ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chain of Satan

    ลำดับตอนที่ #2 : chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 49


      “งึม งึม งำ งำเสียงของครางของเด็กสาวที่ไม่อยากตื่นนอนดังขึ้น


      “
    นาย ตื่นสิ นายน่ะ เฮ้ โลกจะแตกแล้วนะ  เฮ้อ   เสียงของหญิงสาวอีกคนก็ดังขึ้นเช่นกัน เสียงอุทานครั้งสุดท้ายแสดงให้เห็นว่า เบื่อจะปลุก  เอาแบบไหนดีถึงจะตื่น  เร็นเคียวที่กำลังปลุกโคคุเรียวในร่างหญิงสาวเริ่มเอือมระอาเต็มทีจึงบอกออกไปว่า


     
    นายต้องเป็นผู้หญิงตลอดไปนะถ้าไม่ตื่น

     พรวด


     
    อะไรนะ ไม่เอา ไม่อาวววววววน้า  ฉ้านม่ายอยากเป็นผู้หญิงงงงงงเสียงตะโกนตอบรับคำปลุกจากเร็นเคียวที่ดังซะจนต้องเอามืออุดหู


      “
    เฮ้ย ตะโกนทำไม กี่เดซิเบลล่ะฮ้า   จะปลุกชาวบ้านรึยังไง  น่ารำคาญโว้ยเสียงตะคอกที่ดังกว่าทำให้สาวน้อยที่กำลังตะโกนอยู่หุปปากน้อยๆ (น้อยรึ) ของเธอในทันทีทันได


     
    น่ากลัวจังเลยง่ะ


     
    ขอโทษจ้ะ แหะแหะโคคุเรียวแก้ตัวแหะแหะ หน้าออกแดงๆ เนื่องจากสาวตรงหน้าดูแล้วอารมณ์กรุ่นๆจะเดือด เร็นเคียวที่อยู่ในชุดลำลองธรรมดาดูแล้วก็ยืมโคคุเรียวมาใส่ มันคือเสื้อนอนที่โคคุเรียวยังไม่ได้ใช้ก็เลยพับเก็บไว้ในตู้ และที่สำคัญมันเป็นเสื้อตอนที่ใช้ตอนเป็นผู้ชาย


     
    ทำร้ายสายตาจังเดี่ยวชาวบ้านเขาก็หาว่าเราลามกอีกจิเนี่ย


     
    นั่นก็เพราะโคคุเรียวนั้นตัวใหญ่กว่าเร็นเคียวห่างกันพอประมาณ  ดูแล้วก็เลยหลวมโพรก เสื้อมันเลยหลุดมาเลยไหล่ เห็นหน้าอกและร่องอกโผล่ออกมาจากเสื้อที่หลวมโพรกตัวนั้น  แถมเจ้าหล่อนยัง


      
    ใส่เสื้อแค่อย่างเดียวดีนะว่าเสื้อมันใหญ่ง่ะ


     
    ถึงวันนี้จะวันเสาร์ก็เถอะนะ  จะนอนกินบ้านกินเมือง กินโลกกินจักรวาลกินกาแล็คซี่ ของนายก็ช่างเถอะ แต่นายน่ะก็น่าจะลุกมาทำงานสักหน่อยไม่ดีกว่าเรอะ วันนี้กำหนดส่งต้นฉบับไม่ใช่รึไงเร็นเคียวพูดพลางชี้มือไปที่ปฎิทินข้างห้องที่มีวงกลมสีแดงไว้ที่วันนี้ว่าส่งต้นฉบับ


     
    ว้าก ส่งงานวันนี้  ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย แน่ๆเสียงตะโกนอีกหนึ่งครั้งจากโคคุรียวว่าลืมทำงานซะสนิทเพราะมัวแต่ง่วนเรื่องเร็นเคียวเมื่อคืนน่ะสิโธ่เอ้ย ตาย ตาย ตาย แน่ๆ


     
    มันคงจะตายแน่ถ้านายยังนั่งอยู่ตรงนี้แทนที่จะทำงานต่อนะเธอพูดพลางเดินกลับไปที่ห้องครัว


     
    เออ ใช่แฮะโคคุเรียวพูดเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้ พลางเดินไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ แล้วรีบเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาอย่างจ้าละหวั่น โดยที่ตอนแรกเจ้าตัวนั้นรีบจนลืมไปเลยว่าปุ่มสำหรับเปิดอยู่ตรงไหน


     
    นายจะกินอะไรเสียงตะโกนถามที่ดังมาจากครัวเรียกสติที่แตกไปแล้วของโคคุเรียวให้ทากาวแล้วกลับมาต่อกันได้อีกครั้ง


     
    อะไรก็ได้คำตอบที่คิดว่าบรรดาแม่บ้านทั้งหลายคงเบื่อที่จะได้ยินเวลาเตรียมอาหารเย็นที่โคคุเรียวตะโกนตอบกลับไปทำให้เร็นเคียวถอนหายใจหนึ่งเฮือกแล้วจัดการกุลีกุจอทำมันซะเองเลย (ไม่ถามก็ได้วะ ฮึ งอนแล้ว)


      “
    โอยจะเขียนอะไรต่อนะ เออ ใช่ เอหลังจากนั้นโคคุ.....และการปั่นพิมพ์งานก็เริ่มขึ้นโดยที่โคคุเรียวก็สวมบทบาทนักพิมพ์มือไฟที่กำลังพิมพ์สาสน์ในเวลาสิบวินาทีก่อนโลกจะแตกยังไงยังงั้น(แล้วมันเกี่ยวกันตรงใหน

    หว่า)


      “
    อาหารอยู่นีนะ..............................................................(สามนาทีผ่านไป)........ให้ช่วยพิมพ์ให้มั้ยเร็นเคียวที่นำอาหารมาให้หลังจากจบประโยคแรกแล้วยืนดูอยู่ประมาณสามนาทีกว่าๆ(กว่าๆจริงๆนะไม่กว่านิดๆหรือกว่าหน่อยๆด้วย)กล่าวขึ้นเนื่องจากนักพิมพ์มือไฟที่กำลังพิมพ์สาสน์ในเวลาสิบวินาทีก่อนโลกจะแตกนั้นนั่งง่วนทำของโน่นนี่นู่นนั้นตกอยู่เรื่อยแทนที่จะพิมพ์ต่อให้เสร็จ


      
    ไม่เป็นไรอีกสองบรรทัดเอง(เพิ่งพิมพ์เมื่อสามนาทีกว่าๆที่แล้วนี่นะไวจริง).........เอตรงนี้ก็โคคุเรียวพูดกับเร็น.......เอ๋โคคุเรียวชะงักไปเมื่อเห็นชื่อนางเอกที่เขาแต่งเนื่องจากว่า 


      
    เร็นเคียวว่าผมไม่ยอมให้คุณต้องทำแบบนั้นเพื่อถอนคำสาปของผมเร็นเคียวให้ผมตายพรุ่งนี้ผมก็จะไม่ยอมให้คุณทำแบบนั้น...........เอ้าเสร็จแล้วไปกินข้าวเร็นเคียวที่เดินมาหาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เดินเข้ามาหาอ่านตามบทที่โคคุเรียวเขียนเอาไว้แล้วจัดการพิมพ์ซะเสร็จสรรพแล้วเธอก็เดินดุ่มๆไปที่โต๊ะทานข้าว


      
    ทำไมเราไม่นึกถึงเรื่องนี้


      
    เมื่อคืนก็รู้สึกแต่ไม่ทันคิด


     
    เร็นเคียว


     
    ใช่ ชื่อนี้


     
    รู้สึกโหยหาจริง คนเดียวกันไหมนา


     
    อา..........อะไรอุ่นๆที่ตาล่ะเนี่ย บ้าจริง


     
    เป็นอะไรไปเสียงของเร็นเคียวที่ชะโงกหน้ามาดูแววตาสีเลือดนั้นกำลังมองด้วยความเป็นห่วง


     
    ........
    หา.....ไม่มีอะไรหรอกน่านะ.........กินข้าวกันโคคุเรียวพูดแล้วรีบวิ่งผ่านเร็นเคียวไปที่โต๊ะอาหาร


     
    จำอะไรไม่ได้สินะ


     
    ก็สมควร  ท่านพ่อแข็งแกร่งจะตาย


     
    แต่ว่า แบบนี้ก็.........................


     
    นี่เอ่อ...........เร็..........กินข้าวสิกินด้วยกันเยอะขนาดนี้กินไม่หมดหรอกโคคุเรียวเรียกพลางชี้มือไปที่ข้าวหน้าหมูทอดจานโตที่มีชามเดียวบนโต๊ะ


     
    เรียกเร็นเคียวก็ได้เร็นเคียวพูดพลางเดินเข้ามาหา


     
    เหรองั้นแลกกันนะเร็นเคียวต้องเรียกผมว่าโคคุเรียวนะโคคุเรียวกล่าวกลับ


     
    ก็ได้ค่ะ...เอ่อ.....โคคุเรียว


      
    กึก


     
    อะไร


     
    เมื่อกี้นี้มันอะไรกัน ความรู้สึกเมื่อกี้


     
    แค่เขาเรียกชื่อเราเองนี่.......หรือ.....เพราะดวงตาสีเลือดคู่นั้น.........กำลังทอแสงแปลกๆ


      “
    ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึง ปึงเสียงทุบประตูสิบแปดครั้งรวดแล้วก็ตามมาด้วยเสียงตะโกนที่แยกไม่ออกว่าหญิงหรือชายว่า โคคุเรียวจังงานล่ะงานเปิดประตูของานหน่อย


       
    เอ่อ คุณกีอาน่ะคนตามต้นฉบับนะเร็นเคียวโคคุเรียวพูดพลางเดินไปเปิดประตูหวัดดีค่ะคุณกีอานี่ต้นฉบับค่ะ..............รู้สึกว่าคุณกีอาจะสวยขึ้นอีกแล้วนะค่ะโคคุเรียวพูดพลางสำรวจคนที่อยู่ตรงหน้า ผมสีทองเหยียดตรงยาวสลวย ตาสีมรกตคมเรียว รอยยิ้มได้รูปที่ริมฝีปาก  ใบหน้ารูปไข่  ผิวสีขาวอมชมพู ร่างผอมสูงเพรียวบางได้สัดส่วนของ กีอา ซาแลนด์ ผู้ตามต้นฉบับเดลิเวอรี่


     
    เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋เอ๋! อีกแล้วเหรอเนี่ยไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริงไม่จริง ทำไมล่ะโคคุเรียวจังฉันเป็นแบบนั้นอีกแล้วเหรอ เสียงตะโกนแสบแก้วหูประมาณสองสามร้อยเดซิเบลของคุณกีอาเมื่อได้รับคำชมทำเอาต้องปิดหูในทันที


     
    รู้สึกจะเป็นอย่างนั้นนะค่ะคุณกีอา เออเร็นเคียวมานี่เร็ว แนะนำนะค่ะนี่เร็นเคียวเพื่อนรูมเมทคนใหม่ค่ะโคคุเรียวพูดพลางแนะนำเร็นเคียว


     
    นี่เร็นเคียวจังฉันเป็นแบบที่โคคุเรียวจังพูดเหรอคุณกีอาหันมาถามเร็นเคียวที่เพิ่งเดินมาในทันที


     
    เอ่อ ก็คุณกีอาก็สวยดีนี่ค่ะเร็นเคียวตอบอย่างจริงใจเป็นที่สุดพลางหันไปมองโคคุเรียวที่กำลังกลั้นหัวเราะสุดชีวิตแบบงงๆ


     
    ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยน้าคุณกีอาตะโกนสุดเสียงแล้ววิ่งออกไปในทันที


     
    ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าระเบิดหัวเราะของโคคุเรียวที่กลั้นมาตั้งแต่ล้อคุณกีอาระเบิดออกแล้วเจ้าตัวก็ลงไปนั่งขำกับพื้น


     
    มีอะไรกันเหรอ..........................รึว่าคุณกีอาจะเร็นเคียวกล่างพลางทำหน้าตกใจปนขำเมื่อนึกเหตุผลออก


     
    ช่ายฮ่าฮ่า........กีอาซังน่ะ.......ฮิฮิฮิฮ่าฮ่าฮ่าเป็นผู้ชายทั้งแท่งโคคุเรียวกล่าวออกมาด้วยอาการที่ตะกุกตะกักสุดๆ


     
    ฮิฮิเหรอจริงๆด้วยฮะฮะ แต่เขาก็สวยจริงๆน่ะแหละ เอ้าไปกินข้าวเลิกหัวเราะได้แล้วหลังจากหัวเราะพอประมาณว่างามแล้วก็เรียกโคคุเรียวให้กลับเข้าบ้านพลางฉุดแขนโคคุเรียวให้ลุกขึ้นแล้วลากกลับเข้าไปในบ้านไปกินข้าวต่อให้เสร็จ


     
    ว่าแต่ว่าเร็นเคียวก็ดูเก่งนะ ดูออกด้วยว่าคุณกีอาเค้าเป็นผู้ชาย ขนาด ที่กองบ.. น่ะตอนแรกทั้งกองยังนึกว่าเป็นนางงามจักรวาลซะอีกแนะโคคุเรียวพูดขึ้นหลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว  แล้วก็กำลังช่วยเร็นเคียวล้างจานก็ตอนฉันตอบ เขาเล่นตะโกนซะดังขนาดนั้นน่ะนะ  แต่แสดงว่าเค้าคงไม่ค่อยชอบแบบนี้เท่าไหร่ใช่มั้ยเร็นเคียวถามโคคุเรียว


     
    ก็นะ เค้าเคยเล่าให้ฟังว่าเค้าอยากเป็นผู้ชายที่เข้มแข็งกว่านี้ ไม่อ่อนไหวต่อเรื่องไดๆได้ง่ายๆ เข้มแข็งแล้วก็สามารถปกป้องคนที่เรารักได้ เค้าเล่าให้ฟังน่ะ สมัยที่ผมเข้าไปใหม่ๆโคคุเรียวเล่า อะ...เฮ้อ....เสร็จแล้วล่ะ


       โคคุเรียวพูดพลางถอนหายใจเมื่อล้างจานเสร็จ


     
    นี่ วันนี้วันเสาร์ใช่มั้ย จะไปไหนรึเปล่า รึว่าอยู่บ้านเร็นเคียวพูดขึ้นหลังล้างมือเสร็จ


     
    ม่ายอะ  ม่ายไป เอ....วันนี้วันเสาร์เหรอ......เอ้อใช่โคคุเรียวพูดเหมือนนึกอะไรออกแล้วก็หันไปคุ้ยของบางอย่างในตู้แบบจ้าละหวั่น เอ อยู่ไหนหนอ จำได้ว่าวางๆไว้แถวนี้นี่นา


     
    นี่รึเปล่าเสียงของเร็นเคียวพร้อมกับของในมือที่เรียกให้โคคุเรียวหันกลับมามอง


     
    ใช่แล้วไอ้นี่แหละ ไอ้นี่แหละโคคุเรียวตะโกนขึ้นมาเมื่อเห็นกระดาษสีขาวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีตัวอักษรเล็กๆอยู่สองแผ่น


     
    มันคือ......ตั๋วดูหนังเหรอเร็นเคียวกล่าวขึ้นเมื่อสังเกตโดยรวมของกระดาษสีขาวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้านั่น


     
    ใช่แล้วล่ะ......เอ.......เรื่องอะไรนะ......เออ.......ใช่......เรื่อง.......เดวิ้วฮูเนเว่อแฮ้บเลิปโคคุเรียวพยายามนึกชื่อเรื่องที่เร็นเคียวฟังแล้วส่ายหัว


     
    Devil Who never have love
    อ่านแบบนั้นใครจะไปฟังออกล่ะ  แล้วจะไปเลยมั้ยเธอน่ะเร็นเคียวที่แก้ชื่อเรื่องให้ ก็กล่าวขึ้น


     
    งั้นเร็นเคียวจะไม่ไปเหรอโคคุเรียวถาม


     
    อ้าว ไปได้เหรอเร็นเคียวถามกลับ


     
    อื้อ ตอนแรกพวกคิว เอ่อ เพื่อนผมน่ะโคคุเรียวต้องเริ่มอธิบายเมื่อเร็นเคียวทำหน้างงๆเค้าบอกให้ผมชวนใครก็ได้ไป ก็ตอนแรกว่าจะชวนกีอาซังแต่เธอก็เห็นแล้ว........งั้น........ไปด้วยกันนะ


     
    เออ..ก็ได้ แต่ไปกับเพื่อนเธอเหรอเร็นเคียวที่ยังตอบตกลงด้วยอาการงงๆก็ถามอีก


     
    อื้อ เนื่องในโอกาสที่รุสะจังอาการดีขึ้นโคคุเรียวตอบแล้วกล่าวแก้ข้อสงสัยของเร็นเคียวว่ารุสะจังเป็นน้องสาวของเอ็ดเธอเป็น........เออ........โรคหัวใจน่ะนะ......ก็อยู่ได้ไม่ถึงครึ่งปีถึงตรงนี้โคคุเรียวพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ


     
    ขอโทษเร็นเคียวกล่าวพลางโค้งเป็นการขอโทษ


     
    อะไรง่ะ.......คือ.......แบบว่า......ช่างมันเถอะ........ไม่เป็นอะไรหรอกโคคุเรียวกล่าวอย่างตะกุกตะกักพลางลุกลี้ลุกลนไปมา เร็นเคียวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหอะ


     
    อื้มคำตอบรับสั้นๆจากหญิงสาว

    ........................................................................................................ 


     
    เฮ้  โคคุเรียว เฮ้เสียงของหนุ่มน้อยคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อของโคคุเรียวซะลั่นกลางห้าสรรพสินค้า คิวนั่นเองวันนี้คิวแต่งชุดลำลองแต่ดูยังไงมันก็ยังกะเครื่องแบบมหาลัยต่างกันแค่ไม่มีเนคไทแล้วมันก็ปล่อยชายเสื้อบวกสร้อยเส้นเก่งมีจี้รูปจันทร์เสี้ยวที่มันใส่ประจำกับแว่น  ส่วนเจ้าไซ.........ชุดนี้มัน........ก็ดูเท่ดีแฮะ เสื้อคอปกลายขวางสลับสีแดงกับเขียวแก่ กางเกงยีนส์ แล้วก็ผมเรียบแปล้แต่ยุ่งกว่าทุกวัน


     
    ไงจ้ะรุสะจังคำทักนี้โคคุเรียวกระโดดไปกล่าวกับอีกคนที่ไม่ไช่คนทักแต่เป็นเด็กสาววัยสิบสามที่ดูน่ารักไส่เสื้อสีน้ำเงินและกระโปรงสีดำ...(ไม่มีคำบรรยาย)..เรือนผมสีนิลถูกรวบไว้ด้านหลังสูงนัยน์ตาสีหยกไสเจ้าหล่อนกำลังจับมือพี่ชายที่หน้าบอกบุญไม่รับกับพวกจิ๊กโก๋กรุ่มกริ่มข้างทางทีผิวปากแซวน้องสาวสุดที่รักไม่เข้ากับเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนส์ดำสุดเท่ที่ไส่มาเล้ย.........(มืดมนจังแฮะทั้งคู่เลย)


     
    ค่ะสวัสดีค่ะพี่โคคุเรียว สบายดีรึเปล่าค่ะเสียงไสๆหวานๆของเด็กสาวที่ตอบกลับมา


     
    จ้ะโคคุเรียวตอบกลับ


     
    เฮ้ไอ้เรียวแกพาสาวมาให้ ชั้นกับไอ้ไซมันจีบเรอะหึสวยชะมัดเลยว่ะคิวกระซิบกับโคคุเรียวและไซพลางบุ้ยไบ้ไปหาเร็นเคียวที่ยืนอยู่นานแล้ว


     
    บ้านแกดิ.....เพื่อนโว้ย เออนี่แนะนำนะโคคุเรียวกล่าวพลางลากเร็นเคียวมาแนะนำเพื่อนๆ นี่เร็นเคียวรูมเมทชั้น


     
    เอ่อ สวัสดีค่ะ เร็นเคียวค่ะเธอกล่าว


     
    ทันไดนั่นแหละไอ้จิ๊กโก๋จอมกะล่อนก็เดินมาพลางโพล่งขึ้นว่า  เฮ้สาวน้อยทั้งสามสนใจจะไปกับโอย!เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดเนื่องจากหมัดกับลูกเตะหนักๆ(หนักสุดๆ)หมุนเข้าที่ต้นขามีเสียง กร้อบดังขึ้นมาด้วยด้วย


     
    คิว ไซ รุสะจัง ยืนตะลึงค้างกับสิ่งที่เกิดขึ้น และ เอ็ดกับผมที่เตรียมตั้งท่าอยู่ก็ยืนตะลึงกับเค้าเช่นกันเนื่องจาก


      คนที่หมุนหมัดกับลูกเตะหนักๆนั่น


      เร็นเคียว

    ...........................................................................................................................................................................
      ท่าทางซี่โครงหมอนั่น


      คงจะหัก


      น่าสงสารน้า


      
    หลังจากนั้นไอ้เจ้าจิ๊กโก๋จอมกะล่อนนั่นก็นอนร้องโอดครวญอยู่นานคิวเลยต้องโทรเรียกรถพยาบาลมารับไปตรวจว่ามีอะไรเสียหายรึเปล่าแถมตอนแรกไอ้เจ้าจิ๊กโก๋จอมกะล่อนนี่มันยังบอกว่าจะเอาเรื่องเร็นเคียวแล้วก็พวกเราด้วยแถมบอกว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดซะอีกแต่พอเร็นเคียวตั้งท่าจะซัดไอ้จิ๊กโก๋จอมกะล่อนอีกรอบมันก็รีบขอโทษเป็นการใหญ่


     
    ไอ้จิ๊กโก๋โง่เอ้ย


     
    มันบ้า โง่ งี่เง่า ขี้ขลาด


     
    เสียสถาบันชาติชาย


     
    ว่าแล้วก็หันไปดูหญิงสาวข้างๆตัวที่ตอนนี้ยืนนิ่งเงียบรอเข้าโรงไม่ยอมพูดอะไรตั้งกะซัดไอ้จิ๊กโก๋จอมกะล่อนนั่นเอาแต่ยืนนิ่งทำตาน่ากลัว


     
    พี่เร็นเคียวค่ะ  ไม่ต้องไปสน ไอ้จิ๊กโก๋บ้า โง่ งี่เง่า ขี้ขลาดแบบนั้นหรอกค่ะเค้าคงแค่อยากเห่าเท่านั้นเองรุสะจังที่ยืนนิ่งจ้องเร็นเคียวมานานกล่าวขึ้น


     
    แต่ว่า

     
      ยังด่าเจ็บเหมือนเดิมเลยง่ะ


     
    รุสะจังเนี่ยด่าใครทีคนฟังต้องสะอึก


     
    พูดน้อยต่อยหนักเหมือนเดิม


     
    พี่ไม่สนคนบ้าแบบนั้นหรอก แค่กำลังคิดว่าเออ........ซัดเบาไปหน่อยน่ะนะเร็นเคียวกล่าวตอบเด็กสาวคู่สนทนาตรงหน้า


     
    นั่นสิค่ะคงแค่กระดูกหักแต่ร้องโอดครวญน่ารำคาญรุสะจังยังกล่าวต่อ


     
    นั่นสิค่ะ  หนวกหูเนอะเร็นเคียวกล่าวต่ออีก


     
    บรึ่ย เสียวง่ะ


     
    ความคิดของสี่หนุ่ม(ที่หนึ่งในนั้นยังเป็นผู้หญิงเพราะคำสาป) ที่ชวนให้เสียวสันหลังวาบกับบทสนทนาของสองสาวที่กล่าวถึงเรื่องที่ควรจะให้พวกเขาพูด


     
    ผู้หญิงอะไรเนี่ย


     
    ซาดิสเป็นบ้า


     
    น้องใครเนี่ย


     
    โหดชะมัด


     
    และทุกคนก็เข้าไปในโรงหนังท่าทางรุสะจังจะติดเร็นเคียวแล้วเลยลากเร็นเคียวมานั่งข้างๆเป็นเหตุให้ผมถูกระเห็จมานั่งริมสุดกับเร็นเคียว


     
    นี่เร็นเคียวเสียงที่ดังมาจากชายหนุ่มในร่างสาวน้อยทำให้เธอต้องหันไปหา


     
    อะไรเหรอหญิงสาวตอบ


     
    เธอเคยดูหนังมั้ยโคคุเรียวถามขึ้น


     
    อืม  ไม่เคยหรอก ซาตานน่ะจะดูได้ไงล่ะเธอตอบ


     
    งั้นเธอชอบแบบไหนล่ะ แนวๆไหนที่เธออยากดูโคคุเรียวถามอีกทำให้เร็นเคียวหมุนหัวคิ้วน้อยๆก่อนตอบว่า


     
    คงแฟนตาซี ไม่ก็ บู้ๆล่ะมั้ง ทำไมหรอเธอถามด้วยความฉงน


     
    จะได้พามาดูอีกไง สัญญานะว่าต้องมากับผมน่ะโคคุเรียวตอบพลางชูนิ้วก้อย เกี่ยวก้อยสัญญาไง


     
    ก็ได้ สัญญาแล้วนะ ทำเป็นเด็กๆไปได้เธอตอบแล้วอมยิ้มเล็กๆ ก่อนที่จะหวานแหววจนคนข้างๆจะบอกว่าแปลกก็ต้องกลับมาเป็นปกติเมื่อรุสะเรียกให้ดูหนังที่เริ่มฉายแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×