ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    || LOVE Share .. รักเราแบ่งกัน || [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #2 : แรกพบ

    • อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 52









                 ผมเหลือบมองดูนาฬิกาบอกเวลาทุ่มกว่าๆ หวังว่าคนที่ชื่อเนมอะไรนั่นจะยังไม่กลับบ้านไปก่อนหรอกนะ แต่เอ๊ะ ห้องสภาไม่เปิดไฟนี่หว่า !? หรือว่าผมมาช้าไป??

     

               วินาทีนั้นผมโคตรจะใจแป้วเลยครับ แต่แทนที่ผมจะกลับไปทำใจวาดมัดแหนมใส่เสื้อ ขอลองไปดูหน่อยเหอะ !!

     

     

               อ้าววว  มีคนอยู่นี่หว่า   ผมมองผ่านบานกระจกเข้าไป เห็นเด็กม.ปลายคนนึงนอนฟุบอยู่ที่โต๊ะ เห็นมีคนแบบนี้ใจที่มันฟีบแบนของผมก็กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง ผมรีบผลักประตูเข้าไปในห้องสภาทันที แต่ดูเหมือนจะแรงไปนิด เพราะทำเอาคนที่นอนอยู่สะดุ้งโหยงไปทั้งตัว ก่อนจะหันขวับมามองผมในทันที

     

      “เอ่อ เนมใช่รึเปล่า

     

      “ใช่ มีอะไรรึเปล่าครับ? ผมมองดูศิลป์สภาผู้หาตัวจับอยาก คนที่ผลิตงานศิลปะมากมายให้กับโรงเรียน กลับเป็นคนที่ดูไม่น่าจะเป็นงานศิลป์ซักนิด ตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ ผมล่ะนึกไม่ออกจริงๆว่าเวลาเขาจับพู่กันทาสีรึยกผ้าใบ

     

      “คือ ปุณณ์ให้เรามาหานายอ่ะ เราวาดกวนอูไม่เป็น สุภาพ เจี๋ยมเจี๊ยม เป็นคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาในห้องสภาครับ

     

      “อ๋อ งานของมิสยุพาใช่มั้ย? ได้ๆ แล้วฟิล์มจะเอาวันไหนล่ะ?? เนมหันมาถามผม ซึ่งผมก็ได้แต่เกาแก้มแก้เก้อ ไอ้เกรงใจมันก็มีอยู่หรอกนะ แต่...

     

      “คือเราส่งพรุ่งนี้ จะว่ายังไงดี เราไม่รู้จะเอาวันไหน แต่งานส่งพรุ่งนี้อ่ะ แฮะๆ

     

      
      “
    อืม เดี๋ยวก็เสร็จแล้วแหละ อีกซักประมาณครึ่งชั่วโมงฟิล์มค่อยมาเอาก็ได้ โหยย !! นี่มัน  ปิกัซโซ่กลับมาเกิด !!!

     


      “
    ขอบใจว่ะ ขอบใจๆๆ ผมยกมือไหว้เนม ซึ่งรับแบบอึ้งๆ

     

      “เฮ้ย ไหว้ทำไม ? ไม่เป็นไรๆ เรื่องแค่นี้เองแต่สำหรับกูมันเรื่องใหญ่ว่ะ นี่ถ้าพื้นไม่รกนะ ผมโผเข้าไปกราบแล้วนะเนี่ย โอ๊ยยย ซึ้งใจ เป็นไงล่ะ สภานักเรียนโรงเรียนผม

     

               ว่าแล้วเนมก็เริ่มคว้ากระดาษ A4 ออกมาลงมือวาด เลยถึงเวลาแล้วที่ผมควรจะออกไปจากห้องสภาเสียที  แหม เวลาที่มีคนมาช่วยเหลือเวลาเราเดือดร้อนนี่ รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยอ่ะครับ

     

     

     

     

     

     

                ผมเดินลงมาจากตึกอำนวยการ นี่ก็จะสองทุ่มแล้ว ไม่รู้โน่มันจะปิดห้องชมรมรึยัง แวะไปดูหน่อยดีกว่า ทันทีที่ผมโผล่หน้าเข้าไปเสียงของโน่ก็ดังขึ้นทันที

     


      “
    มาพอดีเลยมึง กูซ้อมให้แล้วนะ กลับก่อนว่ะโน่พูดพลางเก็บของยัดๆลงกระเป๋าอยู่คนเดียว ไม่รู้ปุณณ์หายไปไหนแล้ว สงสัยไปเก็บของละมั้ง?

     

      “เออ ขอบใจว่ะ แล้วเจอกัน ผมโบกมือลามันก่อนจะเดินกลับมานอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟาในห้องชมรม

     

     

                    เวลาผ่านไปซักพักก็ยังไม่มีวี่แววของเนมเลย ผมทั้งเดินออกมาดู เล่นกีต้าร์ ร้องเพลง อ่านการ์ตูน จนป่านนี้แล้ว สงสัยเค้าคงเอามาให้พรุ่งนี้ละมั้ง??  ประกอบกับห้องชมรมที่บรรยากาศนี่ใกล้เคียงกับหนังผีเข้าไปทุกทีๆ เลยทำเอาไอ้คนกลัวผีอย่างผมหาสาเหตุหลอกตัวเอง ออกจากโรงเรียนโดยเร็ว

     

                                                       แล้วถ้าเนมมาหาล่ะ ?? ….. ไม่หรอกมั้ง??

     





      “เชี่ยฟิล์มมมมมม !!!! งานกูอยู่ไหนนนน !!” เสียงไอ้ปาล์มดังแหวกอากาศยามเช้าพร้อมกับยื่นมือออกมาแต่ไกล ก้นยังไม่ทันแตะเก้าอี้แหกปากมาแต่เช้าเลยนะมึง

     

      “เสร็จแล้วๆ ผมยักคิ้วกวนๆไปให้มันรับอรุณ แล้วทำไมมึงทำหน้าเหมือนจะเห็นผีอย่างนั้นละวะ?

     

      “เสร็จแล้ว !? อย่างมึงนี่นะทำงานให้กูเสร็จแล้ว นั่นปากมึงเหรออออ !! นี่ใครครับ !? มึงคิดว่าฟิล์มหล่อลากกระชากใจสาวคนนี้จะไร้ความรับผิดชอบขนาดนั้นรึไง

     

      “เออน่า เสร็จก็แล้วกัน ผมพูดพลางหยิบกระเป๋าขึ้นมาหางาน หึหึ คอยดู เห็นแล้วมึงจะตกใจ นี่กูให้ศิลป์สภาวาดให้เลยนะเนี่ยยยย .......

     

    ...............................................

    ........................................

    ..........................

    ...........

    .....

    ..

     

                                 ชิบหายแล้วววววววววววว !!!!! ผมลืมไปเอางานจากเนม !!


      “
    เฮ้ยย !!” ผมรีบวิ่งออกนอกห้องเรียนไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเสียงของไอปาล์มดังไล่หลัง

     

      


      “
    อ้าว ฟิล์ม มาทำไมแต่เช้า ฟี่หันมามองผมที่หอบแฮ่กๆขณะวางแฟ้มงานต่างๆให้เป็นที่เป็นทาง


     

      “ฟี่ !! เห็นเนมมั้ย !?”

     

      “หา ? เนมเหรอ? วันนี้มันลาป่วยอ่ะยังไม่พอ ฟี่ก็หยิบซองจดหมายลาป่วยสีขาวขึ้นมาตอกย้ำความซวยของผมอีก ฮือๆๆ  นี่จะซวยแบบผ่อนส่งบ้างไม่ได้เลยเหรอวะเนี่ยยย  ไอ้ฟิล์มเอ๊ยยยยย

     

      “จะมาเอางานภาษาไทยใช่เปล่า? ผมเงยหน้าขึ้นไปมองประธานนักเรียนที่กำลังถือซองสีน้ำตาลขนาด A4อยู่ในมือ ฟี่ !! บอกทีสิว่าในนั้นมีงานภาษาไทยของกูอยู่ใช่มั้ย !?

     


      “
    เนมมันฝากมาให้ อ่ะนี่ ผมรับซองกระดาษ หยิบงานออกมาดู โอ้โหหหห สวยว่ะ ! เก็บไปส่งเองดีมั้ยวะเนี่ย  สมแล้วที่เป็นฝีมือศิลป์สภา  จะว่าไปเนมมันไม่สบายนี่หว่า

     

      “เออ ฟี่ๆ แล้วเนมเป็นอะไรมากรึเปล่า

     

      “คิดว่าพอตัวนะ เห็นว่าไข้ขึ้นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แถมวันนี้ยังต้องให้พี่สาวมาลาป่วยให้อีกเมื่อวาน ? และแล้วภาพของเมื่อวานก็ย้อนกลับมาในหัวของผมเหมือนย้อนเทป  หรือจะเป็นตอนที่นอนฟุบอยู่ ?? แล้วผมก็ไปปลุกให้ขึ้นมาช่วยงาน โอ๊ยยยย  โดนผมเข้าไปเต็มๆเลยนี่หว่า  แต่ไม่ทันที่ผมจะถามอะไรต่อ เสียงสัญญาณก็บอกเวลาเข้าเรียนในคาบแรกซะแล้ว

     

      “เฮ้ยฟี่ ขอบใจว่ะ

     

      
      “
    เออๆ ไม่เป็นไรๆ

     






      “งานที่สั่งไปไม่มีใครค้างส่งนะคะ ถ้างั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ค่ะในที่สุด เวรกรรมของผมก็สิ้นสุดลงซะที่ครับ !! พอมิสยุพาเดินออกจากห้องไป ไอ้เจ้าพวกที่เหลือมันก็ฟื้นคืนชีพดี๊ด๊ายังกะฟุตบอลไทยได้แชมป์โลก เหอะ ให้มันได้แบบนี้ตอนเรียนบ้างเหอะว่ะ ! (บอกตัวเองครับ)

     

               ผมบิดขี้เกียจไปมาหลังจากได้นอนเอกขเนกเป็นเวลา 1 ชั่วโมงกว่าๆ เพราะอีกครั้งชั่วโมงที่ขาดไปผมเอาแต่ส่ง msn กระดาษขอบไอ้โอมกับไอเก่ง (และอีกมากมาย) อยู่ครับ พอผมประชดไม่ส่งให้พวกแม่งก็ปาข้ามหัวผมเลยครับ !! แถมส่วนใหญ่ก็เสือกปาไม่ผ่าน โดนหัวผมไปเต็มๆ (ซักวันกูจะโบกเรียงตัวให้หมด !!)

     

      “ฟิล์มๆๆ !! เย็นนี้มีซ้อมดนตรี รีบไปนะเว้ย !!” ว่าแล้วมันก็สะบัดบ๊อบ เปิดตีนหนีไปอย่างเร็ว มึงก็ชั่วได้อีกกก !! ปล่อยให้เวรอย่างไอเก่งต้องมานั่งกวาดกระดาษที่พวกมันส่งไปมาอยู่คนเดียว ส่วนผมเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก สมน้ำหน้า !!! มันครับ  อยากปากระดาษใส่หัวกูดีนัก ถ้าจะโทษก็โทษไอพวกนั้นก็แล้วกันนะเก่ง



               วันนี้ทั้งวัน ผมคิดไม่ตกเลยว่าจะไปเยี่ยมเนมดีมั้ย รึจะรอให้มันหายก่อนแล้วค่อยไปขอบคุณดี แต่บางทีเนมอาจไม่สบายเพราะผมก็ได้ แถมวันนี้ก็ยังต้องไปซ้อมดนตรีที่ชมรม จะทำไงดีวะเนี่ยยย
    !!

     



      “
    ปุณณ์ๆผมตัดสินใจเรียกเลขาสภาที่กำลังเดินหอบสัมภาระอยู่

     

     

     


                “
    บ้านเนมไปทางไหนวะ

     

     

     

     

     

     


               ปิ๊ง ป่องงง !!!

     

                 เสียงออดของบ้านเนมดังลอดออกมาถึงหน้าบ้าน ผมยืนถือถุงขนมที่ซื้อมาคอยอยู่สักพักก็มีผู้หญิงคนนึง ซึ่งดูยังไงก็ต้องเป็นพี่สาวออกมาเปิดประตูให้

     

      “สวัสดีครับ ฟิล์ม เพื่อนเนมอ่ะครับ

     

      “หวัดดีจ้า โทษทีนะ เมื่อกี้พี่อยู่ชั้นบนน่ะ ลงมาเปิดช้านิดนึง คนที่ดูเหมือนพี่สาวของเนม (เพราะผิวขาวเหมือนกันเด๊ะ) พูดอย่างอารมณ์ดี พลางพาผมเข้าไปในตัวบ้าน ผมนั่งลงที่โซฟาหนังหน้าจอทีวีที่กำลังเปิดอยู่ ขณะที่พี่สาวของเนมก็กำลังเทน้ำใส่แก้วมาให้ผม

     

      “ขอบคุณครับ พี่...

     

      “พี่นิ๊ง พี่สาวเนมจ้ะ  แต่เรียกว่าเจ้นิ๊งดีกว่านะ เพราะเพื่อนเนมเค้าก็เรียกเจ้นิ๊งกันทั้งนั้น โอเค๊ ? ผมพยักหน้าให้พี่สาวอารมณ์ดี เจ้นิ๊งยิ้มรับทีนึง ก่อนจะก้มลงไปเก็บหนังสือต่างๆที่กองอยู่หน้าทีวี

     

      “บ้านเล็กไปหน่อย อยู่กันสองคน บ้านกว้างไปก็หลอนน่ะนะ

     


      “
    บ้านเล็กเนี่ยครับ อบอุ่นดี

     

      “เนอะ!” หลังจากจัดหนังสือกองให้เป็นระเบียบได้แล้ว เจ้นิ๊งก็เดินมานั่งลงบนโซฟา

     

      “แล้วเนมสบายดีรึยังครับ?

     

      “ไม่รู้สิ พอกินยาก็ลุกขึ้นมาซ่าได้สักพัก พอยาหมดก็สลบอยู่นี่แหละ ฮ่าๆ สงสัยมันจะกวนจริงๆ เพราะเจ้นิ๊งไม่ว่าเปล่า ยังโชว์แผ่นเกมเพลย์ที่ตั้งเกลื่อนพื้นขึ้นมาเป็นหลักฐานอีก

     

      
      “
    ฟิล์มจะขึ้นไปห้องเนมก็ได้นะ อยู่ชั้นสาม ห้องขวามือ เดี๋ยวเจ้ขอเก็บของก่อนผมตอบรับพลางเดินขึ้นไปยังชั้น3

     


            ผมค่อยๆเปิดประตูอย่างเบามือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่ให้คนป่วยตื่นเสียก่อน แต่ภาพที่เห็นหลังจากที่เปิดประตูแล้วนั้นทำเอาผมชักอยากจะวิ่งไปปิดประตูซักโครมใหญ่

     

      “อ้าว ฟิล์ม มาได้ไงเนี่ย? ไอ้เจ้าของห้องทักผมเสียงใส ถึงแม้หน้าขาวนั้นจะออกแกมซีดเพราะไข้หวัด แต่ในมือยังถือการ์ตูนคาอยู่เล่มนึง จนผมอดรนทนไม่ไหว เอาถุงขนมเขกหัวไปทีนึงจนมันนอนร้องโวยวาย ซ่าได้ซ่าไปนะมึง

     

      “ไม่สบายแล้วไม่บอก เดี๋ยวก็หาว่ากูทารุณกรรมศิลป์ สภาอีก

     

      “เมื่อวานกูไปหามึงแล้วนะ

     

      
      “
    คร้าบๆ ฟิล์มขอโทษครับ

     

                    ผมนั่งลงบนเตียงข้างๆคนป่วย เอามือแตะหน้าผากตัวเอง แล้วยื่นมืออีกข้างนึงไปแตะหน้าผากเนมเช่นกัน อืมมม ตัวรุมๆแฮะ สงสัยยายังไม่หมดฤทธิ์  แต่จู่ๆเนมก็หยิบเอาผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองซะงั้น

     

      “แล้วจะเอาผ้าห่มมาปิดจมูกทำไม เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกหรอก

     


      “
    เดี๋ยวมึงติดหวัดกู ผมหลุดขำออกมาเล็กน้อย ร่างกายมันฟิตต่างกันว่ะ ฮ่าๆ

     


      “
    กูไม่อ่อนแบบมึงหรอก ผมยักคิ้วกวนๆส่งไปทีนึง  ซึ่งเนมทำไม่สนใจ เอี้ยวตัวไปหยิบถุงขนมขึ้นมาดู

     

      
      " ซื้อขนมปังมาฝาก ชอบกินป่าววะ

     

      “ก็ พอกินได้ แต่ไอ้ขนมปังก็พอกินได้ของมึงนี้ ยัดครัวซองก์คำเดียวหมดเลยนะ จะดีใจหรือโกรธมันดีวะเนี่ย??

     

                  หลังจากนั้นพวกเราก็คุยกันไปเรื่อย ทั้งการ์ตูน เกม เผาคนในสภา (แอบชั่วนะมึงอ่ะ) จนผมเริ่มสังเกตได้ว่าหน้าขาวซีดนั้นเริ่มขึ้นสีบ้างแล้ว แถมเจ้าตัวก็เริ่มคุยน้อยลงแล้วด้วย ฮ่าๆ ยาหมดฤทธิ์ก็หงอยเชียวนะมึง

     

      “งั้นกูกลับก่อนดีกว่า มึงจะได้นอนพักบ้าง

     

      
      “หายเร็วๆนะเว้ยย  อย่าซ่าให้มากนัก เดี๋ยวหวัดก็ไม่หายหรอก

     


      “พรุ่งนี้หาย ชัวร์ หึ เอาให้แน่เห้อออออ  !! ผมมองดูหมอเนม ชัวร์ชัวร์ ทำนายไข้ตัวเอง ก่อนจะมุดตัวกลับลงไปในผ้าห่มอีกครั้ง

     


                             ผมค่อยๆปิดประตู สงสัยเพราะว่าผมมาเยี่ยมเนมรึเปล่า ทำไมถึงได้รู้สึกว่าหัวใจมันพองโตอย่างนี้ละเนี่ย








    สาส์นจากกองขยะ :: ก็ภาวะโลกเลิฟ เลิฟ เลิฟ เลิฟ ยูวววววววว   ไงจ๊ะน้องฟิล์มมมมมม !!!! (ฮิ้วววววววว)  เปิดตัวน้องเนมออกมาถูกใจป่าวค๊าาาาา !! แต่ถังละช๊อบบบบบบบชอบ >///<  อรั้ยยยยๆๆ   มาอัพช้าขออภัยแบบมีความเร่ง (อย่างแรง 555) เพิ่แหวกกองการบ้านออกมาได้  แต่ตอนนี้หวัดใหญ่ 2009 มันระบาด โรงเรียนถังปิดยาวเจ้าข้าเอ๊ยยยยยยย !!! จะพยายามอัพบ่อยๆนะจ๊าาาา
    (ได้ยินเสียงแซวมาว่าชื่อตอนนี้เสี่ยวได้แรง 555 ที่อัพช้าเพราะคิดชื่อตอนไม่ออกหรอก จริง จริ๊งงงง !! เชื่อสิ)


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×