ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Madness~ : ตอนที่ 10 : ฝ่ากองทัพกระดูก
Madness~ : ตอนที่ 10 : ฝ่ากองทัพกระดูก
--รัตติการที่มืดมิดไร้ซึ่งหมู่ดาว หากตัวข้านี้ขอให้โลกนี้มีคืนที่สงบสุขไร้ซึ่งปีศาจร้ายตามหลอกหลอนชั่วกาลนานเทอญ
“อุ๊บ!...โอย...” นัยย์ตาสีเลือดลืมขึ้นช้าๆพร้อมกับดันตัวลุกขึ้น แต่ด้วยบาดแผลฉกรรจ์ที่ยังรักษาไม่สมบูรณ์ทำให้เขายังขยับตัวได้ลำบากนัก หมอกสอดสายตามองบริเวณรอบๆที่มืดสนิทมีเพียงกองไฟที่ยังครุกรุ่น กับเพื่อนร่วมชะตากรรมที่ยังนอนแอ้งแม้งไม่ได้สติอยู่ข้างๆเขา หมอกกวาดสายตาไปเห็นแสงสว่างๆเล็กสองทางที่อยู่ไกลนักหากเขาต้องเดินไปหามัน เครื่องหมายปรัศนีเต็มหัวสมองของหมอกในตอนนี้ เขาลำกับเหตุการณ์ไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้เขาต้องมานอนท่ามกลางที่มืดมิดนี่ได้ ในเมื่อตอนนี้เขาไม่มีปัญญาที่จะคิดเอง จึงต้องปลุกอีกคนที่มีมันสมองดีกว่าเขาขึ้นช่วย คิดได้ดังนั้นแล้วหมอกก็ชูกำปั้นตัวเองขึ้นสูง แล้วกดหมัดนั่นเข้าที่หน้าท้องของเรย์เต็มๆ
ปึ่ก!!!!!!!!!!!!
“ อ่อก! แค่ก! แค่ก! แค่ก!” หมัดเดียวส่งตรงยังเป้าหมาย ผลลัพธ์คือเรย์ที่นอนกุมท้องกลิ้งไปกลิ้งมา ก่อนจะตั้งสติแล้วเตะสวนคางหมอกที่นั่งทำหน้าเอ๋อๆระคนสะใจอยู่ข้างๆ
พลั่ก!!!!!
“ แอ่ฟฟฟฟฟ” หมอกหงายท้องตึงขาชี้ฟ้า ก่อนจะเด้งตัวกลับมาหาเรื่องเรย์ต่อ
“ อะไรวะเนี่ย!!มาเตะฉันทำไม!!”
“ คนที่สมควรจะถามคือฮันนะเว้ยเฮ้ย!!!!!แกมาทุบฉันทำไมเนี่ย!!!”
“..........เออนั่นสิ...ตะกี้นายโวยวายอยู่ฉันเลยลืม ฮ่าๆๆๆ” หมอกยืนเกาหัวแกรกๆ ทำหน้าเอ๋อใส่เรย์แล้วหัวเราะแก้เก้อ เรย์ถึงกับกุมขมับในความซื่อบื้อปนปลาทองของหมอก
แกร่ก แกร่ก แกร่ก แกร่ก แกร่ก...
เสียงกระดูกขัดสีกันอย่างรวดเร็วดังมาจากปากถ้ำที่เรย์และหมอกยืนอยู่ ก่อนที่เสียงนั้นเร็วขึ้นเหมือนพบเป้าหมาย ทั้งสองคนหยิบอาวุธของตนออกมา สายตาจ้องที่ปากถ้ำแล้วพวกเขาก็พบ โครงกระดูกสีขาวนับพันตัวพุ่งมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว
“ ชิ...หาย...แย้ว...” หมอกพึมพำเบาๆ
“ สรุปว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย?แล้วรีซ่าไปไหน?”เรย์เอ่ยพลางมองรอบๆตัว
“ ถามฉันก็ไม่รู้หรอกเฟ้ย!แต่ที่แน่ๆถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างตอนนี้มีหวังได้เป็นพวกเดียวกับมันแหงมๆ”
“ ไม่ต้องบอกฉันก็รู้น่า”
[ **หมายเหตุ : ตอนนี้พวกเรย์อยู่ที่ปากถ้ำคนละด้านกับพวกริช ]
*******************************
เวลาเดียวกันทางพวกริช
“ เฮ้แบล็ก~! นับได้กี่ตัว?” เสียงใสๆของซาร์ตะโกนขึ้นไปห่แบล็กที่ปีนต้นมะพร้าว(?)เพื่อมองดูจำนวนของศัตรู
“ฉันไม่รู้หรอก”แบล็กตะโกนกลับมา ก่อนจะเงยหน้าหมุนคอมองไปรอบๆ
“ แต่ว่า...จากตรงนี้ไปอีก 900 แมตร โดยรอบแล้ว เป็นสีขาวหมดเลยฟร่ะ! “
“ หา~” ทุกคนอุทานพร้อมกัน
“บาเรียของฉันอยู่ได้อีกไม่ถึง 5 นาที” ริชมองไปยังรอยร้าวของบาเรียที่แทบจะแตกออกมมาได้ทุกเมื่อ
“ 1...2...3....4.....5.6...7....”
“ นับอะไรของแกวะราฟว์” ฟีนมองราฟว์ที่ชี้หน้าคนโน้นคนนี้ที
“ พวกเราต่อพวกมันน่ะ”
“ พวกเรามีอยู่ 7 ไม่นับแอเรียล กับรีซ่าอีกคนเป็น 8 คนที่สามารถสู้ได้” ราฟว์บอกแต่รีซ่ากลับแย้งขึ้นมา
“ ยังมีอีก 2 คน! พวกของฉัน เรย์กับหมอกยังอยู่ในถ้ำ!!”
“ แล้ว 2 คนนั่น แหกตาตื่นขึ้นมารึยังล่ะ?” รีซ่าหลุบสายตาลงก่อนจะส่ายหน้า
“ ถ้ำเหรอ?” ดูเหมือนนีฟจะนึกอะไรบางอย่างออก
“ นายปักบาเรียไว้ตรงนั้นรึป่าว?” นีฟกระชากคอเสื้อริชที่ยิ้มแห้งๆให้มาคุย
“ อ่า...ปากถ้ำด้านนี้น่ะปัก แต่ด้านโน้นยัง...”
“ ชิบโหงแล้วไง....ซาร์ ราฟว์ มากับฉัน!!!! ” นีฟพูดอย่างเร่งรีบพร้อมวิ่งไปที่ปากถ้ำอีกฟากที่อยู่อีกไกลโข
“ ฉันด้วยเหรอ?”ราฟว์ชี้หน้าตัวเอง
“ เออน่ะ....หล่อนบอกให้ไปก็ไปเซ่!!” ซาร์พูดพลางกระชากคอเสื้อราฟว์วิ่งตามนีฟไปด้วยความเร็วสูง
“ ฉันไปด้วย!!!”รีซ่าวิ่งตามทั้ง 3 คนไป
“ ถือนี่ไว้แล้วไปอยู่ในถ้ำซะ” ริชยัดขนนกสีทองใส่มือของแอเรียล แล้วดันตัวเธอให้ไปรออยู่ที่ปากถ้ำ ในระยะที่จะทำให้เธอปลอดภัยและไม่เกะกะหากจำเป็นต้องมีการต่อสู้จริงๆ
“ Feather Barrier!” เป็นอีกครั้งแล้วที่เธอต้องอยู่ที่นี่ยืนมองคนอื่นต่อสู้
“ ริช.....” แอเรียล มองริชที่เดินออกไปตาละห้อย
เพล้ง!!!!!!!!!
เสียงบาเรียน้ำแข็งแตก ดังเหมือนสัญญาณสั่งรบ กองทัพโครงกระดูกนับพันพุ่งถลาเข้าสู่ศัตรูของพวกมันอย่างรวดเร็ว
“ ลุย!!!!!!”
********************************
หญิงสาวร่างสูงนัยย์ตาเรียวสีน้ำผึ้งสวย เรือนผมสีน้ำตาลทองที่บิดเป็นเกลียวของเธอทำให้เธอดูโตกว่าวัยจริง เธอนั่งไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะยาวสีดำทำจากไม้หายาก
“ เหตุการณ์เป็นไงบ้าง?” หญิงสาวเอ่ยถามลูกสมุนคนสนิท ร่างกระดูกสีดำสวมชุดเกราะทำจากวัสดุพิเศษ 2 นาย เคลื่อนตัวลงคำนับหญิงสาวนางนั้น
“ กระผมพากองทัพกระดูกจำนวน 4 ทัพ บุกเข้าไปพร้อมกันทั้งหมด 4 ด้าน โดยให้กองหลังดักซุ่มรออยู่ หากกองทัพแรกพ่ายไป เราจะส่งกองทัพหลังเข้าไปเป็นกำลังเสริมทันที คาดว่าช่วงนั้นพวกมันคงย่ำแย่มิใช่น้อยแล้วครับท่าน”
“ ทัพหนึ่งมีทหารถึง 3000 นาย คาดว่าชัยชนะคงได้มาโดยง่ายครับท่าน” ทหารอีกนายเอ่ย สร้างรอยยิ้มให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมาก
“ ดีมาก....หากพวกเราชนะ เราก็จะได้ทั้งอำนาจและรางวัล” สาวนางนั้นเอ่ย จากนั้นทหารกระดูกร่างสีแดง ก็เข้ามา
“ ท่านดรีเมอรัล.....ท่านซีออนเรียกพบครับ”
“............ซีออนคนนั้นน่ะหรือ?” หญิงสาวนามดรีเมรัล มองด้วยแววตาสงสัย ซีออนคิดจะทำอะไรอีกกันแน่
ห้องโถงอันศักดิ์สิทธิ์ ประดับประดาด้วยทองคำและเพชรพลอยดูวาววับและสูงส่ง หากไม่ใช่ผู้มีอำนาจแล้วเล่า จะมายืนตรงนี้ไม่ได้ ที่ปลายห้อง เก้าอี้ตัวใหญ่ราวกับราชาตั้งตระหง่าน ณ ตรงนั้น ชายผมสีเลือดนั่งท้าวคางมองสาวนางนั้นที่เดินเข้ามาตามพรมสีแดงที่จดไว้
“ มีอะไร?”หญิงสาวถามอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“ นั่งลงซะ” ซีออนตอบเสียงเรียบส่งแววตาดุดันไปหาหล่อน ดรีเมอรัลจึงต้องรีบนั่งลง
“กองทัพกระดูกของเธอเคลื่อนไปจัดการเจ้าพวกนั้นสินะ”ซีออนกล่าวโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา
“ แล้วจะทำไม?”
“ ข้ามีอีกงานให้ทำ.........ร่วมกับเวนโดเลน” ซีออนเหล่ตามองปฏิกิริยาของเจ้าหล่อนเล็กน้อย ดรีเมอรัลถลึงตาอย่างตกใจเมื่อได้ยินชื่อนั่น
“ อะไร!!ทำไมต้องทำคู่กับมัน!!งานใหญ่แค่ไหน?ทำไมฉันถึงทำคนเดียวไม่ได้!”
“ เกรงว่า ถ้าเจ้าทำคนเดียวแล้ว......จะไม่รอดกลับมาน่ะสิ” ซีออนพูดเสียงเรียบแต่ฟังดูเฉียบขาด ดรีเมอรัลนั่งนิ่งลงฟัง
“ งารอะไร?”
“ หุบเขาทาลัส...องค์รักษ์ทั้ง 7 ของมัวร์อยู่ที่นั่น ช่วยไปจัดการที”
“ แล้วคนอื่นละ?”
“ พวกนั้นไปก่อนแล้ว” ดรีเมอรัล ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“ เดี๋ยว!”ซีออนร้องห้ามไว้ก่อน
“อะไร?”
“ ถ้าต้องการพลัง........ก็บอกนะ...... หึหึหึหึ” ซีออนหัวเราะอย่างมีเลศนัย แต่ก็ไม่ทำให้ดรีเมอรัลสนใจเท่าไรนัก เธอเดินออกมาจากห้องก็พบเวนโดเลนเข้าพอดี
“ ท่านซีออนอยู่หรือป่าว?” เวนโดเลนเอ่ยถาม
“ ไม่รู้ ! เข้าไปดูเองสิ!” ดรีเมอรัลตอบอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเดินเลี่ยงไปอย่างหัวเสีย
********************
เวลาเดียวกันที่ถ้ำเซเรส
“ Emil Sword Firer!!!!!” เพลิงสีส้มลุกไปตามผนังถ้ำ เผาผลาญโครงกระดูกที่มีสีขาวให้เป็นสีดำทั้งหมด....ก่อนจะใช้ท่าเดิมซ้ำลงอีกที โครงกระดูกเหล่านั้นก็เป็นขี้เถ้าไป
“ มันต้องอย่างเน้เซ่~!” หมอกสบถอย่างสะใจ
“ เด็กๆ” เรย์พูดขึ้นอย่างเรียบๆ หมอกละสายตาหันไปมอง เรย์ที่ใช้ดาบที่ติดอยู่ที่มือของเขาซัดไปที่ผนังถ้ำน้ำแข็งก็ก่อตัวอย่างรวดเร็วแช่งแข็งเหล่ากองทัพกระดูกที่แออัดกันเข้ามา แล้วตวัดขาทำลายกองทัพแช่แข็งนั่นสลายไป
“ ฮึ! หนอย~” หมอกกัดฟันกรอด อย่าโมโห ก่อนจะระห่ำฟันกองกระดูกพวกนั้นอย่างบ้าคลั่ง เช่นเดียวกับเรย์ที่กำลังฟาดฟันเจ้ากระดูกพวกนั้นอย่างสะใจ แข่งกับหมอกที่บ้าคลั่งหลับหูหลับตาฟันไปเรื่อยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
ทางด้านนีฟที่กำลังวิ่งมานั้น
“ ขอให้ทั้งคู่ปลอดภัยด้วยเถิด” รีซ่าภาวนาอย่างใจเสีย หากเธอไปไม่ทันจะทำยังไงล่ะ และแล้วทั้ง 4 คนก็มาถึงที่ปากถ้ำอีกฟากหนึ่ง ภาพที่เห็นคือกองทัพกระดูกหลายร้อยตัวกำลังเบียดเสียดตัวเองเข้าไปในปากถ้ำที่อัดแน่นไปด้วยพวกเดียวกัน รีซ่าเห็นถึงกับช็อค
“ ม่าย!!!!!!!!!!!!!!!”
สิ้นเสียงรีซ่าที่กรีดร้องออกมา กองทัพกระดูกทั้งหลายก็เปลี่ยนเป้าหมายมายังเป้าหมายใหม่ ทั้ง 4 คนโดนตั้งเป็นเป้าหมายเรียบร้อย
******************************************
“ Rain Fire Arrow!!!!!!” ฟีนวาดง้าวของเขาเป็นรูปธนูก่อนจะเสกไฟของเขาให้เป็นรูปลูกธนู 7 ลูก พร้อมกับยิงออกไปด้านหน้า ลูกธนูเหล่านั้นก็แตกออกกลายเป็นฝนลูกไฟทั่วบริเวณนั้น เพลิงเหล่านั้นต่างทำหน้าที่เผากระดูกนั่นเป็นอย่างดี แต่เพลิงที่ปล่อยออกไปนั้นจู่โจมได้เพียงแต่ด้านหน้า ทำให้เขาไม่ได้ระวังข้างหลัง ปีศาจกระดูกกลุ่มหนึ่ง ถือดาบเข้ามาหมายจะทำร้ายจากด้านหลัง
“Tympanis Wizard!!!!” ริชร่ายพลัง ใส่ขนนก 7 เส้นแล้วพุ่งเป้าหมายไปยังปีศาจที่โจมตีด้านหลังของฟีน
บรึม!!!!!!!! บรึม!!!!!!!! บรึม!!!!!!!! บรึม!!!!!!!!
โครงกระดูกที่โดนระเบิดนั้นโดนระเบิดกระจุยกลายเป็นเถ้ากระดูก แต่ก็ยังกรูเข้ามากันอย่างไม่ขาดสาย
“ ชิ ไม่หมดซะที”
“ พี่ครับ! ผมว่าแยกกันเหอะถ้าอยู่ตรงนี้ต่อไปรับมือกันไม่หมดแน่!!!” ฟีนตะโกนบอกริชขณะที่กำลังปะทวนกับทัพปีศาจกระดูกที่ถือทวนเหมือนเขา
“ เออ! ก็คิดงั้นเหมือนกันล่ะ!” ริชรับดาบของปีศาจตัวหนึ่ง ก่อนจะเหลือบสายตาลอดแขนปีศาจตัวนั้นไปมองหญิงสาวที่อยู่ในบาเรียคุ้มกันของเขา เล็กน้อย
“ พี่จะไปริมแม่น้ำห่างจากตรงนี้ประมาณ 500 เมตร แกไปที่ไหนก็ได้ที่ห่างจากถ้ำมากที่สุด!” ริชเหวี่ยงดาบของเขาออกไปอีกทางทำให้ปีศาจเสียหลักเล็กน้อยก่อนจะใช้ดาบฟันปีศาจตัวนั้นให้ขาดครึ่ง
“ แล้วเจอกันที่นี่นะ” ริชบอกคำสุดท้ายก่อนจะวิ่งไปที่แม่น้ำ โดยมีกองทัพปีศาจวิ่งตามเขาไปนับพันตัว ฟีนพยักหน้ารับแล้วจับง้าวของเขาให้ตั้งฉากกันพื้นโลก เอาปลายง้าวปักพื้นเกิดอักขระขึ้นบริเวณรอบตัวเขาเป็นลายใยแมงมุม
“ Charlotte Firer!!!!!” เกิดเพลิงลุกท่วมพวกปีศาจที่ติดอยู่ในเขตเวทย์มนต์ของเขา ปีศาจรอบตัวเขากลายเป็นเถ้ากระดูก ก่อนที่เขาจะตั้งหลักแล้ววิ่งไปทางทะเลทรายห่างจากถ้ำเซเรสไปทางตะวันออก 750 เมตร
“ Doll master!! Infinitive Concept” แบล็กที่ยังไม่ได้ลงจากต้นไม้กำลังสนุกกับการเอามีดปักกระโหลกพวกโครงกระดูกแล้วชักเป็นหุ่นเชิด แต่เขาก็ไม่ทันได้ระวังตัวว่ามีปีศาจบางตัวแฝงตัวมาในหมู่หุ่นเชิดของเขา
ฉับ!!
ต้นมะพร้าวที่เขายืนอยู่ข้างบนนั่นก็ขาดท่อน โครงกระดูกที่อยู่ข้างล่างมีสมองมากกว่าที่เขาคิด แบล็กกระโดดลงก่อนที่มันจะร่วงลงไปท่ามกลางฝูงโครงกระดูกนั่น
“ หวา~ ฮึบ~!”
“ Shadow Knife Acidic!!!” แบล็กหมุนตัวด้วยความเร็วสูงสร้างกำแพงลมมหาศาล
ฉัวะ!! ฉัวะ!! ฉัวะ!! ฉัวะ!!
เมื่อโครงกระดูกเข้าไปใกล้ก็พบว่ากำแพงลมนั่นล้อมรอบไปด้วยมีด ที่ฟาดขาดทุกสิ่งแม้กระทั่งกระดูกของพวกมัน
“ ชิ..เล่นกับใครไม่เล่น อะ.....” แบล็กตาโตเท่าไข่ไดโนเสาร์เมื่อกองทัพกระดูกที่เขาคิดว่าตัวเล็กเมื่อตอนที่เขาอยู่บนต้นไม้นั่น กลับตัวสูงกว่าเขาหลายเท่านัก แล้วพวกมันก็กำลังกรูเข้ามาหาเขาด้วยอาวุธครบมือ
“ แว๊ก!!!!!!!!!!!” แบล็กวิ่งไปตั้งหลักอีกทาง
“ อ่ะ...เอ.....เจ้าพวกนี้จะใช้อะไรเข้าสู้ดีน๊า~” โฮตารุพึมพำอย่างวิตกพลางมองศัตรูตัวมหึมา มันวิ่งเข้ามาหาโฮตารุอย่างรวดเร็ว พร้อมกันที่มันฟาดดาบที่ทำมาจากกระดูกแหลมคมของมัน
“ ชะว้าย~” โฮตารุเอี้ยวตัวหลบ แล้ววิ่งไปตั้งหลักใกล้ๆ แล้วยืนคิดอีก
“ ไอ้พวกนี้ไม่มีกระเพาะ” โฮตารุมองตัวที่มีแต่กระดูกของศัตรู ก่อนจะเผยยิ้มออกมา
“ งั้นก็ต้องใช้ไอ้นี่ละนะ” โฮตารุหยิบคฑาของตัวเองออกมา
“ Acid Wizard!!!” โฮตารุวาดคฑาของเธอเป็นวงกว้าง ผงสีเหลืองฟุ้มกระจาย ก่อนมันจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นน้ำแล้วพุ่งเป้าไปยังทหารโครงกระดูกที่รายล้อมเธอตัวเธอ แต่ด้วยความที่มันสูงกว่าเธอมากนักจึงทำให้โดนแค่ส่วนขา
ฟู่~
ครึ่ก ครึ่ก ครึ่ก
กระดูกส่วนขาของโครงกระดูกนั่นละลายลงด้วยน้ำกรดของโฮตารุที่สาดไปเมื่อครู่ แต่มันยังมีฤทธิ์พอที่จะคลานมาหาโฮตารุ เธอใช้คฑาของเธอร่ายมนต์อีกครั้ง คราวนี้โครงกระดูกที่คลานมาหาเธอก็สลายไป จากนั้นเธอก็มองศัตรูที่อยู่ข้างหน้าเธอ แล้วหันไปมองแอเรียลที่ยังอยู่ในบาเรีย อย่างปลอดภัย
“ พวกผู้ชายนี่โคตรจะสุภาพบุรุษเลยให้ตายสิ” โฮตารุวิ่งไปหาแอเรียล ก่อนจะตั้งหลักอยู่ตรงนั้น
“ โฮตารุจัง?” แอเรียลมองโฮตารุอย่างสงสัย
“ พวกผู้ชายซื่อบื้อ!!”
“ ไม่เห็นเป็นไรนี่นา...พวกเค้าล่อให้เธอเจอศัตรูน้อยลงด้วยซ้ำ” แอเรียลพูดปลอบใจ โฮตารุยืนนิ่งคิดอยู่ครู่นึง ก่อนจะหันไปร่ายเวทย์ใส่แอเรียลอีกครั้งหนึ่ง
“ Poison Barrier!!”
“ เอ๋? แล้วฉันจะตายไม๊เนี่ย?” แอเรียลพูดพลางทำหน้าแหยงๆมองไอสีม่วงที่ฟุ้งรอบๆตัวเธอ
“ ไม่ตายหรอกน่า....บาเรียน่ะ”
“ Acid Spoiler!!!!!” โฮตารุโจมตีด้วยผงกรดใส่ศัตรูต่อไป
“ .....ยังไงก็ขอโทษล่ะกันแอล”
“ หือ???ขอโทษอะไรเหรอ?”แอเรียลขมวดคิ้วสงสัย ที่จู่ๆโฮตารุก็มาขอโทษอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ เอาน่ะ ฉันขอโทษ”
*****************
“Sparker Shooting!!!!!!! ” ราฟว์พยายามให้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเพื่อที่ จะให้รีซ่าเข้าไปในถ้ำเพื่อช่วย 2 คนนั้นได้ แต่ดูเหมือน มันจะไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าไรนัก
เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!!
“ มาทางนี้สิเฟ้ยเจ้าพวกบ้า!!!!!”ราฟว์ระดมยิงกระสุนใส่กองทัพกระดูกที่ออกันอยู่ที่ปากถ้ำรัวๆ และก็ได้ผล เหล่ากระดูกพวกนั้นหันมาที่ราฟว์แทบทั้งหมด
“ อะ..หวา!!!!” ราฟว์ชะงักเมื่อพวกทหารร่างมหึมาพวกนั้นต่างหันมามองเขาเป็นสายตาเดียว แล้วเดินเข้ามาทางเขาอย่างช้าๆ ก่อนจะเร็วขึ้นๆ เท้าของราฟว์ถอยหลังไปตามสัญชาติญาณมนุษย์ เร็วขึ้นๆเหมือนกัน
“ คนอย่างนายไม่เคยทำอะไรได้เรื่องจริงๆ” นีฟวิ่งมายืนอยู่หน้าราฟว์ก่อนจะ วางไพ่เป็นวงกลมกลางอากาศ
“Gray Hold!!!!! ”ไพ่สีดำค่อยๆเปลี่ยนสีจางลงเรื่อยๆ และดูเหมือนหน้าของนีฟจะซีดลงเรื่อยๆเหมือนกัน เกิดหลุมพลังสีเทาเข้มในวงนั่น แล้วไพ่พวกนั้นก็แยกออกเป็นสองวง อีกวงหนึ่งอยู่กับที่ แต่อีกวงหนึ่งก็แยกออกเป็นอีกหลายวง หมุนเป็นกรงจักรร่อนไปทะลุร่างของโครงกระดูกที่มุ่งหน้ามาทางพวกเขา แล้วเหล่าโครงกระดูกนั่นกระถูกสลายและดูดเข้ากรงจักรนั่น เสร็จแล้วก็ร่อนกลับเข้ามาเข้าวงไพ่อันใหญ่เหมือนเดิม
“ อั่ก!” เมื่อไพ่ของเธอเข้าสู่ที่เดิมแล้ว นีฟที่ใช้พลังมากเกินไปถึงกับกระอักเลือด และเซถลาทรุดลง ราฟว์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆรีบไปพยุงตัวเธอ ก่อนจะมองไปยังปีศาจโครงกระดูกที่กำลังมุ่งหน้ามาทางเขา ปีศาจเหล่านั้นเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นสีแดง ราฟว์ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะหันไปคุยกับนีฟอีกครั้ง
“ นีฟฉันว่าเธออย่าใช้ท่านี้มากจะดีกว่านะ...เธอ..พักก่อนล่ะเดี๋ยวต่อไปฉันเอง ” ราฟว์พยุงนีฟกะจะไปไว้ที่ปลอดภัยแต่ก็โดนเธอผลักออก
“ อย่ามาดูถูกกัน!!! ฉันยังไหวน่ะ!!”
“ ชิ...งั้นก็ตามใจ ถ้างั้น...ถ้าเธอไม่ไหวเธอก็หลบมาข้างหลังฉันละกัน”
“ ไม่มีทางหรอกน่ะ”นีฟเบ้ปากใส่ ราฟว์ยักคิ้วแล้วยิ้มให้นีฟก่อนจะเล็งปืนไปที่กองทัพกระดูก
“ Scorpion Sparker!!!!!!!” ราฟว์ยิงปืนออกเป็น 8 สาย หุ้มกันกองทัพกระดูกไม่ให้เคลื่อนที่มาหาเขามากกว่านี้ และเมื่อเจ้ากระดูกพวกนั้นโดนสายฟ้าที่หุ้มอยู่ก็เกิดอาการช็อตจนเป็นสีดำ
“Dynasty Tarrotion!!!!!” ไพ่สีดำซีดของนีฟ 8 ใบ ถูกร่อนไปไปหาโครงกระดูกที่ถูกราฟว์จับไว้แล้วพุ่งเข้าโจมตี อย่างรวดเร็ว โครงกระดูกเหล่านั้นสลายกลายเป็นขี้เถ้าไป
“ เป็นไงล่ะ.....”นีฟยักคิ้วให้ราฟว์ทีนึงเป็นเชิงดูถูก
“ ก็งั้น......” ราฟว์กำลังจะเบ่งบ้าง แต่สายตาดันเหลือบไปเห็น โครงกระดูกที่ซุ่มโจมดีอยู่ ยิ่งลูกธนูมาหาเขา
“ นีฟระวัง!!!!!!!”ลูกธนูนับร้อยดอก กำลังพุ่งมาทางราฟว์และนีฟ ราฟว์ที่จะสร้างบาเรีย แต่ดูเหมือนจะไม่ทันซะแล้ว
ฉึก!!!!!!!!!!!!!!
*****************************************
“ หวา ไอ้ตัวน่าเกลียด!!!!!” รีซ่าใช้คฑาปลายแหลมของเธอแทงเข้าทะลุร่างของโครงกระดูกที่สูงกว่าเธอ 2 เท่า แล้วเธอก็เหวี่ยงมันไปอีกทาง
“ หยา~ฉันเกลียดกระดูกที่สุด” รีซ่ารับดาบที่ฟันลงมาจากกระดูกแล้วเอี้ยวตัวถีบตรงหน้าท้องของมัน จนตัวมันขาดครึ่ง แล้วเอาปลายแหลมของคฑาเสียบเข้ากลางกะโหลกที่ยังดิ้นครึ่กครึ่ก ตอนนี้ใจของเธอมุ่งหน้าแต่จะช่วยเรย์และหมอกที่ยังอยู่ข้างในนั่น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสายไปหรือป่าว
“ Dead Line!!!!” ซาร์ยกขวานแล้วสับเข้าที่กลางหัวของโครงกระดูก แล้วลากผ่านจนผ่าครึ่งออกมาทั้งตัว
“ รีซ่า เธอฝ่าเข้าไปข้างในเลย ฉันจัดการตรงนี้ให้เอง!!” ซาร์ตะโกนบอกรีซ่า รีซ่าพยักหน้าก่อนจะวิ่งเข้าไปโดยที่ไม่สนใจศัตรูรอบข้างที่พุ่งเข้าโจมตีเธอ ซาร์ดักหน้าเจ้าปีศาจพวกนั้นไว้
“ พวกแกน่ะ แค่ฉันคนเดียวก็เหลือเฟือล่ะ” ซาร์ตวัดขวานของเธอขึ้นเศษดินเศษฝุ่นที่อยู่ที่พื้นก็เคลื่อนตัวตามขึ้นมา แล้วแยกขวานเป็น 2 อันแล้วควงมันด้วยมือทั้ง 2 ข้างอย่างรวดเร็ว เศษฝุ่นที่ลอยอยู่นั้นเปลี่ยนสภาพเป็นเกลียวแหลมยาว ซาร์ซัดมันเข้าไปที่กองทัพกระดูกนั่น ดินเกลียวที่สร้างขึ้นต่างพุ่มเข้าเจาะร่างของกองทัพกระดูกให้พรุน แต่พวกมันยังไม่ล้มลง มันยังสามารถเดินเข้ามาได้ แต่พวกมันก็ต้องสลายกลายเป็นฝุ่นหากมันขยับตัว ซาร์เผยยิ้มออกมาเมื่อเห็นกองเถ้ากระดูก แล้วมองกองทัพกระดูกที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเธอ
“ เด็กจริงๆ” เธอว่าพลางตวัดขวานของเธอเข้าหาพวกมัน
**********************
“ เรย์!!!!!!หมอก!!!!!!!” รีซ่าตะโกนฝ่าดงกองทัพสีขาวไปอย่างไม่เกรงกลัว แต่เมื่อเธอไปถึงที่หมาย กลับไม่เห็น 2 คนนั่นอยู่ เห็นแต่รอยเลือดที่สาดอยู่บนพื้นเป็นวงกว้าง รีซ่าหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด เธอนั่งลงคุกเข่ากับพื้นพลางเอามือทั้งสองข้างของเธอปิดใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเธอ
“ เรย์!!!!!!!!!! ฮือ~~~~ หมอก!!!!!!!!!!!!”
“ ไม่น๊า!!!!!!!!!!!!” รีซ่าปล่อยโฮอย่างไม่อาย และไม่ระวังศัตรูที่พุ่งเข้ามารอบทิศทาง เป็นไปได้ว่าเธอไม่มีกระจิตกระใจที่จะอยู่หากไม่มีเพื่อนของเธอสองคนนี้อยู่ ระหว่างที่เธอทรุดลงอยู่บนพื้นนั้นเธอก็ยังไม่รู้ตัวว่าได้ตกเป็นเป้าหมายของปีศาจหลายตัวเข้าแล้ว เสียงฝีเท้าที่พุ่งตัวเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็วของปีศาจทำให้เธต้องหันไปมอง ภาพที่อยู่ข้างหน้าเธอตอนนี้คือ ภาพของกระดูกร่างสูงที่หัวกระโหลกของมันสูงเสียดสีกับผนังถ้ำด้านบนถือปีนจ่อหน้าผากของเธออยู่รีซ่าเบิกตากว้างอย่างตกใจ น้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ว่า ร้องเพราะกลัวหรือว่าเสียใจที่เธอไม่สามารถรักษาชีวิตของเพื่อนเธอได้กันแน่
“ ตัวที่ 558!!!!!!!” เสียงๆหนึ่งดังขึ้นข้างหลังเจ้าปีศาจตัวนั้น ร่างของมันผ่าครึ่งไปคนละทาง ปืนแยกออกเป็น 2 กระบอกด้วยพลังของดาบ ชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้ารีซ่า
“ หมอก!!!!!!!!!” หมอกยิ้มให้รีซ่าในสภาพ หัวแตกเลือดไหลโชก เสื้อผ้าเขาเองก็เปรอะไปด้วยเลือดทั้งหมด บาดแผลทั่วตัวแต่ไม่น่าจะสร้างความบาดเจ็บให้เท่าไรนัก ระหว่างที่รีซ่ากำลังลุกขึ้นไปหาหมอกนั้นปีศาจอีกตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามาทางด้านหลังของเธอพร้อมกับพุ่งมีดหมายจะเจาะหัว หมอกผลักรีซ่าให้ลงไปกองที่พื้นแล้วเตรียมจะเหวี่ยงดาบใส่ปีศาจตัวนั้น แต่ไม่ทันซะแล้ว
“ ตัวที่ 712!!!!!!” เสียงของคนอีกคนดังขึ้น ร่างของปีศาจกระดูกตัวนั้นก็กลายเป็นน้ำแข็งแล้วฟุ้งสลายไป ภายใต้เกร็ดน้ำแข็งที่แตกออก ก็ปรากฏร่างของเรย์ที่มีสภาพไม่ต่างจากหมอกมากนัก
“ ฉันชนะว่ะหมอก” เรย์ยิ้มให้หมอกเป็นเชิงว่า ข้าแน่กว่าว่ะ ก่อนที่จะเดินเข้ามาหารีซ่าที่นั่งพิงผนังถ้ำอยู่กับพื้น
“ ไงสาวน้อย...หนีไปไหนมา?” รีซ่าใช้แขนทั้งข้างของเธอรวบคอหมอกและเรย์ที่นั่งอยู่ข้างๆมากอด
“ เรย์!!!!!!!หมอก!!!!!ฉันนึกว่าพวกนายตายไปแล้วซะอีก”
“ อะ...ง่า....รีซ่า....”หมอกหน้าแดงทำตัวไม่ถูก ไม่คิดว่าสาวๆจะมากอดเอาท่ามกลางสนารบแบบนี้ เรย์ดันตัวตัวออกมาก่อนจะจับหัวรีซ่ามาเคาะ 3-4 ที แล้วยิ้มให้
“ ฉันไม่ตายง่ายๆหรอกน่า ถ้าจะมีก็ไอ้หมอนั่นล่ะ จะพาฉันตายไปด้วย” เรย์โบ้ยปาดมาทางหมอกที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของรีซ่า เรย์คิ้วกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะเอาเท้าสะกิดให้หมอกออกมาจากแขนของรีซ่า
“ แล้วเธอ....ไปไหนมา.....” หมอกนั่งลงข้างๆรีซ่าที่ตอนนี้ภายในถ้ำไม่มีปีศาจอยู่แล้ว
“ คือว่า..........”
**********************
“ นีฟ เธอไม่เป็นไรใช่ไม๊?” ราฟว์วิ่งมาหานีฟที่นั่งเอาก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้นมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ลูกธนูนับร้อยที่พุ่งเข้ามาหาเธอ ต่างเปลี่ยนทิศพุ่งเป้ากลับไปยังทิศที่มันมา ปีศาจที่ถือธนูทั้งหลายกลับโดนลูกธนูของตัวเองปักร่างจนพรุนแล้วร่วงลงมา ปรากฏร่างของชายผู้หนึ่งต่อหน้าคนทั้งสอง เป็นชายผู้มีผมสีน้ำตาลเข้มเข้ากับสีผิวที่ค่อนข้างเข้มของเขา แต่งกายเหมือนนักเดินทาง
“ ท่าน?” ราฟว์ขมวดคิ้วมองคนข้างหน้า
“ ไม่เป็นไรใช่มั๊ย? ฉันเป็นแค่นักเดินทาง พบเห็นคนเดือดร้อนก็ช่วยไปตามวิสัย” ชายคนนั้นกล่าว พร้อมกับเดินหันหลังกลับไป นีฟและราฟว์มองตามร่างนั้นจนลับสายตา
“ เลยไม่ได้ถามเลยว่าชื่ออะไร” นีฟลุกขึ้นปัดเสื้อผ้าของเธอ
“ ฉันมีลางสังหรณ์ว่า เราต้องได้พบเขาอีกแน่”
“ เอาล่ะ....ตรงนี้หมดแล้ว ไปดูซาร์ดีกว่าจะเป็นไงบ้างนะ” ราฟว์เสนอความเห็น นีฟเองก็เห็นด้วย
ห่างไปไม่กี่ร้อยเมตรจากถ้ำเซเรสด้านเหนือ ชายผู้ที่ช่วยนีฟและราฟว์เดินออกมาด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย
“โยฮัน....” เสียงๆหนึ่งเรียกข้างหลังของชายผู้นี้ ปรากฏร่างหญิงสาวคนหนึ่ง เธอมีเรือนผมสีน้ำเงินเข้มยาวประบ่านัยย์ตาสีเดียวกัน
“ ช่วยพวกนั้นทำไม?” หญิงสาวถาม
“ หึหึ...ฉันสนใจฝีมือพวกมัน เอาเป็นว่าฉันอยากจะประลองกับมันในภายภาคหน้า” ชายที่ชื่อโยฮันแสยะยิ้มให้หญิงสาว
“แล้วเธอล่ะ เรน...มาทำอะไรที่นี่?”
“ ก็มาหานายน่ะล่ะ....ท่านซีออนมีงานให้ทำ” หญิงสาวที่ชื่อเรนตอบ
“ อืม” โยฮันรับคำก่อนจะหายตัวไปพร้อมกับเรน
**----------------------------**[ TBC. ]**------------------------------------**
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น