ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Madness

    ลำดับตอนที่ #3 : Madness~ ตอนที่ 2 - มิตร? ศัตรู? เส้นทางที่ต้องแยกกันไป

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 50


    Madness~ : ตอนที่ 2 - มิตร? ศัตรู? เส้นทางที่ต้องแยกกันไป

      /วิถีแฝงตัวเข้าหาศัตรูให้แยบยล  คือการทำให้ศัตรูตายใจและหลงเชื่อใจ ดังนั้นข้าก็จะใช้วิธีนั้นเพื่อเข้าหาพวกแก มนุษย์ที่ชึ้นชื่อเรื่องใจอ่อนอย่างพวกแกหนีไม่พ้นละครตบตาของข้าหรอก /

     เช้าวันใหม่ที่น่าจะแสนรื่นพิรมย์ของคนธรรมดาทั่วไปกลับเป็นนรกของแมดเนสทั้งสาม ที่มานอนอยู่กลางป่าแบบนี้  
    " ไอ้ราฟว์!!!!!!!!!!ตื่นได้แล้วเฟ้ย!!!!!! " แบล็กเตะตัวขี้เซาที่ต้องให้ชาวบ้านเค้ามาปลุกอยู่เรื่อย
    " อีก 5 นาทีน่า เดินทาง 3 วันไม่ได้หลับได้นอนขอพักบ้างเหอะ" นี่คือสิ่งที่ได้รับกลับมา
    "........."
    " ........"
    " หือ? " ราฟว์เบิกตาตื่นขึ้นมาเนื่องจากเงียบผิดปกติ ก็ทุกทีเจ้าแบล็กมันจะโวยวายนี่หว่าแต่ไหงเงียบเป็นป่าช้าแบบนี้ ลุกขึ้นมาก็พบว่ารอบข้างไม่มีแม้แต่หมาสักตัวอยู่ด้วยเลย 
    " ริช!!!แบล็ก!!! รอด้วยสิเฟ้ย!!! " แล้ววิ่งตามทั้งสองอย่างรวดเร็วเนื่องด้วยความเร็วของสองคนนั่นถ้าไม่มีเหตุการณ์ข้างหน้าเกิดขึ้นแล้วล่ะก็ เค้าคงตามไม่ทันแน่  ในที่สุดราฟว์ก็ตามมาทันทั้งสองที่ยืนพิจารณาอะไรอยู่
    " อะไรเหรอ? " ราฟว์เสนอน้า
    " มีตัวอะไรมานอนตายตรงนี้ฟะ " แบล็กทำหน้าครุ่นคิด  ริชนั่งลงเอาไม้เขี่ยๆเจ้าคนที่นอนขวางทางพวกเค้าเหมือนกับอะไรบางอย่าง
    " คนแน่นอน "
    " ไม่บอกก็รู้เฟ้ย  ตัวอะไรจะมีขนยาวๆแค่ที่หัว " ราฟว์โวย พลางมองไปยังคนผมยาวสีขาวที่นอนขวางทางอยู่
    " พูดจาน่าคิดจริงๆ " แบล็กแซว
    " เอ่อ..ผ..ผม..ยัง..ไม่..ตาย..( โว้ย ) " ชายผมขาวกัดฟันพูด ( ฟังมันอยู่นานแล้วเฟ้ย อย่าคิดว่าไม่ได้ยิน -*- )
    " อ่าว... " ทั้งสามเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

     หลังจากนั้น  30 นาที  ทั้งสามลากคนที่นอนแอ้งแม้งกลางทาง มายังที่ปลอดภัยแล้วจัดการหาอาหารให้ไปพลางๆ
    " ทำไมเราต้องมาดูแลเจ้านี่ด้วย  จะเป็นคนดีไปถึงไหนกัน " ราฟว์มองเจ้าคนที่นอนอย่างไร้สติด้วยหางตาอย่างไม่ชอบใจนัก
    " ไม่ต้องห่วงน่า  แค่ดูเฉยๆ เราไม่ได้พาไปด้วยซะหน่อย  " แบล็กแย้ง
    " รอเขาตื่น มาก่อนน่ะค่อยว่ากันทีหลัง " ริชปรามทั้งคู่ สักพักชายคนนั้นลืมตาขึ้นมา
    " นายเป็นใคร ?" ริชเอ่ยถาม
    " ฉันชื่อ ริน ..ทุกคนเรียกชั้นแบบนั้น " ชายที่ขาวไปทั้งชุด ทั้งตัว ทั้งหัว อ้ำอึ้งเหมือนจำไม่ได้
    " นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? " แบล็กถามต่อ
    " ฉัน..."
    " แล้วแกต้องการอะไร ?" ริชและแบล็กมองราฟว์อย่างไม่เชื่อว่าจะมีคำถามแบบนี้หลุดออกมาได้  ราฟว์มองชายผมขาวอย่างไม่เป็นมิตร จริงๆแล้วเขารู้สึกคนๆนี้ไม่ได้มาดีแน่ต่างหาก
    " ฉันไม่รู้ ฉันจำได้แค่นี้" ชายผมขาวตอบ 
    " แล้วแกจะเอาไงต่อริช "
    " ........." ริชกุมขมับ เขาเกลียดสถานการณ์ที่ต้องใช้ความคิดที่สุดเลย  เขามองหน้าชายผมขาวที่จ้องเขาเขม็งแล้วถอนหายใจหนักๆ
    " ริน ใช่มั๊ย ? นายไปกับเราก่อนไหมล่ะ ? "
    " หา!!!!! " ราฟว์และแบล็กเอ่ยมาพร้อมกัน


     อีกด้านที่ไม่ไกลจากที่ที่พวกริชอยู่เท่าใดนัก

    " แฮ่ก  แฮ่ก  แฮ่ก " เสียงหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนของสาวน้อยผมสีชมพู ที่วิ่งหนีอะไรบางอย่างอยู่ ด้วยขาที่เล็กและสั้น  สิ่งที่ตามเธอมานั้นนอกจากปีศาจรูปร่างน่าเกลียดแล้วคงไม่มีอย่างอื่นอีกแน่นอน  แต่ปีศาจตัวนี้ต่างจากที่พวกริชเจอมากมายนัก

    " กรี๊ด!!!!! " เสียงกรีดร้องของเธอดังสะท้อนไปทั่วป่า  ไม่เว้นแม้แต่พวกริชที่อยู่บริเวณนั้นยังได้ยิน

    " เสียงอะไรวะ " ราฟว์บ่น
    " หมาหอนมั้ง " แบล็กกัดเข้าอีกดอก
    " หมาที่ไหนหอนกลางวันวะ "
    " หมาในหูแกไง  ชั้นเองยังไม่ได้ยินเลย "
    " เฮ้อ " ริชถอนหายใจเบาๆรอบที่ร้อยแปดของวัน ตั้งแต่เดินทางมาไม่เคยเหนื่อยใจเท่านี้มาก่อนเลย จะไม่ให้เหนื่อยใจได้ไงล่ะ เจ้าสองคนนี่มันกัดกันตลอดทางแบบนี้ 

    กลับมาที่สาวน้อยนางนั้นอีกครั้ง  เธอวิ่งมาเรื่อยๆ เข้าทางนั้นออกทางนี้จนต้องเข้าไปหลบในถ้ำระแวกนั้นแล้วในที่สุดเธอก็จนมุม เธอเผชิญหน้ากับอสูรตนหนึ่งร่างใหญ่ยักษ์  ตัวสีแดงฉาน  หน้าเหมือนกระทิงแต่เขาที่งอกออกมานั้นยาวและสูงจนมันไปครูดกับผนังถ้ำ ตัวเงาเหมือนได้รับการป้องกันจากอะไรบางอย่างอยู่   มันคำรามเสียงดังก่อนจะกระชากเธอด้วยมือข้างเดียวเหวี่ยงลงพื้นอย่างแรง แล้วกระทืบซ้ำ

    " อั่ก !" สาวน้อยเลือดกลบปาก นอนเอามือกุมท้อง  ถ้าเป็นคนธรรมดาเธอคงไม่มีสิทธิมานอนตรงนี้ได้อีกแล้ว
    " พี่..ริ..ช่วย.." เธอหมดสติไปทันที แต่ถึงกระนั้นแล้วเจ้าอสูรร้ายก็ไม่หยุดเพียงเท่านั้น มันยกมือที่มีเล็บยาวและแหลมคมขึ้นมาเตรียมจะเสียบเธอเป็นชิ้นๆ 

    ฉัวะ!!! จู่ๆร่างใหญ่ยักษ์ของเจ้าอสูรตนนั้นก็ขาดครึ่ง  ปรากฏสาวน้อยอีกนางผมสีน้ำตาลอ่อน รูปร่างผอมบางในชุดกางเกงขาสั้นและเสื้อแขนกุดสีดำ

    " ยัยบ้าเอ๊ย " เธอสบถก่อนจะจับหญิงสาวผมสีชมพูนอนเข้าที่เข้าทางแล้วก่อฟืน

    " ริช  เมื่อกี้ได้ยินเสียงอะไรป่ะ ? " ราฟว์ถามหลังจากเขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างอีกครั้ง
    " ได้ยินเสียงแกทะเลาะกับแบล็กไง " ริชตอบเสียงเย็น
    " ไม่ใช่เฟ้ยย "
    " ..เอ่อ..ผมว่ามันมืดแล้วเราหาที่พักกันก่อนไม๊? " รินที่เงียบอยู่นาน พูดขึ้นบ้างเพราะอากาศรอบข้างเริ่มเย็นแล้ว
    " เน่...แกรู้ไม๊ว่าเราสามคนเดินทางสามวันสามคืนจะพักครั้งนึง  แล้วนี่เราก็เพิ่งจะพักไปด้วย " แบล็กเหล่มอง เขาเองก็ชักไม่ชอบขี้หน้าเจ้าหมอนี่ขึ้นมาตะหงิดๆ  ทางริชที่เห็นแสงสว่างจากถ้ำที่อยู่ไม่ไกลนักก็เสนอให้แวะที่ถ้ำก่อนอ้างว่าเผื่อเจอคนและอาจได้เสบียงด้วย  ซึ่งก็ไม่มีใครคัดค้าน เมื่อเข้ามาถึงก็พบคนจริงๆ มีสาวน้อยสองนางนอนสลบไสลโดยไม่รู้ว่ามีผู้มาเยือน ระหว่างทางเดินเข้าไปหาสองสาวที่นอนอยู่ทั้งสี่ก็ไม่สามารถละสายตาจากอสูรร้ายตัวโตที่ตัวขาดครึ่งเลือดสีแดงนองเต็มพื้น กลิ่นคลุ้งไปทั่ว อยู่ระหว่างทางที่พวกเขาเดินเข้าไป

    " นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย " ราฟว์บ่น
    " ท่าทางเราจะเจอของดีแล้วล่ะ " แบล็กพูดพลางยิ้มที่ได้เจอสาวๆในที่แบบนี้  แต่ทว่า..

    ฟึ่บ!! ฉึก!!  จู่ๆขวานอันเบ้งก็ตกลงมาจากผนังถ้ำปักที่พื้นเฉียดหัวแบล็กไปนิดเดียว  ทำเอาเจ้าตัวสั่นงั่กๆ   สาวน้อยผมสีน้ำตาลลืมตาขึ้นมาทันที

    " ผู้บุกรุก !!! " เธอหยิบขวานขนาดบิ๊กไซส์ออกมาอีกอันจากด้านหลังของเธอแล้วถือมันพุ่งตัวมาทางพวกริช อาจจะเป็นเพราะความมืดเลยทำให้ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร  ราฟว์ที่มองอยู่ก็รู้ว่าเป็นใคร  เขาก้าวมายืนด้านหน้า แล้วเล็งปืนไปที่หญิงสาว

    " ผู้หญิงนะเฟ้ย " แบล็กพูดเสียงเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    " เออน่ะ ชั้นรู้ว่ายัยนี่เป็นใคร เป่าสมองนิดหน่อยก็จำพวกเดียวกันได้แล้วน่ะ " พูดจบราฟว์ก็ยิงกระสุนสายฟ้าของเขาไปที่หล่อน

    เคร้ง! ลูกกระสุนถูกปัดออกไปได้  เจ้าราฟว์ถึงกับถลึงตาตกใจ

    " ยัยนี่ไปฝึกวิชามารึไงวะ " แบล็กที่เห็นท่าไม่ดีแน่จึงออกโรงจัดการเอง  แบล็กหยิบมีดที่ร้อยคู่กับเส้นลวดออกมา แล้วบังคับเส้นลวดนั้นให้เป็นรูปตาข่ายล้อมอาวุธของเธอไว้ แล้วขึงกับผนังถ้ำด้านข้าง โดยปักมีดรั้งไว้ แต่แล้ว...

    ตึง!! อาวุธของหล่อนที่แบล็กจับไว้ได้กลับดึงลวดที่ยึดอาวุธของเขา และพาลให้แบล็กเสียหลักล้มลงอีกต่างหาก

    " อาวุธของชั้น หนักตันนึงย่ะ " เสียงเล็กๆแต่ฟังดูมีพลังและดุดันเอ่ยออกมา ราฟว์ที่ได้จังหวะ ก็เอาปืนจ่อหัวเจ้าหล่อนทันที
    " ขอโทษนะซาร์  แต่มันจำเป็นน่ะ " สิ้นเสียงราฟว์ก็มีเสียงของแรงขับดันปืนตามมา  หญิงสาวที่ชื่อซาร์ล้มลงกับพื้น แต่เหมือนกับแค่เธอหลับไปเท่านั้น( แล้วชั้นก็ไม่ได้ออกโรง - ริชคิดในใจ ) ทั้งสี่คนจึงตัดสินใจพักที่ถ้ำนี่อีกคืน

    วันรุ่งขึ้น ซาร์ตื่นขึ้นมาก็พบริชนั่งจ้องเธอทั้งสองคนอยู่

    " ริช...นายมาได้ยังไง "
    " ชั้นก็มาตามหาพวกเราที่กระจัดกระจายไปนี่ล่ะ "
    " ทำไมถึงต้องรีบตามหาล่ะ "
    " เอาไว้ชั้นจะเล่าให้ฟังทีหลังละกันนะ  ว่าแต่ยัยนั่นเป็นอะไรรึเปล่า ?" ริชมองไปยังสาวน้อยผมสีชมพูหน้าตาจิ้มลิ้ม นอนหลับอย่างสบายอารมณ์
    " โฮตารุน่ะเหรอ? ไม่เป็นไรหรอก เธอคงฟื้นตัวเองได้น่ะ "
    " ว่าแต่นายมาคนเดียวเหรอ? " ซาร์เลิกคิ้วถาม
    " เปล่า ..นี่เธอจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เลยเรอะ?" ริชขมวดคิ้ว
    " เมื่อคืน!!! ชั้นไปมีอะไรกับใครรึไงยะ!! " ริชถึงกับกุมขมับ  เออกรูผิดเอง
    " ไม่ใช่ว๊อย !!!!...เมื่อคืนเธอถูกไอ้ราฟว์มันเป่าขมองเอาไง!!! " แล้วซาร์ก็ถึงบางอ้อซะที
    " ไปไหนซะล่ะ? "
    "ราฟว์กับแบล็กไปหาอาหารเช้าน่ะ แล้วก็มีอีกคนที่เก็บได้กลางทาง "
    " ?? " ซาร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน  ริชเล่าเรื่องอสูรที่เปลี่ยนเวลาออกล่ามนุษย์ให้ซาร์ฟังไปพลางระหว่าที่รอสามคนนั่นหอบของกินมาให้  ระหว่างนั้นสาวน้อยผมสีชมพูนามว่าโฮตารุก็ฟื้นขึ้นมาพอดี  ระหว่างที่งัวเงียอยู่เหลือบตาหันมาเห็นพี่ชายที่รักก็กระโดดมาล็อกคอทันที
    " แอ๊ฟฟฟฟฟฟ "
    " พี่ริชค๊าาาาาา~ คิดถึงจัง" ในความดีใจของโฮตารุจะทำให้ริชมันตายเอา
    " เฮ้อ~ถ้าเจ้านั่นมาเห็นฉากนี้มีหวังแกไม่รอดแน่เลยว่ะริช " แบล็กที่หอบฟืนกองใหญ่มาส่ายหัวเล็กน้อย
    " ราฟว์ล่ะ หวังว่ามันคงไม่เอาเสือมาอีกหรอกนะ " ริชพูดเสียงเซ็งๆ
    " คราวนี้ได้หมูป่ามาสองตัวล่ะเฟ้ย !!!" เสียงราฟว์ดังมาแต่ไกล 
    " อ้าว?ฟื้นแล้วเหรอ?แม่อัลไซเมอร์ "
    " เรียกใครอัลไซเมอร์ยะ " พูดไม่พูดเปล่าแม่ชกเจ้าราฟว์ติดดิน  แล้วก็ไม่มีใครสนใจเจ้าราฟว์อีกเลย
      ระหว่างที่กำลังแทะขาหมูป่ากันอยู่นั้น  ดูเหมือนซาร์จะนึกอะไรได้
    " เอ้อ..โฮตารุ  ทำไมเธอหนีเจ้ายักษ์นั่นล่ะ ? "
    " อื๋อ? ก็ไอ้นี่มันใช้ไม่ได้ผลนี่นา " โฮตารุยกคฑาสีชมพูน่ารักขึ้นมาให้ดูระหว่างที่กำลังอัดขาหมูชิ้นเบ้งเข้าปากหมดสภาพสาวน้อยที่น่าทนุถนอม
    " เอ๋? ไอ้นี่น่ะเหรอ? มันทำอะไรได้บ้างครับ? " รินที่นั่งเงียบก็อยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที  ทางโฮตารุที่อยากสงเคราะห์ผู้ไม่รู้ เธอกำลังจะตวัดคฑานั่นแต่ก็โดนห้ามไว้ก่อน
    " อย่ามาใช้แถวนี้นะโฮตารุ  เดี๋ยวได้ตายยกกลุ่ม " ริชหน้าซีดนิดหน่อย
    " แค่เล่าก็พอม๊าง โฮจจัง " แบล็กพูดเสียงสั่น
    " อ่ะค่ะ..ก็รู้สึกว่าเมื่อวานฉันเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาจากโลงแก้วน่ะค่ะ แล้วเดินมาได้สักพักก็เจอไอ้ตัวสีแดงๆแต่เล็กกว่าที่เห็นในถ้ำนิดนึง ฉันก็เลยใช้พิษเล่นงานมันแล้วพวกมันก็ตายนะคะแต่ว่าทำไมไม่รู้ไอ้ตัวใหญ่นั่นมันถึงไม่ตาย " โฮตารุตีหน้าเศร้า
    " ..." ทุกคนที่ฟังอยู่นั่งเงียบ
    " รู้สึกว่าศัตรูเราจะแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนเยอะเลย " ริชพูดพลางเกาคาง
    " ต้องรีบหาตัวพวกเรากันแล้วล่ะ  แต่ว่า...." ซาร์ตีหน้าเครียด
    " เราจะแยกเป็นสองกลุ่มแล้วแยกกันตามหา " ริชเสนอความคิด
    " ตามนั้นก็ได้  แต่ใครจะแยกไปกับใครล่ะ ? ที่แน่ๆชั้นไปกับแกละกันริช " ราฟว์คว้าคอริชมาล็อก
    " ฉันเองก็ไม่แยกกับพี่ริชอีกแล้วล่ะย่ะ " โฮตารุคว้าแขนริชอีกข้างขึ้นมากอด ส่งสายตาอาฆาตไปทางเจ้าราฟว์
    " เฮ้อ~โอเค ถ้างั้นซาร์..เธอแยกไปกับชั้นแล้วกัน นายด้วยก็ได้นะริน " แบล็กเอ่ยอย่างหน่ายๆ  ซาร์พยักหน้าเล็กน้อย
    " เอ่อ...ผมไม่หรอกครับ ผมรู้สึกว่าผมมีธุระแถวนี้น่ะครับ  ขอแยกไปก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง" ว่าแล้วรินก็ปลีกวิเวกไปอย่างรวดเร็ว  ทั้งห้าคนมองตามอย่างไม่ใยดีนัก
    " เฮ้อ..จะแสดงละครก็แสดงให้มันเก่งหน่อยสิเฟ้ย " ราฟว์บ่นเบาๆ พลางส่งสายตาเหยียดๆไล่หลังรินไป
    " ช่างมันเถอะ..เรายังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของมัน " ซาร์พูดบ้างพร้อมเดินแยกไปอีกทาง
    " ยังไงก็ตามอีก 3 เดือนต้องมาเจอที่เมืองเอเมอร์เรสล่ะ จุดนัดพบคงไม่ต้องบอก "
    " เอ้าๆๆๆ ...ขยับก้นกันได้แล้ว " ราฟว์ฉุดทั้งสองให้เดินไปอีกทางโดยไม่ปล่อยโอกาสให้พูดคุยร่ำรากัน โฮตารุตีหน้ายุ่งนิดหน่อยแต่สักพักก็หาย  ริชเองก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าใดนัก  เขาเองก็ชอบที่จะอยู่แบบไม่รวมหัวกันเป็นฝูงมากกว่า  ราฟว์เองก็หน้าบานแทบฉีกดีใจจนออกนอกหน้าที่ว่าไม่มีเจ้าแบล็กมาคอยกวนประสาทมัน สบายใจไปอีกพักใหญ่ๆ  ความคิดเหมือนกับแบล็กที่แยกไปอีกทาง  ทางที่พวกเขาจะเจอนั้นไม่มีใครหยั่งรู้ว่ามันอันตรายและเสี่ยงมากแค่ไหน 

    ใต้หุบเขาเอเมอร์เรส..ที่ประชุมของเหล่าอสูรร้ายทั้งปวง  หัวหน้าอสูรอริญชย์ กำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่
    " หึหึหึ  ...เอสเทอร์..เจ้าจงเอาคำสั่งนี่ไปบอกแก่ลูกน้องทั้งหมดของข้า " อริญชย์ในร่างมนุษย์ ส่งกระดาษให้ชายผมสีแดงตาสีแดงที่ซึ่งน่าจะเป็นมนุษย์
    " ขอรับท่านอริญชย์ " เอสเทอร์รับกระดาษมา แล้วตรงไปยังห้องประชุม 

    ณ. ห้องประชุมใต้หุบเขาขนาดใหญ่ที่ทั้งทึบ  อับ  ชื้น และดูป่าเถื่อน แต่เป็นสวรรค์เล็กๆของเหล่าปีศาจ เอสเทอร์ถือกระดาษที่ได้รับจากนายตนเมื่อครู่ ยืนอยู่บนแท่นสูงพอที่จะส่งเสียงให้อสูรทั้งหลายได้ยิน

    " อสูรทั้งหลายจงรับฟังคำข้า " เอสเทอร์เกริ่นอย่างพิธีรีตรอง
    " ข้าได้รับคำสั่งจากท่านอริญชย์หัวหน้าของเรา " เหล่าปีศาจทั้งหลายเงียบฟัง
    " คำท่านมีดังนี้ ....
    / เหล่าอสูรลูกน้องที่ซื่อสัตย์ของข้าเอ๋ย เหล่าศัตรูของเรามิได้แข็งแกร่งขึ้นแม้แต่น้อยผิดกับเราที่พัฒนาตัวเองตลอดเวลา เห็นได้ว่าตอนนี้เหล่าแมดเนสยังเชื่องช้าต่อการรบอยู่ เป็นการดีที่เราจะลอบสังหารแต่เนิ่นๆ เพื่อตัดกำลังศัตรูให้น้อยลงยิ่งขึ้นไป เหล่าอสูรที่ซื่อสัตย์ของข้าเอ๋ย เจ้าทั้งหมดจงไปตามล่าแมดเนสทั้งสิบสองคน โดยการที่พวกเจ้าแปลงกายเป็นมนุษย์ มั่วสุมกับเหล่าพวกโง่เขลาเหล่านั้น แล้วลอบสังหารเมื่อมีโอกาส จำเอาไว้เหล่าแมดเนสมีสิ่งพิเศาประจำกายพวกเจ้าจงรับรู้ไว้  หากวันใดที่เจ้าพบมนุษย์ที่เข้าใกล้ไม่ได้เนื่องจากแสบร้อนเมื่อใด เจ้าจงทำลายมันซะ ผู้ใดที่สังหารมันได้แม้แต่คนเดียวข้าจะตบรางวัลให้อย่างงาม / " เอสเทอร์เก็บสาส์นแล้วกลับเข้าไปด้านใน  เสียงฮือฮาของเหล่าอสูรดังระงม  แล้วต่อด้วยเสียงโห่ร้องดีใจ  ไม่นานนักเหล่าอสูรนับพันตัวในที่นั้นก็หายวับไปเพียงเสี้ยววินาที 

    อันตรายต่อโลกที่รุนแรงกว่าที่คาดคิดไว้กำลังจะเกิดขึ้น  หากแต่พวกเค้าทั้งสิบสองยังสัมผัสมันไม่ได้......


    T.B..C---
        


    --------------

    ข้อมูลเหล่า Madnessของตอนนี้

    **เนื่องจากคำสาปของอาวุธศักดิ์สิทธิ์จึงทำให้เหล่าแมดเนสความจำเสื่อมเฉพาะเรื่องในอดีต  จึงไม่มีประวัติความเป็นมาของบุคคลนั้นๆ

    ทริชตัล   ซิงก์ควอซ  [ ริช ]

    อายุจริง : 18 ปี
    อายุปัจจุบัน : 1,017 ปี
    ธาตุที่ใช้ : น้ำแข็ง
    อาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำกาย : [Gold Feather] ขนนกสีทองอร่ามใช้เป็นระเบิด  มีด  ปากกา ฯลฯ และจะมีอยู่อันหนึ่งที่เปลี่ยนเป็นดาบได้ จุดสังเกตุคือ  พลอยสีแดงที่ติดอยู่ตรงกลางขนนกนั้นๆ  ซึ่งพลอยดังกล่าวเป็นพลอยประจำกาย 
    พลอยประจำตัว : Ruby


    ราฟว์    เซร์ [ราฟว์ ]

    อายุจริง :  17 ปี
    อายุปัจจุบัน : 1,016 ปี
    ธาตุที่ใช้ : ไฟฟ้า
    อาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำกาย : [ Heaven Blaster ] ปืนลำกล้องสีขาวแต่แฮนด์สีดำเป็นเอกลักษณ์ที่มี 4 ลำกล้อง และสามารถแบ่งปืนออกเป็น 4 กระบอก  กระสุนที่สามารถใช้ได้คือกระสุนพิเศษที่อยู่ในลำกล้องเท่านั้นซึ่งสามารถใช้ได้ไม่โดยการอัดกระแสไฟฟ้าเข้าไป  ความแรงของกระสุนที่ออกมานั้น จะมีพลังเท่าที่อัดกระแสไฟฟ้าเข้าไป  มีพลอยสีขาวในการเก็บกักพลังอยู่บนตัวปืน ทำให้อัดไฟเข้าไปได้มากตามต้องการ
    พลอยประจำตัว : Jadite

    แบล็ก    มาเซนเทียร์  [ แบล็ก ]
    อายุจริง : 17  ปี
    อายุปัจจุบัน : 1,016 ปี
    ธาตุที่ใช้ : ลม
    อาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำกาย : [ Poinard Alpha ] มีดพกเล่มเล็กสั่งทำพิเศษสีเงินที่มีคมทั้งสองด้าน และไม่มีด้ามจับมีแต่คมล้วนๆ ผู้ที่ใช้ได้มีเพียงผู้เดียวคือเจ้าของ  เป็นมีดที่เมื่อคว้างออกไปแล้วไม่ว่าจะไปปักอยู่ที่ใดสายลมที่คมเหมือนมีดจะพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง  ส่วนมากเจ้าของจะร้อยมีดนี้ไว้เป็นพวงและเล่นมีดให้เป็นรูปร่างต่างๆ สามารถบังคับมีดเหล่านี้ได้อย่างยอดเยี่ยม  ดูเหมือนจะเป็นอาวุธที่ไม่ค่อยมีอะไรนักแต่จริงๆแล้วแฝงไปด้วยความสามารถที่สุดยอดทีเดียวเชียว  พลอยประจำตัวจะไม่ติดอยู่ที่อาวุธแต่จะอยู่ที่ตุ้มหูข้างเดียวที่ใส่อยู่  พลอยสีเหลืองนี้ใช้ควบคุมทิศและความรุนแรงของลม
    พลอยประจำตัว : Cat's  Eye

    โทโมเอะ    โฮตารุ  [ โฮตารุ ] - แสดงโดย  ฟ้า

    อายุจริง : 15 ปี
    อายุปัจจุบัน : 1,015 ปี
    ธาตุที่ใช้ : พิษ
    อาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำกาย : [ Blow planet ] คฑาศักดิ์สิทธิ์สีชมพูอ่อนประดับด้วยปีกเทพเจ้าสีขาวอันเล็กดูน่ารักที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัยแต่แท้จริงแล้วสามารถปล่อยพิษออกมาได้อย่างน่าตกใจ พิษนี้สามารถฆ่าคนได้ในระยะ100เมตรได้อย่างไม่มีใครสามารถจับได้ ถือว่าเป็นอสรพิษที่ร้ายที่สุดของบรรดาแมดเนสทั้งหมด แต่ทั้งนี้แล้วคฑานี้สามารถปล่อยพลังแห่งการรักษาออกมาอย่างได้เปรียบสุดๆอีกต่างหาก มีจุดอ่อนคือไม่สามารถใช้ได้กับศัตรูโจมตีระยะไกลได้  มีพลอยสีม่วงในการเพิ่มพลังพิษให้รุนแรงกว่าเดิม ติดอยู่ยอดคฑา
    พลอยประจำตัว : Opal

    เซริน  เอเมอร์[ ซาร์ ]
    อายุจริง : 16 ปี
    อายุปัจจุบัน : 1,016 ปี
    ธาตุที่ใช้ : ดิน
    อาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำกาย : [ Axe Flint ] ขวานที่มีคมใหญ่เท่ากับความสูงครึ่งตัวของผู้ใช้ด้ามสีน้ำตาลเข้ม เป็นขวานที่หนักเกือบ ร้อยกิโลกรัม ไม่ต้องพูดถึงว่าผู้ถือจะต้องแรงดีขนาดไหน ขวานนี้มีพลังสามารถแยกผืนดินได้ทั้งผืนโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และสามารถยกแผ่นดินขนาดยักษ์ขึ้นมาเป็นอาวุธหรือเกราะป้องกันได้ได้อย่างน่าทึ่ง มีพลอยสีน้ำตาลติดอยู่ตรงโคนขวาน เพิ่มความรุนแรงของอาวุธ ทั้งนี้น้ำหนักของขวานก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
    พลอยประจำตัว : Diamon

    --------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×