ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Remove the curse with love คำสาปถอนด้วยรัก

    ลำดับตอนที่ #7 : ทำความรู้จักกันให้มากขึ้น

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 65


    - ร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -

    เวลา 5 โมงเช้า เกือบจักเที่ยงวัน

    กริ๊งง~

    “ยินดีต้อนรับ…ค่ะ ท่านชายพัทธ์มาได้อย่างไรคะ? แล้วคุณชายตรีมาทำไมคะ?”

    “สองมาตราฐานชัดเจนเลยนะครับ คุณนิทอยู่หรือไม่ครับ?”

    นีฤนาถตกใจเล็กน้อยที่ทั้งหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์กับคุณชายตรีพิมานมาที่ร้านพร้อมกันแบบนี้ แถมคุณชายตรีพิมานก็ถามถึงพี่สาวอีก ไม่ต้องพูดถึงหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เลย ท่านไม่รับสั่งอะไรแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจักไม่ได้มาหานพี่สาวเหมือนกับคุณชายตรีพิมานเสียหน่อย ช่วงนี้พี่สาวของเธอออกจักเนื้อหอม ก็เดาได้มิยากว่าหนุ่ม ๆ อยากจักมาหาใคร

    “เชิญท่านชายนั่งรอตรงนี้ก่อนนะเพคะ ประเดี๋ยวฉันจักไปตามพี่นิทมาให้เพคะ”

    “ขอบคุณครับ”

    นีฤนาถต้อนรับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์อย่างดี แต่ไม่ได้สนใจคุณชายตรีพิมานแต่อย่างใด 

    “อ้าว แล้วผมล่ะคุณจักไม่ต้อนรับผมหน่อยหรือ?”

    “เชิญนั่งค่ะ”

    “ขอบคุณครับ”

    นีฤนาถพูดด้วยน้ำเสียงที่มิเต็มใจต้อนรับแต่อย่างใด แต่คุณชายตรีพิมานก็รับน้ำใจนั่นไว้ด้วยใบหน้ายิ้มทะเล้นดั่งผู้ชนะ

     

    - หลังร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -

    “พี่นิท ทำอะไรอยู่คะเนี่ย”

    “พี่ก็มาหาแบบตัดเสื้อน่ะสิ ลูกค้าอยากได้แบบเดิมแต่พี่จำไม่ได้ว่าเก็บไว้ไหน แล้วนีมีอะไรหรือ”

    “ก็..ก็..”

    “ก็อะไรล่ะจ๊ะ”

    “ก็คุณชายตรีกับท่านชายพัทธ์มานะค่ะ ถามหาพี่นิทด้วยพี่นิทรีบออกไปเถอะค่ะ นีกลัวว่าจักรับมือไม่ไหว”

    “อะไรกัน ทำไมถึงมาพร้อมกันได้นะ”

    นารานิทไม่ได้สนใจที่นีฤนาถพูดเลย ซ้ำยังหาแบบตัดเสื้อต่อแลก็ให้น้องสาวช่วยตนหาด้วยซ้ำ ก็เธอไม่อยากจักออกไปต้อนรับทั้งท่านชายแลคุณชายทั้งสองเลย 

    - หน้าร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -

    “ฝ่าบาทมาหาคุณนิทเช่นกันหรือกระหม่อม”

    “ผมมาตัดเสื้อครับ ว่าแต่คุณชายล่ะมาหานิททำไมหรือครับ”

    “กระหม่อมก็มาตัดเสื้อกระหม่อม แต่อยากตัดกับคุณนิทมากกว่ากระหม่อม"

    ระหว่างที่รอนารานิทกับนีฤนาถ คุณชายตรีพิมานกับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ก็พูดคุยกัน

    “ผมว่าความจริงใครจักตัดเสื้อก็เหมือนกันนั่นแหละครับ มิเห็นจักต้องเจาะจงเลย”

    “นั่นสิกระหม่อม กระหม่อมก็เห็นด้วยกับฝ่าบาทนะกระหม่อม แต่..”

    “คุณชายตรีกับท่านชาย ฉันขอโทษที่ให้รอนะคะ”

    “อ้าว คุณนีมาพอดีเลยคุณนิทละครับ”

    “เอ่อ..พี่นิทเขา”

    นีฤนาถไม่รู้จักอธิบายอย่างไรดี ที่พี่สาวไม่ยอมออกมาต้อนรับเสียทีแต่สุดท้ายพี่สาวตัวดีก็เปลี่ยนใจ ทำให้เธอไม่ต้องลำบากใจอีกแล้ว

    “ทั้งสองคนมาหานิทมีอะไรหรือคะ?”

    “ผมจักชวนไปรับประทานอาหารกลางวันครับ”

    ทั้งหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์แลคุณชายตรีพิมานพูดขึ้นพร้อมกัน แลก็หันมามองหน้าอีกฝ่าย

    “ไหนฝ่าบาทรับสั่งจักมาตัดฉลององค์อย่างไรกระหม่อม เหตุใดถึงชวนคุณนิทไปรับประทานอาหารกลางวันได้”

    “แล้วคุณชายล่ะ บอกจักมาตัดเสื้อเหมือนกันมิใช่หรือครับ”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์กับคุณชายตรีพิมานมีเป้าหมายเดียวกันคือชวนนารานิทไปรับประทานอาหารกันตน ทำให้เกิดศึกชิงนางขนาดย่อม

    “มิต้องเถียงกันดอกค่ะ นิทจักไม่ไปรับประทานอาหารกับใครทั้งนั้นนอกจากยัยนีค่ะ ถ้าท่านชายแลคุณชายมิมีธุระอะไรแล้วนิทขอตัวทำงานก่อนนะคะ"

    “นี่จักบ่ายโมงแล้วนะครับ หนูนิทไม่รับประทานอาหารกลางวันหน่อยหรือครับ”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เอ่ยขึ้นทันควันก่อนที่นารานิทจักเดินเข้าหลังร้านไป นารานิทก็หยุดมองนาฬิกาเป็นเวลาบ่ายโมงตามที่ท่ายชายทรงรับสั่ง 

     "ยัยนีไปกันเถอะ”

    “พี่นิทใจเย็นก่อนค่ะ แล้วท่านชายกับคุณชายล่ะคะ”

    นารานิทไม่สนใจใครทั้งนั้นก็พานีฤนาถไปกับตนทันทีที่พูดจบ เพื่อหนีผู้ชายทั้งสองที่มาตามตอแยเธอ

     

    - ร้านก๋วยเตี๋ยวเฮียยง -

    “เฮียคะ ขอเหมือนเดิมค่ะ”

    “อ้าว หนูนิทยัยนี พวกลื้อมาได้ไง นั่งก่อน ๆ  ประเดี๋ยวอั้วจักทำให้สุดฝีมือเลย”

    “ขอบคุณค่ะเฮีย”

    นารานิทพานีฤนาถมาร้านก๋วยเตี๋ยวประจำในซอยใกล้ร้านตัดเสื้อ

    “พี่นิทเห็นเมื่อสักครู่หรือไม่คะ ศึกชิงพี่นิทขนาดย่อม”

    นีฤนาถพูดหยอกล้อพี่สาวพร้อมกับหัวเราะชอบใจออกมา

    “พอเลยยัยนี พี่จักไม่พูดเรื่องอีกนี้นะ เพิ่งจักหนีออกมาได้”

    “ได้แล้ว ๆ ทำสุดฝีมืออั๊วเลย”

    เฮียยงนำอาหารมาเสิร์ฟขัดจังหวะพอดี

    “ไม่สนแล้ว กินดีกว่า กำลังหิวพอดี”

    นีฤนาถไม่สนใจอะไรแล้วเธอก็คีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากไป แต่ดูไม่เรียบร้อยเสียเลยจนดดยนารานิทเอ็ดจนได้

    “นี กินดี ๆ สิ กินให้มันเรียบร้อยเหมือนคนอื่นเขาหน่อย”

    “ก็นีหิว พี่นิทนั่นแหละรีบกินเลยทิ้งร้านไว้อะ”

    “เรานี่จริง ๆ เลย”

    นารานิทเอ็ดน้องสาวเสร็จก็กินก๋วยเตี๋ยวต่ออย่างเอร็ดอร่อย

     

    - ร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -

    พอนารานิกกับนีฤนาถกลับเข้าร้านมาก็ยังคงเจอหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์กับคุณชายตรีพิมานที่ยังคงรออยู๋ที่ร้านตั้งแต่สองสาวออกจากร้านไปก็เกือบ 3 ชั่วยามแล้ว

    “ยังอยู่กันอีกหรือคะ? ฉันคิดว่ากลับกันไปเสียหมดแล้ว”

    “พอดีว่าผมรอคุณนิทกลับมาน่ะครับ”

    นีฤนาถเอ่อยถามออกมาตรง ๆ ขณะที่นารานิทเดินเข้าหลังร้านไปโดยที่มิได้สนใจผู้ใดอีก คุณชายตรีพิมานก็ตอบนีฤนาถตรง ๆ ตามที่เธอถาม

    “ฉันก็เพิ่งจักรู้คุณชายตรีพิมานก็หน้าหนาเหมือนกันนะคะเนี่ย ดูก็รู้พี่นิทมิได้เต็มใจต้อนรับสักนิด”

    “ถึงผมจักหน้าหนาหรือไม่หนาก็มิเกี่ยวกับคุณนะครับ”

    “ก็นั่นพี่สาวฉัน ฉันก็ต้องช่วยพี่คัดกรองคนเข้าร้านนิคะ”

    นีฤนาถตอกกลับคุณชายตรีพิมานจนคุณชายไปไม่เป็นเลยทีเดียว ทำให้นีฤนาถรู้สึกสะใจนิด ๆ ยกนี้เธอชนะ 

    “พวกคุณทั้งสองคนกลับไปเถอะค่ะ วันนี้นิทขอไม่รับแขกนะคะ”

    นารานิทเดินออกมาจากหลังร้าน เพื่อจักไล่หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์กับคุณชายตรีพิมานให้กลับไปขืนอยู่ต่อมีหวังคุณชายได้ตีกับน้องสาวเธอร้านแตกแน่ต้องรีบห้ามทัพเสียก่อน ทิ้งให้ทุกคนแปลกใจกับกิริยาของสาวเจ้า  หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เห็นท่าไม่ดีเพราะนารานิทไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ท่านชายก็คงทำได้แค่กลับไปก่อนอย่างเธอว่า แต่มิได้หมายความว่ายอมแพ้ดอกนะ แค่ถอยทัพเท่านั้นเอง 

    “ผมขอตัวลาก่อนนะครับคุณนี ประเดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมจักมาใหม่นะครับ”

    “ค่ะ สวัสดีค่ะ”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เดินออกจากร้านไปแล้ว เหลือแค่นีฤนาถกับคุณชายตรีพิมานอยู่หน้าร้านกันสองคน

    “แล้วไม่ไปกับเขาหรือคะ?”

    “คุณไล่ผมหรอ?”

    “ค่ะ เชิญค่ะ บ๊ายบาย”

    นีฤนาถไม่รอช้าได้ทีเอาใหญ่รีบไล่คุณชายตรีพิมานออกจากร้าน

    “ฝากไว้ก่อนเถอะ”

    “ไม่รับฝากค่ะ รีบกลับไปเถอะค่ะ รออยู่อย่างนี้เขาเรียกหน้าด้านค่ะ”

    นีฤนาถเปิดประตูออกมาตอบแลก็ปิดล็อคประตูไม่ให้คุณชายตรีพิมานเข้ามาได้

     

    - วันถัดมา วังหินขาว -

    ปริ๊ม..ปริ๊ม..

    “ใครมากันนะ นายมาโนชออกไปดูเสียหน่อยสิว่าใครมา”

    “ขอรับหม่อม”

    หม่อมจันทร์ฉายไม่รู้ว่าใครมาที่วังเลยใช้ให้บ่าวรับใช้ไปดูว่าผู้ใดมา

    “หม่อมน้าสวัสดีครับ”

    “อ้าว คุณชายนนท์มาได้อย่างไรคะ ยัยฟ้าอยู่ข้างบนค่ะกำลังแต่งตัวอยู่”

    “คือหม่อมแม่ให้ผมเอาผลไม้กับขนมหวานมาเยี่ยมหม่อมน้าครับ แลให้ชวนน้องหญิงไปรับประทานอาหารกลางวันกับไปเที่ยวเล่นน่ะครับ”

    “ตายจริงคุณชาย น้าฝากขอบคุณหม่อมมณีด้วยนะคะ แลประเดี๋ยวน้าจักให้บ่าวรีบไปตามยัยฟ้ามาให้นะคะ”

    “ครับ”

    คุณชายนนทกูลมาเยี่ยมที่วังหินขาวเพราะคำสั่งของหม่อมแม่ให้มารู้จักสนิทสนมกับคุณหญิงฟ้าสอางค์เอาไว้เพราะในอนาคตจักต้องดองกันแน่นอน มีหรือลูกชายสุดที่รักอย่างคุณชายจักล้าขัดใจได้

    “คุณหญิงมาแล้วเจ้าค่ะ”

    “สวัสดีค่ะพี่ชาย”

    “สวัสดีครับ เรียกพี่นนท์เฉย ๆ ก็ได้ครับ”

    “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพี่นนท์ แล้วพี่นนท์มาหาหญิงมีธุระอะไรหรือคะ”

    “หม่อมแม่ให้พี่ชวนน้องหญิงไปรับประทานอาหารกลางวันแลไปเที่ยวเล่นน่ะครับ น้องหญิงมีที่ที่อยากจักไปไหมครับพี่จักได้พาไป”

    คุณชายนนทกูลเอาแต่ย้ำว่า'หม่อมแม่สั่งมา' ดูก็รู้ว่ามิได้เต็มใจสักเท่าไร แต่จักทำอย่างไรได้ คนอย่างคุณหญิงฟ้าสอางค์ไม่เคยมีใครเข้าหาเพราะมิเต็มใจหรือโดนแม่สั่งมาดอก คอยดูนะเธอจักทำให้คุณชายคนนี้มาหาเธอด้วยความเต็มใจเอง ที่ผ่านมาคุณชายเธอดูรังเกียจเธอไม่น้อยมาครานี้กับไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไร หรือจักจำเธอมิได้จริง ๆ เธอได้แต่คิดเช่นนั้น แต่คิดไปก็เปล่าประโยชน์ ตอนนี้เธอถือว่าเป็นโอกาสที่จักได้ใกล้ชิดพี่นนท์ของเธออีกครั้งแล้ว

    “หญิงอยากตัดชุดใหม่ค่ะ แลก็อยากจักซื้อผ้าไปตัดชุดด้วยค่ะ”

    “ได้เลยครับ ประเดี๋ยวพี่จักพาน้องหญิงไปรับประทานอาหารกลางวันก่อนแลจักพาไปซื้อผ้าตัดชุดใหม่นะครับ”

    “ค่ะ”

    “ผมขออนุญาตพาน้องหญิงไปนะครับ”

    “เชิญตามสบายเลยค่ะคุณชาย ขอพากลับมาก่อนค่ำเป็นพอค่ะ”

    “ได้ครับ”

    คุณชายนนทกูลพูดกับคุณหญิงฟ้าสองค์จบก็หันมาขออนุญาตหม่อมจันทร์ฉายที่จักพาน้องหญิงออกไปข้างนอก ดูเหมือนไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสักเท่าไร ติดก็แต่คุณหญิงฟ้าสอางค์เนี่ยแหละที่เธอดูเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับการถูกผู้ใหญ่คลุมถุงชนให้หมั้นหมายกันเลยหรือว่าเธอจักเต็มใจนะ คุณชายนนทกูลคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกกับความคิดของคุณหญิงฟ้าสอางค์คู่หมายของเขาว่ามีความเห็นอย่างไรกับการหมั้นหมายครั้งนี้

     

    - ร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -

    “ผมมาหาหนูนิทครับ หนูนิทอยู่ไหมครับ?”

    “เอ่อ..พี่นิทอยู่หลังร้านเพคะ ท่านชายพัทธ์”

    “ขอบคุณครับ”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ได้คำตอบจากนีฤนาถเสร็จก็ไม่รอช้า รีบเข้าไปหานารานิทที่หลังร้าน จนนีฤนาถห้ามปรามไม่ทัน จักไม่ให้ท่านชายทรงรีบร้อนได้อย่างไร เมื่อกลับไปคิดทบทวนให้ดีแล้ว ถึงได้รู้ว่าสาวเจ้าอาจจักโกรธเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงก็เป็นได้ ถึงได้เหมือนพยายามหลบหน้าพระองค์อย่างนี้ เมื่อคิดได้ดังนี้ก็เหมือนจักทนไม่ไหวที่จักต้องถูกเธอหลบหน้าอยู่อย่างนี้ 

    “หนูนิท..”

    “ท่านชาย..เสด็จมาได้อย่างไรเพคะ?”

    “ผมมีเรื่องจักคุยกับคุณ”

    “แต่นิทไม่มีเรื่องอะไรจักพูดคุยกับท่านชายเพคะ”

    หญิงสาวเห็นท่าทีร้อนรนของหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ก็ทำให้เธอรู้ว่าต้องเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจักเอ่ยถึงมันอีก แลเอ่ยตอนนี้ก็มิมีอะไรดีขึ้นมาก็ในเมื่อท่านชายไม่ได้พระทัยเย็นลงเลยสักนิด

    “ผมขอล่ะ เราคุยกันดี ๆ ได้ไหม?”

    “ไม่เพคะ ท่านชายเด็จกลับไปเถอะเพคะหม่อมฉันต้องทำงานเพคะ”

    “หนูนิท ผมขอนะ”

    นารานิทไม่ได้ใจอ่อนให้กับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เลยสักนิด เธอกลับเดินหนีท่านชายเสียดื้อ ๆ ไปยังหน้าร้าน

    “ท่านชายเชิญเด็จกลับไปเถอะเพคะ”

    “หนูนิท คุณฟังผมก่อน”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เสด็จตามหลังนารานิทมาติดๆ พระองค์จับแขนสาวเจ้ารั้งไว้ แต่อาจจักเพราะเธอไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้เซถลาเข้าไปหาท่านชายแลทั้งสองก็ได้จูบกันอีกครั้งหนึ่งโดยมิได้ตั้งใจ บังเอิยคุณชายนนทกูลกับคุณหญิงฟ้าสอางค์เดินเข้ามาในร้านพอดีทำให้เห็นว่านารานิทกำลังจูบกับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์

    “เห้ย! ฝ่าบาททรงทำอะไรหนูนิท”

    ปั่ก!!!

    คุณชายนนทกูลไม่ฟังคำอธิบายจากใครทั้งนั้นก็เดินเข้าไปต่อยหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ทันที ทำให้นารานิท นีฤนาถ แลคุณหญิงฟ้าสอางค์จับแยกทั้งสองคนเกือบไม่ทัน ก็น้องสาวสุดรักสุกหวงของเขา เขาไม่ยอมให้ใครมาดูถูกแบบนี้ได้ดอก แต่ดูเหมือนท่านชายไม่มีท่าทีจักโต้กลับแต่อย่างใด เพราะในทัยพระองค์คิดว่านี่ก็สมควรแล้วที่จักโดนแบบนี้ เพราะเป็นผู้ที่คิดว่าถนอมเธอมาอย่างดีที่สุดแล้วแท้ ๆ ทำไมถึงกลับกลายเป็นดูหมิ่นเธอเสียได้

    “ท่านชายเด็จกลับไปก่อนเถอะเพคะ อยู่ไปก็มิมีอะไรดีขึ้นมาดอกเพคะ”

    นีฤนาถผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาบ้าง เธอไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของพี่สาวดอก แต่เธอไปเข้าห้องน้ำกลับมาครู่เดียวก็เห็นท่านชายกำลังจูบกับพี่สาวของอยู่เธอ เธอก็ไม่ทนเหมือนกัน นารานิทไม่เคยแตะต้องผู้ชายคนไหน แลไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าแตะต้องเธอทั้งนั้นใคร ๆ ก็ต่างอยากจักถนอมเธอแต่ทำไม ท่านชายกับทำกิริยาดูหมิ่นเธอย่างนี้เล่า น้องสาวอย่างเธอไม่ยอมให้หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์อยู่ใกล้นารานิทอีกเป็นแน่

    “ผมขอโทษ..”

    “ฝ่าบาทเชิญเด็จกลับไปเถอะครับ แค่คำขอโทษมันไม่ช่วยอะไรดอกครับ”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ได้ยินน้ำเสียงของคุณชายนนทกูลแล้วทำให้พระองค์ต้องยอมถอดพระทัยกลับไปก่อน ทำไมเรื่องทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้นะ ตัวท่านชายเองก็แค่อยากจักอธิบายแลแสดงความจริงใจให้นารานิทได้เห็นกับเรื่องที่แล้วมาแลก็ขอโอกาสได้แก้ตัว คิดไม่ถึงว่าจักมิทันได้ระวังตัวทำให้ต้องทำผิดซ้ำสองเสียจนได้

    “ฉันแค่อยากจะแก้ตัว..”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์สบถกับองค์เองเบา ๆ ก่อนจักเสด็จขึ้นรถแลขับออกไป ในทัยก็คิดว่า ‘ฉันอยากจักใกล้เธอให้มากกว่านี้ อยากทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นกว่านี้ แต่ทำไมฉันยิ่งทำก็เหมือนยิ่งห่างจากเธอมากขึ้นทุกทีนะ นารานิท’

     

    “หนูนิทไม่เป็นไรใช่ไหมคะ มันเกิดอะไรขึ้นคะ?”

    “พี่นนท์อย่าเพิ่งถามนิทตอนนี้จักได้ไหมคะ”

    นารานิทพูดเสร็จก็สะอื้นร้องไห้กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นี่มันครั้งที่สองแล้วที่หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ทำกับเธอเช่นนี้ เขาไม่เอ่ยอะไรนอกจากคำขอโทษ ความรู้สึกเธอตอนนี้ทั้งสบสนแลวุ่นวายเหลือเกินไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นมันเรียกว่าอะไร ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลย ทำให้คุณชายนนทกูลไม่กล้าถามอะไรต่อได้แต่คอยกอดปลอบน้องสาวอยู่ข้าง ๆ เพราะนารานิทไม่เคยจักต้องร้องไห้เพราะผู้ชายคนไหนเลย ทำให้ทั้งคุณชายนนทกูลกับนีฤนาถทำตัวไม่ถูกนอกเสียจากนั่งอยู่ข้าง ๆ ปลอบใจนารานิทกันไป จนคุณชายนนทกูลลืมเสียสนิทว่าตนพาใครมาด้วย  

    คุณหญิงฟ้าสอางค์สังเกตเห็นกิริยาที่คุณชายนนทกูลปฏิบัติกับนารานิทก็ทำให้นึกอิจฉาในใจ ทีกับเธอคุณชายไม่เห็นอ่อนโยนอย่างนี้เลย แต่กับนารานิทพูดเสียงอ่อนเสียงหวานพูดคะพูดขา ถึงจักรู้สถานะทั้งสองดีว่าเป็นแค่พี่น้องกัน แต่ใครมาเห็นแบบนี้ก็นึกอิจฉากันทั้งนั้นแหละ เธอจักต้องทำให้คุณชายนนทกูลปฎิบัติกับเธอแบบที่ปฎิบัติกับนารานิทให้ได้ เหตุผลที่เธอรู้สึกเช่นนี้ คงเพราะเรื่องเมื่อสองปีก่อนที่อเมริกากระมัง

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×