คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Episode Creek : Part 2
“งืม.........”
.........................
ตุ๊บ!!
“โอ๊ย! จะ-เจ็บ”
เสียงของร่างกายผอมบางเจ้าของเรือนผมสีเหลืองอ่อนร้องโอดโอยหลังตกลงจากเตียงในตอนเช้าตรู่ เขาใช้มือลูบหลังตรงบริเวณที่ตนเจ็บเบาๆ พร้อมกับหาวด้วยความง่วง
ก่อนที่จะลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วเปิดโทรศัพท์เพื่อดูเวลาว่ากี่โมงแล้ว
“6 โมงครึ่งแล้วหรอ อืม....”
เขาวางโทรศัพท์ที่ชาร์ตแบตอยูบนโต๊ะข้างเตียงเขาไว้เหมือนเดิม ก่อนที่ค่อยๆพาร่างของตนเดินไปหยิบผ้าขนหนู เพื่อไปอาบน้ำและแต่งตัวให้เรียบร้อย
.
.
.
ซ่า!
เสียงน้ำที่ไหลจากฝักบัวดังขึ้น ร่างผอมไม่รอช้าที่จะนำสบู่ขึ้นมาถูไปตามสัดส่วนที่ค่อนข้างโค้งเว้าของตนเอง พลางในหัวก็คิดถึงแต่เรื่องฝันที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเผลอละเมอตกเตียงเมื่อครู่นี้
“ฝันแบบนี้มันหมายความว่าไงนะ.......”
เขาพึมพำกับตนเองเบาๆ พร้อมกับไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ความฝันเมื่อคืนนี้ ซึ่งเขาก็จำได้รางๆว่า เขาถูกบางสิ่งบางอย่างไล่ล่า และเมื่อสิ่งนั้นกระโจนมาเขาก็รีบกระโดดหนี............นั่นแหละสาเหตุที่เขาตกเตียง...
“อย่าบอกนะว่ะ-ว่านี่มัน........ฝันบอกเหตุ! งั้นหมายความว่าตอนนี้กำลังจะมีใครบางคนมาไล่ฆ่าฉันน่ะสิ! ไม่เอานะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!! “
“ทวีก! ทวีก! เกิดอะไรขึ้นหรอจ๊ะลูก! ลูกโอเคใช่มั้ย???!!”
“ม่ะ---ไม่มีอะไรครับแม่ ผะ-ผมแค่เผลอทำขวดครีมนวดผมตกใส่เท้าครับ!!”
สิ้นเสียงเขาที่ตะโกนร้องด้วยความตกใจ เสียงของแม่เขาที่อยู่ชั้นล่างก็ตะโกนถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงลูกชายตนเอง นั่นจึงทำให้เขาต้องแก้ต่างไปอีก เพราะขืนบอกความจริงไป เดี๋ยวพ่อกับแม่เขาจะกังวลเกี่ยวกับอาการคิดมากของเขาอีกครั้ง
“งั้นก็แล้วไป แต่ถ้าเกิดเป็นแผลก็อย่าลืมทายาด้วยนะจ๊ะ”
“ครับแม่!”
หลังจากที่เขาตะโกนตอบแม่แล้ว เขาก็รีบทำธุระส่วนตัวของตัวเองให้เสร็จ ถึงแม้จะมีบ้างที่เขาสะดุ้งเพราะความระแวงจากความฝันของตนเอง
.
.
.
หลังจากที่ทวีกเสร็จกิจธุระของตนเองแล้วก็ไม่รอช้ารีบแต่งตัว หลังจากนั้นจึงเดินลงมาชั้นล่าง ซึ่งเป็นชั้นที่เปิดเป็นร้านกาแฟ และร้านดอกไม้
‘Tweak Coffee & flower’ นี่คือชื่อของร้านครอบครัวสกุลทวีคที่มีมารุ่นต่อรุ่นแล้ว โดยร้านของนั้นจะเป็นการจัดร้านแบบกึ่งสวน เพื่อให้เข้ากับอีกโซนที่รับจัดช่อดอกไม้ ซึ่งพ่อกับแม่ของเขานั้นจะเป็นคนประจำเคาน์เตอร์ขายกาแฟ ส่วนตัวทวีกนั้นอยู่ฝั่งจัดดอกไม้
ส่วนเหตุผลที่เขาออกจะชอบกินกาแฟแท้ๆ แต่ทำไมถึงได้มาจัดดอกไม้ขายนั้น นั่นก็เพราะเขาคิดว่ามันน่าสนใจดี และอีกอย่างคือมันสามารถสร้างเงินให้เขาได้พอตัวเลย แล้วหากวันไหนที่ไม่มีออเดอร์มาล่ะก็ เขาก็จะสามารถช่วยพ่อแม่ขายกาแฟได้อีก
"นี่กาแฟและขนมปังของลูกนะจ๊ะ ทวีก" หญิงสาวผมสีน้ำตาลอมทองยื่นแก้วกาแฟ พร้อมกับจานที่มีขนมปังปิ้งพร้อมกับไข่ดาวทอดที่สุก มีกลิ่นหอมกรุ่นของซอสที่ราดโชยออกมา
"ขอบคุณมากนะครับ"
ทวีกรับอาหารเช้ากับคุณแม่มา แล้วจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์ม้าหินอ่อน ที่มีตัวอักษรตัวใหญ่สลักว่า มุมFlowers
เขาลากเก้าอี้ไม้ออกมาแล้วจึงนั่งรับประทานอาหารเช้าอย่างเอร็ดอร่อย
"แล้วคุณพ่อล่ะครับ?"
ทวีกหันไปถามแม่ที่กำลังจะเดินไปหมุนป้ายหน้าร้านจากคำว่า close เป็น Open ตรงหน้าประตูร้าน
"กำลังทำงานอยู่ที่หลังร้านน่ะจ้ะ"
"อ่างั้นเดี๋ยวผมไปช่วยคุณพ่อที่หลังร้าน ก่อนนะครับ"
เมื่อทวีกพูดจบก็วางช้อนเตรียมที่จะลุกขึ้นไปช่วยพ่อของเขาทันที............ถ้าไม่ติดที่แม่เขาขัดไว้ก่อนนะ........
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ปล่อยพ่อเขาไปเถอะ ลูกรีบกิน แล้วเคลียร์ออเดอร์ดอกไม้ที่เป็นงานด่วนก่อนเถอะจ้ะ เพราะเดี๋ยวมหาลัยเปิดเทอมแล้ว ลูกจะทำออเดอร์ไม่ทันนะ"
"กะ...........ก็ได้ครับ"
มือเรียวขาวใช้ช้อนซ้อมจิ้มขนมปังชิ้นเล็กมากิน ด้วยความเอร็ดอร่อย แต่จู่ๆแม่เขาก็ถามขึ้นอีกครั้ง
"แล้วงานด่วนตอนนี้มีอะไรบ้างล่ะ?"
"ก็ของลูกค้าผู้ชายสองคน กับ...........เคนนี่ครับ......"
"เอ๋? เคนนี่ใช่เพื่อนที่เคยมาทำพาร์ทไทม์กับเราน่ะหรอ?"
"ใช่ครับ"
"อืม....จะว่าไปช่วงนี้ไม่เห็นเขาเลยแฮะ เขายังสบายดีอยู่ไหม?"
"กะ.....ก็ยังเหมือนเดิมแหล่ะครับ................ตั้งแต่ที่บัตเตอร์เสียไป..........."
"อ๊ะ!? อย่าบอกนะว่าที่เคนนี่มาสั่งดอกไม้นั่น เพราะเขาต้องการนำไปไหว้หลุมศพบัตเตอร์ที่ครบรอบ100วัน"
"ใช่ครับ..."
"น่าสงสารเขาจังเลยแฮะ นอกจากที่บ้านฐานะไม่ดีแล้ว เขายังต้องหาเงินเลี้ยงน้องสาวตนเองอีก แล้วไหนคนที่เขารักยังต้องมาตายอีก เฮ้อ.........เวรกรรมอะไรที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้กันนะ...."
"............"
เขาไม่ได้ตอบอะไรแม่ไป เขาเลือกที่จะรีบกินรีบเสร็จ แล้วรีบล้างจานในครัว ก่อนที่จะรีบกลับมาจัดช่อดอกไม้ต่อ
มือเรียวสวยคว้ากรรไกรขึ้นมาก่อนที่จะบรรจงตัดหนามของดอกกุหลาบสีแดงสดด้วยความละเมียดละไม ราวกับว่าไม่ต้องการที่จะทำให้ดอกกุหลาบที่สวยงามดอกนี้ต้องบอบช้ำเพราะมือเขา.......
.
.
.
เวลาผ่านไปราวชั่วโมงครึ่ง เขาจัดดอกไม้ช่อนี้เสร็จแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ลืมที่พรมน้ำให้ช่อดอกกุหลาบดอกนี้ให้คงสดอยู่และดูสวยงามไปซักระยะหนึ่ง ก่อนที่เขาจะนำป้ายกระดาษสีน้ำตาลที่มีชื่อเขียนติดว่า Clyde Donovan ผูกไว้กับโบว์ลูกไม้สีแดงเลือดหมู
"โชคดีที่เสร็จทันเวลาแฮะ"
ชายหนุ่มยืนยิ้มให้กับผลงานของตนเอง ก่อนที่จะหันไปมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังอิฐสีแดง
"จะ9โมงแล้วงั้นหรอ?"
"อืม.....คุณไคลด์นัดมารับ 10 โมงครึ่งสินะ ยังพอมีเวลาเหลือเฟือพอที่จะโทรสั่งดอกไม้ของคุณสแตนมา"
เมื่อทวีกบ่นพึมพำเสร็จก็ลองอ่านก็ลองไล่อ่านดูตารางรายงานที่เขามี แล้วจึงโทรสั่งดอกไม้ที่ตนเองขาด เพื่อนำมาจัดให้ลูกค้ารายต่อไปในพรุ่งนี้....
.
.
.
.
.
"บราวนี่ กับ ลาเต้ของโต๊ะที่4นะลูก"
ริชาร์ดพ่อของทวีกเอ่ยบอกลูกชาย ก่อนจะยื่นถาดที่มีเค้กบราวนี่สีน้ำตาลอมดำที่ถูกโรยด้วยอัลมอนต์สีขาวงาดูแล้วน่ารับประทานมากไม่ต่างกับกาแฟที่วางอยู่ข้างๆ ถึงแม้ลาเต้แก้วนี้จะใส่แก้วกระดาษก็เถอะ แต่กลิ่นที่หอมโชยของนมอุ่นๆกับกาแฟที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวนั้นทำให้เสน่ห์ของกาแฟไม่ลดลงเสียเลย
"นี่บราวนี่ กับกาแฟลาเต้ครับ"
ทวีกวางถาดไว้บนโต๊ะไม้สีน้ำตาลแก่ พลางส่งยิ้มให้กับหญิงสาวมัดผมทรงทวินเทล ผมของเธอเป็นสีทองอมส้มราวกับน้ำผึ้งเลย นั่นเลยทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากๆ............ถ้าไม่ติดที่ว่าตอนนี้เธอทำหน้าเหมือนเบื่อโลกอยู่
"ขอบคุณค่ะ"
เมื่อเธอพูดจบเธอก็วางหนังสือลง ดูเหมือนว่าจะเป็นหนังสือติวสอบเข้าม.3 แหละ ซึ่งหากทวีกมองไม่ผิดที่หนังสือของเธอนั้นก็มีชื่อเขียนอยู่เช่นกัน รู้สึกจะเขียนว่า Tricia Tuck--........
ทวีกยืนยิ้มให้เธออีกครั้งก่อนที่จะกล่าวทักทายเธอ
"หนูนี่น่าจะเรียนเก่งจังนะ สงสัยพ่อแม่ต้องภูมิใจมากๆแน่เลย"
"ไม่ยุ่งได้ป่ะ"
...........เหวอสิ.....ทวีกที่ตอนนี้เหวอจนไม่รู้จะเหวอยังไงแล้ว ได้แต่ยิ้มแหยๆให้ อุตส่าห์ทักทายลูกค้าหน้าใหม่อย่างมีมารยาท แต่ถูกตอกกลับด้วยนิ้วกลางแบบนี้เป็นใครก็ต้องเหวอทั้งนั้นแหละ
"ขะ-ขอโทษนะครับ"
ทวีกเดินกลับเคาน์เตอร์ของเขาพร้อมกับท่องในใจตลอดว่า 'ใจเย็นๆไว้' ด้วยอาการสั่นสุดขั้วแต่เขาก็พยายามที่จะทำตัวให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขายังไม่อยากให้ครอบครัวเขากังวลเกี่ยวกับอาการคิดมากจนแทบบ้าของเขา
ความจริงแล้วเขาเป็นคนสมาธิสั้นนะ แถมเป็นตั้งแต่เกิดแล้วด้วย เขามักจะโวยวายจนสติแตกทุกครั้งเวลาเขาคิดมาก แต่พอเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มที่จะเก็บอาการเก่งมากขึ้น เพราะไม่อยากให้คนรอบตัวต้องมาห่วงเขา ......แต่ใช่ว่าเขาจะไม่แสดงอาการแบบนี้ออกมานะ....
"ทวีก ลูกค้ามารับของแล้วนั่น"
มือที่มาสะกิดที่ไหล่ทวีกนั้น ทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อยจากการตกอยู่ในภวังค์เมื่อครู่
"อ่ะ-โอเคครับ เดี๋ยวผมไปเดี๋ยวนี้แหละ"
เมื่อทวีกพูดจบก็ไม่รอช้าเดินไปหยิบช่อดอกกุหลาบสีแดงสดแล้วตรงดิ่งไปยังนอกร้านทันที แล้วก็พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างรถสีแดงยี่ห้อRed Crew คันงาม
"ทั้งหมดนี่กี่บาทหรอครับ"
ชายผมสีน้ำตาลอ่อนใส่ชุดสูทสีดำ ถอดแว่นกันแดดสีดำออก พลางส่งรอยยิ้ม(ที่ตัวคนยิ้มมันคิดว่ามันมีสเน่ห์)ให้ทวีก
"อ่ะ....เอ่อ....คุณไคลด์ โดโนแวน ใช่มั้ยครับ"
"แน่นอนหล่อระดับนี้แล้ว ฮ่าๆๆๆ"
ชายหนุ่มขี้เก๊กที่มีนามว่า 'ไคลด์' หัวเราะชอบใจ ซึ่งทวีกก็ได้แต่ยิ้มแหยๆให้กับความมั่นหน้าของเขา
"อ่า ลงชื่อเซ็นรับของตรงนี้ก่อนครับ ส่วนดอกไม้ช่อนี้ราคา 1000 ครับ"
"โอเค"
ชายที่ส่วนสูงไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่นักโน้มตัวลงมาเซ็นชื่อในสมุดที่ทวีกถืออยู่ จากนั้นจึงใช้มืออีกข้างรับเอาดอกกุหลาบช่อนั้นมา
"อืม.........ถ้าเป็นช่อดอกกุหลาบช่อนี้ เบเบ้ต้องชอบแน่"
"ถ้าเป็นคุณให้เขาก็ต้องดีใจอยู่แล้วครับ"
ทวีกพูดให้กำลังใจชายตรงหน้าเขาพร้อมส่งยิ้มให้ แต่ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้การกระทำของชายตรงหน้าอย่าเหมือนกับผู้หญิงที่เจอเมื่อครู่เถอะ
ไคลด์ส่งยิ้มกลับให้ทวีก ก่อนที่จะพูดต่ออีกว่า
"ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ.........อ่ะนี่ค่าดอกไม้ครับ"
ทวีกรับค่าดอกไม้มาพลางมองตามชายที่ขึ้นรถไป ถ้าห้เขาเดา ชายคนนี้กำลังจะขอผู้หญิงที่มีนามว่าเบเบ้แต่งงานเป็นแน่แท้
ทวีกเดินกลับเข้าร้านด้วยความโล่งอก ทันทีที่เขาเปิดประตูร้านเข้าไป พ่อของเขาก็กวักมือเรียกให้เขาเข้าไปหา
"มีอะไรหรอครับพ่อ?"
"คือพอดีว่าน้ำตาลที่จะใส่ลงในกาแฟให้ลูกค้ามันใกล้จะหมดแล้วน่ะ พ่อวานให้ลูกไปซื้อให้หน่อยสิ"
"ดะ-...........ได้ครับ......."
ทวีกยิ้มเจื่อนๆ พร้อมกับหน้าซีดที่รู้ว่าตัวเองต้องออกไปข้างนอก แต่เขาก็ไม่กล้าขัดพ่อเพราะว่ามันคือธุรกิจของครอบครัวเขา
ส่วนเหตุผลที่เขาไม่ค่อยอยากออกข้างนอกน่ะหรอ...........นั่นก็เพราะเขามีซิกเซ้นท์ที่สามารถมองเห็นวิญญาณได้น่ะสิ.......
ดังนั้นการที่เขาต้องออกไปข้างนอกนั้นแทบเรียกได้ว่าเป็นการตายทั้งเป็นเลย เพราะเขาต้องพยายามทำตัวให้กลมกลืนกับผู้คน ไม่วอกแวกเวลาเห็นวิญญาณ เพราะกลัววิญญาณจับได้แล้วปัญหาต่างๆจะตามมา ซึ่งนั่นมันกดดันมากเลยทีเดียวเชียว.......
................แถมแถวบ้านเขาอุบัติเหตุดันเกิดบ่อยอีกต่างหาก…………….
ทวีกจูงจักรยานคันสีเขียวแก่ที่จอดอยู่ข้างร้านออกมา แล้วจึงค่อยๆปั่นมันออกไปตามริมฟุตบาท..........แถมร้านมินิมาร์ทแถวบ้านเขาไม่มีอีกต่างหาก เลยต้องไปซื้ออีกถนนเลยก็ว่าได้
...........................ตลอดทางเขาเห็นวิญญาณคนตายมากมายลอยวนเวียนอยู่ตามถนน ซึ่งเขาก็พยายามขับเลี่ยงมาโดยตลอด
..........................จนในที่สุดก็ถึงมินิมาร์ท..........
เขาเลือกที่จะหยิบของที่คาดว่าต้องใช้มาเช่น แป้งสำหรับอบขนมเค้ก นม และน้ำตาลมา แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะหยิบกาแฟชนิดขวดมาด้วย
หลังจากชำระเงินเสร็จเขาก็เดินออกไปนอกร้านพลางเหม่อมองท้องฟ้าด้วยความรู้สึกที่อบอุ่น...........
“ฤดูใบไม้ผลินี่ดีจริงๆเละแฮะ”
ทวีกพูดพลางยิ้ม ก่อนที่สายตาของเขาจะไปเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่ทางซ้ายมือของเขา........
“????!!!!”
“ว่ะ-วิญญาณงั้นหรอ!”
ทวีกตกใจกับสิ่งที่อยู่ข้างๆเขาหนักมากจนทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาไม่เคยอยู่ใกล้วิญญาณระยะประชิดขนาดนี้มาก่อนเลย
วิญญาณตนนั้นเป็นชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา สวมหมวกไหมพรมสีน้ำเงิน กับ เสื้อโค๊ทสีน้ำตาลดำ
“หระ-หรือว่า......ฝันที่บอกเหตุเราเมื่อคืนจะหมายความว่า........วิญญาณตนนี้จะมาเอาชีวิตเรางั้นหรอ?!”
ตัวทวีกเริ่มสั่น ความกดดันเริ่มเข้ามาในใจของเขา แต่เขาก็ต้องผงะ เพราะเห็นว่าจู่ๆวิญญาณตนนั้นก็เมื่อจะขยับมาใกล้เขา ทวีกจึงเบือนหน้า และหันหลังหนี.............แต่ด้วยความกดดันและความอึดอัดใจที่เพิ่มมากขึ้น นั่นจึงทำให้เขาเผลอพึมพำออกมาเบาๆอีกครั้ง
“อย่ามาใกล้สิ...แบบนั้นมันน่ากดดันนะ.....”
แต่ทันที่ที่ทวีกพูดจบ วิญญาณชายตนนั้นก็หันมาที่เขาทันที.......แบบนี้มันทำให้เขาตกใจจนสะดุ้งเลยนะ! แย่ชะมัดเลย!
ทวีกตัวสั่นหนักกว่าเดิมเป็นสองเท่า จึงเผลอพูดออกมาเสียงดังว่า
“ยะ-แย่แล้วเขารู้ตัวแล้ว ......ขะ-เขามองมาที่ฉันด้วย! ไม่นะแบบนี้มันกดดันกันเกินไปแล้ว! ไม่สิมันต้องไม่ใช่แบบนี้ อั่ก กะ-กาแฟ กาแฟอยู่ไหน?”
มืออันเล็กและบางของทวีกรีบล้วงเข้าไปในถุงร้านสะดวกซื้อเพื่อควานหากาแฟ ที่เขาพึ่งเข้าไปซื้อมาเมื่อครู่ แล้วรีบกระดกดื่มมันอย่างรวดเร็วจนเหลือแค่ครึ่งขวด........
แต่แล้วทวีกก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อเขารู้สึกว่ามีลมพัดมากระทบที่ไหล่เขาเบาๆ ซึ่งเมื่อเขาเหลือบมองด้วยหางตาดูก็พบว่า วิญญาณชายคนนั้นพยายามเอามือมาแตะที่ตัวเขา
“อั่ก....อ๊ะ! ไม่นะ! ระ-เราต้องทำเป็นมองไม่เห็นสิ ใช่แล้ว! ต้องทำเป็นมองไม่เห็น .......ตะ-แต่ว่ามันกดดันมากเกินไปแล้ว........อ๊า!”
ทันที่พูดจบ วิญญาณชายตนนั้นก็มีท่าทีเปลี่ยนไป............เขาหยุดนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้อยู่.......................และเขาก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อวิญญาณตนนั้นพุ่งมาหาเขา
“นี่นายมองเห็นฉันได้ใช่มั้ย! คือว่าฉันอยากจะให้นายช่วยอะไ---------“
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!! อย่ามาใกล้ฉันนะเฟ้ย!!! อ๊า!ต้องหนีแล้ววววววว!!!!”
ฟางเส้นสุดท้ายขาดผึง ความอดทนที่เขามีทั้งหมดได้หายไปหมดแล้ว ทวีกตะโกนพร้อมกรีดร้องออกมาโดยที่วิญญาณชายตนนั้นยังไม่ทันจะพูดจบ ซึ่งเสียงที่ทวีกกรีดร้องออกมานั้นก็ทำให้คนที่อยู่ละแวกนั้นต้องหันมามองเป็นทางเดียวกัน
ทวีกไม่รอช้าวิ่งไปจูงจักรยานคันสีเขียวแก่ที่จอดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ แล้วรีบปั่นหนีเขาอย่างรวดเร็ว..........
“เฮ้! รอฉันด้วยสิ! ฉันก็แค่อยากให้นายช่วยเท่านั้นเองนะ!!”
เสียงทุ้มต่ำของวิญญาณชายหนุ่มตะโกนไล่หลังมา ซึ่งนั่นก็ทำให้ทวีกที่ว่าสติแตกแล้ว ยิ่งสติแตกเข้าไปใหญ่อีก จึงไม่วายที่จะตะโกนดังลั่นไปทั่ว
“อ๊าาาาาาาาา! อย่าตามมานะ! มันกดดันเกินไป อ๊าาาาากกกกกกกกกกกกกกกก”
“เฮ้ยยย!! นั่นถนนนะเฟ้ย รถก็วิ่งเต็มอยู่ อย่าไป เห้ยยยยยยย!!!”
อย่างที่บอก.........ตอนนี้ทวีกสติแตกไปแล้ว คงจะไม่ได้ยินเสียงเตือนนั่นหรอก
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด!!!
“เห้ย! ขับจักรยานแล้วดูตาม้าตาเรือบ้างสิเฟ้ย ไอบ้า!!”
เสียงบีบแตรรถ เสียงเบรก เสียงคนขับรถที่ด่าทอมายังทวีกที่ปั่นจักรยานอยู่ ก็ยิ่งดูเหมือนจะทำให้เขานั้นสติแตกยิ่งกว่าเดิมขึ้นอีก
...............แต่ก็ยังดีหน่อยแฮะที่ทวีกยังสมารถปั่นข้ามไปอีกฝั่งไปได้อย่างปลอดภัย…….
แต่ถ้าทวีกหันกลับมามองที่ถนนอีกซักหน่อยล่ะก็………………เขาก็คงจะได้เห็นว่าจากการกระทำของเขาเมื่อครู่ส่งผลให้ที่ถนนวุ่นวายขนาดไหน
ทวีกปั่นจักรยานต่อไปเรื่อยๆสักพัก จนอีกประมาณ10นาทีก็จะถึงร้านเขาแล้ว
“คงจะเลิกตามแล้วล่ะมั้ง…………..”
ทวีกพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหันหลังไปมอง…………………
“……………………………………………………….”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ก็บอกว่าอย่าตามมาไง ก๊าซซซซซซ!!!”
ผิดคาดเลย......................เพราะวิญญาณชายตนนั้นยังตามเขามาติดๆ ชนิดที่ว่าตื๊อไม่เลิกเลย นั่นจึงส่งผลให้ทวีกปั่นจักรยานเพื่อหนีเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก..............จนไม่ทันสังเกตเห็นก้อนหินก้อนเล็กก้อนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากจักรยานเขานัก....................
“เห้ย! ก้อนหิน! ระวัง”
โครม!!!
“โอ๊ยย เจ็บ”
“…………………………………”
“อ่ะ.....โอ๊ยเจ็บจัง..........”
เสียงทวีกโอดครวญขึ้นมา เมื่อจักรยานที่เขาปั่นนั้นล้มเพราะไปเหยียบเอาก้อนหิน............
แต่แล้วทวีกที่กำลังพยุงตัวเองขึ้นมาก็ต้องผงะ เมื่อเห็นวิญญาณที่ไล่ตามเขามาติดๆ ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“เฮ้! ไม่เป็นนะ เดี๋ยวฉันช่วยนายเอง”
“…………………………………….”
..................................ทวีกที่หวาดกลัวไม่ตอบอะไร เขาตัวสั่นแล้วพยายามไม่สบสายตากับดวงวิญญาณตนนี้พลางหันหลังแล้วเก็บของที่ตกกระจัดกระจายอยู่เข้าถุงร้านสะดวกซื้อ............
แต่ด้วยความตื่นตระหนกและความหวาดกลัวเลยทำให้เขาเผลอพูดออกมา เมื่อเขามองหาถุงน้ำตาลไม่เจอ
“อ๊ากกก ถุงน้ำตาล ถุงน้ำตาลอยู่ไหน! ถ้าเกิดถุงนั้นหายพ่อฆ่าฉันแน่!!”
“อยู่นี่ไง ถุงน้ำตาล”
วิญญายชายตนนี้พูดพลางชี้ไปที่ถุงน้ำตาลสีขาวบริสุทธิ์ที่วางอยู่ตรงหน้าเขา................ซึ่งระยะห่างเขาเขามันห่างกันแค่คืบ....
“อ๊ากกกกกกกก ก็บอกว่าอย่าเข้ามาใกล้ไง มันกดดันเกินไปแล้วววววว!!!”
ทวีกตะโกนออกมาด้วยความกลัว เลยเผลอปาถุงน้ำตาลใส่วิญญายชายตนนี้ แล้วก็วิ่งหนีไป โดยไม่ได้สนใจจักรยานกับถุงน้ำตาลที่เขาพูดว่าถ้าเขาทำหายเขาตายแน่ๆ...........ซึ่งวิญญาณของชายที่สวมหมวกไหมพรมก็ได้แต่ยืนงงกับการกระทำของทวีก
.............................แต่ซักพักวิญญาณตนนี้ก็นั่งยองๆพลางดูบางสิ่งที่ตกอยู่บนพื้น......
............................ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ
นามบัตรของทวีกนั่นเอง..................
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk with writer
ความคิดเห็น