ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF Where's the love I can find? ...รักแท้อยู่ไหนกัน

    ลำดับตอนที่ #6 : Trick 4 รักแรกพบ....

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 55


    TRICK 4 : รักแรกพบ...

                    ดวงจันทร์ยามค่ำคืนปรากฏเด่นเต็มดวงกลางท้องฟ้ามืดกว้าง ดวงดาว    สุกสกาวกระจายทั่วผืนฟ้าสีดำสนิท เสียงหัวเราะที่บ่งบอกถึงความสุขของคนทั้งสามดังลอดออกมาจากห้องนั่งเล่นเล็กๆของตัวบ้าน ต่างคนต่างผลัดกันเล่าเรื่องราวที่ได้พบเจอมาในวันนี้ให้กันและกันฟัง

                    ฮ่าๆ... ฉันว่าน่ารักดีออกนะ ทำไมนายไม่ชอบละซองมินอึนฮยอกหัวเราะอย่างขำขันเมื่อได้ฟังเรื่องราวที่ซองมินเล่าเกี่ยวกับชายหนุ่มที่มาหยอดมุกเลี่ยนๆจีบตนในวันนี้

                    โอ๊ย ไม่ไหวหรอก ไม่ใข่สเป็คเลย เสี่ยวขนาด พูดแล้วยังขนลุกไม่หาย     พูดมาได้ให้ฉันเปลี่ยนนามสกุลจะได้ชื่อเหมือนแม่ของลูก บรื้อออออซองมินว่า  พลางลูบแขนอย่างขนลุกเมื่อคิดถึงใบหน้าของอีกคนที่ลอยเด่นกวนตากวนใจตนเอง

                    555+ดูทำหน้าเข้าสิ ฉันว่าเข้ากับนายออกนะ ซองมินดงเฮเอ่ยเชียร์อีกคน และก็โดนคนร่างอวบตีไหล่กลับมาอย่างงอนๆที่มาล้อตนเช่นนี้

                    ว่าแต่เค้า ตัวเองก็เถอะ ไปติ๊ต่างเอาเองว่าเค้าเป็นเนื้อคู่แบบนี้อ่านะ      เค้ารู้ตัวหรือเปล่าเถอะว่าตกเป็นเนื้อคู่ของลีดงเฮเจ้าแม่ไสยศาสตร์แล้วเนี่ย นี่ถ้า     เจ้าตัวรู้เรื่องคงเผ่นแน่บเพราะกลัวโดนของแน่ๆเลยซองมินย้อนอีกคน หลังจากที่   ได้ฟังเรื่องราวที่ดงเฮเล่า ก็ชักอยากจะเห็นเนื้อคู่ของเพื่อนรักของตนซะแล้วสิ

                    ฉันมีวิธีพิสูจน์แล้วกันน่ะว่าเค้าจะใช่เนื้อคู่ฉันมั้ย ไว้ฉันมั่นใจก่อนว่ามันจะได้ผลแล้วจะเอามาให้พวกนายใช้กันบ้างนะร่างบางว่าพลางเหลือบมองหนังสือ   เล่มใหม่ที่ซื้อมาจากร้านอาแปะ นี่มันมีค่ายิ่งกว่าทองคำอีกนะ จะหาหนังสือที่รวบรวมวิธีตามหาเนื้อคู่กว่า 30 วิธีไว้ในเล่มแบบนี้ได้ที่ไหนกัน ว่าแล้วคืนนี้ก็ลอง     ซักหน่อย ว่ามันจะได้ผลมั้ย

                    จ้าๆ เชิญหาไปคนเดียวเลยเถอะจ้า ฮยอกเจอแล้ว ไม่หาใหม่แล้วจ้า  อึนฮยอกว่าอย่างขอบาย ในเมื่อตนเองได้เจอพ่อหนุ่มสุดเพอเฟคแห่งปีขนาดนี้แล้ว เรื่องอะไรจะมองคนอื่นอีกกัน

                    ติ๊ง....ต่องในระหว่างที่ทั้งสามนั่งพูดคุยกันอยู่นั้น เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้นเรียกร้องความสนใจของทุกคนได้เป็นอย่างดี  อึนฮยอกเดินไปเปิดประตูบ้านต้อนรับแขกผู้มาเยือนยามวิกาล ดวงตากลมโตเหลือบมองช่องตาแมวหน้าประตูบ้านเพื่อดูว่าใครมาหา  

                    อ้าว พี่ฮีชอล พี่ฮัน มาได้ไงฮะเนี่ย มาซะดึกเลยมีอะไรหรือเปล่าฮะ     อึนฮยอกเอ่ยทักพี่ชายทั้งสองที่มาเยี่ยมตนที่บ้าน ทั้งๆที่เพิ่งจะแยกกันมาไม่ถึง 2 ชั่วโมงแท้ๆ

                    พี่จะมาดูเสื้อผ้าในตู้เราน่ะ จะได้ดูว่าต้องซื้ออะไรเพิ่ม ยังขาดอะไรอยู่บ้างน่ะ ให้พี่เข้าไปดูได้มั้ยฮีชอลเอ่ยถามอีกคน ก่อนจะยิ้มหวานเมื่อเห็นน้องสองคนของตนเดินออกมาต้อนรับเช่นกัน

                    ซองมิน ดงเฮ ยังไม่นอนกันอีกหรอเด็กๆคนร่างบางอ้าแขนรับอีกสองคนที่วิ่งเข้ามากอดตน

                    ยังฮะ คงอีกสักพักละฮะ เดี๋ยวก็นอนกันแล้ว พอดีนั่งคุยอะไรกันนิดหน่อยน่ะฮะซองมินบอกเสียงอู้อี้เมื่อคนร่างบางจมอยู่ในอกบางของอีกคน

                    ทำไมทักทายกันแต่พี่ฮีชอล พี่ก็ยืนอยู่ตรงนี้ น้อยใจนะครับเนี่ยหลังจากที่ยืนไร้ตัวตนอยู่นาน ร่างสูงก็เอ่ยทักน้องๆทั้งสามพลางโชว์แสงออร่าจากศีรษะให้สว่างจ้าทั่วทั้งบ้าน

                    โอ๋ๆๆ อย่าน้อยใจเลยน้า มาๆ น้องกอดๆว่าแล้วซองมินกับดงเฮก็พุ่งตรงเข้าไปกอดพี่ชายอีกคน ฮันคยองโอบกอดน้องทั้งสองไว้ในสองแขน พลางยิ้มอย่างมีความสุข

                    หน้างี้บานเท่าฝาบ้านเชียวนะ พอเจอน้องน่ารักๆกอดเนี่ยฮีชอลเอ่ยแขวะอีกคนเมื่อเห็นคนร่างสูงยิ้มเสียหวานหยดตอนได้กอดคนน่ารักๆแบบนี้

                    หึงหรอครับ คุณนี่ก็ หึงแม้กระทั่งน้องเนอะ มาๆ ผมกอดบ้างนะว่าพลางคลายอ้อมกอดจากน้องทั้งสอง ก่อนจะตวัดเอวบางเข้ามากอดแนบกาย พลางก้มลงหอมแก้มโชว์น้องๆ

                    คนบ้า ไม่อายน้องๆบ้างหรือไงกัน ปล่อยเลยนะฮีชอลดันหน้าหล่อๆของอีกคนที่ระดมหอมแก้มตนออก มือบางตีเข้าที่ไหล่หนาอย่างเขินอาย พลางเหลือบมองน้องๆที่เอามือปิดตากันไว้

                    “ตามสบายฮะ น้องๆไม่เห็น เราไม่เห็นอะไรเนอะ ดงเฮ ซองมินอึนฮยอกว่าพลางถ่างนิ้วให้พอมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า

                    55+ เจ้าสามลีนี่น่ารักจริงๆเลยน้าฮันคยองยอมปล่อยมือออก           จากเอวบาง พลางลูบหัวน้องๆสามลีของตนอย่างเอ็นดู

                    “ใจคอเราสามคนจะไม่ชวนพวกพี่เข้าบ้านเลยหรอ หืม?ยืนคุยมาก็นาน แต่เจ้าของบ้านยังไม่อัญเชิญเข้าบ้านไปนั่งคยกันดีๆเสียที

                    “ขอโทษฮะ ฮยอกลืม คุยเพลินไปหน่อย เข้ามาก่อนสิฮะ เดี๋ยวฮยอกพาไปดูตู้เสื้อผ้าข้างบนนะฮะว่าพลางพาพี่ชายทั้งสองคนเข้ามาในบ้าน

                    “น้ำเย็นๆฮะ ได้ยินมาว่าพี่ฮีชอลเป็นคนหาเนื้อคู่มาให้ฮยอกหรอฮะ ....            หล่อมั้ยฮะ มินนี่อยากรู้ซองมินเองก็เดินไปเอาน้ำมาเสิร์ฟให้พี่ชายอีก 2 คน                ร่างบางลงนั่งข้างพี่ชายคนสวย พลางนวดไหล่ให้อย่างเอาใจ

                    อ้อ ซีวอนน่ะหรอ ก็หล่อดีนะ เคยลงปกนิตยสารอยู่บ่อยๆน่ะ ไว้เดี๋ยวสักวันเราคงได้เจอละ แล้วเราล่ะ ไม่มีเนื้อคงเนื้อคู่อะไรกับเค้าบ้างหรือไง

                    “โหย หน้าตาแบบมินนี่จะไปขุดหาเนื้อคู่อะไรแบบนั้นได้จากไหนกันละฮะ แต่ถ้าพี่ฮีชอลหาให้ น้องก็ยินดีรับไว้พิจารณานะฮะ ขอหมอหล่อๆรวยๆเลี้ยงมินนี่ให้อิ่มหนำได้ตลอดชีพ แค่นี้ก็โอเคแล้วล่ะฮะ 55+เอ่ยบอกสเป็คตนเสร็จสรรพ

                    โหย เลี้ยงมินนี่ไหวนี่คงต้องเป็นพวกเจ้าของฟาร์มวัวอะไรงี้มากกว่านะ 555+ ไม่ยักรู้ว่าชอบแนวนี้นะซองมิน นึกว่าชอบแนวเสี่ยวๆ ตามจีบด้วยมุกเลี่ยนๆอะไรแบบนี้ซะอีก 555+ดงเฮเอ่ยแซวเพื่อนอีกคน แล้วก็โดนร่างอวบเขวี้ยงค้อนใส่

                    ล้อได้ล้อดีนะดงเฮ ล้อมากๆ ขอให้มีแฟนเสี่ยว ชิชะว่าอย่างงอนๆพลางสะบัดก้นงามๆเดินหนีเข้าไปหาอะไรกินในครัว

                    ทำเป็นงอนๆ อยากจะเดินไปหาอะไรกินก็พูดเถอะ แหมๆๆ กินดึกๆเดี๋ยวก็กลายเป็นตุ่มหรอกน้าดงเฮตะโกนแซวเข้าไปในครัวเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนรื้อค้นหาของกินอะไรบางอย่างมากระแทกปากในยามที่หงุดหงิด

                    เค้าเป็นอะไรของเค้าน่ะฮันคยองเอ่ยถามอย่างงงๆกับอาการของน้อง

                    ไปโดนลูกค้าที่ร้านกาแฟจีบเอาน่ะฮะ ยังเป็นเด็กม ปลายแท้ๆ ริอาจ              ปีนเกลียว 55+อึนฮยอกเฉลยให้อีกคนทราบ พลางพาพี่ๆทั้งสองขึ้นไปยังห้องนอน เพื่อให้ฮีชอลได้ดูชุดที่อยู่ในตู้ของตน

                    นี่ ชุดเรามีแค่นี้หรออึนฮยอกฮีชอลเอ่ยถามในขณะที่มือบางก็รื้อค้น        ตู้เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยมีเสื้อผ้ามากมายนัก นอกจากชุดนักศึกษาเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว กางเกงแสล็คทรงกระบอกสีดำตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยแล้ว นอกนั้นก็จะเป็นเสื้อยืดลายการ์ตูนสีสันสดใส ฟ้าบ้าง เหลืองบ้าง ชมพูเขียวสลับกันไป            ส่วนกางเกงก็จะเป็นกางเกงยีนส์ขาสั้นใส่สบายๆเหมือนอยู่บ้านเสียมากกว่า

                    หน้าตาก็น่ารักทำไมไม่รู้จักแต่งตัวให้มันเหมาะกับหน้าตาบ้างนะเราเนี่ยบ่นอีกคนอย่างอดไม่ได้ ขาเรียวยาวสาวเท้าไปยังโต๊ะกระจกของคนน่ารัก                    พลางสำรวจหาครีมบำรุงผิว

                    ครีมเราอยู่ที่ไหน ในห้องน้ำหรอ เมื่อเห็นว่าหน้าโต๊ะกระจกมีเพียงแค่หวีแปรงวางอยู่อันเดียว ไร้ซึ่งเครื่องสำอางใดๆวางให้เห็น ฮีชอลจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย

                    ครีมอะไรหรอฮะ...ฮยอกมีแต่แป้งเด็กแคร์ มันอยู่ในห้องน้ำน่ะฮะ         ว่าพลางชี้ไปที่ประตูห้องน้ำ ฮีชอลเดินไปเปิดห้องน้ำออกดูและก็เห็นขวดแป้งกระปุกใหญ่ตั้งอยู่ตามที่คนร่างบางว่า

                    ตายแล้วๆ ฮัน ดูน้องสิ ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ ฉันไม่เข้าใจเลย ทั้งๆที่หน้าตาก็ออกจะน่ารัก แต่ไม่รู้จักดูแลตัวเองเลยฮีชอลแทบจะทึ้งผมตัวเองด้วยความเครียด เมื่อเห็นสภาพความเป็นอยู่ของน้องข้างบ้าน ฮันคยองต้องเข้ามารวบตัวคนร่างบางมากอดไว้ไม่ให้ระเบิดลง

                    เอาน่าคุณ เรามีหน้าที่เปลี่ยนแปลงน้องไง เดี๋ยวเราค่อยๆเริ่มหัดน้องให้ดูแลตัวเองก็ได้ ใจเย็นๆนะครับว่าพลางลูบหัวคนร่างบางเบาๆให้อีกคนได้เย็นลง.

                    อื้ม สูดลมหายใจลึกๆฮีชอล อื้มมมมมมมมคนร่างบางบอกตัวเองพลางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะพ่นออกมาอย่างผ่อนคลาย

                    เอาละ พี่เห็นสภาพความเป็นอยู่ของเราแล้ว เดี๋ยวพี่จะให้ซีวอนเป็นคนจัดการเรื่องแปลงโฉมเราเอง เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามีตรวจร่างกายเบื้องต้นก่อนใช่มั้ย เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่จะจดรายการที่ต้องซื้อไว้ให้ เดี๋ยวเราไปกับซีวอนแล้วกันนะ  ไม่ว่าซีวอนมันจะจับเราไปเปลี่ยนแปลงยังไง พี่อยากให้เรามั่นใจและเชื่อใจซีวอนไว้ ว่าเค้าจะทำให้เราดูดี ดังนั้นนั่งทำหน้าตาน่ารักเฉยๆก็พอ นอกนั้นพวกพี่จะสอนและเปลี่ยนให้เราเอง โอเคนะ อึนฮยอกเอ่ยบอกอีกคนที่นั่งฟังตาปริบๆ  คนน่ารักพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

                   

                    ขอบคุณพี่สองคนมากเลยนะฮะ ราตรีสวัสดิ์ นอนหลับฝันดีนะฮะ”       อึนฮยอกเดินมาส่งคนทั้งคู่ที่หน้าบ้าน พลางโค้งให้เป็นการบอกลา มือบางปิดล็อกประตูบ้านอย่างแน่นหนา พลางปิดไฟในตัวบ้าน เตรียมตัวที่จะขึ้นไปนอนที่ห้อง ดวงตาคู่สวยเหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว พลางยกมือปิดปากที่หาวเสียหวอดใหญ่ เนื่องด้วยความง่วงที่เข้าครอบงำ

                    ราตรีสวัสดิ์นะ ซองมิน ดงเฮ หลับฝันหวานๆน้าบอกลาเพื่อนทั้งสองที่นอนอยู่เตียงถัดไป พลางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มของตนเองบ้าง มือบางคว้าตุ๊กตาสิงโตตัวใหญ่มากอดไว้แนบอก ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มตรงดิ่งสู่นิทราในยามค่ำคืนนี้

     

    เวลาเที่ยงคืนตรง

                    ครืดดด...คราดดด ....ๆๆเสียงของของมีคมถูกลากถูไถไปกับเนื้อหิน มีดเงินสีมันวาวส่องแสงสะท้อนกับเงาของกระจกบานใหญ่ตรงหน้า

                    หึหึ....จะเริ่มทำพิธีแล้วนะ เสียงแหบพร่าเอ่ยบอกกับตัวเอง พลางหัวเราะอย่างน่ากลัว เวลาเที่ยงคืนตรงของคืนจันทร์เพ็ญวันนี้ ถือเป็นฤกษ์ดีในการประกอบพิธีนี้เป็นอย่างยิ่ง ร่างผอมเพรียวใช้นิ้วแตะที่ใบมีดเพื่อเช็คความคมชองมันหลังจากที่นำมันไปถูไถรับคมจากหินลับมีดอยู่ครู่ใหญ่ มือบางจุดไม้ขีดไฟเพื่อจุดเทียนไขเล่มยาวที่วางอยู่หน้ากระจกให้พอมองเห็นสิ่งต่างๆในยามค่ำคืน

                    เมื่อเห็นสมควรแก่เวลา ดงเฮก็เดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่    เงาสะท้อนร่างเพรียวระหงส์ปรากฏบนกระจกเบื้องหน้า ภาพของชายรูปร่างบอบบางในชุดสีดำสนิท ใบหน้าแต้มไปด้วยรอยยิ้มที่ถูกแสยะยิ้มออกมาให้กับภาพของตนเอง

                    ขอให้ภาพของเนื้อคู่ฉัน ปรากฏขึ้นบนกระจกเบื้องหน้านี้ด้วยเถิด”            คนร่างบางหลับตาลงตั้งจิตอธิษฐาน

                    ขอให้ฉันเห็นเนื้อคู่...ๆๆๆเมื่อลืมตาขึ้น มือบางก็หยิบมีดและผลแอปเปิ้ลสีแดงสดที่เตรียมไว้มาปอก คมมีดกรีดลงบนเนื้อผลไม้สีแดงฉาน เปลือกบางค่อยๆลอกออกมาเป็นเส้นตามรอยมีดที่กรีด ริมฝีปากยังคงพร่ำอธิษฐานตามบทคาถาที่ในหนังสือเขียนไว้ไม่หยุด นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองภาพบนกระจกตรงหน้าที่สะท้อนเงาของตนเองตาไม่กระพริบ

                    เพียงไม่นานภาพตรงหน้าก็เริ่มแปรเปลี่ยนจากใบหน้าของลีดงเฮ เงาจางๆปรากฏขึ้นให้เห็นเป็นแผ่นหลังของใครอีกคน คนในกระจกค่อยๆหันหน้ามามอง     ร่างบางช้าๆ   ใจดวงน้อยเต้นระรัวอย่างตื่นเต้น เมื่ออีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าตนกำลังจะได้เห็นหน้าเนื้อคู่ที่แท้จริงเสียที...

                    ปัง!!! ด๊อง.....ทำอะไรอยู่หรอออออออึนฮยอกที่เดินโซซัดโซเซเข้ามาหาด้วยอาการงัวเงียเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่ยืนปอกแอปเปิ้ลอยู่หน้ากระจก ดงเฮที่อยู่ในอาการตกใจเมื่ออยู่ๆเพื่อนก็เปิดประตูผัวะเข้ามาในห้องเสียอย่างนั้น มือบางเผลอตัดฉับโดนเข้าที่เปลือกแอปเปิ้ลที่ตนกำลังปอกอยู่ขาดสะบั้น ภาพเนื้อคู่ตรงหน้าที่กำลังจะปรากฏให้เห็นเมื่อครู่หายวับไปกับตา เหลือไว้เพียงเงาสะท้อนภาพของตนเอง

                    ฮยอก!!!!ตื่นมาทำไมกลางดึกแบบนี้กันร่างบางวางมีดในมือลง ก่อนจะเดินเข้าไปรับเพื่อนที่ดูกึ่งหลับกึ่งตื่นเหมือนละเมอแถมยังทำท่าจะทิ้งตัวลงนอนตรงนี้เสียให้ได้ซะอีก

                    หาวววววว ก็ตื่นมาเข้าห้องน้ำ...เห็นแสงเทียนและเสียงอะไรไม่รู้ตะกุกตะกักเลยเดินมาดู ..ด๊องอยากกินแอปเปิ้ลหรอ ทำไมแอบมาปอกกินตอน   เที่ยงคืนซะละไม่รู้เจ้าตัวจะรู้มั้ยว่าพูดอะไรอยู่ หรือได้ถามอะไรเพื่อนออกไปบ้าง อึนฮยอกที่ยืนปิดตาสนิทเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยานคราง พลางซบลงบนอกเพื่อน ก่อนจะหลับปุ๋ยไปเสียดื้อๆ

                    ฮยอก....ๆๆ หลับแล้วหรอมือบางเขย่าตัวเพื่อนรักที่ซุกอกอยู่เบาๆ ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา นอกจากเสียงของลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ              ดงเฮกึ่งลากกึ่งจูงเพื่อนของตนกลับไปยังห้องนอนอีกครั้ง ร่างบางค่อยๆวางร่าง            ของเพื่อนรักลงบนฟูกนิ่ม ก่อนจะห่มผ้าให้อย่างเบามือ

                    แสบจริงๆเลยนะ ทำลายพิธีฉันเสร็จก็ชิ่งหลับก่อนเนี่ย คอยดูนะ ตื่นมาแม่จะวีนให้หูชาเลย ฝากไว้ก่อนเถอะอึนฮยอกไม่ว่าเปล่า มือบางบีบจมูกรั้นๆของเพื่อนอย่างกลั่นแกล้งด้วยความหมั่นเขี้ยว

                    งื้ออออ หายใจม่ายยยย ออกน้า....มือบางปัดมืออีกคนออก ก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงหนี

                    ฝันดีนะ อึนฮยอกว่าพลางก้มลงหอมแก้มนุ่มของเพื่อนสนิท ก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงพลางสอดตัวลงใต้ผ้าห่มผืนหนา ในหัวครุ่นคิดถึงชายในกระจกที่ปรากฏเป็นเงาสะท้อนให้เห็นเพียงชั่วครู่

                    เค้าคือใครกัน...จะใช่คนที่ฉันคิดหรือเปล่านะได้แต่เอ่ยถามตัวเอง     พลางครุ่นคิดนู่นนี่ไปเรื่อย ก่อนจะผล็อยหลับไปในที่สุด

                    ทั้งสามคนหลับตาเพียงชั่วครู่เช้าวันใหม่ก็มาทักทายเสียแล้ว แสงสว่าง   ยามเช้าสอดส่องเข้ามาทักทายคนทั้งสามให้ตื่นจากนิทราที่แสนหวาน อึนฮยอกที่นอนอยู่ริมผนังห้องรีบคลุมโปงผ้าห่มตนเองทันที ส่วนดงเฮก็นำหมอนที่นอนหนุนขึ้นมาปิดหน้าปิดตา คงมีเพียงซองมินเท่านั้นละที่ตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรในยามเช้าของตนเองอย่างเช่นทุกวัน

                    ลั้ล ลั้ล ลาๆๆคนตัวบางอาบน้ำไปก็ฮัมเพลงไปเรื่อยอย่างคนอารมณ์ดี เมื่อคืนนอนหลับสบายแถมตื่นมาก็ได้รับแดดรับลมในยามเช้ารู้สึกสดชื่นดีจริงๆ     เมื่อจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ลงมาเตรียมอาหารเช้าให้เพื่อนที่นอนอุดอู้อยู่บนเตียง มือบางหยิบจับเครื่องครัวอย่างคล่องมือ ไม่นานนักอาหารเช้าสามจานก็ถูกจัดวาง  บนโต๊ะ รอเพียงผู้รับประทานลงมาจัดการมันเท่านั้น

                    ตายละ จะแปดโมงแล้วหรอเนี่ย ด๊องฮยอกมีเรียนเช้าไม่ใช่หรือไงนะวันนี้คนตัวบางเดินไปดูตารางเรียนของเพื่อนทั้งสองคนที่แปะอยู่ที่ริมบันได

                    เรียน 9.30 กันหรอ ได้เวลาตื่นของเด็กดีกันแล้วสินะว่าพลางเดินไปหยิบฝาหม้อมาสองอัน พลางเดินขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นสอง

                    เพล้งๆๆๆ!! ตื่นเถิดชาวไทย อย่ามัวหลับใหลลุ่มหลง ชาติจะเรืองดำรงก็เพราะเราทั้งหลาย ~~~” ร่างบางแหกปากร้องเพลงปลุกใจ(?) ต้องเรียกเพลงปลุกเพื่อนสินะถึงจะถูก เอาเป็นว่าคนตัวอวบของเราแหกปากเสียลั่นบ้านพลางเอาฝาหม้อมาตีประกอบจังหวะอย่างเมามัน ขาอวบๆกระโดดขึ้นเตียงของอึนฮยอก ก่อนจะร้องรำทำเพลงอย่าสนุกสนานในยามเช้าเช่นนี้

                    โอ๊ยๆๆๆๆ ใครก็ได้ทำคลอดหมาน้อยตัวนี้ให้เสร็จทีซิ มันจะได้เลิกร้อง”      ดงเฮระเบิดอารมณ์ขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว ปิดหูก็แล้ว คลุมโปงก็แล้ว นี่ถ้าเค้าไม่ตื่นจะไม่หยุดร้องจริงๆใช่มั้ยเนี่ย

                    เสียงดังแต่เช้าเดี๋ยวข้างบ้านเค้าก็ด่าเอาหรอกซองมินอึนฮยอกแหวลั่น    ข้างบ้านเราก็พี่ฮีชอลกับพี่ฮันคยองไง สองคนนั้นเค้าตื่นมาจู๋จี๋กันที่สวนหน้าบ้านตั้งแต่เช้าแล้วเถอะ เหลือแต่เราสองคนนั่นล่ะ นอนอุดอู้อยู่แต่ในห้องอยู่ได้ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ นี่แน่ะๆๆมือบางหยิบหมอนมาตีลงบนตัวเพื่อนที่นอนดิ้นพล่าน         ไม่ยอมตื่นอยู่บนเตียง สองคนส่งเสียงง๊องแง๊งๆ อยากนอนต่อ ไม่ยอมลุก

                    ชักช้าเดี๋ยวเข้าเรียนสายแล้วจะรู้สึก นี่มัน 9 โมงแล้วนะ ไม่ไปก็ไม่เป็นไร      ไม่ปลุกแล้วก็ได้ว่าพลางลุกขึ้นจากตัวดงเฮที่ร่างอวบนั่งคร่อมทับอยู่

                    เรียน ...9 โมง ตายแล้ว!!!มีเรียนตอน 9 โมงนี่หว่าสมองอันชาญฉลาดของอึนฮยอกรีบประมวลผลในสิ่งที่เพื่อนพูดก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำในทันที

                    เอ้า เพื่อนได้สติไปคนแล้ว ไอนี่ละ จะนอนอีกนานมั้ย เดี๋ยวฉันจะเอาไม้เสียบตูดประจานคนขี้เซาได้ยินอย่างนั้น ดงเฮก็รีบลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูวิ่งตามอีกคนไปที่ห้องน้ำทันที

                    เฮ้อ....ปลุกยากปลุกเย็นจริงๆ สงสารเนื้อคู่ของสองคนนี้จริงๆที่จะต้องลำบากปลุกแทนส่ายหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเดินลงไปรอทานข้าวกลับเพื่อนทั้งสองที่โต๊ะอาหารด้านล่าง

                    มาแล้วๆๆๆ กลิ่นหอมฉุยเลยยยยยอึนฮยอกที่อาบน้ำแต่งตัวในชุดนักศึกษาเรียบร้อยแล้วเอ่ยทักทันทีที่จมูกรั้นๆนั้นได้กลิ่นหอมของอาหารเช้าที่ถูกเตรียมไว้ คนตัวบางเดินตัวปลิวลอยมาตามกลิ่นอาหาร ก่อนจะตามมาด้วยดงเฮที่มีใบหน้าเรียบเฉยนิ่งราวกับตุ๊กตาปูนปั้น

                    นอนไม่พอละสิ หน้าบูดบึ้งเชียว มัวทำอะไรละเมื่อคืนนี้น่ะ ซองมินเอ่ยทักอีกคนเมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนรัก

                    เออ ใช่ เมื่อคืนฮยอกฝันด้วยนะ ฝันว่า...ด๊องตื่นมาปอกแอปเปิ้ลกินตอนกลางคืนละ ฝันแปลกดีเนอะหัวเราะเสียงใสเมื่อคิดไปถึงความฝันเมื่อคืน นี่เค้าคงกินมากไปจนฝันอะไรไร้สาระแบบนี้สินะเนี่ย

                    พูดถึงปอกแอปเปิ้ล ใครเห็นมีดในครัวบ้าง จะทำกับข้าวเมื่อเช้าแต่มีดไปไหนไม่รู้ซองมินเอ่ยถามเพื่อนอีกสองคนพลางจ้องมองเอาคำตอบ และก็ได้รับการส่ายหน้าจากอึนฮยอกช้าๆ สายตาจึงเบนไปที่อีกคนที่นั่งอยู่

                    อิ่มพอดีเลย ไปล้างจานแล้วรีบไปเรียนก่อนนะว่าพลางลุกขึ้นเก็บจาน ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าใบโปรดวิ่งออกจากบ้านไปอย่างน่าสงสัย อึนฮยอกที่เห็นเพื่อนออกจากบ้านไปแล้วก็รีบจ้วงอาหารในจานตน ก่อนจะกรอกน้ำเข้าปากแล้วคว้ากระเป๋าวิ่งตามดงเฮไปไม่ห่าง

                    ด๊อง!!!รอด้วยคนตัวบางตะโกนเรียกเพื่อนที่กำลังมุ่งหน้าไปมหาลัย     ดงเฮหันมามองเพื่อนที่วิ่งตามแต่ขาเรียวก็ยังไม่หยุดเดิน จึงไม่ทันเห็นใครอีกคนที่เดินมาตรงหน้า

                    อุ้ย...ขอโทษฮะ ไม่ทันได้มอง เป็นอะไรหรือเปล่าฮะร่างบางรีบหันกลับมาดูอีกคนที่ตนชนล้มไป มือบางยื่นไปจับมืออีกคนเพื่อช่วยพยุงให้ลุกขึ้น

                    อ้าว...คิบอม // อ้าว ฮยองต่างคนต่างทักอีกคน พลางส่งยิ้มหวานให้กันดนตรีบรรเลงขึ้นทันทีที่ดวงตาทั้งคู่สบประสานกัน  พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด ~ ~ ~

                    เจอกันแต่เช้าเลยนะ กำลังจะไปโรงเรียนหรอเอ่ยถามอีกคนเมื่อเห็นว่าคนร่างสูงตรงหน้าแต่งชุดยูนิฟอร์มนักเรียนเหมือนที่ตนเจอเมื่อวาน

                    ครับผม ฮยองก็กำลังจะไปเรียนหรอครับ...ให้ผมไปส่งมั้ยครับเอ่ยถามอีกคน พลางขันอาสาจะเป็นคนไปส่งให้

                    แฮ่กๆๆ ทันซักที บอกให้หยุดรอไงคนตัวบางอีกคนที่วิ่งมาด้วยความเหนื่อยหอบเอ่ยบอกเพื่อนรักที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของเราสอง  ไม่ได้สนใจคำบอกของเพื่อนแม้แต่น้อย

                    มะ...ไม่ต้องไปส่งฮยองหรอกดงเฮเอ่ยปฏิเสธอีกคน ทำเอาคิบอมหน้าสลดลงอย่างผิดหวังในคำตอบ แต่แล้วก็ต้องยิ้มหวานเมื่อได้ยินคำต่อมาจากปากบาง

                    เดี๋ยวฮยองจะเดินไปส่งเราที่โรงเรียนเองว่าพลางหลบตาอย่างเขินอายกับสิ่งที่ตนพูด

                    จริงหรอครับ ฮยองใจดีจังเลยน้า น่ารักแล้วยังใจดีด้วย ใครได้เป็นแฟนรักตายเลยนะครับเนี่ยว่าพลางหยิกแก้มบางเบาๆ

                    เตรียมตัวรักฮยองจนตายได้เลย หึหึคนตัวบางพึมพำๆกับตัวเอง

                    ฮยองว่าอะไรนะครับ พูดกับผมหรือเปล่าร่างสูงเอ่ยถามเมื่อได้ยินที่     ร่างบางพูดไม่ถนัดนัก

                    เปล่าๆ ฮยองแค่บอกว่า เราน่าจะรีบไปกันได้แล้ว เดี๋ยวคิบอมจะเข้าเรียนสายเนอะว่าพลางจับข้อมืออีกคนให้เดินตาม   คิบอมก้มลงมองที่ข้อมือหนาของตนที่มีมือนิ่มจับอยู่ พลางยิ้มจนแก้มอูมอย่างมีความสุข

                    เดี๋ยวๆๆ ด๊อง แล้วเค้าละอึนฮยอกรีบวิ่งไปดักหน้าเพื่อนพลางกางขากางแขนกันอีกคนไม่ให้เดินหนีไป

                    ไปมหาลัยก่อนเลยแล้วกันนะฮยอก เดี๋ยวเค้าตามไป เดี๋ยวไปส่งน้องก่อน ฮยอกอยู่มหาลัยมาตั้ง 3 ปีแล้วคงไม่หลงทางหรอกเนอะว่าพลางเดินเลี่ยงอีกคนไป

                    เจอหนุ่มหน่อยละทิ้งเพื่อนเชียวนะ ชิชะ ฮยอกอยู่มหาลัยมาตั้ง 3 ปีแล้วคงไม่หลงทางหรอกเนอะ ไอหนุ่มนั่นมันเรียนโรงเรียนนี้มากี่ปีแล้วเถอะ อาจชำนาญทางกว่าฉันด้วยซ้ำ คนตัวบางบ่นกระปอดกระแปด พลางเดินเตะฝุ่นเตะลม              ปริ้นๆๆ

                    “โอ๊ย ตกอกตกใจหมด บีบแตรซะดัง รู้ว่ามีรถขับน่า จะบีบทำซากอะไรกันอึนฮยอกว่าเจ้าของรถAudi R8 ที่ขับมาจอดเทียบข้างๆ กระจกที่ติดฟิล์มดำมืดค่อยๆเลื่อนลงปรากฏให้เห็นเป็นใบหน้าหล่อเหลาของพี่หมอสุดหล่อ เนื้อคู่ของเค้า

                    มาเดินเล่นอะไรแต่เช้ากันครับร่างสูงเอ่ยทักทายอีกคนพลางส่งยิ้ม     แก้มบุ๋มมาให้ อึนฮยอกตบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป

                    อ่า...พอดีฮยอกกำลังจะไปเรียนน่ะฮะ ว่าจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนดันชิ่งหนีไปส่งหนุ่มซะก่อน เลยต้องมาเดินคนเดียวน่ะฮะเอ่ยบอกอีกคนเสียงอ่อนเสียงหวาน พลางทำหน้าน่าสงสารสุดๆให้อีกคนสงสาร

                    ถ้างั้นขึ้นรถพี่มั้ย เดี๋ยวพี่ไปส่ง จะได้ถึงไวๆไงครับว่าพลางเปิดประตูลงมาจากรถ ก่อนจะเดินมาเปิดประตูรถอีกข้างพลางผายมือเชิญคนร่างบางให้ขึ้นรถ

                    จะดีหรอฮะเอ่ยถามพลางเดินไปยังประตูที่เปิดอ้ารออยู่ ปากก็ถามอย่างไว้ตัวไปงั้นละ แต่ในใจนี่ก้าวเข้าไปมากกว่าครึ่งตัวแล้วเถอะ

                    ดีสิครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งเนอะ จะได้ถึงไวๆเมื่อเรียวขาสวยก้าวขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว มือหนาก็จัดการปิดประตู พลางเดินอ้อมไปนั่งประจำตำแหน่ง     คาดเข็มขัดเพื่อความปลอดภัยนะครับไม่พูดเปล่า ร่างสูงเอี้ยวตัวมาดึงสายเข็มขัดข้างกายร่างบาง ใบหน้าคมคายที่อยู่ห่างเพียงคืบ ลมหายใจที่รดรินอยู่แถวอกบาง ทำให้อึนฮยอกต้องหลับตาปี๋ เพราะกลัวว่าหากลืมตาขึ้นมาเจอใบหน้าที่ห่างจากปลายจมูกตนไม่ถึงคืบแล้วจะเผลอไผลกระชากเค้ามาจูบเสียตั้งแต่ยังไม่ออกรถซะก่อน

                    ฮ่าๆ...น่ารักดีนะครับว่าพลางหยิกจมูกเล็กนั้นเบาๆ ก่อนจะเบี่ยงตัวกลับไปขับรถออกจากสถานที่ตรงนี้ ส่วนตุ๊กตาหน้ารถก็ได้แต่นั่งหน้าแดงทำตัวไม่ถูก ซีวอนจึงชวนคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันอึดอัดจนเกินไป

                    อ่า..เสียดายจังเลยนะครับ มหาลัยไม่น่าอยู่ใกล้เลย แปปเดียวก็ถึงซะแล้ว กำลังคุยสนุกอยู่เชียว เอาเป็นว่าเย็นนี้เจอกันนะครับ เรามีนัดตรวจร่างกายเบื้องต้น   พี่หมอจะรอนะครับ รีบๆมานะว่าพลางส่งตาวิ๊งมาให้อีกคนใจละลายเล่น  อึนฮยอกเดินเข้ามหาลัยด้วยขาสั่นเทาเหมือนจะเป็นลมเสียตรงนี้ให้ได้ หัวใจที่พองโตจนแทบระเบิดนั้นเหมือนกับลูกโป่งสวรรค์ที่ถูกอัดก๊าซเข้าไปจนเต็ม รู้สึกเหมือนตัวเอง        ตัวเบาๆเหมือนจะล่องลอยขึ้นไปบนฟ้าเสียให้ได้

                    โอ๊ยยยยยยย มีความสุขที่สุดในสามโลก วู้วววว ฮู้วววววววร่างบางตะโกนลั่นระบายความอัดอั้นที่มีล้นจนแทบกระอัก  ผู้คนในมหาลัยที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างมองกันอย่างงุนงง เมื่อเห็นคนร่างบางตะโกนลั่นก่อนจะวิ่งหน้าบานเข้าห้องเรียนไป และยิ่งงงกันหนักเข้าไปอีก เมื่อเห็นเพื่อนสนิทของอึนฮยอกเดินยิ้มหน้าบานปากฉีกยิ้มกว้างจนจะถึงรูหูอยู่แล้ว ทั้งๆที่โดยปกติ เธอคนนี้ไม่เคยแม้แต่จะขยับปากยกยิ้มเลยแม้แต่น้อย วันนี้มันเป็นวันโลกแตกหรือไงกัน ทำไม 2 เพื่อนซี้ถึงได้ดูเปลี่ยนไปกันแบบนี้นะ

                    กลับมาที่เพื่อนตัวอวบอีกคนที่วันนี้ไม่มีคาบเรียนที่มหาลัย ร่างบางลงมือทำความสะอาดบ้านช่อง พลางมองนาฬิกาที่บอกเวลากว่า 10 โมงแล้ว มือบางจึงรีบหยิบกระเป๋าก่อนจะตรงดิ่งออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปทำงานพิเศษทันที

                    อันยองฮะ พี่คังอินคนตัวบางเอ่ยทักทายเจ้าของร้านกาแฟ หรืออีกนัย  คือเป็นเจ้านายของเค้านั้นเอง ร่างบางยิ้มหวาน พลางก้มลงทักทายอีกคนที่ยืนข้างๆ

                    อันยอง น้องกาอิน จะไปไหนคะเนี่ยมือบางหยิกแก้มลูกสาวคนสวยของคุณพ่อคังอินอย่างเบามือ

                    ไปโรงเรียนค่ะ อาซองมินอยากไปกับกาอินมั้ยคะเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถามคุณอา รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าน่ารักนั้น

                    ไปโรงเรียนหรอคะ ตั้งใจเรียนนะ เล่นเผื่อคุณอาด้วยนะคะ จุ๊บๆอาก่อนไปหน่อยสิคะ อาจะได้มีแรงทำงานไงคะว่าพลางย่อตัวลงนั่งข้างๆเด็กน้อย พลางยื่นแก้มให้

                    จุ๊บๆเด็กน้อยกอดคุณอา พลางจุ๊บลงบนแก้มทั้งสองข้างอย่างรักใคร่

                    น่ารักมากๆเลย หลานของอา ^^” ว่าพลางหอมแก้มเด็กน้อยเสียฟอดใหญ่ ก่อนจะโบกมือบ๊าย บาย เพื่อให้น้องได้ไปโรงเรียนเสียที

                    เดี๋ยวพี่ไปส่งลูกก่อนนะซองมิน ฝากดูแลร้านด้วยล่ะ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับนะเอ่ยบอกลูกน้องคนสนิท ก่อนจะอุ้มลูกสาวออกไปจากร้าน

                    กรุ๊ง กริ๊งๆๆเสียงกระดิ่งหน้าร้านบ่งบอกถึงผู้มาเยือนในยามเช้า           ซองมินรีบใส่ผ้ากันเปื้อนก่อนจะวิ่งออกมาต้อนรับลูกค้ารายแรกของวัน

                    สวัสดีครับ smile coffee… อ้าว พี่เยซอง ก็นึกว่าลูกค้า โธ่เมื่อเห็นว่าเป็นใครร่างบางก็เดินกลับเข้าไปทำความสะอาดโต๊ะ จัดจานชามให้เป็นระเบียบแทนที่จะสนใจอีกคน

                    เอ้า พอไม่ใช่ลูกค้าก็ไม่สนใจกันเลยนะซองมิน แล้วนี่พี่คังอินไปไหนซะละเยซองวางกระเป๋าก่อนจะเดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมทับ

                    ไปส่งกาอินที่โรงเรียนน่ะ แล้ววันนี้พี่ไม่มีเรียนหรอ ทำไมถึงมาทำงานได้ละซองมินเอ่ยถามอีกคนในขณะที่มือก็ยังเช็ดโต๊ะ

                    วันนี้ยกเลิกคลาสน่ะเลยแวะมาช่วยที่ร้าน เออนี่ วันเสาร์เราว่างมั้ย    ถามอีกคนพลางรอคำตอบอย่างใจจดจ่อ

                    วันเสาร์หรอ อืม.....น่าจะว่างนะ ไม่ได้นัดใครไว้สักหน่อยครุ่นคิดถึงตารางของตนเองก่อนจะเอ่ยบอกอีกคน

                    ดีเลย พอดีวันเสาร์นี้พี่ว่าจะชวนเราไปทานข้าวด้วยกันซักหน่อยน่ะ               ไปด้วยกันนะ

                    “เนื่องในโอกาสอะไรกันฮะ ร้อยวันพันปีไม่เห็นอยากเลี้ยงน้อง นี่จะมาติดสินบนอะไรน้องปะเนี่ยถามอย่างระแวงอีกคน

                    เอาน่า พี่ก็แค่อยากเลี้ยงน้องบ้างไม่ได้หรือไง ชวนดงเฮกับอึนฮยอกไปด้วยกันนะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ตกลงมั้ย

                    “ฮะ  ไปก็ได้ฮะนานๆพี่เยซองจะเอ่ยปากเลี้ยงน้องที โอกาสดีๆมีของให้กินฟรีแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆนะเนี่ย เอาเป็นว่าเจอกันวันเสาร์นี้แล้วกันนะฮะ เดี๋ยวเค้าไปถามดงเฮกับอึนฮยอกก่อนว่าว่างมั้ยแล้วจะมาบอกพี่อีกทีนะเอ่ยบอกอีกคนเป็นการสรุป ก่อนจะหันไปสนใจลูกค้าที่เริ่มทยอยเข้ามานั่งในร้านกันบ้างแล้ว บทสนทนาของคนทั้งคู่จึงสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้

                    สำเร็จแล้วนะครับ บอกเพื่อนๆเจอกันวันเสาร์นะ รักรยออุคที่สุดครับ     คิดถึงนะ จุ๊บๆมือหนากดข้อความส่งไปให้คนรักที่รอคอยคำตอบอยู่เช่นกัน

                    สำเร็จแล้วคยู~~ เคลียร์คิวให้ว่างแล้วกันนะ แล้วเราจะไปนัดบอดกัน   เสาร์นี้ อย่าลืมชวนคิบอมไปด้วยกันนะรยออุควิ่งตรงไปแท๊กมือกับอีกคนที่นั่งลุ้นคำตอบอยู่ไม่แพ้กัน เมื่อได้ยินคำตอบที่ถูกใจ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ฉายขึ้นบนใบหน้าทันที แผนการในหัวฉายขึ้นในหัวเป็นฉากๆ

                    ไอบอม วันเสาร์อย่าไปไหนนะเว้ย จะพาไปสนุกด้วยกันมือหนากระชากหูฟังที่อีกคนใส่อยู่ออก พลางตะโกนกรอกหูพ่อหนุ่มแก้มป่องที่วันนี้ยิ้มจนแก้มจะทะลักออกมาอยู่แล้ว

                    เป็นห่าไรวะ เป็นบ้าหรอ นั่งยิ้มคนเดียวอยู่ได้ เห็นเป็นงี้ตั้งแต่เข้าแล้วนะ เมื่อเช้าจะมาเรียนก็ไม่ปลุกกู ออกจากบ้านมาก่อนเฉยเลยคยูฮยอนนั่งบ่นอีกคน เมื่อคิดย้อนไปถึงเมื่อเช้าที่เค้าลุกออกมาจากเตียงก็ไม่เจอไอเพื่อนตัวดีนอนอยู่ด้วยเหมือนเช่นทุกวัน เดินหาไปหามากว่าจะรู้ตัวว่ามันชิ่งออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้าแล้วก็ทำเอาเกือบมาโรงเรียนสาย

                    มัวรอคุณมึงตื่น เมื่อเช้าผมก็คงไม่เจอของดีแบบนั้นหรอกครับไอคุณคยู    ไม่เอาแล้วครับไม่อยากจะเสวนาด้วย ขอตัวนะครับ 555+ว่าอย่างอารมณ์ดี     พลางลุกหนีอีกคนไป ทิ้งให้คนที่นั่งอยู่ในแต่เกาหัวตัวเองอย่างงงงวย ว่าผีสางตนใดเข้าสิงเพื่อนเค้ากัน    เดี๋ยวเราปล่อยให้เด็กๆของเราได้ทำหน้าที่ของอนาคตของชาติกันไปก่อนดีกว่า (เข้าเรียนนั่นละ) ตอนนี้ย้อนกลับไปดูคุณพ่อลูกหนึ่งที่ไปส่งลูกที่โรงเรียนเมื่อเช้านี้กันก่อนดีกว่า

                    กาอินครับ วันนี้เปิดเรียนวันแรก หนูต้องตั้งใจเรียนรู้มั้ยครับลูก อย่าดื้ออย่าซนกับคุณครู อย่าลืมคำสอนที่ปะป๊าสอนทุกวันนะครับ ไหนทวนให้ปะป๊าฟังซิ ปะป๊าสอนน้องกาอินว่าไงน้าคังอินย่อตัวลงในระดับสายตาเท่ากับเด็กน้อย              ปะป๊าของกาอินสอนไว้ว่า ต้องทำความเคารพทักทายผู้ใหญ่เสมอ เวลาใครให้ของให้ขอบคุณเค้าทุกครั้ง ห้ามดื้อห้ามซน ต้องเป็นเด็กดีทำตัวน่ารักๆ จะได้มีคนรักกาอินเยอะๆ และก็ต้องพูดจาคะ ขา กับทุกๆคนค่ะปะป๊าเสียงเจื้อยแจ้วตอบคำถามของคุณพ่ออย่างฉะฉาน คำสอนที่คุณพ่อพร่ำสอนในทุกๆวันถูกฝังลงในจิตใจดวงน้อยของเด็กสาว คนร่างสูงหอมแก้มลูกรักเสียฟอดใหญ่ ก่อนจะเดินจูงมือลูกสาวไปส่งให้คุณครูที่ยืนรอรับนักเรียนอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาล

                    สวัสดีครับคุณครู เอ่อ....ร่างสูงเอ่ยทักคุณครูที่กำลังยืนคุยกับผู้ปกครองอีกคนอยู่ และเมื่อคุณครูคนสวยหันหน้ามามองตน ร่างสูงก็ยืนนิ่งแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีราวกับโดนสตาฟไว้

                    สวัสดีครับคุณพ่อ ทางโรงเรียนอนุบาลของเรายินดีต้อนรับนะครับ           ไม่ทราบว่าน้องที่คุณพ่อพามาด้วยอยู่ไหนครับ ชายหนุ่มรูปร่างผอมบาง หน้าตาสละสลวยเอ่ยถามคนร่างสูงที่ยืนจ้องจนตาค้าง มือบางสะกิดที่แขนหนาเพื่อเรียกสติ

                    “คุณพ่อไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับเนี่ยมือบางถือวิสาสะอังที่หน้าผากของอีกคน ไออุ่นจากฝ่ามือทำให้ร่างหนาได้สติกลับคืน คังอินยิ้มกว้าง   พลางจับมือคนตรงหน้าที่อังอยู่บนหน้าผากตน

                    เอ่อ...ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ พอดีเห็นคุณพ่อนิ่งไปก็นึกว่า            ไม่สบายน่ะครับ แล้วนี่น้องอยู่ไหนกันครับเนี่ย คุณพ่อพาน้องมาส่งที่โรงเรียนหรือเปล่าครับเอ่ยถามอีกคนพลางชะเง้อคอมองหาเด็กน้อยที่มากับคุณพ่อร่างใหญ่         กาอิน ๆ มาสวัสดีคุณครูสิครับลูกคังอินละสายตาจากคนร่างบาง พลางตะโกนเรียกลูกสาวให้มาทักทายคุณครูคนสวยที่ไม่แน่ใจว่าเป็นผู้หญิงที่พูดจาครับๆเหมือนทอมบอย หรือเป็นผู้ชายที่รูปร่างหน้าตาคล้ายผู้หญิงกันแน่

                    สวัสดีค่ะ คุณครูคนสวย หนูชื่อคิมกาอิน อายุ 5 ขวบเป็นลูกของปะป๊า     คังอินนะคะ ฝากเนื้อฝากตัว และหัวใจของน้องกาอินด้วยนะคะว่าพลางยิ้มหวานพร้อมส่งตาวิ๊งที่จำมาจากคุณพ่อเวลาจีบสาวๆ เด็กน้อยเอ่ยทักทายเสียงใสกับคุณครู

                    สวัสดีจ้าน้องกาอิน วันนี้มาโรงเรียนวันแรกพร้อมรอยยิ้มหวาน ไม่ร้องไห้ เก่งจังเลยน้า เดี๋ยวเข้าไปที่ห้องเรียนกับคุณครูนะคะ แล้วเดี๋ยวคุณครูจะพาหนูไปเจอเพื่อนๆเยอะแยะเลยเนอะ แต่ตอนนี้หนูต้องบอกลาคุณพ่อรูปหล่อของหนูก่อนนะคะอีทึกเอ่ยบอกเด็กน้อยอย่างใจดี

                    ปะป๊าขา กาอินไปโรงเรียนก่อนนะคะ ปะป๊าไม่ต้องคิดถึงกาอินจนแอบร้องไห้นะคะ กาอินสัญญาว่าจะคิดถึงปะป๊าทั้งวันเลยค่ะ จุ๊บๆว่าพลางหอมแก้มคุณพ่ออย่างรักใคร่ พลางโบกมือลาปะป๊าสุดที่รัก

                    อย่าดื้ออย่าซนกับคุณครูคนสวยนะลูก เดี๋ยวตอนเย็นปะป๊ามารับนะครับ ...ฝากดูแลน้องกาอินด้วยนะครับ คุณครู...เว้นวรรคเป็นเชิงถามชื่ออีกคน

                    อีทึกครับ ผมชื่อคุณครูอีทึก เดี๋ยววันนี้ผมจะช่วยดูแลน้องกาอินให้ ดังนั้นคุณพ่อไม่ต้องห่วงนะครับ กลับบ้านดีๆนะครับ  อีทึกว่าพลางโค้งให้อีกคนเป็นการบอกลา ก่อนจะพากาอินเข้าไปในชั้นเรียน ทิ้งให้คนร่างสูงมองตามลูกรักและคุณครูคนสวยเดินหายไปจนลับตา

                    น่ารักอย่างนี้ ชักอยากจะไปรับไปส่งทุกวันแล้วสิเนี่ย...หมายถึงน้องกาอินนะครับทุกคน ลูกผมน่ารักน่าไปรับส่งทุกวันต่างหาก คิดอะไรกันเล่าว่าอย่างร้อนตัวทั้งๆที่รีดเดอร์กับไรเตอร์ยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ เอาเป็นว่าไรเตอร์จะพยายามแต่งให้เจอกันบ่อยๆแล้วกันเนอะ 555+

                    ต่างคนต่างทำภารกิจประจำวันตามหน้าที่ที่ตนมีกันไป จนกระทั่งดวงตะวันเริ่มคล้อยลงลับขอบฟ้า ร่างบางกับเด็กน้อยที่นั่งคอยปะป๊ารูปหล่อมารับอยู่นาน สองนานแต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะมาสักที

                    กาอินจ้ะ หนูรู้เบอร์ของปะป๊ามั้ยจ้ะลูก หืม?เอ่ยถามอีกคนพลางลูบผมอย่างเอ็นดู

                    เบอร์ปะป๊าหรอคะ ปะป๊าบอกไว้ว่าถ้ากาอินหลงทางหรือหาปะป๊าไม่เจอ ให้หาเบอร์โทรศัพท์ของปะป๊าที่ติดอยู่ที่กระเป๋าว่าพลางถอดกระเป๋าเป้สีชมพูหวานส่งให้คุณครูรื้อค้น อีทึกควานหาสักพักก็เจอเข้ากับนามบัตรใบเล็ก ร่างบางหยิบมันขึ้นมาก่อนจะกดเบอร์โทรหาคนปลายสายในทันที

                    ฮัลโหล สวัสดีครับ ผมคิมคังอินพูดสายครับเสียงทุ้มเอ่ยตอบกลับมาตามสายทันทีที่กดรับ

                    เอ่อ..คุณคังอินหรอครับ ผมอีทึกนะครับ คือตอนนี้เด็กๆทุกคนในโรงเรียนกลับบ้านกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่น้องกาอินคนเดียวเท่านั้นน่ะครับ ไม่ทราบว่าคุณสะดวกมารับน้องตอนนี้หรือเปล่าครับ ...หรือจะให้ผมไปส่งให้ที่บ้านกันครับเสียงใสๆกรอกมาตามสาย ทันทีที่รู้ว่าเป็นใครที่โทรมาปากหนาก็ยกยิ้มกว้างทันที     มือหนาวางปากกาที่กำลังทำบัญชีเพลินจนลืมเวลารับลูกลง

                    อ่า ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมทำงานจนลืมเวลาไปเลย คุณครูช่วยอยู่กับน้องอีกแปปนึงนะครับ เดี๋ยวผมจะรีบออกไปรับน้องให้ไวที่สุดเลยครับ”                 เมื่อคนปลายสายรับคำ คังอินก็รีบหยิบเสื้อโค้ทของตัวเองขึ้นสวมก่อนจะบึ่งรถไปหาคุณครูคนสวยและลูกน้อยในทันที

                    ฮึก...คุณครูขา ทำไมปะป๊ายังไม่ ฮึก...มาอีกละคะ  ปะป๊าลืมกาอินแล้วใช่มั้ยคะ ฮือออเด็กน้อยเริ่มงอแงเมื่อท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงทุกนาที อีทึกดึงเด็กน้อยเข้ามากอดไว้ พลางเอ่ยปลอบเบาๆ

                    ปะป๊ากำลังมารับหนูนะลูก อย่าร้องไห้นะคะคนเก่ง รออีกแปปนึงนะ       กาอินของคุณครูน่ารักจะตาย ปะป๊าจะลืมได้ไงคะ ไปๆเดี๋ยวเราไปนั่งเล่นตรงชิงช้าดีกว่าเนอะ เดี๋ยวคุณครูแกว่งให้นะคะว่าพลางอุ้มคนตัวเล็กนั่งบนชิงช้าไม้ พลางแกว่งไกวเบาๆ

                    ปริ๊นๆๆเสียงแตรรถเรียกความสนใจจากคนทั้งสองที่เล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ที่สนามเด็กเล่น

                    ปะป๊ามาแล้วววว ปะป๊ามารับกาอินแล้วค่ะคุณครูเด็กน้อยหันมาบอกด้วยรอยยิ้มหวาน พลางวิ่งเข้าไปกอดขาปะป๊า

                    ทำไมปะป๊ามารับกาอินช้าละค่ะ กาอินนึกว่าปะป๊าจะทิ้งกาอินแล้ว กาอินเสียใจมากๆที่ปะป๊าลืมกาอินเด็กน้อยเอ่ยตัดพ้อคนเป็นพ่อ คังอินย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับลูกสาว มือหนาลูบหัวเล็กๆ พลางยิ้มบางๆให้

                    ขอบคุณนะครับที่อยู่เป็นเพื่อนกาอิน ผมนี่แย่จริงๆเลย ดันทำงานจนลืมเวลาซะได้ร่างสูงเอ่ยบอกอีกคนอย่างรู้สึกผิด

                    ไม่เป็นไรครับ ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนเลยแล้วกันนะครับ เพราะนี่ก็เริ่มมืดแล้วด้วย คุณพ่อพาน้องกาอินกลับบ้านดีๆนะครับ น้องกาอินจ้ะ คุณครูไปก่อนนะคะร่างบางเอ่ยตอบคนร่างสูงพลางบอกลา มือบางสวมกอดเด็กน้อยเบาๆ พลางเอ่ยลาด้วยเสียงหวานๆ

                    บ๊าย บายค่ะคุณครูคนสวย จุ๊บๆ^^ ”เด็กน้อยจูบลงบนแก้มคนร่างบางพลางโบกมือบ๊ายบาย คังอินแทบอยากจะสิงร่างลูกสาวของตัวเองจริงๆเลยตอนนี้

                    เอ่อ...นี่ก็ดึกแล้ว ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมจะพาคุณไปส่งเองครับ ไปด้วยกันนะครับร่างสูงที่ยืนอึกอักอยู่นานเอ่ยถามอีกคน พลางรอฟังคำตอบอย่างลุ้นๆ

                    เอ่อ...คือ จะรบกวนคุณไปหรือเปล่าครับร่างบางถามอย่างไม่แน่ใจนัก

                    ไม่เลยครับ ไม่เป็นการรบกวนเลย ถือเป็นการไถ่โทษที่ผมมารับลูกช้าแล้วกันนะครับ ไปด้วยกันนะครับแววตาวิงวอนขอร้องถูกส่งมาให้คนร่างบาง จนในที่สุดร่างบางก็ใจอ่อน พยักหน้าตอบรับอีกคนจนได้

                    “เชิญทางนี้เลยครับว่าพลางผายมือเชิญอีกคนไปที่รถ มือหนาอีกข้างรวบตัวลูกสาวคนสวยขึ้นอุ้ม ก่อนจะพาไปนั่งในรถที่เบาะหลัง มือหนารีบเอื้อมมาเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับให้คนสวยเข้าไปนั่งด้านใน

                    บรรยากาศในรถเงียบลงเมื่อรถคันหรูเคลื่อนตัวออกจากหน้าโรงเรียนมาได้สักพัก ร่างสูงคอยเหลือบมองอีกคนไม่ให้รู้ตัว แต่ดูเหมือนสายตาที่มองจะโจ่งแจ้งไปนิด ทำเอาคุณครูของเราต้องนั่งตัวลีบพลางเสมองไปทางอื่นทำเป็นไม่เห็นสายตาที่สื่อความหมายของคนร่างสูงที่ถูกส่งมาเป็นระยะๆ

                    คุณครูหิวข้าวหรือเปล่าครับ อยากทานอะไรก่อนมั้ยครับ นี่ก็เย็นมากแล้ว เลยเวลาอาหารเย็นมาแล้วด้วยสิครับเนี่ยคนร่างสูงเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในรถ พลางมองหาร้านอาหารใกล้ๆ

                    เอ่อ..ไม่เป็นไรก็ได้ครับคุณพ่อ เดี๋ยวกลับไปทานที่บ้านก็ได้ครับ อีกนิดก็ถึงบ้านแล้วละครับอีทึกเอ่ยบอกเส้นทางให้กับอีกคน ไม่นานนักรถก็เลี้ยวเข้ามาถึงตัวบ้านสีขาวหลังเล็ก

                    ขอบคุณมากๆนะครับที่มาส่งถึงบ้านเลย รบกวนแย่เลยนะครับเนี่ย”         อีทึกว่าอย่างเกรงใจ พลางโค้งลงให้อีกคนอย่างสุภาพ

                    ไม่เป็นไรครับ ถือซะว่าเป็นสิ่งตอบแทนที่วันนี้คุณครูดูแลกาอินให้จนเย็นแล้วกันครับคังอินบอกลาอีกคนอย่างอ้อยอิ่ง ไม่อยากลากันเลยจริงๆ อยากจะคุยต่อ อยากจะนั่งจ้องหน้าสวยๆนี้ต่อ แบบทั้งวันทั้งคืนเลยจริงๆ

                    ฮึก...ปะ...ปะป๊าขา น้องในท้องกาอินร้องไห้ใหญ่เลย ฮืออออเด็กน้อยเปิดประตูลงมาจากรถพลางวิ่งดุ๊กๆมาเกาะขาคุณพ่อร่างสูง พลางร้องไห้กระจองอแง อีทึกหันไปมองหน้าคังอินเป็นเชิงถามว่าสาวน้อยคนนี้กำลังพูดอะไร

                    น้องร้องไห้หรอลูก โอ๋ๆๆ เดี๋ยวเรากลับไปกินข้าวกันเนอะ กาอินของปะป๊าอดทนนิดนึงนะครับ เดี๋ยวถึงบ้านเราแล้วปะป๊าจะทำของอร่อยๆให้ทาน น้องจะได้หยุดร้องไห้นะครับ ไม่ร้องนะคนเก่งร่างสูงอุ้มร่างเล็กขึ้นแนบอกพลางปลอบโยนให้หยุดร้อง

                    กาอินคงหิวข้าวมากน่ะครับ น้องที่ว่าคือ ท้องเค้าร้องน่ะครับร่างสูงหันไปตอบอีกคนที่ยืนงงอยู่หน้าบ้าน

                    อ้อ...เข้าใจแล้วครับ เอาอย่างงี้แล้วกันนะครับ เดี๋ยวเข้ามาในบ้านกันก่อน แล้วเดี๋ยวผมทำกับข้าวให้ทานกันเอ่ยบอกพลางเปิดประตูบ้านกว้างเชิญชวนอีกคน

                    จะดีหรอครับ จะรบกวนคุณครูมากไปมั้ยครับปากก็เอ่ยถามแต่ภายใต้ใบหน้ากังวลนั้นดูจะลิงโลดเหลือเกินเมื่อจะได้เข้าบ้านคนร่างบาง

                    ไม่หรอกครับ เข้ามาเถอะ ให้เด็กหิวนานๆไม่ดีนะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเดี๋ยวคุณพ่อพาน้องไปนั่งที่โซฟาก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมทำกับข้าวมาให้ทานนะครับว่าพลางเดินเข้าไปในครัว พร้อมสวมผ้ากันเปื้อนสีขาวสะอาดลายหมี มือบางจับเครื่องครัวอย่างคล่องแคล่วว่องไว ไม่นานนักอาหาร 2-3อย่างก็ถูกจัดวางลงบนโต๊ะด้วยความไวแสง คนร่างสูงนั่งมองอีกคนทำอาหารด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ได้แต่จินตนาการว่าหากวันนึงชีวิตเค้ามีคนๆนี้เข้ามาอยู่ในบ้าน เข้ามาร่วมชีวิต เข้ามาช่วยกันดูแลกาอิน ชีวิตของเค้าจะมีความสุขแค่ไหนกันนะ

                    คุณคังอินครับ ๆๆๆ ....ทานข้าวได้แล้วครับมัวแต่นั่งคิดอะไรเพลินๆด้วยดวงตาหวานเยิ้มที่แสดงออกถึงจินตนาการทุกสิ่งที่อยู่ในหัวของคนร่างสูง ร่างบางที่ทำกับข้าวเสร็จก็เดินมาเรียกอีกคนให้ไปทานด้วยกันที่โต๊ะอาหาร มือบางโอบอุ้มสาวน้อยตัวเล็กมาวางไว้ที่เก้าอี้โต๊ะทานข้าว

                    น้องกาอินของคุณครู ต้องทานผักด้วยนะคะ ทานเยอะๆนะคะ น้องจะได้เลิกร้องไห้เนอะ ^^” อีทึกว่าพลางตักผักใส่จานเด็กน้อย กาอินเองก็จิ้มแครอทเข้าปากอย่างว่าง่าย บ่งบอกถึงการอบรมของคนเป็นพ่อที่สั่งสอนลูกมาดี

                    น้องกาอินเก่งจังเลยนะครับ บอกให้ทานผักก็ทาน ว่าง่ายจริงๆเลย”       เอ่ยชมคนเป็นพ่อแบบเป็นนัยๆ พลางลูบผมคนตัวเล็ก

                    คุณครูคะ น้องกาอินมีเรื่องสงสัยค่ะในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองกำลังแอบสบตากันอย่างหวานซึ้ง หญิงสาวคนเดียวในโต๊ะก็เอ่ยถามขึ้นมาเสียงใส เรียกความสนใจจากผู้ใหญ่ทั้งสองได้อย่างฉับพลัน

                    ว่าไงคะน้องกาอิน มีอะไรจะถามคุณครูกันคะเอ่ยถามอีกคนอย่างสงสัย

                    ทำไมเวลาคุณครูพูดกับปะป๊าถึงพูดว่าครับละคะ คุณครูคนสวยของน้องกาอินต้องพูดคะ ขา สิคะ เพราะคุณครูเป็นผู้หญิง คุณพ่อบอกว่าเป็นผู้หญิงต้องพูดจาคะ ขา เพราะๆนะคะคุณครูเด็กน้อยเอ่ยบอกเสียงเจื้อยแจ้วไปตามประสา    แต่ก็ทำให้อีกสองคนอึ้งไป

                    แต่คุณครูไม่ใช่ผู้หญิงนี่คะน้องกาอิน คุณครูเป็นผู้ชายเหมือนปะป๊าของหนูไงคะ ดังนั้นคุณครูเลยพูดครับ เหมือนที่คุณพ่อหนูพูดไงคะร่างบางพยายามอธิบายเหตุผลให้เด็กน้อยฟัง

                    แล้วทำไมเวลาคุยกับกาอินคุณครูพูดคะละคะ”  เด็กน้อยยังคงถามในสิ่งที่สงสัยต่อไป

                    นั่นเพราะคุณครูเค้าอยากให้หนูพูดจาน่ารักๆไงครับลูก คุณครูเค้าพูดให้หนูจำว่าหนูต้องพูดจาหวานๆจะได้มีคนรักเยอะๆไงครับคังอินเองก็ช่วยอีกคนอธิบายอย่างใจเย็นเช่นกัน

                    งั้นคุณครูพูดหวานๆแบบนี้ก็ต้องมีคนรักคุณครูเยอะสิคะเด็กน้อยถามอย่างไม่คิดอะไร แต่คนฟังดันลุ้นในคำตอบจากริมฝีปากสีเชอร์รี่นั้นจนตัวโก่ง

                    แล้วน้องกาอินรักคุณครูมั้ยละคะย้อนถามเด็กน้อยช่างพูดด้วยรอยยิ้ม

                    รักสิคะ รักคุณครูที่สุดในโลกกกกก อ้อ น้องกาอินรักปะป๊าด้วยนะคะ ปะป๊าอย่าน้อยใจนะ โอ๋ๆ....แล้วปะป๊าละคะ รักน้องกาอินกับคุณครูมั้ยคะ”                 เด็กน้อยหันไปถามคนเป็นพ่อของตนเองบ้าง คังอินนิ่งไปสักพัก

                    รักสิครับ รักตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรกเลยละครับลูกเอ่ยตอบลูกสาวคนสวยแต่นัยน์ตาดำขลับนั้นกลับมองจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยของคนร่างบาง สายตาสื่อความนัยและความจริงใจถูกถ่ายทอดถึงคนที่ตนบอกรักให้รับรู้

                    กาอินรักคุณครูกับปะป๊า ปะป๊าก็รักกาอินกับคุณครู แล้วคุณครูละคะ      รักกาอินกับปะป๊าหรือเปล่าคะดวงตากลมโตจ้องมองร่างบางตาแป๋ว อีทึกอึกอักกับคำถามที่ได้รับ จะให้ตอบว่ายังไงดีละเนี่ย....

                    ปะป๊าว่าน้องกาอินทานข้าวเถอะครับ ถามคุณครูเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวทานไม่หมดแล้วน้องร้องไห้อีกนะครับร่างสูงเบนความสนใจเด็กน้อยกลับมาที่ตนอีกครั้ง ร่างบางได้แต่ถอนหายใจ พลางขอบคุณอีกคนเบาๆ

                    ก็ได้ค่ะ น้องกาอินจะทานข้าวให้หมด แต่ว่าคุณครูจะต้องสัญญาว่าถ้าน้องกาอินทานข้าวหมดแล้วคุณครูคนสวยจะให้รางวัลกาอิน ตกลงมั้ยคะสิ้นเสียงใส ร่างบางก็รีบพยักหน้าตอบรับในทันที มื้ออาหารค่ำนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งข้าวช้อนสุดท้ายถูกส่งเข้าปากน้องกาอินด้วยฝีมือปะป๊าคังอิน

                    เก่งจังเลย กินหมดเกลี้ยงเลยนะคะน้องกาอินเอ่ยชมเด็กน้อย พลางหยิบจานชามไปแช่ในครัว

                    ไหนคนเก่งบอกคุณครูสิคะว่าอยากได้รางวัลอะไรเอ่ยถามถึงสัญญาที่ให้กันไว้ก่อนหน้านี้

                    อืมมมมมมม...... กาอินอยากให้คุณครูพูดคะขากับปะป๊าของกาอินค่ะ เพราะคุณครูเป็นผู้หญิงเหมือนน้องกาอิน ถ้าพูดจาหวานๆก็จะได้มีคนรักเยอะๆไงคะ นะคะคุณครูคนสวย น้า..ว่ากึ่งอ้อนวอนกึ่งบังคับคุณครูคนสวย

                    แต่....ร่างบางตั้งใจจะปฏิเสธพลางหันไปขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มอีกคน แต่ก็ได้รับการพยักหน้ากลับมาว่าให้ทำตามที่เด็กน้อยขอร้อง อีทึกเบนสายตากลับไปที่กาอินอีกครั้ง เด็กน้อยเริ่มเบะปากราวกับจะร้องไห้ที่คุณครูคนสวยผิดสัญญากับเค้า ดวงตากลมโตคู่สวยเริ่มมีน้ำตาคลอหน่วย

                    โอเคค่ะ คุณครูจะคุยกับปะป๊าของหนูเพราะๆเหมือนที่คุณครูคุยกับหนูเนอะ ตกลงมั้ยคะเด็กน้อยว่าพลางลูบผมอีกคนอย่างปลอบโยน กาอินได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งไปกอดเอวอีกคน

                    คุณครูของกาอินน่ารักที่สุดเลยค่ะ กาอินกับปะป๊ารักคุณครูที่สุดเลย   เด็กน้อยยิ้มร่าบอกรักอีกคนแทนคุณพ่อรูปหล่อที่ได้แต่ยืนมองลูกสาวกอดคุณครู   

                    “ต้องขอโทษด้วยนะครับที่กาอินเอาแต่ใจแบบนี้ เป็นเพราะผมสั่งสอนแก  ไม่ดีเอง คุณครูลำบากใจแย่เลยนะครับเอ่ยบอกอย่างรู้สึกผิดแต่ในใจก็แอบดีใจลึกๆ ตัวเค้าเองก็รู้สึกขัดๆหูเหมือนกันเวลาที่คนร่างบางใช้ผมใช้ครับกับตน

                    เอ่อ...เขินๆนะคะเนี่ย ฉันจะพยายามปรับตัวแล้วกันนะคะ คุณพ่อเดินทางกลับดีๆนะครับ เอ้ย นะคะ น้องกาอินคะ เจอกันที่โรงเรียนพรุ่งนี้นะคะ บ๊าย บาย จุ๊บๆโบกมือลาพลางส่งจูบให้เด็กน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆคุณพ่อ ร่างบางยืนรอส่งสอง   พ่อลูกจนกระทั่งรถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกไปจนลับตา

                    อีทึกเดินกลับเข้ามาในบ้านพลางเก็บถ้วยชามที่ใช้เมื่อครู่มาล้าง ในหัวมีแต่ภาพของคุณพ่อรูปหล่อของเด็กน้อยลอยอยู่เต็มหัวไปหมด                นี่เราเป็นอะไรกันนะมือบางยกขึ้นกอบกุมที่ตำแหน่งหัวใจ เสียงก้อนเนื้อขนาดเท่ากำปั้นที่อยู่ด้านในอกดังเป็นจังหวะที่กลองระรัว เสียงหวานเอ่ยถามตัวเองกับอาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวมาก่อน ...แล้วคนร่างบางจะรู้มั้ย ว่าอาการนี้เป็นอาการของความรัก มักพบได้ในคนที่มีความรักเท่านั้น และดูเหมือนว่าอาการของผู้ป่วยในรักรายนี้ จะเป็นเคสที่เรียกว่า

     

    รักแรกพบ



    talk : เป็นยังไงกันบ้าง สนุกบ้างมั้ยเอ่ย บอกไรเตอร์หน่อยเร็ว แล้วจะอัพต่อ คิคิ รักรีดเดอร์เสมอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×