คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : จุดเริ่มต้น ... และหลังจากนั้น ???
ผมรู้สึกเหมือนตัวผมยืนโงนเงนๆ กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนชานชลารถไฟฟ้า สลับกับเหลือบมองดู รปภ.หวงเส้นเหลืองยังกะลูก ที่เมื่อกี้ผมแค่เผลอไปเหยียบมันไม่ถึงฝ่าเท้า แม่งเป่านกหวีดซะขวัญกูกระจายหมด
ถึงจะเป็นวันหยุด แถมช่วงเวลาเร่งด่วนแบบนี้ ผมก็ยังค่อยๆเดินสะโหลสะเหลขึ้นรถไฟแบบสบายอารมณ์ แต่จริงๆจะเรียกสบายอารมณ์ก็ไม่ถูก เพราะตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน เพราะเรื่องเมื่อคืนที่ผม เอ่อ ...ละ ..ละ... ลักละ... (ถัง : ลักหลับ) เออ !! นั่นแหละ !! แต่จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะเว้ยยยยย !!! แค่เกือบๆ (ในหลายๆรอบ) เท่านั้นแหละ !!! มันทำให้ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่าเมื่อคืนผมคิดบ้าอะไรกับเพื่อน !?
แถมตื่นมายังโดนน้าตั๊กสวดเข้าให้ เพราะดันหอบผ้าหอบผ่อนมานอนที่โซฟา โธ่ !!! น้าตั๊กจะไปรู้อะไร!!? ขืนผมยังฝืนนอนกับมันต่อก็ประสาทแดกกันพอดีสิครับ !!! ก็ผมดันเล่นตื่นมาทุกๆ 2ชั่วโมงแบบนี้ แล้วไอ้ตัวดีที่ผมหิ้วกลับมาก็เสือกชิ่งหนีไปตั้งแต่เช้า (โอเค...ผมตื่นสายเอง)
ผมมองนาฬิกาข้อมือบอกเวลาบ่ายแก่ๆแล้วชักเซ็ง ที่ผมลงทุนเข้าสยามวันนี้เพราะไอ้อาร์ทมันดันทำโน้ตเพลงหาย จนผมต้องมาซื้อใหม่ให้มันอีก !!! โว้ยยยยยยยยยยยย กูอยากพักผ่อนมั่งเหอะ !!!!
“เงินทอน 84 บาท ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ” พี่แคชเชียร์แสนสวยพูด ก่อนจะยิ้มละไม ไทยแลนด์ให้ผมอีก จนผมชักอยากจะเข้าไปใช้บริการใหม่ซะเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ติดตรงที่ท้องผมมันกระทำการอารยโครกครากอยู่เงียบๆ
โอ่ยยยยย ~ ข้าวเช้า ข้าวเที่ยง ก็ยังไม่ได้กิน กินอะไรดีวะกู ?? จะว่าไปอยากกินอะไรอุ่นๆแฮะ
อืมมมม... กินอะไรดี?? กินอะไร?? กินอะไร??
“MK สุกี้สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามีโต๊ะรึยังคะ??” พี่พนักงานสาว (สวยน้อยกว่าพี่ร้านเมื่อกี้)เดินเข้ามาถามผม พร้อมกับบัตรคิวในมือ อ้อออออ !!! วันนี้วันหยุดนี่เอง ถึงว่าคิวก่อนผม ก่อนของก่อนผม ต่างก็เป็นครอบครัวกันซะหมด
โอเค ผมอาจจะเป็นวัยรุ่นคนเดียวที่เข้ามากินร้านอาหารครอบครัวตัวคนเดียวในวันหยุดแบบนี้ ...แต่ เฮ้ยย?? ...เห็นใครแวบๆวะ??
“ขอโทษนะคะน้องคะ ไม่ทราบว่ามีโต๊ะรึยังคะ??”
“เอ่อ ... มีแล้วครับ”
“หวัดดี ไออ่อน” ผมแกล้งทักไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำให้ผมแทบจะไม่ได้นอนทั้งคืน ขณะที่มันกำลังคีบลูกชิ้นปลาก้อนโตเข้าปาก ทันทีที่เนมเห็นผม มันก็เผลอกลืนลูกชิ้นเข้าไปเอื๊อกใหญ่ เอาเข้าไปๆ กูไม่แย่งมึงกินหรอก ทำกลัวไปได้
“เลี้ยงลูกกรอกเอาไว้เปล่าวะเนี่ย??” เนมเงยหน้าขึ้นมาถามผม พลางยกแก้วน้ำชาซดไปอีกอึกใหญ่
“เห็นเด็กน่าสงสารมานั่งกิน MK คนเดียว กูเลยมานั่งเป็นเพื่อน” ว่าแล้วผมก็หย่อนก้นนั่งลงที่ตรงข้ามกับศิลป์ สภา โดยไม่ต้องรอให้เจ้าของโต๊ะอนุญาตซะก่อน (ผมมารยาทดีเนอะ)
“มึงไม่มีโต๊ะ มึงก็บอกกูมาเหอะ” ... เกลียดคนรู้ทันจริงเว้ยยยย !!
ผมเอื้อมไปหยิบเมนู พลางสอดส่ายสายตา สำรวจอาหารบนโต๊และในหม้อที่อุดมไปด้วยเนื้อสัตว์ ......... ผักอยู่ไหนนนนนวะะะ !!!!????
“แดกแต่เนื้อ เดี๋ยวก็ท้องผูกหรอกมึง”
“อะไรๆ กูกินแล้วเหอะ นี่ไงๆๆ” ว่าแล้วมันก็เอาตะเกียบชี้ไปที่จานหมูแดงที่ซึ่งแตงกวา3ชิ้นเคยวางอยู่ เออ วันนึงแดกผักไปสามชิ้น ขอให้มึงโตวันโตคืนละกัน
“พี่ครับๆ เอา ผักบุ้ง 2 ผักกาด 2 เห็ดเข็มทอง เห็ดฟาง วุ้นเส้น หมูสไลด์ หมูนุ่ม แล้วก็น้ำแตงโมปั่นครับ” ผมสั่งรัวเป็นชุด จนคนตรงข้ามเคี้ยวข้าวตุ้ยๆเงยหน้าขึ้นมองผมแทบจะในทันที
“ไม่เลี้ยงนะเว้ย” ดักกูก่อนเลยเหรอวะเนี่ย ???
“กูจ่ายเองอยู่แล้ว” ผมพูดเสียงกลั้วหัวเราะ ทีเรื่องหัวขโมยอะไรนี่ไม่กลัว แต่เรื่องเงินนี่ ความรู้สึกไวขึ้นมาทันทีเชียวนะมึงนี่ แต่หลังจากก้มไปกินต่อไปไม่กี่คำ เนมมันก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
“จะให้กูเลี้ยงก็ได้ แต่งบ 20”
“มึงจะให้กูแดกหางกุ้งเหรอ ไอ้เกลือออออออออ!!!” แค้นฝังลึกเหลือเกินนะ !! ผมปาทิชชูเข้าใส่หัวของไอ้คนที่นั่งยิ่มเผล่อยู่ตรงข้าม แก้คันมือ ป่วยอยู่แท้ๆนะมึง
“เออ แผลมึงหายรึยังวะ??” อืมมมม ผมนี่ก็ถามไม่คิด คืนเดียวมันจะหายได้ยังไง แต่ผมกลับได้คำตอบเรียบๆแทนที่จะได้คำตอบกวนๆจากศิลป์ สภา
“ก็ไม่ค่อยเจ็บแล้วอ่ะ ดีกว่าเมื่อคืน นอนไม่ค่อยหลับ” สงสัยมันยังเจ็บแผลอยู่มั้ง??
หลังจากฟาดสุกี้ไปหม้อนึงเต็มๆ ผมกับเนมเลยต้องเดินย่อยอาหารมาเรื่อยๆจนไปหยุดเข้ากับจอเลื่อนของห้างที่จัดเอาไว้ดูรอบหนัง
“ดูหนังผีมั้ย?? กูเลี้ยงเอง” ผมเอ่ยปากถามทั้งๆที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่จอเลื่อน
“แต่กูอยากดู วอลท์ ดิสนีย์” ผมเองก็เคยสงสัยนะว่าขีดจำกัดความปัญญาอ่อนของคนเรามันสิ้นสุดตรงไหน แต่ดูเหมือนไอ้คนข้างๆผมนี่จะหาจุดสิ้นสุดของมันไม่ได้ ตั้งแต่ไอ้ไมค์พลาสติกนั่นแล้วนะมึงอ่ะ !!
“ดูหนังผีดิ เร้าใจดี” ผมพยายามพูดโน้มน้าวใจมันให้ได้ ขืนให้ไปดูวอลท์ ดิสนีย์ มีเด็กทั้งโรงแบบนั้น หนวกหูตาย
“ดูวอลท์ ดิสนีย์เหอะ จะได้เป็นต้นแบบงานออกแบบไง” เหรอออออออ งั้นกูคงคิดไปเองว่ามึงอยากดูจริงๆ ไม่ใช่เพื่องาน
“แต่กูอยากดูหนังผี”
“มึงก็กลัวผี แล้วยังจะเสือกดู... โอ๊ะ !?
ขอโทษครับ” นั่นนน ซุ่มซ่าม ไปชนคนอื่นอีก
“ไม่เป็นไรครับ” เด็กหนุ่มอายุราวๆเดียวกับผมหันมาตอบด้วยท่าทียิ้มแย้ม ขณะที่แฟนสาวที่ยืนควงแขนอยู่ข้างๆต้องหันกลับมามอง
“อ้าว เนม ??”
“ไหม???” หือออ ?? อะไรวะ รู้จักกันเหรอเนี่ย ??
“มาดูหนังกับเพื่อนเหรอ ?? เนมจะดูเรื่องอะไรล่ะ??” เจ้าหล่อนยังคงซักไซ้ต่อไป ดูเหมือนจะรู้จักกันแฮะ ผมยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ มองหน้าแฟน (มั้ง??)ที่หันมายิ้มเป็นเชิงขอโทษมาที่ผม
“ไม่รู้ดิ” ศิลป์ สภาผมตอบเสียงเรียบจนผิดสังเกต ว่าแต่ .... มึงจะตอบห้วนไปรึเปล่าวะ?? ยังไงเค้าก็ผู้หญิงนะเว้ยมึง
“เหรอออ... ไหมว่าจะดูวอลท์ ดิสนีย์ล่ะ เรื่องนี้ตัวการ์ตูนมันน่ารักดี” แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น คนที่ชื่อไหมก็ยังคงจ้อด้วยเสียงร่าเริงต่อไป ซึ่งแปรผันตรงกับไอ้คนข้างๆผมซะเหลือเกิน ยิ่งคุยกันมาเท่าไหร่ น้ำเสียงมันก็ยิ่งเรียบมากขึ้นๆจนผมคิดว่ามันจะติดเป็น เย็นชา
“อืม” เนมพยักหน้านิดหน่อย และแล้วแฟนของไหมก็สะกิดให้เดินไปเสียที เพราะคิวเริ่มเคลื่อนที่แล้ว
“ไหมไปก่อนนะ” เธอหันกลับมายิ้มส่งท้าย ก่อนจะเดินควงแขนแฟนเธอจากไป
ผมกับเนมเดินมาหยุดยังหน้าช่องขายตั๋ว ดูท่าเนมมันจะอยากดู วอลท์ ดิสนีย์จริงๆแฮะ เอาวะ ตามใจมันละกัน
“สวัสดีค่ะ ต้องการชมภาพยนตร์เรื่องอะไรดีคะ??”
“วอลท์ ดิส...” แต่ยังไม่ทันจะจบประโยค ไอ้คนข้างๆที่ยืนเงียบมาได้สักพักก็เปิดปากแทรกขึ้นมา
“พี่ครับๆ หนังผีเรื่องนี้ฉายกี่โมงเหรอครับ??” ......ก็ไหนมึงว่าจะไม่ดูไงวะ !!??
ไม่มีคำตอบอะไรยืดยาว นอกจากรอยยิ้มกวนๆของมันพร้อมกับคำพูดสั้นๆ
“ดูหนังผีก็เร้าใจดี”
เอ้อออออ !!! งงเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!!!!!
หลังจากวันนั้น ผมก็รู้สึกสนิทกับเนมมากขึ้น คงเพราะหนังผีเรื่องนั้นที่หลอนชิบหายด้วยแหละ ดังนั้นตกเย็นใครประสาทหลอนก่อนก็อพยพหอบงานการมาทำกันเลยทีเดียว ชักเสียใจจริงๆนะเนี่ยที่บ้าจี้ไปดูหนังผี แม่งงงง หลอนจนถึงตอนนี้เลยอ่ะครับ !!!
แถมวันนี้วันศุกร์สุดสัปดาห์ที่คอนแวนต์เค้าขอวงดนตรีไปเล่นในงานเขาให้หน่อย แล้วพวกผมก็ดันแจ๊คพอตแตก โดนเข้าซะงั้น (ทำไมตอนซื้อหวยไม่โชคดีแบบนี้บ้างว้า !!!) เป็นเหตุให้ผมต้องเปลี่ยนหน้าที่จากหัวหน้าวงโยฯมายืนเป็นกรรมกรให้ไอ้พวกชมรมทั้งหลายอยู่นี่ไงล่ะ !!
“พี่ฟิล์มๆๆๆ !!! ขาดแอมป์ตัวนึงอ่ะ !!”
“เฮ้ยยย !! ฟิล์ม ๆๆ!!! อย่าลืมหยิบสายไฟที่พื้นมาด้วยนะเว้ยยยย !!”
“สแตนด์สองอันด้วยพี่ !!!”
“กูลืมโน้ตไว้บนโต๊ะอ่ะ !!! มึงช่วยหยิบมาด้วยนะเว้ยยย !!”
“พี่ฟิล์มมมมมมม หิวน้ามมมมมมมม !!!!”
“โว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!! พวกมึงจะลืมห่าอะไรกันนักกันหนาวะ !!??” ผมตะโกนกลับไปอย่างเดือดดาล แดดยิ่งร้อนๆอยู่ พวกแม่งนี่อ้อนตีนกูจริง !!! แล้วไอ้ประโยคหลังนี่ใครพูดวะ !!!?? เนียนเหลือเกินนะพวกมึง แล้วนั่น !! ใช้กูแล้วเสือกมายืนหัวเราะกันอีก นี่พวกมึงจะแกล้งกูใช่มั้ยเนี่ยยยย ???
แต่ถึงจะบ่นไปยังไงผมก็ต้องเป็นคนไปเอาของทั้งหมดนั้นมาอยู่ดี แถมแดดก็ร้อนซะจนอยากจะแก้ผ้าเดิน โอ้ยยยย !!! ร้อนนนนนนนนนนว้อยยยยยยยยยยยยยย !!!!!!!!
ผมเดินฮึดฮัดขึ้นไปบนห้องชมรมทั้งๆที่เหงื่อแม่งก็ไหลยังกะท่อน้ำแตก แถมคนที่เดินสวนทางมาก็ยังตอกย้ำความซกมกของผมด้วยการเดินเลี่ยงไปต่อหน้าต่อตา เออออออ ซ้ำเติมกันเข้าไป!!
แต่ทันทีที่ผลักประตูห้องชมรมเข้าไปก็เห็นประธานชมรมผมนั่งเย็บเบาะโซฟาอย่างขมักเขม้น (นี่ก็อีก งานการมากมายไม่ทำนะมึง !!) จนผมอยากไปแกล้งมันซักหน่อย
“โน่ๆ !” ผมเรียกมันซึ่งมันก็ตอบผมทั้งๆที่มือก็เย็บเข้าเย็บออกอย่างไม่วางตา
“อะไรวะ??”
“เย็บถุงเท้าให้หน่อย ถุงเท้ากูขาด” ว่าแล้วก็ยื่นคาร์สันที่เต็มไปด้วยช่องระบายอากาศแหย่เข้าไปจนไอโน่มันจิ้มเข็มนั้นเข้าเนื้อผมไปเต็มๆ
“โอ๊ยยย เชี่ยยย !!” ผมแหกปากดังลั่นพลางคลำเท้าตัวเองป้อยๆ อันที่จริงก็ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกครับ คันๆ แค่อยากแหกปากโชว์ลูกคอเฉยๆ ฮ่าๆ
แล้วขณะที่ผมกำลังมองหาเข็มไปจิ้มไอ้โน่ต่อ จู่ๆประตูห้องชมรมก็เปิดขึ้น เรียกความสนใจของผมกับโน่ให้เงยหน้าขึ้นมอง
“อ้าว พี่โน่ พี่ฟิล์ม สวัสดีครับ” อื้อหือออออออออ !!! สวรรค์ทรงโปรดดด !! แหม อยู่ๆอากาศมันก็ดีขึ้นมาซะอย่างงั้นนะครับ ฮ่าๆ แต่ไม่ทันที่ผมจะห้ามไอ้สันดานเสียๆของไอ้โน่มันก็ทำงานแบบอัตโนมัติ
“มิกครับ !!!!!!”
“คะ ครับๆ !!??” ไอ้โน่ตะโกนเสียงดังลั่น ทำเอาเด็กขวัญอ่อนตรงหน้าสะดุ้งโหยง ว่าแล้วมือผมก็แกว่งไปโบกหัวมันทีนึง
“มึงจะตะโกนหาอะไรวะ !? น้องแม่งตกใจหมด” แน่ะ... ยังเสือกหัวเราะชอบใจอีกนะมึง เป็นเอามากนะมึงเนี่ย เจอน้องมิกทีไรก็เป็นต้องตะโกนเสียงดังๆแกล้งไปซะเรื่อย
“แล้วมิกขึ้นมาทำไมอีกล่ะครับ ?? วันนี้ไม่มีซ้อมนี่”
“อ๋อออ พี่โอมขอช่วยมิกยกของมาให้น่ะครับ” ว่าแล้วทั้งผมและโน่ก็กวาดตาไปมองไอ้คนใช้แรงงานเด็ก (น่ารัก) ที่ยืนยิ้มเผล่อยู่ข้างหลัง อ้ออออ เดี๋ยวนี้มีแผนสูง ผมหับไปสบตามันซึ่งมันก็ยักคิ้วกวนซ่งตีนกลับมาให้
เฮ้อออ ถึงผมจะทำใจไว้แล้วว่าเด็กที่ผมอุตส่าห์เฝ้าทนุถนอมโดนเชี่ยโอมคาบไปแดก แต่มันก็แพ้รังสีความน่ารักของน้องไปซะทุกที จนผมทำใจไม่ได้ โอ๊ยยย~ โอ๊ยยย ~ (น้องมิกมันคนเว้ย !! ไม่ใช่อุลตร้าแมน !!)
ผมหันกลับไปเก็บข้าวของที่ไอ้พวกที่อยู่ข้างล่างนั้นมันสั่งมา ไม่นานประตูห้องชมรมก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง
“มิกๆ ดิคฯที่จะยืมอ่ะ อันนี้รึเปล่า??” แต่คนที่โผล่หัวเข้ามากลับเป็น ศิลป์ สภา ซะงั้น
“เนม มาไมวะ??” ผมถามเนมที่กำลังยืนหอบแฮ่กๆคงเพราะวิ่งขึ้นบันไดมา แถมคอมันก็แขวนแฮนดี้ไดรฟ์สี่ห้าอันพะรุงพะรังเต็มไปหมด ฝ่ายศิลป์มึงนี่ก็งานยุ่งเนอะ แล้วทำไมไอ้ตำแหน่งเลขา สภานี่มันว่างจังวะ ?? วันๆไม่ทำอะไร ดูอย่างวันนี้ก็โดดมาร่วมวงกับพวกเราซะงั้น
“น้องกูขอยืมดิค กูเลยรีบวิ่งเอามาให้เนี่ย” ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ที่แท้ก็เอาของมาให้น้อง ...มิก ........
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!?????????
“เดี๋ยวนะๆ เนม มึงกับน้องมิกเป็นพี่น้องกันเหรอวะ??” โน่ที่ดูเหมือนจะตั้งสติได้ก่อน ถามกลับไปอย่างรวดเร็ว โอ๊ยย แย่งถามมันไม่ทันว่ะครับ !!
“ฮะ? เป็นลูกพี่ลูกน้องน่ะ แต่สนิทกัน มิกมันเลยเหมากูเป็นพี่เฉยๆ แล้วนี่ทำไมทำหน้าตกใจอะไรกันวะ??” ตกใจความหล่อของตัวเองมั้งงงงงงงงงงง !!! ก็มีอยู่เรื่องเดียวน่ะแหละ !! แต่ว่า พอเหลือบไปเห็นหน้าไอโอมแล้วโคตรฮาเลยครับบ !!!! ก็ดูมันทำหน้าดิ ทั้งดีใจ เสียใจ ตกใจ งง แม่งรวมอยู่ในหน้าเดียว กร๊ากกกก !! ความรักมึงต้องฝ่าฟันเยอะหน่อยว่ะเพื่อน ฮ่าๆๆ !!!
และแล้วพวกเราก็ปล่อยให้ไอ้โอมยืนแข็งเป็นอนุสาวรีย์ย่าเหลต่อไป ส่วนผมก็พันสายไฟเก็บไปเรื่อยๆโดยมีเนมเป็นลูกมืออยู่ข้างๆ ตกลงงานมึงเยอะป่าววะเนี่ย??
“ว่าแต่ ชมรมดนตรีขนของจะออกไปไหนเนี่ย??” ไม่รู้ว่ามันเป็นคนที่รู้สึกตัวช้า รึไม่ใส่ใจโลกกันแน่ ทำไมมึงไม่ถามกูซะพรุ่งนี้เลยล่ะวะ??
“ไปเล่นที่งานคอนแวนต์ว่ะ เค้าเชิญมา” พูดจบผมก็เนียนยื่นสแตนด์โน้ตสองอันไปให้เนมที่มันก็รับมาแบบมึนๆ เออแฮะ ใช้งานง่ายจริง ดีกว่าไอ้พวกในชมรมตั้งเย๊ออออออ !!!
“มึงจะไปด้วยกันรึเปล่า?? เหลือที่เด็กขนของที่นึง” ผมถามเนมพลางเดินหอบสัมภาระร้อยแปดลงบันไดออกมาจากตึก แล้วจู่ๆเชี่ยนี่ก็ดันแหย่ขามาดักผมไว้จนเกือบล้มหน้าคว่ำอีก !! เชี่ยย !! ตู้แอมป์แพงนะมึง !! ผมหันวับไปด่ามันอุบ ไอ้นี่ก็หัวเราะชอบใจอีก (มึงกับโน่นี่อยู่ด้วยกันได้นะเนี่ย !!)
“กูต้องอยู่ทำภาพเหอะ ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย ? งั้นกูไปก่อนนะ” จริงๆอยากจะให้ลากเอาเลขามันกลับไปด้วยเพราะดูไอปุณณ์มันเล่นวิชานินจาหลบไอฟี่มาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว ผมเลยปล่อยให้เนมเดินกลับไป แต่ปล่อยให้ศิลป์สภาเดินไปได้ไม่กี่ก้าว มือผมก็คว้าเอาเสื้อของเนมเข้าอย่างแรงจนมันร้องเสียงหลง โทษว่ะๆ แรงควายไปนิดนึง
“จะเอาอะไรรึเปล่า เดี๋ยวซื้อมาฝาก”
“ไม่อ่ะ”
“เอาน่า ไหนๆมึงก็ช่วยขนของแล้ว เดี๋ยวกูซื้อมาให้”
“งั้น เอาอะไรก็ได้ ง่ายๆ” ยากนะเนี่ย...
“ไปก่อนนะ โชคดีว่ะๆ” ว่าแล้วร่างของเนมก็วิ่งหายเข้าไปในตึกโดยทิ้งปริศนาคำใบ้เอาไว้ให้ผม
ซื้ออะไรให้มันดีวะ !!!?????
“เอา ข้าวโพด เผือก 10บาทครับ” ในที่สุดผมจะตัดสินใจหยุดซื้อขนมครก หลังจากที่เดินวนรอบงานในคอนแวนต์ ก็ยังถือว่าโชคดีละครับที่ไม่มีสาวๆมารุมทึ้งแบบไอโน่ สาวๆสมัยนี้มีตาหามีแววไม่จริงๆน๊า !!
ผมสลับกับไออาร์ท เราตกลงกันว่าผมเล่นครึ่งแรก ส่วนมันก็ต่อครึ่งหลัง ซึ่งดูเหมือนทุกๆอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี เสียงดนตรีจากเวที กับเสียงกรี๊ดของสาวๆคอนแวนต์ก็ยังดังไม่ขาดสาย เพราะเหตุนี้ ร้านขายขนมครกเลยมีลูกค้าประปราย ไม่นานของฝากที่จะเอาไปฝากเนมก็ใส่กล่องโฟมเสร็จสรรพ
“อ้าว ?? นี่เพื่อนเนมรึเปล่า” เด็กสาวคอนแวนต์ในชุดผ้ากันเปื้อนถามขณะที่ส่งกล่องขนมครกมาให้
“ครับ? มีอะไรรึเปล่า” ใครอีกละวะเนี่ยยย ???
“จำเราได้มั้ย เมื่อวันเสาร์ไง” วันเสาร์ ?? ... วันเสาร์ไหนวะ ?? ... อ๋ออออออ !! ไหม เพื่อเนมนี่เองงง !!
“จำได้ๆ”
“ไม่นึกว่าจะอยู่ชมรมดนตรีนะเนี่ย ... เอ้า !! ได้แล้วจ๊ะ” กล่องโฟมอีกกล่องส่งมาให้ผมซึ่งผมก็รับไปแบบงงๆ อะไรวะเนี่ย? เดี๋ยวนี้มีขายแบบยัดเยียดแล้วเหรอวะ??
“เดี๋ยวๆ เงิน”
“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก เราเลี้ยงเอง”
“เฮ้ยย ไม่ได้ๆ รับไปเหอะ” ของซื้อของขายให้กันฟรีๆไม่ได้นะเว้ย !! แต่ได้ก็ดี เอ๊ยยย !! ไม่ได้ !!!
“งั้นไว้วันหลังฟิล์มค่อยเลี้ยงไหมกลับก็ได้นะ” สาวเจ้าพูดพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ผม ก่อนจะกลับไปช่วยงานต่อ
เอ่อ .... แล้ววันไหนละครับ?????
หลังจากแปลงร่างเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้ไม่นาน ผมก็กลับมาเป็น....กรรมกร ต่อครับ ธ่ออออ !!! โลกความจริงอันแสนโหดร้าย ถึงโรงเรียนก็ปาเข้าไปสามทุ่มกว่าแล้ว ไหนจะต้องช่วยขนของลงอีก ขนมครกที่กะจะซื้อมาฝากเนม มันก็ร่อนลงไปหลับอย่างสงบภายในท้องของผมและเพื่อนๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และก็แน่นอนไม่ต้องพิสูจน์ก็รู้ว่าที่ห้องสภาจะไม่มีใครอยู่แล้ว ดังนั้นหลังจากเก็บของเสร็จสรรพ พวกเราจึงยกขโยงกันไปถล่มร้านหมูกระทะบ้านน้องน็อตก็ต่ออออออออ !!!!!! เยสสสสสสสสสสส !!!!
หมูกระทะะะะะะ !!!!!! ฟิล์มมาแว้ววววววววววววววววววววววววววว !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
สาส์นจากกองขยะ :: ฟึ่บบบๆๆๆ !!!! วิ่งมาด้วยความเร็วสูงก่อนจะกระโดดลอยตัวนั่งพับเพียบกลางอากาศ !! หมุนคว้าง360องศา ก่อนจะแลนด์ดิ้งลงพื้นอย่างสวยงามมมมม เอี๊ยยยดดดดด !!! โครมมมม !!!!
กราบบบบบบบบบบบบบบบ ขออภัยท่านผู้อ่านที่ถังมาอัพช้าชิบหายแบบนี้!! (มาช้าแล้วยังสถั่วได้อีกนะแก)
จริงๆกะจะอัพตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แต่มันก็เหลือเชื่อจริงๆที่ชีวิตคนในหนึ่งสัปดาห์มันจะยุ่งขนาดนี้ !!! TT[]TT
ทั้งสอบแบดมินตัน ไปซ่อมโรงเรียนในชนบท และเรื่องอื่นๆที่บั่นทอนพลังการอัพแบบนี้ !!! รวมทั้งหมูอบน้ำผึ้งหนึ่งขีดนั้นด้วย !! เรื่องนั้นคุณ .Y.Y. จะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวนะฮะ โฮะๆ !! (เอาตัวรอดได้ชั่วมาก)
ตอนนี้อุตส่าห์ใบ้รีดเดอร์ไปแย๊บนึง เอ้า !!! ใครทายถูกติดต่อถังเพื่อรับอ้อมกอดอันอบอุ่นได้เล๊ยยยย !!!
ใครนะ !!!?? พูดว่าขยะแขยง !! ฮึ่มๆ ไม่เชื่อก็ถามน้องเนมดูเลยเอ้า !! อ้อมกอดของถังอุ๊น อุ่น เนอะ ^^
เนม :: ....นานาจิตตัง (ว่าแล้วก็หันกลับไปฆ่าสัตว์ (ในเกม) ต่อ)
เฮ่ออออ ทำไมฟ้าให้เราเจอกัน ในวันที่ฉันไม่ดีพอ ??
ความคิดเห็น