คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Trick 2 อย่างนี้เค้าเรียกว่าเสี่ยว
“กริ๊งงงงงงงงง” เสียงกริ่งคาบสุดท้ายดังบอกเวลาหมดคาบเรียน มือบางรีบหยิบหนังสือเรียนที่กางอยู่ตรงหน้าเฉยๆนั้นใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบ พลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี คาบบัญชีวิชาเอกคาบนี้อาจารย์จะสอนงบดุลงบกำไรขาดทุนอะไรไม่ได้เข้าหัวคนตัวบางแม้แต่น้อย ในหัวมีแต่ภาพผู้ชายในอุดมคติที่ร่างบางสรรสร้างออกมาเป็นผลงานทางศิลปะและละเลงจนเต็มสมุด
“ด๊อง เลิกเรียนยัง ~~~”คนตัวบางชะเง้อคอมองเข้าไปในห้องเรียนของเพื่อนอีกคน ดงเฮที่เพิ่งเลิกเรียนวิชาเอกประวัติศาสตร์เขมร กำลังขะมักเขม้นกับ การจดการบ้านที่อาจารย์มอบให้ในวันนี้
“เสร็จแล้วๆๆ รอแปปนึงนะฮยอก”มือบางจดลายมือยุกยิกๆลงบนกระดาษ ก่อนจะรีบเก็บกระเป๋าแล้ววิ่งออกมาหาเพื่อนรักที่ยืนรออยู่
“ซองมินละ” ดงเฮถามถึงเพื่อนรักอีกคนของพวกเค้าที่อยู่เอกคหกรรม
“อยู่ห้องคหกรรมมั้ง ไปเรียกด้วยกันสิ เราจะได้กลับด้วยกัน” ว่าพลางจูงมือกันไปที่ห้องคหกรรมของมหาลัย
“ซองมิน!!!เรามารับแล้ว กลับบ้านกันเถอะ” คนตัวบางทั้งสองตะโกนเรียกเพื่อนรักอีกคนเสียงลั่น ก่อนจะปรากฏตัวเข้ามาในห้องให้ร่างบางอีกคนได้เห็น
“เสียงมาก่อนตัวกันเชียวนะ เลิกเรียนกันแล้วหรอ รอแปปนึงนะ ฟักทองเชื่อมกำลังจะเสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันตักใส่ถุงแล้วเราเอากลับไปกินที่บ้านกัน” ว่าพลาง ปิดเตาแก๊สก่อนจะหยิบถุงพลาสติกมาตักฟักทองเชื่อมที่ส่งกลิ่มหอมคลุ้งไปทั่วห้อง
“ด๊องกับมินนี่จะไปหาพี่ฮีชอลกับฮยอกหรือเปล่าวันนี้” อึนฮยอกเอ่ยถามเพื่อนรักอีก 2 คน ในขณะที่มือบางทั้งสามก็เกี่ยวกันเดินเหมือนเด็กน้อยที่จูงมือกันกลับบ้านหลังเลิกเรียน ทั้งๆที่ทั้ง 3 คนก็โตจนอยู่มหาลัยปี 3 กันแล้วก็ตาม
“ฮยอกจะไปเข้าคอร์สสวยถล่มนางงามอะไรนั่นอ่าหรอ” ซองมินเอ่ยถาม อีกคนพลางมองเพื่อนรักของตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า อึนฮยอกหันมาพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มหวาน
“เค้าชื่อคอร์สสวยไม่เกรงใจนางงามต่างหากเล่าซองมิน ...ว่าไงละ จะไปกับฮยอกมั้ยทั้งสองคน” อึนฮยอกถามอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบของคำถาม
“จะไปทำให้น่ารักกว่านี้อีกทำไมกัน ในเมื่อที่เป็นอยู่นี่ก็น่ารักไม่มีใครเกินแล้วนะฮยอก”ถ้าสังเกตดูให้ดี ระหว่างที่เดินคุยกันมาสามคนเนี่ย ตลอดทางหนุ่มๆก็จ้องเค้าทั้ง 3 คนกันไม่วางตาอยู่แล้ว ไหนจะพวกที่ชอบแอบถ่ายรูป บ้างก็เอาไปเก็บไว้ดู บ้างก็เอาไปขายต่อให้กับบรรดาแฟนคลับของ แก๊ง 3 ดาวอย่างพวกเค้า อ้อ คุณคงยังไม่รู้กันสินะ นอกจากอึนฮยอกที่เป็นดาวของคณะบัญชีที่พ่วงตำแหน่งนางฟ้าของมหาลัยรุ่นที่ 8 แล้ว ดงเฮเองก็เป็นดาวของคณะประวัติศาสตร์เขมรเช่นกัน จริงๆคะแนนของ 2 คนสูสีกันมากๆ แต่ด้วยความที่ดงเฮติดจะเป็นคนที่ดูน่ากลัว นิดหน่อย คนเลยเทคะแนนให้อึนฮยอกมากกว่า ส่วนตัวเค้าน่ะหรอ เค้าคือ ลีซองมิน ดาวคณะคหกรรมน่ะสิ น่ารักกันทั้งแก๊งขนาดนี้ อึนฮยอกยังจะต้องไปเรียนเพิ่มความงามอีกหรือไรกัน...
“ไม่จริงหรอก ซองมิน ถ้าฮยอกน่ารักจริง คงไม่มีใครกล้าทำให้ฮยอกอกหักแบบนี้หรอก TT” ว่าพลางเบะปากราวกับจะร้องไห้อีกระลอกหนึ่ง ทำเอาซองมินวิ่งปรี่เข้าไปกอดปลอบแทบไม่ทัน
“โอเคๆ ไม่น่ารักก็ไม่น่ารัก ไปเรียนเพิ่มแล้วกันนะ เผื่อผู้ชายมหาลัยข้างๆจะมาสมัครเป็นเอฟซีเพิ่ม ” ซองมินเลิกเถียงอีกคน ก่อนจะเอ่ยปลอบไม่ให้ร้องไห้
“สรุป 2 คนไปไหมเนี่ย เดี๋ยวฮยอกไปไม่ทันนัดนะ” อึนฮยอกถามอีกครั้ง เมื่อเพื่อนไม่ตอบคำถามตนสักที
“ฉันขอบายนะ พอดีวันนี้ต้องไปทำงานที่ร้านน่ะ พี่คังอินโทรมาตามตัวน่ะ เอาไว้คราวหน้าฉันจะไปด้วยแล้วกันนะ ว่าแล้วก็ใกล้เวลาทำงานฉันแล้วด้วย เดี๋ยวฉันเอากระเป๋าไปเก็บที่บ้านแล้วเปลี่ยนชุดไปทำงานที่ร้านก่อนแล้วกันนะ แล้วเจอกันที่บ้านนะทั้งสองคน บายๆ จุ๊บๆ”ว่าพลางจุ๊บแก้มเพื่อนรักอีกสองคนก่อนจะขอแยกตัวกลับก่อน อึนฮยอกและดงเฮโบกมือลาเพื่อน ก่อนที่อึนฮยอกจะหันมา รอฟังคำตอบของอีกคน
“ด๊องละว่าไง ไปกับเค้ามั้ย”
“ไม่ละ เค้าต้องไปหาหนังสือมาทำของขลังชิ้นใหม่มาส่งเป็นการบ้าน เดี๋ยวเค้าว่าจะแวะซื้อหนังสือร้านอาแปะแถวบ้านน่ะ ฮยอกกลับเองได้หรือเปล่า ให้เค้าออกมารับมั้ย เรียนเสร็จค่อยโทรมาก็ได้ เดี๋ยวเค้าขี่มอเดอร์ไซต์มารับ” ดงเฮเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง จะทิ้งเพื่อนก็ไม่กล้า แต่จะให้ไปนั่งดูแลหนังหน้าก็ไม่ไหวจริงๆ มันไม่ใช่ตัวตนอ่า
“ไม่เป็นไรหรอก ฮยอกกลับเองได้ แต่เรียนเสร็จแล้วจะโทรบอกแล้วกันนะ กลับบ้านดีๆนะด๊อง อย่าเถลไถลจนค่ำมืดนะ เดี๋ยวโดนใครเค้าฉุดไป” อึนฮยอกว่าพลางจุ๊บแก้มเพื่อนอีกคนเป็นการบอกลา
“ใครจะกล้า ลองฉุดสิ แม่จะแช่งให้ เอาให้ไม่ต้องได้ผุดได้เกิดเลย หึหึ....” ว่าพลางแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย ทำเอาอึนฮยอกถึงกับขนลุกซู่
“เอาเป็นว่าจะกลับก็โทรบอกด๊องนะ จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” ร่ำลากันเสร็จทั้งสองก็แยกจากกันไปคนละทาง
เดี๋ยวเราไปดูแต่ละคนกันดีกว่าว่าเค้าไปไหนกัน เริ่มกันที่หนุ่มน้อยตัวปุกปุยเหมือนกระต่ายตัวอวบของเรากันก่อนเลย ทางด้านซองมินหลังจากที่แยกจากเพื่อนๆมาแล้วก็ตรงดิ่งกลับบ้านอย่างเร็วจี๋ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ พลางรีบจัดการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายโดยไวเมื่อเห็นว่าถึงเวลาเข้างานของตนเองแล้ว
“ตายๆ สายแล้วๆๆๆ” มือบางคว้ากระเป๋าที่ใส่ของที่จำเป็นพกติดตัวไปด้วย สองขาอวบรีบจ้ำอ้าวไปที่ร้านที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตนนัก มือบางผลักประตูร้านเข้าไปด้านในพลางหอบหายใจแฮ่กๆด้วยความเหนื่อยจากการวิ่งมาเมื่อครู่
“มาแล้วคร้าบ พี่คังอิน ....ไม่สายน้า” ร่างบางรีบดักคอพี่เจ้าของร้าน ร่างใหญ่ทันที คังอินส่งยิ้มบางๆให้อีกคน พลางเดินกลับเข้าไปทำขนมที่หลังร้าน ซองมินแอบถอนหายใจเบาๆที่ไม่โดนพี่ชายรูปหล่อคนนี้ดุเรื่องที่มาทำงานสาย
“มาสายอีกแล้วนะวันนี้ มัวทำอะไรอยู่ละ ฟักทองผัด ฟักทองต้ม ฟักทองทอด หรืออะไร” เยซองรุ่นพี่ที่มหาลัยและเป็นเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันเอ่ยถามอีกคนอย่างหยอกเย้า เป็นประจำกับการมาทำงานสายของลีซองมิน ตอนเค้าออกมาจากมหาลัยยังเห็นร่างบางสาละวนอยู่กับการหั่นฟักทองอยู่ในห้องคหกรรมอยู่เลย
“ฟักทองเชื่อมย่ะ พอใจหรือยังเล่า มาทำงานแล้วเนี่ยไง” ร่างบางบอกด้วยใบหน้าบูดบึ้งที่โดนล้อ มือหนาเอื้อมมาขยี้ผมคนตัวเล็กกว่าอย่างเอ็นดู ก่อนจะส่ง ผ้ากันเปื้อนสีชมพูให้อีกคนใส่
“ไปทำงานซะ มาทำงานสายแล้วก็อย่าอู้งานละ ”ขายาวๆสาวเท้าหนีอีกคน พลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พี่เย่ ถึงเวลาจะเอาคืนให้สาสมเลย” ว่าอย่างขุ่นเคือง พลางจัดการสวมผ้ากันเปื้อนที่ร่างสูงให้มา ก่อนจะเดินไปประจำตำแหน่งที่ หน้าเคาน์เตอร์ มือบางหยิบผ้ามาเช็ดถูทำความสะอาดไปตามเรื่องตามราวรอลูกค้า
‘กรุ๊ง กริ๊งๆๆ’ เสียงระฆังใบเล็กหน้าประตูส่งเสียงร้องเมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามาในร้าน ร่างเล็กๆในชุดนักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนใกล้ๆแถวนี้เดินเข้ามาในร้าน พลางชะเง้อคอมองหาใครบางคน
“อ้าว รยออุค เลิกเรียนเร็วหรอ มาที่ร้านเร็วกว่าปกตินะเนี่ยวันนี้” ซองมินเอ่ยทักลูกค้าเจ้าประจำที่มาที่ร้านนี้แทบจะทุกวัน รยออุคยิ้มทักทายพี่ชายหน้าหวานอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเดินเข้าไปหาเพื่อพูดคุยกับอีกคนเหมือนอย่างเคย
“วันนี้อาจารย์ปล่อยมาทำงานกลุ่มน่ะฮะ เลยนัดเพื่อนมาทำงานกันที่นี่ พี่ซองมินไม่ว่าอะไรนะฮะ ถ้าอุคจะขอทำงานกับเพื่อนๆที่นี่น่ะฮะ” เอ่ยถามอย่างอ้อนๆ มีหรือลีซองมินจะไม่ใจอ่อน
“ได้สิ แต่อย่าเสียงดังรบกวนลูกค้าคนอื่นเค้านะ แล้ววันนี้จะทานอะไรมั้ย ”
“เอาเหมือนเดิมแล้วกันฮะ แล้วนี่....พี่เยซองไม่อยู่หรอฮะ” เอ่ยถามถึง อีกคนที่ตนตั้งใจมาหาเต็มที่ แต่ดันไม่เจอซะงั้น
“เอ่อ...พี่ว่าน้องอุคของพี่นั่งตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่เอาน้ำเย็นๆและเค้กอร่อยๆมาให้น้องทานดีกว่าเนอะ ^^” เมื่อเห็นเยซองเดินออกมาจากครัว ซองมินก็แกล้งคุยเสียงลั่นๆให้อีกคนได้ยิน มือบางประคองคนตัวเล็กให้ลงนั่งบนเก้าอี้ของทางร้านเยซองเองพอได้ยินชื่อของใครอีกคนก็รีบเดินมาดูทันที พอเห็นหน้าเจ้าของชื่อ ร่างสูงก็ยิ้มเสียหวานหยดเลยทีเดียว
“มาแล้วทำไมไม่เรียกพี่ละครับ ปล่อยให้พี่รอตั้งนาน” ไม่ว่าเปล่าร่างสูงรีบก้าวไปยืนข้างคนร่างบาง พลางพยายามเอาตูดเบียดอีกคนให้ออกห่างจากคนน่ารักของเค้า
“มีอะไรก็ไปทำสิซองมิน เดี๋ยวพี่ดูแลลูกค้าคนนี้ให้เอง” ไล่อีกคนที่ดูเหมือนจะยืนเป็นตัวมารอยู่ ซองมินเบะปากอย่างหมั่นไส้ พลางเดินไปทำโกโก้เย็นและเตรียมเค้กให้กับลูกค้าประจำคนนี้ ยังไม่ทันที่ซองมินจะได้ยกไปเสิร์ฟ เยซองก็วิ่งปรี่เข้ามาฉวยเอาเค้กไปส่งตัดหน้าเค้าไปซะก่อนแล้ว
‘กรุ๊ง กริ๊ง ๆๆๆ’ เสียงประตูหน้าร้านดังขึ้นอีกครั้ง เรียกความสนใจของ คนร่างบางที่กำลังก้มจัดเค้กในตู้ให้โผล่หน้าขึ้นมาทักทายลูกค้าคนใหม่ของร้าน
“สวัสดีครับ smile coffee ยินดีต้อนรับครับผม ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับ ^^” เอ่ยถามพลางตบท้ายด้วยรอยยิ้มบางๆ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่แต่งชุดคล้ายกับชุดนักเรียนของรยออุคถึงกับชะงักทันทีที่เปิดประตูเข้ามา เมื่อตั้งสติได้ก็รีบสาวเท้าเข้าไปที่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ทันที พลางยิ้มมุมปากเมื่อเจอสิ่งที่ถูกใจ
“อืม....รับเป็นยิ้มหวานๆของคนขายเค้กได้มั้ยครับ”ว่าเสียงหล่อ พลางเต๊ะท่าเก็กหล่อสุดติ่ง
“ยิ้มละ 500 วอนครับ หากคุณลูกค้าถูกใจผมยินดีขายครับ” ซองมินว่า พลางหุบยิ้มลงฉับพลัน พลางมองหน้าคนหน้าม่ออย่างไม่ถูกชะตาเท่าไรนัก
“งั้นตัวผมคงต้องจ่ายให้เป็นร้อยล้านพันล้าน เพราะผมอยากให้ยิ้มให้ผมทุกวินาทีเลยครับ”หยอดคำหวานแสลงหูใส่อีกคนอย่างต่อเนื่อง ซองมินแอบเบะปากอย่างหมั่นไส้คนตรงหน้า แต่ก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติโดยไว เพราะงานบริการถือว่าลูกค้าคือพระเจ้าของเรา
“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะรับสินค้าอะไรดีครับ ทางเรามีทั้งเค้กและเบเกอรี่มากมายให้เลือกทาน รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อนและเย็นเพื่อดับกระหายด้วย ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับ” ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางเอ่ยถามลูกค้าตรงหน้าอย่างใจเย็น ใช่ว่าทำงานแบบนี้จะไม่เคยโดนจีบ มีออกบ่อยไป เบื่อจริงๆเลยกับพวกหน้าม่อไม่เลือกที่แบบนี้
“อืม...งั้นรับเป็นบลูเบอรี่ชีสเค้กกับช็อกโกแลตปั่นก็ได้ครับ” เมื่อเห็นว่าคนร่างบางพยายามเบี่ยงประเด็นร่างสูงจึงไม่เซ้าซี้ มือหนาชี้เลือกเค้กในตู้ พลางสั่งของที่อยากกิน เด็กเสิร์ฟหน้าหวานก็จดยิกๆตามเมนูที่ลูกค้าสั่ง
“ขอโทษนะครับ ขอดูที่จดหน่อยได้มั้ยครับ” ร่างสูงเอ่ยเรียกอีกคน ขณะที่ซองมินกำลังจะเดินเข้าไปส่งรายการที่หลังร้าน
“ครับ? จะเปลี่ยนเมนูหรอครับ” มือบางยื่นรายการที่จดให้ดูตามที่คำขอ
“เปล่าครับ แค่จะขอดูลายมือน่ะครับ ....ลายมือสวยดีนะครับเนี่ย ขอยืมไปจดทะเบียนสมรสหน่อยได้มั้ยครับเนี่ย” ว่าพลางยิ้มกรุ้มกริ่มให้อีกคน ซองมินรีบคว้าออเดอร์มาจากมือร่างสูง ก่อนจะเดินเข้าไปส่งรายการที่หลังร้านทันที
“อ้าว ซองมิน มีออเดอร์หรอ แล้วทำไมเราหน้าแดงอย่างนั้นละ ไม่สบายหรือเปล่า” คังอินที่กำลังทำเบเกอรี่อยู่หลังร้านเอ่ยถามอีกคนเมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานขึ้นสีแดงๆชอบกล
“เปล่าหรอกครับ ไม่มีอะไร นี่รายการที่ลูกค้าสั่งนะครับ เดี่ยวผมเอาไปเสิร์ฟให้นะครับ” ว่าพลางเดินไปหยิบเค้กตามรายการที่จดมา
“อ้าว คยูฮยอนมานานแล้วหรอ แล้วสั่งอะไรหรือยังน่ะ” รยออุคที่เห็นเพื่อนตัวเองยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์จึงเอ่ยเรียกอีกคน เยซองมองร่างสูงอีกคนที่มาใหม่ด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ แต่ด้วยความที่เป็นลูกค้าจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
“พี่เยซองฮะ นี่คยูเพื่อนอุคที่มาทำงานด้วยวันนี้ คยูนี่พี่เยซองเป็น....” รยออุคเอ่ยแนะนำคนทั้งคู่ให้รู้จักกัน แต่พูดยังไม่ทันจบร่างสูงก็สวนขัดขึ้นมาก่อน มือหนายื่นไปหาอีกคนเพื่อทำความรู้จัก
“เป็นแฟนน้องอุคน่ะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” คยูฮยอนเลิ่กคิ้วมองหน้ารยออุคอย่างสงสัย แต่มือหนาก็ยื่นไปจับกับอีกคนอย่างเป็นมิตร
“ไม่ยักรู้ว่านายมีแฟนแล้วนะเนี่ย ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่เยซอง ผมคยูฮยอนเพื่อนรยออุคน่ะครับ” ร่างบางตีเบาๆเข้าที่มือของคนร่างสูงที่เลื่อนมาโอบไหล่โดยไม่ได้รับอนุญาต
“ใครแฟนพี่กัน ขี้ตู่ชัดๆ พูดงี้อุคเสียหายนะพี่เยซอง ชิ” ว่าอย่างงอนๆ ทำเอาอีกคนต้องรีบง้อโดยด่วน
“พี่ไปทำงานเถอะฮะ เดี๋ยวอุคขอทำงานกับเพื่อนๆก่อน ไว้เดี๋ยวเลิกงานแล้วเรากลับบ้านด้วยกันนะฮะ”ว่าพลางจุ๊บลงบนแก้มร่างสูง เยซองจึงยอมผละตัวออกมาทำงานเพราะเวลาเย็นลูกค้าในร้านจะเริ่มเยอะ ลำพังซองมินคนเดียวคงทำงานไม่ทัน
“สรุปแฟนนายหรอรยออุค” คยูเอ่ยถามอีกคนและก็ได้การพยักหน้ารับอย่างอายๆกลับมาแทนคำตอบ
“แล้วนี่คิบอมไม่ได้มาด้วยกันหรอ” รยออุคเอ่ยถามถึงเพื่อนอีกคนที่โดยปกติแล้วคยูฮยอนกับคิบอมจะมาเป็นคู่หูดูโอ้แบบแพ็คคู่เสมอ ก็แน่ละนะ เค้าสองคนเพิ่งย้ายมาจากอเมริกาด้วยกันทั้งคู่นี่นา ไม่แปลกหรอกที่จะตัวติดกันเป็นตังเม ขนาดนั้น นี่ก็เพิ่งย้ายมาได้แค่ไม่กี่วันเอง อาจารย์เลยฝากให้เค้าช่วยดูแล 2 คนนี้เพราะเห็นว่าอยู่บ้านใกล้กันและยังเรียนห้องเดียวกันอีกด้วย
“อื้อ เห็นว่าจะไปค้นหนังสือมาช่วยทำรายงานเพิ่มน่ะ อีกสักพักก็คงมาล่ะ” คยูว่าพลางเบนความสนใจไปที่คนร่างอวบที่ยืนเกี่ยงกับเยซองว่าใครจะยกถาดมาให้ เป็นโชคดีของเค้าที่เยซองติดรับออเดอร์ของอีกโต๊ะนึงอยู่ คนร่างบางจึงต้องยกมาวางที่โต๊ะของเค้าด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ
“ทำไมหน้าบึ้งแบบนั้นละฮะพี่ซองมิน ใครทำพี่ไม่พอใจรึเปล่าฮะเนี่ย” รยออุคเอ่ยถามพี่ชายคนสนิทอย่างห่วงใย
“คนแถวนี้ทำพี่หงุดหงิดนิดหน่อยน่ะจ้ะ ...เชิญคุณลูกค้าทานให้อร่อยนะครับ” ประโยคแรกเอ่ยบอกน้องรักพลางจิกตามองอีกคนที่ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย ร่างบางหันมาพูดกับคนร่างสูงตามมารยาทที่ถูกทางร้านอบรมมา ก่อนจะสะบัดตูดเดินหนีไป คยูฮยอนมองตามพลางหัวเราะในลำคออย่างถูกใจ คนอะไรไม่รู้น่ารักชะมัด
“ชอบพี่ซองมินหรอ” รยออุคที่นั่งมองพฤติกรรมเพื่อนเอ่ยถามอย่างจับผิด
“อืม น่ารักดี ชื่ออะไรนะ ขออีกที”
“พี่ซองมินน่ะ ลี ซองมิน เป็นรุ่นน้องที่มหาลัยของพี่เยซอง จริงๆเค้าก็อยู่ในหมู่บ้านนี้อ่านะ อยากจีบมั้ยละ เดี๋ยวฉันช่วย” รยออุคเอ่ยถามคนร่างสูงที่เอาแต่ นั่งมองซองมินทำงาน คยูฮยอนหันกลับมามองเพื่อนอีกคนที่นั่งร่วมโต๊ะ ก่อนจะยื่นมือมาจับกับมืออีกคนเป็นการยอมรับในข้อตกลงของคนทั้งคู่
“ฝากด้วยนะรยออุค ...คนนี้ฉันจริงจัง” ว่าไว้แค่นั้น พูดจบคนร่างสูงที่เห็นว่าคนในร้านเริ่มบางลงแล้วจึงเดินไปหยอดคนร่างบางที่หน้าเคาน์เตอร์ต่อ
“ว่างนักหรือไง มานั่งจ้องหน้าฉันทำไมกัน” ซองมินเอ่ยถามอีกคนที่มา นั่งเท้าคางมองตนเองอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ มองไปก็ยิ้มไป ไอนี่ท่าจะบ้าแล้ว
“หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรอไง มองอะไรอ่า” พอโดนมองนานๆก็เริ่มไม่มั่นใจ มือบางลูบไล้ใบหน้าตนเองเพื่อตรวจหาสิ่งแปลกปลอมบนใบหน้า พลางเอ่ยถาม “อื้ม มีอะไรติดอยู่น่ะ” คยูเอ่ยตอบ ทำให้ร่างบางยิ่งร้อนใจ
“กระจกๆๆ ...อยู่ไหนนะ” มือบางค้นกระเป๋าหากระจกมาส่องดูทันที แต่ค้นเท่าไรก็ค้นไม่เจอ มือหนาเอื้อมมาสะกิดอีกคนให้สนใจตน
“จะเอากระจกหรอครับ ส่องนี่สิครับ ...” ซองมินเลิ่กคิ้วมองอย่างสงสัยเมื่อร่างสูงชี้ไปที่ตาของตนเองแล้วบอกให้ส่องแทนกระจก
“ก็ในนี้มันสะท้อนแต่ภาพของพี่นี่ครับ” มือหนาชี้เข้าไปในดวงตาใสของตนเองที่ตอนนี้สะท้อนภาพของคนร่างอวบอยู่ในดวงตาอย่างที่คนร่างสูงบอกจริงๆ
“นายนี่มัน....น้ำเน่าจริงๆเลย” ร่างอวบตีเข้าที่อกหนาดังอั่ก ทำเอาคยูถึงกับจุกไปสักพักกับมือหนักๆที่ทุบเข้ามา
“ถึงจะน้ำเน่าก็ยังเห็นเงาจันทร์ของกระต่ายนะครับ ^^” นั่นแหน่ะ ยังไม่เข็ดคงอยากจะโดนตะปบอีกสักครั้งละมั้ง
“กระตงกระต่ายอะไรของนายกัน มาทำงานกับรยออุคไม่ใช่หรอ ว่างมากหรือไงมารบกวนเวลาทำงานของฉันเนี่ย” ร่างบางออกปากไล่อีกคนที่มาก่อกวนเวลาทำงานของตน
“ก็พี่ไงครับ น่ารักเหมือนกระต่ายเลย ในเมื่อพี่ไม่บอกชื่อผม ผมก็จะเรียกพี่ว่ากระต่ายขาวนี่ละ น่ารักดี^^” ส่งยิ้มหวานโปรยเสน่ห์พลางส่งตาวิ๊งให้อีกคน นี่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นได้เห็นนะมีหวังละลายตายกันไปแล้ว
“ฉันมีชื่อของฉันนะ จะมาเรียกเป็นสัตว์แบบนั้นได้ยังไงกัน” คนร่างบาง เท้าเอววีนอีกคน
“แล้วชื่ออะไรละครับ ผมจะได้เรียกถูก ผมโจวคยูฮยอน ยินดีที่ได้รู้จักครับกระต่ายขาว” ร่างสูงแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการพลางยื่นมือไปหวังจะจับมือ คนตรงหน้าเป็นการทักทาย
“ฉันลีซองมิน แล้วก็เลิกเรียกฉันว่ากระต่ายขาวได้แล้ว ฟังแล้วขนลุก พิลึกชอบกล บรื๊ออออ”มือบางลูบแขนตัวเองเบาๆ พลางปัดมืออีกคนออกแบบไม่คิดจะจับ
“ชื่อเพราะนะครับเนี่ย ลีซองมิน แต่ผมว่ามันยังติดอะไรอยู่นิดหน่อย ...สนใจเปลี่ยนมาใช้นามสกุลโจวมั้ยครับ ถ้าใช้นามสกุลนี้นะครับเป๊ะเลย ชื่อเหมือนมากๆ” ร่างสูงว่าอย่างหยอกเย้า
“บ้าหรือไง ชื่อของฉันเพราะอยู่แล้วทำไมต้องเปลี่ยนกัน ...ว่าแต่เหมือนอะไรหรอไอที่ว่าเป๊ะเลยอ่า” ร่างบางถามอีกคนอย่างสงสัย
“เหมือนชื่อของแม่ของลูกผมน่ะครับ ^^” ยิ้มกว้างอย่างกะล่อน ซองมินที่ได้ยินคำหยอดก็ถึงกับอึ้งไปกับไอเด็กหน้าด้านคนนี้ที่คิดจะปีนเกลียวด้วยคำหวานเลี่ยนๆแล้วยังมาขี้ตู่ว่าเค้าจะไปเป็นแม่ของลูกมันอีก
“ขอโทษนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นแม่ของลูกนายคงเกิดมามีกรรมน่าดูเลยละที่ ชื่อนี้ เป็นฉันนี่วิ่งไปเปลี่ยนชื่อที่อำเภอแทบไม่ทันเลยล่ะ จริงๆ ”ซองมินตรอกหน้า คนร่างสูงกลับไปเสียหนึ่งดอก ก่อนจะยกถาดขนมไปเสิร์ฟให้ลูกค้าอีกโต๊ะหนึ่ง ทิ้งคยูให้ยืนนิ่งอึ้งกับบทสนทนาเมื่อครู่อยู่เพียงลำพัง
“คอยดูเถอะ ซองมิน ยังไงฉันก็จะจีบนายให้ติดด้วยมุกเลี่ยนๆของฉันนี่ละ เค้าว่ากันว่าน้ำหยดลงบนหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับใจคนที่มันอ่อนยวบกว่าหินผานัก” คนร่างสูงพึมพำคำคมอยู่กับตัวเอง พลางเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะที่มีรยออุคและเพื่อนเค้าอีกคนนึงที่เพิ่งเข้ามานั่งในร้านได้ไม่นาน
“มาแล้วหรอวะ ทำไมช้าจัง” คยูเอ่ยถามเพื่อนสนิทอีกคน พลางทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้บุนวมข้างกายร่างสูงโปร่ง
“ก็ตอนไปซื้อหนังสือดันไปเจอบางคน พอดีคุยกันถูกคอเลยนานไปนิดน่ะ” บอกพลางยิ้มจนแก้มป่องเมื่อคิดไปถึงอีกคนที่ตนเพิ่งแยกจากมาเมื่อครู่
“เจอเด็กใหม่หรอ น่ารักมั้ยวะ”
“ก็น่ารักนะ แต่ติดจะน่ากลัวนิดๆ อยู่ใกล้ๆแล้วรู้สึกได้ถึงรังสีอะไรบางอย่างน่ะ แต่ก็โอเคอ่าคุยกันถูกคอดี” คิบอมว่าพลางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระนัก คนร่างสูงหันไปปรึกษางานกับรยออุค พลางเปิดหนังสือที่ยืมมาเพื่อหาข้อมูลมาทำงานเพิ่ม คยูฮยอนเองก็ละสายตาออกมาจากซองมิน แล้วหันกลับมาตั้งใจทำงานของตนเอง แม้จะแอบมองคนร่างบางอยู่เป็นพักๆก็ตาม
แต่ เอ....พ่อหนุ่มแก้มป่องอย่างคิม คิบอมของเราไปเจอใครที่ถูกใจระหว่างเดินทางมาที่ร้านนี้กันนะ เราย้อนไปดูกันหน่อยดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนร่างสูงกัน แล้วคนที่ว่าน่ารักแต่น่ากลัวคนนั้นเป็นใครกันนะ….
TALK : รีไรท์ใหม่แล้ว อ่านยังสะดุดกันอยุ่มั้ยจ้ะ แต่ตอนนี้เสี่ยวเนอะ อ่านแล้วจะอ้วก 5555 รีดเดอร์เอามั้ยท่ามีคนเสี่ยวๆแบบนี้มาจีบน่ะ
อ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบยังไงอยากให้ไรเตอร์แก้ตรงไหนก็บอกได้นะ เม้นบอกได้เลยจ้า ^^ ถือเป็นการให้กำลังใจไรเตอร์ด้วย รักรีดเดอร์
ทุกคนค่ะ จะพยายามดันเรื่องนี้ให้จบให้ได้นะคะ
ความคิดเห็น