ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The chosen one

    ลำดับตอนที่ #1 : One

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 62


    เคทยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ทอดสายตามองภาพวิวตรงหน้าที่คุ้นเคย สำหรับเธอภาพเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่คุ้นชิน แต่คงเป็นภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับคนที่ไม่เคยเห็นวิวเมืองทั้งเมืองในมุมสูงแบบนี้ ตึกสูงระฟ้าระรานตา มองลงไปเห็นรถรา ผู้คนตัวเล็กนิดเดียว ความวุ่นวายของเมืองใหญ่เป็นภาพที่เธอเห็นทุกวันจนชินตา ผู้คนต่างดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด สมัยนี้ใครๆก็ต่างแก่งแย่งชิงดีกัน ทำทุกทางเพื่อให้ตนเองได้ผลประโยชน์ ไม่มีใครอยากขาดทุน ไม่มีใครอยากเป็นรอง เคทเข้าใจดีเพราะกว่าเธอจะขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ก็ต้องใช้ทั้งความสามารถและความพยายามอย่างมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มากมายในเมืองใหญ่แบบนี้ การทำธุรกิจต้องใช้ศิลปะชั้นเชิงถึงจะทำให้กิจการอยู่รอด รวมถึงการเป็นที่ยอมรับนับถือในวงกว้าง ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งต้องใช้ความสามารถเป็นตัวพิสูจน์ เมื่อนึกย้อนไปก็เหมือนกับความฝัน เคทไม่อยากเชื่อว่าเธอจะมายืนอยู่บนชั้นบนสุดของตึกที่สูงที่สุดในเมือง ไม่ใช่แค่ยืนสิ....เป็นเจ้าของเลยถึงจะถูก 


    แต่ไม่ใช่จะมีแต่เรื่องดีเสมอไป ในโลกของธุรกิจ ทุกอย่างมีความเสี่ยง ยิ่งมีความเสี่ยงมากนั่นยิ่งหมายถึงความล้มเหลวที่จะตามมา ไม่ใช่ว่าเคทไม่เคยล้มเหลว เธอเคยมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว เคยถอดใจจะเลิกกิจการไปก็หลายต่อหลายหน แต่เอาเข้าจริงๆเธอก็ไม่เคยทำได้ เคทไม่ชอบคำว่าแพ้ ไม่ชอบความล้มเหลว ไม่ชอบให้ใครมองว่าเธออ่อนแอ ดังนั้นเธอจะหาวิธีแก้เกมส์พลิกสถานการณ์ให้จนได้ เธอเรียนรู้จากความผิดพลาด เมื่อผิดพลาดครั้งที่หนึ่งจะไม่มีครั้งที่สองตามมาเด็ดขาด เคทสอนตัวเองจนมาเป็นตัวเธอเองในทุกวันนี้


    เคทสะดุ้งเพราะเสียงเคาะประตูหน้าห้อง แอน...เลขาของเธอเดินเข้ามาในห้องพร้อมซองเอกสารในมือ 
    "ว่าไง แอน" 
    "เอ่อ บอสคะ หมายศาลค่ะ เพิ่งมาเมื่อกี้" แอนยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เคท เคทรับเอามาเปิดดู รู้สึกงุนงงไม่น้อย หมายศาลเรื่องอะไรกัน เธอไม่เคยโดนหมายศาลมาก่อนเลย เคทอ่านข้อความในกระดาษ คิ้วขมวดชนกัน สามสิบห้าล้าน! บ้าไปแล้ว เคทยัดกระดาษกลับเข้าไปในซอง แล้วรีบรุดออกไปจากห้องโดยไม่บอกไม่กล่าว ปล่อยให้แอนมองตามอย่างงงงวย

    เคทเปิดประตูเข้ามาในห้องของซาร่าโดยไม่เสียเวลาเคาะ ซาร่ายังไม่ทันเงยหน้าขึ้นมาจากจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า เคทก็โยนหมายศาลลงบนโต๊ะทันที 
    "หมอนั่นบ้าไปแล้ว คิดว่าเราจะยอมง่ายๆงั้นเหรอ หมอนั่นไม่มีทางได้เงินจากเราไปง่ายๆหรอกนะ ไม่มีทางหรอก!" เคทโกรธจนหน้าแดง เธอไม่เคยยอมใครง่ายๆเรื่องธุรกิจอยู่แล้ว ยิ่งมาเรียกร้องเงินจำนวนมากขนาดนี้ยิ่งไม่มีทาง
    "สามสิบห้าล้าน บ้าจริง" ซาร่ามองตัวเลขที่อยู่บนกระดาษ แล้วกดโทรศัพท์หามินดี้ บอกให้มาที่ห้องเธอด่วน
    "เคท เราต้องรีบหาทนายใหม่แล้วล่ะ" เคทพยักหน้า สีหน้ายังกังวล
    มินดี้เปิดประตูเข้ามาในห้อง เห็นเคทกับซาร่าหน้าตาเคร่งเครียด ซาร่ายื่นหมายศาลให้มินดี้ มินดี้อ้าปากค้างเมื่อเห็นตัวเลขบนกระดาษ ตั้งแต่เธอมาทำงานเป็นนักบัญชีของบริษัทนี้ไม่เคยโดนฟ้องเป็นเงินจำนวนมากขนาดนี้มาก่อน บริษัทซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่บริหารงานโดยเคทกับซาร่า และมีผลกำไรเป็นบวกมาตลอดหลายปี แต่ก็นั่นแหละการทำธุรกิจย่อมมีความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา แต่เงินจำนวนมากขนาดนี้มินดี้รู้ดีว่าเคทไม่มีทางจ่ายแน่นอน
    "ขอฉันไปหาสัญญาซื้อขายฉบับนั้นก่อน แล้วก็เช็คใบนั้นด้วย คุณจะยังใช้ทนายบริษัทเดิมไหม" 
    เคทส่ายหน้า บริษัททนายเดิมที่เธอเคยจ้างเพิ่งหมดสัญญากันไป เคทไม่ค่อยประทับใจบริษัทนั้นเท่าไหร่ ก็กะว่าจะหาบริษัทใหม่อยู่แล้ว มาเจอหมายศาลแบบนี้ยิ่งต้องรีบหาให้เร็วขึ้น และเคทก็รู้ดีว่าต้องไปหาใคร
    "เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับคริสตีน" 


    "เคท" คริสตีนยิ้มกว้างเมื่อเห็นเคทเดินเข้ามาหาในห้อง นานเท่าไหร่แล้วที่เธอไม่ได้เข้ามาหาคริสตีนที่ห้องแบบนี้นับตั้งแต่ที่เธอเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆและมีปัญหาเรื่องการฟ้องร้อง แม้ว่าออฟฟิสของคริสตีนจะใหญ่และหรูหราขึ้น แต่ความรู้สึกเดิมยังไม่เปลี่ยนแปลง เธอรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่ได้มาหาคริสตีน
    "ฉันมีเรื่องให้คุณช่วย" 
    คริสตีนหัวเราะเบาๆ "แน่นอนจ้ะที่รัก ไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่มาหาฉัน" 
    "ก็คุณไม่อยู่ให้ฉันมาหาเลยนี่นา" เคทตัดพ้อ คริสตีนไปอยู่ยุโรปกับสามีของเธอตั้งหลายปี แต่ก็ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของบริษัททนายของเธออยู่ หลังจากที่สามีเธอเสียชีวิตเธอก็ตัดสินใจกลับมาทำงานอย่างเต็มตัว
    เคทยื่นหมายศาลให้คริสตีนอ่าน
    "สามสิบห้าล้าน...คุณอยากให้ต่อรองเหลือเท่าไหร่" 
    "ห้าล้าน" คริสตีนมองหน้าเคทก่อนที่จะหัวเราะออกมา เคทไม่เคยยอมใครจริงๆ
    "หมอนี่เป็นใคร"
    "นายหน้าขายตึก... ลูกค้าของเขาฟ้องเพราะลูกค้าของฉันขายโดยไม่ได้ถือกรรมสิทธิ์โดยชอบธรรม" 
    คริสตีนพยักหน้า ถอดแว่นตาวางบนโต๊ะ แล้วกดโทรศัพท์เรียกใครบางคนให้เข้ามาหา
    "ฉันมีคนที่เก่งพอที่จะช่วยคุณได้ เดี๋ยวจะให้คุณคุยกับเขา แต่ไม่ต้องกังวล ฉันจะเป็นที่ปรึกษาให้"
    "แต่ฉันอยากให้คุณ..."
    "เขาเก่งนะเคท เชื่อฉัน" จะมีใครเก่งกว่าคริสตีนอีกเหรอ เคทสงสัย
    เสียงเคาะประตูหน้าห้อง หญิงสาวผมดำยาวประบ่า สวมสูทกระโปรงสีน้ำเงินรับกับผิวขาวเนียน และรองเท้าส้นสูงสีดำรับกับเรียวขาสวย เดินเข้ามาในห้อง สายตาเคทจดจ้องอยู่กับใบหน้าสวยอย่างไม่วางตาก่อนที่จะลากสายตาลงมาหยุดอยู่ที่เรียวขาคู่นั้น 
    "เคท นี่จูล เขาจะทำคดีนี้ให้คุณ" เคทเรียกสติกลับมา จูลยื่นมือมาจับทักทาย
    "สวัสดีค่ะ คุณเคท" เคทยื่นมือไปจับตอบ สัมผัสอุ่นจากมือบางทำให้เคทก็รู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น 


    "สัญญาซื้อขายมีช่องโหว่หลายที่เลยนะคะ เราอาจโดนเล่นงานได้ง่ายๆ" 
    เคทขมวดคิ้ว เธอรู้ว่าคดีนี้มีสิทธิ์แพ้ เธอพลาดเองที่ไม่ได้ตรวจสอบสัญญาซื้อขายให้ดี เซ็นต์อนุมัติผ่านไปโดยไม่ได้ตรวจสอบให้รอบคอบ ที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องสัญญาซื้อขายมาก่อน แต่เมื่อพลาดแล้วก็ต้องหาทางแก้ไข โมโหไปก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
    "แล้วคุณคิดว่าเราควรทำยังไง" 
    จูลเริ่มอธิบายข้อกฏหมายให้เคทฟัง แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจภาษากฏหมายสักเท่าไหร่ แต่การพูดจา น้ำเสียงของจูลช่างน่าฟังและทำให้เคทคล้อยตามอย่างไม่รู้ตัว  สายตาเคทไม่ได้มองที่หน้าจูลแล้ว แต่กลับกลายเป็นจับจ้องที่ริมฝีปากเรียว ก่อนที่จะลากสายตาผ่านคอระหงส์มาหยุดอยู่ที่เนินอกสวย มองสอดผ่านเสื้อสีขาวตัวในเข้าไป....
    "เคท" เคทสะดุ้งเบาๆ รีบเลื่อนสายตามามองที่หน้าคนพูด
    "คุณฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่าคะ" จูลทำหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เธอไม่ชอบเวลาที่ลูกความไม่สนใจฟังเธอ
    "ขอโทษที ฉันรู้สึกเหนื่อยๆน่ะ" เคทแก้ตัว 
    จูลถอนหายใจเบาๆ "ถ้างั้นพรุ่งนี้เราค่อยมาคุยกันต่อดีไหมคะ" 
    ตอนนี้สติเคทไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ต่อให้จูลพูดอะไรมาก็คงไม่เข้าหัวเธอ
    "โอเค พรุ่งนี้คุณมาหาฉันที่ออฟฟิสได้ไหม" จูลพยักหน้า ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้กลับไปเตรียมเคสให้ดีกว่านี้ก่อน เคทเป็นลูกค้า VIP ของคริสตีน คงไม่ดีแน่ถ้าเธอแพ้คดีนี้


    เคทโทรนัดซาร่าให้ไปเจอกันที่บาร์ร้านประจำ วันนี้ปวดหัวเรื่องโดนฟ้องร้องทั้งวัน รู้สึกอย่างดื่มให้หายเครียด เคทมาถึงร้านซาร่าก็นั่งรออยู่แล้ว สั่งเครื่่องดื่มที่เธอชอบรอไว้แล้วด้วย 
    "คริสตีนว่าไงบ้าง" ซาร่าถามพลางยื่นแก้วเครื่องดื่มให้เคท
    "คริสตีนให้คนอื่นมาทำแทน" ซาร่าขมวดคิ้ว ถ้าไม่ใช่คริสตีนเธอก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะชนะคดีได้สักเท่าไหร่ ใครๆก็รู้ว่าคริสตีนคือ the best
    "ทำไมล่ะ ฉันคิดว่าคริสตีนจะทำให้เสียอีก เขาเอ็นดูเธอจะตายนะเคท" 
    "เขาบอกมีคนที่เก่งที่จะช่วยได้ และเขาจะคอยเป็นที่ปรึกษาให้"
    "ใครล่ะ?" 
    "จูล..." 
    "พรุ่งนี้เขาจะมาที่ออฟฟิส เธอค่อยไปซักถามเขาก็แล้วกัน ฉันก็ไม่ได้รู้อะไรไปมากกว่าเธอหรอก" เคทยกแก้วดื่มรวดเดียวจนหมด ใจเธอคิดถึงใบหน้าของจูลกับเรียวขาสวยนั่นคิดถึงสิ่งที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิ๊ตสีขาวนั้น เคทรีบสลัดความคิดออก ไปกันใหญ่แล้ว นี่เธอเป็นลูกความของเขานะ เธอจะคิดอะไรแบบนั้นไม่ได้ อีกอย่าง จูลคงไม่ได้ชอบผู้หญิง ผู้หญิงอย่างจูลคงแต่งงานมีลูกมีครอบครัวไปแล้ว ไม่น่าโสดหรอก ตัวเธอเองก็ไม่ได้ต้องการจะมีความสัมพันธ์กับใคร ณ ตอนนี้ อยู่คนเดียวแบบนี้สบายใจกว่า



    เคทกับซาร่านั่งฟังจูลอธิบายเรื่องคดี เอาจริงๆเคทแทบจะไม่ได้ฟังอะไรสักเท่าไหร่ มัวแต่มองหน้าจูล เธอพยายามมองไปที่นิ้วนางข้างซ้าย แน่นอนว่าจูลสวมแหวนแต่งงานไว้ เคทรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ก็แน่อยู่แล้วว่าเขามีสามีแล้ว นี่เธอจะคาดหวังอะไรมากมาย เขาก็แค่เป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งที่น่าสนใจก็แค่นั้นเอง 
    "เคท คุณเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหมคะ" อีกครั้งที่จูลรู้สึกว่าเคทไม่สนใจฟังเธอเลย เคทเป็นอะไรนักหนา ถ้าไม่อยากให้เธอมาทำคดีให้ก็บอกมา เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถเทียบคริสตีนได้ แต่เธอก็กำลังพยายามทำคดีให้ดีที่สุด เธอเองก็ชนะคดีมามาก จบกฏหมายมาด้วยเกียรตินิยม ประวัติก็ดีไม่ได้มีอะไรเสียหาย เคทยังจะต้องการอะไรอีก 
    "ขอโทษที คุณว่าอะไรนะ" เคทพูดออกไปก่อนที่จะรู้ตัวว่าจูลเริ่มอารมณ์เสียแล้ว 
    "ช่างมันเถอะค่ะ เอาเป็นว่าอังคารหน้า เก้าโมง เจอกันที่ศาลนะคะ ที่เหลือปล่อยให้ฉันเป็นคนจัดการเอง" จูลเริ่มเก็บเอกสารใส่กระเป๋าก่อนที่จะบอกลาเธอกับซาร่า แล้วเดินออกจากห้องไป
    "เธอเป็นอะไรของเธอ" ซาร่าหันมาถามทันทีที่จูลเดินออกไป
    "เปล่านี่ ไม่ได้เป็นไร"
    ซาร่าย่นคิ้ว เคทดูใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว 
    "จูลเขาดูเก่งจริงนะ สวยด้วย สามีเขาก็เป็นอัยการเสียด้วย"
    เคทหันขวับมาหาซาร่า "เธอรู้ได้ไง" 
    ซาร่ายื่นมือถือมาให้เคทดู "ฉันกูเกิ้ลดูเมื้อกี้" 
    เคทหยิบมือถือมาดู เห็นภาพจูลถ่ายคู่กับสามีและลูก ดูเป็นครอบครัวสุขสันต์
    "แต่มีข่าวเม้าท์ว่าเขาเลิกกับสามีแล้วนี่" ซาร่าแย่งมือถือกลับไปเลื่อนดูข่าวกอสซิปก่อนที่จะส่งกลับไปให้เคท
    "ก็เรื่องของเขาไหม ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับเรา" เคทไม่รู้ว่าตัวเองจะดีใจไปทำไม เธอไม่ได้สนใจเขาสักหน่อย
    "แหม...ก็เขาเป็นทนายของเรา เราก็ต้องรู้เรื่องของเขาหน่อยไหม" 
    เคทยักไหล่ ซาร่าจะยังไงก็แล้วแต่เถอะ  จู่ๆเสียงท้องเธอก็ร้องขึ้นมาดังจนซาร่าได้ยิน เคทเหลือบมองดูนาฬิกา เที่ยงครึ่งแล้ว 
    "ไปกินข้าวกันเถอะ มีร้านใหม่มาเปิดไม่ไกลจากออฟฟิส ได้ข่าวว่าเชฟสวยด้วย ไปลองกัน" ซาร่านี่ก็ชอบเอาผู้หญิงสวยมาล่อเธอประจำเลย เห็นเธอเป็นคนยังไงกันนี่ แต่ก็นะ...ได้ผลทุกครั้งแหละ 


    ร้านที่ซาร่าจะพาเคทมา หยุดวันนี้ น่าเสียดายชะมัด ซาร่าบ่นอุบ อุตสาห์จะมาลองร้านใหม่ ทั้งสองเลยเปลี่ยนไปกินร้านประจำแทน ขากลับเคทขอแวะซื้อกาแฟก่อน ร้านกาแฟประจำก็คนแน่นทีเดียว เคทยืนต่อแถวข้างหลังผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง กลิ่นน้ำหอมของเธอหอมจนเคทต้องขยับตัวเข้าไปดมใกล้ๆ เธอชอบกลิ่นแบบนี้ กลิ่นไม่หวานเลี่ยนจนเกินไปแต่มีเสน่ห์ให้ชวนค้นหาอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวเจ้าของกลิ่นหอมขยับถอยหลังมาชนเคท ความจริงก็เธอนั่นแหละที่ขยับไปใกล้เขาจนเกินไป 
    "อุ๊ย ขอโทษค่ะ" หญิงสาวหันหน้ามากล่าว
    เคทพลันสบตาคนตรงหน้า ดวงตาสวยคม จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง ผมยาวสลวย และกลิ่นหอมรัญจวนใจนั่น เคทไม่พูดอะไรเอาแต่จ้องหน้าเขา หญิงสาวหันกลับไปรับเอากาแฟจากบาริสต้า แล้วเดินผ่านเคทออกจากร้านไป กว่าเคทจะรู้ตัวบาริสต้าก็ถามหลายครั้งแล้วว่าจะสั่งอะไร เคทรีบสั่งกาแฟก่อนที่คนที่ต่อคิวข้างหลังจะเริ่มบ่น กลิ่นหอมของผู้หญิงคนนั้นยังติดจมูกเธออยู่เลย เขาเป็นใครกันนะ ทำงานอยู่แถวนี้เหรอ หรือบ้านอยู่แถวนี้ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย เคทเดินออกมาจากร้านกาแฟแล้วก็ยังคงคิดถึงใบหน้าสวยของหญิงสาวนิรนามคนนั้น


    เคทกับซาร่ามาถึงศาลทันเวลาพอดี จูลนั่งรอพร้อมอยู่ก่อนแล้ว การว่าความเป็นไปได้ด้วยดี จูลเก่งมากทีเดียว สมกับที่คริสตีนบอก เคทนั่งฟังจูลว่าความแล้วก็รู้สึกชื่นชม วิธีการพูด การยืน การเดิน ดูสวยสง่าไปหมด ทุกสายตาจับจ้องมาที่จูล จูลดูมั่นใจมากทีเดียวจนเคทมั่นใจว่าเธอต้องชนะคดีนี้ จู่ๆใจเธอก็กลับไปคิดถึงใบหน้าสวยของผู้หญิงที่ร้านกาแฟเมื่อวันก่อน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครก็ไม่รู้ ชื่ออะไรก็ไม่รู้ รู้แต่เพียงว่ากลิ่นหอมของเขายังคงติดจมูกเธออยู่ เคทสลัดความคิดทิ้งไป หันกลับมามองจูลที่กำลังว่าความ กว่าวันนี้จะเสร็จก็ค่ำทีเดียว 
    "คุณเก่งมากจริงๆนะจูล" ซาร่าเอ่ยชมหลังจากเลิกศาล จูลยิ้มเบาๆ
    "คดียังไม่เสร็จนะคะ ต้องมาสู้กันอีกรอบ ฝ่ายนู้นเขาคงต้องกลับไปหาข้อแก้ต่างมาอย่างดี เราจะประมาทไม่ได้ค่ะ" 
    "ไปกินข้าวเย็นด้วยกันไหม" จู่ๆเคทก็โพล่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาทั้งจูลกับซาร่างงเลยทีเดียว
    "ฉันหมายถึง ไปทานข้าวกับพวกเราไหม ฉันกับซาร่าขอเลี้ยงขอบคุณที่คุณช่วยว่าความให้ในวันนี้น่ะ" จูลยังคงนิ่ง อึ้งไม่พูดอะไร 
    "ใช่ๆ ให้พวกเราเลี้ยงข้าวนะจูล เราจะได้ทำความรู้จักกันให้มากขึ้นด้วย" บางทีซาร่านี่ก็รู้งานดีเหมือนกันนะ เคทคิดในใจ แต่ตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจู่ๆก็ชวนเขาไปเสียดื้อๆอย่างนั้น 
    "ขอโทษด้วยค่ะ วันนี้ฉันมีนัดแล้ว" 
    "เสียดายจังเลย งั้นเอาไว้วันหน้าก็ได้ค่ะ" ซาร่าพูดพร้อมมองหน้าเคท เธอเริ่มสงสัยว่าเพื่อนของเธอกำลังคิดอะไรอยู่
    "งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ ไว้เจอกันค่ะ" จูลเก็บของก่อนที่จะโบกมือลาแล้วเดินออกจากศาลไป
    "เธอคิดอะไรกับเขาหรือเปล่าเคท" 
    "หืมมม คิดอะไร ไม่ได้คิดอะไรเลย" เคทรีบปฏิเสธ
    "ฉันไม่เชื่อเธอเลยแม้แต่คำเดียว"
    "ไปกินข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้ว" เคทลากแขนซาร่าเดินออกจากศาลก่อนที่ซาร่าจะซักไซ้อะไรเธอมากกว่านี้


    ขณะขับรถหาร้านอาหาร จู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก เคทเลยบอกซาร่าให้จอดรถหน้าร้านอาหารใกล้ๆ เป็นร้านอาหารที่ปิดวันนั้นนั่นเอง ร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ลูกค้าในร้านก็ไม่แน่นมาก ยังพอมีโต๊ะเหลืออยู่ พนักงานสาวน้อยพาทั้งคู่ไปที่โต๊ะ เคทกับซาร่าสั่งเมนูแนะนำของร้านกับไวน์แดง พนักงานสาวน้อยรับออเดอร์แล้วเดินเข้าหลังร้านไป เคทเหลือบหันไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ผมเผ้าเปียกปอน หญิงสาวหันมาสบตาเคทก่อนที่จะเดินเข้าไปหลังร้าน วินาทีนั้นเคทจำได้ทันทีว่าหญิงสาวคนนี้คือใคร หัวใจเคทเต้นแรงขึ้นมาทันใด ไม่นึกว่าจะเจอเขาอีกครั้ง เขาทำงานที่นี่หรอกเหรอ

    พนักงานเอาอาหารมาเสริฟ อาหารรสชาติดีทีเดียวจนซาร่าเอ่ยปากชมแล้วบอกให้พนักงานเรียกเชฟให้มาคุย ซาร่าเป็นนักชิมอาหารตัวยง เธอรู้จักภัตราคารร้านอาหารดีๆในเมืองนี้ทุกร้าน แต่ร้านนี้เพิ่งมาเปิดใหม่ซาร่าเลยยังไม่รู้จักเชฟ 
    สักพักเชฟก็เดินมาหาที่โต๊ะ เคทได้กลิ่นหอมคุ้นๆลอยเตะจมูกมาแต่ไกล
    "อาหารใช้ได้ไหมคะ" เคทเงยหน้าจากจานอาหารมามองเจ้าของเสียง เธอมองหน้าเขานิ่งไม่รู้จะพูดอะไร หญิงสาวในความคิดของเธอคนนั้นคือเชฟร้านนี้เองอย่างนั้นเหรอ เคทมองใบหน้าสวยที่เมื่อยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก ผมเผ้าที่ยังไม่แห้งดีถูกรวบขึ้นเป็นมวยหลวมๆไว้ข้างหลัง
    "อร่อยมากเลยค่ะเชฟ จานนี้มีอะไรบ้างคะ" ซาร่าสนทนาภาษาอาหารกับเชฟคนสวยอย่างออกรส ผิดกับเคทที่เอาแต่มองไม่พูดอะไร 
    "คุยตั้งนานยังไม่ได้ถามชื่อเชฟเลยค่ะ" 
    "แซนดร้าค่ะ" 
    "ฉันซาร่า แล้วนี่เคทค่ะ" แซนดร้ามองไปที่เคทซึ่งตอนนี้หลบตาแล้วจ้องไปที่จานอาหารแทน 
    "ขอบคุณที่ชอบนะคะ ขอให้ทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ" แซนดร้าพูดจบก็เดินกลับเข้าไปหลังร้าน เคทยังคงจ้องอยู่ที่จานอาหาร
    "เชฟสวยมากเลยเธอว่าไหม สมกับที่เขาล่ำลือกัน" ซาร่าหันไปมองเคทที่นั่งนิ่งไม่พูดอะไร บางทีเธอก็แปลกใจที่เพื่อนเธอเดี๋ยวก็พูดเดี๋ยวก็เงียบ พักนี้เคทชอบทำตัวแปลกๆ
    "อื้อ ก็สวยดี" 
    "แค่นั้นเองเหรอ ฉันว่าเขาสเปกเธอเลยนะเคท" 
    "เธอนี่ไปกันใหญ่ละ" เคทรู้ดีว่าซาร่าแหย่ ซาร่าเป็นคนมีอารมณ์ขันเสมอ 
    เสียงโทรศัพท์ของเคทดังขึ้น เคทมองดูเบอร์ปลายสาย เรเชล เคทไม่ได้คุยกับเขามาหลายเดือนแล้ว จู่ๆเขาโทรมาทำไมกัน เคทกดรับสาย
    "เรเชล มีอะไรหรือเปล่า" ซาร่าหันมามองเคทเมื่อได้ยินชื่อเรเชล
    "โอเค ใจเย็นๆนะ คุณอยู่ไหนเดี๋ยวฉันไปหา" เคทวางสายจากเรเชลแล้วหันมาบอกซาร่า
    "พ่อของเรเชลเพิ่งเสีย" 
    ซาร่าเอื้อมมือมาจับมือเคท เธอรู้ดีว่าถึงแม้เคทกับเรเชลจะเลิกกันไปสักพักแล้ว แต่ทั้งคู่ยังมีความรู้สึกดีๆให้กันอยู่ และเคทก็แคร์เรเชลมาก และตอนนี้เรเชลก็น่าจะต้องการเคท
    "เธอไปเถอะ เธอควรไปอยู่เป็นเพื่อนเขา" เคทพยักหน้า ซาร่าเป็นเพื่อนที่เธอรักมากที่สุดเพราะซาร่าเข้าใจเธอทุกอย่างและไม่เคยตัดสินเธอเลย เคทลุกจากเก้าอี้กำลังจะเดินออกจากร้านไป แซนดร้าเดินออกมาจากครัวพอดี ทั้งคู่สบตากันอีกครั้ง แซนดร้ายิ้มบางๆให้เคท จู่ๆความรู้สึกแปลกๆก็ก่อตัวขึ้นมาในใจเคท ความรู้สึกที่เธอก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลาจะมาคิดอะไรแล้ว เธอต้องรีบไปหาเรเชล เคทไม่ทันได้ยิ้มตอบแซนดร้าก็เดินหายไปเสียแล้ว 


    ################################################

    เป็นไงบ้างคะ ไม่รู้ว่าคนอ่านจะชอบกันหรือเปล่า 


















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×