คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แรกพบ
ผมเหลือบมองดูนาฬิกาบอกเวลาทุ่มกว่าๆ หวังว่าคนที่ชื่อเนมอะไรนั่นจะยังไม่กลับบ้านไปก่อนหรอกนะ แต่เอ๊ะ ห้องสภาไม่เปิดไฟนี่หว่า !? หรือว่าผมมาช้าไป??
วินาทีนั้นผมโคตรจะใจแป้วเลยครับ แต่แทนที่ผมจะกลับไปทำใจวาดมัดแหนมใส่เสื้อ ขอลองไปดูหน่อยเหอะ !!
อ้าววว มีคนอยู่นี่หว่า ผมมองผ่านบานกระจกเข้าไป เห็นเด็กม.ปลายคนนึงนอนฟุบอยู่ที่โต๊ะ เห็นมีคนแบบนี้ใจที่มันฟีบแบนของผมก็กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง ผมรีบผลักประตูเข้าไปในห้องสภาทันที แต่ดูเหมือนจะแรงไปนิด เพราะทำเอาคนที่นอนอยู่สะดุ้งโหยงไปทั้งตัว ก่อนจะหันขวับมามองผมในทันที
“เอ่อ เนมใช่รึเปล่า”
“ใช่ มีอะไรรึเปล่าครับ?” ผมมองดูศิลป์สภาผู้หาตัวจับอยาก คนที่ผลิตงานศิลปะมากมายให้กับโรงเรียน กลับเป็นคนที่ดูไม่น่าจะเป็นงานศิลป์ซักนิด ตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ ผมล่ะนึกไม่ออกจริงๆว่าเวลาเขาจับพู่กันทาสีรึยกผ้าใบ
“คือ ปุณณ์ให้เรามาหานายอ่ะ เราวาดกวนอูไม่เป็น” สุภาพ เจี๋ยมเจี๊ยม เป็นคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาในห้องสภาครับ
“อ๋อ งานของมิสยุพาใช่มั้ย? ได้ๆ แล้วฟิล์มจะเอาวันไหนล่ะ??” เนมหันมาถามผม ซึ่งผมก็ได้แต่เกาแก้มแก้เก้อ ไอ้เกรงใจมันก็มีอยู่หรอกนะ แต่...
“คือเราส่งพรุ่งนี้” จะว่ายังไงดี เราไม่รู้จะเอาวันไหน แต่งานส่งพรุ่งนี้อ่ะ แฮะๆ
“อืม เดี๋ยวก็เสร็จแล้วแหละ อีกซักประมาณครึ่งชั่วโมงฟิล์มค่อยมาเอาก็ได้” โหยย !! นี่มัน ปิกัซโซ่กลับมาเกิด !!!
“ขอบใจว่ะ ขอบใจๆๆ” ผมยกมือไหว้เนม ซึ่งรับแบบอึ้งๆ
“เฮ้ย ไหว้ทำไม ? ไม่เป็นไรๆ เรื่องแค่นี้เอง” แต่สำหรับกูมันเรื่องใหญ่ว่ะ นี่ถ้าพื้นไม่รกนะ ผมโผเข้าไปกราบแล้วนะเนี่ย โอ๊ยยย ซึ้งใจ เป็นไงล่ะ สภานักเรียนโรงเรียนผม
ผมเดินลงมาจากตึกอำนวยการ นี่ก็จะสองทุ่มแล้ว ไม่รู้โน่มันจะปิดห้องชมรมรึยัง แวะไปดูหน่อยดีกว่า ทันทีที่ผมโผล่หน้าเข้าไปเสียงของโน่ก็ดังขึ้นทันที
“มาพอดีเลยมึง กูซ้อมให้แล้วนะ กลับก่อนว่ะ” โน่พูดพลางเก็บของยัดๆลงกระเป๋าอยู่คนเดียว ไม่รู้ปุณณ์หายไปไหนแล้ว สงสัยไปเก็บของละมั้ง?
“เออ ขอบใจว่ะ แล้วเจอกัน” ผมโบกมือลามันก่อนจะเดินกลับมานอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟาในห้องชมรม
เวลาผ่านไปซักพักก็ยังไม่มีวี่แววของเนมเลย ผมทั้งเดินออกมาดู เล่นกีต้าร์ ร้องเพลง อ่านการ์ตูน จนป่านนี้แล้ว สงสัยเค้าคงเอามาให้พรุ่งนี้ละมั้ง?? ประกอบกับห้องชมรมที่บรรยากาศนี่ใกล้เคียงกับหนังผีเข้าไปทุกทีๆ เลยทำเอาไอ้คนกลัวผีอย่างผมหาสาเหตุหลอกตัวเอง ออกจากโรงเรียนโดยเร็ว
แล้วถ้าเนมมาหาล่ะ ??
.. ไม่หรอกมั้ง??
“เชี่ยฟิล์มมมมมม !!!! งานกูอยู่ไหนนนน !!” เสียงไอ้ปาล์มดังแหวกอากาศยามเช้าพร้อมกับยื่นมือออกมาแต่ไกล ก้นยังไม่ทันแตะเก้าอี้แหกปากมาแต่เช้าเลยนะมึง
“เสร็จแล้วๆ” ผมยักคิ้วกวนๆไปให้มันรับอรุณ แล้วทำไมมึงทำหน้าเหมือนจะเห็นผีอย่างนั้นละวะ?
“เสร็จแล้ว !? อย่างมึงนี่นะทำงานให้กูเสร็จแล้ว” นั่นปากมึงเหรออออ !! นี่ใครครับ !? มึงคิดว่าฟิล์มหล่อลากกระชากใจสาวคนนี้จะไร้ความรับผิดชอบขนาดนั้นรึไง
“เออน่า เสร็จก็แล้วกัน” ผมพูดพลางหยิบกระเป๋าขึ้นมาหางาน หึหึ คอยดู เห็นแล้วมึงจะตกใจ นี่กูให้ศิลป์สภาวาดให้เลยนะเนี่ยยยย .......
...............................................
........................................
..........................
...........
.....
..
ชิบหายแล้วววววววววววว !!!!! ผมลืมไปเอางานจากเนม !!
“ เฮ้ยย !!” ผมรีบวิ่งออกนอกห้องเรียนไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเสียงของไอปาล์มดังไล่หลัง
“อ้าว ฟิล์ม มาทำไมแต่เช้า” ฟี่หันมามองผมที่หอบแฮ่กๆขณะวางแฟ้มงานต่างๆให้เป็นที่เป็นทาง
“ฟี่ !! เห็นเนมมั้ย !?”
“หา ? เนมเหรอ? วันนี้มันลาป่วยอ่ะ” ยังไม่พอ ฟี่ก็หยิบซองจดหมายลาป่วยสีขาวขึ้นมาตอกย้ำความซวยของผมอีก ฮือๆๆ นี่จะซวยแบบผ่อนส่งบ้างไม่ได้เลยเหรอวะเนี่ยยย ไอ้ฟิล์มเอ๊ยยยยย
“จะมาเอางานภาษาไทยใช่เปล่า? ” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองประธานนักเรียนที่กำลังถือซองสีน้ำตาลขนาด A4อยู่ในมือ ฟี่ !! บอกทีสิว่าในนั้นมีงานภาษาไทยของกูอยู่ใช่มั้ย !?
“เนมมันฝากมาให้ อ่ะนี่” ผมรับซองกระดาษ หยิบงานออกมาดู โอ้โหหหห สวยว่ะ ! เก็บไปส่งเองดีมั้ยวะเนี่ย สมแล้วที่เป็นฝีมือศิลป์สภา จะว่าไปเนมมันไม่สบายนี่หว่า
“เออ ฟี่ๆ แล้วเนมเป็นอะไรมากรึเปล่า”
“คิดว่าพอตัวนะ เห็นว่าไข้ขึ้นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แถมวันนี้ยังต้องให้พี่สาวมาลาป่วยให้อีก” เมื่อวาน ? และแล้วภาพของเมื่อวานก็ย้อนกลับมาในหัวของผมเหมือนย้อนเทป หรือจะเป็นตอนที่นอนฟุบอยู่ ?? แล้วผมก็ไปปลุกให้ขึ้นมาช่วยงาน โอ๊ยยยย โดนผมเข้าไปเต็มๆเลยนี่หว่า แต่ไม่ทันที่ผมจะถามอะไรต่อ เสียงสัญญาณก็บอกเวลาเข้าเรียนในคาบแรกซะแล้ว
“เฮ้ยฟี่ ขอบใจว่ะ”
“เออๆ ไม่เป็นไรๆ”
“งานที่สั่งไปไม่มีใครค้างส่งนะคะ ถ้างั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ค่ะ” ในที่สุด เวรกรรมของผมก็สิ้นสุดลงซะที่ครับ !! พอมิสยุพาเดินออกจากห้องไป ไอ้เจ้าพวกที่เหลือมันก็ฟื้นคืนชีพดี๊ด๊ายังกะฟุตบอลไทยได้แชมป์โลก เหอะ ให้มันได้แบบนี้ตอนเรียนบ้างเหอะว่ะ ! (บอกตัวเองครับ)
ผมบิดขี้เกียจไปมาหลังจากได้นอนเอกขเนกเป็นเวลา 1 ชั่วโมงกว่าๆ เพราะอีกครั้งชั่วโมงที่ขาดไปผมเอาแต่ส่ง msn กระดาษขอบไอ้โอมกับไอเก่ง (และอีกมากมาย) อยู่ครับ พอผมประชดไม่ส่งให้พวกแม่งก็ปาข้ามหัวผมเลยครับ !! แถมส่วนใหญ่ก็เสือกปาไม่ผ่าน โดนหัวผมไปเต็มๆ (ซักวันกูจะโบกเรียงตัวให้หมด !!)
“ฟิล์มๆๆ !! เย็นนี้มีซ้อมดนตรี รีบไปนะเว้ย !!” ว่าแล้วมันก็สะบัดบ๊อบ เปิดตีนหนีไปอย่างเร็ว มึงก็ชั่วได้อีกกก !! ปล่อยให้เวรอย่างไอเก่งต้องมานั่งกวาดกระดาษที่พวกมันส่งไปมาอยู่คนเดียว ส่วนผมเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก
สมน้ำหน้า !!! มันครับ อยากปากระดาษใส่หัวกูดีนัก ถ้าจะโทษก็โทษไอพวกนั้นก็แล้วกันนะเก่ง
วันนี้ทั้งวัน ผมคิดไม่ตกเลยว่าจะไปเยี่ยมเนมดีมั้ย รึจะรอให้มันหายก่อนแล้วค่อยไปขอบคุณดี แต่บางทีเนมอาจไม่สบายเพราะผมก็ได้ แถมวันนี้ก็ยังต้องไปซ้อมดนตรีที่ชมรม จะทำไงดีวะเนี่ยยย !!
“ปุณณ์ๆ” ผมตัดสินใจเรียกเลขาสภาที่กำลังเดินหอบสัมภาระอยู่
“บ้านเนมไปทางไหนวะ”
ปิ๊ง ป่องงง !!!
เสียงออดของบ้านเนมดังลอดออกมาถึงหน้าบ้าน ผมยืนถือถุงขนมที่ซื้อมาคอยอยู่สักพักก็มีผู้หญิงคนนึง ซึ่งดูยังไงก็ต้องเป็นพี่สาวออกมาเปิดประตูให้
“สวัสดีครับ ฟิล์ม เพื่อนเนมอ่ะครับ”
“หวัดดีจ้า โทษทีนะ เมื่อกี้พี่อยู่ชั้นบนน่ะ ลงมาเปิดช้านิดนึง” คนที่ดูเหมือนพี่สาวของเนม (เพราะผิวขาวเหมือนกันเด๊ะ) พูดอย่างอารมณ์ดี พลางพาผมเข้าไปในตัวบ้าน ผมนั่งลงที่โซฟาหนังหน้าจอทีวีที่กำลังเปิดอยู่ ขณะที่พี่สาวของเนมก็กำลังเทน้ำใส่แก้วมาให้ผม
“ขอบคุณครับ พี่...”
“พี่นิ๊ง พี่สาวเนมจ้ะ แต่เรียกว่าเจ้นิ๊งดีกว่านะ เพราะเพื่อนเนมเค้าก็เรียกเจ้นิ๊งกันทั้งนั้น โอเค๊ ?” ผมพยักหน้าให้พี่สาวอารมณ์ดี เจ้นิ๊งยิ้มรับทีนึง ก่อนจะก้มลงไปเก็บหนังสือต่างๆที่กองอยู่หน้าทีวี
“บ้านเล็กไปหน่อย อยู่กันสองคน บ้านกว้างไปก็หลอนน่ะนะ”
“บ้านเล็กเนี่ยครับ อบอุ่นดี”
“เนอะ!” หลังจากจัดหนังสือกองให้เป็นระเบียบได้แล้ว เจ้นิ๊งก็เดินมานั่งลงบนโซฟา
“แล้วเนมสบายดีรึยังครับ?”
“ไม่รู้สิ พอกินยาก็ลุกขึ้นมาซ่าได้สักพัก พอยาหมดก็สลบอยู่นี่แหละ” ฮ่าๆ สงสัยมันจะกวนจริงๆ เพราะเจ้นิ๊งไม่ว่าเปล่า ยังโชว์แผ่นเกมเพลย์ที่ตั้งเกลื่อนพื้นขึ้นมาเป็นหลักฐานอีก
“ฟิล์มจะขึ้นไปห้องเนมก็ได้นะ อยู่ชั้นสาม ห้องขวามือ เดี๋ยวเจ้ขอเก็บของก่อน” ผมตอบรับพลางเดินขึ้นไปยังชั้น3
ผมค่อยๆเปิดประตูอย่างเบามือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่ให้คนป่วยตื่นเสียก่อน แต่ภาพที่เห็นหลังจากที่เปิดประตูแล้วนั้นทำเอาผมชักอยากจะวิ่งไปปิดประตูซักโครมใหญ่
“อ้าว ฟิล์ม มาได้ไงเนี่ย?” ไอ้เจ้าของห้องทักผมเสียงใส ถึงแม้หน้าขาวนั้นจะออกแกมซีดเพราะไข้หวัด แต่ในมือยังถือการ์ตูนคาอยู่เล่มนึง จนผมอดรนทนไม่ไหว เอาถุงขนมเขกหัวไปทีนึงจนมันนอนร้องโวยวาย ซ่าได้ซ่าไปนะมึง
“ไม่สบายแล้วไม่บอก เดี๋ยวก็หาว่ากูทารุณกรรมศิลป์ สภาอีก”
“เมื่อวานกูไปหามึงแล้วนะ”
“คร้าบๆ ฟิล์มขอโทษครับ”
ผมนั่งลงบนเตียงข้างๆคนป่วย เอามือแตะหน้าผากตัวเอง แล้วยื่นมืออีกข้างนึงไปแตะหน้าผากเนมเช่นกัน อืมมม ตัวรุมๆแฮะ สงสัยยายังไม่หมดฤทธิ์ แต่จู่ๆเนมก็หยิบเอาผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองซะงั้น
“แล้วจะเอาผ้าห่มมาปิดจมูกทำไม เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกหรอก”
“เดี๋ยวมึงติดหวัดกู” ผมหลุดขำออกมาเล็กน้อย ร่างกายมันฟิตต่างกันว่ะ ฮ่าๆ
“กูไม่อ่อนแบบมึงหรอก” ผมยักคิ้วกวนๆส่งไปทีนึง ซึ่งเนมทำไม่สนใจ เอี้ยวตัวไปหยิบถุงขนมขึ้นมาดู
" ซื้อขนมปังมาฝาก ชอบกินป่าววะ”
“ก็ พอกินได้” แต่ไอ้ขนมปังก็พอกินได้ของมึงนี้ ยัดครัวซองก์คำเดียวหมดเลยนะ จะดีใจหรือโกรธมันดีวะเนี่ย??
หลังจากนั้นพวกเราก็คุยกันไปเรื่อย ทั้งการ์ตูน เกม เผาคนในสภา (แอบชั่วนะมึงอ่ะ) จนผมเริ่มสังเกตได้ว่าหน้าขาวซีดนั้นเริ่มขึ้นสีบ้างแล้ว แถมเจ้าตัวก็เริ่มคุยน้อยลงแล้วด้วย ฮ่าๆ ยาหมดฤทธิ์ก็หงอยเชียวนะมึง
“งั้นกูกลับก่อนดีกว่า มึงจะได้นอนพักบ้าง”
“หายเร็วๆนะเว้ยย อย่าซ่าให้มากนัก เดี๋ยวหวัดก็ไม่หายหรอก”
“พรุ่งนี้หาย ชัวร์” หึ เอาให้แน่เห้อออออ !! ผมมองดูหมอเนม ชัวร์ชัวร์ ทำนายไข้ตัวเอง ก่อนจะมุดตัวกลับลงไปในผ้าห่มอีกครั้ง
ผมค่อยๆปิดประตู สงสัยเพราะว่าผมมาเยี่ยมเนมรึเปล่า ทำไมถึงได้รู้สึกว่าหัวใจมันพองโตอย่างนี้ละเนี่ย
สาส์นจากกองขยะ :: ก็ภาวะโลกเลิฟ เลิฟ เลิฟ เลิฟ ยูวววววววว ไงจ๊ะน้องฟิล์มมมมมม !!!! (ฮิ้วววววววว) เปิดตัวน้องเนมออกมาถูกใจป่าวค๊าาาาา !! แต่ถังละช๊อบบบบบบบชอบ >///< อรั้ยยยยๆๆ มาอัพช้าขออภัยแบบมีความเร่ง (อย่างแรง 555) เพิ่แหวกกองการบ้านออกมาได้ แต่ตอนนี้หวัดใหญ่ 2009 มันระบาด โรงเรียนถังปิดยาวเจ้าข้าเอ๊ยยยยยยย !!! จะพยายามอัพบ่อยๆนะจ๊าาาา
(ได้ยินเสียงแซวมาว่าชื่อตอนนี้เสี่ยวได้แรง 555 ที่อัพช้าเพราะคิดชื่อตอนไม่ออกหรอก จริง จริ๊งงงง !! เชื่อสิ)
ความคิดเห็น