ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Remove the curse with love คำสาปถอนด้วยรัก

    ลำดับตอนที่ #10 : ง้องอน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 65


    - 1 อาทิตย์ หลังจากกลับจากทะเล - 

    “เฮ้ออ~ วันนี้ท่านชายพัทธ์ก็ทรงเด็จมาอีกแล้ว ท่านชายพระทัยแน่วแน่จริง ๆ ตามง้อพี่นิททุกวันเลย ส่วนคนของเราก็ไม่มีทีท่าว่าจักใจอ่อนอะไรเลย นีละกลุ้มจริง ๆ”

    “บ่นอะไรของเธอเล่ายัยนี เย็บผ้าไปเลยนะ ลูกค้าจักมารับวันนี้แล้วประเดี๋ยวก็เสร็จไม่ทันดอก”

    “เรื่องบ่นของพี่กับท่านชายนั่นแหละ มิรู้จักใจแข็งอะไรกันหนักหนา ท่านชายก็อุตส่าห์แสดงความจริงใจให้พี่เห็น นีไม่รู้ดอกนะว่าพี่มีเรื่องอะไรกัน แต่นีเห็นพี่ไม่ยอมคุยกับท่านชายตั้งแต่ก่อนไปทะเลแล้ว พอไปทะเลก็เห็นท่าว่าดีขึ้นมาหน่อยแล้วสุดท้ายกลับแย่กว่าเดินเสียอย่างนั้น”

    “พอเลย ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ขืนเราพูดอีกคำเดียวพี่จักไปหลังร้านจริงด้วย”

    “ก็ได้ค่ะ นีไม่พูดแล้ว”

    นีฤนาถหยุดพูดตามคำขู่ของนารานิทแล้วก้มหน้าทำงานต่อ ส่วนนารานิทก็กลับคิดทบทวนคำพูดของน้องสาวเสียอย่างนั้น จักให้เธอใจอ่อนกลับไปญาติดีกับท่านชายได้อย่างไร ท่านชายทรงมีลูกแลภริยาเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่กับมาสารภาพบอกชอบเธอ  แลยิ่งท่านชายทรงมาหาเธอทุกวันอย่างนี้ยิ่งแล้วใหญ่ไม่ดีต่อตัวเธอเลย ต้องตัดไฟเสียต้นลมทำใจแข็งไปน่ะถูกแล้ว แต่เธอจักทำใจแข็งไปได้สักกี่น้ำกันเชียว นารานิทเธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ให้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นขณะนี้ เธอรับมือกับมันไม่ถูกจริง ๆ

    หลังจากนั้นเรื่อยมาหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ก็มาหานารานิทพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือไม่ซ้ำอยู่เสมอ แต่เธอก็คอยหลบหน้าท่ายชายไปหลังร้านอยู่ตลอด ไม่ว่าท่านชายจักมากี่ครั้งก็ไม่เคยเจอเธอเลยสักครั้ง บางครั้งที่ติดธุระก็จักให้คนมาส่งดอกไม้ให้นารานิทแทนทำแบบนี้แทบทุกวันมิเคยขาด แต่ท่านชายก็ไม่เคยได้พบหน้านารานิทเลย ทำได้แค่อดทนรอสักวันที่นารานิทจักใจอ่อน 

     

    - ผ่านไปเป็นแรมเดือน -

    “นี่มันเกือบเดือนแล้วนะคะ พี่นิท พี่มิคิดจักใจอ่อนให้กับท่านชายบ้างเลยหรือ? นีเริ่มจักสงสารท่านชายแล้วสิ มาหาพี่แทบทุกวันเพื่อจักปรับความเข้าใจกัน พี่ก็หนีเข้าหลังร้านตลอด แล้วไหนจักดอกไม้ที่พี่ไม่ใส่ใจมันนี่อีก ปล่อยให้เหี่ยวเฉาเสียอย่างนั้น”

    “เลิกบ่นได้แล้วหนา เราไม่เบื่อหรือบ่นเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ได้ทุกวัน พี่เบื่อจักตาย”

    “นีเลิกบ่นก็ได้ค่ะ แต่พี่นิทเถอะทำแบบนี้ไปทำไม ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมาเลย”

    “พี่มีเหตุผลของพี่”

    จริงอยากที่นีฤนาถว่า เธอหลบหน้าท่านชายอย่างนี้ไม่ได้ตลอดดอก อย่างไรเสียก็ต้องมีสักวันที่จักต้องเผชิญหน้ากันตรง ๆ แต่เธอแค่รู้สึกยังไม่พร้อมที่จักเผชิญหน้ากับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์อย่างไรอย่างนั้น ไม่รู้เพราะอะไร

    ทางฝั่งหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เองตามง้อนารานิทจนเกือบจักท้อ แต่ก็ไม่คิดยอมแพ้เสียง่าย ๆ ถึงแม้บางวันตัวท่านชายเองไม่ว่างหรือติดธุระก็จักให้คนไปส่งดอกไม้ให้นารานิทเช่นเดิมเสมอ แต่ถึงอย่างไรท่านชายเองก็จักทรงทำให้ตัวท่านว่างเพื่อที่จักไปหานารานิทด้วยตัวพระองค์เองให้ได้ ท่านชายเองไม่เคยคิดเลยว่าสตรีจักเป็นบุคคลที่ง้อยากเช่นนี้ หรือเพราะคือนารานิทก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ เธอคือคนเดียวที่ท่านชายยอมทุ่มเททุกสิ่งอย่างให้ขอเพียงแค่เธอยอมให้พระองค์เห็นหน้าสักครั้งเดียวก็เพียงพอ ท่านชายเองก็จนปัญญามิรู้จักใช้วิธีใดที่จักง้อนารานิท เพิ่งจักเคยง้อสตรีเป็นครั้งแรกแท้ ๆ หากถามถึงเหตุผลว่าเหตุใดต้องทำถึงขนาดนี้ ก็อาจจักเพราะว่าเธออาจคือคนเดียวที่สามารถช่วยหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์คนนี้ถอนคำสาปก็เป็นได้ใครจักรู้ แลการที่จักทำให้เธอยอมช่วยคือต้องทำให้เธอรักแลไว้ใจเธอถึงจักยอมเสียโดยง่าย ท่านชายทรงคิดอย่างนั้น แต่ความจริงแล้วไม่ง่ายอยากที่เคยคิดเลยสักนิด

     

    - ร้านตัดเสื้อนฤบดินทร์ -

    “เห็นวันนี้ท่านชายคงยอมแพ้แน่เลยค่ะ นี่ก็จักเย็นแล้วยังไม่เสด็จมาเสียที”

    “แล้วเราจักเดือดร้อนอะไรด้วย  อยากให้ท่านมาทุกวันหรือไง พี่อยู่ห่างท่านชายนั่นแหละดีแล้ว”

    “ขอโทษนะครับที่ผมมาช้า…หนูนิท?…ประเดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป”

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์เดินเข้ามาพอดีกับที่นารานิทกำลังพูดกับนีฤนาถ เมื่อนารานิทเห็นท่านชายเข้าก็รีบหันหลังเดินหนีท่านชายไป แต่ท่านชายกับรั้งเธอไว้ได้ ทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับท่านชายเสียที

    "ท่านชายเด็จกลับไปเถอะเพคะ หม่อมฉันมิมีอะไรจักพูดคุยกับพระองค์"

    "เหตุใดกันล่ะ หนูนิท เหตุใดถึงได้พูดจาห่างเหินกันเช่นนั้นแลเพราะอะไรถึงได้หลบหน้าผมอย่างนี้ผมทำอะไรผิดหรือทำอะไรให้หนูนิทไม่พอใจหรือครับ"

    "ไม่มีอันใดดอกค่ะ หม่อมฉันแค่เพียงมิอยากทำความสนิทสนมใกล้ชิดกับพระองค์อีก ประเดี๋ยวจักมีคำครหาได้เพคะ หม่อมฉันเป็นหญิงนะเพคะ มิเคยถูกเนื้อต้องตัวชายใดมาก่อน แต่ตั้งแต่ที่หม่อมฉันรู้จักท่านชาย ท่านชายทรงทำให้หม่อมฉันเสียเกลียดมาหลายครั้งแล้วเพคะ ท่านชายอย่ามายุ่งกับหม่อมฉันอีกเลยเพคะ หม่อมฉันขอร้อง"

    นารานิทเอ่ยกับหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ตามตรง พร้อมกับสะบัดหัตถ์ท่านชายทิ้งแลเดินเข้าหลังร้านไปทิ้งให้ท่านชายทรงอึ้งกับคำตอบที่ทรงได้ยินจากเธอเมื่อครู่ ไม่เคยมีผู้ใดปฏิเสธหม่อมเจ้าอย่างเขาได้เลย สตรีทุกคนเมื่อได้ยลโฉมท่านชายองค์นี้ก็ต่างพากันกรูเข้ามาหา จึงทำให้ท่านชายได้แต่ปฏิเสธผู้หญิงที่เข้ามาหาอย่างสุภาพ แต่เธอคนนี้คือผู้เดียวที่คอยเอาแต่ปฏิเสธหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์พระองค์นี้อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งทำให้ท่านชายทรงอยากได้เธอมาครอบครองมากขึ้นแลก็ยิ่งแน่ใจว่าเธอคือผู้ที่จักถอนคำสาปนั้นได้

    "ท่านชายเพคะเด็จกลับไปก่อนเถอะเพคะ วันนี้พี่นิทเหนื่อยที่จักรับแขกแล้วค่ะ"

    เสียงเของนีฤนาถเรียกท่านชายให้กลับมาจากความคิดของตน

    "คุณนี ช่วยผมด้วยเถอะนะครับ ผมไม่รู้จักง้อนารานิทอย่างไรแล้ว"

    "แล้วท่านชายทรงทำอะไรให้พี่นิกโกรธล่ะคะ นีจักได้ช่วยถูก"

    "เอ่อ..เอ่อ..ผมสารภาพไปว่าชอบพี่สาวของคุณน่ะ แลหลังจากนั้นเธอก็ไม่คุยกับผมอีกเลย"

    "หา! ท่านชายทรงบอกชอบพี่นิทหรือเพคะ"

    "ใช่"

    หม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์รับคำสั้น ๆ เพียงเท่านั้น และไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์น่าอายนี่อีก ส่วนนีฤนาถก็ได้แต่ตกใจกับคำตอบของท่านชายที่บอกสาเหตุว่าทำไมพี่สาวเธอถึงเอาแต่หนีอย่างนี้ แต่พอรู้เหตุผลก็เข้าใจได้ทันทีเลยสมควรอยู่หรอกที่พี่นิทของเธอจักโกรธ นีฤนาถคิดเช่นนั้น

    "ท่านชายทรงทำให้เรื่องมันยุ่งยากเช่นนี้ นีคงช่วยอะไรท่านชายได้ไม่มากดอกค่ะ"

    "ไม่เป็นไรดอก ขอเพียงจากมีวิธีอื่นที่จักทำให้นารานิทกลับมาดีกับผมดั่งเดิมก็พอครับ"

    "นีว่าท่านชายต้องให้เวลาพี่นิทสักหน่อยนะเพคะ มีคนเข้ามาวอแวกับพี่นิทมากมายก็จริงแต่ก็มิมีชายใดกล้าสารภาพรักกับพี่นิทตรงๆอย่างท่านชายดอกเพคะ แลพี่นิทเองเธอคงทำตัวไม่ถูกที่จู่ๆก็มีชายคนหนึ่งมาสารภาพแลซื้อช่อดอกไม้มาให้เธอทุกวันเช่นนี้ นีว่าท่านชายควรหยุดทำทุกสิ่งก่อนนะเพคะ ให้เวลาพี่นิทเธอหน่อยเถอะเพคะ เมื่อเธอรู้สึกดีขึ้นประเดี๋ยวก็ยอมพูดคุยกับท่านชายเองเพคะ"

    "ขอบพระคุณมากครับ ผมจักทำตามที่คุณนีบอกทุกคำเลยครับ ถ้าเช่นนั้นผมขอตัวก่อนครับ สวัาดีครับ"

    "สวัสดีค่ะ"

    นีฤนาถหัวเราะเยาะหม่อมเจ้าอสุราพิพัทธ์ในใจ คิดหรือว่าเธอจักเข้าข้างยอมช่วยท่านชาย ตอนแรกก็เห็นใจอยู่ดอกที่ดูจริงใจดี แต่มาสารภาพบอกชอบพี่นิทเช่นนี้ทั้งที่เพิ่งรู้จักไม่นานมิมีหญิงใดทนรับได้ดอกหนาท่านชายพัทธ์ แถมยังเห็นกับตามาอีกด้วยว่ามีลูกแล้วถึงมิรู้ว่าภาริยาของท่ายชายเป็นผู้ใดแต่ก็คงเป็นหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ นั่นกระมัง แลแน่นอนว่าเธอต้องช่วยพี่สาวสุดที่รักของเธออยู่แล้ว อย่างน้อยก็สักช่วงหนึ่งที่ท่านชายทรงจักหยุดทำอะไรเช่นนี้ให้พี่สาวเธอได้หายใจแลคิดทบทวนหัวใจตัวเองบ้าง ท่ายชายเองก็ควรได้คิดทบทวนหัวใจตัวเองด้วยเช่นกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×