คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Trick 7 จูจุ๊บ...นูนา
Trick 7 : จูจุ๊บ...นูนา
ทางด้านคู่ของคิบอมและดงเฮหลังจากที่แยกจากคนอื่นๆที่เหลือแล้ว ทั้งคู่ก็แวะมาบ้านของคนร่างสูงเสียก่อน เพราะต้องกลับมาเอางานที่จะหอบไปทำกันที่ห้องสมุดตามที่นัดแนะเอาไว้
“ถึงแล้วครับฮยอง เหนื่อยหรือเปล่า ขอโทษนะครับที่ให้เดินมาซะไกลเลย” ร่างสูงหันไปมองใบหน้าน่ารักที่ชื้นเหงื่อ หลังจากที่เดินตากแดดมานาน ระยะทางจากร้านกาแฟที่นัดบอดเมื่อครู่มาถึงบ้านเค้าถึงแม้มันจะไม่ได้ไกลกันมากนัก แต่เวลาที่พระอาทิตย์ตรงหัวแบบนี้ให้เดินระยะทางสั้น เหงื่อก็ท่วมจนเปียกโชกไปทั้งตัวแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก เดินมาแค่นี้เอง ถึงอากาศจะร้อนก็เถอะ” คนร่างบางเอ่ยตอบอีกคนที่เหงื่อก็ออกจนเสื้อยืดที่ใส่อยู่แนบลู่ไปกับแพ็คที่หลบซ่อนอยู่ใต้เนื้อผ้า ดงเฮแอบส่องรูปร่างของคนตรงหน้าพลางกลืนน้ำลายเสียอึกใหญ่ นี่ท่าไม่เกรงใจจะเดินไปขอรูปหกห่อนั่นเสียหน่อยนะเนี่ย น่ากินจริงๆผู้ชายคนนี้ คิดพลางเลียปากที่แห้งผากอย่างหื่นๆ
.”ฮยองหิวน้ำหรอครับ ปากแห้งเชียว เห็นเลียปากอยู่ เดินมาเหนื่อยๆคง หิวน้ำใช่มั้ยครับ” คิบอมที่หันมาเห็นช็อตเลียปากอย่างหื่นกระหายนั้นเอ่ยถาม พลางเดินไปรินน้ำมาให้อีกคนดื่ม
‘ถ้าบอกว่าไม่ได้หิวน้ำแต่หิวนายจะเป็นไรไหมคิบอม’ ร่างบางได้แต่คิดในใจ พลางเดินไปนั่งรอที่โซฟา มือบางยื่นมารับแก้วน้ำที่อีกคนส่งให้
“ขอบคุณนะคิบอม …บ้านนายสวยดีนะ นายอยู่คนเดียวหรอ” ถามพลางมองไปรอบๆตัวบ้านที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ แม้จะไม่ได้ใหญ่โตเป็นคฤหาสน์แต่หากอยู่คนเดียว บ้านนี้คงจะกว้างน่าดู (น่าเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเสียจริง หึหึ : ดงเฮ)
“เปล่าครับ ไม่ได้อยู่คนเดียว อยู่กับไอ้คยู แล้วก็….” พูดยังไม่ทันจบ อยู่ๆก็มีสิ่งมีชีวิตตัวปุกปุยสีขาววิ่งมากระโจนเข้าใส่คนที่นั่งอยู่บนโซฟาทันที
“ว้าว น่ารักจังเลย!!!!!” ดงเฮร้องอย่างตื่นเต้น เมื่อหันมาเจอเจ้าตัวเล็กที่ร้องอย่างน่ารักอยู่บนตักของตัวเอง ลูกหมาขนปุยสีขาวเหมือนนุ่น เสียงบ็อกๆๆนั่นฟังดูน่ารักน่าเอ็นดูจนอดที่จะกอดเจ้าตัวนิ่มในมือไม่ได้จริงๆ
“นั่นละครับ ที่กำลังจะบอก นอกจากคยูแล้วก็มีเจ้านี่ละที่อยู่ในบ้านด้วยอีก 1 ชีวิต”
“ชื่ออะไรครับตัวเล็ก……น่ารักมากๆเลยอ่า เจ้าตัวเล็กนี่ชื่ออะไรหรอคิบอม” ประโยคแรกเอ่ยถามเจ้าตัวเล็กในมือ ก่อนจะหันมาถามเจ้าของของมันอย่างสงสัย
“พาดาครับ ที่แปลว่าทะเลน่ะครับ”
“ชื่อพาดาหรอครับ ชื่อเหมือนฮยองเลยนะ ชื่อฮยองก็แปลว่าทะเลเหมือนกัน หรือฮยองกับเราจะเป็นเนื้อคู่กันน้า” นั่นไง เจอกันไม่ถึง5นาที เจ้าหมาตัวน้อยก็ตกเป็นเนื้อคู่ของลีดงเฮไปเสียแล้ว ร้อนถึงอีกคนที่ได้ยินต้องรีบเข้ามาห้าม ก่อนที่คนที่ตัวเองเล็งจะตกเป็นเนื้อคู่ของสุนัขที่ตัวเองเลี้ยงไม่ใช่เนื้อคู่ของเจ้าของ
“พาดา เจ้าชู้นะครับฮยอง เห็นใครน่ารักหน่อยไม่ได้ กระโจนเข้าใส่ตลอด”
“งั้นฉันก็น่ารักน่ะสิ^^” ได้ยินอย่างนั้นยิ่งดีใจ เพราะเมื่อตนลงนั่งเจ้าตัวเล็กก็กระโดดเข้าใส่แถมซุกตักตนอย่างอ้อนๆทันที นี่ก็แปลว่าฉันน่ารักใช่มั้ยเนี่ย
“ก็น่ารักน่ะสิครับ พาดาเลยทำเจ้าชู้ใส่แบบนี้ ถึงน้องหมาผมจะเจ้าชู้ แต่เจ้าของซื่อสัตย์นะครับ ทนความเจ้าชู้ของน้องหมาไม่ได้ ติดต่อเจ้าของได้ครับ ยินดีดามใจ” นอกจากจะกล่าวหาสุนัขของตนเองแล้ว ยังอวดสรรพคุณตนเองอีกต่างหาก ดงเฮหัวเราะคิกคักๆที่เห็นอีกคนไม่พอใจแม้กระทั่งน้องหมา
“โอเคๆ ไว้ฉันอกหักจากน้องหมาของคิบอมเมื่อไร จะติดต่อเจ้าของไปนะ ”
“ฮยองอ่า เจอพาดา ไม่ถึง 5 นาทีก็หลงจนลืมผมแล้วอ่า เห็นผมสำคัญน้อยกว่าหมาอ่า” ว่าพลางทำหน้างอนอีกคน
“โอ๋ๆ อย่างอนเลยน้า พาดา เจ้าของงอนแล้วนั่น ปลอบคิบอมหน่อยสิว่า ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพาดาจะแบ่งดงเฮฮยองให้คิบอมบ้างแล้วกันเนอะ” คนร่างบางอุ้มเจ้าตัวเล็กเดินไปหาคนร่างสูง พลางเอาขาสีขาวขนปุยนั้นเขี่ยๆที่ไหล่อีกคน
“คิบอมอ่า อย่าร้องไห้นะ พาดาสัญญาว่าจะยอมให้ดงเฮฮยองเล่นกับ คิบอมบ้างก็ได้ครับ” ดงเฮบีบเสียงเล็กๆให้ดูน่ารักพลางหลบด้านหลังน้องหมา ก่อนจะทำท่าทางให้พาดาพูดปลอบคิบอม
“มานี่เลย เจ้าตัวแสบ เดี๋ยวจะแนะนำน้องช็อกโก้ที่จีบอยู่ให้กับเจ้าบลูด็อกบ้านตรงข้าม ลงโทษข้อหาแย่งคนของเจ้าของ” คิบอมหันมามองเจ้าหมาตัวเล็กในมืออีกคน พลางเขกหัวมันเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“ฮยองใจร้าย พาดางอนแล้ว” ว่าพลางสะบัดตูดอย่างอนๆทั้งหมาทั้งคนอุ้ม ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โซฟาอย่างเดิม
“เดี๋ยวผมไปหยิบของที่ห้องก่อนแล้วกันนะครับ ฮยองอยู่กับพาดาไปก่อน”ว่าพลางเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของตัวบ้าน ปล่อยให้คนตัวบางและเจ้าตัวเล็กอยู่กัน สองคน ดงเฮวางพาดาลงที่พื้น พลางเดินสำรวจรอบๆตัวบ้าน ก่อนจะเดินไปสะดุดตากับภาพสมัยเด็กของเด็กผู้ชายตัวขาวหน้าตาน่ารักวางอยู่ที่โต๊ะ แม้ภาพจะดูเก่าเหมือนถ่ายเมื่อนานมาแล้ว แต่ภาพเด็กผู้ชายคนนี้ก็ดูคุ้นๆอยู่ไม่น้อย ลางสังหรณ์บางอย่างวิ่งแล่นเข้ามาในหัวแต่ด้วยความที่ภาพนั้นเริ่มจางไปตามกาลเวลาทำให้ สิ่งที่รู้สึกอยู่ไม่ชัดเจนนัก
“มาแล้วครับฮยอง” คนร่างบางหลุดออกจากภวังค์แห่งลางสังหรณ์ที่กำลังนึกคิดอยู่ทันทีที่ได้ยินเสียงอีกคนทัก
“อ่อ มาแล้วหรอ…เอ่อ คิบอมถามหน่อยสิ” ว่าพลางหยิบกรอบรูปที่ตนดูอยู่ขึ้นมาถาม
“ครับ?”
“เด็กผู้ชายในรูปนี่นายหรอ” เอ่ยถามอย่างสงสัย ลางสังหรณ์ที่รู้สึกนั้นมันบ่งบอกว่าสำคัญมาก แต่ก็นึกไม่ออกว่ามันเกี่ยวข้องกับอะไร
“อ่อ รูปเด็กผู้ชายในนี้หรอครับ … ไม่ใช่ผมหรอก นั่นมันรูปของคยูฮยอนเค้าน่ะครับ บ้านนี้ก็บ้านของคยูฮยอนครับ แต่ก่อนมันเคยอยู่ที่บ้านนี้ตอนเด็กๆ แล้วพอดีพ่อแม่มันต้องไปทำงานที่อเมริกา มันเลยต้องย้ายตามไป พอมันนึกอยากกลับมาเรียนที่เกาหลี มันก็เลยกลับมาอยู่บ้านที่มันเคยอยู่น่ะครับ ถามทำไมหรอ”
”อ้อ เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ก็เห็นน่ารักดีเท่านั้นเอง” ว่าพลางวางรูปลงที่เดิม
“ฮยองชมคนอื่นต่อหน้าผมอีกแล้วนะ” คิบอมทำหน้าบู้อีกครั้งเมื่อคน ร่างบางเอาแต่ชมคนอื่นว่าน่ารักต่อหน้าตน
“นายก็น่ารัก โดยเฉพาะแก้มนาย มันน่ารักเป็นพิเศษ ยิ่งเวลางอนนี่แก้ม มันบวมเหมือนจะแตกเลยน้า” ว่าพลางบิดแก้มอีกคนไปมาอย่างหมั่นเขี้ยว
“อย่างผมต้องเรียกหล่อสิครับ อย่างฮยองสิต้องเรียกว่าน่ารัก …แล้วเราจะมาชื่นชมกันเองทำไมครับเนี่ย ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่ได้ทำงานกันซะเปล่าๆ ”
“ฮยองไปก่อนน้าพาดา แล้วจะแวะมาเล่นด้วยใหม่นะครับ เจ้าตัวเล็ก” มือบางลูบหัวเจ้าขนปุยเบาๆอย่างเอ็นดู พลางส่งยิ้มหวานพร้อมโบกมือบ๊าย บายให้พาดาที่กำลังส่งเสียงน่ารักบอกลาอีกคนเช่นกัน
หลังจากที่แวะมาเอาของที่บ้านของคนร่างสูงเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็โบกแท็กซี่เดินทางต่อไปยังหอสมุดทันที
“นายทำรายงานเรื่องอะไรหรอคิบอม” เอ่ยถาม พลางเปิดดูหนังสือและหัวข้อเรื่องที่คนร่างสูงแบกมาจากบ้าน ตอนนี้คนทั้งคู่มานั่งอยู่ในหอสมุดที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“อ้อ เรื่องเกี่ยวกับโหราศาสตร์ หรือไสยศาสตร์น่ะครับ พอดีเค้าให้ค้นหาเรื่องที่น่าสนใจ กลุ่มผมเลยอยากจะรู้เรื่องนี้น่ะครับ มันดูลี้ลับดี”
“อ้อ ...เอาจริงๆปะ การทำนายทายทักก็คือหลักจิตวิทยาเบื้องต้นอย่างหนึ่งนั่นละ หากเรารู้พื้นฐานของมนุษย์ทั่วไปเราก็จะสามารถจับทางได้ว่าเราจะต้องทำนายทายทักคนอย่างนั้นอย่างไร มันเป็นขั้นพื้นฐานน่ะ”
“คือยังไงหรอครับฮยอง ช่วยยกตัวอย่างให้ผมฟังหน่อยสิครับ”
“เอางี้ นายเกิดวันอะไร วันที่เท่าไร เดือนอะไรละ ฉันจะดูดวงให้”
“ผมหรอครับ ผมเกิดวันศุกร์ที่ 21 สิงหาคมครับ ฮยองจะดูดวงให้ผมได้จริงๆหรอครับ” ถามอย่างตื่นเต้นพลางรอฟังคำทำนายทายทักของคนร่างบาง
“ได้สิ เค้าว่ากันว่าผู้ชายที่เกิดวันศุกร์เป็นหนุ่มเนี้ยบ แต่งตัวเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้าเสน่ห์ของคนที่เกิดวันนี้อยู่ที่ปากที่ชอบพูดจาเอาใจคนอื่น ชอบเกลี้ยกล่อม คนอื่นด้วยคำหวาน เอาใจเทคแคร์เป็นเลิศ เวลารักใครจะรักจริงและเป็นคนที่ขี้หึงมากๆ เป็นคงที่มีความมั่นคง มีความเป็นตัวเองสูงและมี” อารมณ์ศิลปินอยู่มาก ปกติจะเป็นคนที่อารมณ์ดี แต่เวลาโกรธขึ้นมาอารมณ์จะรุนแรงเหมือนพายุเลย ที่ฉันพูดมาถูกต้องหรือเปล่า คิม คิบอมคนร่างบางเอ่ยปากถามอีกคนที่นั่งอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำทำนาย
“เป๊ะเลยครับ ฮยองนี่แม่นจริงๆ เดี๋ยวผมเปิดสำนักให้อยู่ ช่วยกันหารายได้นะครับฮยอง” เอ่ยแซวแม่หมอจำเป็นอย่างดงเฮ
“555+ แม่นใช่มั้ยละ การที่ฉันดูดวงให้นายได้ เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะฉันรู้จักตัวนายบ้างแล้ว ทำให้ฉันพอจะรู้พฤติกรรมของตัวนายอยู่บ้าง แต่ถึงแม้ฉันจะไม่รู้จักนายเลย ฉันก็จะสามารถเดาทางจากวิธีการพูด การแต่งกาย หรือนิสัยพื้นฐานของมนุษย์ในการทำนายได้ เช่น ที่ว่านายเป็นคนที่เนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ฉันก็จะสังเกตได้จากการแต่งตัวของนาย ที่ว่าเป็นคนปากหวานเอาใจเก่ง ก็จะสามารถดูได้จากวิธีการพูดของนาย หรือเราอาจจะดูจากนิสัยพื้นฐานของมนุษย์นั่นคือ เวลาเห็นคนรักอยู่กับคนอื่น เราก็จะมีอาการหึงเป็นธรรมดานั่นเอง อย่างงี้เข้าใจหรือยังว่าโหราศาสตร์ที่นายว่ามันเกี่ยวข้องกับจิตวิทยาที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมขั้นพื้นฐานของมนุษย์นั่นเอง ถึงแม้ว่าสิ่งที่ฉันพูดจะไม่ใช่ตัวนาย 100 % แต่หากฉันเดาถูกมากกว่า 60 % ก็จะถือว่าฉันเป็นแม่หมอที่ทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำแล้ว เพราะเราจะดูกันที่องค์ประกอบรวมนั่นเอง ^^” และนี่คือการคิดวิเคราะห์จากผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ถึงแม้ลีดงเฮคนนี้จะชื่นชอบในเรื่องราวของไสยศาสตร์มากก็ตามที แต่ร่างบางก็ไม่ได้งมงายเสียจนไม่ลืมตาดูเลยว่าบนโลกมีหลักวิทยาศาสตร์ที่ไขปริศนาสิ่งลี้ลับพวกนี้อยู่
“ฮยองของผมเก่งจังเลย อย่างนี้สิครับ ผมเลยชอบคนแก่กว่า นี่สินะที่เค้าว่ากันว่าคนแก่อาบน้ำร้อนมาก่อน ”คิบอมเอ่ยชมว่าที่แฟนในอนาคต พลางยิ้มจนแก้มแทบปริกับความฉลาดของอีกคน
‘ฉันเริ่มรู้สึกไม่อยากแก่กว่านายแล้วล่ะคิบอม ถ้าแก่กว่าแล้วต้องอาบน้ำก่อนเนี่ย ขออายุเท่ากันแล้วอาบน้ำพร้อมกันได้มั้ย’ ประโยคนี้ดังก้องอยู่แค่ในใจ และทำได้เพียงแสดงออกมาทางสีหน้าที่บ่งบอกถึงการจินตนาการว่าตนเองได้นั่ง ไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปอายุเท่าคนร่างสูง จะได้อาบน้ำด้วยกันได้ แล้วก็.....หึหึ
“ฮยองเป็นอะไรไปหรือเปล่าครับ เห็นทำหน้าตาแปลกๆ หิวน้ำอีกแล้วหรอ เลียปากอีกแล้ว” ว่าพลางเลื่อนมือไปแตะที่ริมฝีปากอีกคนเบาๆ ดงเฮสะดุ้งน้อยๆ เมื่ออยู่ๆอีกคนก็เอานิ้วมาแตะที่ปากตนเอง ใบหน้าหวานแลบลิ้นเล็กๆนั่นออกมาสัมผัสกับนิ้วเรียวของอีกคน คิบอมจึงรีบชักนิ้วกลับทันที ก่อนที่อารมณ์ตนเองจะเตลิดมากไปกว่านี้
‘โหย ตกใจหมด แค่เค้าเอานิ้วมาโดนปากยังตื่นเต้นจนหน้าจะระเบิด ขนาดนี้ นี่ถ้าเอาอย่างอื่นมาแตะปากนี่คงระเบิดกลายเป็นโกโก้ครั้นไปแล้วจริงๆ อั๊ยยะ >//<’ (เค้าหมายถึงปากนะตัวเอง เอาปากมาแตะกันน่ะ อย่าคิดลึกนะ : ดงเฮ)
“ผมว่าเรารีบทำงานกันก่อนดีกว่าเนอะ” ร่างสูงแอบเอามือที่ชักกลับมานั้นมาแตะที่ปากตัวเองเบาๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว แค่จูบกันอ้อมๆแบบนี้ก็โอเคแล้วจริงๆ (แต่ได้มากกว่านี้ก็ดีนะ)
“อ๊ะ...ลืมส่งข้อความบอกซองมินเลยว่าถึงหอสมุดแล้ว คิบอมนั่งทำงาน ไปก่อนนะ เดี๋ยวฮยองบอกซองมินก่อน” ว่าพลางนั่งกดโทรศัพท์ในมือยิกๆ เรียงร้อยตัวอักษรพลางส่งให้อีกคน
‘อื้อ อย่ากลับดึกมากนะ เค้าเป็นห่วง ตอนนี้เค้าเองก็ออกมากับคยูฮยอน ว่าจะไปท้องฟ้าจำลองน่ะ ไว้เจอกันตอนเย็น เที่ยวให้สนุกนะด๊อง ^^’ ไม่นานนักก็มีข้อความตอบกลับมาจากซองมิน ร่างบางอ่านข้อความจบก็หันกลับมาสนใจ คนร่างสูงที่กำลังง่วนอยู่กับการทำรายงานของตนเองอยู่
“ให้ฉันช่วยมั้ย คิบอม จะได้เสร็จไวๆแล้วไปกินไอติมกัน”
“คุยกับพี่ซองมินเสร็จแล้วหรอครับ ช่วยผมก็ดีนะครับ มันยากจังเลย ถ้าดงเฮฮยองมาช่วยคงง่ายขึ้นเยอะแน่ๆเลย เนี่ยตรงนี้อ่าครับ ฮยองช่วยดูให้หน่อยสิว่าผมจะทำยังไงดี”ว่าพลางชี้ไปที่หัวข้อในสมุดจดของตนเองให้อีกคนดู
“ไหนๆให้ฉันดูหน่อยสิ” ว่าพลางลากเก้าอี้ไปนั่งข้างๆคนร่างสูง ก่อนจะ ก้มลงมองตามที่ร่างสูงชี้ คนตัวบางก้มหน้าก้มตาอ่านพลางครุ่นคิดคำตอบของคำถามนี้ ในขณะที่คนร่างสูงที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ย้ำว่าใกล้มาก แทบจะนั่งตักกันอยู่แล้วนั้นได้แต่ลอบมองอีกคน พลางสูดดมความหอมจากกลุ่มผมนุ่มสีโทนส้มนั้นเสียเต็มปอด
“เอ....ตรงนี้หรอ คำตอบตรงนี้น่าจะเป็นอันนี้นะ คิ...อุ๊บ” ร่างบางตีที่หน้าขาอีกคนเพื่อเรียกร้องความสนใจเมื่อเจอคำตอบ ร่างสูงจึงก้มลงไปมองคำตอบที่ชี้อยู่ที่สมุด เป็นจังหวะเดียวกับที่คนร่างบางนั้นหันมามองคนร่างสูงพอดี ทำให้ริมฝีปากของคนทั้งคู่แตะกันโดยบังเอิญ ดวงตาก้มโตที่เบิกกว้างอย่างตกใจนั้นมองลึกเค้าไปในตาสีนิลของอีกคน ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงช้าๆเมื่อลิ้นหนาของใครอีกคนสอดเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นเรียวเล็กเกี่ยวกระหวัดตอบรับอีกคนเป็นอย่างดี มือบางยกขึ้นโอบรอบคอีกคนเพื่อกระชับให้จูบนี้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น น้ำเชื่อมสีใสที่หวานเสียจนยากจะถอดถอนถูกป้อนให้กันอย่างเนิ่นนาน ตอนนี้คนทั้งคู่คงจะลืมไปแล้วว่าตัวเองอยู่ที่ไหนกัน ...ดีนะที่คนทั้งสองนั่งหลบมุมอยู่หลังตู้หนังสือที่บังตัวทั้งสองจนมิด คิบอมที่ได้สติแล้วนั้นค่อยๆผละจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่งและเสียดาย มือหนาเลื่อนไปปาดน้ำใสที่เลอะมุมปากแดงๆที่บวมเจ่อจากการบดขยี้เมื่อครู่ ดงเฮที่ผละจูบออกมาก็นั่งหายใจหอบถี่ สูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอดหลังจากที่โดนคนร่างสูงตักตวงอากาศจากตนไปเสียเนิ่นนาน
“ผมขอโทษนะครับที่ล่วงเกินฮยอง แต่ฮยองน่ารักแบบนี้มันก็ยากจะ ห้ามใจไหวจริงๆครับ ฮยองเหมือนน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟอย่างผม ใกล้กันแล้วรู้สึกเหมือนหัวใจมันถูกเผาไหม้ไปหมดเลยครับ” คิบอมเอ่ยบอกความรู้สึกจากใจที่ตนเองมีในตอนนี้ พลางมองอีกคนด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกผิดแต่ก็แฝงไปด้วยความจริงใจที่มี
“ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นเพียงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญเท่านั้นละเดี๋ยวฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำแปปนึงนะ” ว่าพลางลุกออกไปจากที่ตรงนี้ ตอนนี้ลีดงเฮเหมือนระเบิดเวลา หากนั่งอยู่ตรงนี้แม้เพียง 1 นาที เค้าก็พร้อมจะระเบิดทุกอย่างให้เป็นจุลได้เลยจริงๆ
“ทำบ้าอะไรของแกวะคิม คิบอม ไปล่วงเกินเค้าทำไม ดูสิเนี่ยเค้าหนีไปแล้วเห็นมั้ย บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าให้ไก่ เอ้ย ปลาตื่นน่ะ เป็นไงละมึง ท่าเค้าหนีไปก็โทษใครไม่ได้นะ โทษตัวมึงเองเถอะว่ะ โว๊ะ!!!” ร่างสูงสบถต่อว่าตัวเอง พลางทึ้งผมที่เซ็ตมาอย่างหล่อด้วยความเครียด กลัวว่าปลาที่ตัวเองเล็งว่าจะจับนั้นจะว่ายน้ำหนีไปด้วยความตกใจเสียก่อน
“โอ๊ยๆๆๆ ฉันอยากระเบิดตัวเองตาย ให้ตายเถอะ ทำไมหน้าฉันแดงเป็น ลูกตำลึงแบบนี้ละ เขินเป็นบ้าเลย ทำเป็นสาวแรกรุ่นไปได้นะลีดงเฮ นี่ก็ปาเข้าไป 22 แล้วนะปีนี้ยังจะมาตื่นเต้นอะไรเวลาโดนเด็กจูบเนี่ย ...แต่ว่าหล่อเป็นบ้าเลยอ่า เจ้าเด็กนี้ ฉันจะละลายตาย ใครจูบแล้วไม่เคลิ้มก็บ้าแล้ว อั๊ยยะ นี่ฉันพูดอะไรอยู่เนี่ย นี่แน่ะๆไอคนใจง่าย ไอหัวใจไม่รักดี เต้นจนจะหลุดออกมาเลยมั้ย”ว่าพลางเขกหัวตัวเองเบาๆ2-3ทีเพื่อลงโทษที่ชอบคิดอะไรหื่นๆ ไหนจะหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะฮิพฮอพแด๊นซ์นี่อีกนะ
คนตัวบางที่ขอตัวไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำอยู่นานสองนานนั้นพอทำใจได้ก็กลับมาหาคนร่างสูงที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะที่เดิม ก้นงามๆหย่อนตูดลงนั่งข้างกายอีกคนแต่เว้นระยะห่างมากกว่าเดิมหน่อยนึง
“โอเคขึ้นมั้ยครับ ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ” ร่างสูงเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิดอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรหรอกน่า คิดมากไปได้ ...เอางี้แล้วกันนะ ถ้านายรู้สึกผิดก็รีบทำงานให้เสร็จสิ แล้วเราไปกินไอติมกัน ถ้านายเลี้ยงฉัน ฉันจะหายโกรธเลย โอเคปะ” ยื่นขอเสนอให้อีกคน พลางทำมือเป็นรูปตัวโอที่ประกอบมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ
“โอเคครับผม คิบอมจะปั่นงานอย่างไวเลยครับ” ว่าแล้วก็ลงมือทำรายงานของตนเองอย่างขยันขันแข็งทันที โดยมีกำลังใจจากคนหน้าหวานที่นั่งยิ้มให้กำลังใจอยู่ข้างกายไม่ห่าง มือบางหยิบหนังสือไสยศาสตร์ที่วางเกลื่อนโต๊ะมาอ่านไปเรื่อยเพื่อรอเวลา ก่อนหนังตาจะค่อยๆหย่อนไปตามความเย็นของแอร์และความตึงของหนังท้อง คนตัวบางค่อยๆเลื้อยตัวลงนอน ก่อนจะหลับคาหนังสือเล่มนั้นไปในที่สุด
“...ดง ...ดงเฮฮยอง ดงเฮครับ ตื่นได้แล้วครับ ห้องสมุดจะปิดแล้วนะครับ ”มือหนาเขย่าแขนคนตัวบางอีกคนเบาๆเพื่อเรียกสติจากคนที่ตรงดิ่งไปสู่นิทราเมื่อหลายชั่วโมงก่อน
“อื้อ....โอม...ขอให้เจอเนื้อคู่ ....งื้อออ จะนอนนนนน” คนตัวบางละเมอพลางสะบัดแขนแปลี่ยนท่านอนอย่างรำคาญที่อีกคนปลุก คนร่างสูงยืนมองอีกคนที่แม้แต่เวลานอนยังน่ารัก ขนตายาวงอนที่เรียงกันเป็นแพปิดทับดวงตาที่ปิดสนิท ปากเรียวอิ่มน่าจูบที่พึมพำๆอะไรสักอย่างที่คล้ายๆบทสวด แก้มใสๆสีชมพูอ่อนๆทำให้ยากที่จะห้ามใจไหว ร่างสูงฝังจมูกลงบนแก้มนุ่มของอีกคนเบาๆ พลางสูดดมความหอมจากกายบางเสียฟอดใหญ่
“ผู้ชายอะไร หน้าตาก็สวย ตัวก็หอม ขออีกสักทีแล้วกันนะ” ว่าพลางก้มลงหอมแก้มนุ่มอีกข้างนึง ใบหน้าหล่อยิ้มแป้นจนแก้มจะทะลัก ก่อนจะรีบถอยห่างออกมาเมื่อเห็นอีกคนเริ่มขยับตัว
“ฮ้าววววว!!! อ้าว คิบอมไปไหนเนี่ย” ดงเฮหาวเสียหวอดใหญ่ พลางลืมตาขึ้นมองใครอีกคนที่มาด้วย เมื่อไม่เจอจึงมองซ้ายมองขวาหา และก็มีมือของใครไม่รู้พุ่งมาปิดตาตนเอาไว้
“ทายซิใครเอ่ย” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“ใครน้า.....เอ น่าจะเป็นคนขี้ขโมยที่ชอบลักขโมยหอมแก้มคนอื่นละมั้ง” ร่างบางว่าพลางจับมืออีกคนออกจากตา ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้คนที่ยืนยิ้มแหยๆเมื่อถูกจับได้
“ฮยองรู้หรอครับ ขอโทษครับ” คนร่างสูงมีสีหน้าสลดลง ก่อนจะเอ่ยขอโทษที่ล่วงเกินคนร่างบางอีกครั้ง
“อะไรกัน ล่วงเกินฉันแล้วก็เอาแต่พูดว่าขอโทษอย่างนี้ทุกที ....ไม่คิดจะรับผิดชอบฉันหน่อยหรอไง” ร่างบางเอ่ยถามอีกคนเสียงเข้มอย่างดุๆ
“ขอโทษครับ ต่อไปจะไม่ทำแล้วครับผม” เอ่ยอย่างรู้สึกผิดพลางก้มหน้าสำนึก
“ไม่ได้บอกว่าห้ามทำซักหน่อย แค่บอกว่าทำแล้วต้องรับผิดชอบต่างหาก นายซื่อบื้อ” พึมพำๆกับตัวเองเบาๆ
“ฮยองว่าอะไรนะครับ” ได้ยินคนตรงหน้าทำปากขมุบขมิบอะไรสักอย่างแต่ก็ฟังไม่ชัด
“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่านายยังเด็กอยู่ ฉันยังไม่อยากโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ดังนั้นจะปล่อยไปก่อนแล้วกันนะ ตอนนี้กี่โมงแล้วเนี่ย” พูดๆอยู่ก็เปลี่ยนเรื่องมาถามเรื่องเวลาเสียอย่างนั้น ทำเอาคิบอมถึงกับงงกับคนร่างบาง
“ตอนนี้ 4 โมงครึ่งแล้วครับ ห้องสมุดจะปิดแล้วด้วยครับ”
“แล้วนายทำงานเสร็จหรือยังอ่า”
“เหลืออีกไม่กี่หน้าก็เสร็จแล้วล่ะครับ ฮยองหิวหรือยังครับ”
“หิวแล้วๆ เก็บของกันเถอะ กลับไปทำต่อที่บ้านแล้วกันเนอะ” ว่าพลางช่วยคนร่างสูงเก็บของบนโต๊ะ มือหนารวบของที่ต้องเอากลับไว้ในมือเดียว ส่วนอีกมือก็เลื่อนไปจับที่มืออีกคน ดงเฮหันมามองคนเนียนที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่ แอ๊บเนียนมาจับมือตนอยู่ ก่อนจะหัวเราะเบาๆกับความเนียนของคนร่างสูง
“ฮยองอยากทานอะไรครับ”
“ไอติม!!!!” นี่ก็ตอบอย่างลั้ลลาเหมือนเด็กๆเวลาผู้ปกครองพาไปนั่งทาน ไอติม เมื่อได้สถานที่นัดหมายที่ต่อไป ทั้งคู่ก็เดินออกจากหอสมุดมุ่งหน้าตรงไปยังร้านไอศกรีมที่ใกล้ที่สุดนี้ทันที
เดินมาไม่ไกลจากหอสมุดมากนัก ทั้งสองก็พบกับร้านไอศกรีมที่ตกแต่งด้วยโทนสีชมพูหวาน หน้าร้านนั้นประดับประดาไปด้วยสติ๊กเกอร์ ลายก้อนเมฆ สายรุ้ง หรือแม้แต่ลายไอติม ทำให้สถานที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกสดใสน่ารักๆ คิบอมยืนช่างใจอยู่เล็กน้อยว่าจะเข้าไปในร้านสีชมพูหวานแหววนี่ดีหรือไม่กัน
“อ้าว คิบอม ทำไมไม่เข้ามาละ มีอะไรหรือเปล่า” ดงเฮที่เดินนำเข้าไปในตัวร้านหันกลับมาเอ่ยถามอีกคนอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นคนตัวสูงชะงักฝีเท้าอยู่หน้าร้าน
“เอ่อ....” ยังไม่ทันได้ตอบอะไร คนร่างบางก็ดึงมืออีกคนลากเข้าร้านไปเสียแล้ว พนักงานต้อนรับนำพาคนทั้งคู่มานั่งที่โต๊ะกลางร้านที่รายรอบไปด้วยโต๊ะของเด็กๆตัวเล็กๆและเด็กสาววัยรุ่นที่มานั่งทานไอติมในยามเย็นวันนี้ ดูท่าตอนนี้เค้าจะเป็นผู้ชายคนเดียวในร้านนะ เอ๊ะ...ไม่สิ ลืมไปเลยว่าดงเฮฮยองก็เป็นผู้ชายนี่นา
“พี่ฉาววววว แฟนพี่ฉาวหล่อจังเยย น้องขอได้มั้ยคะ” เด็กสาวตัวเล็กที่นั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆสะกิดเรียกดงเฮ พลางเอ่ยขอผู้ชายที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามคนร่างบาง
“55+ พี่เป็นผู้ชายนะครับ อีกอย่างคนนี้ก็ไม่ใช่แฟนของพี่ชายนะครับ ทำไมอยากได้พี่สุดหล่อนี่เป็นแฟนหรอครับ พี่ก็เป็นผู้ชายนะ หล่อด้วยไม่สนใจพี่บ้างหรอ” ดงเฮลูบหัวเด็กน้อยเบาๆพลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม คิบอมมองการกระทำของอีกคน และก็อดเจ็บปวดเบาๆไม่ได้ที่ร่างบางปฏิเสธเด็กน้อยไปว่าตนเองไม่ใช่แฟน
“พี่ฉาวโกหก คุณแม่บอกว่าการโกหกเป็นสิ่งไม่ดี พี่ฉาวเป็นพี่ฉาวจะเป็นผู้ชายได้ยังไงคะ โอ๋ๆพี่ฉุดหล่อของน้องไม่ต้องเสียใจนะ ถึงพี่ฉาวไม่รัก แต่น้องรักพี่ฉุดหล่อนะคะ”มือเล็กๆเลื่อนไปจับแก้มป่องๆของชายหนุ่ม พลางหยิกเล่นเบาๆ ดงเฮหันไปแยกเขี้ยวใส่เด็กน้อยที่มาหาว่าตนเองโกหกเรื่องที่เป็นผู้ชาย
“เอาน่า ฮยองก็ เค้ายังเด็กน่ะครับ คิดอะไรเห็นอะไรก็พูดไปตามนั้น เค้าว่ากันว่าเด็กไม่โกหกนะครับฮยอง อ๊ะ....ไม่ใช่สิ อย่างนี้ต้องเรียกนูนาต่างหาก เพราะ ดงเฮนูนาเป็นพี่ฉาวววววว” คิบอมล้อเลียนเด็กน้อยอย่างกวนๆ จากที่แยกเขี้ยวใส่เด็กดงเฮก็เริ่มหันมาแยกเขี้ยวใส่คู่เดทในวันนี้ของตนแทนแล้ว
“ฉันเป็นผู้ชายนะ TT” ร่างบางต่อว่าอีกคน
“ครับๆ เป็นผู้ชายก็ผู้ชายครับนูนา” ตอนแรกก็นึกว่าร่างสูงจะเลิกต่อล้อต่อเถียง แต่ท้ายประโยคก็ยังคงแซวไม่เลิก
“คิม คิบอม !!!” มือบางฟาดลงบนไหล่อีกคน ก่อนจะทำแก้มพองแข่งกับคนร่างสูงอย่างงอนๆ
“ดงเฮนูนาอ่า เป็นอะไรไปครับ งอนผมหรอครับ” มือหนาเขย่าแขนอีกคนเบาๆอย่างอ้อนq
“ถ้านายเรียกฉันว่านูนาอีกฉันจะงอนนายจริงๆแล้วนะ” ดงเฮหันมาพูดแล้วเชิดหน้าหนีอีกคนไป
“ทำไมละครับ เรียกว่านูนาน่ารักออก ฮยองไม่เห็นหรอครับ เวลาผมเรียกว่าฮยองมีแต่คนมองผมแปลกๆอ่า” คิบอมเอ่ยเรียกคนร่างบางอีกครั้ง พลางสะกิดให้อีกคนดูปฏิกิริยาของคนทั้งร้านที่พากันซุบซิบๆเดาไปต่างๆนานาว่าคนที่มากับพ่อหนุ่มสุดหล่อคนนี้นั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
“ฉันว่าผู้หญิงนะแก // แต่ผู้ชายที่มากับเค้าเรียกเค้าว่าฮยองนะแก // แต่ดูยังไงหน้าก็ผู้หญิงนะ อาจจะเป็นทอมบอยหรือเปล่าแก”เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของ เด็กสาวโต๊ะรอบข้างดังขึ้นกระแทกเข้าโสตประสาทคนร่างบาง ดงเฮหันไปมองหน้าคนร่างสูงที่ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระกลับมา
“นูนาก็นูนา ยอมก็ได้” สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนให้อีกคนเรียกตนว่านูนา “ฮ่าๆ ยอมแพ้แล้วหรอครับนูนา งั้นสั่งไอติมทานกันเนอะ นูนาเอารสอะไร” เด็กเสิร์ฟเดินเอาเมนูมาให้ทั้งคู่ พลางรอรับรายการที่สั่ง
“อยากกินรส ....วนิลาอ่า เอาวนิลาซันเดย์แล้วกันนะ เพิ่มเวเฟอร์กับเยลลี่ สีแดงด้วยนะ”ร่างบางสั่งเสร็จก็ยื่นเมนูให้อีกคน
“อ่า ของผมขอเป็นช็อกโกแลต ทาวเวอร์ เพิ่มบราวนี่กับอัลมอนด์ครับ” นั่งรอเพียงไม่นานหลังจากสั่งไป ไอติมแก้วใหญ่ของคนทั้งคู่ก็มาวางอยู่ตรงหน้า
“ทานเยอะๆนะครับ”ว่าพลางตักไอติมช็อกโกแลตในถ้วยขึ้นจ่อปากอีกคน
“อ๊ะ...ลืมเลย” ดงเฮที่อ้าปากเตรียมจะรับไอติมช้อนโตเข้าปาก เมื่อนึกขึ้นได้ก็ชะงักค้าง พลางหยิกนิ้วตัวเองเบาๆ 3 ครั้ง ตามทริคที่ว่า หากมากินไอติมกับคนที่แอบรัก ก่อนจะตักคำแรกเข้าปากให้หยิกนิ้วตัวเองเบาๆ 3 ครั้ง แล้วเค้าคนนั้นจะไปส่งเราที่บ้าน ดงเฮทำตามทริคที่ว่านี้ ก่อนจะอ้าปากรับไอติมคำโตเข้าปากไป
“อยากกินบราวนี่ด้วยอ่าคิบอม” อ้อนขนาดนี้มีหรือจะไม่ตักให้ทาน ร่างสูงตักบราวนี่ป้อนอีกคนที่รับไปด้วยหน้าตามีความสุขสุดๆ
“กินของฉันมั่งปะ” เอ่ยถามพลางตักเยลลี่ลูกโตป้อนคืนให้คนร่างสูง คิบอมเองก็อ้าปากรับสิ่งที่อีกคนป้อน ไอติมที่ว่าหวานวันนี้ดูเหมือนจะหวานขึ้น อีกเป็นเท่าตัว เมื่อไอติมในถ้วยของตนเองนั้นถูกตักป้อนคนตรงข้ามไม่ขาดปาก
“เมื่อตอนทานไอติม นูนาทำอะไรหรอครับ ผมเห็นหยิกนิ้วตัวเอง” คิบอมเอ่ยถามขณะที่คนทั้งคู่กำลังเดินกลับบ้านหลังจากที่ทานไอติมกันเสร็จแล้ว
“อ้อ มันเป็นทริคน่ะ บอกไม่ได้หรอก บอกแล้วเดี๋ยวทริคฉันก็ไม่ได้ผลสิ” ดงเฮว่าพลางคล้องแขนอีกคน รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้า รู้สึกมีความสุขเหลือเกินกับการใช้เวลาในวันนี้กับคนร่างสูงข้างกาย
“ขอบคุณนะที่มาส่ง วันนี้สนุกมากๆเลย ฉันมีความสุขมากๆที่ได้เดทกับ คิบอม ถึงแม้เราจะไม่ได้ไปเที่ยวไหนด้วยกันมากนัก แต่แค่ใช้เวลาด้วยกัน ได้รู้จักกันมากขึ้น แค่นี้มันก็ทำให้ฉันมีความสุขมากๆแล้วล่ะ ขอบคุณนะ” ทันทีที่คนทั้งคู่เดินมาหยุดที่หน้าบ้าน ดงเฮก็หันมาบอกลาคนที่เดินมาส่งในทันที
“ครับ ผมเองก็มีความสุขเหมือนกันที่วันนี้ได้เดทกับดงเฮนูนา ไว้ว่างๆเราไปเที่ยวกันอีกนะครับ ผมยังมีเรื่องที่อยากรู้เกี่ยวกับดงเฮนูนาอีกเยอะเลยครับ” คิบอมว่าพลางยกมือลูบแก้มอีกคนเบาๆก่อนจะก้มลงหอมแก้มเนียนแทนคำบอกลา
“กลับบ้านดีๆนะ >///<” หน้าหวานขึ้นสีชมพูระเรื่ออย่างเขินๆ เมื่อปากหนาแตะโดนแก้มเนียน พาให้นึกถึงจูบเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา
“งั้นผมไปนะ หลับฝันดีนะครับ ^^” ยกยิ้มแก้มป่อง พลางโบกมือบ๊าย บาย ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
“คิบอม.....จุ๊บ” เสียงใสเอ่ยเรียกอีกคนที่หันไปแล้ว พลางฉุดแขนให้หันกลับมามองตนอีกครั้ง ก่อนจะจุ๊บลงบนปากของคนร่างสูงเบาๆ แล้ววิ่งหนีเข้าบ้านไปด้วยความเขินอาย
“ฮ่าๆ...ก็น่ารักซะชนาดนี้ จะไม่ให้ผมหลงรักได้ยังไงกัน” มือหนาลูบปากตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านของคู่เดทในวันนี้ รอยยิ้มกว้างแต่งแต้มบนแก้มป่องอย่างห้ามไม่อยู่
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูจะขยับขึ้นอีกขั้นหนึ่ง จากคนรู้จัก เริ่มแปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่าพี่น้อง ก่อนที่ความชอบที่แล่นเป็นริ้วๆเข้ามาในความรู้สึกนั้นจะเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ร่างสูงเริ่มจะมั่นใจแล้วว่า ความสัมพันธ์ที่มีนั้นมันเกินเลยคำว่า พี่น้องมาไกลแล้ว.....เอ๊ะ หรือมันจะไม่มีคำว่าพี่น้องมาตั้งแต่แรกแล้วนะ
taLK : แ่ต่งเรื่องหวานทีไร ชอบให้เมนแรดทุกที 5555 ใครอยากอ่านตอนต่อไป รีเควสมา ไรเตอร์จะจัดไปอย่างด่วนเลยจ้า รักเทอเสมอ รีดเดอร์
ความคิดเห็น