ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : คืนฝนตกเเละวันเเดดออก
    หากเปรียบพวกนางเป็นดั่งกุหลาบ ลาลิเธียคงจะเป็นกุหลาบขาวไร้เดียงสา บริสุทธิ์ อลิซาเบธก็ช่างเหมาะเจาะกับกุหลาบสีแดงที่มีเสน่ห์แพรวพราวยิ่งนัก ถ้าเช่นนั้นก็คงเหลือกุหลาบสีชมพูไว้เปรียบกับโจเซเฟียน่ะสิ ถึงจะไม่สวยสะดุดตา แต่ก็มีผู้คนไม่น้อยที่อยากลิ้มรสมัน
    ทั้งสามเข้าไปในร้านกาแฟที่หัวมุมถนนซึ่งตกแต่งอย่างอบอุ่น ร้านทั้งร้านเป็นสีชมพู มีดอกกุหลาบปักอยู่ในแจกันเล็กๆวางไว้บนผ้าฝ้ายสีขาวลายสีชมพูที่ใช้เป็นผ้าปูโต๊ะของทุกๆโต๊ะ พนักงานร้าชายหญิงเดินกันให้ขวักไขว่เพื่อบริการลูกค้าในร้าน โจเซเฟียคิดว่านางเจอคนรู้จักเข้า
    “สวัสดีท่านชายจอห์นสัน”
    “สวัสดีท่านหญิงทั้งสาม เชิญนั่งด้วยกันสิ” เฟรมลินยิ้ม ในมือเขามีหนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อเช้าอยู่
    “ขอบคุณ” โจเซเฟียลากเก้าอี้ออกมาแล้วหย่อนตัวลงนั่งพร้อมกับเพื่อนและน้องสาว “นี่น้องสาวข้า ลาลิเธีย” นางแนะนำให้เฟรมลินรู้จัก
    “เอ่อ ... เราเจอกันในงานเลี้ยงแล้ว”
    “อ้อ ... ” หญิงสาวท่าทางอายเล็กน้อย เพิ่งปล่อยไก่ออกไปนี่นา
    “รับอะไรดีล่ะท่านหญิง” เจ้าของร้านวัยกลางคนมารับรายการพวกนางถึงที่
    “โกโก้ร้อนสามถ้วย ละก็บราวนี่” ลาลิเธียสั่ง สักพักก็ได้ตามที่ต้องการ
    “ข้าเลี้ยงเองนะ” ท่านชายเสนอตัว
    “อย่าดีกว่า ข้าเกรงใจ” คนเป็นน้องตอบ นางสบตากับเขาระหว่างจิบโกโก้ ดวงตาคู่นั้นช่างมีอำนาจเหนือนางเหลือเกิน
    “เกรงใจไปทำไม เราก็เพื่อนกันไม่ใช่เหรอ” เฟรมลินเหมาเอาเอง “ที่สวนข้ามีการปรับปรุงใหม่ ข้าอยากเชิญพวกท่านไปเยี่ยมชมเเละจะมีงานเลี้ยงเร็วๆนี้”
      พวกจอห์นสันมีสวนกรีนวิลล์อยู่ในครอบครอง นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะแล้วยังมีห้องพักและโรงเบียร์อีกด้วย
    “ดีสิ แต่ข้าไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าจะได้ไปนะ” อลิซาเบธตาแวววาวแต่ก็ต้องหรุบลงเมื่อนึกได้ว่าช่วงนี้ตนไม่ค่อยว่าง
    “ไม่เป็นไรหรอก หากท่านมีธุระสำคัญ” เฟรมลินพูดกลับไป สีหน้าคนผมบรูเน็ตดีขึ้นเล็กน้อย เขากำลังน้อยใจนางอยู่รึเปล่านะ
    หลังจากที่คุยเรื่องสมัยเด็กๆกันอยู่นาน ภายนอกก็มืดลงและฝนก็ทำท่าว่าจะตก
      “กลับกันเถอะนะ” ลาลิเธียเริ่มกลัวฝนซะแล้วซี และเมื่อพวกเขาทั้งสี่ออกมาข้างนอก ฝนก็พรำลงมาต้อนรับ
    “ให้ข้าไปส่งดีกว่านะโจเซเฟีย” ชายหนุ่มอาสา
    “ไม่ต้องหรอก นั่นไงรถมาแล้ว” แล้วรถม้ารับจ้างก็มาจอดด้านหน้าทันทีที่นางพูดขึ้น “ท่านไปส่งอลิซาเบธดีกว่า นางกลับคนเดียวเดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย”
    “ถ้าเจ้ามั่นใจว่ากลับเองได้นะ” เฟรมลินเลิกคิ้วถาม
    “มั่นใจสิ บ้านข้าอยู่แค่นี้เอง” โจเซเฟียพูด เพื่อนสาวผู้โชคดียิ้มร่า ลาลิเธียไม่พอใจพฤติกรรมนี้เลย ให้ตายเถอะ
    “ข้าเป็นห่วงเจ้า ... กับน้องนะ” เฟรมลินยังคงตัดสินใจไม่ได้
    “ไว้ใจข้าเถอะ” หญิงสาวยิ้มให้ท่านชายจอห์นสันแล้วเรียกลาลิเธียขึ้นรถ
    “ถ้าเช่นนั้น เชิญทางนี้อลิซาเบธ” เขาต้องยอมอย่างเสียไม่ได้จริงๆ
    หญิงสาวทั้งสองกลับถึงบ้านในสภาพที่ดูไม่จืด ลาลิเธียรีบเข้าบ้านแล้วหายผล็อยไปเลย โจเซเฟียค่อยๆเดินไปตามทางเพื่อจะขึ้นบันได กลัวว่าใครจะจับได้เสียจริง
    “ทำไมกลับค่ำนักล่ะ” เกรกอรี่ที่เพิ่งออกมาจากห้องทำงานถามหลานสาวที่เพิ่งกลับเข้าบ้าน
    “พอดีว่าเจอคนรู้จักเลยคุยกันยาวไปหน่อยน่ะท่านอา” นางปลดปิ่นปักผมแล้วปล่อยลอนสีน้ำตาลเปียกปอนให้เป็นอิสระ
    “กินอะไรมาแล้วรึยัง” เขาถามขณะลั่นกุญแจ ผู้เป็นหลานพยักหน้ารับ “รีบไปเช็ดตัวแล้วขึ้นนอนเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบายเป็นหวัดเอา ข้าเป็นห่วง ” โจเซเฟียรู้ว่าใบหน้าของตนเองคงจะเปลี่ยนสีกับคำว่า ‘เป็นห่วง’ ของท่านอา แต่เขาคงไม่เห็นหรอกมั้ง “ข้าห่วงเพราะพรุ่งนี้เจ้าจะต้องเจอกับเทรเชอร์อีกน่ะสิ ท่าทางเจ้าจะชอบเขาม๊าก มาก” ผู้เป็นอาลากเสียงแล้วยิ้ม
    “เขาจะมาทำอะไรอีก”
    “ตามพ่อมา ไม่แน่เขาอาจจะติดใจคนบ้านนี้ก็ได้ พรุ่งนี้เราจะหารือกันเรื่องการขนส่งสินค้าครั้งแรก ท่านพี่ต้องให้เจ้าต้อนรับท่านชายเป็นแน่แท้”
    “โอย แล้วข้าจะปวดหัวหรือปวดท้องดีล่ะ” นางกล่าวพร้อมเดินตัวเปียกขึ้นห้องนอน
      เขามาตามที่เกรกอรี่บอกไว้จริงๆ ซ้ำยังมาแต่เช้าอีกต่างหาก ภาระก็ต้องตกอยู่ที่หญิงสาวล่ะสิ
    “ทำไมท่านชายไม่เข้าร่วมหารือนู่นนี่กับพวกผู้ใหญ่ล่ะ” โจเซเฟียบ่นอุบอิบ
    “เหตุผลเดียวกับเจ้านั่นแหละ” เขายังตอบกลับมาอีกแน่ะ ว่าแต่เหตุผลเดียวกันนี่มันอะไรล่ะ โธ่เอ๊ย คำตอบของเขาช่างสิ้นคิดจริงๆ
    “ข้าจะพาท่านชายไปห้องศิลป์นะ” ลาลิเธียเสนอและนำทางไป
    หญิงสาวพาชายหนุ่มเข้าไปในห้องผนังสีแดงที่มีพื้นปูด้วยพรมสีเลือดนกราคาแพง ม่านไหมสีแดงเข้มผูกใว้ริมหน้าต่างที่ไม่เคยมีแสงแดดส่องถึงสั่นไหวด้วยแรงลมจากภายนอกเบาๆ
    “ภาพวาดครอบครัวลอร์ดฟาร์มุนด์รุ่นที่แปดสิบสี่” ลาลิเธียพูดถึงภาพตรงหน้า ควอนเต้เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้วนั่งอยู่เคียงข้างภรรยาสาวและในภาพยังมีเด็กหญิงสองคน เมอร์คิวลัสยิ้มกับมัน เด็กในภาพช่างแตกต่างกับบัดนี้ยิ่งนัก แม้ปัจจุบันจะสวยกว่า ... แต่ก็หาความรื่นเริงจากสายตาไม่ได้
    “นี่ท่านปู่ เอ็ดเวิร์ด ฟาร์มุนด์” นางหันไปหาอีกภาพ “ข้าจำได้ว่ามีลอร์ดฟาร์มุนด์ชื่อเมอร์คิวลัสด้วยล่ะนะ”
    “เป็นชื่อที่ไพเราะ” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย ฟาร์มุนด์คนพี่ปล่อยให้น้องดูแลท่านชายไป นางก็เดินของนางเรื่อยเปื่อย รูปพวกนี้นางเคยเห็นหมดแล้วนี่นา
      “หลุยส์ เฮอร์เนส ฟาร์มุนด์ ผู้สร้างโอลด์แฮมเชียร์” โจเซเฟียพูดของนางคนเดียวแต่ก็ยังมีคนฟังรูปงามอยู่ข้างหลัง นางไม่ทันสังเกตเห็นหรอกว่ารอยต่อพรมมันเปิดขึ้นมา หล่อนเลยตกเป็นเหยื่อของพรมเจ้ากรรมนั่น
    “อ๊ะ” โจเซเฟียสะดุดพรมนั่นเสียแล้ว โชคดีที่ชายหนุ่มคว้าตัวไว้ทันด้วยสันชาตญาณ แต่ก็โชคร้ายที่เขาทำให้หญิงสาวล้มลงไปด้วย ภาพที่ลาลิเธียเห็นคือพี่สาวของนางตกอยู่ในอ้อมกอดของเมอร์คิวลัสอย่างช่วยไม่ได้
    “เอ่อ...” จมูกของชายหนุ่มสัมผัสเรือนผมสตรี กลิ่นของมันทำให้เลือดในกายเขาร้อนรุ่ม
    “ข้าหายใจใม่ออก” หญิงที่อยู่ข้างๆพูดออกมาอย่างยากลำบาก
    “โทษที” เขาลุกขึ้นแล้วฉุดมือนางขึ้นมา
    “ขอบคุณ” โจเซเฟียตัดสินใจกล่าวคำนั้นกับเขาแม้ว่าเขาเพิ่งเกือบจะฆ่านางก็เถอะ แม้กระนั้น ชายหนุ่มก็ยังไม่ปล่อยมือออกจากแขนทั้งสองของหญิงสาว
    “อะแฮ่ม” เสียงน้องสาวตัวดีดังขึ้นมาซะได้
    โจเซฟียยืนปั้นหน้าไร้ความรู้สึก นางจะทำให้เขารู้ไม่ได้หรอกว่าเสียงตึกตักที่ดังอยู่ข้างในเป็นเพราะเขา
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
re-write 15-07-05
    ทั้งสามเข้าไปในร้านกาแฟที่หัวมุมถนนซึ่งตกแต่งอย่างอบอุ่น ร้านทั้งร้านเป็นสีชมพู มีดอกกุหลาบปักอยู่ในแจกันเล็กๆวางไว้บนผ้าฝ้ายสีขาวลายสีชมพูที่ใช้เป็นผ้าปูโต๊ะของทุกๆโต๊ะ พนักงานร้าชายหญิงเดินกันให้ขวักไขว่เพื่อบริการลูกค้าในร้าน โจเซเฟียคิดว่านางเจอคนรู้จักเข้า
    “สวัสดีท่านชายจอห์นสัน”
    “สวัสดีท่านหญิงทั้งสาม เชิญนั่งด้วยกันสิ” เฟรมลินยิ้ม ในมือเขามีหนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อเช้าอยู่
    “ขอบคุณ” โจเซเฟียลากเก้าอี้ออกมาแล้วหย่อนตัวลงนั่งพร้อมกับเพื่อนและน้องสาว “นี่น้องสาวข้า ลาลิเธีย” นางแนะนำให้เฟรมลินรู้จัก
    “เอ่อ ... เราเจอกันในงานเลี้ยงแล้ว”
    “อ้อ ... ” หญิงสาวท่าทางอายเล็กน้อย เพิ่งปล่อยไก่ออกไปนี่นา
    “รับอะไรดีล่ะท่านหญิง” เจ้าของร้านวัยกลางคนมารับรายการพวกนางถึงที่
    “โกโก้ร้อนสามถ้วย ละก็บราวนี่” ลาลิเธียสั่ง สักพักก็ได้ตามที่ต้องการ
    “ข้าเลี้ยงเองนะ” ท่านชายเสนอตัว
    “อย่าดีกว่า ข้าเกรงใจ” คนเป็นน้องตอบ นางสบตากับเขาระหว่างจิบโกโก้ ดวงตาคู่นั้นช่างมีอำนาจเหนือนางเหลือเกิน
    “เกรงใจไปทำไม เราก็เพื่อนกันไม่ใช่เหรอ” เฟรมลินเหมาเอาเอง “ที่สวนข้ามีการปรับปรุงใหม่ ข้าอยากเชิญพวกท่านไปเยี่ยมชมเเละจะมีงานเลี้ยงเร็วๆนี้”
      พวกจอห์นสันมีสวนกรีนวิลล์อยู่ในครอบครอง นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะแล้วยังมีห้องพักและโรงเบียร์อีกด้วย
    “ดีสิ แต่ข้าไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าจะได้ไปนะ” อลิซาเบธตาแวววาวแต่ก็ต้องหรุบลงเมื่อนึกได้ว่าช่วงนี้ตนไม่ค่อยว่าง
    “ไม่เป็นไรหรอก หากท่านมีธุระสำคัญ” เฟรมลินพูดกลับไป สีหน้าคนผมบรูเน็ตดีขึ้นเล็กน้อย เขากำลังน้อยใจนางอยู่รึเปล่านะ
    หลังจากที่คุยเรื่องสมัยเด็กๆกันอยู่นาน ภายนอกก็มืดลงและฝนก็ทำท่าว่าจะตก
      “กลับกันเถอะนะ” ลาลิเธียเริ่มกลัวฝนซะแล้วซี และเมื่อพวกเขาทั้งสี่ออกมาข้างนอก ฝนก็พรำลงมาต้อนรับ
    “ให้ข้าไปส่งดีกว่านะโจเซเฟีย” ชายหนุ่มอาสา
    “ไม่ต้องหรอก นั่นไงรถมาแล้ว” แล้วรถม้ารับจ้างก็มาจอดด้านหน้าทันทีที่นางพูดขึ้น “ท่านไปส่งอลิซาเบธดีกว่า นางกลับคนเดียวเดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย”
    “ถ้าเจ้ามั่นใจว่ากลับเองได้นะ” เฟรมลินเลิกคิ้วถาม
    “มั่นใจสิ บ้านข้าอยู่แค่นี้เอง” โจเซเฟียพูด เพื่อนสาวผู้โชคดียิ้มร่า ลาลิเธียไม่พอใจพฤติกรรมนี้เลย ให้ตายเถอะ
    “ข้าเป็นห่วงเจ้า ... กับน้องนะ” เฟรมลินยังคงตัดสินใจไม่ได้
    “ไว้ใจข้าเถอะ” หญิงสาวยิ้มให้ท่านชายจอห์นสันแล้วเรียกลาลิเธียขึ้นรถ
    “ถ้าเช่นนั้น เชิญทางนี้อลิซาเบธ” เขาต้องยอมอย่างเสียไม่ได้จริงๆ
    หญิงสาวทั้งสองกลับถึงบ้านในสภาพที่ดูไม่จืด ลาลิเธียรีบเข้าบ้านแล้วหายผล็อยไปเลย โจเซเฟียค่อยๆเดินไปตามทางเพื่อจะขึ้นบันได กลัวว่าใครจะจับได้เสียจริง
    “ทำไมกลับค่ำนักล่ะ” เกรกอรี่ที่เพิ่งออกมาจากห้องทำงานถามหลานสาวที่เพิ่งกลับเข้าบ้าน
    “พอดีว่าเจอคนรู้จักเลยคุยกันยาวไปหน่อยน่ะท่านอา” นางปลดปิ่นปักผมแล้วปล่อยลอนสีน้ำตาลเปียกปอนให้เป็นอิสระ
    “กินอะไรมาแล้วรึยัง” เขาถามขณะลั่นกุญแจ ผู้เป็นหลานพยักหน้ารับ “รีบไปเช็ดตัวแล้วขึ้นนอนเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบายเป็นหวัดเอา ข้าเป็นห่วง ” โจเซเฟียรู้ว่าใบหน้าของตนเองคงจะเปลี่ยนสีกับคำว่า ‘เป็นห่วง’ ของท่านอา แต่เขาคงไม่เห็นหรอกมั้ง “ข้าห่วงเพราะพรุ่งนี้เจ้าจะต้องเจอกับเทรเชอร์อีกน่ะสิ ท่าทางเจ้าจะชอบเขาม๊าก มาก” ผู้เป็นอาลากเสียงแล้วยิ้ม
    “เขาจะมาทำอะไรอีก”
    “ตามพ่อมา ไม่แน่เขาอาจจะติดใจคนบ้านนี้ก็ได้ พรุ่งนี้เราจะหารือกันเรื่องการขนส่งสินค้าครั้งแรก ท่านพี่ต้องให้เจ้าต้อนรับท่านชายเป็นแน่แท้”
    “โอย แล้วข้าจะปวดหัวหรือปวดท้องดีล่ะ” นางกล่าวพร้อมเดินตัวเปียกขึ้นห้องนอน
      เขามาตามที่เกรกอรี่บอกไว้จริงๆ ซ้ำยังมาแต่เช้าอีกต่างหาก ภาระก็ต้องตกอยู่ที่หญิงสาวล่ะสิ
    “ทำไมท่านชายไม่เข้าร่วมหารือนู่นนี่กับพวกผู้ใหญ่ล่ะ” โจเซเฟียบ่นอุบอิบ
    “เหตุผลเดียวกับเจ้านั่นแหละ” เขายังตอบกลับมาอีกแน่ะ ว่าแต่เหตุผลเดียวกันนี่มันอะไรล่ะ โธ่เอ๊ย คำตอบของเขาช่างสิ้นคิดจริงๆ
    “ข้าจะพาท่านชายไปห้องศิลป์นะ” ลาลิเธียเสนอและนำทางไป
    หญิงสาวพาชายหนุ่มเข้าไปในห้องผนังสีแดงที่มีพื้นปูด้วยพรมสีเลือดนกราคาแพง ม่านไหมสีแดงเข้มผูกใว้ริมหน้าต่างที่ไม่เคยมีแสงแดดส่องถึงสั่นไหวด้วยแรงลมจากภายนอกเบาๆ
    “ภาพวาดครอบครัวลอร์ดฟาร์มุนด์รุ่นที่แปดสิบสี่” ลาลิเธียพูดถึงภาพตรงหน้า ควอนเต้เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้วนั่งอยู่เคียงข้างภรรยาสาวและในภาพยังมีเด็กหญิงสองคน เมอร์คิวลัสยิ้มกับมัน เด็กในภาพช่างแตกต่างกับบัดนี้ยิ่งนัก แม้ปัจจุบันจะสวยกว่า ... แต่ก็หาความรื่นเริงจากสายตาไม่ได้
    “นี่ท่านปู่ เอ็ดเวิร์ด ฟาร์มุนด์” นางหันไปหาอีกภาพ “ข้าจำได้ว่ามีลอร์ดฟาร์มุนด์ชื่อเมอร์คิวลัสด้วยล่ะนะ”
    “เป็นชื่อที่ไพเราะ” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย ฟาร์มุนด์คนพี่ปล่อยให้น้องดูแลท่านชายไป นางก็เดินของนางเรื่อยเปื่อย รูปพวกนี้นางเคยเห็นหมดแล้วนี่นา
      “หลุยส์ เฮอร์เนส ฟาร์มุนด์ ผู้สร้างโอลด์แฮมเชียร์” โจเซเฟียพูดของนางคนเดียวแต่ก็ยังมีคนฟังรูปงามอยู่ข้างหลัง นางไม่ทันสังเกตเห็นหรอกว่ารอยต่อพรมมันเปิดขึ้นมา หล่อนเลยตกเป็นเหยื่อของพรมเจ้ากรรมนั่น
    “อ๊ะ” โจเซเฟียสะดุดพรมนั่นเสียแล้ว โชคดีที่ชายหนุ่มคว้าตัวไว้ทันด้วยสันชาตญาณ แต่ก็โชคร้ายที่เขาทำให้หญิงสาวล้มลงไปด้วย ภาพที่ลาลิเธียเห็นคือพี่สาวของนางตกอยู่ในอ้อมกอดของเมอร์คิวลัสอย่างช่วยไม่ได้
    “เอ่อ...” จมูกของชายหนุ่มสัมผัสเรือนผมสตรี กลิ่นของมันทำให้เลือดในกายเขาร้อนรุ่ม
    “ข้าหายใจใม่ออก” หญิงที่อยู่ข้างๆพูดออกมาอย่างยากลำบาก
    “โทษที” เขาลุกขึ้นแล้วฉุดมือนางขึ้นมา
    “ขอบคุณ” โจเซเฟียตัดสินใจกล่าวคำนั้นกับเขาแม้ว่าเขาเพิ่งเกือบจะฆ่านางก็เถอะ แม้กระนั้น ชายหนุ่มก็ยังไม่ปล่อยมือออกจากแขนทั้งสองของหญิงสาว
    “อะแฮ่ม” เสียงน้องสาวตัวดีดังขึ้นมาซะได้
    โจเซฟียยืนปั้นหน้าไร้ความรู้สึก นางจะทำให้เขารู้ไม่ได้หรอกว่าเสียงตึกตักที่ดังอยู่ข้างในเป็นเพราะเขา
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
re-write 15-07-05
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น