คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ทำความรู้จักกันให้มากขึ้น
- ร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -
เวลา 5 โมงเช้า เกือบจักเที่ยงวัน
กริ๊งง~
“ยินดีต้อนรับ…ค่ะ ท่านชายพัทธ์มาได้อย่างไรคะ? แล้วคุณชายตรีมาทำไมคะ?”
“สองมาตราฐานชัดเจนเลยนะครับ คุณนิทอยู่หรือไม่ครับ?”
นีฤนาถตกใจเล็กน้อยที่ทั้งหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์กับคุณชายตรีพิมานมาที่ร้านพร้อมกันแบบนี้ แถมคุณชายตรีพิมานก็ถามถึงพี่สาวอีก ไม่ต้องพูดถึงหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เลย ท่านไม่รับสั่งอะไรแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจักไม่ได้มาหานพี่สาวเหมือนกับคุณชายตรีพิมานเสียหน่อย ช่วงนี้พี่สาวของเธอออกจักเนื้อหอม ก็เดาได้มิยากว่าหนุ่ม ๆ อยากจักมาหาใคร
“เชิญท่านชายนั่งรอตรงนี้ก่อนนะเพคะ ประเดี๋ยวฉันจักไปตามพี่นิทมาให้เพคะ”
“ขอบคุณครับ”
นีฤนาถต้อนรับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์อย่างดี แต่ไม่ได้สนใจคุณชายตรีพิมานแต่อย่างใด
“อ้าว แล้วผมล่ะคุณจักไม่ต้อนรับผมหน่อยหรือ?”
“เชิญนั่งค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
นีฤนาถพูดด้วยน้ำเสียงที่มิเต็มใจต้อนรับแต่อย่างใด แต่คุณชายตรีพิมานก็รับน้ำใจนั่นไว้ด้วยใบหน้ายิ้มทะเล้นดั่งผู้ชนะ
- หลังร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -
“พี่นิท ทำอะไรอยู่คะเนี่ย”
“พี่ก็มาหาแบบตัดเสื้อน่ะสิ ลูกค้าอยากได้แบบเดิมแต่พี่จำไม่ได้ว่าเก็บไว้ไหน แล้วนีมีอะไรหรือ”
“ก็..ก็..”
“ก็อะไรล่ะจ๊ะ”
“ก็คุณชายตรีกับท่านชายพัทธ์มานะค่ะ ถามหาพี่นิทด้วยพี่นิทรีบออกไปเถอะค่ะ นีกลัวว่าจักรับมือไม่ไหว”
“อะไรกัน ทำไมถึงมาพร้อมกันได้นะ”
นารานิทไม่ได้สนใจที่นีฤนาถพูดเลย ซ้ำยังหาแบบตัดเสื้อต่อแลก็ให้น้องสาวช่วยตนหาด้วยซ้ำ ก็เธอไม่อยากจักออกไปต้อนรับทั้งท่านชายแลคุณชายทั้งสองเลย
- หน้าร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -
“ฝ่าบาทมาหาคุณนิทเช่นกันหรือกระหม่อม”
“ผมมาตัดเสื้อครับ ว่าแต่คุณชายล่ะมาหานิททำไมหรือครับ”
“กระหม่อมก็มาตัดเสื้อกระหม่อม แต่อยากตัดกับคุณนิทมากกว่ากระหม่อม"
ระหว่างที่รอนารานิทกับนีฤนาถ คุณชายตรีพิมานกับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ก็พูดคุยกัน
“ผมว่าความจริงใครจักตัดเสื้อก็เหมือนกันนั่นแหละครับ มิเห็นจักต้องเจาะจงเลย”
“นั่นสิกระหม่อม กระหม่อมก็เห็นด้วยกับฝ่าบาทนะกระหม่อม แต่..”
“คุณชายตรีกับท่านชาย ฉันขอโทษที่ให้รอนะคะ”
“อ้าว คุณนีมาพอดีเลยคุณนิทละครับ”
“เอ่อ..พี่นิทเขา”
นีฤนาถไม่รู้จักอธิบายอย่างไรดี ที่พี่สาวไม่ยอมออกมาต้อนรับเสียทีแต่สุดท้ายพี่สาวตัวดีก็เปลี่ยนใจ ทำให้เธอไม่ต้องลำบากใจอีกแล้ว
“ทั้งสองคนมาหานิทมีอะไรหรือคะ?”
“ผมจักชวนไปรับประทานอาหารกลางวันครับ”
ทั้งหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์แลคุณชายตรีพิมานพูดขึ้นพร้อมกัน แลก็หันมามองหน้าอีกฝ่าย
“ไหนฝ่าบาทรับสั่งจักมาตัดฉลององค์อย่างไรกระหม่อม เหตุใดถึงชวนคุณนิทไปรับประทานอาหารกลางวันได้”
“แล้วคุณชายล่ะ บอกจักมาตัดเสื้อเหมือนกันมิใช่หรือครับ”
หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์กับคุณชายตรีพิมานมีเป้าหมายเดียวกันคือชวนนารานิทไปรับประทานอาหารกันตน ทำให้เกิดศึกชิงนางขนาดย่อม
“มิต้องเถียงกันดอกค่ะ นิทจักไม่ไปรับประทานอาหารกับใครทั้งนั้นนอกจากยัยนีค่ะ ถ้าท่านชายแลคุณชายมิมีธุระอะไรแล้วนิทขอตัวทำงานก่อนนะคะ"
“นี่จักบ่ายโมงแล้วนะครับ หนูนิทไม่รับประทานอาหารกลางวันหน่อยหรือครับ”
หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เอ่ยขึ้นทันควันก่อนที่นารานิทจักเดินเข้าหลังร้านไป นารานิทก็หยุดมองนาฬิกาเป็นเวลาบ่ายโมงตามที่ท่ายชายทรงรับสั่ง
"ยัยนีไปกันเถอะ”
“พี่นิทใจเย็นก่อนค่ะ แล้วท่านชายกับคุณชายล่ะคะ”
นารานิทไม่สนใจใครทั้งนั้นก็พานีฤนาถไปกับตนทันทีที่พูดจบ เพื่อหนีผู้ชายทั้งสองที่มาตามตอแยเธอ
- ร้านก๋วยเตี๋ยวเฮียยง -
“เฮียคะ ขอเหมือนเดิมค่ะ”
“อ้าว หนูนิทยัยนี พวกลื้อมาได้ไง นั่งก่อน ๆ ประเดี๋ยวอั้วจักทำให้สุดฝีมือเลย”
“ขอบคุณค่ะเฮีย”
นารานิทพานีฤนาถมาร้านก๋วยเตี๋ยวประจำในซอยใกล้ร้านตัดเสื้อ
“พี่นิทเห็นเมื่อสักครู่หรือไม่คะ ศึกชิงพี่นิทขนาดย่อม”
นีฤนาถพูดหยอกล้อพี่สาวพร้อมกับหัวเราะชอบใจออกมา
“พอเลยยัยนี พี่จักไม่พูดเรื่องอีกนี้นะ เพิ่งจักหนีออกมาได้”
“ได้แล้ว ๆ ทำสุดฝีมืออั๊วเลย”
เฮียยงนำอาหารมาเสิร์ฟขัดจังหวะพอดี
“ไม่สนแล้ว กินดีกว่า กำลังหิวพอดี”
นีฤนาถไม่สนใจอะไรแล้วเธอก็คีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากไป แต่ดูไม่เรียบร้อยเสียเลยจนดดยนารานิทเอ็ดจนได้
“นี กินดี ๆ สิ กินให้มันเรียบร้อยเหมือนคนอื่นเขาหน่อย”
“ก็นีหิว พี่นิทนั่นแหละรีบกินเลยทิ้งร้านไว้อะ”
“เรานี่จริง ๆ เลย”
นารานิทเอ็ดน้องสาวเสร็จก็กินก๋วยเตี๋ยวต่ออย่างเอร็ดอร่อย
- ร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -
พอนารานิกกับนีฤนาถกลับเข้าร้านมาก็ยังคงเจอหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์กับคุณชายตรีพิมานที่ยังคงรออยู๋ที่ร้านตั้งแต่สองสาวออกจากร้านไปก็เกือบ 3 ชั่วยามแล้ว
“ยังอยู่กันอีกหรือคะ? ฉันคิดว่ากลับกันไปเสียหมดแล้ว”
“พอดีว่าผมรอคุณนิทกลับมาน่ะครับ”
นีฤนาถเอ่อยถามออกมาตรง ๆ ขณะที่นารานิทเดินเข้าหลังร้านไปโดยที่มิได้สนใจผู้ใดอีก คุณชายตรีพิมานก็ตอบนีฤนาถตรง ๆ ตามที่เธอถาม
“ฉันก็เพิ่งจักรู้คุณชายตรีพิมานก็หน้าหนาเหมือนกันนะคะเนี่ย ดูก็รู้พี่นิทมิได้เต็มใจต้อนรับสักนิด”
“ถึงผมจักหน้าหนาหรือไม่หนาก็มิเกี่ยวกับคุณนะครับ”
“ก็นั่นพี่สาวฉัน ฉันก็ต้องช่วยพี่คัดกรองคนเข้าร้านนิคะ”
นีฤนาถตอกกลับคุณชายตรีพิมานจนคุณชายไปไม่เป็นเลยทีเดียว ทำให้นีฤนาถรู้สึกสะใจนิด ๆ ยกนี้เธอชนะ
“พวกคุณทั้งสองคนกลับไปเถอะค่ะ วันนี้นิทขอไม่รับแขกนะคะ”
นารานิทเดินออกมาจากหลังร้าน เพื่อจักไล่หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์กับคุณชายตรีพิมานให้กลับไปขืนอยู่ต่อมีหวังคุณชายได้ตีกับน้องสาวเธอร้านแตกแน่ต้องรีบห้ามทัพเสียก่อน ทิ้งให้ทุกคนแปลกใจกับกิริยาของสาวเจ้า หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เห็นท่าไม่ดีเพราะนารานิทไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ท่านชายก็คงทำได้แค่กลับไปก่อนอย่างเธอว่า แต่มิได้หมายความว่ายอมแพ้ดอกนะ แค่ถอยทัพเท่านั้นเอง
“ผมขอตัวลาก่อนนะครับคุณนี ประเดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมจักมาใหม่นะครับ”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ”
หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เดินออกจากร้านไปแล้ว เหลือแค่นีฤนาถกับคุณชายตรีพิมานอยู่หน้าร้านกันสองคน
“แล้วไม่ไปกับเขาหรือคะ?”
“คุณไล่ผมหรอ?”
“ค่ะ เชิญค่ะ บ๊ายบาย”
นีฤนาถไม่รอช้าได้ทีเอาใหญ่รีบไล่คุณชายตรีพิมานออกจากร้าน
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
“ไม่รับฝากค่ะ รีบกลับไปเถอะค่ะ รออยู่อย่างนี้เขาเรียกหน้าด้านค่ะ”
นีฤนาถเปิดประตูออกมาตอบแลก็ปิดล็อคประตูไม่ให้คุณชายตรีพิมานเข้ามาได้
- วันถัดมา วังหินขาว -
ปริ๊ม..ปริ๊ม..
“ใครมากันนะ นายมาโนชออกไปดูเสียหน่อยสิว่าใครมา”
“ขอรับหม่อม”
หม่อมจันทร์ฉายไม่รู้ว่าใครมาที่วังเลยใช้ให้บ่าวรับใช้ไปดูว่าผู้ใดมา
“หม่อมน้าสวัสดีครับ”
“อ้าว คุณชายนนท์มาได้อย่างไรคะ ยัยฟ้าอยู่ข้างบนค่ะกำลังแต่งตัวอยู่”
“คือหม่อมแม่ให้ผมเอาผลไม้กับขนมหวานมาเยี่ยมหม่อมน้าครับ แลให้ชวนน้องหญิงไปรับประทานอาหารกลางวันกับไปเที่ยวเล่นน่ะครับ”
“ตายจริงคุณชาย น้าฝากขอบคุณหม่อมมณีด้วยนะคะ แลประเดี๋ยวน้าจักให้บ่าวรีบไปตามยัยฟ้ามาให้นะคะ”
“ครับ”
คุณชายนนทกูลมาเยี่ยมที่วังหินขาวเพราะคำสั่งของหม่อมแม่ให้มารู้จักสนิทสนมกับคุณหญิงฟ้าสอางค์เอาไว้เพราะในอนาคตจักต้องดองกันแน่นอน มีหรือลูกชายสุดที่รักอย่างคุณชายจักล้าขัดใจได้
“คุณหญิงมาแล้วเจ้าค่ะ”
“สวัสดีค่ะพี่ชาย”
“สวัสดีครับ เรียกพี่นนท์เฉย ๆ ก็ได้ครับ”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพี่นนท์ แล้วพี่นนท์มาหาหญิงมีธุระอะไรหรือคะ”
“หม่อมแม่ให้พี่ชวนน้องหญิงไปรับประทานอาหารกลางวันแลไปเที่ยวเล่นน่ะครับ น้องหญิงมีที่ที่อยากจักไปไหมครับพี่จักได้พาไป”
คุณชายนนทกูลเอาแต่ย้ำว่า'หม่อมแม่สั่งมา' ดูก็รู้ว่ามิได้เต็มใจสักเท่าไร แต่จักทำอย่างไรได้ คนอย่างคุณหญิงฟ้าสอางค์ไม่เคยมีใครเข้าหาเพราะมิเต็มใจหรือโดนแม่สั่งมาดอก คอยดูนะเธอจักทำให้คุณชายคนนี้มาหาเธอด้วยความเต็มใจเอง ที่ผ่านมาคุณชายเธอดูรังเกียจเธอไม่น้อยมาครานี้กับไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไร หรือจักจำเธอมิได้จริง ๆ เธอได้แต่คิดเช่นนั้น แต่คิดไปก็เปล่าประโยชน์ ตอนนี้เธอถือว่าเป็นโอกาสที่จักได้ใกล้ชิดพี่นนท์ของเธออีกครั้งแล้ว
“หญิงอยากตัดชุดใหม่ค่ะ แลก็อยากจักซื้อผ้าไปตัดชุดด้วยค่ะ”
“ได้เลยครับ ประเดี๋ยวพี่จักพาน้องหญิงไปรับประทานอาหารกลางวันก่อนแลจักพาไปซื้อผ้าตัดชุดใหม่นะครับ”
“ค่ะ”
“ผมขออนุญาตพาน้องหญิงไปนะครับ”
“เชิญตามสบายเลยค่ะคุณชาย ขอพากลับมาก่อนค่ำเป็นพอค่ะ”
“ได้ครับ”
คุณชายนนทกูลพูดกับคุณหญิงฟ้าสองค์จบก็หันมาขออนุญาตหม่อมจันทร์ฉายที่จักพาน้องหญิงออกไปข้างนอก ดูเหมือนไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสักเท่าไร ติดก็แต่คุณหญิงฟ้าสอางค์เนี่ยแหละที่เธอดูเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับการถูกผู้ใหญ่คลุมถุงชนให้หมั้นหมายกันเลยหรือว่าเธอจักเต็มใจนะ คุณชายนนทกูลคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกกับความคิดของคุณหญิงฟ้าสอางค์คู่หมายของเขาว่ามีความเห็นอย่างไรกับการหมั้นหมายครั้งนี้
- ร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -
“ผมมาหาหนูนิทครับ หนูนิทอยู่ไหมครับ?”
“เอ่อ..พี่นิทอยู่หลังร้านเพคะ ท่านชายพัทธ์”
“ขอบคุณครับ”
หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ได้คำตอบจากนีฤนาถเสร็จก็ไม่รอช้า รีบเข้าไปหานารานิทที่หลังร้าน จนนีฤนาถห้ามปรามไม่ทัน จักไม่ให้ท่านชายทรงรีบร้อนได้อย่างไร เมื่อกลับไปคิดทบทวนให้ดีแล้ว ถึงได้รู้ว่าสาวเจ้าอาจจักโกรธเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงก็เป็นได้ ถึงได้เหมือนพยายามหลบหน้าพระองค์อย่างนี้ เมื่อคิดได้ดังนี้ก็เหมือนจักทนไม่ไหวที่จักต้องถูกเธอหลบหน้าอยู่อย่างนี้
“หนูนิท..”
“ท่านชาย..เสด็จมาได้อย่างไรเพคะ?”
“ผมมีเรื่องจักคุยกับคุณ”
“แต่นิทไม่มีเรื่องอะไรจักพูดคุยกับท่านชายเพคะ”
หญิงสาวเห็นท่าทีร้อนรนของหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ก็ทำให้เธอรู้ว่าต้องเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจักเอ่ยถึงมันอีก แลเอ่ยตอนนี้ก็มิมีอะไรดีขึ้นมาก็ในเมื่อท่านชายไม่ได้พระทัยเย็นลงเลยสักนิด
“ผมขอล่ะ เราคุยกันดี ๆ ได้ไหม?”
“ไม่เพคะ ท่านชายเด็จกลับไปเถอะเพคะหม่อมฉันต้องทำงานเพคะ”
“หนูนิท ผมขอนะ”
นารานิทไม่ได้ใจอ่อนให้กับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เลยสักนิด เธอกลับเดินหนีท่านชายเสียดื้อ ๆ ไปยังหน้าร้าน
“ท่านชายเชิญเด็จกลับไปเถอะเพคะ”
“หนูนิท คุณฟังผมก่อน”
หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เสด็จตามหลังนารานิทมาติดๆ พระองค์จับแขนสาวเจ้ารั้งไว้ แต่อาจจักเพราะเธอไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้เซถลาเข้าไปหาท่านชายแลทั้งสองก็ได้จูบกันอีกครั้งหนึ่งโดยมิได้ตั้งใจ บังเอิยคุณชายนนทกูลกับคุณหญิงฟ้าสอางค์เดินเข้ามาในร้านพอดีทำให้เห็นว่านารานิทกำลังจูบกับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์
“เห้ย! ฝ่าบาททรงทำอะไรหนูนิท”
ปั่ก!!!
คุณชายนนทกูลไม่ฟังคำอธิบายจากใครทั้งนั้นก็เดินเข้าไปต่อยหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ทันที ทำให้นารานิท นีฤนาถ แลคุณหญิงฟ้าสอางค์จับแยกทั้งสองคนเกือบไม่ทัน ก็น้องสาวสุดรักสุกหวงของเขา เขาไม่ยอมให้ใครมาดูถูกแบบนี้ได้ดอก แต่ดูเหมือนท่านชายไม่มีท่าทีจักโต้กลับแต่อย่างใด เพราะในทัยพระองค์คิดว่านี่ก็สมควรแล้วที่จักโดนแบบนี้ เพราะเป็นผู้ที่คิดว่าถนอมเธอมาอย่างดีที่สุดแล้วแท้ ๆ ทำไมถึงกลับกลายเป็นดูหมิ่นเธอเสียได้
“ท่านชายเด็จกลับไปก่อนเถอะเพคะ อยู่ไปก็มิมีอะไรดีขึ้นมาดอกเพคะ”
นีฤนาถผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาบ้าง เธอไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของพี่สาวดอก แต่เธอไปเข้าห้องน้ำกลับมาครู่เดียวก็เห็นท่านชายกำลังจูบกับพี่สาวของอยู่เธอ เธอก็ไม่ทนเหมือนกัน นารานิทไม่เคยแตะต้องผู้ชายคนไหน แลไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าแตะต้องเธอทั้งนั้นใคร ๆ ก็ต่างอยากจักถนอมเธอแต่ทำไม ท่านชายกับทำกิริยาดูหมิ่นเธอย่างนี้เล่า น้องสาวอย่างเธอไม่ยอมให้หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์อยู่ใกล้นารานิทอีกเป็นแน่
“ผมขอโทษ..”
“ฝ่าบาทเชิญเด็จกลับไปเถอะครับ แค่คำขอโทษมันไม่ช่วยอะไรดอกครับ”
หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ได้ยินน้ำเสียงของคุณชายนนทกูลแล้วทำให้พระองค์ต้องยอมถอดพระทัยกลับไปก่อน ทำไมเรื่องทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้นะ ตัวท่านชายเองก็แค่อยากจักอธิบายแลแสดงความจริงใจให้นารานิทได้เห็นกับเรื่องที่แล้วมาแลก็ขอโอกาสได้แก้ตัว คิดไม่ถึงว่าจักมิทันได้ระวังตัวทำให้ต้องทำผิดซ้ำสองเสียจนได้
“ฉันแค่อยากจะแก้ตัว..”
หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์สบถกับองค์เองเบา ๆ ก่อนจักเสด็จขึ้นรถแลขับออกไป ในทัยก็คิดว่า ‘ฉันอยากจักใกล้เธอให้มากกว่านี้ อยากทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นกว่านี้ แต่ทำไมฉันยิ่งทำก็เหมือนยิ่งห่างจากเธอมากขึ้นทุกทีนะ นารานิท’
“หนูนิทไม่เป็นไรใช่ไหมคะ มันเกิดอะไรขึ้นคะ?”
“พี่นนท์อย่าเพิ่งถามนิทตอนนี้จักได้ไหมคะ”
นารานิทพูดเสร็จก็สะอื้นร้องไห้กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นี่มันครั้งที่สองแล้วที่หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ทำกับเธอเช่นนี้ เขาไม่เอ่ยอะไรนอกจากคำขอโทษ ความรู้สึกเธอตอนนี้ทั้งสบสนแลวุ่นวายเหลือเกินไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นมันเรียกว่าอะไร ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลย ทำให้คุณชายนนทกูลไม่กล้าถามอะไรต่อได้แต่คอยกอดปลอบน้องสาวอยู่ข้าง ๆ เพราะนารานิทไม่เคยจักต้องร้องไห้เพราะผู้ชายคนไหนเลย ทำให้ทั้งคุณชายนนทกูลกับนีฤนาถทำตัวไม่ถูกนอกเสียจากนั่งอยู่ข้าง ๆ ปลอบใจนารานิทกันไป จนคุณชายนนทกูลลืมเสียสนิทว่าตนพาใครมาด้วย
คุณหญิงฟ้าสอางค์สังเกตเห็นกิริยาที่คุณชายนนทกูลปฏิบัติกับนารานิทก็ทำให้นึกอิจฉาในใจ ทีกับเธอคุณชายไม่เห็นอ่อนโยนอย่างนี้เลย แต่กับนารานิทพูดเสียงอ่อนเสียงหวานพูดคะพูดขา ถึงจักรู้สถานะทั้งสองดีว่าเป็นแค่พี่น้องกัน แต่ใครมาเห็นแบบนี้ก็นึกอิจฉากันทั้งนั้นแหละ เธอจักต้องทำให้คุณชายนนทกูลปฎิบัติกับเธอแบบที่ปฎิบัติกับนารานิทให้ได้ เหตุผลที่เธอรู้สึกเช่นนี้ คงเพราะเรื่องเมื่อสองปีก่อนที่อเมริกากระมัง
ความคิดเห็น