คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Episode Creek : Part1
Episode Creek : Part 1
First meeting
"นี่ฉัน......ตายแล้วงั้นหรอ"
ชายหนุ่มมองไปยังร่างของตนเองที่สวมหมวกไหมพรมสีน้ำเงิน กับ เสื้อโค๊ทสีน้ำตาลดำที่อาบไปด้วยเลือดของเขาบริเวณพื้นถนน ซึ่งผู้คนในละแวกนี้ก็ต่างพากันตื่นตกใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่มีรถบรรทุกวิ่งชนคนที่กำลังเดินข้ามถนนอยู่เมื่อครู่
……..ซึ่งคนที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก..........เขาเองนี่แหละ เครก ทักเกอร์
ตาเรียวกวาดสายตามองไปที่บริเวณถนน ที่ตอนนี้กำลังชุลมุนวุ่นวายอย่างหนัก..........นั่นเป็นเพราะ ผู้คนต่างพากันตกใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมากจนพากันทำอะไรไม่ถูก นอกจากการจ้องมองและอ้าปากค้างด้วยความตกใจ แต่คนที่พอมีสติอยู่ก็ไม่รอช้าที่จะโทรหารถพยาบาล หรือโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น.....
………..ซึ่งสำหรับเขาที่รู้ว่าตนเองตายแล้ว......ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกหรือรู้สึกโศกเศร้าแต่อย่างใด.......เพราะเขาเองก็มองว่าทุกคนทีเกิดมาบนโลกนี้นั้น ย่อมมีวันใดวันหนึ่งที่ต้องจากโลกนี้ไปเช่นกัน...
"แล้วฉันควรทำอะไรต่อดีล่ะเนี่ย........"
เครกสบถออกมาเบาๆ พลางหันมองซ้ายมองขวา
"หรือว่าเราควรกลับบ้านไปหาครอบครัว...."
เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็ไม่รอช้าค่อยๆลอยออกห่างร่างของตนเองไปตามถนนที่เป็นเส้นทางกลับบ้านของเขา..ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาพึ่งสังเกตว่าตัวเขาตอนนี้มีเพียงแค่ครึ่งตัว ท่อนล่างเป็นเพียงความว่างเปล่ากับควันรางๆ....และเขาก็เองก็รู้อยู่แก่ใจว่าถึงตัวเขาตายไป พ่อแม่เขาก็คงจะไม่คิดอะไรมาก และใช้ชีวิตอยู่ได้แหละ แต่ตอนนี้เขาจนตรอกจริงๆ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการกลับบ้านของตนเอง แม้จะทำอะไรไม่ได้นอกจากมองครอบครัวที่ต้องใช้ชีวิตแบบไม่มีเขาอีกต่อไป..........
"หืม........นั่นวิญญาณเหมือนกันหรอ?"
เครกคิดในใจพลางมองไปที่ร่างของชายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาที่สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีส้ม และหมวกปิดหูสีเขียว ......ดูแล้วเขาคนนั้นน่าจะเป็นคนเชื้อสายยิวด้วย เพราะสังเกตเห็นได้จากผมที่เป็นอัฟโฟร์สีแดง....ที่ลอยอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง
เครกกระอักกระอ่วนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจตะโกนเรียกอีกฝ่ายที่เป็นวิญญาณ
"เอ่อ..... คุณครับ!คือว่าผม.........."
ไม่ทันที่เขาจะพูดจบวิญญาณชายคนที่ว่านั่นก็รีบลอยตามชายคนหนึ่งที่พึ่งเดินออกจากร้านสะดวกซื้อไป........ซึ่งเป็นคนที่เขาคุ้นเคยดีเลยล่ะ..............
"แสตน?"
ชายหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นเพื่อนเก่าเครกเมื่อตอนเรียนชั้นประถมเริ่มมีท่าทีร้อนรนหลังจากได้คุยโทรศัพท์กับใครเรื่องอะไรบางอย่าง.......ซึ่งดูท่าทางแล้วเขาดูช็อคมากเมื่อปลายสายวางสายลง
แต่ไม่ทันที่เครกจะได้คิดอะไรต่อ แสตนก็ได้ตะโกนดังลั่นไปทั่วบริเวณนั้น ด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่รุ่มร้อน
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย!! เมื่อเดือนที่แล้วไคล์ก็พึ่งตาย แล้วมาวันนี้เครกก็ยังโดนรถชนตายอีก!! โธ่เว้ย!ทำไมยมทูตถึงอยากให้เพื่อนฉันทยอยตายไปกันจังวะ!!"
เมื่อเสียงตะโกนดังลั่นถนนแบบไม่แคร์สายตาคนรอบข้างของสแตนจบลง สีหน้าของวิญญาณชาวยิวก็ดูเศร้าขึ้นมาดื้อๆ ซึ่งเครกเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น…..
"สงสัยวิญญาณตนนั้นคงคือไคล์....."
เครกคิดในใจพลางมองไปที่วิญญาณชายลอยตามเพื่อนเขาไปอย่างไม่ลดละ นั่นอาจจะเป็นเพราะเขายังห่วงแสตนอยู่ก็เป็นไปได้.......
.............ผิดกับเขาเลยแฮะทีไม่มีอะไรต้องห่วง..............
เครกตัดสินใจล่องลอยไปตามเส้นทางกลับบ้านเขาต่อเรื่อยๆ ซึ่งในระหว่างการเดินทางเขาก็พบเห็นวิญญาณตนอื่นๆเช่นกัน........เพียงแต่เขาไม่คิดที่จะทักทาย หรือพูดคุยด้วยก็แค่นั้น.......แต่ทว่า..ในขณะที่เขากำลังเหม่อเพราะมัวแต่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจนั้น ก็มีใครบางคนยืนอยู่ข้างๆเขาแล้วโดยที่เขาแทบจะไม่รู้สึกตัวเลย
"นี่นายพึ่งตายจากอุบัติเหตุเมื่อกี๊งั้นหรอ?"
"...........หืม...รู้ด้วยงั้นหรอ...."
"รู้สิ ฮ่าๆ ดูออกง่ายจะตายไป......คนที่พึ่งตายใหม่ๆก็มักจะไม่รู้หรอกนะ"
วิญญาณของชายหนุ่มผมเหลืองสีทองที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส....ส่วนทางด้านเครก ทักเกอร์นั้นก็ได้แต่ทำหน้างุนงงว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่อถึงอะไร.....
"อืม.... ก็นายไม่มีขาไง......."
"ขา? เป็นวิญญาณยังต้องเดินอีกหรอ? ไม่ใช่ว่าแค่ลอยอย่างนี้หรอ?"
ทางฝ่ายที่ถูกถามคำถามแบบรัวๆ ก็ทำอะไรไม่นอกจากยิ้มแหยๆให้อีกฝ่าย แล้วอธิบายต่อไป
"คือว่านะ....ครึ่งท่อนล่างคนที่ตายใหม่ๆน่ะ จะเป็นเพียงแค่หมอกควันรางๆน่ะ แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ นายจะสังเกตุได้ว่าขาของนายจะปรากฎออกมาให้เห็นเองน่ะ......ซึ่งพอถึงเวลานั้นนายถึงจะได้ไปสู่สุขติ......."
"แล้วนานแค่ไหนขาถึงจะออกมาครบน่ะ?"
"อ่า......นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะหมดอายุขัยเมื่อไหร่น่ะ เพราะส่วนใหญ่คนที่ตายด้วยอุบัติเหตุ หรือฆ่าตัวตาย จะยังไม่หมดอายุขัยกันทั้งนั้น สมมุติว่าอายุขัยนายประมาณ60 แล้วนายตายตอนอายุ30 นั่นหมายความว่านายต้องเป็นวิญญาณอยู่ในโลกนี้ไปอีก30ปี........"
เมื่อเครกได้ยินดังนั้นก็เริ่มเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนอดไม่ได้ที่จะเผลอพูดออกมาเบาๆ
".............ถ้าเกิดตอนนี้ฉันอายุ21........แล้วอายุขัยของฉันมันเท่าไหร่กันเนี่ย......"
"เรื่องนั้นก็ไม่มีใครรู้หรอกนะ" ชายผมสีเหลืองทองยิ้มบางๆก่อนที่จะพูดต่ออีกว่า
"แต่ว่าระหว่างที่นายวนเวียนอยู่ในโลกนี้ นายก็อาจจะได้อะไรมากมายหลายอย่าง......หรือใครบางคนที่มองเห็นนาย แล้วเข้ามาทำให้ชีวิตหลังความตายพิเศษขึ้นก็ได้นะ"
"มันจะมีคนมองเห็นฉันด้วยหรอเนี่ย..."
เครกพูดพลางขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย
"ก็ต้องมีบ้างแหละน่า ฮ่าๆ.........อืม.....ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันคงต้องไปแล้วหล่ะ พอดีฉันยังมีเรื่องที่ต้องไปทำอีกน่ะ....งั้นไว้เจอกันทีหลังนะ"
แต่ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดจบแล้วก็ค่อยๆยกมือขึ้น เพื่อโบกมือลา……..เครกก็ชิงถามคำถามขึ้นมาเสียก่อน……
"ดะ-เดี๋ยวสิ...ฉันเครกนะ........แล้วนายชื่ออะไรหรอ?"
"................ฉันบัตเตอร์น่ะ บ๊ายบายนะ"
เมื่อวิญญาณชายหนุ่มร่างเล็กที่ชื่อว่า บัตเตอร์ พูดจบก็โบกมือลาเขาแล้วลอยหายไปในตรอกซอยเล็กๆแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากเขานัก......
"ชีวิตหลังความตาย..........มันจะมีอะไรที่พิเศษด้วยหรอ...."
.......... จากจุดมุ่งหมายที่จะกลับไปหาครอบครัวตนเอง ก็กลายเป็นว่าตอนนี้เขาก็อยากที่จะพบความหมายที่แท้จริงของประโยคที่บัตเตอร์ได้บอกเขาไว้ซะงั้น......
.
.
.
"นี่ก็ผ่านไปเกือบอาทิตย์แล้วนะ.......ทำไมยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่น่าสนุกให้ทำเลยแฮะ....."
เครกพูดบ่นพลางล่อยลอยไปตามฟุตบาทเรื่อยๆ ซึ่งเขาเองก็ล่องลอยไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมายจากเมืองบ้านเกิดของเขา ตอนนี้เขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนของจังหวัดที่เขาอาศัยอยู่........แต่ถ้าเกิดนับจากวันที่เขาเองได้พบกับวิญญาณที่มีนามว่าบัตเตอร์นั้น ก็ผ่านมาได้ราวๆเกือบอาทิตย์นึงแล้ว เขาเองก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเขาควรทำอย่างไรต่อไปดี เพราตอนนี้ในหัวของเขาก็พลางคิดถึงแต่เรื่องว่าควรจะทำอะไรแบบนี้ต่อไป หรือ ควรกลับไปหาครอบครัวเขาดี...........
แต่ในขณะที่เขากำลังอ่านป้ายชื่อเมืองที่ตัวเองอยู่ ณ ตอนนี้ เขาก็พึ่งจะสังเกตเห็นว่าตอนนี้ตัวเขาเองก็กำลังยืนอยู่หน้าร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่ง..............................
“Pet shop งั้นหรอ.............”
เครกชั่งใจอยู่สักครู่ เอาจริงๆแล้วตอนนี้เขาก็ไม่มีชีวิตแล้วนะ.....ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ แถมยังไม่มีอะไรให้ทำ...........และอีกอย่างเจ้าพวกตาแป๋วพวกนี้ก็น่ารักอีกด้วย.......................
ฟางเส้นสุดท้ายขาดผึง...........เครกไม่รอช้าลอยทะลุกำแพงเข้าไปในร้านขายสัตว์ ยืนจ้องมองสัตว์ที่อยู่ในกรงทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น หมา แมว หนู หรือสัตว์อื่นๆ เขาก็รู้สึกว่ามันน่ารักไปหมดเลย ยิ่งตอนที่พวกมันจ้องมองตาเขาด้วยความรู้สึกสงสัย นั่นมันก็ยิ่งทำให้ชายสายแบดบอยอย่างเครกหัวใจแทบละลายลงไปกองกับพื้นเพราถูกกับดักความน่ารักของสัตว์พวกนี้เล่นงานเข้าให้แล้ว........
“เอ๊ะ.......นั่นมันหนูตะเภานี่นา”
เครกยิ้มด้วยความรู้สึกเอ็นดูมันมาก มันเป็นหนูตะเภาตัวหนึ่งที่มีขนสีขาวแซมด้วยขนสีน้ำตาลสว่าง และน้ำตาลดำ มันจ้องมองเขาด้วยแววตาที่ทำให้เขาอยากกลายเป็นเจ้าของมันมาก......ถ้าเกิดเขายังไม่ตายนะ ป่านนี้มันคงได้มาอยู่ในห้องนอนเล็กๆของเขา แล้วร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสุขในชีวิตเขาแล้วนะ
“น่าเสียดายจังแฮะ.....................”
ชายหนุ่มร่างสูงรู้สึกผิดหวังในตัวเองนิดๆ เมื่อคิดว่ายังไงตัวเองก็คงไม่อาจเป็นเจ้าของของเจ้าหนูน้อยนี่ได้หรอก เลยเผลอบ่นอะไรออกมานิดหน่อย
“ถ้าเกิดเป็นไปได้ก็อยากเลี้ยงอยู่หรอกนะ.......แต่ว่าฉัน......”
เครกพูดคำนั้นไม่ทันจบ เครกก็เริ่มสัมผัสได้ถึงแววตาที่ดูผิดหวังเหมือนกับเขาจากเจ้าหนูตะเภาตัวนี้ มันทำราวกับว่าฟังที่เขาพูดรู้เรื่องด้วย นั่นก็ยิ่งทำให้คนที่ลึกๆแล้วเป็นคนที่รักสัตว์อย่างเขานั้น หัวใจแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยล่ะ
“อ่า.......ฉันคิดว่าฉันต้องไปแล้วนะ ถ้าเกิดเป็นไปได้ไว้ฉันจะมาหาใหม่นะ”
ร่างสูงพูดพลางยิ้มบางๆให้กับเจ้าหนูตะเภาแสนรู้ที่กำลังเกาะกรงมองหน้าเขาด้วยแววตาที่เศร้าสร้อย
“อี๊ดๆ............”
เสียงของหนูตะเภาเมื่อครู่ดังแว่วมากระทบหูเขา นั่นก็แอบทำให้เขาอดอมยิ้มไม่ได้กับความน่ารักในตัวของมัน ก่อนที่จะค่อยๆลอยห่างจากกรงของมันแล้วออกมาอยู่นอกร้านขายสัตว์เลี้ยงที่อยู่ข้างๆร้านสะดวกซื้อ.......
“พอเครียดๆแล้ว อยากสูบบุหรี่จังแฮะ....”
เครกสบถออกมาเบาๆพลางสายตาก็มองไปยังหนูตะเภาที่อยู่ในร้านตัวนั้นด้วยความเอ็นดูมัน.......แล้วตัดสินใจเบือนหน้าหนีมัน
“แล้วฉันควรทำอะไรต่อดีล่ะเนี่ย.......”
เครกพูดออกมาเบาๆเพื่อถามตัวเองอีกครั้ง............ถึงจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วก็ตามว่าถึงพูดไปตัวเขาเองก็ยังตอบคำถามตัวเองไม่ได้เลย................
“อย่ามาใกล้สิ...แบบนั้นมันน่ากดดันนะ.....”
เสียงพึมพำของใครบางคนเข้ามาสะกิดหูเข้า นั่นเลยทำให้เครกหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาต้นเสียง.........และนั่นก็ทำให้เขาเห็นใครบางคนที่ยืนตัวสั่นพร้อมกับหันหลังให้กับเขาอยู่ทางด้านขวามือของเขา
“หา?”
สิ้นเสียงความงุนงงของเครก ชายคนที่ยืนหันหลังให้เขาก็สะดุ้งสุดตัว แถมร่างที่บางของชายผมเหลืองคนนี้ก็สั่นหนักกว่าเดิมอีก........
“ยะ-แย่แล้วเขารู้ตัวแล้ว ......ขะ-เขามองมาที่ฉันด้วย! ไม่นะแบบนี้มันกดดันกันเกินไปแล้ว! ไม่สิมันต้องไม่ใช่แบบนี้ อั่ก กะ-กาแฟ กาแฟอยู่ไหน?”
เมื่อชายร่างผอมบางพึมพำจบก็ไม่รอช้ารีบควานหาแก้วกาแฟในถุงร้านสะดวกซื้อที่เขาพึ่งเข้าไปซื้อมาเมื่อครู่ แล้วรีบกระดกดื่มมันอย่างรวดเร็วจนเหลือแค่ครึ่งขวด........
ด้วยความสงสัยของเครก ชายผู้แบดบอย และไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เขาจึงลองเอามือไปแตะไหล่ชายที่มีเรือนผมเหลืองทองดู.......ซึ่งถึงมันจะไม่ได้ผลเพราะเขาเป็นวิญญาณที่ไม่มีกายหยาบ เป็นเพียงแค่กายทิพย์.......แต่อย่างน้อยมันก็แค่จะเหมือนลมพัดไปกระทบไหล่อีกฝ่ายเท่านั้นเอง.................
“อั่ก....อ๊ะ! ไม่นะ! ระ-เราต้องทำเป็นมองไม่เห็นสิ ใช่แล้ว! ต้องทำเป็นมองไม่เห็น .......ตะ-แต่ว่ามันกดดันมากเกินไปแล้ว........อ๊า!”
ทันทีที่เครกได้ยินประโยคของชายตรงหน้าอย่างชัดเจน และท่าทางที่สั่นเป็นเจ้าเข้าแบบนั้น นั่นก็พอจะเดาได้แล้วว่า ชายคนนี้น่าจะมองเห็นวิญญาณได้ แถมยังขี้กลัวอีกต่างหาก............
......................ห๊ะ!.................เดี๋ยวนะ.....มองเห็นวิญญาณได้งั้นหรอ?
เมื่อสมองประมวลผลอย่างรวดเร็วจนคาดว่าน่าจะถูกต้องตามที่เขาคิด เขาก็ไม่รอช้าชะโงกหน้าไปถามอีกฝ่ายด้วยความดีใจ............
“นี่นายมองเห็นฉันได้ใช่มั้ย! คือว่าฉันอยากจะให้นายช่วยอะไ---------“
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!! อย่ามาใกล้ฉันนะเฟ้ย!!! อ๊า!ต้องหนีแล้ววววววว!!!!”
ไม่ทันที่เครกจะพูดจบ อีกฝ่ายก็ดูเหมือนว่าจะสติแตกไปแล้ว เขาตะโกนร้องดังลั่นไปทั่วบริเวณนั้นจนคนรอบข้างต้องหันมามองชายคนนั้นด้วยท่าทีตกใจราวกับว่าเขาคือคนบ้า.........แต่ชั่วแวบเดียวอีกฝ่ายที่ดูจะสติแตกก็รีบวิ่งไปจูงจักรยานคันสีเขียวแก่ที่จอดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ แล้วรีบปั่นหนีเขาอย่างรวดเร็ว..........
ส่วนเครกน่ะหรอ.....................แน่นอนอยู่แล้วล่ะ.......นานๆทีจะเจอคนที่มองเห็นเขาได้ ก็ต้องรีบตามไปสิ! จะมัวรอช้าทำไมล่ะ!
“เฮ้! รอฉันด้วยสิ! ฉันก็แค่อยากให้นายช่วยเท่านั้นเองนะ!!”
“อ๊าาาาาาาาา! อย่าตามมานะ! มันกดดันเกินไป อ๊าาาาากกกกกกกกกกกกกกกก”
ชายคนนั้นปั่นจักรยาน พร้อมกับตะโกนดังลั่นไปทั่ว ...............ซึ่งมันจะไม่แปลกเลยที่คนอื่นจะคิดว่าเขาบ้า......
“เฮ้ยยย!! นั่นถนนนะเฟ้ย รถก็วิ่งเต็มอยู่ อย่าไป เห้ยยยยยยย!!!”
เครกตะโกนไล่หลังชายคนนั้นที่ตอนนี้ปั่นจันกรยานไปที่กลางถนนด้วยความเสียสติ เขาปั่นแบบไม่กลัวว่าจะโดนรถชนบ้างเลย......
“(เห้ย.....ฉันยังไม่อยากฆ่าคนตายทั้งๆที่เป็นวิญญาณอยู่นะเฟ้ย!)”
เครกคิดในใจพร้อมกับลอยตามไปอย่างรวดเร็ว..................
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด!!!
“เห้ย! ขับจักรยานแล้วดูตาม้าตาเรือบ้างสิเฟ้ย ไอบ้า!!”
เสียงบีบแตรรถ เสียงเบรก เสียงคนขับรถที่ด่าทอมายังชายที่ปั่นจักรยานอยู่ ก็ยิ่งดูเหมือนจะทำให้ชายคนนั้นสติแตกยิ่งกว่าเดิมขึ้นอีก............ซึ่งนั่นก็ทำให้เครกเพลียใจกับความแปลกของชายคนนั้นจนแทบจะเอามือกุมขมับ............
...............แต่ก็ยังดีหน่อยแฮะที่หมอนั่นก็ยังรอดไปได้
เครกเริ่มโล่งใจเมื่อชายคนนั้นปั่นจักรยานฝ่าฝูงรถไปยังอีกฝั่งได้......ส่วนกลางถนนนั้น.........ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างหนักเลยล่ะ…..
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ก็บอกว่าอย่าตามมาไง ก๊าซซซซซซ!!!”
ชายหัวเหลืองที่ตอนนี้ปั่นจักรยานอยู่บนฟุตบาทตะโกนมาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเครกก็ยังลอยตามมาติดๆแบบชนิดที่ว่าตื๊อไม่เลิก.......
แต่แล้วสายตาเครกก็พลันสังเกตเห็นก้อนหินก้อนเล็กก้อนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากจักรยานที่ชายคนนั้นปั่นอยู่นัก...........
“เห้ย! ก้อนหิน! ระวัง”
ทันทีที่เสียงเตือนเครกจบลง ความบรรลัยก็เกิดขึ้นทันที............
โครม!!!
“โอ๊ยย เจ็บ”
จักรยานชายคนนั้นเหยียบถูกก้อนหิน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรยานล้ม.......ซี่งชายคนนั้นก็ถึงกับล้มลงไปนอนกับพื้น............นั่นจึงทำให้เครกไม่รอช้ารีบตามไปเลย
“อ่ะ.....โอ๊ยเจ็บจัง..........”
“เฮ้! ไม่เป็นนะ เดี๋ยวฉันช่วยนายเอง”
ร่างผอมบางของชายคนนี้ร้องโอดโอยเบาๆ เครกเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปช่วย...............และแน่นอนว่าคำตอบของชายคนนั้น คือท่าทีที่หวาดกลัว และตัวสั่น พร้อมกับไล่ให้เขาไปไกลๆ เขาจึงทำอะไรไม่ได้มากนอกจากการยืนมองชายผู้นั้นเก็บพวกของที่กระจัดกระจายออกมาจากถุงร้านสะดวกซื้อ
“อ๊ากกก ถุงน้ำตาล ถุงน้ำตาลอยู่ไหน! ถ้าเกิดถุงนั้นหายพ่อฆ่าฉันแน่!!”
“อยู่นี่ไง ถุงน้ำตาล”
เครกพูดพลางชี้ไปที่ถุงน้ำตาลสีขาวบริสุทธิ์ที่วางอยู่ตรงหน้าเขา................
“อ๊ากกกกกกกก ก็บอกว่าอย่าเข้ามาใกล้ไง มันกดดันเกินไปแล้วววววว!!!”
ด้วยความกลัวหรืออย่างไร เครกก็ไม่ทราบ เพราะทันทีที่เครกพูดจบ ชายคนนั้นก็รีบหยิบถุงน้ำตาลแล้วปาใส่เขา ก่อนที่จะวิ่งหนีหายไปในทันที........................นั่นก็หมายถึง ชายคนนั้นทิ้งจักรยาน กับ ของที่เขาบ่นว่าถ้าเกิดไม่มีมันนี่เขาตายแน่ๆอย่างถุงน้ำตาลไว้………………
……………เครกยืนงงกับการกระทำของชายคนนั้นอยู่สักพัก............แล้วแล้วฉับพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นว่ามีกระดาษแผ่นเล็กๆตกอยู่ข้างจักรยานคันสีเขียวแก่………………………
“ นามบัตรงั้นหรอ?”
ด้วยความที่เครกเป็นวิญญาณ จึงไม่สามารถที่จะจับต้องอะไรได้ เขาจึงจำเป็นที่จะต้องนั่งยองๆแล้วก้มดูใบนามบัตรแผ่นนั้น
“Tweak Coffee & flower ........ชื่อทวีก ทวีค เป็นพนักงานร้านดอกไม้งั้นหรอ.......”
เมื่อเครกมองใบนามบัตรแผ่นน้อยนั่นดีๆ เครกก็พบว่ามันถูกระบุที่อยู่ร้านไว้ด้วย.......ซึ่งนั่นก็อดที่จะทำให้เขาอดยิ้มพร้อมพึมพำออกมาเบาๆไม่ได้เลย
“เหอะ...................มีที่อยู่ด้วยแฮะ.....เสร็จฉันล่ะงานนี้...........
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk with writer
สวัสดีค่ะ;;w;; ฮรืววว นี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่ได้มีโอกาสแต่งฟิคเป็นของตัวเอง เพราะปกติแล้วเราเคยแต่ร่วมแจมฟิค และ วาดภาพประกอบฟิคให้แต่คนอื่น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาลองเขียนอะไรแบบนี้......ซึ่งบอกเลยค่ะว่าค่อนข้างยากพอสมควร;;w;; ก็อาจจะแต่งออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ ภาษาก็อาจดูงงๆอยู่ คำก็อาจจะใช้ผิดด้วย แต่ยังไงเราก็จะพยายามพัฒนาการเขียนขึ้นนะคะ! ถ้าเกิดเป็นไปได้เราก็อยากให้รีดเดอร์ทุกๆคนคอมเม้นท์ ติชม หรือให้กำลังใจค่ะ เพราะว่าจะทำให้เรามีกำลังใจในการเขียนฟิคให้ทุกคนได้อ่านกันมากขึ้นค่ะ<3
ป.ล.ก่อนจะจากกันกับฟิคตอนแรก เราขอลงงานวาดรูปFanart Southpark ที่เราเคยวาดหน่อยนะคะ
สาวดุ้นทั้งสองแห่งเซาท์พาร์ค (เคนนี่ & บัตเตอร์)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น