ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Madness

    ลำดับตอนที่ #9 : Madness ~ : ตอนที่ 8 - มุ่งสู่การฝึกฝน

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 51


    Madness ~ : ตอนที่ 8 - มุ่งสู่การฝึกฝน

    * ป่าเอเมอเรส ที่กว้างถึงหลายพันเอเคอร์ ป่าที่คนธรรมดาเข้าไปแล้วไม่มีวันได้กลับมา ป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายและปีศาจ...ป่าที่สิงสถิตย์เทพเจ้า...หากไม่ได้ผูกพันธ์กันด้วยจิตวิญญาณ ด้วยกันแล้วเล่า การที่จะมาพบปะกันที่นี่คงเป็นการยาก *

    ‘ พลังของคนๆ นั้นคือพลังของฉัน .....หากเราทั้งสองอยู่ใกล้กันแม้เพียงนิด พวกเรานั้นเล่าจะไม่มีใครทัดเทียมได้ ‘ คำพูดของฟีนที่กลายเป็นคติอันหนึ่งดังขึ้นในสมองของเขา

    -คนๆนั้น อยู่ใกล้แค่นี้เองสินะ - ฟีนคิดคณะกำลังเผชิญหน้ากับจีซัสอีกครั้ง บาดแผลตามร่างกายเริ่มหายไป นี่ก็คงเป็นผลจากคำสาปเหมือนกัน ฟีนยกศาสตราวุธของตนขึ้นมา พบว่ารอยแตกเริ่มหายไปและมันก็ยิ่งส่องประกายมากยิ่งขึ้น พลอยสีดำยิ่งทวีความเข้มเกิดเป็นออร่าทะมึนสีดำแผ่กระจายไปรอบๆ จีซัสมองอย่าอึ้งปนงง ยิ้มออกมาแห้งๆ

    “ อะไรกันน่ะ แก.....ทำอะไรกับตัวเ อง ! ” จีซัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชนะเมื่อครู่ แต่เขาเองก็บาดเจ็บขนาดหนักเหมือนกัน ยิ่งถ้าเทียบกับคนข้างหน้าตอนนี้แล้ว เขาเองนี่ล่ะที่เป็นฝ่ายแพ้ ระหว่างที่จีซัสพิจารณาประเมิณค่าศัตรูตรงหน้า ฟีนก็ได้ชิงลงมือก่อนแล้ว ง้าวของฟีนตวัดเพลิงสีดำเข้าเต็มๆที่ท้องของจีซัส จีซัสเอี้ยวตัวหลบแต่ก็พ้นไม่หมด ไฟสีทมิฬเฉียดหน้าท้องของจีซัส เพลิงสีดำลุกไหม้เสื้อเกิดเป็นแผลเหวอะน่าเกลียด จีซัสสบถออกมาอย่างไม่เป็นภาษา จีซัสเรียกโซ่เหล็กของเขากลับคืน แล้วตั้งตัวเป็นฝ่ายรับการโจมตี ฟีนเองก็โจมตีอย่างไม่ยั้งเหมือนกัน
    ‘ Fire Arrow!!!!! ‘ ฟีนวาดอาวุธของตนเกิดเป็นเพลิงสีดำที่มิลักษณะเป็นทางยาวเหมือนกับลูกธนูพร้อมกันหลายสิบอัน แล้วสั่งการให้โจมตีอีกฝ่าย จีซัสนั้นใกล้หมดพลังเต็มทน ได้แต่ป้องกันตั้งรับมีบางครั้งที่โดนเฉียดลูกธนูนั่นจนกลายเป็นแผลน่าเกลียดอีก จนกระทั่งดอกสุดท้ายได้พุ่งตรงมาทางเขา

    ฉึก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    ลูกธนูสิดำปักเข้ากลางอกของจีซัส เฉียดจุดสำคัญไปเพียงนิด จีซัสล้มลงอย่างแรง เอามือกุมบริเวณที่ถูกปักนั่น หอบหายใจรวยระริน เลือดสีแดงสดหลั่งออกมาไม่ขาดสาย ฟีนขึ้นมายืนที่หัวของจีซัสเอาปลายง้าวจ่อคอไว้ เขาไม่คิดแม้แต่ที่จะไว้ชีวิตของหมอนี่ เปลือกตาของจีซัสหุบลงอย่างช้าๆ

    “ ลาก่อน...แม่ทัพกองทัพเพลิง แห่ง Magical” ปลายง้าวของฟีนเกิดไฟสีดำเป็นรูปไม้กางเขน....พร้อมที่จะกระชากวิญญาณของชายตรงหน้าได้ทุกเมื่อ แต่ทว่า.......

    “ แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!! “ เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาแต่ไกล ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้ว่าใคร ราฟว์ที่ขี่หลังสิโตมาอย่างว่องพุ่งมาทางฟีนด้วยความเร้วสูงอย่างควบคุมไม่ได้ มาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ฟีนที่มองอย่าตกใจปนงงจนทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่ยินเฉย สิงโตพุ่งตรงมาหาฟีนอย่างภาพสโลวโมชั่น ก่อนจะ......

    “ เหวออออออออออออออออออออออออออออออออ” สิงโตตัวนั้นดันคาบคอเสื้อของฟีนติดปากไปด้วยนี่น่ะสิ

    “ จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก” ตามด้วยเสียงร้องโหยหวนหายเข้าไปในความมืด
    จีซัสรอดตายหวุดหวิด สมุนทั้งสามของจีซัสที่กำลังต่อสูอยู่ก็แตกสลายหายไป แบล็ก ซาร์และนีฟต่างก็นั่งทรุดกันเป็นทิวแถบเนื่องจากการต่อสู้กับปีศาจเหล่านั้น ก่อนที่ทั้งสามจะตัดสินใจวิ่งตามสิงโตตัวนั้นไป ในขณะที่จีซัสนอนหมดสภาพ หญิงสาวนางหนึ่งก็ปรากฏร่าง เธอมีผมสีส้มอ่อนจนเกือบทอง นัยย์ตาสีน้ำเงินอมม่วง เดินเข้ามาอย่างช้าๆ

    “ อีตานี่....บอกแล้วไงว่าอย่าเพิ่งออกมา งานนอกคำสั่งแบบนี้ เทพเจ้าไม่ให้พลังมาหรอกนะ “ เธอบ่นอุบอิบ ก่อนจะพยุงแขนจีซัสอย่างไม่ค่อยเบามือเท่าไรนัก

    “ หุบปากไปเหอะน่า ...ฉัน..ไม่ได้ชอบอยู่ว่างๆแบบเธอนี่ เวนโดเลน” จีซัสพูดอย่างยากลำบาก เวลนโดเลนค้อนจีซัสตาเขียวก่อนที่จะพาร่างนั้นหายไป

    กลับมาที่หญิงสาวทั้งสองที่นิ่งอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก จะขยับไปไหนก็ไม่ได้ นึกโทษวีรบุรุษที่ดีแต่ปากบอกให้ยืนดูอยู่ในนี้แล้วตัวเองก็โดนลากหายไป บริเวณข้างนอกก็สงบ สงบจริงๆ มีแต่สิงโตตัวที่เขมือบริชเข้าไปนอนแอ้งแม้งอย่าสบายอารมณ์ ไม่ได้นอนตายนะ แต่เหมือนนอนหลับอย่างไม่สนจเธอทั้งสองอีกต่างหาก ให้ตายสิ - -“

    “ นี่ๆ แอเรียล “ โฮตารุเรียกอีกฝ่าย สายตายังคงจ้องที่สิงโตตัวนั้นไม่วางตา

    “ เรียกฉันว่าแอลก็ได้ ....มีอะไรเหรอ? “ แอเรียลเองก็ยิ้มแห้งๆ

    “ เอ่อ...นั่นน่ะ พี่ริช...อยู่ในนั้นเหรอ? “ โฮตารุพูดพลางชี้ไปที่สิงโตตัวที่นอนอืดอยู่

    “ ก็คงยังงั้นแหละจ้ะ ....ถูกย่อยไปรึยังก็ไม่รู้ “ พูดจบทั้งคู่ก็ปล่อยให้บรรยากาศเงียบไปอีก จนกระทั่ง.......

    .................................

    .........................

    “ ซ่อยข้อยแหน่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงนายคนเดิมดังขึ้นอีกครั้ง โลกช่างกลมเสียจริง พวกโฮตารุทำทีว่าไม่สนใจแต่ก็เปลี่ยนความคิดเมื่อฝ่ายนั้นมีของฝากมาด้วย

    “ นั่นมัน!” โฮตารุเพ่งมอง แอเรียลหยิบสมุดคู่ใจออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้านใน พร้อมกับเปิดอย่างรวดเร็ว

    “ ฟีเน่ เดอร์เมอร์เรส บุรษผู้เดียวในแมดเนสที่ต้องคำสาปจากเทพเจ้า น้องชายนอกสายเลือด
    ของ ทริสตัล ซิงค์ควอซ “ แอลเรียลอ่านสมุดนั่น

    “ น้องชาย? นอกสายเลือด? “ โฮตารุทำหน้าสงสัย ปนไม่เชื่อ

    “ ทำบ้าอะไรของแกวะเนี่ยราฟว์!!!!!!!!! “ ฟีนตะโกนข้ามหัวสิงโตที่ตกมัน(?)อยู่

    “ ไม่ได้ทำบ้าเฟ้ยยยยยยย!!!....แค่ช็อตมันไปทีเดียวเอ๊งงงงงงงงง !!! “ ราฟว์เถียง
    ฟีนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อน สอดด้ามง้าวเข้าไปที่ไรฟันผุๆของเจ้าสิงโตนั่น โหนเหวี่ยงตัวเองขึ้นไปนั่งอยู่บนหัวของเจ้าสิงโต

    “ จะทำอะไรน่ะ ! “ ราฟว์ตะโกนถาม สีหน้าไม่สู้ดีเมื่อ ฟีนหยิบอาวุธมาส่องแสงจันทร์เล่น

    “ เผา “ คำเดียว สั้นๆ แต่ได้ใจความ

    “ จะบ้าเรอะ!!!!!!! ถ้างั้นมันก็โดนฉันอ่ะเด้ะ!!!! “

    “ หึหึหึหึ “ ฟีนหัวเราะอย่างมีเลศนัย ก่อนจะยกง้าวขึ้นสูง แต่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างราฟว์มากกว่า เจ้าสิงโตเหมือนจะสะดุดก้อนหินเซล้มกลิ้งขลุกขลักไปชนต้นไม้ จอดสนิท สิงโตตัวนั้นสลบไปแล้ว ฟีนดีดตัวเองมาตั้งแต่ตอนที่สิงโตสะดุดแล้วเลยไม่เป็นอะไร ส่วนเจ้าราฟว์นั่น....

    “ หนักเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!! “ ราฟว์โดนสิงโตตัวนั้นทับอยู่ อย่างดิ้นไม่ได้ เลยได้แต่ดิ้นพล่านอยู่แบบนั้น
    สองสาวที่มองอยู่ห่างๆ กลับไม่นึกสงสาร แต่คิดว่ามีกายกรรมปาหี่มาให้แสดงให้ดูซะงั้น

    ฉึก!

    เสียงของมีคมทะลุผ่านเนื้ออะไรสักอย่าง โฮตารุและแอเรียลหันไปมองทางต้นเสียง อย่างสงสัย

    “ แอลจังๆ ....ที่ท้องสิงโตนั่นแปลกๆนะว่ามั๊ย? “

    “ คิดเหมือนกันล่ะ...เหมือนกับว่า.....”

    แคว่ก~~~~~~

    ท้องของสิงโตนั้นถูกผ่าออก ด้วยมีดสีทองเล่มเล็กๆของริช

    “ ฮ้าววววว~....ไม่ได้นอนในที่เย็นๆสบายๆแบบนี้มานานแล้วสินะเนี่ย “ ริชลุกขึ้นเกาหัวแกรกๆออกจากำตัวสิงโตนั่นโดยไม่มีเลือดของสิงโตติดมาสักนิด เล่นเอาโฮตารุและแอเรียลงงเป็นไก่ตาแตกว่า สภาพแบบนั้นนอนสบายได้ยังไง

    “ ไงสาวๆ ครบ 32 อยู่ไม๊เอ่ย? “ ริชหันมายิ้มบางๆให้โฮตารุและแอเรียล ก่อนจะสบตากับร่างที่เพิ่เดินมาสมทบด้วย ฟีนเองก็ชะงักเมื่อเจอริช ส่วนริชเองจ้องเขาไม่วางตาเหมือนกัน

    ................................5 นาที ผ่านไป .............................................

    .................................................................................

    ..................................................


    .................................

    ...................

    “ ว๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เจ้าพวกบ้า!!!!!!!! จะจ้องกันไปถึงไหน!!!!! มาช่วยกันตรงนี้ก่อนเด้ะ!! จะตายอยู่แล้วเนี่ย!!!! “ เสียงราฟว์กังขึ้นเรียกสติของคนทั้งสอง แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ขยับเขยื้อน ราฟว์เกิดหมั่นไส้ตงิดๆ ชักปืนยิงยิงเจ้าสิงโตที่นอนสลบอยู่จนช็อตตายคาที่ ก้อนจะถีบร่างที่ไร้วิญญาณของร่างสิงโต นั้นให้พ้นตัวเองไป

    “ คนจะตายไม่ช่วยกันเลยนะเฟ้ย!!!!!!” ราฟว์กระชากคอเสื้อของคนทั้งสองมาคุย

    “ แล้วนี่แกตายรึยังล่ะ? “ ริชาถามกลับ

    “ ตัวเองก็ช่วยตัวเองได้นี่นา “ ฟีนเสริม

    “ พอกันทั้งพี่ทั้งน้องเล้ย!!!!!!! “ ราฟว์เหวี่ยงคอเสื้อของคนทั้งสองไปทางเดียวกัน อย่างแรง

    “ เหวอออออออออออออ “

    “ ว๊ากกกกกกกกกกกก “

    ตุ๊บ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    “ เฮ้ยยยยยยยยยยยยยย “

    “ แอ๊ก! “

    ร่างของทั้งสองเหมือนกับไปชนอะไรบางอย่างเข้า
    ทั้งสามคน ( ราฟว์ โฮตารุ แอเรียล ) หันไปมองอีกครั้ง พบว่า ภายใต้ร่างทั้งสองคนยังมีร่างของอีกสองคนนอนอยู่ ก่อนที่สาวน้อยอีกนางจะวิ่งตามมาอย่างเหนื่อยอ่อน

    “ พวกนายลงไปนอนเป็นเบาะให้เค้าทำไมอ่ะ? “ ซาร์เอ่ยพลางพิงตัวเองกับต้นไม้ พยุงฟีนกับริชลุกขึ้น

    “ ขอบใจหลายๆนะซาร์ “ ริชเอ่ยทั้งๆที่ตายังเป็นขยักวนๆอยู่ ซาร์พาฟีนกับริชไปหาโฮตารุและแอเรียลโดยทิ้งทั้งแบล็กและนีฟให้นอนแอ้งแม้งตรงนั้น ริชเดินไปปลดบาเรียออกให้เธอทั้งสองเป็นอิสระ แอเรียลแนะนำให้ทั้ง 7 คนหาที่ปลอดภัยก่อนที่จะเล่าทุกอย่าง พร้อมทั้งเรื่องที่เธอปรากฏตัวให้ฟัง

    ....................................

    “ Skeleton Sparta!!! “ เรย์ตวัดแขนที่มีมีดอยู่ใส่ปีศาจหมาป่าน้ำแข็งของคันนะ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เนื่องจากคันนะและเรย์มีธาตุน้ำแข็งเหมือนกัน

    “ Shacked Stream!!!!!!! “ หมอกตวัดดาบ ของเขาเข้าหาหมาป่าของคันนะ ดาบที่ถูกตวัดออก เพลิงที่ร่ายรำควบคู่กับเพลงดาบไปก็เข้าโจมตีอย่างรุนแรง ปีศาจน้ำแข็งของคันนะเริ่มอ่อนแรงละลายตัวลงพร้อมด้วยเสียงร้องอันเจ็บปวด คันนะได้แต่ยืนมองห่างๆพิจารณาฝีมือของทั้งคู่ แต่ทว่า เขาเองนั้นไม่ได้ระวังตัวเอง และไม่ทันสังเกตว่า บริเวณภายนอกเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ถ้ำน้ำแข็งของเขาเริ่มละลาย เป็นจริงตามความเชื่อที่ว่าเมื่อน้ำแข็งเจอน้ำที่มีมวลมากกว่าน้ำแข็งนั่นย่อมละลายลงไป สายน้ำแปลกประหลาดไหลแทรกซึมผ่านรอยแตกและเริ่มเซาะให้เปลือกน้ำแข็งหลุดทีละชิ้น แต่ระหว่างนั้นคันนะเองก็ไม่ได้หันไปสนใจ อาจเป็นเพราะความประมาทมากกว่า

    “ ย๊าก!!!!!!!!!!! “ เรย์ตัดสินใจพุ่งเข้าหาศัตรูในระยะประชิด ตวัดมีดที่มือของเขาพุ่งเสียบทะลุคอของปีศาจหมาป่า เลือดสีฟ้าใสพรั่งพรูออกมาดั่งสายน้ำ แล้วสลายกลายเป็นอากาศธาตุไป แต่กระนั้นแล้ว คันนะเองก็ไม่ปล่อยให้ศัตรูอยู่เฉยๆ ศัตรูจำนวนมากผุดขึ้นมาจากน้ำแข็งในมือของคันนะ

    “ แหม่..เจอคนธาตุเดียวกันแบบนี้ไม่หนุกเลยนะเนี่ย” คันนะพึมพำ พร้อมทำหน้าเซ็ง

    “ ถ้างั้นมาซัดกับฉันดูสักตั้งไม๊ล่ะ? พ่อน้ำแข็ง “ เสียงเล็กๆใสๆดังขึ้นด้านหลังของคันนะ คันนะตกใจหันไปมองพบว่ามีเด็กสาวผมสีน้ำเงินสวย ยืนยิ้มอยู่

    “ ธ...เธอ? “ เด็กสาวยิ้มเป็นมิตรแต่แฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์ เธอหยิบอาวุธของเธอออกมา คฑาที่มีลูกแก้วกลมสีฟ้าใสขนาดใหญ่ติดอยู่ ด้านปลายของคฑากลับเป็นเหล็กแหลมเรียวยาว เป็นอาวุธได้ทั้งสองด้าน เธอเริ่มร่ายเวทย์

    “ ณ ดินแดนแห่งเทพเจ้ามัวร์อันศักดิ์สิทธิ์ ข้านามว่ารีซ่า ขอพลังเพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณที่ชั่วร้ายนี้ด้วยเถิด “เธอพึมพำเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะทำให้คันนะได้ยิน คันนะรู้จุดประสงค์ของเด็กสาวก็เผยยิ้มแสยะ เขาเองคงปล่อยเธอไปไม่ได้เหมือนกัน คันนะหยิบดาบที่พกไว้ที่เอวออกมา ดาบสีใสที่หลอมทำจากน้ำแข็งที่ไม่ละลาย

    “ บุตรของเทพเจ้ามัวร์สินะ เทพเจ้าแห่งความอาฆาต เธอคงเป็นธาตุน้ำ ...หืม? ถ้ำของฉัน เธอเป็นคนทำลายมันสินะ ...ไม่ใช่เล่นซะแล้ว “ คันนะเหลือบตามองถ้ำของตนที่กลับสู่สภาพปกติ

    “ เทพของพวกฉันคือเทพแห่งความสันติ พวกฉันมีหน้าที่หยุดพวกนายกับพวกแมดเนส “ รีซ่าเอ่ยแย้ง เธอตั้งท่าสู้ซะแล้ว

    “ การลดมือไปปะกับผู้หญิงเนี่ย มันดูไร้ศักดิ์ศรีจังเลยน๊า~ แต่สำหรับเธอ....ฉันคงต้องฆ่าทิ้ง “ คันนะเหล่มองหญิงสาวเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ แต่รอยยิ้ทอำมหิตยังคงไม่หายไปจากใบหน้า

    “ อย่ามัวพูดพล่ามอยู่เลย....!!!!!! “ รีซ่าพุ่งตัวเข้าหาคันนะที่ยืนนิ่ง ลูกแก้วสีฟ้าใสของรีซ่าเปร่งแสง เกิดมวลของน้ำหมุนวนอย่างรวดเร้วราวกับปั่นป่วน แต่สิ่งที่เธอใช้จู่โจมไม่ใช่สิ่งนั้น

    เคร้ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    เสียงสองสิ่งปะทะกัน เหล็กแหลมของรีซ่าถูกกันไว้ด้วยดาบใสของคันนะ ....ถ้าเขากันพลาดสักนิดคงถูกเสียบหัวใจไปแล้วสินะ รีซ่ากระหน่ำฟันอย่างไม่ยั้ง

    “ Dead Source!!!!!!!!” เพลิงสีแดงฉานก่อตัวเป็นรูปมังกรขึ้นที่ดาบของหมอก แล้วขยายขนาดขึ้น หมอกตวัดดาบจู่โจมหมาป่าที่พุ่งตัวเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง หมาป่านั่นก็ถูกกลืนกินไปด้วยเพลิงอันร้อนระอุ หมาป่าน้ำแข็งตัวสุดท้ายก็ได้สลายไป ตอนนี้ทั้งเรย์และหมอกอยู่ห่างจากจุดที่คันนะยืนอยู่ไกลโข เนื่องจากตอนแรก พวกเขานอนราบกับพื้นที่ที่เย็นเยียบนั่น

    “ ป่านนี่ยัยนั่นไปถึงยังนะ “ หมอกเอ่ยพลางหอบหายใจถี่

    “ .....................คงจะซัดกันอยู่มากกว่า “ เรย์พูดพลางลุกขึ้นยืน

    “ ฉันคงไม่ปล่อยให้ยัยนั่นซัดเองคนเดียวหรอกนะ “

    “ เฮ้ๆ....ฉันเองก็คงไม่เอาเปรียบผู้หญิงจนต้องมานอนแอ้งแม้งเย็นสบายตรงนี้หรอกน่า “ หมอกเอ่ยขึ้นบ้าง แล้วลุกขึ้นยืน เดินตามเรย์ที่จ้ำอ้าวไปก่อนเขาแล้ว

    ...........

    “ Wave Syndrome “ เกิดแอ่งน้ำรอบๆบริเวณการต่อสู้ คันนะมองแอ่งน้ำบริเวณต่างๆ ทั้งลอยอยู่ในอากาศ อยู่บนพื้นดิน น้ำเหล่านั้นลอยเหมือนกับไม่มีแรงโน้มถ่วง แล้วสายน้ำก็พุ่งออกมาจากแอ่งน้ำนั่นเป็นสายแหลมเหมือนกับสามารถทะลุทะลวงได้ทุกที่ พุ่งตรงมายังคันนะพร้อมกันทั้งหมด

    “ Frizz Barrio !!!!!!!!“ คันนะวาดดาบเป็นรูปกากบาทเหนือศีรษะ แล้วยกมือที่ห้อยพลอยสีขาวใส ไว้เหนือศีรษะตรงรอยกากบาท เกินเป็นบาเรียน้ำแข็งขึ้นป้องกัน แต่สายน้ำที่แหลมและมีพลังรุนแรงมากกว่าทำให้บาเรียเริ่มชำรุด

    “ ชิ “ คันนะสบถ ก่อนที่บาเรียนั่นจะแตกออก รีซ่าเริ่มสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมคู่ต่อสู้ถึงไม่ยอมใช้วิชาของตนเอง แต่ยังคิดได้ไม่ทันไร คันนะก็ไปอยู่เหนือหัวของเธอด้วยปีกสีดำ

    “ เชอะ...เห็นว่าเป็นผู้หญิงเลยไม่คิดจะทำอะไรแล้วนะ คงต้องลงมือจริงๆซะแล้วสิ “ คันนะยกดาบขึ้นมาวาดดาบเป็นรูป ดาว 6 แฉก สีดำ สัญลักษณ์ของกองทัพ Magical Planet รีซ่าเห็นงั้นก็ไม่รู้จะตั้งรับอย่างไรดี จึงได้แต่รอดูท่าทีของปีศาจต่อไป

    “ Magical Control Freezer !!!!!!“ คันนะตวัดดาบเป็นรูปกากบาทลงบนรูปดาว 6 แฉก น้ำแข็งแหลมเรียวยาวพุ่งตรงลงมาหารีซ่าเหมือนห่าฝน เธอจะหลบก็คงไม่ทันแล้ว .......

    ……………….

    “ เทพเจ้าทั้งสามพระองค์เหรอ? “ แบล็กจ้องแอเรียลตาแป๋ว ระหว่างกินอหารค่ำที่ใต้โขดหินริมแม่น้ำ

    “ มาจากไหนอีกองค์ล่ะนั่น ....ซู๊ดดดดดดดด~“ นีฟเสริม พลางซดน้ำชาอุ่นๆ

    “ อืม...เทพเจ้าเฟทของเราได้ให้ฉันมาบอกพวกท่านว่า เทพเจ้ามัวร์ เทพเจ้าองค์ที่สามได้ทำการกวาดล้างเหล่าแมดเนสและเหล่าปีศาจ “ แอเรียลเล่าต่อ

    “ ดูเหมือนว่าทางกองทัพปีศาจ ผู้นำปีศาจอริญชย์ถูกโค่นลง ด้วยฝีมือของปีศาจตนหนึ่งไปแล้ว “

    “ หา?????? อริญชย์....นี่อย่าบอกนะว่า เทพเจ้าของปีศาจองค์ก่อนคือ อริญชย์ “ ราฟว์ถาม
    แทรกขึ้น

    “ อือ..พวกปีศาจน่ะ จะไม่มีเทพเจ้าตายตัวนักหรอก .....เทพเจ้าอริญชย์ถูกสังหารไปแล้ว และทางเรายังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้สังหารแล้วขึ้นแทน “ แอเรียลลดสายตาลง เหมือนกับกลัวต่อเทพเจ้าองค์ใหม่ของเหล่าปีศาจนี้

    “ ......... “ ริชไม่กล้าพูดปลอบใจแอเรียล เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะสังหารเทพปีศาจองค์
    ใหม่ได้รึไม่ ขนาดอริญชย์ยังโดนสังหารไปแล้ว แล้วพวกเขาซึ่งเป็นแค่ลูกน้องของเทพเจ้า
    ธรรมดาๆจะจัดการได้เหรอ?

    “ ริช...นายเป็นหัวหน้าอยู่ตอนนี้ ...ฉันขอถาม...นายจะทำยังไงต่อไป? “ แอเรียลหันมาถามริชที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ริชก้มหน้าลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา

    “ ฉัน.....ต้องการฝึกวิชา แล้วฉันก็อยากให้พวกเราทุกคนฝึกวิชากันใหม่ด้วย....”

    “ หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! “ ทุกคนประสานเสียงพร้อมกัน

    “ ไม่นะริช....นายไม่เห็นเหรอ? พระจันทร์แยกตัวไปแค่ไหนแล้วน่ะ...!!!!” แบล็กลุกขึ้นมากระชากคอเสื้อริช

    “ หยุดนะแบล็ก!!!! “ ฟีนที่นั่งเงียบก็ลุกขึ้นมาปราม

    “ ฉัน..เห็นด้วยกับพี่ริช!!!!”

    “ นายว่าไงนะ!!! “

    “ ก็นายไม่เห็นฝีมือของตัวเองเลยรึไงล่ะ! นายที่สู้กับปีศาจของจีซัสไม่ได้น่ะ ! “ แบล็ก
    นีฟและซาร์สะอึกกับคำพูดของฟีน พวกเขาทั้งสามคนสู้ลูกสมุนของปีศาจธรรมดาๆไม่ได้ แล้วถ้าเกิดไปสู้กับหัวหน้าตอนนี้ล่ะก็มีหวัง......

    “ ฉันเองก็ต้องให้ราฟว์กับพี่ริชช่วยเสมอเลย “ โฮตารุเอ่ยเสียงเศร้า นั่งมองน้ำชาในแก้ว

    “ ฉันเองก็ยังต้องปรับปรุงฝีมืออีกเยอะเลยล่ะ ไม่งั้นได้โดนปีศาจลักพาตัวไปอีกแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ “
    ราฟว์พูดพลางหัวร่อเป็นการใหญ่

    “ ฉันเองก็ต้องไปพัฒนาฝีมืออีกหน่อย ความเร็วแค่นี้ยังไม่พอหลุดปากปีศาจเลย โดนเขมือบขึ้นมาอีกทีคงไม่เหลือ “ ริชพูดแล้วยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนอื่นเชื่อถือ มากกว่ารอยยิ้มที่ตัวเอง
    สบายใจ

    “ ฉันเองน่ะ ก็ต้องเก่งขึ้นกว่านี้เหมือนกัน ...เพราะฉันยังสู้หมอนั่นไม่ได้ “ ฟีนเอ่ยเงียบๆ

    “ เอาน่าๆ .....อย่าไปรำรึกความเก่ากันเลย ทำเป็นคนแก่ไปด้วยพวกนี้นิ่ ...มาชนชากันดีกว่า พรุ่ง
    นี้จะได้เริ่มฝึกกัน” แบล็กยกแก้วน้ำชาของเขาขึ้นแล้วทุกคนก็ละเลงปาร์ตี้น้ำชากันต่อไป


    -------

    “ อืม....... “ รีซ่าลืมตาขึ้นมาช้าๆ พบว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่ปากถ้ำกับคันนะ เธอสลบไปตอนไหนนะ รีซ่าดันตัวลุกขึ้นพลางมองไปรอบๆกาย พบกับร่างของ คนที่เธอรู้จักนอนอยู่

    “ เรย์!!!!! “ เธอรีบเข้าไปหาเนื่องจากสภาพร่างกายของเรย์นั่นมีแต่บาดแผลฉกรรจ์ทั่วตัว

    “ อย่าไปปลุกเขาเลย ให้เขาพักผ่อนไปก่อนเหอะ “ เสียงหมอกดังขึ้น รีซ่าหันหน้าไปหาเขา ก็พบ
    ว่าหมอกเองก็มีสภาพเดียวกับเรย์ไม่ต่างกันเท่าไร

    “ หมอก!!! นายไปทำอะไรมาน่ะ !? “ รีซ่าลนลาน

    “ ก็ตอนไปช่วยเธอจากเจ้าบ้าคันนะนั่นไง ..อุ๊บ!” หมอกขยับตัวเพียงนิดก็สบถออกมา

    “ .....ช่วยฉัน?....”

    “ ก็ตอนที่ไอ้ฝนน้ำแข็งนั่นกรูกันลงมา เธอก็ไม่หลบนี่นา เจ้าเรย์เลยเข้าไปกันให้โดยไม่กางบาเรีย แล้วกว่าฉันจะตามมันไปถึงมันก็ทรุดลงพอดี ฉันเลยซัดกับคันนะต่อไงล่ะ กว่าจะหนีมาได้ก็แทบแย่ละ “ หมอกเอ่ยพลางปิดปากแผลที่มีเลือดซึมออกมาทางช่องท้อง

    “ ขอบคุณมากนะ...แล้วก็ขอโทษ “ รีซ่าเอ่ยสีหน้าเศร้า

    “ ไม่เป็นไรหรอกน่า เธอก็เพื่อนฉันเหมือน..แล้วคนที่ผิดคือเจ้าคันนะต่างหาก เธอจะขอโทษทำไมอ่ะ” หมอกลูบหัวรีซ่าที่นั่งน้ำตาซึม

    “เรา.... กลับหุบเขาทาลัสรอฟังข่าวจากจีเนียสกันดีกว่านะ...” หมอกพูดพลางพยุงตัวเองแล้วเดิน
    ไปแบกเรย์ขึ้นหลังแล้วลากสังขารกลับหุบเขาไป

    ................................................ TBC…………………………..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×