ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Remove the curse with love คำสาปถอนด้วยรัก

    ลำดับตอนที่ #11 : อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 65


    - วังเสี้ยวหฤทัย -

    “ท่านพ่อเพคะ วันนี้วันหยุดท่านพ่อทรงพาหญิงไปเที่ยวหน่อยเพคะ หญิงอยากไปเที่ยวเพคะ”

    “ได้ค่ะ แต่ต้องหลังบ่ายโมงนะ ขอพ่อทำงานให้เสร็จก่อนนะคะ”

    “ได้เพคะ ท่านพ่อต้องพาหญิงไปเที่ยวจริง ๆ นะเพคะ”

    “ค่ะ พ่อสัญญาค่ะ หญิงไปเล่นกับดวงก่อนนะ”

    พอได้ยินคำสัญญาจากหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ คุณหญิงรัตน์ณาก็มั่นใจว่าวันนี้ตนจักได้ออกไปเที่ยวแน่นอนก็รีบออกไปเล่นกับดวงบ่าวที่ดูแลตนตามคำสั่งของท่านชายทันที

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ทรงก้มหน้าทรงงานต่อไปภายในทัยก็ทรงคิดถึงนารานิทอยู๋ไม่น้อยเลย ท่านชายมิได้ไปหาเธอหลายวันตามคำบอกของนีฤนาถ แต่มิรู็ได้ว่านารานิทเป็นอย่างไรบ้าง ท่านชายอยากจักขอโทษแลอธิบายเรื่อเกตระนีกับภริยาของพระองค์เอง ว่ามิได้มีภาริยาที่ไหนเลย เกตระนีก็เป็นแค่บ่าวในวังที่ช่วยดูท่านชายทุกอย่างก็เท่านั้นเอง ไหนจักคุณหญิงรัตน์ณาที่เป็นลูกของพี่ชายแลพี่สะใภ้ที่เกิดอุบัติเหตุ สิ้นใจในอุบัติเหตุไปตั้งหลายปีแล้วก็เท่านั้น ท่านชายจึงมีหน้าที่ดูแลหญิงรัตน์ยกให้เป็นลูกของพระองค์ก็เท่านั้นเอง  แต่คิดอย่างไรก็มิมีโอกาสได้อธิบายอะไรให้นารานิทฟังเลย จักขอความช่วยเหลือจากนีฤนาถ ท่านชายก็ทรงมองออกว่าเธอมิได้เต็มใจช่วยสักเท่าไหร่ คงต้องจัดการเองตามเคย แต่วันนี้สบโอกาส เมื่อพาหญิงรัตน์ออกไปเที่ยวจักได้พาเธอไปหานารานิทด้วย นารานิทคงยอมคุยกับท่าชายเป็นแน่ ท่านชายทรงคิดในทัย

     

    - ร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ เวลา บ่ายโมง -

    “ยัยนี เฝ้าร้านนะ พี่จักออกไปซื้อผ้ามาตัดชุดให้ลูกค้าเพิ่มผ้าหมดพอดีเลย สักบ่ายสามโมง พี่ก็กลับมาแล้ว”

    “ได้ค่ะพี่นิท ไปเถอะค่ะ ประเดี๋ยวนีจักเฝ้าร้านให้เองค่ะ”

    “ห้ามแอบอู้นะ”

    “ไม่อู้แน่นอนค่ะ ไปเถอะค่ะ”

    นารานิทไปตามคำบอกนีฤนาถ ก็ตอนที่เธอไม่อยู่ทีไร ป้าผ่องชอบมาฟ้องมาน้องสาวตัวดีชอบแอบอู้งานตลอดแล้วอย่างนี้จักให้เธอไวัใจได้อย่างไร

    นีฤนาถเฝ้ามองดูให้นารานิทไปไกล ๆ แล้วเธอก็ค่อยหันกลับมาบ่นกับป้าผ่อง ที่ชอบฝ้องเธอกับแม่แลพี่สาวตลอดเลย

    “ป้าผ่องนะป้าผ่อง ชอบฟ้องพี่นิดว่านีแอบอู้ พี่นิทไม่ไว้ใจนีเลยเห็นไหมคะ”

    “ก็มันจริงหรือไม่คะ คุณหนูนีชอบแอบอู้ตลอดเวลาที่คุณนายกับคุณหนูนิทไม่อยู่”

    “ไม่จริงค่ะ นีแค่ไปหาขนมมาทานแก้เบื่อเองค่ะ”

    ป้าผ่องส่ายหน้าให้กับคุณหนูเล็กของบ้าน เธอนะอายุยังน้อยชอบทำตัวเป็นเด็กแค่ช่วยงานครอบครัวอย่างนี้ได้ก็ถือว่าเธอเก่งมากแล้วล่ะ

     

    - ตรอกขายผ้า -

    “อ้าว คุณนิท วันนี้มาซื้อผ้าอีกหรือคะ”

    “ใช่ค่ะ คุณนาย พอดีว่าผ้าที่เย็บชุดให้ลูกค้าหมดน่ะค่ะ นิทเลยต้องมาซื้อเพิ่ม”

    “ได้เลยค่ะ พอดีกับที่วันนี้มีผ้าลายใหม่มาลงพอดีเลย คุณนิทสนใจซื้อกลับไปด้วยไหมคะ ดิฉันให้ราคาพิเศษเหมือนเคยเลยค่ะ”

    “ได้ค่ะ ขอบคุณคุณนายนะคะ”

    นารานิทเลือกซื้อผ้าใช้เวลา 1 ชั่ว ยามเศษ ก็เลือกเสร็จพอดี ประจวบเหมาะกับที่หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์พาคุณหญิงรัตน์ณามาเที่ยวที่ตรอกนี้ ทั้งทานไอศกรีม กับว่าจักมาเลือกผ้าเพื่อเป็นขออ้างให้นารานิทตัดชุดให้หญิงรัตน์ แต่ก็จับจังหวะเหมาะกับที่นารานิทกำลังจักกลับร้านแลคุณหญิงรัตน์ณา เห็นนารานิทพอดี

    “พี่นิทคะ…พี่นิท หญิงอยู่ทางนี้ค่ะ”

    “อ้าว คุณหญิงมาเที่ยวหรือคะ”

    “ใช่ค่ะหญิงมากับท่านพ่อค่ะ พี่นิทเดี๋ยวหญิงไปหานะเพคะ”

    จังหวะที่คุณหญิงรัตน์ณาเดินข้ามถนนมาหานารานิทมีรถหนึ่งคันที่แล่นมาจากทางตรงทำให้หญิงรัตน์ไม่ทันสังเกตเห็น แต่นารานิทเห็นพอดี เธอห้ามหญิงรัตน์ไม่ทันเลยเข้าไปช่วยหญิงรัตน์เอาไว้

    “คุณหญิงระวังค่ะ..ว้ายย!!!”

    เอี๊ยดด~ โคร้มม

    “ว้าย..ตายแล้วมีเด็กโดนรถชน”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ที่กำลังชำระเงินค่าไอศกรีมอยู่ เมื่อได้ยินเสียงคนตะโกนว่ามีเด็กโดนรถชน ท่านชายก็ทรงตกพระทัยอย่างมากเพราะกลัวว่าจักเป็นคุณหญิงรัตน์ณาที่ออกไปรอพระองค์ข้างนอก ก็ทรงรีบวิ่งออกจากร้านไปดูที่เกิดเหตุ แต่น่าตกใจกว่าที่ไม่ใช่มีแต่หญิงรัตน์ที่โดนรถชนแต่มีนารานิทด้วย

    “หญิงรัตน์ หนูนิท!”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์วิ่งเข้าไปหาทั้งสองคน นารานิทเธอกอดคุณหญิงรัตน์ณาไว้แน่น ตัวเธอมีเลือดไหลเต็มไปหมดอาการหนักกว่าหญิงรัตน์เสียอีก ส่วนหญิงรัตน์มีแผลถลอกแลหัวแตกเล็กน้อยแต่คงตกใจไม่น้อยเลยสลบไป ท่านชายทรงทำอะไรไม่ถูกกับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่สักพัก ก็ได้สติพาทั้งสองไปโรงพยาบาล โดยความกังวลใจ ถึงจักทรงรู้ว่าคุณหญิงรัตน์ณาอาการไม่หนักแต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ นารานิทก็เช่นกัน ท่านชายไม่คิดเลยสักนิดว่าตัวเธอจักเสี่ยงชีวิตยอมช่วยหญิงรัตน์ขนาดนี้ บุญคุณครั้งนี้พระองค์ไม่ยอมแน่นอน

     

    - ร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -

    กริ๊งง..กริ๊งง..กริ๊งง.

    “คุณนีคะโทรศัพมท์มาค่ะ”

    “นีรู้แล้วค่ะป้าผ่อง ป้ารับให้นีหน่อยนะคะ นีกำลังเอาด้ายเข้าเข็มเลยค่ะ”

    “ค่ะ ๆ”

    ป้าผ่องรับคำนีฤนาถเสร็จก็เดินไปรับโทรศัพท์ พูดโทรศัพท์ไม่นานก็รีบวิ่งออกมาด้วยความตกใจตื่นมาหานีฤนาถ

    “คุณหนูนีคะ ๆ”

    “อะไรคะป้าผ่อง หน้าแตกตื่นเชียว ผู้ใดเป็นอะไรหรือคะ”

    “คุณหนูนิทค่ะ..เอ่อ..คุณหนูนิทเกิดอุบัติเหตุค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ”

    “ห้ะ!..อะไรนะคะป้า พี่นิดถูกรถชนหรือคะ โรงพยาบาลไหนคะ นีจักรีบไปค่ะ ป้าผ่องอยู่เฝ้าร้านนะคะ ห้ามบอกแม่เด็ดขาดเลยนะคะ”

    “ค่ะ ๆ อยู่โรงพยาบาลพระนครค่ะ คุณหนูนี”

    นีฤนาถตกใจไม่น้อยที่พี่สาวเธอเกิดอุบัติเหตุเพิ่งจักออกไปซื้อผ้าแท้ ๆ ไม่รู้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้ไง ไหนจักคำพูดเล่น ๆ ของเธอเมื่อครู่นี้อีก กลายเป็นเรื่องจริงจังจนได้ เธอรีบเรียกสามล้อให้ส่งเธอไปที่โรงพยาบาล

     

    - โรงพยาบาลพระนคร -

    “ท่านชาย เหตุใดถึงอยู่ที่นี่ได้เพคะ”

    “คุณนี…พี่สาวคุณช่วยชีวิตลูกสาวผมไว้น่ะสิครับ ทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุพร้อมกันครับ”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์อธิบายให้นีฤนาถฟังทันทีที่เถอะเดินมาถึงหน้าห้องผ่าตัดแลถามว่าเหตุใดพระองค์ต้องอยู่ที่นี่ นีฤนาถพอได้ฟังคำเล่าจากโอษฐ์ท่าชายก็เข้าใจได้ในทันทีพี่สาวเธอมีนิสัยเช่นนี้จนทำให้ตัวเองเดือดร้อนอยู่ตลอดตั้งแต่เด็กแล้ว 

    “แล้วนี้เข้าไปนานหรือยังเพคะ”

    “ได้เกือบ 1 ชั่วยามแล้วครับ”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ตอบนีฤนาถพร้อมกับอาการนั่งไม่ติด ท่าทางเป็นกังวลแลพระทัยร้อนมิใช่น้อย ก็ทั้งสองคือคนทีี่ท่านชายรัก จักให้มิเป็นกังวัลได้อย่างไรเธอคิดในในใจ ระหว่างที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ทั้งคู่ ก็มีผู้คนมากมายพากันมาที่ห้องผ่าตัด จนทำให้นีฤนาถแลท่านชายออกจากภวังค์

    “ยัยนี พี่เราเกิดอุบัติเหตุทำไมมิบอกแม่สักคำ แม่ต้องคาดคั้นจากป้าผ่องถึงจักยอมบอกแม่ แล้วเหตุใดท่านชายถึงเสด็จมาที่นี่ได้เพคะ”

    “แมใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ นีรู้ว่าถ้าแม่รู็แม่จักเป็นอย่างนี้อย่างไรคะ นีเลยห้ามมิให้ป้าผ่องบอกแม่ ส่วนท่านชายท่านก็มาเฝ้าลูกของท่านเช่นกันค่ะ ทั้งสองคนเกิดอุบัติเหตุพร้อมกันค่ะ”

    นีฤนาถเป็นคนตอบคำถามแม่นงนุชแทนหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ เมื่อท่านชายทอดเนตรเห็นว่ามีแต่คนมาหานารานิทก็ยิ่งทำให้ท่านรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จนมิกล้าสู้หน้าผู้ใดหรือเอ่ยคำใด ๆ ออกมาอีก ทำได้แค่ปลีกตัวออกมาจากตรงนั้น 

    ท่านชายออกมาสูดอากาศได้ไม่นานเกตระนีก็เดินมาหาท่านชาย

    “นี่เป็นผลมาจากคำทำนายเพคะ”

    “เธอหมายความว่าอย่างไร”

    “ฝ่าบาททรงจำมิได้หรือเพคะ หม่อมฉันจักทวนให้นะเพคะ ว่า'จักต้องแลกด้วยหนึ่งชีวิต'เพคะ”

    “เธอหมายถึงระหว่างชีวิตของนารานิท กับ หญิงรัตน์น่ะหรือ”

    “เพคะ ฝ่าบาทต้องเป็นคนเลือกเพคะว่าจักให้ใครเป็นผู้รอดชีวิต แลจักให้ใครเป็นผู้เสียสละชีวิตนี้”

    “ฉันเลือกไม่ได้หรอกเกตระนี ฉันไม่อาจเลือกให้ใครตายหรือให้ใครรอดได้หรอก ผู้หญิงหญิงคนหนึ่งก็คนในครอบครัวคนเดียวที่เหลืออยู่ที่ฉันรักมาก อีกคนก็ผู้หญิงที่จักช่วยฉันถอนคำสาปได้แลเธอยังมีบุญคุณช่วยชีวิตลูกสาวฉันอีก ฉันจักเลือกได้อย่างไรเกตระนี”

    “แต่ฝ่าบาทต้องเป็นคนเลือกนะเพคะ เลือกคนใดคนหนึ่งเพื่อจักถอนคำสาปได้เพคะ แต่หนึ่งในนั้นต้องมีชีวิตรอดเพคะ”

    เกตระนีเธอมิยอมเสียสละให้ตัวเองตายได้ดอก เพราะเธอจักต้องอยู่เคียงข้างหม่อมเจ้าอสุราพิพัทพัทธ์ไปเช่นนี้จนกว่าจักสิ้นอายุไข แต่ก็ต้องหาตัวตายตัวแทนตายแทนเธอให้ได้นั่นก็คือคุณหญิงรัตน์ณา ท่านชายต้องเลือกแล้วว่าจักให้ผู้ใดรอดชีวิต คนที่ท่านชายรักแลถอนคำสาปได้ หรือคนที่ท่านชายรักหญิงกว่าชีวิต เกตระนีเธออยากจักขอบคุณผู้ที่ขับรถชนนารานิทเสียจริงไม่ว่าจักเป็นผู้ใดก็ตามที่ช่วยกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจให้เธอได้

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์คิดไม่ตกเลยทีเดียว ท่านชายไม่สวามารถเลือกผู้ใดได้ เลือกนารานิทผู้ที่จักถอนคำสาปก็เหมือนเห็นแก้ตัวฆ่าได้แม้กระทั่งลูกที่รักยิ่งกว่าชีวิตเสียอีก จักเลือกลูกสาวตัวน้อย ก็ฆ่าได้แม้แต่คนที่มีบุญคุณต่อลูกสาว ท่านชายมิอาจเห็นแก่ตัวได้เลย มีทางเดียวคือไม่เลือกผู้ใด 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×