ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My DarLinG. [เธอที่รัก] (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : My DarLinG : ChaPteR 2

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 48




    My  DarLinG.

    [เธอที่รัก]  โดย  [เงาใต้น้ำ]

    ChaPteR  2





    รถ  BMW  Series 7   แล่นโฉบเฉี่ยวเข้ามาด้วยความเร็วเกินปกติ  ทำให้คนที่อยู่บริเวณอาคารเรียนแบบยุโรป  เพียงแค่มองตามด้วยสีหน้าเซ็งสนิท  มีเพียงเด็กสาวเฟรชชี่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดด้วยความชื่นชม





    ภาติยะแทบจะกระโดดลงจากรถ  เพื่อวิ่งไปเปิดประตูรถอีกฝั่งให้น่านฟ้าได้ก้าวลงมา  โดยไม่สนใจเลยว่าภาพนั้นจะทำให้ใคร ๆ คิดไปไกลสักแค่ไหน  รู้แค่ว่าตัวเขาเองไม่เคยให้น่านฟ้าต้องลำบากทำอะไรเองมาก่อนเลยตั้งแต่รู้จักกันมา





    “เพิ่งโผล่มาได้รึไงวะไอ้เพื่อนเวร…”  เสียงทักดังมาแต่ไกล  ก่อนที่คนพูดจะเดินออกมาจากตัวอาคารที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงก้อนใหญ่





    ภาติยะหันไปทำตาขวางใส่คนเอ่ยทัก  แต่น่านฟ้ากลับยื่นมือของตนให้อีกคนพร้อมกับรอยยิ้ม  คนที่มาด้วยกันจึงได้แต่ทำหน้าเบ้อย่างเซ็งจัด  เมื่อเห็นเพื่อนสนิทจอมเวอร์ยกมือบางขึ้นจูบราวกับต้อนรับเจ้าหญิงเสียอย่างนั้น…





    “ไอ้นนท์  แกอย่าเวอร์นักได้มั้ยวะ  น่านฟ้าต้องสกปรกเพราะแกทุกวัน…ชั้นต้องเสียเวลาเพิ่มนะโว้ย  กว่าจะล้างตัวเค้าให้สะอาดได้”  ใบหน้าหล่อเหลาอมยิ้มน้อย ๆ อย่างสะใจเมื่อยามเหน็บแนมเพื่อนสนิทได้อย่างถึงพริกถึงขิง





    เดชานนท์เงยหน้ามองเพื่อนจอมกวนด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ  อยากจะเข้าไปต่อยมันสักหมัด  ถ้าไม่ทันคิดได้เสียก่อน…ว่าไอ้หน้าที่หล่อกว่าเขานิดหน่อยนั่น  ก็เพื่อนสนิทเขาเอง





    “สงสัยแกจะมัวแต่อาบน้ำให้น้องฟ้าของชั้นอยู่ล่ะม้างไอ้ภาต  แกถึงได้ลืมเอาหมาออกจากปากเน่า ๆ ของแกซะด้วย…ไอเพื่อนเลว”  เป็นคำพูดโต้ตอบที่เติมข่า  ตะไคร้  กระชายได้อย่างดุเดือดถึงใจทีเดียว  สำหรับคุณหนูคุณชายตระกูลผู้ดีอีกหลาย ๆ คนที่ได้ฟัง





    ดวงตาใสแป๋วเลื่อนจับจ้องใบหน้าเพื่อนสนิททั้งสอง  ที่เถียงกันคอเป็นเอ็นด้วยความสนใจ  เพราะสมองที่ช้ากว่าคนอื่นทำให้น่านฟ้าไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ทั้งสองคนพูดโต้ตอบกันอยู่  แต่แล้วก็มีบางคนที่ทำให้เขาละสายตาจากสองเพื่อนที่เถียงกันหน้าดำหน้าแดงได้…





    เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่ความสูงไล่เลี่ยกันกับน่านฟ้า  ยืนเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยไม่รู้จะทำตัวเช่นไร  ทำให้น่านฟ้าจับจ้องรุ่นน้องคนนั้นไม่วางตา  ดวงหน้าสวยหวานตากลมโตกับริมฝีปากอิ่มสีสดดูจับตาจับใจจนต้องสะกิดทั้งภาติยะและเดชานนท์ให้หันไปมอง…





    เดือนมหาวิทยาลัยปี 1  มองรุ่นพี่กลุ่ม  ‘ไตรเทวา’  ด้วยความประหม่า  เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะดวงซวยถึงขนาดจับพลัดจับผลูต้องมาเป็นน้องรหัสของรุ่นพี่เดชานนท์  เดือนมหาวิทยาลัยปี 3  ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเจ้าเล่ห์แสนกล  แถมยังมีเพื่อนสนิทเป็นถึงตะวันและดาวมหาวิทยาลัยปีเดียวกันอีกต่างหาก





    ++++++++++++++++++++++++





    มหาวิทยาลัยกอบเกียรติ  อยู่ในกลุ่มธุรกิจกอบเกียรติ  ซึ่งมีนายภาค  กอบกู้เกียรติ  บิดาผู้แสนอัจฉริยะของภาติยะเป็นหัวเรือใหญ่  โดยมหาวิทยาลัยแห่งนี้เน้นให้ความรู้ทางด้านการบริหารธุรกิจ  แม้จะเปิดสอนมากกว่า 20 สาขาวิชา  แต่ทุกสาขาวิชาก็ถูกส่วนผสมของความเป็นธุรกิจเข้าครอบงำและผสานกันอย่างลงตัว  ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมของลูกท่านหลานเธอ  เหล่าทายาทนักธุรกิจรวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าในตลาดที่อยากให้บรรดาลูกหลานของตนประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจเหมือนอย่างเจ้าของมหาวิทยาลัย





    เมื่อปีที่ภาติยะก้าวเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้นั้น  เขาเป็นที่จับตามองของทุก ๆ คนเนื่องจากทำคะแนนเข้ามาได้ในอันดับที่ 1  จนเป็นที่กังขาว่าเป็นความสามารถที่แท้จริง  หรือเป็นเพราะอิทธิพลของผู้เป็นบิดากันแน่  ก่อนที่ตัวเขาจะแสดงความสามารถของตนเองให้ทุกคนได้ประจักษ์จากผลงานวิชาการต่าง ๆ





    ภาติยะยังเป็นถึง  ‘ตะวันมหาวิทยาลัย’  ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใช้วิธีการลงคะแนนจากนักศึกษาทั้งหมด  โดยแต่ละคณะจะส่งตัวแทนสามคน  เพื่อเข้ารับการลงคะแนนคัดเลือกให้เป็น  ‘ตะวัน  เดือน  และดาวของมหาวิทยาลัย’  โดยตำแหน่งนั้นจะอยู่ติดตัวไปจนจบการศึกษาเลยทีเดียว





    ในปีของภาติยะนั้น  คณะบริหารธุรกิจ  เลือกตัวแทนเป็นชายหนุ่มทั้งหมด  โดยทั้งสามคนนั้นมีบุคลิกแตกต่างกันแบบที่ทุกคนก็คาดไม่ถึง  ถ้าว่ากันแบบนิยายแล้วก็เหมือนกับพระเอก  นางเอกและตัวอิจฉานั่นเอง…





    ตัวแทนจากคณะบริหารธุรกิจ  ได้รับการลงคะแนนจนกวาดตำแหน่ง  ‘ตะวัน  เดือน  และดาวมหาวิทยาลัย’  มาครองด้วยคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่ต้องวิตก  ก่อนที่ทั้งสามคนจะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน  จนทำให้ทุกคนได้รู้ซึ้งกันว่า…





    “มันเลือกจับกลุ่มกันเพราะความบ้า ๆ บอ ๆ นั่นแหละ”





    ++++++++++++++++++++++++





    “น้องรหัสแกว่ะนนท์…เดือนปีนี้นี่หว่า  จำได้ตอนขึ้นเวที…คนที่อายจนสะดุดสายไมค์ล้มไง  ชั้นบอกพวกนั้นแล้วให้ใช้แบบไร้สาย  แต่พวกมันบอกว่าแกลืมซื้อถ่าน…น้องมันต้องเซ่นความงี่เง่าของพี่มันเลยเห็นมั้ย”  ภาติยะยักคิ้วให้เพื่อนอย่างสะใจ  ลืมสนใจคนที่ถูกพาดพิงถึงที่หน้าแดงเป็นมะเขือเทศสุกด้วยความอายไปเสียสนิท





    เดชานนท์แทบอยากจะเข้าไปขย้ำคอเพื่อน  เมื่องัดเอาเรื่องเล็กน้อยมาเกทับเขาต่อหน้าน้องรหัสที่อุตส่าห์หลงเข้ามา…ทั้ง ๆ ที่อยู่มาจนปี 3  ก็เพิ่งมีน้องรหัสกับชาวบ้านเค้านี่แหละ  คิดแล้วก็โมโหเหตุผลที่ผ่าน ๆ มา  ที่บอกว่าเพราะเขามันบ้าเกินเหตุกลัวจะดูแลน้องรหัสไม่ได้…เพราะฉะนั้นอย่ามีมันเลย





    ถ้าเดชานนท์ไม่ยื่นคำขาดจะลาออกจาก  ‘เดือนมหา’ลัยปี 3’  ก็คงไม่มีรุ่นน้องตกถึงท้องเหมือนอย่างวันนี้หรอก  นี่คงเลือกเดือนปีนี้มาให้  เพราะความคิดที่ว่าเป็นเดือนเหมือนกันก็คงจะไม่ต่างกันกระมัง





    มือใหญ่วางบนไหล่บางเบา ๆ  ดวงตาคมเป็นประกายระยิบระยับ  จนน่าตกใจสำหรับเพื่อนฝูงและคนรอบข้าง  ที่มองเห็นออร่าเป็นภาพคล้ายสุนัขเห็นไอศกรีม  แต่นั่นไม่ได้ทำให้เดชานนท์สนใจสิ่งรอบตัวเท่ากับเด็กหนุ่มตัวเล็กตรงหน้า  





    “พี่ชื่อเดชานนท์  เรียกพี่ว่าพี่นนท์ก็ได้น้อง…แล้วเราล่ะชื่ออะไร  อยู่ปีไหน”  เดชานนท์ถามอย่างสนอกสนใจ  แต่เพื่อนสนิทจอมกวนหัวเราะเสียงดังก๊าก





    “ไอบ้านนท์…เพิ่งเคยมีน้องรหัสหรือไงวะ  น้องเค้าก็ต้องอยู่ปี 1 สิวะ  โอ้ย…ตลกว่ะ”  ภาติยะหัวเราะอย่างสะใจตามเคยที่ได้เหน็บแนมเพื่อนฝูง  โดยลืมไปว่าตัวเองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้มีน้องรหัส  เพราะเคยทิ้งน้องรหัสมาสนใจแต่น่านฟ้าจนน้องรหัสร้องไห้ไปฟ้องสภานักเรียนมาแล้ว





    เดชานนท์ที่เริ่มหมั่นไส้เพื่อนรักเพื่อนแค้นดึงน่านฟ้าเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ตัวเขา  เพราะกลัวอีกฝ่ายจะติดเชื้อบ้าจากเพื่อนปัญญาอ่อนบวกโรคจิต  จนตัวน่านฟ้าขยับเข้าชิดกับรุ่นน้องปี 1  ทั้งสองจ้องมองกันและกันไม่วางตา





    “ผมชื่อภัทร  เรียกภัทก็ได้ครับพี่นนท์”  เสียงใสเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนตั้งใจจะส่งให้คนตรงหน้าที่ตัวเท่า ๆ กันมากกว่า





    น่านฟ้าส่งยิ้มหวานตอบรุ่นน้องไปอย่างมีไมตรี  ก่อนจะเงยหน้ามองเดชานนท์อย่างสนใจว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรต่อ  ยังไม่ทันได้รู้เรื่องตัวเขาก็ถูกภาติยะดึงกลับไปอยู่ใกล้ ๆ เสียก่อน





    เดชานนท์มองอย่างหมั่นไส้  ก่อนจิกกัดเพื่อนสนิทอีกรอบ  “จะหวงอะไรนักหนาวะ  เพื่อนกันนะโว้ย…ชั้นไม่แย่งเมียเพื่อนหรอกน่า”





    “… …”  ภาติยะพูดอะไรไม่ออกได้แต่อ้าปากค้างกับความปากเก่งของเดชานนท์





    “นี่พี่น่านฟ้า  จะว่าไปก็นะ…เห็นเด็ก ๆ แบบนี้แต่ว่าเรียนช้าน่ะ  เป็นรุ่นพี่เรา 5 – 6 ปีได้มั้งภัท  แต่ช่างเหอะ  เรื่องนั้นไม่ต้องสนใจมาก  พี่แค่อยากบอกเอาไว้  ส่วนไอนี่เห็นหน้าตาดี ๆ แต่นิสัยมันเลวจัด  มันชื่อภาติยะ  เรียกพี่ภาตหรือไอบ้าก็ตามแต่ใจ”  ตอนหลังคนพูดยิ้มอย่างสะใจ  แถมแลบลิ้นใส่ภาติยะอีกต่างหาก





    ภาติยะชักเบื่อขึ้นมา  เขาโบกไม้โบกมือเหมือนไม่เล่นแล้ว  “พอก่อนดีกว่าว่ะ  เหนื่อย…แต่แกจะเลี้ยงต้อนรับน้องรหัสที่ไหนวะ  รู้สึกชาวบ้านเค้าจะเลี้ยงฉลองกันไปเกือบหมดแล้วนี่หว่า  เดี๋ยวส่งรายงานช้านะโว้ย  ผิดธรรมเนียมมหา’ลัยอีกล่ะยุ่งเลย”





    เดชานนท์ทำท่าเซ็งเมื่อนึกถึงธรรมเนียมปฏิบัติของสภานักศึกษามหาวิทยาลัย  ที่รุ่นพี่จะต้องเลี้ยงรับรุ่นน้อง  และส่งรายงานบันทึกการสานสัมพันธ์นั้นให้ทางสภานักศึกษาได้ตรวจสอบตามกำหนดเวลาไม่เกิน  3  เดือนนับจากเปิดภาคการศึกษาใหม่





    “แล้วจะหากลุ่มได้มั้ยวะเนี่ย  เห็นว่าบริหารฯ ไปกันหมดแล้วนี่หว่า…เออ! จริง ๆ ไปกับแกกับน่านฟ้าก็ได้นี่หว่า  แต่ว่า…จะไปไหนกันดีวะ  วันจันทร์นี้หยุดวันรัฐธรรมนูญ  วันอังคารอาจารย์ประชุมวิชาการนี่หว่า  ดีเลยเราไปเที่ยวรีสอร์ตแม่ชั้นมั้ย  สบายดีออก”  เดชานนท์นึกได้ก็ยิ้มกริ่ม  ก่อนจะนึกขึ้นได้หันไปถามรุ่นน้องที่ยืนเงียบอยู่  “ไปได้มั้ยเนี่ยภัท…3 วัน 2 คืนแล้วกัน”





    ภัทรพยักหน้ารับเพราะตัวเขาก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว  มีรุ่นพี่ดูแลอยู่ตั้ง  3  คน  ที่บ้านคงไม่ว่าอะไร  ส่วนภาติยะนั้นรับรู้เรียบร้อยว่าเขาและน่านฟ้าจะต้องไปด้วย  ไม่อย่างนั้นก็จะผิดระเบียบสภาฯ อีก…





    จริง ๆ แล้วการเลี้ยงต้อนรับต้องมีรุ่นพี่ – รุ่นน้องตั้งแต่สองคู่ขึ้นไป  และหากเป็นชายหญิงจะต้องมี 5 คู่ขึ้นไปด้วยซ้ำ  แต่ส่วนใหญ่จะจัดไปเป็นสาขาวิชา  ยกเว้นพวกที่ตกหล่นอาจจะต้องไปรวมกับสาขาวิชาหรือคณะวิชาอื่น





    “เออ…งั้นเดี๋ยวคืนวันศุกร์ไปค้างด้วย  แล้ววันเสาร์เช้าไปรับภัท  ไปรถตู้แล้วกันนะสบายดี…”  เดชานนท์วางแผนเสร็จสรรพ  “เอาล่ะวันนี้ไปเรียนกันก่อนดีกว่า  แล้วเจอกันภัท”





    มือใหญ่วางปับลงบนศีรษะเล็กของรุ่นน้อง  ก่อนหันหลังเดินจากไปพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสองคน  เสียงต่อล้อต่อเถียงดังลั่นไปตามทางเดิน  เมื่อทั้งเดชานนท์และภาติยะเกิดลับคมฝีปากกันอีกรอบ  เหมือนจะกลัวมหาวิทยาลัยขาดสีสัน…





    ภัทรมองตามรุ่นพี่ทั้งสามคนที่เดินจากด้วยรอยยิ้ม  ดูเหมือนว่าการได้เป็นน้องรหัสของคนดังก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก  เด็กหนุ่มเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างมีความสุข…ชีวิตนี้อะไรก็ช่างสดใสราบรื่นดีเสียจริง





    สายตาริษยามองตามเรื่องราวที่เพิ่งจะเกิดขึ้นด้วยความแค้นใจ  บางครั้งสิ่งที่ต้องการก็ยากนักที่ได้มา  แต่อย่างน้อยหากมีโอกาสก็คงไม่มีวันจะปล่อยให้สิ่งนั้น…หลุดออกไปจากมือ





    ChaPteR  2  --  EnD



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×