ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ท่านชายเป็นไข้
    ทั้งสองนิ่งเงียบ เป็นความหมายอย่างนั้นจริงๆ นิ่งเงียบ ไม่ขยับ ไม่พูดจา และต่างเห็นว่าพื้นน้ำข้างหน้าน่าสนใจกว่าคนข้างตัวเป็นไหนๆก็เลยพากันจ้องขนาดนั้น ชายหนุ่มเงยหน้ามองฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีดำ วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์นวลสาดส่องเข้ามา ดวงจันทร์ช่างสวย แต่ก็ยากเกินไขว่คว้า นั่นหมายความถึงใครบางคน ไม่ใช่เขา สำหรับเมอร์คิวลัสแล้ว อยากได้อะไรต้องได้ ไม่มีคำว่าไม่ได้ในพจนานุกรมฉบับเทรเชอร์ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาต้องการจันทร์ดวงที่สุกสกาวอยู่หรอก แสงแขยวนตาทำได้เพียงยั่วยวน เขาขอแค่เศษดินเล็กๆก็เพียงพอแล้ว ดูนั่นจะมีค่ากว่าอีก จันทร์หนอจันทร์ ใยหลอกให้มนุษย์ปุถุชนลุ่มหลงได้เพียงนี้ มันจะเปรียบได้กับสตรีรึเปล่านะ ยิ่งเป็นสตรีข้างกาย นี่หรือที่หมายปองของชายหลายคน
    “ไม่เห็นจะอยากได้เลย” เขาพึมพำเสียจนโจเซเฟียได้ยิน นางไม่อยากจะติดใจอะไร แต่ต่อมอยากรู้เกิดทำงานขึ้นมากระทันหัน
    “ท่านชายว่าอะไรนะ”
    “ไม่เห็นจะอยากได้เลย” ชายหนุ่มตอบไปโดยไม่คิดว่านางจะเข้าใจหรอก และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
    “เมื่อไหร่จะมากันซะทีล่ะเนี่ย” ท่านหญิงบ่นไปเรื่อยตามประสา เมอร์คิวลัสเขยิบเข้าหาจนนางตกใจ
    “เจ้าดูดาวดวงนั้นสิ เห็นไหม ดวงใหญ่ๆ ข้างจันทราน่ะ” เขาชี้ให้หญิงสาวดู เขาจะรู้ไหมล่ะว่าโจเซเฟียสนใจกลิ่นน้ำหอมที่ระบายออกมาจากตัวเขายิ่งกว่าสิ่งที่เขาต้องการจะให้นางดู “แม่ข้าอยู่บนนั้นล่ะ” เขายิ้มอย่างงง หญิงสาวเดาได้เลยว่าบัดนี้ท่านชายแพ้ฤทธิ์ไวน์เสียแล้ว
    โจเซเฟียลอบมองใบหน้าด้านขางที่ตอนนี้ซีดจนแทบจะกลืนกินไปกับชุด
    “ท่านชาย ไม่สบายหรือเปล่า ท่าทางไม่ค่อยดีเลยนะ” นางถามคนตาสีเขียว
    “ไหนดูซิ” เขาเอามือแตะหน้าผากตัวเอง “ไม่นี่ มือกับหน้าผากข้ามันก็อุ่นพอกัน ฉะนั้น แสดงว่าข้า ... ไม่ได้เป็นอะไร” เมอร์คิวลัสตอบ ทำเอาคนข้างๆถอนหายใจ
    “ใครบอกท่านเล่า มันจะอุ่นไม่อุ่นเท่ากันมันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเสียหน่อย” นางต่อว่า แต่ก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเขาทอดสายตาซื่อๆ ยังกับเด็กไม่รู้จักโตมาให้ เฮ้อ มันเหมือนกับเมอร์คิวลัสคนเก่าที่ไหน
    “งั้นเหรอ” เขาพยักหน้ารับรู้ “งั้นเจ้าช่วยดูให้หน่อยสิว่าข้าสบายดีรึเปล่า” ชายหนุ่มจับมือหญิงสาวขึ้นแตะตนเองแต่ตัวเขาแทบจะทรงไม่อยู่จึงล้มลงกับหน้าตักของนางและไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น เขาครางซ้ำยังกุมมือข้างนั้นไว้
    “ทีอย่างนี้มาทำเป็นไม่รู้เรื่อง ตัวร้อนยังกับไฟมีหน้ามาบอกไม่เป็นอะไรอีก ฮึ แล้วข้าจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย โอ๊ย” มือเขาร้อนและร้อนขึ้น นางทำอะไรมากไปกว่ารอน้องสาวไม่ได้
    โจเซเฟียมองหน้าที่นิ่งเงียบเพราะเจ้าของหลับสนิทอยู่ นางชอบเขามากขึ้นนิดนึงเวลาที่เขาไม่ใช้นัยน์ตาสะกดนาง หญิงสาวมิอาจห้ามมือไม่ให้ลูบไล้ไปตามใบหน้าร้อนผ่าวนั่นได้ นางปัดผมที่ปรกหน้าเขาขึ้น เขาดูดีอย่าที่เฟรมลินว่าไว้จริงๆ มือนางสัมผัสแก้ม จมูก และริมฝีปาก ช่างเป็นปากเรียวบางและมีเสน่ห์ ผิวขาวราวกับไข่มุกทำให้นางแอบอิจฉา ขนาดคนอย่างอลิเซียยังมิวายหลงใหลเขา ดูเอาสิ ยังกับหลุดออกมาจากภาพวาดอย่างนั้นล่ะ ใช่สิ ภาพวาด ใบหน้าของวาเลนติโน่ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นในความทรงจำ แต่ทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วยล่ะ นางกำลังดื่มด่ำกับการเก็บความงามของชายหนุ่มอยู่เชียว มือยังคงกุมอยู่กับเขาแต่ใจกลับคิดถึงบุรุษผู้อื่น อะไรของโจเซเฟียล่ะนี่
    “โจเซเฟีย ท่านชายหายไปไหนเสียแล้วล่ะ อ้าว” น้องสาวกลับมาพอดี ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งจากห้วงความคิด
    “เฟรมลิน เอ่อ เมอร์คิวลัสไม่สบาย ... มั้ง”
    “ข้าดูซิ” แล้วหมออุปโลกน์ก็แตะหน้าผากคนไข้ “สงสัยจะแพ้แอลกอฮอล์นั่นแหละ ข้าก็ลืมเตือน สงสัยจะหยิบผิดแก้ว ไม่เป็นไรหรอกโจเซเฟีย ข้าจะให้รถม้าไปส่ง -- ไม่ต้องเป็นห่วง” เขารับรองเมื่อเห็นสีหน้าของนาง รู้สึกเจ็บขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
    เฟรมลินเรียกรถม้าของเทรเชอร์มาให้และส่งท่านชายขึ้นรถไป
    “ท่านบอกว่า เขาแพ้แอลกอฮอล์เหรอ” นางถามด้วยความสงสัย ก็เห็นเขาจิบไวน์อย่างไม่สะทกสะท้านนี่
    “ใช่ ถ้าในปริมาณน้อยๆก็ไม่เท่าไหร่ แต่วันนี้เห็นเขาดื่มไปหลายแก้ว สงสัยจะแก้เขิน” เขาตอบ “ใครได้เมอร์คิวลัสเป็นคู่ก็หมดห่วงเรื่องนี้ไปได้เลย”
    แต่เรื่องผู้หญิงนี่สิ โจเซเฟียได้แต่คิดเงียบๆ ในใจ
    เช้าวันอากาศสดใส น่าออกไปข้างนอกเสียจริง สงสัยเมื่อคืนโจเซเฟียจะคิดเรื่องวาเลนติโน่มากไปหน่อยจึงเก็บไปฝันเป็นเรื่องเป็นราว
    “ไร้สาระ” โจเซเฟียบ่นเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น และยังต้องหงุดหงิดอีกเมื่อเห็นข่าวท่านชายเมอร์คิวลัสในหน้าหนังสือพิมพ์ “ต้องลงข่าวใหญ่โตขนาดนี้เชียว นี่แค่เป็นไข้นะ ถ้าโดนมีดบาดไม่ต้องทำฉบับพิเศษให้ หรือตั้งกองทุนรักษาพยาบาลพร้อมเลยรึไง” ปากก็บ่นไปงั้นแต่ใจก็ชื้นขึ้นมาเยอะที่รู้ว่าเขาหายดีแล้ว
    “เช้านี้มีอะไรบ้าง” เกรกอรี่ถามหลานสาวพลางจิบกาแฟ
    “เกือบครึ่งเล่มเป็นข่าวท่านชายเมอร์คิวลัส”
    “ข่าวอะไร คงไม่เกี่ยวกับเราหรอกนะ”
    “ไม่เลยท่านอา เรื่องไร้สาระทั้งเพ” โจเซเฟียปิดหนังสือพิมพ์แล้ววางทิ้งไว้ “นี่ท่านอาจะไปไหน”
    “(ต้องรายงานเจ้าด้วยเหรอเนี่ย) วันนี้ข้าว่าง ว่าจะออกไปขี่ม้าเล่นๆ นี่ แมรี่ของข้าคลอดลูกแล้วนะ” เขากล่าวด้วยความยินดี
    “เหรอ อืม (แล้วข้าจะรู้ไปทำไม)”
    “ข้าไปก่อนล่ะหลานรัก” เขายิ้มแล้วจากไป
    โจเซเฟียต้องแวะไปเก็บเงินที่เมอร์ด็อคอีกครั้งตามคำสั่ง ลาลิเธียไม่มีอะไรทำก็เลยตามพี่สาวไปด้วย
    “เพิ่งมาเมื่อไม่กี่วันนี่นา” โจเซเฟียเคาะประตูที่เปิดอยู่ วาเลนติโน่โผล่หน้าออกมารับ
    “ถึงกำหนดแล้วเหรอ เร็วจัง” เขาพึมพำ “สักครู่นะท่านหญิง”
    “ให้ข้าเข้าไปหน่อยได้ไหม” ปกติการเข้าบ้านลูกหนี้มันไม่ใช่วิสัยหรอกนะ “เราเพื่อนกันนี่” เหมาเอาเองเลยนะโจเซเฟีย
    “ถ้างั้นก็เข้ามาก่อนสิ” เขารับอย่างไม่สู้เต็มใจนัก
    ภายในตัวบ้านต่างจากเมื่อวันก่อนมาก มันดูสะอาดตาขึ้นและดูเหมือนห้องที่มีคนอยู่มากขึ้นเพราะมีเครื่องเรือนเพิ่มเข้ามา
    “ท่านหญิงจะรับชาไหม”
    “อืม” นางพยักหน้า หล่อนรับเขาเป็น ‘เพื่อน’ จริงๆเหรอ
    “รอสักครู่” แล้วเขาก็เดินไปทางด้านหลัง
    “ห้องหับก็ดูดีอยู่หรอกนะ” ลาลิเธียออกความเห็น “ข้าไม่เห็นรู้เลยว่าพี่มีเพื่อนอยู่แถวนี้ นี่มันย่านคนจนไม่ใช่เหรอ” นางกดเบาะเก้าอี้ “โห แอบรู้เหมือนกันนะเนี่ย ดูสิ กำมะหยี่แท้ๆเลย”
    “จริง ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” พี่สาวตอบแต่ใจไปวุ่นวายอยู่กับเรื่องอื่น
    “โจเซเฟีย ดูรูปนี่” ลาลิเธียถือโอกาสชมผลงานของเขาที่ดูเหมือนยังวาดไม่เสร็จ
    “ลาลิเธีย อย่าทำตัวเหมือนพวกไม่มีมารยาทอย่างนั้นสิ” สายตานางสั่งให้น้องวางมันลง
    “นี่ ท่านหญิง” เจ้าของห้องออกมาพร้อมชาสองถ้วย
    “วาเลนติโน่ นี่ลาลิเธียน้องสาวข้า” นางเพิ่งจะแนะนำให้เขารู้จัก เขาพยักหน้า
    “เงินต้นพร้อมดอกเบี้ย” ชายหนุ่มยื่นซองสีน้ำตาลให้
    “จริงสิ เรื่องรักษาแม่เจ้าน่ะให้ข้าช่วยก็ได้นะ หมอที่คฤหาสน์ข้าก็มี ข้าจะให้เขาช่วยมาดูแลแม่เจ้าให้ก็ได้” ท่านหญิงช่างมีน้ำใจเสียจริง
    “อย่าเลย ข้าเกรงใจ” เขามองและครุ่นคิด นางคงจะสมเพชล่ะสิท่า
    “แล้วแต่เจ้านะ”
    “ขอบคุณในความกรุณา แต่ข้ายังยืนยัน”
    “เอ่อ ... วาเลนติโน่ใช่ไหม ข้าชอบงานเจ้าล่ะ มันสวย ดูดีมากๆ” น้องสาวพูดขึ้นบ้าง
    “อ๋อ นั่นเหรอ มันยังไม่เสร็จดีหรอก” เสร็จแล้วคงจะสวยกว่านี้ นั่นสิที่เขาอยากจะพูด
    “อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ข้าสงสัยเรื่อง ... ”
    “เรื่องห้องใช่ไหม” เขาตอบคำถามโจเซเฟียด้วยคำถาม “ข้าเพิ่งรับงานจากเศรษฐีท่านหนึ่ง แล้วท่านก็ให้ของพวกนี้เป็นค่าจ้าง เท่านั้นเอง” เขาพูดรัวเร็วยังกับท่องคำตอบมาแล้วงั้นล่ะ
    “อืม ดีจัง แต่ถ้าเจ้าแลกเป็นเงินมันจะดีซะกว่า ถ้าเรียบร้อยแล้วข้าต้องขอตัวก่อน ไปเถอะลาลิเธีย ข้าไม่รบกวนแล้วล่ะวาเลนติโน่” นางเดินผ่านประตูออกไปหลังจากอำลา
++++++++++++++
ช่วยกันเม้นท์หน่อยจิจะได้รู้ว่ามีคนอ่านมั่งป่าวอ่า กรุณานะคะ
บายๆ
    “ไม่เห็นจะอยากได้เลย” เขาพึมพำเสียจนโจเซเฟียได้ยิน นางไม่อยากจะติดใจอะไร แต่ต่อมอยากรู้เกิดทำงานขึ้นมากระทันหัน
    “ท่านชายว่าอะไรนะ”
    “ไม่เห็นจะอยากได้เลย” ชายหนุ่มตอบไปโดยไม่คิดว่านางจะเข้าใจหรอก และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
    “เมื่อไหร่จะมากันซะทีล่ะเนี่ย” ท่านหญิงบ่นไปเรื่อยตามประสา เมอร์คิวลัสเขยิบเข้าหาจนนางตกใจ
    “เจ้าดูดาวดวงนั้นสิ เห็นไหม ดวงใหญ่ๆ ข้างจันทราน่ะ” เขาชี้ให้หญิงสาวดู เขาจะรู้ไหมล่ะว่าโจเซเฟียสนใจกลิ่นน้ำหอมที่ระบายออกมาจากตัวเขายิ่งกว่าสิ่งที่เขาต้องการจะให้นางดู “แม่ข้าอยู่บนนั้นล่ะ” เขายิ้มอย่างงง หญิงสาวเดาได้เลยว่าบัดนี้ท่านชายแพ้ฤทธิ์ไวน์เสียแล้ว
    โจเซเฟียลอบมองใบหน้าด้านขางที่ตอนนี้ซีดจนแทบจะกลืนกินไปกับชุด
    “ท่านชาย ไม่สบายหรือเปล่า ท่าทางไม่ค่อยดีเลยนะ” นางถามคนตาสีเขียว
    “ไหนดูซิ” เขาเอามือแตะหน้าผากตัวเอง “ไม่นี่ มือกับหน้าผากข้ามันก็อุ่นพอกัน ฉะนั้น แสดงว่าข้า ... ไม่ได้เป็นอะไร” เมอร์คิวลัสตอบ ทำเอาคนข้างๆถอนหายใจ
    “ใครบอกท่านเล่า มันจะอุ่นไม่อุ่นเท่ากันมันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเสียหน่อย” นางต่อว่า แต่ก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเขาทอดสายตาซื่อๆ ยังกับเด็กไม่รู้จักโตมาให้ เฮ้อ มันเหมือนกับเมอร์คิวลัสคนเก่าที่ไหน
    “งั้นเหรอ” เขาพยักหน้ารับรู้ “งั้นเจ้าช่วยดูให้หน่อยสิว่าข้าสบายดีรึเปล่า” ชายหนุ่มจับมือหญิงสาวขึ้นแตะตนเองแต่ตัวเขาแทบจะทรงไม่อยู่จึงล้มลงกับหน้าตักของนางและไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น เขาครางซ้ำยังกุมมือข้างนั้นไว้
    “ทีอย่างนี้มาทำเป็นไม่รู้เรื่อง ตัวร้อนยังกับไฟมีหน้ามาบอกไม่เป็นอะไรอีก ฮึ แล้วข้าจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย โอ๊ย” มือเขาร้อนและร้อนขึ้น นางทำอะไรมากไปกว่ารอน้องสาวไม่ได้
    โจเซเฟียมองหน้าที่นิ่งเงียบเพราะเจ้าของหลับสนิทอยู่ นางชอบเขามากขึ้นนิดนึงเวลาที่เขาไม่ใช้นัยน์ตาสะกดนาง หญิงสาวมิอาจห้ามมือไม่ให้ลูบไล้ไปตามใบหน้าร้อนผ่าวนั่นได้ นางปัดผมที่ปรกหน้าเขาขึ้น เขาดูดีอย่าที่เฟรมลินว่าไว้จริงๆ มือนางสัมผัสแก้ม จมูก และริมฝีปาก ช่างเป็นปากเรียวบางและมีเสน่ห์ ผิวขาวราวกับไข่มุกทำให้นางแอบอิจฉา ขนาดคนอย่างอลิเซียยังมิวายหลงใหลเขา ดูเอาสิ ยังกับหลุดออกมาจากภาพวาดอย่างนั้นล่ะ ใช่สิ ภาพวาด ใบหน้าของวาเลนติโน่ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นในความทรงจำ แต่ทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วยล่ะ นางกำลังดื่มด่ำกับการเก็บความงามของชายหนุ่มอยู่เชียว มือยังคงกุมอยู่กับเขาแต่ใจกลับคิดถึงบุรุษผู้อื่น อะไรของโจเซเฟียล่ะนี่
    “โจเซเฟีย ท่านชายหายไปไหนเสียแล้วล่ะ อ้าว” น้องสาวกลับมาพอดี ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งจากห้วงความคิด
    “เฟรมลิน เอ่อ เมอร์คิวลัสไม่สบาย ... มั้ง”
    “ข้าดูซิ” แล้วหมออุปโลกน์ก็แตะหน้าผากคนไข้ “สงสัยจะแพ้แอลกอฮอล์นั่นแหละ ข้าก็ลืมเตือน สงสัยจะหยิบผิดแก้ว ไม่เป็นไรหรอกโจเซเฟีย ข้าจะให้รถม้าไปส่ง -- ไม่ต้องเป็นห่วง” เขารับรองเมื่อเห็นสีหน้าของนาง รู้สึกเจ็บขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
    เฟรมลินเรียกรถม้าของเทรเชอร์มาให้และส่งท่านชายขึ้นรถไป
    “ท่านบอกว่า เขาแพ้แอลกอฮอล์เหรอ” นางถามด้วยความสงสัย ก็เห็นเขาจิบไวน์อย่างไม่สะทกสะท้านนี่
    “ใช่ ถ้าในปริมาณน้อยๆก็ไม่เท่าไหร่ แต่วันนี้เห็นเขาดื่มไปหลายแก้ว สงสัยจะแก้เขิน” เขาตอบ “ใครได้เมอร์คิวลัสเป็นคู่ก็หมดห่วงเรื่องนี้ไปได้เลย”
    แต่เรื่องผู้หญิงนี่สิ โจเซเฟียได้แต่คิดเงียบๆ ในใจ
    เช้าวันอากาศสดใส น่าออกไปข้างนอกเสียจริง สงสัยเมื่อคืนโจเซเฟียจะคิดเรื่องวาเลนติโน่มากไปหน่อยจึงเก็บไปฝันเป็นเรื่องเป็นราว
    “ไร้สาระ” โจเซเฟียบ่นเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น และยังต้องหงุดหงิดอีกเมื่อเห็นข่าวท่านชายเมอร์คิวลัสในหน้าหนังสือพิมพ์ “ต้องลงข่าวใหญ่โตขนาดนี้เชียว นี่แค่เป็นไข้นะ ถ้าโดนมีดบาดไม่ต้องทำฉบับพิเศษให้ หรือตั้งกองทุนรักษาพยาบาลพร้อมเลยรึไง” ปากก็บ่นไปงั้นแต่ใจก็ชื้นขึ้นมาเยอะที่รู้ว่าเขาหายดีแล้ว
    “เช้านี้มีอะไรบ้าง” เกรกอรี่ถามหลานสาวพลางจิบกาแฟ
    “เกือบครึ่งเล่มเป็นข่าวท่านชายเมอร์คิวลัส”
    “ข่าวอะไร คงไม่เกี่ยวกับเราหรอกนะ”
    “ไม่เลยท่านอา เรื่องไร้สาระทั้งเพ” โจเซเฟียปิดหนังสือพิมพ์แล้ววางทิ้งไว้ “นี่ท่านอาจะไปไหน”
    “(ต้องรายงานเจ้าด้วยเหรอเนี่ย) วันนี้ข้าว่าง ว่าจะออกไปขี่ม้าเล่นๆ นี่ แมรี่ของข้าคลอดลูกแล้วนะ” เขากล่าวด้วยความยินดี
    “เหรอ อืม (แล้วข้าจะรู้ไปทำไม)”
    “ข้าไปก่อนล่ะหลานรัก” เขายิ้มแล้วจากไป
    โจเซเฟียต้องแวะไปเก็บเงินที่เมอร์ด็อคอีกครั้งตามคำสั่ง ลาลิเธียไม่มีอะไรทำก็เลยตามพี่สาวไปด้วย
    “เพิ่งมาเมื่อไม่กี่วันนี่นา” โจเซเฟียเคาะประตูที่เปิดอยู่ วาเลนติโน่โผล่หน้าออกมารับ
    “ถึงกำหนดแล้วเหรอ เร็วจัง” เขาพึมพำ “สักครู่นะท่านหญิง”
    “ให้ข้าเข้าไปหน่อยได้ไหม” ปกติการเข้าบ้านลูกหนี้มันไม่ใช่วิสัยหรอกนะ “เราเพื่อนกันนี่” เหมาเอาเองเลยนะโจเซเฟีย
    “ถ้างั้นก็เข้ามาก่อนสิ” เขารับอย่างไม่สู้เต็มใจนัก
    ภายในตัวบ้านต่างจากเมื่อวันก่อนมาก มันดูสะอาดตาขึ้นและดูเหมือนห้องที่มีคนอยู่มากขึ้นเพราะมีเครื่องเรือนเพิ่มเข้ามา
    “ท่านหญิงจะรับชาไหม”
    “อืม” นางพยักหน้า หล่อนรับเขาเป็น ‘เพื่อน’ จริงๆเหรอ
    “รอสักครู่” แล้วเขาก็เดินไปทางด้านหลัง
    “ห้องหับก็ดูดีอยู่หรอกนะ” ลาลิเธียออกความเห็น “ข้าไม่เห็นรู้เลยว่าพี่มีเพื่อนอยู่แถวนี้ นี่มันย่านคนจนไม่ใช่เหรอ” นางกดเบาะเก้าอี้ “โห แอบรู้เหมือนกันนะเนี่ย ดูสิ กำมะหยี่แท้ๆเลย”
    “จริง ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” พี่สาวตอบแต่ใจไปวุ่นวายอยู่กับเรื่องอื่น
    “โจเซเฟีย ดูรูปนี่” ลาลิเธียถือโอกาสชมผลงานของเขาที่ดูเหมือนยังวาดไม่เสร็จ
    “ลาลิเธีย อย่าทำตัวเหมือนพวกไม่มีมารยาทอย่างนั้นสิ” สายตานางสั่งให้น้องวางมันลง
    “นี่ ท่านหญิง” เจ้าของห้องออกมาพร้อมชาสองถ้วย
    “วาเลนติโน่ นี่ลาลิเธียน้องสาวข้า” นางเพิ่งจะแนะนำให้เขารู้จัก เขาพยักหน้า
    “เงินต้นพร้อมดอกเบี้ย” ชายหนุ่มยื่นซองสีน้ำตาลให้
    “จริงสิ เรื่องรักษาแม่เจ้าน่ะให้ข้าช่วยก็ได้นะ หมอที่คฤหาสน์ข้าก็มี ข้าจะให้เขาช่วยมาดูแลแม่เจ้าให้ก็ได้” ท่านหญิงช่างมีน้ำใจเสียจริง
    “อย่าเลย ข้าเกรงใจ” เขามองและครุ่นคิด นางคงจะสมเพชล่ะสิท่า
    “แล้วแต่เจ้านะ”
    “ขอบคุณในความกรุณา แต่ข้ายังยืนยัน”
    “เอ่อ ... วาเลนติโน่ใช่ไหม ข้าชอบงานเจ้าล่ะ มันสวย ดูดีมากๆ” น้องสาวพูดขึ้นบ้าง
    “อ๋อ นั่นเหรอ มันยังไม่เสร็จดีหรอก” เสร็จแล้วคงจะสวยกว่านี้ นั่นสิที่เขาอยากจะพูด
    “อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ข้าสงสัยเรื่อง ... ”
    “เรื่องห้องใช่ไหม” เขาตอบคำถามโจเซเฟียด้วยคำถาม “ข้าเพิ่งรับงานจากเศรษฐีท่านหนึ่ง แล้วท่านก็ให้ของพวกนี้เป็นค่าจ้าง เท่านั้นเอง” เขาพูดรัวเร็วยังกับท่องคำตอบมาแล้วงั้นล่ะ
    “อืม ดีจัง แต่ถ้าเจ้าแลกเป็นเงินมันจะดีซะกว่า ถ้าเรียบร้อยแล้วข้าต้องขอตัวก่อน ไปเถอะลาลิเธีย ข้าไม่รบกวนแล้วล่ะวาเลนติโน่” นางเดินผ่านประตูออกไปหลังจากอำลา
++++++++++++++
ช่วยกันเม้นท์หน่อยจิจะได้รู้ว่ามีคนอ่านมั่งป่าวอ่า กรุณานะคะ
บายๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น