่วมห้องที่เพิ่มมาอีกคน และเค้าหวังว่าผู้ร่วมห้องคนนี้จะนอนร่วมห้องกับเค้าแบบนี้ไปนานๆนะ

    .....หากมีโอกาสหน้า ผมอยากจะขอเป็นมากกว่าเพื่อนร่วมห้อง

    คงจะดีถ้าผมได้เป็นคนร่วมเตียงกับคนร่างบางอย่างคุณนะ  อีทึก....


     

    talk : กรี๊ดดดดดดดดด ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้กลับมาอัพฟิคเรื่องนี้ที่ค้างคาอยู่นานสามชาติ ทั้งๆที่ตันอยู่ที่ 6 หน้ าพอมาลงมือแต่งจริงๆกลับปาเข้าไป 20 กว่าหน้ากว่าจะจบตอน มาทั้งทีก็มาแบบยาวๆหน่อยแล้วกันนะเผื่อจะหายคิดถึงกัน  เหตุเกิดเพราะพี่ที่สนิทของไรเตอร์อยากจะอ่านเรื่องนี้ และเมื่อไรเตอร์เห็นว่ายังมีคนที่ติดตามแล้วก็อยากอ่านอยู่ ไรเตอร์เลยจัดเต็มมาให้เลย ไม่รู้จะถูกใจกันบ้างหรือเปล่านะคะ ไรเตอร์บอกรีดเดอร์แล้วว่าทั้งยังมีคนอยากอ่านอยู่ให้เรียกร้องมา ไรเตอร์จะแต่งให้อ่านแน่นอน ชอบไม่ชอบยังไงอย่าลืมเม้นบอกกันบ้างนะจ้ะ หากมีคนยังชอบเรื่องนี้อยู่ ไรเตอร์จะเข็นมันให้จบและรวมเล่มมันอย่างแน่นอนค่ะ ตอนแรกเกือบจะเปิดเรื่องใหม่แล้วทิ้งเรื่องนี้แล้วเชียว ขอบคุณพี่นินะคะที่อยากจะอ่านฟิคน้อง ทำให้น้องอยากจะแต่งมันค่ะ ติชมได้นะคะสำหรับตอนนี้ ตอนต้นก็ยกให้น้องสามลี ส่วน10 หน้าสุดท้ายยกให้คังทึกที่นานๆจะโผล่มาสร้างสีสันทีนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ จะเป็นคู่ไหนอดใจรอกันด้วยนะคะ สุดท้ายยังคงเป็นเช่นเดิมค่ะ รักรีดเดอร์ทุกคนเสมอค่ะ ~~ 

    ปล ฝากฟิคโปรเขค pour elle ด้วยนะคะ มาทำบุญด้วยกันนะคะ ^^ 
    ปล1 ไรเตอร์อาจจะเปิดฟิคเรื่องใหม่เร็วๆนี้ หลังจากปล่อยหน้าเด็กดีร้างมานานแรมปี 555


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×