คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1
ท้องนภาที่มืดมิดมีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องให้เห็นเส้นทาง แสงไฟจากบ้านเรือคบเพลิง สว่างไสวค่ำคืนที่เหน็บหนาว
ยังคงพอให้ความอบอุ่นไปถึงในซอกตรอกโรงนาเก่า แถบชายป่า ที่มีร่างของเด็กสี่คนนอนกอดกันบนกองฟางรองด้วยผ้าเพื่อให้ความอบอุ่น เพราะมีเพียงผ้าบางๆ และไออุ่นของไฟที่ป้องกันพวกเขาจากความหนาว
เมื่อแสงที่อบอุ่นของพระอาทิตย์เคลื่อนมาถึง ร่างเล็กลุกขึ้นมาขยี้ตาแก้ง่วงและปลุกคนอื่นๆ ให้ตื่นขึ้นมา แต่มีหนึ่งคนที่ไม่ยอมตื่นเพราะมีพิษไข้ หารู้ไม่ว่านั้นไม่ใช้สหายคนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เสียงนกร้องที่แว่วเข้ามาในหู พร้อมกับความเปียกที่ชื้นเเฉะอยู่บนใบหน้า เมื่อลืมตาขึ้นมาพบกับใบหน้าของเด็กผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้ม
"เฉินหนง เจ้าตื่นแล้ว"
ร่างที่นอนซมพิษไข้กะพริบตาถี่ ที่นี่ที่ไหน หนาวจัง
นี่อะไรกันทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ ในร่างนี้ แล้วทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคย ปวดหัว ร่างเล็กหลับตาลงข่มความปวดหัว ไม่นานก็หลับไป อย่างน่าเวทนา
‘เฉินหนง’
‘เสียงใครน่ะ’
‘มาหาข้า เด็กน้อย’
ร่างเล็กมองไปรอบกายที่มีหมอกปกคลุมไปทั่ว ใต้เท้าเป็นพื้นน้ำไปจนสุดสายตาแต่แปลกที่เขาไม่จมลงไป เมื่อมองไปด้านหน้า มีละอองสีทองที่ล่องลอยในอากาศราวกับว่าจะบอกให้ตามมันไป
เมื่อเดินมาไม่นานมีสะพานที่ก้าวข้ามราวกับอีกมิติหนึ่ง ที่เป็นสระบัวที่ไม่สิ้นสุดมีเพียงศาลาที่ตั้งอยู่ใจกลาง ด้านในนั้นมีชายชราที่นั่งจิบน้ำชาอย่างสำราญใจ
‘มานั่งลงตรงนี้สิ’
‘เจ้าคงกำลังสับสนและมึนงง’
‘เอาละ ได้เวลาคืนทุกอย่างให้เจ้าแล้ว มันควรกลับไปที่ที่มันควรอยู่’
‘ท่านหมายความว่ายังไง’
ชายชราไม่ตอบเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะจิ้มลงบนหน้าผากเล็ก รอบตัวปรากฏละอองสีทอง หน้าผากปรากฏปานสีแดงรูปดอกไม้ ก่อนที่ทุกอย่างจะหายไปจากสายตา มีเพียงแค่ความมืด
ขนตาที่งอนยาวกระพือตามเปลือกตา เฉินหนงมองไปรอบๆ พยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งก็ต้องยอมแพ้กับพิษไข้ที่รุมเร้า
เรื่องทั้งหมดนี้หมายความว่ายังไง คนในความฝันนั้นคือใคร คืนอะไรกัน เฉินหนงพยายามคิด ก่อนที่ทุกอย่างเหมือนจะหยุดลง
ภาพทุกอย่างในความทรงจำที่เหมือนจะหายไปพรั่งพรูเข้ามาในสมอง ร่างเล็กที่ปวดหัวเพราะพิษไข้ยิ่งปวดหัว
เขาจำได้แล้ว จำได้ทุกอย่าง ตัวเขาในชาติก่อนนั้นตายไปแล้วด้วยโรคหัวใจ นี่แปลว่ามาเกิดใหม่สินะ
ร่างนี้มีชื่อว่าเฉินหนง เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ตอนนี้คงสิบขวบ
เขาเลิกสนใจเรื่องพวกนี้แล้วหลับไปเพราะอาการเวียนหัวที่ไม่ยอมจางลงไป
เฉินหนง
ตื่นเถอะ
ใครเรียกเรากัน
เขาลืมตาขึ้นมาด้วยความง่วงงุนเมื่อมองไปที่หน้าต่างก็เห็นว่าท้องฟ้าด้านนอกมืดแล้ว เขากลับมาสนใจเด็กน้อยตรงหน้า
หยงซาน พวกเราอาศัยอยู่ที่โรงนาเก่านี้สี่คน เมื่อไม่เห็นคนที่เหลือก็อดเป็นห่วงไม่ได้ หนงซานที่จ้องมองอยู่ก็ดูออกทันที
“ต้าเซียน กับหยางฉิง จับปลาอยู่ที่ลำธาร อย่าห่วงไปเลย เจ้าห่วงตัวเองเถอะ ทานนี่รองท้องไปก่อนแล้วค่อยดื่มยา เจ้าทานเองไหวมั้ย”
เฉินหนงพยักหน้าตอบ
หยงซานยื่นถ้วยที่มีรอยร้าวแต่ก็ยังใช้ได้อยู่ด้านในมีข้าวต้ม แต่ไม่ทันที่จะยื่นมือไปรับ หยงซานดึงถ้วยกลับเข้าหาตัวเองก่อนที่จะตักขึ้นมาเป่าแล้วจ่อปาก ของเขา
“ทานซะ เจ้าไม่มีเเรงหรอก”
“ข้าทานเองได้”
“อย่าดื้อรีบกินลงไป”
ร่างซึมไข้อ้าปากรับ ไม่นานก็ทานหมด เขามองยาน้ำที่มีสีเขียวอื้อ ขมแน่ๆ เลย เฉินหลงกลั้นใจดื่มลงไป ขม มันจมสุดๆ เลย
“ข้ารู้ว่ามันขม ดื่มน้ำเถอะ”
หยงซานลูบหลังเฉินหนงที่กำลังทำหน้าแหยะด้วยความขม
“เจ้าทำหน้าอะไรแบบนั้น” ต้าเซียนที่เดิมเข้ามาพร้อมกับหยางฉิงที่มีตะกร้าแบกเข้ามา
“ลำบากพวกเจ้าแล้ว”
“อย่าห่วงไปเลย ไข้ลดลงแล้ว พักผ่อนเถอะ คืนนี้อากาศหนาว ไข้อาจจะขึ้นอีกรอบ”
ถึงแม้พวกเราจะเป็นเด็กกำพร้าแต่ก็มีคนเอ็นดูอยู่บ้าง จะเรียกกำพร้าได้รึเปล่าเพราะท่านพ่อและท่านแม่ ต่างทิ้งพวกเรา
ความคิดเห็น