ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [จบเล่ม 1] อาชีพอสังหาในวันสิ้นโลก [มี e-book]

    ลำดับตอนที่ #8 : ดันเจี้ยนงานเลี้ยงของปีศาจโสมม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 499
      47
      16 ส.ค. 67

    "ถ้าหิวก็ไปบอกกับแม่แกโน่นไป๊!"


    #จำนวนผู้เล่น751/1000


    --หลังเกตเปิดมา 2 ชั่วโมง-- [07:05 นาฬิกา]


    หลังจากสู้กับผีดิบมาสักพัก ลลินตั้งใจจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อจัดการกับบอสส่วนคนอื่นๆ ที่ผู้รอบข้างเธอนั้นยังมีคนที่ต่อสู้ได้อยู่บ้าง ลลินจึงเข้าไปช่วยเพื่อสอบถามว่าจะมีใครเข้าไปบ้างในกับเธอมั้ยแต่คนพวกนั้นไม่มีใครเลือกที่จะเข้าคฤหาสน์กับเธอสักคนเดียวกลับวิ่งหนีเข้าป่าที่อยู่ด้านนอกแทนลลินจึงปล่อยเลยตามเลย


    รั้วเหล็กที่สูงสง่าเป็นประตูแรกก่อนจะเข้าไปด้านในซึ่งข้างในนั้นลลินยังไม่เห็นผีดิบหรือมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ เลย จะบอกว่าตอนนี้เช้าแล้วก็ไม่น่าใช่เพราะดันเจี้ยนนี้ไม่มีแสงแดดส่องลงมาเหมือนท้องฟ้ามีเมฆหมอกปกคลุมตลอดเวลา ลลินเห็นว่าทางสะดวกก็ไม่รอช้ารีบปีนกำแพงรั้วเข้าไปด้านในทันที ร่างบางพยายามหลบตัวข้างกำแพงเอาไว้ให้มากที่สุด หมอบตัวลงต่ำก้าวขาไปข้างหน้าอย่างเบาๆ เธอตอนนี้เธอไม่รู้ว่าข้างในคฤหาสน์มีมอนสเตอร์แบบไหน ต้องระวังตัวเองให้มากที่สุด


    "ออกไปนะ!! ช่วยด้วย!" เสียงร้องที่ดังขึ้นมาจากพื้นที่ใกล้เคียงทำให้ร่างบางรีบวิ่งไปยังทิศทางนั้นอย่างรวดเร็วเท่าที่เธอจะทำได้ "ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!"


    ต้นข้าวน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความหวาดกลัวเพราะความโง่ของตัวเองจึงทำให้เขาต้องมาตายแบบนี้ เวลาแบบนี้คงไม่มีใครอยากมาช่วย ดาบเล่มยาวในมือสั่นไหว ด้านหลังเป็นกำแพงรั้วด้านหน้าก็เป็นผีดิบ ไม่ว่าจะเลือกทางไหนเขาก็ไม่มีทางรอดได้เลย จังหวะที่เล็บของผีดิบกำลุ่งเข้ามายกดาบขึ้นมากันร่างกายตัวเองพร้อมหลับตาปี๋เตรียมรับความตาย


    "ฉึก!!!"


    "ฉัวะ!"


    "ลืมตาได้แล้ว ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว"


    แม้จะเป็นเพียงเสี้ยววินาทีก็ตามสำหรับคนที่เตรียมใจว่าต้องตายอย่างต้นข้าวนั้นราวกับว่ายาวนานเป็นชั่วโมง เมื่อลืมตาขึ้นสิ่งแรกที่เห็นคือผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งในชุดหนังสีดำแวววาวในมือของผู้หญิงคนนั้นมือแส้สีดำที่ประดับด้วยเถาวัลย์สีเขียวดูสวยงามทว่าเมื่อต้นข้าวเห็นสภาพของผีดิบที่ถูกผ่าเป็นสองซีกแล้วความสวยของแส้นั้นกลายเป็นความรู้สึกอันตรายทันที


    "ขะ..ขอบคุณมากครับพี่" ต้นข้าวเก็บดาบลงในช่องเก็บของจากนั้นยกมือขึ้นไหวหญิงสาวที่ช่วยชีวิตเขาไว้ ดูจากหน้าตาแล้วน่าจะแก่กว่าเขาราว 10 ปีได้


    ลลินตาพยักหน้าให้เล็กน้อย "ตอนนี้ไม่ว่าที่ไหนก็อันตราย เราจะเอายังไงต่อ"


    "ผมขอตามพี่ไปได้มั้ยครับ! ผมจะพยายามไม่เป็นตัวถ่วง"


    ลลินเลิกคิ้วขึ้นไม่ตอบอะไร แส้เส้นยาวตวัดพุ่งเข้าใส่เด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าทำให้ต้นน้ำตกใจในใจคิดว่าครั้งนี้ต้องตายของจริงแน่ๆ แต่สิ่งที่ลลินฟาดนั้นไม่ใช่ต้นข้าวแต่คือมือของผีดิบที่อยู่นอกรั้วต่างหาก! ซึ่งพวกผีดิบมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหนตัวเขายังไม่รู้เลย


    "อยากไปก็ตามมา ทางที่ดีที่สุดอย่ายืนติดกำแพงดีกว่านะ พวกผีดิบมันยื่นมือเข้ามาได้"


    พูดจบลลินก็เดินทางต่อถ้ามีผีดิบตัวไหนพุ่งเข้ามาก็ถูกหญิงสาวจัดการลงอย่างง่ายดาย เมื่อได้ยินคำอนุญาตต้นข้าวจึงวิ่งไปยืนด้านหลังพี่สาวใจดีติดๆ ถึงแม้ว่าพี่สาวจะดูไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่แต่ต้นข้าวสัมผัสได้ว่าตอนนี้ลลินกำลังคอยดูแลเขาอยู่ไม่ว่าจะมีมอนสเตอร์พุ่งมาจากทางไหนแส้ของพี่สาวคนนี้ก็จะจัดการก่อนที่มันจะถึงตัวเขาเสมอ


    "พี่ชื่ออะไรเหรอครับ ผมชื่อต้นข้าว อาชีพ นักปรุงยาอายุ 16 ปี" หลังจากที่ตามติดลลินจนลอบเข้ามาได้แล้วต้นข้าวเลยถามสิ่งที่เขาสงสัย ตอนนี้ลลินกับตัวเขากำลังซุ่มมองจากห้องห้องหนึ่งข้างทางเดินหน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์


    "ลลิน อายุ 26"


    ภายในคฤหาสน์ถูกแต่งอย่างสวยงามหรูหราตรงกลางมีบันไดขนาดใหญ่สีดำตั้งเด่นสง่า โคมไฟคริสตัลห้อยระย้าลงมาเรียกได้ว่าบรรยากาศด้านในคฤหาสน์แตกต่างกับข้างนอกลิบลับ ด้านบนชั้นสองมีแสงไฟกับเสียงเพลงคลอเบาๆ ลลินคิดว่าบอสน่าจะอยู่ที่นั่น


    "ชั้นสองน่าจะมีบอสอยู่ เรารีบจัดการเถอะ เกตดันเจี้ยนนี่จะได้ปิดสักที"


    ต้นข้าวไม่เคยเจอกับบอสมาก่อนก็เกิดอาการหวาดกลัว "แต่มันบอสเลยนะพี่ผมไม่มีอาชีพสายต่อสู้เหมือนพี่นะคงสู้ด้วยไม่ไหวหรอก"


    "แล้วอาชีพปรุงยาของเราทำอะไรได้บ้าง" ลลินถามกลับ


    "ผมมีสกิลที่สามารถมองเห็นวัตถุดิบจากมอนสเตอร์ครับ แล้วเอาวัตถุดิบพวกนั้นปรุงยาขึ้นมาเป็นบัพให้กับผู้ที่ดื่ม" ต้นข้าวอธิบาย "ส่วนด้านการต่อสู้ผมไม่มีเลย ดาบนี่ก็ได้มาจากคนอื่นที่ถูกดึงมาที่นี่พร้อมผมแต่คนนั้นเขา..."


    "โอเค ไม่ต้องเล่าแล้วแหละพี่เข้าใจ" ลลินไม่อยากให้เด็กหนุ่มนึกถึงความทรงจำที่ไม่ดี ในหัวตอนนี้เธอกำลังคิดถึงความสามารถของต้นข้าว ถ้าไม่นับเรื่องต่อสู้นี่มันสกิลของสายสนับสนุนๆ ดีๆ เลยนี่ "อาชีพของเราก็ดีออกนะ"


    "เทียบกับสายต่อสู้ไม่ได้หรอกครับ ผมกับแม่โดนคนที่ค่ายดูถูกตลอดเลย"


    "คนที่ต่อสู้ไม่ได้เยอะเหรอ"


    ต้นข้าวพยักหน้าและบอกข้อมูลที่เขารู้อย่างไม่อิดออด "จากค่ายที่ผมอยู่เกือบทั้งค่ายเลย คนที่ได้อาชีพต่อสู้นับคนได้เลยครับแถมพวกนั้นยังชอบวางท่าใหญ่โตแอบรังแกผมบ่อยๆ ดีที่หัวหน้าค่ายเขาเป็นคนดีผมเลยรอดมาได้ครับ" ประโยคสุดท้ายนั้นสีหน้าต้นข้าวเต็มไปด้วยความขมขื่นจนลลินสงสาร


    "ต้นข้าวพี่ว่าอาชีพไม่ได้เป็นตัววัดว่าต่อสู้ได้หรือไม่ได้นะ" ลลินเปิดช่องเก็บของแล้วยื่นขวานที่ดรอปมาจากออร์คส่งให้เด็กหนุ่ม "อันนี้พี่ให้เราเอาไว้ใช้ จริงสิ เราลองใช้สกิลให้พี่ดูหน่อยสิเผื่อจะเป็นตัวช่วยให้พี่กำลังบอส"


    พูดจบหญิงสาวก็หันกลับมามองรอบข้างเพื่อหามอนสเตอร์ที่ใช้ได้และแล้วเธอก็เหลือบไปเห็นมอนสเตอร์กระดูกตัวหนึ่งเดินโผล่ออกมาจากเสาใกล้กับห้องที่หลบอยู่พอดีลลินฟาดแส้ใส่โครงกระดูกร่างใหญ่อย่างแม่นยำแต่ระบบไม่ได้แจ้งเตือนว่าเป็นการฆ่ามอนสเตอร์แบบเช่นทุกที


    [คุณได้ฆ่าบริวารของผู้เล่น *******]


    ------------------------------------------------------------------------------------------------


    [บริวารของคุณถูกผู้เล่น ******* ฆ่า วิญญาณของบอสก็อบลินกลับสู่การหลับใหลนิรันด์]


    เสียงการแจ้งเตือนที่ดังขึ้นทำให้เขตแดนขมวดคิ้วยิ่งสายตาเห็นกองโครงกระดูกที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบริวารของตนก็เกิดอาการสงสัย ใครกันที่สามารถโจมตีร่างของบอสระดับ 5 อย่างง่ายดาย ไม่ทันจะได้หาคำตอบเขาก็หาตัวคนทำพบเสียแล้วเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องข้างทางเดินตามมาด้วยเด็กชายที่มีสีหน้าหวาดกลัวตลอดเวลา


    "เมื่อกี้ระบบแจ้งเตือนว่าพี่ฆ่าอะไรของใครนี่แหละแล้วต้นข้าวเห็นอะไรจากโครงกระดูกนี้บ้างมั้ย"


    "เอ่อ..กระดูกของมันใช้ได้ครับ ดื่มแล้วจะได้บัพร่างกายแข็งแกร่ง 10 นาที" ต้นข้างแม้จะระแวงว่าตรงนี้จะมีมอนสเตอร์เดินผ่านแต่เขาก็ทำตามที่ลลินบอกเป็นอย่างดี


    "งั้นจัดการเลย! เดี๋ยวพี่คอยระวังให้แล้วเราไปห้องบอสกัน"


    "ครับพี่!"


    เขตแดนเมื่อได้ยินว่าทั้งสองคนมีเป้าหมายที่เดียวกับตัวเองจึงตัดสินใจเผยตัวแม้ว่าความจริงเขาจะอยากไปคนเดียวก็ตามอย่างน้อยได้คนมาช่วยก็ย่อมดีกว่า


    "กึกกัก..กึกกัก"


    การเคลื่อนไหวจากทิศทางเดิมพร้อมกับการสะบัดแส้ที่แม่นยำระบบจึงแจ้งเตือนอีกครั้ง


    [คุณได้ฆ่าบริวารของผู้เล่น *******]


    "คุณฆ่าบริวารของผมไป 2 ตัวแล้วนะครับ" เขตแดนเลือกเดินออกมาก่อนตามด้วยโครงกระดูกด้านหลังที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 3 ตัว เขายกมือขึ้นเล็กน้อยแสดงความเป็นมิตรให้มากที่สุดเพราะเขาเห็นแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สนใจเลยว่าสิ่งที่โจมตีนั้นคือมอนสเตอร์หรือเปล่า "ห้องบอสขอผมไปด้วยสิ"


    "ฉันจะไว้ใจคนไม่รู้จักได้ยังไง"


    เขตแดนยิ้มเล็กน้อยแม้จะผ่านเสื้อคลุมอยู่ก็ตาม "ผมชื่อเขตแดนเท่านี้พวกเราก็รู้จักกันแล้วนะ"


    ต้นข้าวมองทั้งสองคนไปมาเขาสัมผัสบรรยากาศที่เหมือนกันของชายหญิงตรงหน้าได้เป็นอย่างดี "นี่ครับพี่ลลิน พี่จะดื่มเลยมั้ย พี่เขตแดนก็รับไปด้วยนะครับไหนๆ ก็จะสู้ด้วยกันแล้ว" เด็กชายส่งขวดเล็กๆ ให้ลลินก่อนตามด้วยเขตแดนตามลำดับ "อันนี้คือบัพ--"


    "ผมได้ยินแล้วแหละ ความสามารถของคุณยอดมากนะ" เขตแดนรับมาดื่มทันทีลลินเองก็เช่นกันถึงจะหลุดสีหน้าแปลกๆ ออกมาบ้างก็ตาม ต้นข้าวได้รับคำชมรอบที่สองของวันก็เริ่มมีกำลังใจเรียกขวานยักษ์มาถือในมือเตรียมพร้อม เขตแดนวางแผนและบอกความสามารถของตัวเองคร่าวๆ ให้แก่ทั้งสองคนเข้าใจเมื่อตกลงกันได้แล้วทั้งสามคนพยักหน้าให้กันเป็นสัญญาณ โดยเขตแดนจะให้โครงกระดูกของตัวเองเป็นทัพหน้าด้านซ้ายเป็นหน้าที่ของลลิน ทางขวาต้นข้าวคอยดูแลไปซึ่งเขตแดนให้โครงกระดูกหนึ่งตัวไว้ด้วยเผื่อต้นข้าวสู้ไม่ไหว


    การบุกขึ้นของทั้งสามคนนั้นรวดเร็วมากเพราะการต่อสู้ของเขตแดนกับลินเข้าขากันอย่างไม่น่าเชื่อทำเอาต้นข้าวถึงกับอึ้ง
    'พวกพี่เขาไม่รู้จักกันจริงเหรอ!'


    ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงห้องที่ลลินเคยพูดไว้พอมาอยู่ใกล้ๆ แล้วเสียงเพลงดังกว่าที่ทั้งสามคนคิดจึงไม่แปลกอะไรเลยว่าที่ด้านล่างเกิดเรื่องขนาดนั้นเจ้าพวกที่อยู่ในห้องนี้ไม่ได้สนใจเลย ไม่ก็คงมั่นใจมากกว่าไม่มีใครเอาชนะตัวเองได้ เขตแดนให้บริวารโยนศพผีดิบไว้ที่หน้าประตูตามด้วยสกิลที่เขาใช้ประจำ


    "ระเบิดศพ"


    "ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!!...." ระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องสี่รอบติดรอบแรกเพื่อเปิดประตูรอบหลังเขตแดนให้บริวารโยนเข้าไปหลังจากประตูเปิดแน่นอนว่ามาพร้อมเสียงการแจ้งเตือนที่คุ้นเคย


    [คุณได้ฆ่าแวมไพร์ได้แต้ม 20 แต้ม]


    [คุณได้ฆ่าแวมไพร์ได้แต้ม 20 แต้ม]


    [คุณได้ฆ่าบารอนแวมไพร์ได้แต้ม 30 แต้ม]


    [ดรอปลูกแก้วเพิ่มมานา คลาส A 1 ชิ้น]


    [ดรอปกริชสีเลือด คลาส C 1 ชิ้น]


    .


    .


    .


    [คุณได้ฆ่าผู้เล่น ******** ได้แต้ม 100 แต้ม]

     

    "แย่แล้วคุณ! ข้างในมีคนอื่นๆ อยู่ด้วย!"

     

    คำพูดของเขตแดนทำให้ลลินและต้นข้าวสีหน้าตกใจที่ชัดเจนพวกเขามั่นใจมากๆ ว่าก่อนหน้านั้นไม่เคยเจอกับคนอื่นๆ เลยแล้วคนพวกนี้มาจากไหน! ทั้งสามคนรีบวิ่งเข้าไปดูอย่างน้อยถ้าช่วยได้พวกเขาก็จะช่วยทว่าภาพที่เห็นนั้นส่งผลให้ใบหน้าของทั้งสามมืดครึ้มเพราะมันคือภาพของผู้คนที่ถูกจับขึงไว้ที่กลางห้อง ทุกคนมีสภาพที่เหมือนกันคือถูกกรีดข้อมือข้อเท้าจนแทบขาดบางคนก็ถูกบาดคอไปแล้วเสียด้วยซ้ำ เลือดมากมายไหลไปรวมกันที่อ่างน้ำพุตรงกลางและมีเหล่าแวมไพร์คอยเข้าไปตักเลือดขึ้นมาดื่มกินด้วยใบหน้าเปรมปรีดิ์


    [ตรวจพบแวมไพร์ระดับ 2]


    [ตรวจพบบารอนแวมไพร์ระดับ 3]


    [ตรวจพบลอร์ดแวมไพร์ระดับ 5]


    .


    .


    .


    [ตรวจพบบอสเจ้าแวมไพร์ แอนเดรีย ระดับ 10]


    เหล่าแวมไพร์ทั้งหลายอยู่ในชุดงานเลี้ยงหรูหราเมื่อมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาจากใบหน้าที่เคยงดงามก็แปลเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดน่ากลัวที่ไม่ต่างอะไรกับผีดิบด้านนอกคฤหาสน์เลยจะมีก็เพียงบอสเจ้าแวมไพร์เท่านั้นที่ยังคงรูปลักษณ์ชายผู้งดงามไว้ เส้นผมสีทองยาวรับกับดวงตาสีทับทิมสดแม้จะมีสีผิวที่ซีดเผือดราวกับกระดาษก็ไม่ได้ทำให้ความงดงามนั้นหายไป


    "คืนชีพบริวาร" เขตแดนเรียกใช้สกิลกับบารอนแวมไพร์ที่เพิ่งตายจากแรงระเบิดขึ้นมาเป็นบริวารจากนั้นเขาก็หันไปพูดกับสองคน "ผมจัดการบอสเองทั้งสองคนจัดการลูกสมุนนะ" แล้วรีบผละออกไปเพื่อจัดการบอสโดยไม่ลืมทิ้งโครงกระดูกบอสก็อบลินเอาไว้อีก 2 ตันเพื่อช่วยต่อสู้


    "ผะ..ผมจะพยายามครับ!"


    "ฉันจัดการแวมไพร์พวกนี้เอง ต้นข้าวถอยห่างกับพี่ให้มากที่สุดนะ!" ลลินไม่รอช้าเธอวิ่งเข้าใส่แวมไพร์อีกฝั่งอย่างไม่เกรงกลัวส่วนต้นน้ำนั้นก็ถูกโครงกระดูกอุ้มแบกขึ้นหลังพาหนีออกมาจากห้องงานเลี้ยงตามคำสั่งของหญิงสาว


    "ป้อมปืนเคลื่อนที่!" ลลินเลือกให้ทั่วทั้งร่างกายของตัวเองเป็นกระบอกปืนเท่ากับว่าตอนนี้เธอมีปืน 360 องศา! ไม่ว่าจะมีสอนสเตอร์จากมุมไหนก็ไม่มีทางหลบพ้น!


    "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

     

    --หลังเกตเปิดมา 6 ชั่วโมง-- [11:08 นาฬิกา]


    #จำนวนผู้เล่น 385/1000

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×