ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    || LOVE Share .. รักเราแบ่งกัน || [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #4 : ลักลำโพง ... ลัก ...??

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 52












      “มืดจัง

     

                     เนมพูดขึ้นขณะที่เราเดินอยู่ตรงทางเดินของอาคารเรียนโดยอาศัยแสงแฟลชจากมือถือของมัน (เครื่องผมเปิดแฟลชไม่เป็นอ่ะครับ เก่งเกินไป)  แล้วนี่มึงเพิ่งจะรู้ตัวเหรอออออ !!??  แล้วใครใช้ให้วิ่งมานี่ละ(วะ)ครับบบบ !!! ไม่หยิบอะไรมาซักอย่าง ขนมอะไรก็ทิ้งไว้ตรงนั้นหมด ห้ามใครหยิบไปกินนะเว้ยยย !!!

     

      “มืดๆแบบนี้จะมีผีรึเปล่าวะ? เป็นครั้งแรกที่ผมชักอยากจะกระโดดกัดคอหอยคนข้างๆให้รู้แล้วรู้รอด มึงจะพูดขึ้นทำเพื่ออออ !! หลินฮุ่ยมีกิ๊ก ช่วง ช่วง เป็นเกย์  มันไม่ถามแล้วมันน่าจับมา ฮึ่ย คิดไม่ออก

     

                  แล้วเราสองคนก็เดินเงียบปากกันได้ไม่นาน เสียงไอศิลป์สภาคนเดิม (มันก็ต้องคนเดิมดิ !!) ก็ดังขึ้นมาทำลายความเงียบอีกครั้ง

     

      “เห็นรุ่นพี่ที่สภากูบอกว่า ตอนที่พี่เค้ามาทำกิจกรรมที่โรงเรียนตอนกลางคืนอ่ะ เห็นผู้หญิงเดินอยู่บนอาคารเรียนด้วย กูว่าเมื่อกี้มึงอยู่เงียบๆก็ดีแล้วนะ !!! แล้วจะเสือกเปิดปากมาทำไมวะ !!!??   

     

                    ผมชักจะสาดแสงแฟลชไปมาๆ เพื่อหาเศษกระดาษมาอุดปากไอ้นี่ซักหน่อย มึงช่วยสำเหนียกตัวเองหน่อยเหอะ ว่ากำลังเดินอยู่บนอาคารเรียนนนนนน !!!!

     

      “โหยยยย ฟังแล้วขนลุก มึงคิดดูดิ ดึกดื่นป่านนั้นจะมีใครอีกถ้าไม่ใช่ผี ไอ้คนที่ดูเหมือนไม่กลัวผี เพราะเล่าได้เล่าดี ดันหันมาทำท่าประกอบกับผม เหมือนกำลังพยายามถ่ายถอดความน่ากลัวนั้นมาให้  พอเหอะ .. แค่นี้กูก็กลัวขึ้นสมองแล้ว

     

                           แต่ดูเหมือนผมจะบ่นกับตัวเองมากไปหน่อย จนคนข้างๆเริ่มรู้สึกได้

     

      “ฟิล์ม เป็นอะไรรึเปล่า เงียบไปนานเลยนะ เออ ขอบใจนะที่นึกขึ้นได้ว่ากูมาด้วย

     

      “รึว่ามึงกลัวผี ?? ผมปรายตามองไอ้ตัวจ้อไม่หยุดที่กำลังจ้องผมตาแป๋วเหมือนกำลังคาดเค้นคำตอบจากดวงตาของผม
     

      “เฮ้ยยยย !! ผี !!!” ผมตะโกนเสียงดังลั่นจนพาลเอาเนมสะดุ้งโหยงร้องเสียงหลงในทันที

     

      “เฮ้ย ! เชี่ย !” ฮ่าๆ ทำเป็นพูดดี มึงเองก็เหอะ ! เกาะแขนกูซะแน่นเลยนะ !!

     

              ผมหัวเราะเสียงดังลั่นจนมันหันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่ผม อ่ะแน่ะ ! มึงโทษกูไม่ได้นะ !! ทีใครทีมันว่ะ ฮ่าๆๆ !!!

     

      “มึงอย่าทำงี้ดิวะ  กูตกใจ แต่เมื่อกี้มึงหลอนกูขี้แตก แค่นี้ยังน้อยไป โด่เอ๊ยยยย ที่แท้ก็กลัวผี เก๊กมาได้ซะนานนะมึง

     


                หลังจากรู้ธาตุแท้ของแต่ละคนแล้ว เราสองคนก็เดินติดกันยังกับแม่เหล็กคนละขั้ว ปล่อยให้เรื่องเล่าของเนมวนเวียนอยู่ในหัว เหมือนกับระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลัง แตกเมื่อไหร่ก็โกยยยกันละครับคราวนี้


     

                  แสงแฟลชส่องผ่านห้องเรียนแต่ละห้องแบบลวกๆ ส่องมากไม่ได้ครับ เวลาที่กำลังนับถอยหลัง แตกเมื่อไหร่ก็โกยยยกันละครับคราวนี้่อยให้เรื่องเล่าของเนมวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลาค่กูเเดี๋ยวส่องโดนคนที่คุณรู้ว่าใครแล้วมันจะ บรึ๋ยยยยยย !!!!

     

      “บนนี้ไม่มีอะไรหรอก กูว่ากลับ…… เนม?? ผมหันกลับไปถาม แต่ไอ้คนที่มาด้วยดัน หาย

     

                       เฮ้ยยยยยยยยย !!!!! หายไปไหนวะ !!!!???

     

      “เนม ?? เล่นแบบนี้กูไม่ขำนะเว้ย ผมลดเสียงฝีเท้าของตัวเองลง พยายามเงี่ยหูฟังเสียงรอบข้าง

     

              แล้วเสียงโต๊ะล้มโครมใหญ่ทำเอาผมสะดุ้งโหยง ผมสลัดความคิดเรื่องผีๆออกไปวิ่งย้อนกลับไปยังห้องที่เราผ่านมาเมื่อกี้

     

      “เนม !! มึงอยู่ไหนวะ !?”

     

              และแล้วสายตาผมก็เหลือบไปเห็นห้องๆหนึ่งที่มีโต๊ะเรียนล้มระเนระนาดเหมือนผ่านการต่อสู้อย่างหนักมา

     

                ผมรีบก้าวเข้าไปโดยเร็ว ไม่กี่ก้าวก็พบร่างของเนมนอนกองอยู่ที่พื้น เลือดสีแดงสดไหลอาบใบหน้าขาว เลอะเปรอะ ลงมาที่เสื้อนักเรียน โดยมีโต๊ะล้มระเนระนาดเป็นฉากหลัง

     

              ใครทำ ?? ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของผมในทันที เพราะหลังจากที่เนมมันหายไป ผมก็ไม่เห็นใครไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งเลยด้วย ถ้ามันไม่ได้วิ่งหนีออกไป ก็แสดงว่ามันอยู่ในห้องนี้อ่ะดิ ????

     

                  “เฮ้ยยยยยยยยยยย!!”

     

                  ผมร้องเสียงหลง ในวินาทีที่ผมหันกลับไป ประแจอันเท่าควายก็เหวี่ยงลงมาเฉี่ยวผ่านหน้าซึ่งผมก็กระโดดหลบได้อย่างเฉียดฉิวแต่ก็ไม่พ้นซะทีเดียว เป็นผลให้ประแจเหล็กขูดเอาเนื้อที่แก้มผมไปนิดหน่อย

     

             แต่ทำไมเลือดมันกระฉูดอย่างกับท่อประปาแตกอย่างงั้นละวะ !!!!!????? เนื้อกูเปื่อยขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ยยยยย !!!???

     

             แบบนี้ยอมให้มันฟาดสลบไปคงได้แค่แผลฟกช้ำนิดหน่อย ดีกว่ามาเสียเลือดตายอยู่ตรงนี้ แต่คิดได้ไม่นานไอ้หัวขโมยไอ้โม่งก็เริ่มโจมตีต่อ ซึ่งผมก็ได้แต่หนีไอ้ประแจควายที่เหวี่ยงไปมาด้วยความเร็วและแรง  แม่งงงงงง !!!! ขี้โกงนี่หว่าาาาาา !!!!! แน่จริงมาต่อยกันตัวต่อตัวดิวะ !!!

     

                   แต่มันก็เป็นแค่ความคิดเท่านั้นแหละครับ โห่ยยย นี่ถ้าแม่งมันไม่มีประแจก็หมดน้ำยาละว้าาาาา ว่าแล้วผมก็พยายามที่จะทำให้ประแจอันเท่าควายนั้นหลุดจากมือไอ้หัวขโมยตรงหน้าให้ได้

     

                                         ผลัวะ !!!!!

     

                          อุ่กก !! 


     

               ลูกถีบอัดตรงหน้าอกผมจนจุก แต่สำหรับร่างกายที่ออกกำลังกายมาทุกวันมันก็ยังไม่สะเทือนซักเท่าไหร่  ร่างของโจรเดินย่างสามขุมเข้ามาหาผมที่ล้มลงอยู่ที่พื้น ชิบหายแล้ววววววว !!! ตายยยยๆๆๆๆๆ !!!

     

                    ตอนนี้ผมเปลี่ยนแผนเป็นเล็งไปที่ประแจมันดีกว่าจู่โจมครับ เพราะไอ้ลูกถีบเมื่อกี้ทำเอาผมรู้เลยว่าไอ้เหี้ยนี่แม่งก็ต่อยตีเก่งพอสมควร ว่าแล้วสายตาผมก็เอาแต่จ้องประแจที่ดูเหมือนเจ้าของมันจะลดแรงที่ถือลงหน่อยแล้ว

     

                   ตั้งสติดีๆ ฟิล์ม มึงก็แค่ปัดประแจนั่นออกที่เหลือก็พอไหว .. เอาล่ะ เป็นไงเป็นกันวะ !!!!

     

               ผมกระโจนเข้าหามือขวาของมันที่ถือประแจนั้อยู่ แต่แม่งมันก็สัมผัสเร็วชิบหาย เพราะทันทีที่ผมคว้าประแจได้ มันก็ออกแรงถือในทันที ทำเอาแผนปัดประแจต้องล้มเหลว

     

               ผมกำด้ามเหล็กแน่นแล้วกลั้นใจเหวี่ยงแรงออกไป ส่งผลให้ไอ้หัวขโมยล้มลงกับพื้น แน่นอนว่าประแจก็กระเด็นออกไปไกลแล้วด้วย ฮ่าๆ กระดูกมันคนละเบอร์กันว่ะ !!!

     

                    คราวนี้คติ ใส่ ก่อนได้เปรียบก็ดูเหมือนจะใช้ได้กับผมในทันที

     

                    ผมอาศัยช่วงที่มันล้มลงไปกับพื้นรีบกระโจนเข้าใส่หมัดไม่ยั้ง !! และได้โปรดอย่าหาความสวยงามของหมัดครับ !! ผมก็แค่ปล่อยหมัดไปมั่วๆ โดนบ้าง ไม่โดนบ้าง โดนสวนเองบ้าง ผลัดกันไป จนในที่สุด คนที่สติหลุดก่อนก็คือผม

     

                หมัดหน่วงๆอัดเข้าที่ใบหน้าจนทำเอาผมเบลอไปชั่วขณะ และทันทีที่ตั้งสติได้ มีดคัตเตอร์แวววาวสะท้อนแสงจันทร์ก็ใกล้เข้ามาจนไม่มีเวลาจะหลบ

     

                                        ปึกกกก !!!

     

                      จู่ๆมือถือปริศนาก็เขวี้ยงใส่หัวไอ้โจรเข้าอย่างจัง ก่อนที่จะกระแทกเข้ากับผนังหลุดเป็นชิ้นๆ

     

                        และแล้วพระเจ้าก็ยื่นโอกาสมาให้ฟิล์มอีกครั้ง !!! ผมลุกขึ้นเตะคัตเตอร์กระเด็นออกไปก่อนจะ ใส่ มันต่อ คราวนี้มึงเละแน่ !!! บังอาจทำให้ใบหน้าหากินของผมต้องมีแผล แถมยังอัดศิลป์สภากูซะยับ ต๊ายยยยยยยยยซะเหอะมึงงงงงงงงงงง !!!!!!!!!!!

     

                         “หยุดแค่นั้นแหละ !!”

     

             
                แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้สำเร็จโทษผู้ก่อการอุกอาจนี่ เสียงของใครบ้างคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ผมรีบหันขวับไปในทันที

     

                    ที่แท้ก็ลุงยามนี่เองงงงง แถมไอ้พวกที่ยืนอยู่ด้านหลังนั่นมันพวกสภานี่หว่า ??? มาช้านะพวกมึงอ่ะ !!!

     

                 ผมผละออกจากโจรผู้โชคดีที่ถูกผมใส่ไปแค่นิดหน่อย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลุงยามดีกว่า

     

              เอ้ออ !!! ผมเกือบจะลืมไปเลย ผมเดินไปเก็บมือถือโนเกีย 5610 ช่วยชีวิต ขึ้นมาจากพื้น พังแล้วมั้งเนี่ย ??  แต่ถึงจะคิดแบบนั้น ผมก็ลองคว้าเอาแบต หน้ากาก และอื่นๆ ที่หล่นอยู่ที่พื้นขึ้นมาใส่ดู เปิดเครื่อง ……

     

    โอเค  ถึงบางคนอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ถ้าคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับผมคงอยากจะตะโกนออกมาดังๆ ….



     

                                     โนเกีย  บร๊ะเจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา !!!!!!!!!!!!!

     

     

     

     

     

     

      “จะว่าไป พวกมึงมานี่ได้ไงอ่ะ? ผมถามฟี่ขณะที่แบกร่างอันไร้สติของเนมเดินลงบันได โดยมีเพื่อนสภาคนอื่นๆตามติดๆ

     

      “ก็เมื่อกี้เนมโทรมา พูดรัวจนกูเกือบฟังไม่ทัน พอเสร็จ เราก็รีบวิ่งมานี่ไง สิ้นคำ ผมเอี้ยวตัวหันไปมองคนหมดสติด้านหลัง อึดใช่ย่อยนะมึงเนี่ย โดนซัดซะงอมพระรามยังเหลือแรงอีกเหรอวะ??

     

                     เอ้อ ส่วนไอ้หัวขโมยนั่น สุดท้ายแล้วก็เป็นเด็กในโรงเรียนนี่เองล่ะครับ !!! เรือล่มในหนองจริงๆพับผ่าสิ !! ไอ้ห่านั่นหมั่นไส้ชมรมดนตรีจัด (ส่วนสภาฯนั้น สงสัยคนขี้เหร่เยอะเกินครับ ฮ่าๆ)  แม่งงงงง !! คิดแล้วก็จี๊ดดดด !!! มันจะขโมยหาพระแสงขอมง้าวอะไรวะ !! เอากระติกน้ำร้อนกูคืนมาาาาา !!!!!! TT[]TT !!

     

      “ไอปุณณ์นั่นแหละ แม่งไปตามลุงยามโคตรช้า

     

      “อ้าวววว กูผิดมั้ยเนี่ย??

     

              ผมมองเลขา และ ประธานนักเรียนที่เริ่มจะกัดกันเอง จนไอ้กล้วย ตากล้องต้องเดินมาตบไหลผม เห็นมันว่าไอ้ฟี่มันโดนแฟนทิ้งให้นั่งง่าววันนี้ มันเลยกักกันไอปุณณ์เอาไว้ ด้วยเหตุผลทำหน้าระรื่นเกินเหตุ เป็นเหตุให้ไอปุณณ์ลั่นวาจาว่าให้กักกันคนทั้งสภาเลยจะได้ยุติธรรม ถึงตรงนี้ผมก็ฮาแตกเลยครับ !! ฮ่าๆ กูว่าแล้ว ทำไมไอเนมมันอพยพมาห้องชมรมดนตรี (พวกมึงนี่ไม่มีอะไรจะทำเหรอวะ !?)

     

     

                 หลังจากทำแผลที่ห้องพยาบาลเสร็จ สรุปบาดแผล ผมมีแผลถลอกที่แก้ม ฟกช้ำนิดหน่อย ส่วนด้านไอเนม  หัวแตก ปากแตก แผลถลอกที่แขน และรอยช้ำเป็นจ้ำๆที่ท้อง ไม่รู้ไปซัดกันตั้งแต่ตอนไหน??

     

                      ถึงแม้จะเอาของที่ถูกขโมยมาไม่ได้ เพราะสอบปากคำแล้วไอเชี่ยนั่นแม่งขายไปหมดเลยครับ แต่พวกเราทั้งหมดที่นี่ก็รู้สึกสบายแฮ กันไปเลยทีเดียว อย่างน้อยก็จับโจรได้ ถือเป็นเกีรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลล่ะครับ !! (ขนาดนั้นเชียว??)มมีแผลถลอกที่แก้ม ฟกช้ำนิดหน่อย ส่วนด้านไอเนม  หัวแตก ปากแตก แผลถลอกที่แขน และรอยช้ำเป็นจ้ำๆที

     

          “เออๆ ปุณณ์ๆ แล้วเนมล่ะ?? ผมหันไปถามปุณณ์ที่มันยืนหัวเราะ ดูเชี่ยฟี่ล้วงคอไอ้โจรนั้นอยู่ เสบียงมึงอ่ะ กูก็ว่าหมดหวังว่ะ !!! ฮ่าๆๆ !!

     

       “อืม เห็นเจ้นิ๊งบอกว่าวันนี้อยู่หอ ที่บ้านมันคงไม่มีใครอยู่ รบกวนมึงต้องไปส่งแล้วว่ะ

     

                                                  หาาาาาาาาา ?????? กูอีกแล้วเหรอวะ ?????

     

     

     

     

     

     

      “พี่ครับๆ ลงตรงนี้แหละครับ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่จะลงกลางทาง เพราะรถติดไม่เขยื้อนไปไหนเลยครับ !!!! อีกอย่าง ใกล้จะถึงซอยบ้านผมอยู่แล้ว อย่านั่งให้เปลืองค่ามิตเตอร์เลย ลงมันตรงนี้แหละ!!!

     

              จนแล้วจนรอดผมก็จะปล่อยให้คนเจ็บนอนอยู่บ้านคนเดียวได้ไงไหว ก็ต้องหอบมันมาบ้านผมดีกว่า อย่างน้อยมันก็ไม่ได้อยู่คนเดียว  ผมคว้าเอาร่างที่นอนสลบไสลอยู่นี่ขึ้นมาขี่หลัง ก่อนจะลงเดินไปตามทางเท้า

     

                  ลมหายใจอุ่นๆของเนมรดเข้าต้นคอของผมจนผมชักรู้สึกแปลกๆ แต่ก็พยายามที่จะเบี่ยงความสนใจไปยังรอบๆตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำไได้ แต่แล้วเรื่องเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนก็ย้อนกลับมาให้ผมคิดไม่ตกอีกครั้งว่าทำไม …??

     

            ทำไมตอนเกิดเรื่องขึ้นมันไม่เรียกผมวะ ???   แต่คิดได้ไม่นานผมก็รู้สึกได้ว่าไอคนข้างหลังนั้นเริ่มรู้สึกตัวแล้ว

     

      “ไปไหนอ่ะฟิล์ม เสียงอู้อี้ของเนมดังขึ้นข้างๆหูของผม

     

      “ตื่นแล้วเหรอ

     

      “อืม แล้วนี่จะไปไหนน่ะ ฟังเสียงมันดูเหนื่อยๆแฮะ

     

      “พาไปขาย หึหึ อ่อก ผมขอถอนคำพูด !! เพราะไอ้แรงที่ดึงคอปกเสื้อนักเรียนรัดคอผมอยู่นี่ ดูยังไงมันก็คงมีแรงเหลือเฟือ

     

      “อ่อก! ไปบ้าน บ้านกูเอง .. แค่กๆ กว่าจะปล่อยกูได้นะ !! ผมหันไปปั้นหน้าเหวี่ยงใส่เนม ซึ่งมันก็ได้แต่ยิ้มเผล่รับ จำไว้นะมึง จำไว้ๆ เรายังมีแค้นที่ต้องชำระอยู่อีกเย๊อออออออ !!!!

     

     

                         ผมเดินตากลมไปตามทางเท้าซึ่งยังมีคนเดินกันขวักไขว่ยังกะนัดกันมาทำโอที แถมรถก็ติดแน่นเอี๊ยดไม่ขยับไปไหน วันนี้มันอะไรวะเนี่ยยยย !!?? (อ๋อออ วันศุกร์) เออ ถึงว่า คนมันเยอะแปลกๆ


                    แต่แล้ว ขณะที่ผมกำลังจะเดินผ่านป้ายรถเมล์ที่เต็มไปทั้งนักเรียน พนักงานบริษัท ไอ้คนที่ขี่หลังผมอยู่นี่ก็ดึงคอเสื้อผมอีกแล้ว โอ่ยยย  ถ้ามึงอยากได้ก็บอก เดี๋ยวกูตัดให้

     

      “อะไรวะ? ผมหันหน้ากลับไป แต่เนมมันดันเอาแต่ซุกหน้าอยู่กับไหล่ของผม

     

      “จะถึงบ้านมึงรึยัง? อ้าว ไอ้นี่ ถามแปลก นึกครึ้มอะไรอยากไปบ้านกูซะงั้น

     

      “ก็อีกไม่ไกลเท่าไหร่ มึงจะไปไหนเปล่า? รึว่ามันเจ็บแผล ??

     

      “เปล่าๆ รีบๆกลับเหอะ

     

         ….. มึงทำกูงงนะเนี่ย  ผมค่อยๆคิดทบทวนการกระทำที่ผ่านมาไม่ถึงสิบนาทีที่แล้ว  ขี่หลัง คนเยอะ แล้วสมองผมก็ปะติดปะต่อเรื่องได้อย่างรวดเร็ว อ๋ออออออออออออออ !!!!! หึหึหึ ได้เวลาเอาคืนแล้วสิ

     

      “ฟิล์ม มึง รีบๆเดินดิ๊ อะไร๊ ?? กูเดินของกูปกติ จะให้เดินเร็วขึ้นทำไมอ่ะ ?? ฮ่าๆ

     

      “หึ ทำไมล่ะ ต้องค่อยๆเดินกินลมชมวิวดิ จะรีบไปไหน น่านนนนนสิ จะรีบไปไหนๆ ฮ่าๆ โอ๊ยยย มีความสุขจังวะครับ !!!

     

      “รีบๆกลับบ้าน ใส่ชุดนักเรียนเดินมืดๆค่ำๆมันไม่ดี เหรอออออ !!!?? ทีนี้ละทำตัวเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองเลยนะมึง

     

      “บ้านกูไม่งอกขาวิ่งร้อยเมตรหรอก มึงสบายใจได้ ผมแกล้งหยอดมันไปอีก จนรู้สึกได้ว่าศิลป์สภาผู้เก่งกาจจะจนด้วยคำพูด

     

      “รีบเดินเร็วๆ! กูอายนี่หว่า ฮ่าๆๆ แค่นี้เสียงแผ่วเลยเหรอวะ!!???

     

      “โห่ยย ไม่เห็นต้องอายเลย ขี่หลังคนหล่อใครๆก็อิจฉา

     

      “อ้วกกกก  หลงตัวเองเหอะมึงอ่ะ ดูปากมัน จับโยนลงถังเหลือง กทม.ตอนนี้เลยดีมั้ยวะเนี่ย ???

     

     

     



     

     

                                       แกร๊กกก !!!!

     

                        เสียงกลอนประตูบ้านปลดล็อคดังขึ้นในความเงียบของตัวบ้าน ในบ้านมืดสนิท สงสัยน้าตั๊กคงรอไม่ไหวเลยกลับไปแล้วละมั้ง?? แต่อย่างน้อยก็เหลือกับข้าวที่ตั้งครอบฝาชีอยู่ แค่นี้ก็อุ่นใจแล้วล่ะครับ


     

                    ผมรีบเดินตรงไปยังห้องนอนของผมในทันที เพราะแขนผมเองก็เริ่มจะล้าขึ้นมาบ้างแล้ว แถมไอ้ตัวดีก็หลับไปอีกแล้ว สงสัยไฟฟ้าลัดวงจร หลับบ่อยซะจริงๆ

     

                  ผมค่อยๆวางร่างนั้นลง จัดแจงที่หลับที่นอนให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบกระโดดเข้าไปอาบน้ำในทันที ทำไมตัวกูเน่างี้ฟะเนี่ยยยย !!!!

     

                       แล้ว….. จะทำยังไงกับมันดี ???

     

               อ่ะแน่ะ ! อย่าคิดลึกสิครับ คนอ่านนี่ก็จริงๆเลย ผมจะถามว่า ทำยังไงกับเสื้อเปื้อนเลือดของเนมมันดีต่างหากล่ะ !! โว๊ะ !!

     

             ในที่สุด ผมก็หาเสื้อยืดได้ตัวนึง เปลี่ยนเสื้อให้มันหน่อยละกัน ขืนนอนเน่าอยู่ตรงนี้ คืนนี้ผมเองก็คงจะหลับไม่ลงแหงๆ

     

                                เฮ้ออออออออออ ……. จะได้นอนซักทีนะเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!

     

    …………………………………..


    …………………………..


    …………………


    ……..


    ….


    ..

     

                                นอน  ไม่  หลับ …..

     

                        ผมลืมตาขึ้นมาก็พบกับใบหน้ายามหลับของเนม ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่ผมเอาแต่มองคนนอนหลับไม่กระพริบตาไปไหน ทำไมหน้ามันเนียนจังวะ ?? แก้มขาวๆแบบนั้นถ้าลอง หะ หอ ออ มอ มันจะนิ่มขนาดไหนนะ?? 

     

                          แต่ร่างกายมันก็ไวกว่าความคิด ผมขยับตัวเข้าใกล้เนม ดวงตาที่พริ้มหลับสนิททำเอาผมอดใจไม่ไหว ใบหน้าของผมค่อยๆโน้มลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ และ

     

                        เฮ้ยยยยย !!!!! นี่กูทำเหี้ยอะไรอยู่เนี่ยยยยยยยยยย !!!!????  อะไรนะ !!?? ลักหลับ !!??   

     

              ผมผละออกจากร่างบางแทบจะในทันที ส่ายหัวไปมาไล่ความคิดบ้าๆเมื่อครู่นี้ออกไป แต่ยิ่งเหลือบมองคนที่นอนสบายใจอยู่ข้างๆแล้วมันก็

     

                                                 โอ๊ยยยยยยยยยย !!!!!! ฟุ้งซ่านจริงโว้ยยยยยยยยยยยยย !!!!!

     

     

     

     

    TBC ………..

     

     

     

    ไอถังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!!!! เรทอยู่ไหนละว้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา !!!!!

     

    สาสน์จากกองขยะ :: แหมๆ ท่านผู้อ่านก็จริงๆเลย  นี่ไงคะ เรท เนมโดนประแจฟาดหัวแตก ส่วนนายฟิล์มก็โดนเฉี่ยวจนเลือดกระฉูด บังเกิดเป็นเรทเลือดสาดไงฮ้าาาาาา !!!!!! (สงสัยคำนิยามคำว่า เรท ของท่านนักอ่านจัง ฮ่าๆ)  ฉากบู๊เยอะจัง ไอถังล่ะเหนื่อยยยยย ที่อัพช้าเพราะไปซัดนักเลงมาเพื่อหาประสบการณ์ในการเขียนค่ะ ฮ่าๆๆ จะบ้าเหรออออ !!!! ถังก็กะจะรอให้ครบอาทิตย์แล้วค่อยลงค่ะ (นี่ไม่ใช่ข้ออ้าง ไอถัง =___=) แงๆๆ โอเคๆ ยอมรับผิดโดยดุษฎีฮะ T^T  เป็นไงฮะ ฉากบู๊ ฮ่าๆๆ (นี่แกกล้าเรียกมันว่าฉากบู๊เหรอยะ ??) น้องฟิล์มแม๊นนนนน แมนเนอะ !!! หนุ่มๆสมัยนี้ ฟิตปั๋งดีจริ๊งงงงงง ดูจิๆ เจอไม่กี่วันจะลักหลับกันแล๊วววว !! นายฟิล์มมมมมม !!!!!

    โธ่ๆๆๆๆ จะสงสัยทำไมอีกละคะน้องฟิล์มมม น้องเนมเค้าไม่อยากเรียกน้องฟิล์มเข้ามาเจ็บตัวไง๊ !!! แค่นี้ก็คิดไม่ออก ตำแหน่งพระเอกสั่นคลอนนะยะ !!!! โอ๊ะ พูดมากไปแล้วเราๆ ยังไงก็ขอบคุณทุกคอมเม้นต์จากใจจริงเลยนะฮะ !!! ถังเป็นปลื้มมมมม ดีใจจัง มีคนชอบ !!!! ^O^ เจอกันตอนหน้าค่ะ !!

     

    ปล. แต่งฉากบู๊ไปนิดนึงเริ่มรู้สึกว่าไอหนูฟิล์มมันจะน่ากลัวกว่าโจรซะอีก !!!! ฮ่าๆๆๆๆ !!!! ว่ามั้ย??  

      จบการสนทนาแต่เพียงเท่านี้ ขอถังกระโดดลงบังเกอร์ หลบเกี๊ยะของท่านผู้อ่านก๋อนดีฝ่าาา  อะชึ้บบบบ !!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×