คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ทะเลบอกรัก
- บ้านพักตาอากาศของหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ -
"ท่านพ่อเพคะ เหตุใดท่านพ่อต้องทะเลาะกับพี่สาวคนนั้นด้วยหรือเพคะ"
"พ่อไม่ได้ทะเลาะกับเธอดอกค่ะ มาค่ะประเดี๋ยวพ่อจักทำแผลให้"
"เพคะ"
หญิงรัตน์ หรือคุณหญิงรัตน์ณา ถามหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เพราะเธอเงียบสังเกตการณ์มาตลอด แลสังเกตเห็นว่าน้ำเสียงและคำพูดที่ทั้งสองเอ่ยกันนั้นคล้ายคนทะเลาะกันมิมีผิด
"ท่านพ่อเพคะ หญิงอยากเจอพี่สาวคนสวยเพคะ หญิงอยากขอโทษเธอที่หญิงวิ่งชนเธอเข้า แต่เธอกลับไม่โกรธอะไรหญิงเลยแล้วยังเป็นห่วงหญิงอีกด้วยเพคะ"
หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ตกพระทัยเล็กน้อยกับคำบอกเล่าของคุณหญิงรัตน์ณา เพราะพระองค์ทรงมัวแต่เป็นห่วงลูกสาวจนมิได้ถามความจริงจากเหตุหารณ์ที่เกิดขึ้นเลย ซ้ำยังเผลอโกรธนารานิทไปเล็กน้อยอีกด้วยทั้ง ๆ ที่เธอเองก็เป็นห่วงลูกของพระองค์ไม่ต่างกัน ทำให้ท่านชายรู้สึกผิดและเผลอทำผิดต่อนารานิทอีกแล้ว ท่านชายมิรู้ว่าจักทรงแก้ตัวต่อหน้าสาวเจ้าอย่างไรนอกเสียจากเอ่ยคำขอโทษออกไปเช่นเคย แต่เธอก็คงมิอยากรับมันแล้ว
"ถ้าหากหญิงรัตน์อยากจักขอโทษเขาพ่อก็จักพาไป แต่เราต้องไปอาบน้ำแต่งตัวทำแผลก่อนนะ หกล้มมาหน้าตามอมแมมเชียว"
"ได้เลยเพคะหญิงจักไปอาบน้ำประเดี๋ยวนี้เลยเพคะ"
หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์สัมผัสแก้มเด็กน้อยตรงหน้าอย่างอ่อนโยน แล้วทอดเนตรตามหลังเธอไปหลังจากที่หญิงรัตน์รีบวิ่งออกไปจากห้องรับแขก
- ห้องบรรทม -
ระหว่างที่หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์กำลังเลือกฉลององค์อยู่นั้นก็พลันคิดถึงนารานิท ที่วันนี้เราได้พบกันโดยบังเอิญอีกแล้ว ท่านชายทรงดีทัยมากแค่ไหนที่ได้รู้ว่าสาวเจ้าก็มาเที่ยวทะเลครั้งนี้ด้วย เพราะท่านชายเองจักได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกับเธอสักที วันนี้ที่เจอกันพระองค์รีบร้อนมัวแต่เป็นห่วงหญิงรัตน์จนลืมตัวท่านชายเองต้องการที่จะพูดคุยกับนารานิท ทั้งเรื่องวันนี้อีกที่จักต้องขอโทษเธอให้ได้ถึงเธอจักไม่อยากรับก็ตาม
- บ้านพักตากอากาศของภูรินทน์ -
"หิวจัง วันนี้มีอะไรทานหรือคะ?"
"มาทะเล ป้าก็เตรียมแต่เมนูทะเลให้ทั้งนั้นค่ะคุณนี เชิญคุณนีเลือกรับประทานได้ตามสบายเลยค่ะ"
"ป้าศรีนี่เก่งนะคะ ทำได้หลายเมนูเลย น่าทานอีกด้วย ว่าแต่พี่นิทล่ะคะ ไปไหนเสียแล้ว"
ถึงนีฤนาถจักหิวอย่างไรก็ไม่ลืมถามถึงพี่สาวสุดที่รักของเธอดอก เมื่อตอนบ่ายออกมาจากห้องพร้อมกันแท้ ๆ เธอเผลอเล่นน้ำครู่เดียว พี่สาวของเธอก็หายไปเสียแล้ว
"คุณหนูนิทอยู่ที่ห้องครัวในบ้านค่ะ น่าจักกำลังเตรียมของออกมาให้ป้าอยู่"
"ขอบคุณนะคะป้าศรี"
นีฤนาถรู้ว่าพี่สาวของตนอยู่ที่ใดก็รีบวิ่งแจ้นไปหาทันที
“อ้าว ท่านชายเด็จมาถึงแล้วหรือเพคะ รอสักครู่นะเพคะ ป้าเตรียมอาหารใกล้เสร็็จแล้วเพคะ”
“ครับ เอ่อ..ป้าเห็นหนูนิทไหมครับ?”
“หนูนิท..อ้อหมายถึงคุณหนูนิทหรือคะ อยู่ที่ครัวนะคะ”
เมื่อท่านชายทรงทราบว่านารานิทอยู่ที่ไหนก็ตามไปหานารานิททันทีเพราะอยากจักปรับความเข้าใจกับสาวเจ้าให้ได้ แลร้อนพระทัยจนทนรอไม่ไหว
- ห้องครัว -
"จ๊ะเอ๋ พี่นิท!!"
"คุณพระ! ยัยนี พี่ตกใจหมดเลย"
"ก็แกล้งพี่นิทมันสนุกที่สุดนี่คะ ไปกันค่ะ"
"ไปที่ใด?"
"ไปอาบน้ำแต่งตัว รับประทานอาหารเย็นอย่างไรคะ"
นารานิทกำลังเตรียมของอยู่ในห้องครัว เพราะเธอไม่รู้จักทำอะไรนอกเสียจากทำอาหาร เธอหมกตัวอยู่แต่ในนี่ตั้งแต่เมื่อบ่ายมิได้ออกไปที่ใด จนนีฤนาถเข้ามาแกล้งเธอนั่นแหละ น้องสาวตัวแสบชอบแกล้งให้เธอตกใจอยู่ร่ำไป
"พี่ยังทำอาหารไม่เสร็จเลย เหลืออีกตั้งเยอะ ไม่อยากให้ป้าศรีทำคนเดียว"
"พี่นิท ป้าศรีทำคนเดียวเสียที่ไหนคะ ก็มีนวลคอยช่วยนี่อย่างไรคะ"
“คุณหนูนิทไปกับคุณนีเถอะค่ะ ทางนี้นวลจัดการเองได้ค่ะ คุณหนูนิทเนื้อตัวเหม็นอาหารไปหมดแล้วนะคะ”
นวลเอ่ยเสริมทัพนีฤนาถ เธอไม่ยอมให้พี่สาวทำอาหารต่อแล้ว เพราะเธอหิวจนใส้จะขาด แถมยังไม่มีเพื่อนอยู่คุยกับเธออีกด้วย เพราะคุณหญิงก็โดนพี่ชายตัวดีขโมยตัวไป แล้วพี่สาวสุดที่รักก็มาอยู่ในครัวเสียอีก แล้วจักให้เธอคุยเล่นกับใครละทีนี้ เหงาจักแย่
"แต่ว่า..."
"ไม่ต้องแต่แล้วค่ะ มากับนีประเดี๋ยวนี้"
นารานิทพูดไม่ทันจักจบ ก็โดนนีฤนาถดึงแขนให้ออกมาจากห้องครัวโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทำให้เธอเดินไปชนกับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ที่กำลังเสด็จมาทางนี้เข้าพอดี
"นีใจเย็นก่อนสิ ว้ายย!!"
พลั่กก!!
เนื่องจากแรงดึงที่ไม่ทันตั้งตัวของนีฤนาถทำให้เธอเซล้มมาข้างหน้าแต่มีร่างสูงใหญ่ของท่านชายมาบังไว้เป็นเหตุให้เธอชนเข้าอย่างเต็ม ๆ ทำให้นารานิทสวมกอดหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์อย่างไม่ได้ตั้งใจ ท่าชายเองก็ยกแขนประคองนารานิทไว้ข้างหนึ่ง ทำให้ทั้งสองสบตากันโดยบังเอิญ ไม่ว่าท่านชายจักพินิจทอดเนตรถี่ถ้วนเท่าใด ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้านั้น รู้สึกมองอย่างไรก็มิมีวันเบื่อเลย แถมทำให้พระทัยเต้นแรงเสียทุกครั้งที่อยู่ใกล้ นารานิทเองก็เพิ่งจักสังเกตพักตร์ท่านชายใกล้ ๆ เช่นนี้ครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาเธอคอยหลบเนตรท่านชายตลอด เธอเพิ่งจักรู้สึกได้ว่าท่านชายเองก็รูปงามไม่แพ้ชายใด ใบพักตร์คมสันมีเสน่ห์ แลแววเนตรที่ซ่อนความอ่อนโยนไว้ข้างในหากมองเพียงผิวเผินนั้นก็จักมองไม่เห็นความอ่อนโยนนี้เป็นแน่ ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวมิใช่น้อยกับความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ของท่านชาย
"ไม่เป็นอะไรนะครับ"
"ค่ะ.."
ขณะที่ท่านชายทรงถามนารานิทก็มองเธออย่างไม่วางเนตร จนนีฤนาถต้องขัดขึ้น
"อะแฮ่ม..ท่านชายพัทธ์ทรงปล่อยพี่นิทได้แล้วกระมังเพคะ"
"ผมขอโทษครับ"
เมื่อนีฤนาถเห็นว่าทั้งสองคนกอดกันนานแล้วก็เลยพูดให้ท่านชายปล่อยตัวพี่สาวของเธอสักที แต่ไม่ว่าจักกี่ครั้งก็มีแต่คำว่าขอโทษออกจากโอษฐ์ของหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ทุกครั้งร่ำไป แล้วอย่างนี้จักไปชนะใจพี่สาวของเธอได้อย่างไร เธอคิดไม่ออกเลยทีเดียวเทียว
นารานิทผละตัวออกจากท่านชายแลไม่เอ่ยอะไรอีกก็เป็นฝ่ายดึงแขนน้องสาวให้ไปกับตนแทนบ้าง ไม่สนใจหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์หรือคนอื่น ๆ อีกเลย
- โต๊ะอาหารเย็น หน้าบ้านพักตากอากาศ -
“อาหารพร้อมแล้ว ทุกคนมารับประทานกันเถอะครับ”
คุณภูรินทร์เจ้าของบ้านเชิญให้แขกทุกคนมารับประทานอาหารเย็นกันที่โต๊ะ โดยเป็นโต๊ะยาวทรงสี่เหลี่ยมรับคนได้ 10 คนพอดี โดยมีคุณภูรินทร์นั่งอยู่หัวโต๊ะ ข้างซ้ายคือไอริสซ่า ข้างขวาคือคุณชายนนทกูล โดยมีคุณชายตรีพิมาน ที่มาถึงเมื่อสักครู่ทันรับประทันอาหารเย็นพอดีนั่งอยู่ข้าง เกตระนี คุณหญิงรัตน์ณา ส่วนข้างไอริสซ่า คือ นีฤนาถ คุณหญิงฟ้าสอางค์ นารานิท แลหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ประทับหัวโต๊ะตรงข้ามกับคุณภูรินทร์
“พี่สาวคนสวย หญิงขอโทษนะคะ ที่เมื่อเย็นหญิงวิ่งซนไปเสียหน่อยทำให้วิ่งชนพี่สาวคนสวย”
คุณหญิงรัตน์ณาเอ่ยขอโทษพี่สาวฝั่งตรงข้ามพร้อมยกมือไหว้ขึ้นกลางวงโต๊ะอาหาร ใฝครเห็นกิริยาของคุณหญิงตัวน้อยก็เป็นต้องเอ็นดูในความน่ารักของเธอทั้งนั้น เป็นเหตุุผลที่ท่านชายทรงหวงลูกสาวตัวน้อยมาก
“ไม่เป็นไรดอกจ้ะ คราวหลังก็ระวังด้วยนะ เรียกพี่ว่า พี่นิทนะจ๊ะ”
“ค่ะ”
หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์สังเกตท่าทีของนารานิทที่มีต่อหญิงรัตน์ก็ทำให้ท่านชายดีพระทัยในทัยที่เธอดูอ่อนโยนกับลูกของท่านชาย รอยยิ้มเอ็นดูนั้นเผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ใครที่เห็นเข้าก็ดูออกอย่างทันทีว่าหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์มีทัยรักนารานิทเสียแล้ว แต่พระองค์จักรู้องค์เองหรือไม่ ใคร ๆ ก็ต่างอยากรู้ มีเพียงเกตระนีเท่านั้นที่ไม่พอใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าเอาเสียเลย เธอจักต้องทำอย่างไรเพื่อให้นารานิทหญิงสาวที่อยู่ในคำทำนายออกห่างจากท่านชายมากที่สุด มิให้ทั้งสองตกหลุมรักกัน แลจักต้องทำอย่างไรเพื่อให้ท่านชายหันมาสนใจเธอเพียงผู้เดียว
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จนารานิทแลคุณหญิงรัตน์ณาพากันไปเดินเล่นจับปูลมกันเสียอย่างนั้นโดยที่มิทันสังเกตว่ามีท่านชานเสด็จตามมาห่าง ๆ อยู่ข้างหลัง เกตระนีก็เช่นกันมากับท่านชาย
“พี่นิท ดูสิคะ..ว้ายย!! หญิงเกือบจับได้แล้วแท้ ๆ เชียว”
“ตัวเล็ก..เลอะหมดเลยค่ะ ทำไมไม่ระวังคะ”
นารานิทเธอหัวเราะใส่คุณหญิงรัตน์ณาตัวน้อยที่วิ่งจับปูลมจนเลอะทรายไปหมด
“พี่นิทจักให้หญิงระวังอย่างไรคะ ก็ปูมันวิ่งเร็วเสียขนาดนี้ หญิงวิ่งจับไม่ทันก็ล้มตลอดเลยค่ะ”
“ก็ระวังมิให้ตัวเองเลอะอย่างไรคะ.. ตัวเล็ก!!…นี่แหน่ะพี่จับได้แล้ว”
“โห~ พี่นิทเก่งจังเลยค่ะจับปูได้ด้วย หญิงจับตั้งนานมิเห็นจักได้สักตัว แต่พี่นิทจับครั้งเดียวได้เลย”
นารานิทไม่ตอบกลับอะไร ทำได้เพียงแค่ยิ้มน้อยรับคำชมนั้น ท่านชายเองก็มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดูและชื่นชมเหมือนกันก่อนที่เกตระนีจักขัดขึ้น
“ทำตัวเป็นเด็กไปได้ ไม่เห็นจักเก่งอะไรเลย จริงหรือไม่เพคะท่านชาย”
“เกตทำได้อย่างพี่นิทหรือไม่ละ หากไม่ก็อย่าพูดให้มากความเลย”
คุณหญิงรัตน์ณาตอบโต้เกตระนีแทนนารานิท แต่มีหรือที่เกตระนีจักยอมเด็กเล็กอย่างคุณหญิง
“ได้ค่ะ ประเดี๋ยวจักจับให้ดูค่ะ ว้าย!…เกือบได้แล้วเชียว นี่ไง ๆ ว้าย!!"
เกตระนีไม่รอช้ารับคำท้าคุณหญิงตัวน้อย พร้อมกับวิ่งไล่จับปูลมให้วุ่นทีเดียว ทั้ง 3 คน ยืนมองเกตระนีอยู่ห่าง ๆ พร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย โดยเฉพาะคุณหญิงรัตน์ณาที่หัวเราะดังกว่าใครคนอื่น ส่วนท่านชายแลนารานิททำได้เพียงยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น
“ไปกันเถอะค่ะ ไม่ต้องไปสนใจเกตเขา”
คุณหญิงตัวน้อยจับแขนนารานิทให้ไปที่อื่น ทิ้งเกตระนีไว้ ส่วนท่านชายก็เสด็จตามข้างหลังอย่างห่าง ๆ
“ประเดี๋ยวค่ะ จักพาพี่ไปที่ใดคะ?”
“หญิงจักพาพี่นิทไปชมทะเลเรืองแสงค่ะ น่าตื่นเต้นจักตาย รีบไปกันเถอะค่ะ”
นารานิทถูกดึงไปตามแรงดึงของคุณหญิงตัวน้อย เพราะเธอจ้ำเท้าเทียบไม่ทัน คุณหญิงรัตน์ณาเธอตัวนิดเดียวแต่แรงเยอะทีเดียว ทำให้นารานิทเซเกือบล้ม แต่หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ก็ทรงรับนารานิทไว้ทัน ทำให้หน้าของทั้งสองใกล้กันจนสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย เสียงหัวใจของทั้งสองเต้นระรัว ทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในภวังค์ ไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าใดถึงจักดึงสติกลับมาได้
“ไม่เป็นไรนะครับ”
“เพคะ ขอบพระทัยเพคะ”
เธอเป็นฝ่ายผละออกจากท่านชายเช่นเคย นารานิทเธอกลับมายืนตรงปกติแล้วจับมือคุณหญิงตัวน้อยเดินเรียบไปตามชายหาดเช่นเมื่อสักครู่ โดยมีท่านชายเสด็จตามหลัง นารานิทไม่รู้เลยว่าวันนี้ตนเป็นอะไร ทำไมยิ่งออกห่างจากท่านชายเท่าใดก็เหมือนกับยิ่งใกล้ท่านชายมากขึ้นนะ ไหนจักเสียงหัวใจที่เต้นแรงจนห้ามไม่อยู่เมื่อครู่นี้อีก ส่วนท่านชายเองยิ่งอยู่ใกล้หญิงสาวตรงหน้ามากเท่าไหร่ตัวท่านชายก็ยิ่งหวั่นไหวแลหลงรักเธอมากเท่านั้น เพียงเวลาไม่นานที่เรารู้จักกันแต่ทำไมผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลต่อหัวใจหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์มากถึงเพียงนี้ มิอาจรู้ได้เลย
“ถึงแล้วค่ะ ทะเลเรืองแสง”
“สวยจังเลยค่ะ ตัวเล็ก”
“ใช่เลยค่ะ สวยมาก ๆ เลย ความฝันของหญิงเลยนะที่มาชมทะเลเรืองแสงกับท่านแม่แลท่านพ่ออย่างนี้"
คำพูดของเด็กตัวน้อยทำให้นารานิทอึ้งไปเล็กน้อยว่าเธอไม่ใช่แม่ของคุณหญิงรัตน์ณา แล้วมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แลท่านชายเองทรงฉุดคิดได้ว่าตัวพระองค์เองก็คงเป็นพ่อที่ดีให้ลูกสาวตัวน้อยไม่ได้เลยใช่หรือไม่ ที่ทำให้หญิงรัตน์อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม
นีฤนาถเธอแปลกใจมากที่อยู่ ๆ ก็ต้องมาเดินเล่นชายหาดกับอีตาคุณชายตรีพิมานนี่ เธออยากเดินเล่นกับพี่ชายหรือพี่สาวแท้ ๆ แต่ทั้งคู่ก็โดนแย่งไปจนได้ ไม่ว่าจะพี่ชายตัวแสบที่โดนคุณหญิงฟ้าสอางค์ขอตัวไป หรือจักคุณหญิงรัตน์ณาตัวน้อยกับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์พาตัวพี่สาวสุดสวยไปจับปูลมอีก ให้เธอไปเดินเล่นกับคุณภูรินทร์รึ? เห็นท่าว่าจักเป็นก้างขวางคอคู่สามีภริยาเขาน่ะสิที่เขาจักสวีทกัน โชคชะตาเล่นตลกอะไรกับเธอไม่รู้ทำให้เธอไม่มีทางเลือกเลยสักนิด ต้องมาเดินเล่นกับคุณชายตรีพิมานเนี่ย นีฤนาถบ่นในใจ
“คิดอะไรอยู่หรือหน้ามุ่ยเชียว”
“ว้าย! ตกใจหมดเลย อย่ามาใกล้ฉันได้ไหม”
เธอตกใจที่คุณชายตรีพิมานเข้ามาใกล้เธอมากอย่างนั้นทำให้เธอผลักคุณชายออกไปเบา ๆ
“ผู้ใดจักไปอยากอยู่ใกล้คุณกัน ก็ผมเรียกคุณเท่าไหร่ก็มิได้ยิน มีอย่างหรือหาว่าเขาอยากอยู่ใกล้ตัว”
“แล้วตกลงคุณชายมีอะไรจักคุยกับฉันมิทราบคะ?”
“ผมอยากให้คุยช่วยเรื่องพี่สาวคุณหน่อยนะ ผมอยากรู้จักเธอมากกว่านี้แต่มิรู้จักทำอย่างไร เพราะท่านชายก็คอยอยู่ตรงนั้นอยู่ตลอดเลย”
“ฉันไม่ช่วยคุณหรอก หากคุณไม่รู้วิธีเข้าหาพี่นิท ฉันก็ไม่รู้กับคุณด้วยแล้ว”
“ช่วยผมเถอะนะ ผมขอร้อง”
“ไม่ เรื่องแบบนี้ฉันไม่ยุ่งด้วยดอกนะ วุ่ยวายจักตาย”
นีฤนาถเธอรำคาญเต็มทนที่คุณชายขอร้องให้เธอช่วยเรื่องพี่สาว เธอไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ของพี่เธอเลยสักนิด รายนั้นน่ะเอาใจยากจักตาย มิรู้ว่าชอบพอชายแบบใด จักเชียร์ใครให้พี่สาวรักหรือยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะเจ้าตัวไม่คิดจักรักผู้ใด ใครก็บังคับไม่ได้ เธอรู้นิสัยพี่สาวเธอดีถึงได้แต่ปฏิเสธคุณชายไป
“นะคุณ ผมขอร้องล่ะ ช่วยผมหน่อยเถอะนะ”
“นี่คุณหลงรักพี่นิทขนาดนี้เทียวหรือ?”
“…ใช่”
“ฉันไม่เชื่อ คุณชายน่ะรักแค่เปลือกนอกของพี่นิทเท่่านั้น คุณชายไม่รักพี่นิทจริงดอก หลงรักกับตกหลุมรักมันต่างกันนะคุณชาย อย่างท่านชายเขาเรียกตกหลุมรักใครดูก็รู้ แต่อย่างคุณชายน่ะเขาเรียกหลงรัก ไม่ใช่หลงรักธรรมดานะ หลังรักแค่รูปลักษณ์เลยแหละ ลองพี่นิทไม่สวยสิ คุณชายมิมีทางแลพี่นิทเป็นแน่ จริงหรือไม่ล่ะ”
นีฤนาถสาธยายจบก็เดินหนีคุณชายตรีพิมานไป แต่โดนคุณชายจับข้อมือไว้
“ผมไม่ได้แค่หลงรักคุณนิทพี่สาวคุณดอก แต่ผมรักเธอต่างหาก”
“หากคุณชายรักเธอจริง คุณชายไม่มายืนคุยกับฉันตรงนี้ดอกค่ะ คุณคงไปอยู่กับพี่นิท ท่านชาย แลหญิงรัตน์แล้ว ไม่มาเสียเวลาขอร้องให้ฉันช่วยคุณอย่างนี้ดอกค่ะ กลับไปคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเองให้ดีเถอะค่ะ ฉันขอตัวล่ะ”
คุุณชายตรีพิมานอึ้งกับคำพูดของหญิงสาวตรงหน้าที่เอ่ยแทงใจดำคุณชายเหลือเกิน จนทำให้สาวเจ้าเดินหนีไป แต่คุณชายก็คว้าเธอไว้อีกครั้ง
“ประเดี๋ยวก่อน”
ฟึ่บบ!!
“ว้าย..คุณชาย!!"
ความที่นีฤนาถไม่ทันได้ตั้งตัวแลถูกคุณชายตรีพิมานคว้ามือไว้ ทำให้นีฤนาถเซถลาเข้าใส่คุณชายตรีพิมานอย่างไม่ทั้งตั้งตัวแลเป็นเหตุให้คุณชายตรีพิมานพลาดพลั้งจูบหน้าผากนีฤนาถเต็ม ๆ ทำให้นีฤนาถเองผลักคุณชายออกอย่างแรงพร้อมกับวิ่งหนีไป
“อย่าตามฉันมาอีกนะ”
คุณชายตรีพิมาณไม่กล้ารั้งนีฤนาถไว้แอีกครั้งเลยปล่อยเธอไป แต่ก็ยังยังไม่ทันได้กล่าวคำขอโทษสักคำ แต่สาวเจ้าโกรธหน้าแดงขนาดนั้นเอ่ยไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น คุณชายคิดดังนั้นก็แต่แต่มองตามหลังของนีฤนาถไปจนลับสายตา แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกแปลก ๆ พิกลกันนะ ส่วนนีฤนาถเองเมื่อวิ่งหนีจากคุณชายตรีพิมานได้แล้วก็มือกุมหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อสักครู่ กับความสงสัยว่าทำไมเธอต้องเขินอายด้วยนะ
“ทำไมต้องหวั่นไหวกับคุณชายบ้าด้วยนะ”
นีฤนาถสบถกับตัวเองเบาๆ
ทางด้านฝั่งคุณชายนนทกูลแลคุณหญิงฟ้าสอางค์ที่กำลังเดินเล่นอยู่ด้วยกันนั้นก็ทำให้ความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายเติบโตขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว
“คืนนี้ท้องฟ้าสวยนะคะ ดาวเต็มฟ้าเลยค่ะ”
“ใช่ครับ สวยจริง ๆ”
“หญิงเคยฝันไว้นะคะว่าอยากมาดูดาวริมทะเลกับคนที่รักแบบนี้ คงโรแมนติดน่าดู พี่นนท์ว่าไหมคะ?”
“ครับ พี่ไม่เคยรู้เลยนะว่าน้องหญิงก็มีมุมแบบนี้กับเขาด้วย”
“ทำไมคะ พี่นนท์คิดว่าหญิงเป็นอย่่างไรคะ”
“ก็คงจะไม่ใส่ใจเรื่องความรักอะไรอย่างนี้เป็นผู้หญิงที่เก่งแลดูแลตัวเองได้”
“พี่นนท์ไม่รู้อะไร หญิงน่ะแทบจักบูชาความรักเลยค่ะ ตอนอยู่ที่อเมริกาหญิงเคยตามจีบคน ๆ หนึ่งด้วยนะคะ แต่เหมือนเขาจักไม่รู้ตัว ไม่รับรักหญิงตอบสักที”
คุณหญิงฟ้าสอางค์พูดจบก็หัวเราะเยาะตัวเองเบา ๆ ให้กับความทุ่มเทในอดีตที่เคยทำไว้ แลคุณชายนนทกูลไม่ได้เอ่ยอะไรอีก จักให้เขาว่าอย่างไรได้ คนที่สาวเจ้าหมายถึงก็คงเป็นตัวเขาเองนั่นแหละ ไม่ใช่มิรู้ตัว แต่เขาจงใจที่จักไม่สนใจต่างหาก เพราะตัวคุณชายเองไม่คิดจักมีความรักกับใครเขาดอก หรือไม่ก็เพราะเขาอยากจักเป็นฝ่ายเริ่มก่อนต่างหากไม่จำเป็นต้องให้ผู้หญิงมาตามจีบเขาอย่างนี้ดอก ความรู้สึกของคุณหญิงที่อเมริกาเขารับรู้ทั้งหมดแลก็เก็บมันไว้ในใจตลอด ๆมิได้ให้ผู้ใดล่วงรู้เลย เมื่อวันนี้สบโอกาสให้เราได้ใกล้ชิดกันก็ขอให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเสียบ้าง
“พี่นนท์ มีคนที่ชื่นชอบหรือไม่คะ บอกหญิงได้นะคะ หญิงจักช่วยพูดกับหม่อมแม่แลหม่อมป้าให้ค่ะ”
“พี่ไม่มีดอกค่ะ พี่ไม่เคยคิดจักรักใครเสียด้วยซ้ำไป”
“ทำไมล่ะคะ?”
“อาจจักเพราะพี่กลัวจักเสียใจทีหลังก็ได้”
“โธ่ พี่นนท์ ไม่ลองก็ไม่รู้นะคะ”
คุณชายนนทกูลตอบคุณหญิงฟ้าสอางค์ไปเสียอย่างนั้น เพราะเขายังไม่พร้อมจักเปิดเผยใจให้ผู้ใดได้ล่วงรู้หรอก
“พี่ไม่อยากลองดอกครับ แต่พี่ก็มีแอบคิดนะว่าถ้าหากได้รักใครสักคนก็อยากจักให้คนนั้นคือคนสุดท้ายของพี่ตลอดไป”
“ถ้าหากอย่างนั้นพี่นนท์ลองให้โอกาสหญิงไหมคะ หญิงจักทำให้พี่นนท์รักหญิงให้ได้ด้วยตัวพี่นนท์เอง แลก็จักเป็นคนสุดท้ายของพี่นนท์ด้วยค่ะ”
“เอ่อ…”
“ยังไม่ต้องตอบหญิงตอนนี้ก็ได้ค่ะ หญิงจักให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เองค่ะ”
คุณหญิงฟ้าสอางค์เอ่ยขึ้นก่อนที่คุณชายนนทกูลจักเอ่ยอะไรเสียก่อน เธอไม่อยากฟังคำปฏิเสธอีกแล้ว แต่ก็ไม่อยากยอมแพ้เสียดื้อ ๆ ทั้งสองเดินเล่นมาสักพักก็กลับมาถึงหน้าบ้านพักตากอากาศ
“ดึกมากแล้ว หญิงขอตัวก่อนนะคะ ฝันดีนะคะพี่นนท์”
คุณหญิงฟ้าสอางค์หอมแก้มคุณชายนนทกูลโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแลก็รีบวิ่งเข้าบ้านพักตากอากาศไป เพราะความเขินอาย ทิ้งให้คุณชายยืนอึ้งตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเมื่อครู่ พร้อมกับเผลอยิ้มออกมา ผู้หญิงคนนี้มีอะไรให้เขาแปลกใจอยู่เสมอไม่ว่าจักทีอเมริกาหรือที่ไทยก็ตาม จะกี่ครั้งเธอก็ไม่เคยให้โอกาสเขาได้เริ่มก่อนเสียเลยผู้หญิงคนนี้แปลกไม่เหมือนใครจริง ๆ
ทางฝั่งนารานิทแลหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เองก็กลับมาถึงบ้านพักตากอากาศแล้วเช่นกัน
“ถึงที่พักแล้ว หม่อมฉันขอตัวก่อนนะเพคะ”
“ประเดี๋ยวก่อนหนูนิท”
“เพคะ?”
“คือ…ผมมีเรื่องอยากจักคุยกับคุณน่ะ”
“เรื่องอะไรหรือเพคะ”
ท่านชายไม่รับสั่งตอบพลางจับมือเธอให้ออกห่างมากจากคุณหญิงรัตน์ณา
“คือว่า..ผมชอบคุณนะ หนูนิท”
“อะไรกันเพคะ ทรงล้อหม่อมฉันเล่นหรือเพคะ”
“ผมไม่ได้ล้อคุณเล่นนะ ผมชอบคุณจริง ๆ”
“หม่อมฉันไม่เชื่อเพคะ ท่านชายทรงมีลูกมีภริยาอยู่แล้ว แลจักมาชอบหม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ ถ้าหากไม่มีเรื่องอื่นจักรับสั่งแล้วหม่อมฉันขอตัวก่อนนะเพคะ เชิญท่านชายเด็จกลับเถอะเพคะ”
นารานิทไม่เปิดโอกาสให้ท่านชายได้รับสั่งอะไรอีกเธอก็เดินออกมาจากตรงนั้นด้วยความโกรธ ท่านชายเองก็รั้งสาวเจ้าไว้มิทัน เรียกได้ว่ามิกล้ารั้งไว้เสียดีกว่า เธอแสดงออกว่าโกรธเสียขนาดนั้น ใครจักกล้าเอ่ยอะไรอีกเล่า เห็นทีท่าว่าการขอคืนดีกับเธอจักเป็นเรื่องที่อยากเอาการเลยทีเดียวเทียว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้พระองค์กล้าสารภาพกับเธอไปอย่างนั้ัน คงเพราะบรรยากาศพาไปกระมัง แต่มันก็มาจากพระทัยของท่านชายจริง ๆ เหตุใดนารานิทถึงมองไม่เห็นมันเลยล่ะ
นารานิทเมื่อกลับมาถึงห้องเธอทั้งดีใจทั้งตกใจแลเสียใจ หลากหลายความรู้สึกปนกันจนเธอทำตัวไม่ถูกแต่ด้วยความจริงที่เป็นอยู่ทำให้เธอต้องปฏิเสธหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ไป จักให้เธอรักท่านชายได้อย่างไรก็ในเมื่อหญิงที่รักท่านชายยืนอยู่ตรงหน้าแลข้างท่านชายมาตลอดอยู่แล้วมิใช่หรือ คุณหญิงรัตน์ณาอีกเล่าก็เป็นหลักฐานพยานรักอย่างดีเลย เธอมิบังอาจทำตามหัวใจได้ดอกเมื่อมันจักพาเธอไปในทางที่ไม่ถูกต้อง
ความคิดเห็น