คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Episode 2 (That's what you call me.)
555 ลงผิดอีกละ
"ฉันไม่ได้ถามชื่อเธอ"
พอเขาพูดแบบนั้นออกไปเธอก็เชิดหน้าหันไปทางอื่น สีหน้าก็แปลกไปดูพิลึกคน ฉันพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ? หรือว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตาม ใครจะมีเวลาดึกๆดื่นๆมาคุยกับคนประเภทนี้ล่ะเนี่ย? นอนไม่หลับกันพอดี เขาหลับตาลงไปอีกครั้ง และท่าทางกำลังจะหลับลงสนิทด้วย
"ฮึ"
รู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังเรียกร้องความสนใจจากเขาอยู่ แต่บ้าเอ๊ย ง่วงก็ง่วง เอาไงกับผู้หญิงคนนี้ดีล่ะเนี่ย?
"ขอโทษก็ได้"
พอเขาบอกขอโทษเธอก็รีบหันกลับมาด้วยสีหน้าที่เบิกบานมากขึ้นทันที เขาหรี่ตามองด้วยความเอือมระอา แต่คิดว่าสักพักเธอก็คงไปแล้วล่ะมั้ง
"ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องแบบนี้ฉันให้อภัยได้ แล้วคุณล่ะคะ... เป็นใครกัน?"
เธอเอาหน้าเข้ามาใกล้กับเขามากขึ้น อย่ายิ้มแบบนั้นสิ น่าขนลุก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงฟุบหลับแล้วแสดงอาการสงบเย็นอยู่
"ก็เป็นอย่างที่เธอเห็น"
"จริงเหรอคะ?"
เธอขยับเข้ามาใกล้เขามากขึ้นอีก จนปลายผมของทั้งคู่เริ่มจะแตะกันแล้ว ยิ้มหวานๆที่ทำเอาใครหลายคนละลายได้เลย แต่กับเขาก็ได้แค่หลับตาลงไปอีกครั้ง
" แต่ว่า คุณดูเหมือนคนละอย่างกับที่ฉันเห็นเลยนะคะ"
รูปร่างก็ดูดีพอๆกับนางแบบ แต่พอมองเข้าไปในดวงตาคู่ของเธอแล้ว รู้สึกเหมือนมีรังสีอำมหิตออกมาจากตัวเธอตลอดเวลาเลย และก็รู้สึกว่า ตาซ้ายที่มีเข็มนาฬิกาอยู่นั่นคงจะไม่ใช่คอนแทคเลนส์แล้วล่ะมั้ง น่าจะเป็น ดวงตาจริงๆของเธอมากกว่า เหนือธรรมชาติชะมัด แต่ขี้เกียจจะมาต่อล้อต่อเถียงกับคนแบบนี้แล้ว ต้องพูดยังไงให้เธอไปวะเนี่ย?
"เธอต้องการอะไรจากฉัน? "
เขาถอยเก้าอี้ที่นั่งอยู่ให้ห่างจากตัวเธอออกไป ส่วนเธอเองก็ขยับเข้ามาตามเขา แล้วดูทำหน้าเข้า หันซ้ายหันขวาทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ น่าหมั่นไส้
"แต่ดูท่าทางเธอคงจะไม่ใช่คนที่ฉันเคยเห็นทั่วๆไป เธอเป็นใครกันแน่?"
เขามองไปที่คุรุมิอย่างจ้องจะจับผิด
" ฮุฮุ ช่างสังเกตดีนะคะเนี่ย คุณมองตาฉันคุณก็รู้แล้วใช่มั้ยล่ะคะ?"
ยิ่งพอมองไปที่ดวงตาที่เป็นนาฬิกานั้นแล้ว ก็ยิ่งมั่นใจได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนทั่วๆไปแน่นอน อันตรายกว่าที่คิดไว้ ต้องไม่ให้เธอล่วงรู้อะไรเกี่ยวกับฉันไปได้มากกว่านี้ เขาลุกขึ้นมานั่งแล้วถอนหายใจเบาๆ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เธอดูหลงไหลอะไรบางอย่างในตัวเขาขึ้นมาทันที
"ให้ตายสิ เธอทำให้ฉันนอนไม่หลับ"
" เอ๊ะ? จริงเหรอคะ? ต้องขอโทษด้วยนะคะที่มารบกวนคุณตอนที่กำลังนอนอยู่"
"ถ้าไม่มีอะไรก็ไปได้แล้ว หรือถ้ายังคงมีธุระกับฉันอยู่ก็รีบสะสางให้เสร็จสรรพภายในคืนนี้ซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่นับว่าเธอเป็นมิตรกับฉันแล้ว"
เธอยิ้มหวาน พร้อมกับหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา เขามองไปที่กระดาษแผ่นนั้นแบบงงๆ แต่คิดไว้แล้ว ว่าที่เธอมาครั้งนี้ต้องมีข้อเสนอและผลประโยชน์เป็นแน่
" นี่คือพันธะ-"
"เอามันออกไปให้พ้นระยะสายตาของฉันซะ"
(หน้าเริ่มหมอง)"ไม่ตอบเร็วไปหน่อยเหรอคะ?"
" นั่นน่ะคือผลประโยชน์ของเธอ ส่วนฉันก็คงมีฐานะแค่พวกค้ำประกันที่มีประโยชน์แค่ช่วงกู้เท่านั้น แต่ตอนใช้คืนก็ผลักไสภาระมาให้ฉันคนเดียว"
"แต่คุณยังไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยนะคะ"
"แล้วจำเป็นมั้ยที่ต้องทำ? "
" แต่คุณยังไม่รู้เลยนะคะว่ามันคืออะไร ฉันหวังดีกับคุณนะคะ"
เขาหยิบเอาใบเซ็นสัญญาจากมือคุรุมิมาอ่านอย่างฝืนใจ แต่สักพักเขาก็เอาใบเซ็นสัญญานั้นคืนเธอไป จากนั้นเขาก็กลับไปอยู่ในท่าฟุบหลับอีกครั้ง อะไรวะ? ตอนเกรด 1 อาจารย์ไม่ได้ให้คัดลายมือรึไง?
" ของแบบนั้นฉันไม่ทำหรอก ผู้ถูกเลือกบ้าบออะไรนั่นก็ไม่ได้มีแค่ฉันซะหน่อย ไปทำกับคนอื่นไม่ได้รึไง? "
"ทำไมล่ะคะ? หรือว่า... ไม่ชอบฉันงั้นเหรอคะ?"
เออสิไอ้_ัส
จะมายื้ออีกนานแค่ไหนเนี่ย? ใจจริงก็อยากจะรับเอามาพิจารณาอยู่ แต่ถึงยังไงจะให้เสี่ยงไปแบบนั้น...
"ฉันถามว่าไปทำกับคนอื่นไม่ได้รึไง? ฉันมีดีตรงไหน? เอาแต่นั่งหลับอยู่ในร้านเหล้า ไม่มีใครมาหาเรื่องก็ถือว่าโชคดีเท่าไหร่แล้ว ถ้าเธออยากได้คนนักก็ไปติดป้ายประกาศไม่ก็แจกใบปลิวตามข้างถนนซะสิ อย่ามายุ่งอะไรกับคนไม่มีจุดมุ่งหมายอย่างฉันเลย โว๊ะ ยัยนี่"
"จุดมุ่งหมาย งั้นเหรอคะ? "
เธอเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ เธอยิ้มหวานอีกครั้ง จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นเหมือนกำลังจะกลับแล้ว ให้ตายสิ กลับไปอย่างนี้ตั้งแต่แรกก็ดีแล้วแท้ๆ
" ถ้างั้น... ฉันจะทำตามที่คุณบอกก็แล้วกันค่ะ ไว้เจอกันนะคะ"
เธอเดินออกจากร้านไปแล้ว คืนนี้เขาก็ฟุบหลับอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจไม่มีใครรบกวน ถึงแม้จะมียุงบินหึ่งๆอยู่ข้างหูสักสองสามตัวก็เถอะ แต่เธอจะกลับมาอีกงั้นเหรอ? ต้องรับมือยังไงต่อไปดีวะเนี่ย?
ในใบเซ็นสัญญาแผ่นนั้น กล่าวถึงผลประโยชน์ของการทำสัญญาบางอย่างระหว่างทั้งคู่ ซึ่งยังไม่รู้เนื้อความทั้งหมด แต่ว่า เขาคงไม่เผลอไปทำง่ายๆ เพราะดูจากเงื่อนไข มันเสี่ยงเกินกว่าที่จะเป็นสัญญาทั่วๆไปแล้ว ว่าแต่ทำไมจะต้องเป็นฉันด้วย?
>>>รุ่งเช้า
แสงแดดที่เริ่มทะลุผ่านหน้าต่างแล้วส่องเข้ามาที่หน้าเขา ทำให้เขาต้องพยายามลืมตาขึ้นมา ร้านเหล้ายังไม่เปิด พวกเด็กเสิร์ฟก็คงจะยังไม่ตื่นกัน จากนั้นเขาก็ลุกออกไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ
"ยังอยู่ในหัวอีกเหรอเนี่ย?"
เขาพยายามตบหน้าตัวเองเพื่อที่จะลืมเรื่องเมื่อคืนนี้ แต่ว่ามันยังคงอยู่ในหัวสมองของเขาไม่หายไปเลย เจ็บมือชะมัด เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังใส่หน้ากากอยู่
"ผู้หญิงคนนั้น... ดูดีชะมัดเลย หน้าตาก็ดีรูปร่างก็ดี เวลายิ้มก็น่ารักอีก แต่ก็ดูลึกลับ... แต่เดี๋ยวก่อน นี่ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย?"
เขาบ้วนน้ำที่อยู่ในปากแล้วพยายามตบหน้าตัวเองอีกครั้ง ลืมอีกแล้วว่าตัวเองใส่หน้ากากอยู่ คราวนี้กระดูกนิ้วคงร้าวไปนิดนึงแล้วล่ะมั้ง ล่อตบแรงซะขนาดนั้น แต่อยู่ดีๆใจมันก็วอกแวกไปไหนก็ไม่รู้ ให้ตายสิ
" แต่ทำไมเธอถึงต้องเข้ามาหาฉันด้วย? อันตราย ไว้ใจไม่ได้ ต้องระแวงตัวเองเอาไว้"
>>>ที่สนามเด็กเล่น
ที่นี่เป็นพื้นทราย มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กอยู่เต็มไปหมด ซึ่งด้วยขนาดตัวของเขาก็คงใหญ่เกินกว่าจะเล่นอะไรพวกนี้ได้ คงมีแค่ชิงช้าที่สูงๆหน่อย ซึ่งเขามาที่นี่เพื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า คงจะมีอะไรมาดลใจเขาเป็นแน่ แถมวันนี้อากาศก็ไม่ได้ร้อนมาก ถึงตอนนี้เหงื่อจะท่วมตัวเขาแล้วก็เถอะ
เขานั่งลงที่ชิงช้า มองไปรอบๆก็เห็นแต่บ้านเรือน ตรงนี้คงเป็นจุดชมวิวไม่ได้ เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งและผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเล่นกระดานหกอยู่ แต่อยู่ดีๆ เด็กผู้หญิงก็สูญเสียการทรงตัว หล่นลงมาจากกระดานหกนั้นแล้วล้มลง แถมยังมีแผลถลอกเลือดซิบๆ เด็กผู้ชายจึงรีบลงดูทันที
"เป็นอะไรหรือเปล่า?"
ฉัน...
เด็กผู้ชายก็เลยอ้าปากเป่าไปที่แผลของเด็กผู้หญิงคนนั้น เขาก็ทำหน้างงภายใต้หน้ากาก
"ดีขึ้นรึยัง?"
"อืม"
"งั้นกลับบ้านไปทำแผลกันนะ"
ทั้งคู่ก็จูงมือกันกลับบ้านของทั้งคู่ไป แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกอิจฉาแปลกๆ มันก็ตามประสาเด็กแหละ แต่ที่อยากรู้ก็คือ ที่เป่าให้นั่น ให้ทรายที่ติดอยู่มันออกไปรึเปล่า? ฉันไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ว่าการเป่าแบบนั้นจะทำให้แผลทุเลาลงได้ แต่ทำไมพวกมนุษย์ยังเชื่อแบบนั้นกันอยู่? แต่ว่ามันคงเป็นธรรมดาของมนุษย์ล่ะมั้ง
เห็นเด็กคนหนึ่งนั่งอยู่บนเครื่องเล่นแบบเดียวกับเขาแต่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง ผมยาวสีเขียวมิ้นท์ เสื้อแขนยาวสีดำ แต่เดี๋ยว ทำไมฉันถึงรู้สึกคุ้นๆกับเด็กคนนั้น? จำได้แล้ว เด็กคนนี้ที่ฉันเผลอเตะบอลไปโดนหัวนี่เอง น่าอายชะมัด รอยฟกช้ำยังอยู่นิดหน่อยด้วย แต่ดูจากสีหน้า ทำไมยิ่งมองแล้วยิ่งหดหู่วะ?
เขานั่งครุ่นคิดอยู่ แต่ก็มีผู้หญิงผมยาวสีเทา หน้าตาดูสาวๆป้าๆ แต่ท่าทางดูแข็งๆ ชุดที่ใส่ดูสะอาดสะอ้าน เสื้อนี่มันเงาดีจัง กำลังแจกกระดาษอะไรสักอย่างเหมือนกับใบปลิว จนเธอคนนั้นเข้ามาหาเขา พร้อมกับยื่นใบปลิวที่คิดว่าคงไม่ช่วยโฆษณาอะไรได้มากนักให้กับเขา ส่วนเขาพอได้ใบปลิวนั่นแล้วก็อ่านอยู่สักพัก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก แต่ดูท่าทางเธอจะสนใจเขาไม่น้อยเลยทีเดียว
" นายดูน่าสนใจดีนะ"
"มีอะไรหรือเปล่า? "
"ฉันหมายถึง นายน่ะเป็นคนแรกและน่าจะคนเดียวด้วยที่ตั้งใจอ่านใบปลิวที่ฉันแจกให้"
"ตั้งใจงั้นเหรอ? ก็แค่... อยากรู้อยากเห็นนิดหน่อยล่ะมั้ง" (หันไปทางเด็กคนนั้น)
ใบปลิวแผ่นนี้มีเนื้อหาถึงการรับสมัครหน่วยก้านดีไปเป็นทหารของหน่วยนั้น ดูแล้วก็ไม่ได้น่าสนใจมาก เพราะลำพังแค่ดันพื้นยังได้แค่สองสามครั้งเอง
"ถ้างั้นฉันคงคิดถูกแล้วล่ะ ฉันคืออเดปตัสวัน เอลเลน ยินดีที่ได้รู้จัก"
จะคุยกับฉันก็ช่วยพูดในคำที่ฉันรู้หน่อยสิ
คนที่ชื่อเอลเลนยื่นมือซ้ายมาให้เขา แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกแหยๆกับมือแบบนั้นวะ? รับสมัครทหารแต่ดูท่าทางแล้วเธอไม่น่าจะใช่ทหาร มือนี่ดูบางเบาและเกลี้ยงเกลาซะเหลือเกิน ถ้าเผลอไปแตะมีหวังคงยุบลงไปเป็นแถบๆ และยิ่งยื่นมือมาด้วยท่าทางที่สุดแสนจะมั่นใจด้วย ไว้ใจไม่ได้เลย
เขาเหมือนจะยื่นมือซ้ายไปรับ แต่พอคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ก็รีบชักมือกลับมาทันที
" มือเปื้อนไวรัสปะเนี่ย?"
เอลเลนนิ่งอยู่สักพัก
"ว้าย! ไอ้บ้า ฉันน่ะล้างมือทุก 30 นาทีย่ะ!" (ท่าทางดูโวยวายแบบนี้ใช่ทหารจริงๆปะเนี่ย?)
"เอาล่ะๆ เข้าเรื่องเถอะ เธอบอกว่ากำลังรับสมัครทหารใช่มั้ย? แล้วมีการทดสอบมั้ย? เช่นดันพื้นหรือดึงข้ออะไรประมาณเนี้ย "
" ทดสอบทหารนะ ต้องมีแน่นอน แต่สำหรับนาย ฉันจะส่งเรื่องถึงผู้บัญชาการให้พิจารณาเป็นพิเศษ"
"งั้นเหรอ? ก็ดีใช้ได้ แต่ว่า... (ลุกขึ้นยืน) ฉันไม่ค่อยได้สนใจมันเท่าไหร่ ขอโทษด้วย และฉันก็ไม่ค่อยชอบทำงานที่แบบว่า อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของใครบางคนอะไรประมาณเนี้ย, ถ้างั้นฉันจะลองเอากลับไปคิดดูละกัน ถ้าฉันต้องการฉันจะโทรไปตามเบอร์ในใบนี่ โอเคมั้ย? "
" ฉันไม่ขัดข้องในการตัดสินใจของนาย แต่นาย ก็ควรจะคิดให้ดีด้วยก็แล้วกัน หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก"
เอลเลนหลีกออกมาจากตัวเขาแล้ว แต่เหมือนว่ายังมีเรื่องที่ค้างคาเอาไว้ในใจ อะไรกัน? คุณชายคนนี้เล่นตัวชะมัดเลย แต่หน่วยก้านดีกว่าคนทั่วไปอีก ถ้าจะปฏิเสธก็รู้สึกเสียดายอยู่
ส่วนเขาก็กำลังจะเดินออกไปจากสนามเด็กเล่นแล้ว แต่ก็สะดุดตาตรงที่ป้าคนนั้นเดินไปหาเด็กคนที่เขาเคยเจอมาก่อน ท่าทางคงเป็นแม่ของเด็กล่ะมั้ง แต่ด้วยท่าทางที่ดูยื้อยุดฉุดกระชากนั่นแล้ว... มันก็คงเป็นธรรมดาของมนุษย์ล่ะมั้ง
มนุษย์นี่ มีแต่คนไว้ใจไม่ได้อยู่เต็มไปหมดเลย
"นี่"
เขาเอามือไปจับไหล่เธอจากด้านหลัง
"เอ๋? อะไรอีกล่ะ? อย่าบอกนะว่าตัดสินใจได้แล้ว"
"เธอเป็นอะไรกับเด็กคนนี้"
"พี่เลี้ยงน่ะ เธออยู่ในศูนย์เด็กกำพร้า ฉันเลยพาเธอออกมาเดินเล่นหน่อย แต่ดูทำสิ ดื้อด้านไม่ยอมกลับบ้าน"
(เอาแต่พึมพำอยู่)"กลับบ้าน... บ้านของเด็กคนนี้อยู่ที่ไหนกันแน่?"
"บ่นไร? "
" ก็ไม่นี่"
เขานิ่งอยู่
>>>ตกเย็นที่ร้านเหล้า
อาทิตย์เริ่มลาขอบฟ้าไปอีกครั้ง ร้านเหล้าเปิดแล้ว ทันทีที่เปิดก็เริ่มมีคนเข้ามาเลย หนึ่งในนั้นก็คือลุงคนนั้นที่เคยอยู่ในห้องขังเดียวกัน เขามาที่นี่เพื่อมาหาชายคนนี้โดยเฉพาะ
"อ้าว! ไม่เจอกันนานเลย สบายดีมั้ย? "
ที่บอกว่านานนี่แค่สองสามวันเองเหรอ
"รับอะไรดีครับ?"(น้ำเสียงอันนุ่มนวลนั้น)
"งั้นขอสาเก 3 ที่แล้วกันนะ พอดีว่าฉันชวนเพื่อนมาด้วย"
ลุงคนนั้นก็กลับไปหาเพื่อนของเขาที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง จากนั้นเขาก็เรียกพนักงานเสิร์ฟมา
" สาเก 3 ที่ เสิร์ฟโต๊ะ 8"
"ครับ! "
เด็กเสิร์ฟรับคำแล้วรีบไปตามออเดอร์ทันที ส่วนเขาก็ยังคงนั่งครองถิ่นอยู่ที่เดิม คือที่โต๊ะยาวหน้าเคาน์เตอร์
คืนนี้ก็เป็นไปอย่างปกติ แต่รู้สึกว่าช่วงนี้คนอกหักมีเยอะหน่อย ก็คงจะมาระบายอารมณ์อยู่ที่ร้านเหล้าสักแห่งแหละ นั่นก็คงเป็นธรรมดาของมนุษย์ล่ะมั้ง
เขายังคงนั่งฟุบหลับอยู่ที่เดิม โดยที่ไม่ได้สนใจในเรื่องของผู้หญิงคนนั้นเลย แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าคืนนี้เธอจะมาที่นี่อีกหรือเปล่า? แต่ใจจริงก็ไม่ได้อยากให้มาเท่าไหร่นัก
แต่แล้วจากเมื่อกี้ที่มีผู้คนคุยกันเสียงดังแซด แต่อยู่ดีๆมันก็หยุดลงไปเอง จากนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง สิ่งที่กำลังก้าวเข้ามาหาเขา เสียงฝีเท้าที่มันยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่กับการหลับไหลในคืนนี้ คงจะเป็นเด็กเสิร์ฟมาเช็ดโต๊ะ ไม่น่าจะแปลกอะไร
"ว้าว ใครน่ะ? สวยชะมัดเลย"
"แต่หน้าตาดูเด็กมากเลยนะ เข้าร้านเหล้าได้แล้วเหรอ?"
เสียงฝีเท้านั้นเงียบลง แต่เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทั่วร้าน ต่างคนต่างก็ซุบซิบกันถึงเรื่องบางอย่าง ได้ยินเสียงลากเก้าอี้จากข้างๆเขา จากนั้นก็เหมือนมีคนเรียกชื่อใครก็ไม่รู้อยู่ข้างๆหูเขา
"เคนชินโตะซัง"
อะไร? คืออะไร? นี่เขาเรียกกันว่าชื่อใช่มั้ย? แต่ฟังดูแปลกๆพิลึก กำลังเรียกใครอยู่? คิดดังนั้นก็ไม่ได้แสดงอาการตอบสนองแต่อย่างใด แต่ก็ยังได้ยินเสียงเรียกข้างๆหูอีก
"เคนชินโตะซังคะ"
แต่ว่า ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะมาแล้ว แต่ทำไมเธอถึงยังเรียกชื่อเดิมซ้ำๆ พร้อมกับสะกิดที่ไหล่ของเขา
"เคนชินโตะซัง"
แบบเนี้ย
เขาทนต่อสิ่งเร้านี้ไม่ไหว จึงได้ตอบสนองออกไปในที่สุดด้วยการลืมตา เขาเห็นผู้หญิงคนนั้น นั่งอยู่ในท่าเดียวกันกับเขา กำลังจ้องมองเขาอย่างใกล้ชิด สุดท้ายก็โผล่มาอีกแล้ว คืนนี้จะได้นอนดึกอีกมั้ยเนี่ย? แต่สังหรณ์ใจไม่ดีเลย
"อะไรกัน? นี่มาอีกแล้วเหรอ?"
แต่เขาก็ยังพูดออกไปด้วยอาการเย็นชา
"เมื่อกี้เธอเรียกใคร?"
"ก็ เรียกคุณไงล่ะคะ"
"แล้วไอ้ที่เรียกเคนชินโตะนั่นมันหมายถึงอะไร?"
" ฉันก็...ตั้งชื่อให้คุณใหม่ยังไงล่ะคะ"(ยิ้มหวาน)
"อะไรของเธอ?"
"แหม... ก็คุณน่ะไม่มีชื่อเลยนี่คะ จะให้ฉันเรียกแต่คำว่าคุณมันก็แปลกอยู่ ถูกมั้ยคะ?"
ชื่องั้นเหรอ? มันคืออะไรกัน? แต่ดูเหมือนว่ามันจะน่าอายไปหน่อยถ้าถามไปเลยตรงๆ อะไรวะ ยิ่งคิดยิ่งเครียด
"แล้วมาหาฉัน มีธุระอะไรนอกจากพันธะบ้าบอคอแตกอะไรนั่นมั้ย?
เขารินค็อกเทลใส่แก้วไวน์สองแก้ว จากนั้นเขาก็ยกแก้วไวน์แก้วหนึ่งขึ้นมาจิบเล็กน้อย
"ต้องมีมากกว่านั้นสิคะ"
เธอหยิบแก้วไวน์ที่มีค็อกเทลอยู่ในนั้นอีกแก้วหนึ่งขึ้นมาจิบเล็กน้อยเช่นกัน
"ไม่งั้น ฉันจะมาหาคุณทำไมล่ะคะ"
"เอาล่ะ รีบๆว่ามาซะ"
"คุณรู้จัก DEM มั้ยคะ?"
DEM เหรอ? ชื่อนี่อย่างเท่เชียว ฟังแล้วดูขัดหูแปลกๆ แล้วอยู่ดีๆเธอก็ถามเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม บางทีเรื่องพวกนี้อาจจะมีประโยชน์สำหรับเขาในภายหลังก็ได้
"ไม่รู้จัก ทำไม?"
" เปล่าหรอกค่ะ ก็แค่... ฟังผ่านๆมาเท่านั้นเองแหละค่ะ ว่าหน่วยนั้นจะรับสมัครคนเข้ามาทำงาน คนอย่างคุณนี่ก็ พอไปเป็นคนของหน่วยนั้นได้เลยนะคะ"
จำได้แล้ว ยัยป้าคนนั้นที่มาแจกใบปลิวให้เมื่อเช้านี้ นั่นเขาเรียกว่า DEM งั้นเหรอ? ดูไม่เข้ากับบุคลิกเลย ไม่อายตัวเองเลยรึไง?
" ถ้าไปเป็นพวกนั้น ฉันยอมขายเหล้าโง่ๆอยู่ที่นี่ดีกว่า"(จิบค็อกเทลในแก้ว)
" ฮุฮุ ฉันเข้าใจค่ะ, ชนค่ะ"
"คืออะไร? มีธรรมเนียมแบบนี้ด้วยเหรอ? "
เธอเอาแก้วค็อกเทลที่ถืออยู่มาชนกันกับของเขาจนเกิดเสียงเบาๆ จากนั้นเคนชินโตะก็ยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด ส่วนคุรุมิก็ยกแก้วขึ้นดื่มจนเหลือก้นแก้วเอาไว้นิดหน่อย
" ไม่ยักรู้ว่า เธอก็มีนิสัยขี้เหล้าแบบนี้ด้วย"
" ทำไมเหรอคะ? หน้าตาฉันมันไม่ให้งั้นเหรอคะ?
"ก็เปล่าอยู่หรอก ก็แค่ผู้หญิงหน้าตาดีรุ่นเด็กอย่างเธอมาดื่มเหล้าแบบเนี้ย ฉันรู้สึกเหมือนกำลังพรากผู้เยาว์"(มีเหมือนรถหุ้มเกราะสีดำวิ่งผ่าน ทำเอาระแวงไปอีกยาวเลย)
" จริงเหรอคะ? คุณนี่ตลกดีนะคะ ฉันชอบจังเลยค่ะ, แล้วฉันควรจะเป็นอะไรเหรอคะถึงจะเหมาะสมกับตัวฉัน? "
เคนชินโตะคิดอยู่สักพัก
"นางแบบ ไม่ก็นักแสดง"
"จริงเหรอคะ? แต่ว่า... ฉันแสดงไม่เป็นนะคะ"
เงียบ
" มีอะไรหรือเปล่าคะ? "
" ลืมๆมันไปเถอะ"(รินค็อกเทลใส่แก้วของเขา)
" หน้ากากแบบนั้น คุณไม่อึดอัดเลยเหรอคะ? "
เคนชินโตะในลุคที่ใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา หน้ากากลายสานเส้นกว้างๆนี้ ทำไมฉันถึงต้องใส่มันด้วย? และแถมไม่เคยคิดที่จะถอดมันออกอีกต่างหาก แปลกแฮะ
แต่ความจริงแล้วนั้น...
"ไม่รู้สิ มันคงเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายฉันแล้วล่ะมั้ง"
"งั้นเหรอคะ? คงจะทรมานน่าดูเลยสินะคะ น่าเอ็นดูจัง" (ตรงไหนวะ? )
"เรื่องนั้นช่างเถอะ ตอนนี้ อย่างเดียวที่ฉันคิดก็คือ ฉันอยากจะนอนแล้ว"
"ตายจริง นี่ฉันรบกวนเวลาคุณมากไปเหรอคะเนี่ย? แต่ว่า ขอคุยอีกสักครู่เดียวจะได้มั้ยคะ? เคนชินโตะซัง"
ความคิดเห็น