ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF Where's the love I can find? ...รักแท้อยู่ไหนกัน

    ลำดับตอนที่ #4 : Trick 2 อย่างนี้เค้าเรียกว่าเสี่ยว

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 55


       Trick 2 : อย่างนี้เค้าเรียกเสี่ยว...

     

                    กริ๊งงงงงงงงงเสียงกริ่งคาบสุดท้ายดังบอกเวลาหมดคาบเรียน  มือบางรีบหยิบหนังสือเรียนที่กางอยู่ตรงหน้าเฉยๆนั้นใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบ  พลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี คาบบัญชีวิชาเอกคาบนี้อาจารย์จะสอนงบดุลงบกำไรขาดทุนอะไรไม่ได้เข้าหัวคนตัวบางแม้แต่น้อย ในหัวมีแต่ภาพผู้ชายในอุดมคติที่ร่างบางสรรสร้างออกมาเป็นผลงานทางศิลปะและละเลงจนเต็มสมุด

                    ด๊อง เลิกเรียนยัง ~~~”คนตัวบางชะเง้อคอมองเข้าไปในห้องเรียนของเพื่อนอีกคน ดงเฮที่เพิ่งเลิกเรียนวิชาเอกประวัติศาสตร์เขมร กำลังขะมักเขม้นกับ    การจดการบ้านที่อาจารย์มอบให้ในวันนี้

                    เสร็จแล้วๆๆ รอแปปนึงนะฮยอกมือบางจดลายมือยุกยิกๆลงบนกระดาษ ก่อนจะรีบเก็บกระเป๋าแล้ววิ่งออกมาหาเพื่อนรักที่ยืนรออยู่

                    ซองมินละดงเฮถามถึงเพื่อนรักอีกคนของพวกเค้าที่อยู่เอกคหกรรม

                    อยู่ห้องคหกรรมมั้ง ไปเรียกด้วยกันสิ เราจะได้กลับด้วยกันว่าพลางจูงมือกันไปที่ห้องคหกรรมของมหาลัย

                    ซองมิน!!!เรามารับแล้ว กลับบ้านกันเถอะคนตัวบางทั้งสองตะโกนเรียกเพื่อนรักอีกคนเสียงลั่น ก่อนจะปรากฏตัวเข้ามาในห้องให้ร่างบางอีกคนได้เห็น

                    เสียงมาก่อนตัวกันเชียวนะ เลิกเรียนกันแล้วหรอ รอแปปนึงนะ ฟักทองเชื่อมกำลังจะเสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันตักใส่ถุงแล้วเราเอากลับไปกินที่บ้านกันว่าพลาง  ปิดเตาแก๊สก่อนจะหยิบถุงพลาสติกมาตักฟักทองเชื่อมที่ส่งกลิ่มหอมคลุ้งไปทั่วห้อง

                    ด๊องกับมินนี่จะไปหาพี่ฮีชอลกับฮยอกหรือเปล่าวันนี้อึนฮยอกเอ่ยถามเพื่อนรักอีก 2 คน  ในขณะที่มือบางทั้งสามก็เกี่ยวกันเดินเหมือนเด็กน้อยที่จูงมือกันกลับบ้านหลังเลิกเรียน ทั้งๆที่ทั้ง 3 คนก็โตจนอยู่มหาลัยปี 3 กันแล้วก็ตาม

                    ฮยอกจะไปเข้าคอร์สสวยถล่มนางงามอะไรนั่นอ่าหรอซองมินเอ่ยถาม  อีกคนพลางมองเพื่อนรักของตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า อึนฮยอกหันมาพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มหวาน

                    เค้าชื่อคอร์สสวยไม่เกรงใจนางงามต่างหากเล่าซองมิน ...ว่าไงละ จะไปกับฮยอกมั้ยทั้งสองคนอึนฮยอกถามอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบของคำถาม

                    จะไปทำให้น่ารักกว่านี้อีกทำไมกัน ในเมื่อที่เป็นอยู่นี่ก็น่ารักไม่มีใครเกินแล้วนะฮยอกถ้าสังเกตดูให้ดี ระหว่างที่เดินคุยกันมาสามคนเนี่ย ตลอดทางหนุ่มๆก็จ้องเค้าทั้ง 3 คนกันไม่วางตาอยู่แล้ว ไหนจะพวกที่ชอบแอบถ่ายรูป บ้างก็เอาไปเก็บไว้ดู บ้างก็เอาไปขายต่อให้กับบรรดาแฟนคลับของ แก๊ง 3 ดาวอย่างพวกเค้า อ้อ คุณคงยังไม่รู้กันสินะ นอกจากอึนฮยอกที่เป็นดาวของคณะบัญชีที่พ่วงตำแหน่งนางฟ้าของมหาลัยรุ่นที่ 8 แล้ว ดงเฮเองก็เป็นดาวของคณะประวัติศาสตร์เขมรเช่นกัน จริงๆคะแนนของ 2 คนสูสีกันมากๆ แต่ด้วยความที่ดงเฮติดจะเป็นคนที่ดูน่ากลัว      นิดหน่อย คนเลยเทคะแนนให้อึนฮยอกมากกว่า ส่วนตัวเค้าน่ะหรอ เค้าคือ ลีซองมิน ดาวคณะคหกรรมน่ะสิ น่ารักกันทั้งแก๊งขนาดนี้ อึนฮยอกยังจะต้องไปเรียนเพิ่มความงามอีกหรือไรกัน...

                    “ไม่จริงหรอก ซองมิน ถ้าฮยอกน่ารักจริง คงไม่มีใครกล้าทำให้ฮยอกอกหักแบบนี้หรอก TT” ว่าพลางเบะปากราวกับจะร้องไห้อีกระลอกหนึ่ง ทำเอาซองมินวิ่งปรี่เข้าไปกอดปลอบแทบไม่ทัน

                    โอเคๆ ไม่น่ารักก็ไม่น่ารัก ไปเรียนเพิ่มแล้วกันนะ เผื่อผู้ชายมหาลัยข้างๆจะมาสมัครเป็นเอฟซีเพิ่ม ซองมินเลิกเถียงอีกคน ก่อนจะเอ่ยปลอบไม่ให้ร้องไห้

                    สรุป 2 คนไปไหมเนี่ย เดี๋ยวฮยอกไปไม่ทันนัดนะอึนฮยอกถามอีกครั้ง  เมื่อเพื่อนไม่ตอบคำถามตนสักที

                    ฉันขอบายนะ พอดีวันนี้ต้องไปทำงานที่ร้านน่ะ พี่คังอินโทรมาตามตัวน่ะ เอาไว้คราวหน้าฉันจะไปด้วยแล้วกันนะ ว่าแล้วก็ใกล้เวลาทำงานฉันแล้วด้วย       เดี๋ยวฉันเอากระเป๋าไปเก็บที่บ้านแล้วเปลี่ยนชุดไปทำงานที่ร้านก่อนแล้วกันนะ      แล้วเจอกันที่บ้านนะทั้งสองคน บายๆ จุ๊บๆว่าพลางจุ๊บแก้มเพื่อนรักอีกสองคนก่อนจะขอแยกตัวกลับก่อน อึนฮยอกและดงเฮโบกมือลาเพื่อน ก่อนที่อึนฮยอกจะหันมา  รอฟังคำตอบของอีกคน

                    ด๊องละว่าไง ไปกับเค้ามั้ย

                    “ไม่ละ เค้าต้องไปหาหนังสือมาทำของขลังชิ้นใหม่มาส่งเป็นการบ้าน เดี๋ยวเค้าว่าจะแวะซื้อหนังสือร้านอาแปะแถวบ้านน่ะ ฮยอกกลับเองได้หรือเปล่า ให้เค้าออกมารับมั้ย เรียนเสร็จค่อยโทรมาก็ได้ เดี๋ยวเค้าขี่มอเดอร์ไซต์มารับดงเฮเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง จะทิ้งเพื่อนก็ไม่กล้า แต่จะให้ไปนั่งดูแลหนังหน้าก็ไม่ไหวจริงๆ มันไม่ใช่ตัวตนอ่า

                    ไม่เป็นไรหรอก ฮยอกกลับเองได้ แต่เรียนเสร็จแล้วจะโทรบอกแล้วกันนะ กลับบ้านดีๆนะด๊อง อย่าเถลไถลจนค่ำมืดนะ เดี๋ยวโดนใครเค้าฉุดไปอึนฮยอกว่าพลางจุ๊บแก้มเพื่อนอีกคนเป็นการบอกลา

                    ใครจะกล้า ลองฉุดสิ แม่จะแช่งให้ เอาให้ไม่ต้องได้ผุดได้เกิดเลย หึหึ....ว่าพลางแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย ทำเอาอึนฮยอกถึงกับขนลุกซู่

                    เอาเป็นว่าจะกลับก็โทรบอกด๊องนะ จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงร่ำลากันเสร็จทั้งสองก็แยกจากกันไปคนละทาง

                    เดี๋ยวเราไปดูแต่ละคนกันดีกว่าว่าเค้าไปไหนกัน เริ่มกันที่หนุ่มน้อยตัวปุกปุยเหมือนกระต่ายตัวอวบของเรากันก่อนเลย ทางด้านซองมินหลังจากที่แยกจากเพื่อนๆมาแล้วก็ตรงดิ่งกลับบ้านอย่างเร็วจี๋ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ พลางรีบจัดการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายโดยไวเมื่อเห็นว่าถึงเวลาเข้างานของตนเองแล้ว

                    ตายๆ สายแล้วๆๆๆมือบางคว้ากระเป๋าที่ใส่ของที่จำเป็นพกติดตัวไปด้วย สองขาอวบรีบจ้ำอ้าวไปที่ร้านที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตนนัก มือบางผลักประตูร้านเข้าไปด้านในพลางหอบหายใจแฮ่กๆด้วยความเหนื่อยจากการวิ่งมาเมื่อครู่

                    มาแล้วคร้าบ พี่คังอิน ....ไม่สายน้าร่างบางรีบดักคอพี่เจ้าของร้าน      ร่างใหญ่ทันที คังอินส่งยิ้มบางๆให้อีกคน พลางเดินกลับเข้าไปทำขนมที่หลังร้าน      ซองมินแอบถอนหายใจเบาๆที่ไม่โดนพี่ชายรูปหล่อคนนี้ดุเรื่องที่มาทำงานสาย

                    “มาสายอีกแล้วนะวันนี้ มัวทำอะไรอยู่ละ ฟักทองผัด ฟักทองต้ม ฟักทองทอด หรืออะไรเยซองรุ่นพี่ที่มหาลัยและเป็นเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันเอ่ยถามอีกคนอย่างหยอกเย้า เป็นประจำกับการมาทำงานสายของลีซองมิน ตอนเค้าออกมาจากมหาลัยยังเห็นร่างบางสาละวนอยู่กับการหั่นฟักทองอยู่ในห้องคหกรรมอยู่เลย

                    ฟักทองเชื่อมย่ะ พอใจหรือยังเล่า มาทำงานแล้วเนี่ยไงร่างบางบอกด้วยใบหน้าบูดบึ้งที่โดนล้อ มือหนาเอื้อมมาขยี้ผมคนตัวเล็กกว่าอย่างเอ็นดู ก่อนจะส่ง   ผ้ากันเปื้อนสีชมพูให้อีกคนใส่

                    ไปทำงานซะ มาทำงานสายแล้วก็อย่าอู้งานละ ขายาวๆสาวเท้าหนีอีกคน พลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

                    ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พี่เย่ ถึงเวลาจะเอาคืนให้สาสมเลยว่าอย่างขุ่นเคือง พลางจัดการสวมผ้ากันเปื้อนที่ร่างสูงให้มา  ก่อนจะเดินไปประจำตำแหน่งที่                หน้าเคาน์เตอร์ มือบางหยิบผ้ามาเช็ดถูทำความสะอาดไปตามเรื่องตามราวรอลูกค้า

                    กรุ๊ง กริ๊งๆๆเสียงระฆังใบเล็กหน้าประตูส่งเสียงร้องเมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามาในร้าน ร่างเล็กๆในชุดนักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนใกล้ๆแถวนี้เดินเข้ามาในร้าน พลางชะเง้อคอมองหาใครบางคน

                    อ้าว รยออุค เลิกเรียนเร็วหรอ มาที่ร้านเร็วกว่าปกตินะเนี่ยวันนี้ซองมินเอ่ยทักลูกค้าเจ้าประจำที่มาที่ร้านนี้แทบจะทุกวัน รยออุคยิ้มทักทายพี่ชายหน้าหวานอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเดินเข้าไปหาเพื่อพูดคุยกับอีกคนเหมือนอย่างเคย

                    วันนี้อาจารย์ปล่อยมาทำงานกลุ่มน่ะฮะ เลยนัดเพื่อนมาทำงานกันที่นี่      พี่ซองมินไม่ว่าอะไรนะฮะ ถ้าอุคจะขอทำงานกับเพื่อนๆที่นี่น่ะฮะเอ่ยถามอย่างอ้อนๆ มีหรือลีซองมินจะไม่ใจอ่อน

                    ได้สิ แต่อย่าเสียงดังรบกวนลูกค้าคนอื่นเค้านะ แล้ววันนี้จะทานอะไรมั้ย

                    เอาเหมือนเดิมแล้วกันฮะ แล้วนี่....พี่เยซองไม่อยู่หรอฮะเอ่ยถามถึง      อีกคนที่ตนตั้งใจมาหาเต็มที่ แต่ดันไม่เจอซะงั้น

                    เอ่อ...พี่ว่าน้องอุคของพี่นั่งตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่เอาน้ำเย็นๆและเค้กอร่อยๆมาให้น้องทานดีกว่าเนอะ ^^” เมื่อเห็นเยซองเดินออกมาจากครัว ซองมินก็แกล้งคุยเสียงลั่นๆให้อีกคนได้ยิน มือบางประคองคนตัวเล็กให้ลงนั่งบนเก้าอี้ของทางร้านเยซองเองพอได้ยินชื่อของใครอีกคนก็รีบเดินมาดูทันที พอเห็นหน้าเจ้าของชื่อ ร่างสูงก็ยิ้มเสียหวานหยดเลยทีเดียว

                    มาแล้วทำไมไม่เรียกพี่ละครับ ปล่อยให้พี่รอตั้งนานไม่ว่าเปล่าร่างสูงรีบก้าวไปยืนข้างคนร่างบาง พลางพยายามเอาตูดเบียดอีกคนให้ออกห่างจากคนน่ารักของเค้า

                    มีอะไรก็ไปทำสิซองมิน เดี๋ยวพี่ดูแลลูกค้าคนนี้ให้เองไล่อีกคนที่ดูเหมือนจะยืนเป็นตัวมารอยู่ ซองมินเบะปากอย่างหมั่นไส้ พลางเดินไปทำโกโก้เย็นและเตรียมเค้กให้กับลูกค้าประจำคนนี้ ยังไม่ทันที่ซองมินจะได้ยกไปเสิร์ฟ เยซองก็วิ่งปรี่เข้ามาฉวยเอาเค้กไปส่งตัดหน้าเค้าไปซะก่อนแล้ว

                    กรุ๊ง กริ๊ง ๆๆๆเสียงประตูหน้าร้านดังขึ้นอีกครั้ง เรียกความสนใจของ     คนร่างบางที่กำลังก้มจัดเค้กในตู้ให้โผล่หน้าขึ้นมาทักทายลูกค้าคนใหม่ของร้าน

                    สวัสดีครับ smile coffee ยินดีต้อนรับครับผม ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับ ^^” เอ่ยถามพลางตบท้ายด้วยรอยยิ้มบางๆ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่แต่งชุดคล้ายกับชุดนักเรียนของรยออุคถึงกับชะงักทันทีที่เปิดประตูเข้ามา เมื่อตั้งสติได้ก็รีบสาวเท้าเข้าไปที่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ทันที พลางยิ้มมุมปากเมื่อเจอสิ่งที่ถูกใจ

                    อืม....รับเป็นยิ้มหวานๆของคนขายเค้กได้มั้ยครับว่าเสียงหล่อ พลางเต๊ะท่าเก็กหล่อสุดติ่ง

                    ยิ้มละ 500 วอนครับ หากคุณลูกค้าถูกใจผมยินดีขายครับซองมินว่า  พลางหุบยิ้มลงฉับพลัน พลางมองหน้าคนหน้าม่ออย่างไม่ถูกชะตาเท่าไรนัก

                    งั้นตัวผมคงต้องจ่ายให้เป็นร้อยล้านพันล้าน เพราะผมอยากให้ยิ้มให้ผมทุกวินาทีเลยครับหยอดคำหวานแสลงหูใส่อีกคนอย่างต่อเนื่อง  ซองมินแอบเบะปากอย่างหมั่นไส้คนตรงหน้า แต่ก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติโดยไว เพราะงานบริการถือว่าลูกค้าคือพระเจ้าของเรา

                    ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะรับสินค้าอะไรดีครับ ทางเรามีทั้งเค้กและเบเกอรี่มากมายให้เลือกทาน รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อนและเย็นเพื่อดับกระหายด้วย ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางเอ่ยถามลูกค้าตรงหน้าอย่างใจเย็น ใช่ว่าทำงานแบบนี้จะไม่เคยโดนจีบ มีออกบ่อยไป เบื่อจริงๆเลยกับพวกหน้าม่อไม่เลือกที่แบบนี้

                    อืม...งั้นรับเป็นบลูเบอรี่ชีสเค้กกับช็อกโกแลตปั่นก็ได้ครับเมื่อเห็นว่าคนร่างบางพยายามเบี่ยงประเด็นร่างสูงจึงไม่เซ้าซี้ มือหนาชี้เลือกเค้กในตู้ พลางสั่งของที่อยากกิน เด็กเสิร์ฟหน้าหวานก็จดยิกๆตามเมนูที่ลูกค้าสั่ง

                    ขอโทษนะครับ ขอดูที่จดหน่อยได้มั้ยครับร่างสูงเอ่ยเรียกอีกคน ขณะที่ซองมินกำลังจะเดินเข้าไปส่งรายการที่หลังร้าน

                    ครับ? จะเปลี่ยนเมนูหรอครับมือบางยื่นรายการที่จดให้ดูตามที่คำขอ

                    เปล่าครับ แค่จะขอดูลายมือน่ะครับ ....ลายมือสวยดีนะครับเนี่ย ขอยืมไปจดทะเบียนสมรสหน่อยได้มั้ยครับเนี่ย ว่าพลางยิ้มกรุ้มกริ่มให้อีกคน ซองมินรีบคว้าออเดอร์มาจากมือร่างสูง ก่อนจะเดินเข้าไปส่งรายการที่หลังร้านทันที

                    อ้าว ซองมิน มีออเดอร์หรอ แล้วทำไมเราหน้าแดงอย่างนั้นละ ไม่สบายหรือเปล่าคังอินที่กำลังทำเบเกอรี่อยู่หลังร้านเอ่ยถามอีกคนเมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานขึ้นสีแดงๆชอบกล

                    เปล่าหรอกครับ ไม่มีอะไร นี่รายการที่ลูกค้าสั่งนะครับ เดี่ยวผมเอาไปเสิร์ฟให้นะครับว่าพลางเดินไปหยิบเค้กตามรายการที่จดมา

                    อ้าว คยูฮยอนมานานแล้วหรอ แล้วสั่งอะไรหรือยังน่ะรยออุคที่เห็นเพื่อนตัวเองยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์จึงเอ่ยเรียกอีกคน   เยซองมองร่างสูงอีกคนที่มาใหม่ด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ แต่ด้วยความที่เป็นลูกค้าจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก

                    พี่เยซองฮะ นี่คยูเพื่อนอุคที่มาทำงานด้วยวันนี้ คยูนี่พี่เยซองเป็น....” รยออุคเอ่ยแนะนำคนทั้งคู่ให้รู้จักกัน แต่พูดยังไม่ทันจบร่างสูงก็สวนขัดขึ้นมาก่อน     มือหนายื่นไปหาอีกคนเพื่อทำความรู้จัก

                    เป็นแฟนน้องอุคน่ะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคยูฮยอนเลิ่กคิ้วมองหน้ารยออุคอย่างสงสัย แต่มือหนาก็ยื่นไปจับกับอีกคนอย่างเป็นมิตร

                    ไม่ยักรู้ว่านายมีแฟนแล้วนะเนี่ย ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่เยซอง ผมคยูฮยอนเพื่อนรยออุคน่ะครับร่างบางตีเบาๆเข้าที่มือของคนร่างสูงที่เลื่อนมาโอบไหล่โดยไม่ได้รับอนุญาต

                    ใครแฟนพี่กัน ขี้ตู่ชัดๆ พูดงี้อุคเสียหายนะพี่เยซอง ชิว่าอย่างงอนๆ             ทำเอาอีกคนต้องรีบง้อโดยด่วน

                    พี่ไปทำงานเถอะฮะ เดี๋ยวอุคขอทำงานกับเพื่อนๆก่อน ไว้เดี๋ยวเลิกงานแล้วเรากลับบ้านด้วยกันนะฮะว่าพลางจุ๊บลงบนแก้มร่างสูง เยซองจึงยอมผละตัวออกมาทำงานเพราะเวลาเย็นลูกค้าในร้านจะเริ่มเยอะ ลำพังซองมินคนเดียวคงทำงานไม่ทัน

                    สรุปแฟนนายหรอรยออุคคยูเอ่ยถามอีกคนและก็ได้การพยักหน้ารับอย่างอายๆกลับมาแทนคำตอบ

                    แล้วนี่คิบอมไม่ได้มาด้วยกันหรอรยออุคเอ่ยถามถึงเพื่อนอีกคนที่โดยปกติแล้วคยูฮยอนกับคิบอมจะมาเป็นคู่หูดูโอ้แบบแพ็คคู่เสมอ ก็แน่ละนะ เค้าสองคนเพิ่งย้ายมาจากอเมริกาด้วยกันทั้งคู่นี่นา ไม่แปลกหรอกที่จะตัวติดกันเป็นตังเม     ขนาดนั้น นี่ก็เพิ่งย้ายมาได้แค่ไม่กี่วันเอง อาจารย์เลยฝากให้เค้าช่วยดูแล 2 คนนี้เพราะเห็นว่าอยู่บ้านใกล้กันและยังเรียนห้องเดียวกันอีกด้วย

                    อื้อ เห็นว่าจะไปค้นหนังสือมาช่วยทำรายงานเพิ่มน่ะ อีกสักพักก็คงมาล่ะคยูว่าพลางเบนความสนใจไปที่คนร่างอวบที่ยืนเกี่ยงกับเยซองว่าใครจะยกถาดมาให้ เป็นโชคดีของเค้าที่เยซองติดรับออเดอร์ของอีกโต๊ะนึงอยู่ คนร่างบางจึงต้องยกมาวางที่โต๊ะของเค้าด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ

                    ทำไมหน้าบึ้งแบบนั้นละฮะพี่ซองมิน ใครทำพี่ไม่พอใจรึเปล่าฮะเนี่ย     รยออุคเอ่ยถามพี่ชายคนสนิทอย่างห่วงใย

                    คนแถวนี้ทำพี่หงุดหงิดนิดหน่อยน่ะจ้ะ ...เชิญคุณลูกค้าทานให้อร่อยนะครับประโยคแรกเอ่ยบอกน้องรักพลางจิกตามองอีกคนที่ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย ร่างบางหันมาพูดกับคนร่างสูงตามมารยาทที่ถูกทางร้านอบรมมา ก่อนจะสะบัดตูดเดินหนีไป คยูฮยอนมองตามพลางหัวเราะในลำคออย่างถูกใจ คนอะไรไม่รู้น่ารักชะมัด

                    ชอบพี่ซองมินหรอรยออุคที่นั่งมองพฤติกรรมเพื่อนเอ่ยถามอย่างจับผิด

                    อืม น่ารักดี ชื่ออะไรนะ ขออีกที

                    พี่ซองมินน่ะ ลี ซองมิน เป็นรุ่นน้องที่มหาลัยของพี่เยซอง จริงๆเค้าก็อยู่ในหมู่บ้านนี้อ่านะ อยากจีบมั้ยละ เดี๋ยวฉันช่วย”  รยออุคเอ่ยถามคนร่างสูงที่เอาแต่    นั่งมองซองมินทำงาน คยูฮยอนหันกลับมามองเพื่อนอีกคนที่นั่งร่วมโต๊ะ ก่อนจะยื่นมือมาจับกับมืออีกคนเป็นการยอมรับในข้อตกลงของคนทั้งคู่

                    ฝากด้วยนะรยออุค ...คนนี้ฉันจริงจังว่าไว้แค่นั้น พูดจบคนร่างสูงที่เห็นว่าคนในร้านเริ่มบางลงแล้วจึงเดินไปหยอดคนร่างบางที่หน้าเคาน์เตอร์ต่อ

                    ว่างนักหรือไง มานั่งจ้องหน้าฉันทำไมกันซองมินเอ่ยถามอีกคนที่มา     นั่งเท้าคางมองตนเองอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ มองไปก็ยิ้มไป ไอนี่ท่าจะบ้าแล้ว

                    หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรอไง มองอะไรอ่าพอโดนมองนานๆก็เริ่มไม่มั่นใจ มือบางลูบไล้ใบหน้าตนเองเพื่อตรวจหาสิ่งแปลกปลอมบนใบหน้า พลางเอ่ยถาม          อื้ม มีอะไรติดอยู่น่ะคยูเอ่ยตอบ ทำให้ร่างบางยิ่งร้อนใจ

                    “กระจกๆๆ ...อยู่ไหนนะมือบางค้นกระเป๋าหากระจกมาส่องดูทันที แต่ค้นเท่าไรก็ค้นไม่เจอ มือหนาเอื้อมมาสะกิดอีกคนให้สนใจตน

                    จะเอากระจกหรอครับ ส่องนี่สิครับ ...ซองมินเลิ่กคิ้วมองอย่างสงสัยเมื่อร่างสูงชี้ไปที่ตาของตนเองแล้วบอกให้ส่องแทนกระจก

                    “ก็ในนี้มันสะท้อนแต่ภาพของพี่นี่ครับมือหนาชี้เข้าไปในดวงตาใสของตนเองที่ตอนนี้สะท้อนภาพของคนร่างอวบอยู่ในดวงตาอย่างที่คนร่างสูงบอกจริงๆ

                    นายนี่มัน....น้ำเน่าจริงๆเลยร่างอวบตีเข้าที่อกหนาดังอั่ก ทำเอาคยูถึงกับจุกไปสักพักกับมือหนักๆที่ทุบเข้ามา

                    ถึงจะน้ำเน่าก็ยังเห็นเงาจันทร์ของกระต่ายนะครับ ^^” นั่นแหน่ะ ยังไม่เข็ดคงอยากจะโดนตะปบอีกสักครั้งละมั้ง

                    กระตงกระต่ายอะไรของนายกัน มาทำงานกับรยออุคไม่ใช่หรอ ว่างมากหรือไงมารบกวนเวลาทำงานของฉันเนี่ยร่างบางออกปากไล่อีกคนที่มาก่อกวนเวลาทำงานของตน

                    ก็พี่ไงครับ น่ารักเหมือนกระต่ายเลย ในเมื่อพี่ไม่บอกชื่อผม ผมก็จะเรียกพี่ว่ากระต่ายขาวนี่ละ น่ารักดี^^” ส่งยิ้มหวานโปรยเสน่ห์พลางส่งตาวิ๊งให้อีกคน          นี่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นได้เห็นนะมีหวังละลายตายกันไปแล้ว

                    ฉันมีชื่อของฉันนะ จะมาเรียกเป็นสัตว์แบบนั้นได้ยังไงกันคนร่างบาง    เท้าเอววีนอีกคน

                    แล้วชื่ออะไรละครับ ผมจะได้เรียกถูก ผมโจวคยูฮยอน ยินดีที่ได้รู้จักครับกระต่ายขาวร่างสูงแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการพลางยื่นมือไปหวังจะจับมือ    คนตรงหน้าเป็นการทักทาย

                    ฉันลีซองมิน แล้วก็เลิกเรียกฉันว่ากระต่ายขาวได้แล้ว ฟังแล้วขนลุก  พิลึกชอบกล บรื๊ออออมือบางลูบแขนตัวเองเบาๆ พลางปัดมืออีกคนออกแบบไม่คิดจะจับ

                    ชื่อเพราะนะครับเนี่ย ลีซองมิน แต่ผมว่ามันยังติดอะไรอยู่นิดหน่อย ...สนใจเปลี่ยนมาใช้นามสกุลโจวมั้ยครับ ถ้าใช้นามสกุลนี้นะครับเป๊ะเลย ชื่อเหมือนมากๆร่างสูงว่าอย่างหยอกเย้า

                    บ้าหรือไง ชื่อของฉันเพราะอยู่แล้วทำไมต้องเปลี่ยนกัน ...ว่าแต่เหมือนอะไรหรอไอที่ว่าเป๊ะเลยอ่าร่างบางถามอีกคนอย่างสงสัย

                    เหมือนชื่อของแม่ของลูกผมน่ะครับ ^^” ยิ้มกว้างอย่างกะล่อน ซองมินที่ได้ยินคำหยอดก็ถึงกับอึ้งไปกับไอเด็กหน้าด้านคนนี้ที่คิดจะปีนเกลียวด้วยคำหวานเลี่ยนๆแล้วยังมาขี้ตู่ว่าเค้าจะไปเป็นแม่ของลูกมันอีก

                    ขอโทษนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นแม่ของลูกนายคงเกิดมามีกรรมน่าดูเลยละที่  ชื่อนี้ เป็นฉันนี่วิ่งไปเปลี่ยนชื่อที่อำเภอแทบไม่ทันเลยล่ะ จริงๆ ซองมินตรอกหน้า    คนร่างสูงกลับไปเสียหนึ่งดอก ก่อนจะยกถาดขนมไปเสิร์ฟให้ลูกค้าอีกโต๊ะหนึ่ง          ทิ้งคยูให้ยืนนิ่งอึ้งกับบทสนทนาเมื่อครู่อยู่เพียงลำพัง

                    คอยดูเถอะ ซองมิน ยังไงฉันก็จะจีบนายให้ติดด้วยมุกเลี่ยนๆของฉันนี่ละ เค้าว่ากันว่าน้ำหยดลงบนหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับใจคนที่มันอ่อนยวบกว่าหินผานักคนร่างสูงพึมพำคำคมอยู่กับตัวเอง พลางเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะที่มีรยออุคและเพื่อนเค้าอีกคนนึงที่เพิ่งเข้ามานั่งในร้านได้ไม่นาน

                    มาแล้วหรอวะ ทำไมช้าจังคยูเอ่ยถามเพื่อนสนิทอีกคน พลางทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้บุนวมข้างกายร่างสูงโปร่ง

                    ก็ตอนไปซื้อหนังสือดันไปเจอบางคน พอดีคุยกันถูกคอเลยนานไปนิดน่ะบอกพลางยิ้มจนแก้มป่องเมื่อคิดไปถึงอีกคนที่ตนเพิ่งแยกจากมาเมื่อครู่

                    เจอเด็กใหม่หรอ น่ารักมั้ยวะ

                    ก็น่ารักนะ แต่ติดจะน่ากลัวนิดๆ อยู่ใกล้ๆแล้วรู้สึกได้ถึงรังสีอะไรบางอย่างน่ะ แต่ก็โอเคอ่าคุยกันถูกคอดีคิบอมว่าพลางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระนัก คนร่างสูงหันไปปรึกษางานกับรยออุค พลางเปิดหนังสือที่ยืมมาเพื่อหาข้อมูลมาทำงานเพิ่ม คยูฮยอนเองก็ละสายตาออกมาจากซองมิน แล้วหันกลับมาตั้งใจทำงานของตนเอง แม้จะแอบมองคนร่างบางอยู่เป็นพักๆก็ตาม

                    แต่ เอ....พ่อหนุ่มแก้มป่องอย่างคิม คิบอมของเราไปเจอใครที่ถูกใจระหว่างเดินทางมาที่ร้านนี้กันนะ เราย้อนไปดูกันหน่อยดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนร่างสูงกัน แล้วคนที่ว่าน่ารักแต่น่ากลัวคนนั้นเป็นใครกันนะ….

     

    TALK : รีไรท์ใหม่แล้ว อ่านยังสะดุดกันอยุ่มั้ยจ้ะ แต่ตอนนี้เสี่ยวเนอะ อ่านแล้วจะอ้วก 5555 รีดเดอร์เอามั้ยท่ามีคนเสี่ยวๆแบบนี้มาจีบน่ะ 

    อ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบยังไงอยากให้ไรเตอร์แก้ตรงไหนก็บอกได้นะ เม้นบอกได้เลยจ้า ^^ ถือเป็นการให้กำลังใจไรเตอร์ด้วย รักรีดเดอร์

    ทุกคนค่ะ จะพยายามดันเรื่องนี้ให้จบให้ได้นะคะ




     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×