ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : การทำงานในฐานะเจ้าหนี้
    “โจเซเฟีย เข้ามาพบข้าหน่อย” ลอร์ดฟาร์มุนด์เรียกบุตรสาว
    “ท่านพ่อมีอะไรกับข้าเหรอ”
    “ก็ข้ามีเรื่องวานให้เจ้าทำหน่อย ไม่หนักหนาอะไรหรอก ข้าคิดว่าข้าแก่เกินจะออกไปเดินมากๆเล้ว” เขาเงียบ หยุดหายใจ แล้วพูดต่อ “อีกอย่าง ช่วงนี้ธุรกิจกำลังขยายตัว ข้าต้องการเวลา ถึงแม้ข้าจะมีหุ้นส่วนก็เถอะนะ ข้าเลยอยากให้เจ้าช่วยจัดการเรื่องเล็กๆน้อยให้ข้า”
    “ตกลงท่านพ่อจะให้ข้าทำอะไร แต่งงานกับหุ้นส่วนงั้นเหรอ”
    “เปล่าหรอก ข้าแค่อยากให้เจ้าสานต่องานเล็กๆของข้า ไปตามที่อยู่พวกนี้ เออ เดี๋ยวเจมีนจะไปกับเจ้า เก็บให้ครบทุกเหรียญนะ” ท่านพ่อยื่นเอกสารให้นางซึ่งนางเข้าใจว่ามันคงเป็นที่อยู่ของใครซักคนที่เป็นลูกหนี้เงินกู้ของตระกูล “กลับมาก่อนสองโมงล่ะ ถ้าช้าเจ้าอาจจะพลาดอะไรก็ได้ ส่วนไอเรื่องแต่งงาน -- ข้าคิดดูก่อน”
    เฮ้อ ท่านพ่อนะท่านพ่อ ใช้ใครก็ได้ทำไมต้องเป็นข้า ข้าก็รู้หรอกนะว่าท่านพ่อข้าเป็นคนตระหนี่และไม่ไว้ใจตนนอก แต่การตะลอนไปตะลอนมานี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าอยากจะทำเลย ให้ตายเถอะ
    “รถม้าพร้อมแล้วนะท่านหญิง”
    ม้าสีน้ำตาลสองตัวที่ทำหน้าที่ลากรถหยุดลงหน้าชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง นางเดินไล่ตามบ้านเลขที่ไปเรื่อย
    “หลังสุดท้ายแล้วสินะ แทบลมจับเชียว” นางพูดอย่างเหนื่อยๆและเคาะประตู
    “ประตูไม่ได้ล็อกหรอก ท่านเข้ามาก่อนเถอะ ข้าออกไปพบท่านไม่ได้” เสียงชายหนุ่มจากด้านใน “อย่าส่งเสียงดังละกัน”
    โจเซเฟียเปิดประตูเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยม มันช่าง ไม่มีอะไรเลย เว้นแต่ชายผิวขาวผมสั้นสีดำท่าทางเป็นผู้ดีและไม่ใช่คนที่นี่ เขายืนอยู่กลางห้องผนังสีขาวที่ไร้การตกแต่งคล้ายว่าเพิ่งเดินออกมาจากห้องเล็กๆที่อยู่ทางด้านใน
    “ท่านหญิงเป็นใคร” เสียงทุ้มของเขานุ่มน่าหลงใหลอย่างไม่น่าเชื่อ
    “โจเซเฟีย ฟาร์มุนด์ บุตรีลอร์ดฟาร์มุนด์ ข้ามาจัดการธุระของท่านพ่อ”
    “ข้ายังไม่มีอะไรให้ท่านหญิงหรอกนะ ข้าขอผลัดไปก่อนได้ไหม”
    โจเซเฟียยักไหล่แล้วมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเศร้าสร้อยของเขา แววตาเหมือนวิงวอนขอความช่วยเหลือ แล้วนางจะไปช่วยอะไรได้
    “นั่นอะไร -- เจ้าเป็นจิตรกรเหรอ” นางถามเมื่อเห็นภาพวาดบนแผ่นกระดาษหนีบทับกันไว้ใต้แขนเพรียวเกินชายไปหน่อย
    “จริงๆก็ไม่เชิง แต่นั่นคืออาชีพปัจจุบันของข้า” เขาวางมันลงบนเก้าอี้ไม้สีน้ำตาล ภาพคฤหาสน์ใหญ่โตที่ทอดตัวเป็นลายเส้นอยู่บนนั้นทำให้นางประทับใจ
    “ภาพอะไร คือข้าหมายถึง ที่ไหน”
    “คฤหาสน์โรมอนน่าในโรม” ชายหนุ่มเสยผมและแหงนศรีษะไปด้านหลังเป็นการผ่อนคลาย
    “ท่าทางจะเป็นคฤหาสน์ที่ใหญ่โตและสวยงามมาก” ดวงตานางเป็นประกายชื่นชม
    “ใช่ มันสวยและอลังการอย่างยิ่งเลยล่ะ” เขายิ้มออกมาเล็กน้อยแต่ทำให้นางคลายความอึดอัดลงไปบ้าง
    “ข้าขอเป็นการไถ่หนี้ได้ไหม” ประโยคนี้ทำให้คนฟังตกใจ มันก็อยากนะ แต่...
    “เกรงว่าจะไม่ได้ท่านหญิง” เขาเหลือบมองห้องเล็กๆนั่น “มันเป็นเหมือนความทรงจำของแม่”    
    โจเซเฟียรู้สึกโล่งใจโดยไม่ทราบสาเหตุที่รู้ว่าแม่ของเขาอยู่ในห้องนั่น ... ไม่ใช่อย่างอื่น
    “คฤหาสน์ของเจ้าเหรอ”
    “เปล่า คือ มัน ข้าหมายถึงโรม” จิตรกรถอนใจอย่างยากเย็น
    “ถ้างั้น เจ้าวาดรูปข้าก็ได้ ข้าให้ราคาตามจำนวนหนี้ หรือจะมากกว่านั้นก็ได้” นึกยังไงของนางล่ะเนี่ย
    “เอ่อ... จะดีเหรอ”
    “ดีสิ ข้าช่วยเจ้า เจ้าช่วยข้า ทุกอย่างจบ” ท่านหญิงยิ้มแต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าเขาจะช่วยอะไรนางได้
    “ตกลง”
    “ข้ายังไม่รู้จักชื่อเจ้าเลย” โจเซเฟียจัดท่าทางบนเก้าอี้ตามที่เขาบอก
    “วาเลนติโน่ เครสเซนต์ ขยับไปทางซ้ายหน่อย อืม พอแล้ว”
    “เจ้ามาจากโรม แล้วมาทำอะไรที่นี่” นางปัดผมปรกแก้มขึ้น “ว่าไงล่ะ”
    “ข้าบอกแล้วว่าอย่าขยับ ปากเบี้ยวโทษข้าไม่ได้นะ” เขาพูดทีเล่นทีจริง แต่รอยยิ้มดูไม่จริงใจ
    “เจ้าอยู่กับแม่แค่สองคนเหรอ”
    “ใช่ แม่ข้าป่วย” เขาเริ่มขีดโครงหน้าขึ้นเล็กน้อย
    “เป็นอะไร” โจเซเฟียปัดผมขึ้นอีก จะตกอะไรนักหนา
    “มะเร็ง โรคซึมเศร้า แม่ชอบร้องไห้บ่อยๆเวลานึกถึงเรื่อง เอ่อ เรื่องเก่าๆ” เขาตีเส้นผิดไปหน่อย
    หญิงสาวก็ไม่อยากเซ้าซี้เรื่องส่วนตัวเขาเท่าไหร่ นางจึงนั่งนิ่งๆให้ได้ดั่งใจเขาบ้าง โจเซเฟียมองหน้าเขา ดวงตาที่มุ่งมั่น ดื้อรันถูกปกคลุมด้วยความโศก ตาสีน้ำตาลเลื่อนขึ้นลงระหว่างใบหน้าสาวงามและเฟรมภาพ นางคิดอิจฉาที่เขาได้รับอิสระ ทำสิ่งที่ตนรัก ไม่ต้องอยู่ในกรอบกฎเกณฑ์ที่ผู้อื่นตั้งให้ มีคนที่เขารักและรักเขา ชีวิตที่มีค่าพอที่จะใช้มันต่อ นั่นคือสิ่งที่นางต้องการแต่ไม่คิดว่าตนเคยได้รับ แม้แต่จากพ่อแท้ๆ แต่คิดไปอีกที ดีแล้วล่ะที่เกิดเป็นท่านหญิงฟาร์มุนด์แห่งโอลด์แฮมเชียร์
    “ท่านหญิงโจเซเฟีย จวนจะสองโมงแล้ว” เสียงเจมีนเรียก อากาศร้อนทำให้เขาหงุดหงิด
    “เร่งมือเข้าเถิดพ่อจิตรกรหนุ่ม”
    “ไม่ทันหรอกท่านหญิง ท่านมีเวลาอีกบ้างไหมล่ะ วันอื่นก็ได้” วาเลนติโน่พูด แต่สายตายังไม่ยกขึ้นจากรูปที่กำลังวาด
    “คงจะได้ ถ้าข้ามีเวลา” นางลุกขึ้น แต่กานนั่งงอแข้งขาบนเก้าอี้ก็ทำให้เหน็บกินขาได้เหมือนกัน “โอ๊ย”
    “ข้าช่วย” เขาเข้าไปพยุงโจเซเฟียขึ้น ชายหนุมประคองนางจากด้านหลัง ก็เข้าใจว่าอยากจะช่วย แต่มืออุ่นๆที่สัมผัสท้องแขนนางนี่สิจะทำให้นางลุกไม่ขึ้น (หรือไม่อยากลุก โจเซเฟียก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง)
    “ลุกได้ไหมท่านหญิงฟาร์มุนด์”
    “ได้ ได้” นางยืนได้เสียที แม้จะยังชาๆอยู่บ้างเถอะ นางยิ้มเจื่อนๆให้วาเลนติโน่ เขาก็ยิ้มตอบเช่นกัน
    “รถม้าพร้อมนานแล้วท่านหญิง” เจมีนยื่นแขนให้นางเกาะ
    “ไว้เจอกันคราวหน้านะ วาเลนติโน่” โจเซเฟียยิ้มแล้วเกาะแขนเจมีนออกไป”
    วาเลนติโน่เดินไปปิดประตูแล้วกลับมาจัดการกับรูปวาด
    “ใยต้องให้ความหวังข้าด้วยล่ะ ท่านหญิงโจเซเฟีย” เขายิ้มอย่างอ่อนโยนให้โครงภาพบนกระดาษ
+++++++++++++++++++++
    “ท่านพ่อมีอะไรกับข้าเหรอ”
    “ก็ข้ามีเรื่องวานให้เจ้าทำหน่อย ไม่หนักหนาอะไรหรอก ข้าคิดว่าข้าแก่เกินจะออกไปเดินมากๆเล้ว” เขาเงียบ หยุดหายใจ แล้วพูดต่อ “อีกอย่าง ช่วงนี้ธุรกิจกำลังขยายตัว ข้าต้องการเวลา ถึงแม้ข้าจะมีหุ้นส่วนก็เถอะนะ ข้าเลยอยากให้เจ้าช่วยจัดการเรื่องเล็กๆน้อยให้ข้า”
    “ตกลงท่านพ่อจะให้ข้าทำอะไร แต่งงานกับหุ้นส่วนงั้นเหรอ”
    “เปล่าหรอก ข้าแค่อยากให้เจ้าสานต่องานเล็กๆของข้า ไปตามที่อยู่พวกนี้ เออ เดี๋ยวเจมีนจะไปกับเจ้า เก็บให้ครบทุกเหรียญนะ” ท่านพ่อยื่นเอกสารให้นางซึ่งนางเข้าใจว่ามันคงเป็นที่อยู่ของใครซักคนที่เป็นลูกหนี้เงินกู้ของตระกูล “กลับมาก่อนสองโมงล่ะ ถ้าช้าเจ้าอาจจะพลาดอะไรก็ได้ ส่วนไอเรื่องแต่งงาน -- ข้าคิดดูก่อน”
    เฮ้อ ท่านพ่อนะท่านพ่อ ใช้ใครก็ได้ทำไมต้องเป็นข้า ข้าก็รู้หรอกนะว่าท่านพ่อข้าเป็นคนตระหนี่และไม่ไว้ใจตนนอก แต่การตะลอนไปตะลอนมานี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าอยากจะทำเลย ให้ตายเถอะ
    “รถม้าพร้อมแล้วนะท่านหญิง”
    ม้าสีน้ำตาลสองตัวที่ทำหน้าที่ลากรถหยุดลงหน้าชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง นางเดินไล่ตามบ้านเลขที่ไปเรื่อย
    “หลังสุดท้ายแล้วสินะ แทบลมจับเชียว” นางพูดอย่างเหนื่อยๆและเคาะประตู
    “ประตูไม่ได้ล็อกหรอก ท่านเข้ามาก่อนเถอะ ข้าออกไปพบท่านไม่ได้” เสียงชายหนุ่มจากด้านใน “อย่าส่งเสียงดังละกัน”
    โจเซเฟียเปิดประตูเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยม มันช่าง ไม่มีอะไรเลย เว้นแต่ชายผิวขาวผมสั้นสีดำท่าทางเป็นผู้ดีและไม่ใช่คนที่นี่ เขายืนอยู่กลางห้องผนังสีขาวที่ไร้การตกแต่งคล้ายว่าเพิ่งเดินออกมาจากห้องเล็กๆที่อยู่ทางด้านใน
    “ท่านหญิงเป็นใคร” เสียงทุ้มของเขานุ่มน่าหลงใหลอย่างไม่น่าเชื่อ
    “โจเซเฟีย ฟาร์มุนด์ บุตรีลอร์ดฟาร์มุนด์ ข้ามาจัดการธุระของท่านพ่อ”
    “ข้ายังไม่มีอะไรให้ท่านหญิงหรอกนะ ข้าขอผลัดไปก่อนได้ไหม”
    โจเซเฟียยักไหล่แล้วมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเศร้าสร้อยของเขา แววตาเหมือนวิงวอนขอความช่วยเหลือ แล้วนางจะไปช่วยอะไรได้
    “นั่นอะไร -- เจ้าเป็นจิตรกรเหรอ” นางถามเมื่อเห็นภาพวาดบนแผ่นกระดาษหนีบทับกันไว้ใต้แขนเพรียวเกินชายไปหน่อย
    “จริงๆก็ไม่เชิง แต่นั่นคืออาชีพปัจจุบันของข้า” เขาวางมันลงบนเก้าอี้ไม้สีน้ำตาล ภาพคฤหาสน์ใหญ่โตที่ทอดตัวเป็นลายเส้นอยู่บนนั้นทำให้นางประทับใจ
    “ภาพอะไร คือข้าหมายถึง ที่ไหน”
    “คฤหาสน์โรมอนน่าในโรม” ชายหนุ่มเสยผมและแหงนศรีษะไปด้านหลังเป็นการผ่อนคลาย
    “ท่าทางจะเป็นคฤหาสน์ที่ใหญ่โตและสวยงามมาก” ดวงตานางเป็นประกายชื่นชม
    “ใช่ มันสวยและอลังการอย่างยิ่งเลยล่ะ” เขายิ้มออกมาเล็กน้อยแต่ทำให้นางคลายความอึดอัดลงไปบ้าง
    “ข้าขอเป็นการไถ่หนี้ได้ไหม” ประโยคนี้ทำให้คนฟังตกใจ มันก็อยากนะ แต่...
    “เกรงว่าจะไม่ได้ท่านหญิง” เขาเหลือบมองห้องเล็กๆนั่น “มันเป็นเหมือนความทรงจำของแม่”    
    โจเซเฟียรู้สึกโล่งใจโดยไม่ทราบสาเหตุที่รู้ว่าแม่ของเขาอยู่ในห้องนั่น ... ไม่ใช่อย่างอื่น
    “คฤหาสน์ของเจ้าเหรอ”
    “เปล่า คือ มัน ข้าหมายถึงโรม” จิตรกรถอนใจอย่างยากเย็น
    “ถ้างั้น เจ้าวาดรูปข้าก็ได้ ข้าให้ราคาตามจำนวนหนี้ หรือจะมากกว่านั้นก็ได้” นึกยังไงของนางล่ะเนี่ย
    “เอ่อ... จะดีเหรอ”
    “ดีสิ ข้าช่วยเจ้า เจ้าช่วยข้า ทุกอย่างจบ” ท่านหญิงยิ้มแต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าเขาจะช่วยอะไรนางได้
    “ตกลง”
    “ข้ายังไม่รู้จักชื่อเจ้าเลย” โจเซเฟียจัดท่าทางบนเก้าอี้ตามที่เขาบอก
    “วาเลนติโน่ เครสเซนต์ ขยับไปทางซ้ายหน่อย อืม พอแล้ว”
    “เจ้ามาจากโรม แล้วมาทำอะไรที่นี่” นางปัดผมปรกแก้มขึ้น “ว่าไงล่ะ”
    “ข้าบอกแล้วว่าอย่าขยับ ปากเบี้ยวโทษข้าไม่ได้นะ” เขาพูดทีเล่นทีจริง แต่รอยยิ้มดูไม่จริงใจ
    “เจ้าอยู่กับแม่แค่สองคนเหรอ”
    “ใช่ แม่ข้าป่วย” เขาเริ่มขีดโครงหน้าขึ้นเล็กน้อย
    “เป็นอะไร” โจเซเฟียปัดผมขึ้นอีก จะตกอะไรนักหนา
    “มะเร็ง โรคซึมเศร้า แม่ชอบร้องไห้บ่อยๆเวลานึกถึงเรื่อง เอ่อ เรื่องเก่าๆ” เขาตีเส้นผิดไปหน่อย
    หญิงสาวก็ไม่อยากเซ้าซี้เรื่องส่วนตัวเขาเท่าไหร่ นางจึงนั่งนิ่งๆให้ได้ดั่งใจเขาบ้าง โจเซเฟียมองหน้าเขา ดวงตาที่มุ่งมั่น ดื้อรันถูกปกคลุมด้วยความโศก ตาสีน้ำตาลเลื่อนขึ้นลงระหว่างใบหน้าสาวงามและเฟรมภาพ นางคิดอิจฉาที่เขาได้รับอิสระ ทำสิ่งที่ตนรัก ไม่ต้องอยู่ในกรอบกฎเกณฑ์ที่ผู้อื่นตั้งให้ มีคนที่เขารักและรักเขา ชีวิตที่มีค่าพอที่จะใช้มันต่อ นั่นคือสิ่งที่นางต้องการแต่ไม่คิดว่าตนเคยได้รับ แม้แต่จากพ่อแท้ๆ แต่คิดไปอีกที ดีแล้วล่ะที่เกิดเป็นท่านหญิงฟาร์มุนด์แห่งโอลด์แฮมเชียร์
    “ท่านหญิงโจเซเฟีย จวนจะสองโมงแล้ว” เสียงเจมีนเรียก อากาศร้อนทำให้เขาหงุดหงิด
    “เร่งมือเข้าเถิดพ่อจิตรกรหนุ่ม”
    “ไม่ทันหรอกท่านหญิง ท่านมีเวลาอีกบ้างไหมล่ะ วันอื่นก็ได้” วาเลนติโน่พูด แต่สายตายังไม่ยกขึ้นจากรูปที่กำลังวาด
    “คงจะได้ ถ้าข้ามีเวลา” นางลุกขึ้น แต่กานนั่งงอแข้งขาบนเก้าอี้ก็ทำให้เหน็บกินขาได้เหมือนกัน “โอ๊ย”
    “ข้าช่วย” เขาเข้าไปพยุงโจเซเฟียขึ้น ชายหนุมประคองนางจากด้านหลัง ก็เข้าใจว่าอยากจะช่วย แต่มืออุ่นๆที่สัมผัสท้องแขนนางนี่สิจะทำให้นางลุกไม่ขึ้น (หรือไม่อยากลุก โจเซเฟียก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง)
    “ลุกได้ไหมท่านหญิงฟาร์มุนด์”
    “ได้ ได้” นางยืนได้เสียที แม้จะยังชาๆอยู่บ้างเถอะ นางยิ้มเจื่อนๆให้วาเลนติโน่ เขาก็ยิ้มตอบเช่นกัน
    “รถม้าพร้อมนานแล้วท่านหญิง” เจมีนยื่นแขนให้นางเกาะ
    “ไว้เจอกันคราวหน้านะ วาเลนติโน่” โจเซเฟียยิ้มแล้วเกาะแขนเจมีนออกไป”
    วาเลนติโน่เดินไปปิดประตูแล้วกลับมาจัดการกับรูปวาด
    “ใยต้องให้ความหวังข้าด้วยล่ะ ท่านหญิงโจเซเฟีย” เขายิ้มอย่างอ่อนโยนให้โครงภาพบนกระดาษ
+++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น