คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Trick1 คนขี้เหร่...
Trick1 : คนขี้เหร่…
ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยแสงสีทองที่สาดส่องเข้ามาในบริเวณสนามหญ้า หน้าบ้าน ใบไม้ที่ต้องลมอ่อนๆพัดปลิวเบาๆ เสียงหมู่นกร้องประสานเสียงกันปลุกให้ผู้คนตื่นจากนิทราอันแสนหวานเพื่อกลับมาเผชิญกับโลกแห่งความจริงของวันใหม่
“ฮืมมม ฮื้มมมม ~” วันนี้ดูท่าว่าอากาศจะดีกว่าปกติ ทำให้ร่างสูงตื่นนอนมาอารมณ์ดีแต่เช้ามือหนาหยิบฝักบัวช้างน้อยมารดน้ำต้นไม้ต้นเล็กๆที่ปลูกไว้บริเวณหน้าบ้านพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี
“ฮืออออ ฮืออออ ~ ” แต่จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามาในท่วงทำนองที่ ร่างสูงกำลังบรรเลง ฮันคยองหยุดการกระทำทุกอย่างพลางเงี่ยหูฟังเสียงแปลกปลอมอย่างพิจารณา สายตาคมจ้องมองไปรอบๆด้านพลางเดินตามหาที่มาของเสียง เจอแบบนี้ตอนเช้าๆก็หลอนได้เหมือนกันนะ …ใครกันจะมาร้องไห้แต่เช้าตรู่แบบนี้
“ฮืออออออ” ยิ่งเดินเข้าใกล้รั้วบ้านเท่าไร ต้นตอของเสียงก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ
“บรื๊อออ เสียงใครมาร้องไห้แต่เช้าเนี่ย ขนลุกจริง” มือหนาลูบแขนตัวเองอย่างหลอนๆ พลางชะโงกหน้าไปดูที่อีกฝั่งของรั้วเพื่อหาที่มาของเสียง
“ฮือๆๆๆๆ กรี๊ดดดดดดดด!!!//อ๊ากกกก!!!” สองเสียงดังประสานประหนึ่งอยู่ในโรงละครโอเปร่า ร่างบางที่นั่งร้องไห้อยู่ริมรั้ว ได้ยินเสียงกุกกักๆจากทางด้านหลังจึงเงยหน้าขึ้นมอง พอดีกับคนร่างสูงที่ค่อยๆชะโงกหน้ามาบนรั้วบ้าน ต่างคนต่างตกใจหน้าของกันและกันเอง พลางแผดเสียงร้องกันลั่นบ้าน
“โอยยยย หัวใจจะวาย มานั่งร้องไห้อะไรแต่เช้าแบบนี้อึนฮยอก” ร่างสูงกุมหัวใจตัวเอง พลางพยายามบังคับการหายใจให้เป็นปกติ ฮันคยองเอ่ยถามอีกคนที่ยังคงน้ำตาไหลพรากไม่หยุด
“ฮืออออ พี่ฮันคนบ้า มาแอบดูอะไรกันเล่า ตกใจหมดเลยรู้มั้ย ฮือออ” ร่างบางต่อว่าพลางปาดน้ำตาบนใบหน้าตัวเอง
“ก็พี่ได้ยินเสียงเราร้องไห้นั่นละ ก็นึกว่าผีสางนางไม้ที่ไหน ทำเอาพี่ขวัญผวาตกอกตกใจหมดนึกว่าโดนผีหลอกแต่เช้าซะแล้ว แล้วนี่ทำไมร้องห่มร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแบบนี้ละเนี่ย เป็นอะไรหรือเปล่า บอกพี่ได้นะ”มือหนาเอื้อมไปเช็ดน้ำตา พลางยิ้มให้อย่างอ่อนโยน อึนฮยอกโผเข้ากอดพี่ชายข้างบ้าน พลางปล่อยโฮออกมาอีกระลอก
“พี่ฮัน...ฮยอกขี้เหร่มากเลยหรอ ฮยอกหน้าตาไม่น่ารักใช่มั้ย ฮืออออ” คนตัวบางรัวคำพูดออกมาพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นฟังแทบไม่ได้ศัพท์
“เดี๋ยวๆ เราพูดอะไรน่ะ พี่ฟังไม่รู้เรื่องเลย ใจเย็นๆนะค่อยๆเล่าให้ฟังนะ เด็กดีของพี่” มือหนาลูบผมนิ่มเบาๆอย่างปลอบโยน พลางกอดคนตัวบางไว้แนบอก (โฮะๆ ไม่น่าละอากาศดี กำไรแต่เช้าเลยเรา^^)
“เด็กดีหรอ.... มานี่เลยนะ ตื่นมาก็มาหลีชาวบ้านชาวช่องเค้าแต่เช้าเลยนะไอเถิก!!!” รังสีอำมหิตค่อยๆแผ่กระจายทั่วบริเวณพร้อมกับมือยาวๆของร่างบาง อีกคนที่ยื่นมาบิดหูของคนร่างสูง
“โอ๊ยๆๆๆ ตื่นแล้วหรอคร้าบบบบที่ร๊ากกกก วันนี้ตื่นเช้าจังเลยน้า….” ร่างสูงว่าเสียงหวาน โดยไม่ต้องหันไปดูว่ามือที่บิดหูของตนอยู่นั้นเป็นของใคร
“แหมมมมมม พูดซะเสียงหวานแต่เช้าเลยน้าที่รัก พูดจาดีแต่เช้าแบบนี้น่าจะมีรางวัลให้แฟนสุดที่รักแต่เช้าหน่อยเนอะ” ฮีชอลตอบกลับเสียงหวานไม่แพ้กัน มือบางปล่อยออกจากหูของอีกคนพลางยิ้มหวานให้ร่างสูง ฮันคยองยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าแฟนของตนอ่อนลงบ้างแล้ว
“ไหนละครับรางวัลของผม อยากได้จังเลย” ร่างสูงเอ่ยบอกพลางทำปากจู๋หลับตาปี๋รอรับรางวัลจากคนสวย
“ได้เลยยยยยยย เพี๊ยะ!!!” ดังสนั่นจนหูอื้อไปหมด ฮันคยองรู้สึกอื้ออึนเหมือนน้ำในหูไม่เท่ากัน เมื่อคนรักของเค้าจัดรางวัลมาให้ฉาดใหญ่บนหัวเถิกๆของตนเอง
“โหย ฮีชอล เล่นซะมึนแต่เช้าเลย เล่นแรงจริงเลยคุณเนี่ย” มือหนาลูบหัวตัวเองป้อยๆด้วยความเจ็บ
“ยังไม่ปล่อยอีก จะเอาอีกสักฉาดมั้ยละ” ร่างบางบอกพลางจ้องไปยังมือ อีกข้างของคนร่างสูงที่ยังคล้องไหล่บางไว้ไม่ปล่อย
“อุ้ย ลืมไปเลย ก็ว่ามีอะไรนิ่มๆอยู่ที่มือ” มือหนาปล่อยคนร่างบางอีกคนที่ถูกฝังอยู่ในอ้อมกอดทันทีที่นึกขึ้นได้ แหม ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ยยยยยยยย
“เดี๋ยวเถอะ หาเรื่องให้กริ้วแต่เช้า เข้าบ้านไปเลยไปฉันหิวจะตายอยู่แล้ว ไปทำกับข้าวไป” ไล่อีกคนเข้าไปในบ้างพลางหันมามองร่างบางอีกคนที่ยังคงยืนร้องไห้อย่างต่อเนื่อง
“เป็นอะไรละเรา หืม?” หันมาถามอีกคนด้วยเสียงที่อ่อนลง มือบางลูบหัวน้องชายตัวเล็กข้างบ้านเบาๆ
“ชิ ทีตัวเองทำไมกอดได้” ร่างสูงอีกคนเดินบ่นอุบอิบ ก่อนจะรีบหุบปากฉับเมื่อเจอสายตาพิฆาตของแฟนขี้หึงของตนตวัดกลับมามอง
“ฉันไม่ได้คิดอกุศลเหมือนนายไง” ร่างบางแว้ดอีกรอบก่อนจะชี้นิ้วไปยังประตูบ้านเป็นสัญญาณเตือนว่าถ้ายังไม่เดินเข้าบ้านแม่จะเชือดให้ตายตรงนี้เลย ทำเอาร่างสูงต้องรีบจ้ำอ้าวกลับเข้าบ้านแทบไม่ทันเลยทีเดียว
“เอาละ ไหนบอกพี่ซิ เกิดอะไรขึ้น ใครทำเราร้องไห้แต่เช้าแบบนี้ ดงเฮหรอ” ถามถึงร่างบางอีกคนที่เช้านี้ยังไม่เห็นออกมาทำพิธีอะไรแต่เช้าเลย
“ฮึก…ไม่ใช่ฮะ ฮยอก...ฮยอกอกหักอ่า” ยิ่งพูดก็ยิ่งจี้ใจดำ น้ำตาก็เอ่อคลอเตรียมจะไหลอีกครั้ง
“หา อกหัก ใครกันกล้าทิ้งน้องที่น่ารักของพี่ ใครปฏิเสธน้องพี่นี่โง่เต็มทน หน้าตาน่ารักขนาดนี้” ว่าอย่างโกรธเคืองผู้ชายที่กล้าทิ้งน้องสุดที่รักของเค้า
“ฮือออ ไม่จริง ฮยอกไม่น่ารัก…ผู้ชายคนนั้นบอกว่าฮยอก ฮึก..ขี้เหร่”
“มันอยู่ไหน ถ้าจะอยากตายซะแล้วไอนี่ ใช้สมองที่ข้อเท้าคิดหรือไง มาว่าน้องฉันขี้เหร่เนี่ย บอกพี่มาเลย คนไหน เดี๋ยวพี่จะไปตบให้กบาลเถิกกว่าแฟนพี่อีก” ร่างบางตั้งท่าจะวิ่งไปจัดการตัวต้นเหตุตามที่ปากบอก ดีที่อึนฮยอกดึงมือเอาไว้ได้ทัน
“พี่ฮีชอล~ พี่ต้องช่วยฮยอกนะ ฮยอกอยากน่ารักกว่านี้อีก ฮืออออ” คนตัวบางเกาะเอวคนเป็นพี่แน่น พลางส่งตาแป๋วอย่างออดอ้อนเป็นการขอร้อง เฮ้อ... ไอบ้านั่นมันบ้าหรือเปล่าที่บอกว่าเด็กคนนี้ไม่น่ารัก ขนาดฉันเป็นแค่พี่ยังต้อง ใจอ่อนกับสายตาแบบนี้เลยจริงๆ
“โอเคๆ พี่จะช่วยเราแล้วกันนะ แล้วนี่กินข้าวเช้าหรือยังเนี่ย แล้วนี่ดงเฮกับซองมินไปไหนไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว” สุดท้ายก็ทนต่อความน่ารักไม่ไหว ร่างบางเอ่ยตอบตกลงอย่างใจอ่อน พลางเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“ยังไม่ได้ทานฮะ ฮึก…ซองมินไปทำงานแล้วฮะ ส่วนด๊องไปหาซื้อของมาทำพิธีสาปแช่งน่ะฮะ” บอกเหมือนเป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่มันก็เป็นเรื่องปกติจริงๆละ สำหรับลีดงเฮเพื่อนรักของเค้า
“สาปแช่ง อ้อ…คงจะสาปแช่งนายคนที่ทิ้งฮยอกอ่านะ ถ้าเป็นปกติฉันจะห้ามหรอกนะ แต่วันนี้ปล่อยดงเฮทำพิธีไปแล้วกัน” ในทุกครั้งที่ดงเฮจะทำพิธีอะไร ก็ตาม ฮีชอลจะต้องมาห้ามและทำลายพิธีของคนร่างบางเสมอ ทั้งๆที่คอยบอกเสมอว่าอย่างมงายกับของแบบนี้ แต่ในวันนี้เค้าจะปล่อยให้ดงเฮทำไปแล้วกัน มาทำน้องเค้าอีกคนร้องไห้ดีนัก
“ไปเถอะ ไปกินข้าวกัน” ว่าพลางจับมืออึนฮยอก ก่อนจะประคองร่างบาง ให้ปีนข้ามรั้วมายังบ้านของตน คนทั้งคู่จูงมือกันไปยังโต๊ะอาหารที่ตอนนี้มีอาหาร3-4 อย่างวางยั่วน้ำลายอยู่บนโต๊ะ ฮันคยองถอดผ้ากันเปื้อนพลางยกจานข้าวมาวางที่โต๊ะเป็นอย่างสุดท้าย
“อ้าว มากันแล้วหรอ ทานข้าวด้วยกันนะอึนฮยอก” ว่าพลางลากเก้าอี้ให้น้องนั่ง ก่อนจะเดินไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม ฮีชอลยืนเท้าเอวมองแฟนอันเป็นที่รักของตนเองอย่างเหวี่ยงๆ
“ฮ่าๆๆ โอ๋ๆๆ ผมล้อเล่นนะคุณ อย่างอนนะ” เดินเข้าไปกอดอีกคน พลางหอมแก้มอย่างเอาใจ ก่อนจะจูงมือคนร่างบางไปนั่งที่เก้าอี้ข้างตน ก็เพราะ ขี้แกล้งอย่างงี้ไงเล่า ทำให้โมโหได้ทุกทีสิน่า
“ฝีมือพี่ฮันนี่อร่อยจังเลยนะฮะ กินกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลย อิจฉาพี่ฮีชอลจัง มีแฟนทำกับข้าวเก่ง ฮยอกอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” คนร่างบางเอ่ยชมเมื่อ ตักอาหารเข้าปาก เมื่อได้ทานข้าวหลังจากที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแล้ว ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย ตอนนี้คนร่างบางสามารถกลับมาคุยได้อย่างเป็นปกติแล้ว
“สนใจเป็นกิ๊กพี่มั้ยละ ฮ่าๆ” คนปากไวเอ่ยถามแต่ก็ไม่เท่ามืออีกคนที่ไวกว่าตะปบลงมาบนแขนหนาอย่างแรง
“เดี๋ยวเถอะ เผลอเป็นไม่ได้ น้องนุ่งก็ไม่สน … มีแฟนอย่างตานี่น่าปวดหัว จะตาย ถ้าจะหาแฟน หาให้มันดีกว่านี้ก็จะดีหรอกนะอึนฮยอก ”ร่างบางว่าพลางค้อนอีกคนที่ตักอาหารมาใส่จานตนอย่างเอาใจ
“ทานเยอะๆนะครับฮีชอล จะได้มีแรงตบผมทุกวัน” ว่าพลางตักข้าวมาป้อนคนร่างบาง ฮีชอลเองก็อ้าปากรับอย่างว่าง่าย
“พี่สองคนนี่ทะเลาะกันทุกวันแต่ก็รักกันดีนะฮะ น่ารักจัง ^^” คนตัวบาง ยิ้มบางๆให้กับภาพของพี่ชายข้างบ้านทั้งสอง ที่แม้จะทะเลาะกันแทบจะทุกคำที่ พูดกันแต่การแสดงออกก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
“กัดกันทุกวันขนาดนี้ ยังจะน่ารักอีกหรอ 555 ” ร่างสูงว่าอย่างขำๆ แต่ในใจลึกๆก็ต้องยอมรับว่าที่เค้าทำเจ้าชู้ทำกะล่อนก็เพื่อยั่วให้ฮีชอลหึงเท่านั้นเอง บางครั้งการที่เราทะเลาะกันก็เป็นหนึ่งในการแสดงความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง บางทีการรักกันแบบนี้ก็ทำให้เรารักและเข้าใจกันมากกว่าคู่รักบางคู่ที่แสดงความรักกันอย่างหวานชื่นด้วยซ้ำไป
“เราดีขึ้นหรือยังละเนี่ย ยิ้มออกแล้วนี่นา ...พร้อมจะเล่าให้พี่ฟังหรือยังละ” ฮีชอลที่เห็นร่างบางยิ้มได้แล้วจึงเอ่ยถามถึงเรื่องราวที่ทำให้อีกคนสะเทือนใจจนต้องหลั่งน้ำตาเมื่อครู่
“ฮะ ฮยอกจะเล่าให้ฟังฮะ...ผู้ชายคนที่ทิ้งฮยอกไปชื่อ คิมฮยอนจุงน่ะฮะ เค้าเป็นเดือนวิศวะปี 4 เค้าป๊อบมากๆเลยในมหาลัย สาวน้อยสาวใหญ่รวมไปถึง เคะร่างบางทั้งหลายใครๆก็หลงเค้ากันทั้งนั้นล่ะฮะ นอกจากจะเรียนเก่งที่หนึ่งของคณะแล้วยังเป็นนักกีฬาบาสอีกด้วย แน่นอนว่าผู้ชายเพอเฟคแบบนี้ใครๆก็อยากได้ ฮยอกเองก็เล็งๆอยู่เหมือนกัน พอมีอยู่วันนึงเค้าก็เดินเข้ามาขอเบอร์ฮยอก ฮยอกเลยให้ไปน่ะฮะ พอได้คุยกัน เค้าก็เลยขอฮยอกคบเป็นแฟน
...ฮึก พี่ฮีชอลรู้มั้ยฮะ ฮยอกคบเค้าได้ตั้งอาทิตย์นึงเลยนะฮะ อยู่ๆเค้าก็เดินมาบอก ฮยอกว่า ...ฮึก เราเลิกกันเถอะ...นายมันขี้เหร่เกินไป ฮือออออ” คนตัวบางเริ่มร้องไห้ อีกครั้ง น้ำตาหยาดใสหยดลงบนจานข้าวที่ว่างเปล่าตรงหน้า ยิ่งเล่าก็ยิ่งสะเทือนใจ
“โอ๋ๆๆ น้องพี่ อย่าเสียใจไปเลยนะ อย่าไปรักคนเลวๆที่มันไม่เห็นความน่ารักในตัวเราเลย ฮยอกของพี่เป็นถึงดาวคณะบัญชี ถ้าไม่น่ารักจะได้ตำแหน่งมาได้ยังไงกันละ ไม่ร้องนะๆ” คนตัวบางเอ่ยปลอบอีกคน พลางส่งกระดาษทิชชู่ให้น้อง
“ฮึก ฮยอกไม่ได้รักเค้าหรอกฮะ เรียกว่าแค่ปลื้มมากกว่า”
“อ้าว แล้วเราเสียใจทำไมละ”
“ก็..คนนี้ฮยอกคบได้นานถึงอาทิตย์นึงเลยนะฮะ ปกติ 3 วันก็เปลี่ยนคนแล้ว อีกอย่างอีตานี่กล้าดียังไงไม่รู้มาขอเลิกฮยอกก่อนทั้งๆที่ปกติฮยอกต้องเป็นคนทิ้ง คนอื่นแท้ๆ ยังไม่พอมันกล้าดียังไงไม่รู้ มาว่าฮยอกไม่น่ารักอ่า ฮือออออ” อ้อ ที่แท้ก็เจ็บใจที่โดนเค้าทิ้ง แถมยังตอกหน้ากลับมาด้วยเหตุผลบอกเลิกที่ว่าตนไม่น่ารักนี่เอง ไม่ได้สมเหตุสมผลเอาซะเลยที่มาว่านางฟ้าของมหาลัยรุ่นที่ 8 คนนี้
“พี่ฮีชอลรับปากจะช่วยฮยอกแล้วนะ พี่รับปากแล้วว่าจะทำให้ฮยอกน่ารักกว่านี้อีก ....อยากได้แบบน่ารักมากๆจนหนุ่มๆตามจีบเป็นขบวนเลย ฮยอกจะหาแฟนเป็นหนุ่มหล่อสุดฮอต แล้วฮยอกก็จะควงไปตอกหน้านายนั่นให้หน้าหงายไปเลย เอาแบบให้หล่อกว่าพี่ฮันเลยนะฮะ นะๆๆๆๆ ”คนตัวบางเขย่าแขนคนร่างบางอีกคน ที่นั่งฟังเรื่องราวอยู่อย่างใจเย็น สงสารน้องก็สงสาร เป็นเค้านะจะชกนายนั่นให้ หน้าหงาย ตามันอยู่ที่ตาตุ่มหรือไงกัน มีตาหามีแววไม่ นี่มันเพชรเม็ดงามชัดๆ แค่มันยังขัดไม่เสร็จเลยยังเปล่งประกายไม่ถึงที่สุดก็แค่นั้นเอง
“น้องฮยอก...พี่ว่าเราพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะ” ฮันคยองท้วงอีกคนขึ้นมา เรียกความสนใจจากคนร่างบางทั้งสองที่กอดกันอยู่ให้หันมามองพร้อมเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าที่ชวนฉงน
“ยังไงฮะพี่ฮัน เรื่องนี้ฮยอกผิดหรอฮะ TT” คนตัวบางเริ่มเบะปากอีกครั้ง
“ไม่ใช่ครับ โอ๋ๆ อย่าร้องนะ พี่แค่จะบอกเราว่า ฮีชอลเค้าคงหาแฟนที่หล่อและหน้าตาดีกว่าฮยองให้ไม่ได้น่ะครับ เพราะฮยองน่ะหน้าตาดีที่สุดในสามโลกนี้แล้วน่ะครับ ถ้าจะหาหน้าตาดีกว่านี้คงต้องรอให้ฮยองตายแล้วเกิดใหม่อีกทีน่ะครับ”
ร่างสูงยิ้มหล่อรับคำพูดที่ชมตัวเองได้อย่างหน้าตาเฉย ไม่ได้รู้สึกละอายปากตัวเองแม้แต่น้อย ผิดกับแฟนของคนร่างสูงที่เบะปากอย่างหมั่นไส้ ร่างบางค่อยๆดันอึนฮยอกออกจากตัวพลางเดินหายเข้าไปในครัว สร้างความสงสัยให้กับฮันคยองเป็นอย่างมาก ที่นอกจากคนรักจะไม่ด่ากลับมาแล้วยังเดินจากไปเงียบๆเช่นนี้ คนร่างสูงชะเง้อคอมองตามไปดู ก่อนจะมองอย่างสงสัยเมื่อคนร่างบางถือมีดปอกผลไม้อันเล็กติดมือมาด้วย
“จะทานผลไม้หรอครับ ทำไมไม่บอกผมละ เดี๋ยวปอกให้ทานก็ได้” เอ่ยบอกอีกคน พลางเดินเข้าไปขอมีดคืน
“เปล่า จะเอามาเฉือดคนหล่อแถวนี้ พอดีแฟนที่มีตอนนี้หน้าตาไม่ค่อย จะหล่อ นอกจากจะตัวดำแล้วหัวยังค่อนข้างเถิก ว่าจะฆ่าแฟนตัวเองให้ตายแล้วหาแฟนใหม่ที่หล่อกว่านี้น่ะ เห็นมีคนบอกว่าถ้าได้ตายแล้วเกิดใหม่จะหล่อกว่าที่เป็นอยู่เลยจะช่วยสงเคราะห์น่ะ” ร่างบางว่าพลางทำท่าเอามีดปาดคอให้อีกคนดู ฮันคยองกลืนน้ำลายตัวเองอย่างฝืดคอ ก่อนจะค่อยๆเดินถอยหลังกลับไปนั่งเก้าอี้ของตนอย่างเงียบสงบ
“ฮ่าๆๆ พวกพี่น่ารักกันจังเลยอ่า ชอบๆๆ รักกันปานจะปาดคอเลย” ดงเฮที่หอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังเดินเข้ามาพลางหัวเราะลั่นห้องครัว เรียกความสนใจจากคนทั้งสามให้หันไปมองเป็นตาเดียว
“ด๊อง!! กลับมาแล้วหรอ” อึนฮยอกรีบวิ่งไปรับของจากเพื่อนมาช่วยถือ พลางจูงมือดงเฮมานั่งที่โต๊ะอาหาร
“ซื้อของอะไรมาเยอะแยะเชียวเนี่ย” ได้ทีฮันคยองรีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนตนจะโดนปาดคอหรือจ้วงไส้เสียก่อน มือหนาเปิดดูของที่ดงเฮหอบหิ้วมา ซึ่งในถึงมี พริกสีแดงสด 3 ถุง เกลืออีก 1 กระสอบ มีฟาง ตะปู เชือก ข้าวสาร เอามาทำอะไรเนี่ย...
“อ้อ ของเนี่ยหรอฮะ ก็ว่าจะทำพิธีเผาพริกเผาเกลือน่ะฮะ ส่วนข้าวสารจะเอามาเสก ฟางกับเชือกแล้วก็ตะปูจะเอามาทำตุ๊กตาวูดู นี่เสียดายมากหาซื้อควายธนูไม่ได้ วัยรุ่นเซ็งเลย” ดงเฮว่าพลางยู่หน้าอย่างเซ็งในอารมณ์
“เอ่อ...พี่ว่ามันตายตั้งแต่เผาพริกเผาเกลืออย่างแรกแล้วล่ะด๊อง พี่ว่าเราเปลี่ยนวิธีแก้แค้นดีกว่าเนอะ พี่คิดแผนดีๆออกละ”ว่าพลางจ้องมองคนตัวบางอีกคนที่เป็นเหตุของเรื่องอย่างพินิจพิจารณา
“ฮัน มานี่หน่อยสิ” ฮีชอลเอ่ยเรียกคนรักพลางกระซิบบอกอะไรบางอย่างกับคนร่างสูง ฮันคยองยิ้มกว้างทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“แผนคุณเด็ดมากครับที่รัก” ว่าพลางจูบปากคนรักเป็นรางวัล ทำเอา 2 เคะร่างบางของเรายืนมองด้วยหน้าแดงๆเขินแทนพี่ชายคนสวย
“แน่ละ คิมฮีชอลซะอย่าง” ไม่พูดเปล่า คนตัวบางก็กดจูบลงบนปากหนาอีกครั้ง คราวนี้ฮันคยองไม่ปล่อยโอกาสหลุดลอย มือหนาสอดลงใต้กลุ่มผมนุ่ม ก่อนจะบดเบียดริมฝีปากของร่างบางอย่างร้อนแรงแบบไม่เกรงใจคนยืนมองทั้งสองที่ต้องหลบสายตากันไปเอง
“เอาละๆ เดี๋ยวเราค่อยว่ากันนะที่รัก ขอเคลียร์กับน้องก่อน” ฮีชอลดัน อกแกร่งเบาๆ พลางผละจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง แต่ตอนนี้ตนมีเรื่องต้องทำก่อน
“อึนฮยอก พี่จะทำตามที่เราขอ ถึงพี่จะเป็นซินเดอเรลล่าก็ตาม แต่วันนี้พี่จะแปลงร่างเป็นนางฟ้าที่เสกสิ่งของราวกับเนรมิตให้กับซินเดอเรลล่าคนใหม่อย่างเราแทน วันนี้หลังเลิกเรียนไปเจอกับพี่ที่นี่ แล้วเราจะได้ในสิ่งที่เราขอ”
“Tricks of beauty…บริษัททริคเนรมิตความงาม” ร่างบางอ่านชื่อที่อยู่บนนามบัตร พลางมองหน้าพี่ชายอย่างสงสัย
“ไม่ต้องถาม เดี๋ยวไปแล้วก็จะรู้เอง คอร์สนี้พิเศษเพื่อเรา .... คอร์สสวยไม่เกรงใจนางงาม ไปเจอพี่ตามที่อยู่ที่นามบัตร แล้วพี่จะอธิบายให้เราฟังเอง ดงเฮถ้าอยากลองบ้างก็ตามมานะ” ฮีชอลเอ่ยบอกน้องทั้งสองคน ก่อนจะคว้าเสื้อสูทมาสวมให้คนรัก มือบางจัดเนคไทของอีกคนให้เข้าที่ ก่อนจะหันมาลาน้องทั้งสองคน
“เดี๋ยวพี่สองคนต้องไปทำงานก่อน วันนี้พี่ฮันต้องเข้าเวรดูแลคนไข้ช่วงเช้า ส่วนพี่เองก็มีสอนนางแบบใหม่เหมือนกัน เอาไว้เจอกันตอนเย็นนะน้องๆ อ้อ ดงเฮทานข้าวก่อนไปเรียนด้วยละ ปิดบ้านให้พี่ด้วยแล้วกันนะ” ว่าพลางจุ๊บแก้มน้อง ทั้งสองอย่างเอ็นดู มือบางคว้ากระเป๋าแล้วเดินนำอีกคนไปที่รถ
“ฝากบ้านด้วยนะน้องๆ” ร่างสูงเองก็ทำท่าจะจุ๊บร่างบางทั้ง 2 เหมือนที่ คนรักของตนทำบ้าง
“อะแฮ่มๆ... อย่าเนียนๆ” คนร่างบางที่รู้นิสัยของคนรักดี รีบหันมาดักทันที ฮันคยองได้แต่ยิ้มแห้งๆ พลางลูบหัวน้องสองคน
“พี่ฮีกับพี่ฮันน่ารักเนอะด๊อง อิจฉาจังเลย อยากมีความรักแบบนี้บ้างจัง” อึนฮยอกว่าอย่างเพ้อๆ ตามองตามทั้งคู่ไปจนลับตา
“เดี๋ยวฮยอกก็มีเองล่ะ เชื่อเค้าสิ ลางสังหรณ์เค้ามันบอกว่าเพื่อนเค้ากำลังจะเจอคู่แท้เร็วๆนี้” ดงเฮบอกพลางตักข้าวใส่จาน
“จริงหรอ เรื่องจริงใช่มั้ยด๊อง...ดีใจจังเลยยยยย” อึนฮยอกกระโดดโลดเต้นเป็นเด็กน้อย พลางหอมแก้มเพื่อนรัก
“อื้ม...ดีใจมากเลยใช่มั้ยละ ออร่าฮยอกมันบอกเลยนะ เค้าขอกินข้าวก่อน หิวมากๆเลย”
ดีใจจังเลยน้า ได้ฟังข่าวดีแบบนี้แต่เช้าทำให้หายเศร้าไปได้บ้าง ลางสังหรณ์ของดงเฮน่ะแม่นยิ่งกว่าคนทรงอีก ยิ่งเรื่องออร่านี่เรียกได้ว่าเป็นพลังพิเศษที่มีติดตัวมาแต่เกิดสำหรับดงเฮเลยก็ว่าได้ ออร่าที่เป็นตัวบอกอารมณ์ของ คนๆนั้น ดงเฮสามารถมองเห็นได้อย่างทะลุปรุโปร่งเลย
“เนื้อคู่ของฮยอก...จะเป็นใคร และเค้าอยู่ที่ไหนกันนะ ฮยอกชักอยากเจอเค้าแล้วสิ รีบๆมานะเนื้อคู่ ฮยอกอยากรู้จักคำว่ารักแล้ว....” คนร่างบางยิ้มหวาน ชวนฝัน พลางนั่งจินตนาการถึงชายในอุดมคติที่อยากได้มาเป็นเนื้อคู่ในขณะที่นั่งรออีกคนทานข้าว....และแล้วจุดเริ่มต้นของการตามหารักแท้ก็เริ่มต้นขึ้น
talk : เรื่องนี้ไรเตอร์แก้คำผิดแล้วก็รีไรท์ใหม่แล้วนะคะ ใครที่เคยอ่านแล้วจะอ่านซ้ำก็ได้นะ เพราะว่าแต่งค้างไว้นานแล้ว อาจจะลืมเนื้อหากันไปแล้วแน่เลย เอามาลงให้อ่านใหม่แล้ว ใครที่ยังไม่เคยอ่านก็อ่านกันนะคะ ไม่รู้จะสนุกมั้ย ยังไงก็ช่วยคอมเม้นติชมกันหน่อยเนอะจะได้รู้ว่าต้องปรับแก้ตรงไหน รักรีดเดอร์ทุกคนอ่านให้สนุกนะคะ
ความคิดเห็น