ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องสั้น ตามใจฉัน [yaoi_boy's love]

    ลำดับตอนที่ #3 : Toilet Ghost... (NC15 เบาะ ๆ บาง ๆ พอแล้ว)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 50


    สำนวนอาจจะเพี้ยนไปบ้างนะคะ เพราะดองไว้จนลืมอารมณ์ตอนโน้นหมดแล้ว
    ส่วนเนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากค่ะ  แค่เขียนสนองนี๊ดส์เฉย ๆ ไม่มีไคลแม๊กซ์ ไม่มีประเด็น ค่ะ  อ่านไปขำ ๆ 
    เครนะ  ^^

    ...............................................................................................................................................................................

    Toilet Ghost.....

              ผมยืนอยู่หน้ากระจก  สายตามองตรงไปยังภาพสะท้อนของประตูสีครีมหลายบานที่เรียงรายอยู่เบื้องหลัง 
    ความกระสับกระส่ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยก่อนหน้านี้  กลับออกอาการมากจนผิดปกติเมื่อไล่สายตาไปพบกับประตูบานในสุดซึ่งปิดอยู่  
    ห้องที่กว้างกว่าห้องอื่น ๆ เล็กน้อยอยู่ลึกเข้าไปด้านในติดกับกำแพงหินอ่อนสีดำสนิท

          ห้องซึ่งผมไม่เคยเข้าใช้  เพราะค่อนข้างมืดแม้จะเปิดไฟแล้วก็ตาม  ผมค่อย ๆ เอี้ยวตัวไปมองอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
    เม้มริมฝีปากแน่นอย่างตัดใจ  ก่อนจะหันหลังก้าวเข้าไปหามันอย่างช้า  ๆ  พร้อม ๆ กับบทสนทนาที่ยังคงค้างคาอยู่ในสมองมาตั้งแต่เมื่อวาน

              "เฮ้ย!  ก้อง  แกชอบไปใช้ห้องน้ำชั้นล่างของตึกตอนเช้า ๆ ใช่มั๊ยวะ"  
    พี่วิทย์รุ่นพี่ในแผนกซึ่งทำงานอยู่ที่นี่มาหลายปีทักขึ้นขณะที่เรากำลังตั้งวงก๊งเหล้ากันอยู่ในตอนเย็น

              " ครับพี่.....พอดีผมต้องออกจากบ้านแต่เช้าหนีรถติดน่ะพี่  เลยต้องมาอาศัยห้องน้ำที่นี่แทน"
    ผมตอบกลับไปยิ้ม ๆ

              " แล้วเอ็งไม่กลัวหรือวะ" 
    พี่ก้องซึ่งตอนนี้คงจะกึ่ม ๆ ได้ที่  แสดงสีหน้าสงสัยแบบเห็นแล้ว   ...กวนอวัยวะเบื้องต่ำมาก ๆ

              " กลัวไรอ่ะ... ถึงมันจะเงียบไปหน่อยแต่ก็นั่งสบายดีนะ  มีน้ำฉีด  มีทิชชู่ฟรี  เหอะ...ดีจะตาย" 
    จะให้กลัวไรฟระ  นั่งนานแค่ไหนก็ได้สบายดี  กรูชอบ   ผมคิดในใจอย่างงง ๆ......
    จะให้กลัวอี้ตัวเองเหรอไงเนี่ย

              " ไอ่วิทย์มันหมายถึง  เอ็งไม่กลัวผีเหรอไง " 
    พี่พงษ์แหลมหน้าเข้ามาไขข้อข้องใจของผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง  แต่นั่นกลับทำให้ผมหลุดหัวเราะคิก  
    .....ขำว่ะ......กลัวผี

              " เหอะ เหอะ 5555 อะไรนะพี่....  ผีเนี่ยนะ   วู้...หลอกเด็กเหอะพี่ " 
    ผมหัวเราะพร้อมกระดกแก้วโฮกเดียวเกลี้ยงฉาด

              " ไอ่สาดดด....  กรูพูดจริง ๆ นะเว้ย  เอ็งเพิ่งมาอยู่ไม่นาน  ไม่รู้ละซิว่า...  ห้องน้ำชั้นล่างของตึกเนี่ย  มันมีประวัติ 
    เคยมีคนฆ่าตัวตายมาแล้วนะเอ็ง"      ผมยังนั่งอมยิ้มฟังแกเล่าต่อ แต่ใจยังไม่เชื่อน้ำมนต์แกสักเท่าไหร่

              "ไอ่คนนั้นน่ะนะ  มันเป็นเกย์กรีดข้อมือตัวเอง  เพราะอกหักรักคุด.....  หูย  กรูยังจำได้วันนั้นยังมาช่วยเขาแบกศพเลย  
    ผ่านมา 2 ปี....  โคตรเฮี้ยนเลยเอ็งเอ๊ย"  พี่พงษ์เล่าอย่างออกรสออกชาติทำหน้าราวกับระลึกความหลังอันเจ็บปวด  
    สีหน้าอย่างกับตาเฒ่ากำลังเล่าถึงลูกสาวที่หนีตามผู้ชายยังไงยังงั้น
    เมื่อเห็นเพื่อนพงษ์เข้าสู่ห้วงคำนึงส่วนตัวไปเสียแล้ว พี่วิทย์จึงรับลูกไซโคผมต่อ

               " ก็ตอนนี้เอ็งเห็นใครมาเข้าห้องน้ำ  ตอนเช้า ๆ เหมือนเอ็งบ้างไหมเล่า....  ไม่ค่อยจะมีใช้ไหมล่ะ  ก็เพราะมันเฮี้ยนไง  
    เจอกันเกือบทุกราย....  ผู้ชายน่ะของโปรดมันเลย "  พี่วิทย์กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง  แม้หน้าแกจะแดงก่ำ 
    แต่มือที่กำแก้วยังมั่นคงเหนียวแน่น จนผมอดที่จะหวั่นไหวคิดตามเรื่องราวที่แกเล่าไม่ได้

              นั่นซินะ  ช่วงเช้าอันแสนสงบในห้องน้ำของผมไม่ค่อยมีใครมารบกวนจริง ๆ ด้วย  แต่ผมก็คิดว่านั่นเป็นเรื่องธรรมดา
    ของช่วงเวลาเช้าตรู่  ซึ่งพนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่ยังไม่มีใครเดินทางมาถึง  คงมีแต่ไอ้บ้าอย่างผมเท่านั้นแหละ 
    ที่แหกขี้ตามาแต่เช้าเพื่อหนีสภาพรถติดเป็นพื้นแพเต็มถนน   

              แต่จะด้วยความเคยชิน  หรือความถูกใจในความสงบเงียบก็แล้วแต่  ผมก็ไม่เคยนึกไปถึงเรื่องลี้ลับมาก่อนเลย 
    คิ้วของผมเริ่มขมวดเครียดอย่างใช้ความคิด  ก่อนที่จะเอ่ยถามออกไป

              " แล้ว...มันห้องไหนเหรอพี่ "

               **********************

              ครับ   ตอนนี้ผมกำลังก้าวเข้าไปใกล้ห้องน้ำเจ้าปัญหานั้น  ใกล้เข้าไปทุกที... ทุกที   โดยบังคับช่วงขาแข็งแกร่งของตัวเอง
    ดึงจังหวะการก้าวให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้...   แต่สุดท้ายผมก็มาหยุดยืนอยู่หน้าบานประตูสีครีมห้องริมในสุดนั้นจนได้

              เสียงกดน้ำดังขึ้น  ส่งผลให้ผมชะงักมือที่กำลังจะผลักเปิดประตู  แถมยังส่งให้ผมถอยมาหนึ่งก้าวเพื่อตั้งหลัก
    เสียงกดน้ำอีกครั้งอย่างกับจงใจกลั่นแกล้งหัวใจดวงน้อย ๆ ของผม   ยอมรับเลยครับว่าตอนนี้ใจผมเต้นตึกตัก  แรงจนผมรู้สึกได้
    มือเย็นเฉียบเอื้อมไปแตะบานประตูนั้นแผ่ว ๆ พลางคิดถึงในบางเช้าที่ผมจะเห็นห้องนี้มีคนใช้บริการ  ยังรู้สึกดี ๆ ว่าอย่างน้อย
    ก็มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกัน  แม้ผมจะไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย เพราะเขาจะเข้าทีหลังผม  และจะออกจากห้องน้ำทีหลังผมเสมอ

              และวันนี้ก็เช่นกัน  หลังจากที่ผมเข้าไปทำธุระในห้องน้ำตามปกติทุกวัน  เสียงรองเท้าหนังย่ำกระทบพื้นเป็นจังหวะก็ดังขึ้น

              " แต๊ก... แต๊ก... แต๊ก...                      แอ๊ดดด....ด....ด...ด..ดด   ปึง" 
              เสียงปิดประตูตามหลังดังขึ้นพร้อมเหงื่อเม็ดน้อย หยดร่วงผ่านผิวแก้มอันสากกร้านของผม 
    ผมเงยหน้าขึ้นจ้องบานประตูแล้วตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวในวินาทีนั้น (หรือเปล่า)  

    .................  วันนี้ขอพิสูจน์หน่อยเถอะว๊า..ว่าคนหรือผี  เผื่อว่ากรูจะได้เตะรุ่นพี่ก็งานนี้ละวะ................

              ...........................................................................

              หลังจากที่ถอยมาหนึ่งก้าวเพื่อทำใจได้แล้ว  ผมรวบรวมกำลังใจเฮือกสุดท้ายขยับมือจะดันประตู  จู่ ๆ ไปในห้องน้ำก็ดับวูบ....  

              อิ๊บอ๋ายแหลว  ทำไมต้องมาดับตอนนี้ด้วยว๊า   ขณะที่ผมกำลังละล้าละลังอย่างร้อนรนอยู่นั้น  ประตูก็ถูกเปิดออกจากภายใน
    ..........อย่างแรง



               " เหวออออ.......เว้ออออ "  เสียงผมเองครับ   แหะ..แหะ...  โธ่... จู่ ๆ เป้าหมายก็ทะลึ่งพรวดออกมาแบบนี้
    ใครจะไม่ตกใจละครับ    ส่วนผมตอนนี้นะเหรอ....  ไถลถอยไปซุกตัวอยู่กับอ้างล้างมือด้านหลังจนตัวกลมดิก  
    ทันใดนั้น.......ไฟในห้องน้ำก็กลับมาสว่างพรึ่บ....       
    .............................
    ..............................'เงียบ'...........  ทำไมเงียบอ่ะ

              ความวังเวงเข้าโอบล้อมครอบคลุมบรรยากาศจนผมไม่กล้ากระดิกตัว   นานเท่าอึดใจก่อนที่ผมจะค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นมอง
    คาถาบูชาคุณพระคุณเจ้าถูกสวดอย่างเงียบ ๆ แบบไม่ขยับปาก  กลัวเหลือเกินครับว่าผมจะต้องกลายเป็นพระเอกหนังผีเกาหลี
    ต้องได้สวัสดีกับไอ้เจ้าตัวหน้าขาว  ตาลึกโหล โบ๋ดำ   เหอ...เหอ.... ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
    ผมคงต้องได้บวชโดยไม่ต้องรบกวนหลวงพ่อปลงผมให้แน่ ๆ 

    ********************************************************

     ครับ....เป็นไปตามคาด

              ในนาทีถัดมาเมื่อดวงตารับภาพตรงหน้าได้ชัดเจน  กระผมมีอันต้องแข็งค้างในท่าค่อมตัวเกาะอ่างทั้งอย่างนั้น
    ดวงตาที่หรี่เล็กเพื่อแอบมองมีอันต้องเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนก  
    พุธโธ  ธัมโม  สังโฆ  คุณพระคุณเจ้า  เจ้าทุ่งเจ้าท่าเจ้าป่าเจ้าเขา.... ได้โปรด ๆ



              ได้โปรด.....อย่าเพิ่งสำแดงอิทธิฤทธิ์ช่วยผมปัดเป่าวิญญาณร้ายในตอนนี้เลยนะคร๊าบ........  ผมยินดีเงยหน้ารับกรรม
    ฐานที่ลบหลู่ความเชื่อของรุ่นพี่ทั้งสองคนนั้นด้วยความสำนึกในความผิดครับผม   หากสิ่งศักสิทธิ์เมตตา ช่วยส่งวิญญาณผม
    ให้ไปสู่สุคติภพ  ไปในที่ช๊อบ ที่ชอบ  หลังจากที่ผมถูกผีเฮี้ยนตรงหน้า

    ล้วง...ควัก... หัวใจของผมไป     หรือหากถ้ามันจะ....

    ดูด.....  กัด.... เลีย....            ........เลือดของผม  

    ก็ช่วยเก็บกวาดอย่าให้มันไหลเลอะเทอะศพไม่สวยก็พอครับ

              "เอ่อ...."  เสียงทุ้มหวานหวิว เล็ดลอดริมฝีปากแดงที่ระเรื่อเหมือนเพิ่งปาดมาด้วยน้ำยาอุทัยชนิดหลอดพกพา
    ดวงตากลมใสภายใต้แพขนตายาวเบิกกว้างแสดงความตื่นตระหนกไม่แพ้ผม  ท่าทางผีตัวนี้จะขี้ตื่นนะเนี่ย.... ดูซิ
    ทำท่าอย่างกะเจอผีซะเอง....  เออ... เอ๊ะ!?   แล้วทำไมผี... ต้องทำท่าตกใจใส่กรูด้วยฟระ  
    จากตะลึงค้างตอนนี้ก็เข้าโหมด...งงงัน  กันละครับ

              " เอ่อ....ขอโทษนะครับ "  อ๊ะ...คร๊าบผม  เสียงหวานจังคร๊าบบบบบ

              " คือผมตกใจไปหน่อย   ที่จู่ ๆ ไฟก็ดับน่ะครับ " ริมฝีปากแดงเรื่อกำลังฉีกยิ้มเก้อ ๆ ให้ผมด้วยท่าทีขัดเขิน....ฮุ  ผีเขิน

              " เอ่อ.... ผมทำให้พี่ตกใจมากเหรอครับ" ก็ใช่น่ะเซ่..... ตกใจมากเลย ผีไรวะน่ารักอิ๊บอ๋าย   ร่างตรงหน้าผงกหัวขอโทษขอโพยผมปะหลก ๆ 
    จนสักพักผมจึงสำเหนียกได้  ว่าตัวเองกำลังค้างคาอยู่ในท่าที่ไม่สง่าราศีเอาซะเลย   โหเสียฟอร์ม... วัยรุ่นเซ็ง

              เมื่อสำนึกได้ดังนั้นชายชาติอาชาไนยอย่างไอ้ก้อง  จึงทะลึ่งพรวดยืดตัวจนเต็มความสูง ให้รู้กันไปว่าถึงผมจะกลัวผี
    แต่ก็มีดีที่รูปล่ำ  เอ๊ย!?....รูปร่าง  ละกันหละ       สูงเท่ห์....กินขาดครับ

    …………………………………………………………………………………..

     

                    จวบจนอัตราความเสี่ยงจากอาการหน้าแหกแบบหมอปฏิเสธไม่รับแอดมิดผ่านพ้นไป   ผมจึงค่อยได้มีโอกาสทำความรู้จักกับน้องผี   น้องเขาชื่อพีครับ  พีระกานต์  โปรแกรมเมอร์หนุ่มหน้าสวยที่ดูจะอ่อนวัยกว่าผมเล็กน้อย  บริษัทน้องเขาอยู่ชั้น 12 ของตึก  สาเหตุที่ชอบมาเข้าห้องน้ำข้างล่างก็เหตุผลเดียวกับผมนั่นล่ะครับ  แหม.. พรหมลิขิตบันดาลชักพา  รสนิยมเราสองช่าง... ตรงกัน

     

                    บางทีถึงออฟฟิศจะเปิดแล้วผมก็ชอบมาใช้ที่นี่อยู่ดี  ไม่ต้องรำคาญคนเคาะประตูเร่งน่ะครับพี่ น้องพี....ของผม  บอกด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย  ส่องกระจกพลางล้างมือไปพลาง   ไอ้ผมก็มองเพลินดูหน้าใส ๆ นั้นเอียงซ้ายเอียงขวาหามุมหล่อ  ก่อนที่เจ้าตัวจะคว้าหวีซี่อันเล็ก ๆ มาปาดซ้ายป่ายขวาจัดทรงผมซอยทันสมัยให้เข้ารูป.....   แน่ะ.....สำอางค์ใช่ย่อย

     

                    เมื่อกี้ตอนไฟดับ  นึกว่าเจอดีเข้าซะแล้ว   จู่ๆ น้องพีก็กล่าวประโยคลอย ๆ ให้ตีความเอาเอง  ซึ่งไอ้กระผมก็เป็นคนมองโลกในแง่ดีเสียด้วย  เลยถามกลับไปด้วยจริตใสซื่อ    หมายถึงเจอผีนะเหรอน้อง... แหะ... ผมคนจริงใจน่ะครับ

     

                    อูยยย  พี่เบา ๆ หน่อย  เดี๋ยวเขาจะเคือง น้องพีหันมาทำคอย่นพร้อมเอ่ยขอความกรุณาเสียงเบา  ในขณะที่ดวงตาคู่สวยปะหลับปะเหลือกไปซ้ายที ขวาที ราวกับทหารญี่ปุ่นระแวดระวังการสอดแนมของหน่วยข่าวกรองฝ่ายสัมพันธมิตร  ให้ตายเถอะไอ้ตัวจริงของผมก็ร้อยตำรวจตรีก้องกังวาน ศิษย์เสรีไทย เสียด้วย...  คุณพระคุ้มครองอย่าให้ผมและน้องพีต้องกลายเป็นโศกนาฎกรรมรักกลางสนามรบเลย กระผมไม่อยากย้อนรอยอังศุมารินหรอกนะครับ  ฮือออ!!?       เอ่อ..... ขอโทษครับ!!    เพ้อเจ้อไปหน่อย(ไม่หน่อยแล้วไอ่ก้อง)...ว๊าย  อายจัง  แหะ….

     

                    ใคร ๆ ก็ว่าเฮี้ยนนะครับ  แต่ผมยังไม่เคยเจอเองจัง ๆ สักทีนะแบบว่ามาเข้าทีไรก็ไหว้แปดทิศดักไว้ก่อนทุกทีคุณเขาจะได้ไม่หงุดหงิด  แม้จะส่งยิ้มจืดเจื่อน  หากแต่ก็ยังน่าเอ็นดูด้วยเพราะเป็นริมฝีปากชมพู ๆ ของคนตรงหน้า  ก่อนทีริมฝีปากนั้นจะเจื้อยแจ้วต่อ แบบนันสต๊อปประหนึ่งเป็นผู้จัดรายการวิทยุสาระแนแต่เช้า  และแม้ออกจะขัดกันอยู่กับอาการเกรงอกเกรงใจผู้เป็นหัวข้อสนทนาที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นเมื่อแรก  แต่นาทีนี้ความเคลิ้มในความขาววิ๊ง..ง มันได้บดบังวิสัยทัศน์ของผมไปเสียสิ้น

     

                    ผมยืนพิงเคาเตอร์อ่างล้างมือพลางควักบุหรี่จุดสูบ  กับน้องพีซึ่งบัดนี้กระโดดขึ้นไปนั่งห้อยขาอยู่บนเคาเตอร์หินอ่อนสีดำห่างกันแค่ 1 ฟุต  เราทั้งสองยึดพื้นที่ทั้งหมดของห้องน้ำเป็นฐานที่มั่นไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ   ผ่านไปนานเท่าไหร่ก็สุดจะเดา   อย่างที่บอกผมถูกความขาวมอมเมาให้เคลิ้มลืมเวลานาทีไปหมดแล้ว   แถมว่าคุณเอ๊ย.....  ไม่มีมนุษย์คนไหนเข้ามาแทรกแซงโลกส่วนตัวของผมสองคนเลยให้(พี่พงษ์กับพี่วิทย์) ตายซิเอ้า  .....หึ หึ ดีจัง  

     

    เรื่องราวในอดีตของผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตถูกถ่ายทอดผ่านกลีบปากบางสวยอย่างละเอียดยิบ มีผมคอยพยักหน้าหงึกหงักรับ  ทำตาโตเป็นบางคราว  หลุดเสียงอือ อาเป็นบางครั้ง(ไม่ได้ครางน่า...อย่าคิดลึก)   เกือบจะเผลออุทานแล้วยกสองมือทาบอกท่าเดียวกับคุณยายที่บ้านเสียแล้ว  ดีนะว่าตั้งสติทันซะก่อน....ฮู้ววว     ไอ่ก้องเว้ยอยู่ต่อหน้าน้องพีนะเมิง  หลุดละเสียฟอร์มสุดหล่อตายห่..อหิวา....

     

                    โห  น่ากลัวว่ะ    แล้วตอนนั้นพีไม่กลัวเลยเหรอ  ผมถามไป.......    งั้น ๆ แหละครับ   ก็น้องพีสุดน่ารักอุตสาห์เล่าให้ฟังแบบเจาะลึกทุกรายละเอียดด้วยรู้จักกับคนที่อุตริมาฆ่าตัวตายในห้องน้ำเนื่องจากเจ้าคนนั้นเป็นเพื่อนที่อยู่บริษัทเดียวกันแต่อยู่คนละแผนก  อีกทั้งโปรแกรมเมอร์หนุ่มก็ช่างใส่อารมณ์ในการเล่าได้อย่างออกรสเช่นนี้  ผมเลยสนใจขึ้นมาหน่อย

     

                    กลัวซิพี่ก้อง  แต่ทำไงได้เพื่อนทั้งคนนะครับ.. แล้วตอนนั้นน่ะก็ไม่ทันจะคิดอะไรมากนัก ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพราะเจ้าทัตมันน้ำลายฟูมปากแล้ว....หน้าสวยมีแววเศร้าซึม เอ่ยถึง ทัต เพื่อนรักผู้คิดสั้น

     

                    ไอ่บ้า..  จะแด๊กยาฆ่าตัวตายทั้งทียังสะเอือกมาเลือกทำเลเป็นห้องน้ำ  สิ้นคิดทั้งวิธีการและสถานที่เลย  ชั่วเอ๊ย เสียงงึมงำบ่นด่า ทว่ากลับฟังราวกับผู้พูดเหนื่อยล้าเสียใจ  ทำให้ผมอดที่จะมองหน้าที่ก้มต่ำนั่นด้วยความพิจารณาไม่ได้

     

                    เห็นเขาว่ากันว่า  ฆ่าตัวตายเพราะอกหัก ผมเลิกคิ้วเชิงถามว่า..ใช่ไหม    หน้าใส ๆ ที่ตอนนี้ดูซึมไปถนัดใจพยักหน้าบาง ๆ ก่อนจะหลุบต่ำลงอีกครั้ง    เอ่อ....แล้วที่พีเล่ามา  ตอนนั้นพีอยู่กับทัตด้วยใช่ป่ะ  หัวทุยนั้นผงกเบา ๆ โดยไม่เงยหน้า   

     

    เอาแล้วซิ....เริ่มตงิด ๆ ซะแล้วกรู   ทัตนี่มัน..เอ่อ...เป็นเกย์ใช่หรือเปล่า  เงียบครับ....  อาการนิ่งขึงไปอึดใจเหมือนกับคนถูกถามลังเลที่จะตอบ  แต่แล้วผมก็เห็นน้องพีผงกหัวนิดนึง...  นิดเดียวจริง ๆ ครับ รวดเร็วและแผ่วเบาเสียจนอาจจะสังเกตไม่เห็นเลยถ้าเส้นผมสลวยบนหัวทุย ๆ นั้นไม่กระดิกปลายน้อย ๆ เป็นเชิงฟ้องขึ้นมาเสียก่อน

     

                    งั้น... ถ้าพี่ขอเดาว่าคนที่ทำให้ทัตเขาอกหักจนคิดสั้น...  พีหรือเปล่า   ก็บอกแล้วไงครับว่าผมจริงใจ  ใสซื่อ...ปากหมานั้นหรือคือของแถมน่ะฮะ  

                    พีระกานต์เงยหน้าขึ้น เผยสีหน้าอย่างคนเจ็บร้าวทำให้ผมอยากกระโดดเตะปากตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิต ดวงหน้าขาวใสดูเผือดสี หากปลายจมูกโด่งกลับแดงเรื่อ  ดวงตาคู่สวยมีหยาดน้ำคลอ สายตามองเหม่อเหมือนจะทะลุผ่านกำแพงกีดขวางสู่ห้วงเวลาแห่งความทรงจำ   

     

                    ผมบอกทัต เรื่องของเรามันจำเป็นต้องจบ  มัน....มันไม่ควรเกินเลยไปกว่านี้ น้ำเสียงอ่อนล้า สั่นพร่าบ่งบอกถึงความระทมที่บ่มเก็บไว้ลึกล้ำ  ทัตยังเด็กนะพี่ก้อง  เขายังมีอนาคตที่ดีกว่า  ยังต้องเจอคนอีกเยอะ ผมไม่อยากให้เขามาจมอยู่กับผม เปลือกตาบางปิดลง  ร่างโปร่งสะท้านไหวกับแรงสะอื้นไร้เสียง

     

    ผมมองน้องพีด้วยความหลากใจ  ดูเถอะเมื่อครู่ผมยังได้เห็นรอยยิ้มน่ารัก ได้ฟังเสียงหวาน ๆ ผ่านริมฝีปากช่างเจรจา   กิริยาและวาจาที่เผยถึงนิสัยขี่เล่นแต่สุภาพของชายหนุ่ม  การแสดงออกแบบสบาย ๆ กลับถูกแทนที่ด้วย ภาพของชายผู้สิ้นหวัง ชายผู้แบกรับตราบาปของความสำนึกผิดไว้บนสองบ่าบอบบาง  พีระกานต์กำลังจมอยู่ในปลักแห่งความเจ็บปวดโดยมีผมใช้ฝ่าเท้ายันเขาตกลงไปเอง... 

     

    บุหรี่ถูกปล่อยร่วงลงพื้น  พร้อมกับร่างโปร่งถูกรั้งมาซบไหล่กรุ่นกริ่นแป้งตรางูของผม  ผมกอดน้องพีเต็มอ้อมแขนโดยอัตโนมัติ  ไม่ได้คิดอะไรไม่ดีนะครับ  ไม่ได้แต๊ะอั๋งเลยนะ....จริง ๆ  มันเป็นไปตามสัญชาติญาณสุภาพบุรุษต่างหากละครับน่า...เชื่อผมซิ

     

    พี่ไม่รู้ว่าระหว่างนายสองคนมันเป็นมายังไงนะ แต่พี่คิดว่าไม่ว่าจะเป็นทัต  หรือเป็นพี ต่างก็ให้ความสำคัญซึ่งกันและกันเป็นคนที่มีความหมายต่อกันอย่างที่สุด...จริงไหม ฝ่ามือใหญ่ลูบศีรษะปกคลุมด้วยเส้นผมสลวยลื่นอย่างเอื้ออาทร  ไม่ต่างจากพ่อกำลังปลอบลูกชายตัวน้อย      แต่อ่า.....หอมจังฟร๊ะ

     

    ดังนั้นเรื่องในอดีตที่ผ่านไปแล้ว มันย้อนมาแก้ไขอะไรไม่ได้   อืมมมม  หอมมม....

     

    แล้วพี่คิดว่าทัตก็คงไม่อยากจะทำให้พีต้องกลับมานั่งร้องไห้ทุกครั้งที่คิดถึงเขาหรอกนะ  ซืดดดด เง้ยยยย หอมจังค๊าบน้องพี

     

    รู้สึกถึงแรงขยุ้มจนตัวเสื้อดึงรั้ง เมื่อร่างในอ้อมแขนเพิ่มแรงกอดกระชับอย่างต้องการที่พึ่ง  ใบหน้าที่ยังคงซุกซบขยับเล็กน้อยตามแรงสะอื้นซึ่งเริ่มมีเสียงหลุดรอดให้ได้ยินบ้างแล้ว สัมผัสเปียกชื้นบนบ่ากว้างบวกอาการกายสั่นสะท้านรุนแรงกระตุ้นให้ผมผมต้องรัดร่างนั้นแนบชิดยิ่งกว่าเดิม...  แต่ไม่ได้คิดอะไรไม่ดีนะครับ บริสุทธิ์ใจจริง จริ๊ง

     

    ........................................

     

    .......................

     

    ..........

     

     

    หากมีใครเข้าห้องน้ำใต้ตึกอาคารในตอนนี้เชื่อได้ว่า  เพียงล่วงผ่านประตูด้านหน้าเข้ามาเขาคงจะได้กลับออกไปพร้อมกับฉากประทับใจไม่แพ้รักแห่งสยามของน้องโต้งกับน้องมิวเลยทีเดียว

     

    เสียดายที่ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่นาที จวบจนร่างโปร่งสงบลงก็ยังคงไม่มีมนุษย์หน้าไหนเข้ามาทำลายโลกของสองเรา น้องพีกับผม..  พีระกานต์ค่อย ๆ ยันตัวออกห่าง  ใบหน้าหวานดูกระดากอายเมื่อสบตาคมเจือแววอ่อนโยน มือซึ่งเมื่อครู่ขยุ่มตัวเสื้อเสียยับย่นคลายออกเหลือเพียงแตะค้างไว้กับแผ่นอก  

     

    น้องพีของผมพึมพำขอโทษ และขอบคุณเบา ๆ พลางขยับเนื้อตัวอย่างอึดอัด  
    ก็จะไม่อึดอัดได้ยังไงละครับในเมื่อน้องเขายังนั่งอยู่บนเคาเตอร์อ่างล้างมือ  ในขณะที่ผมยืนแทรกกลางสองขาของเขา
    ขณะกอดปลอบประโลม  และเมื่อครู่อ้อมกอดสุดท้ายอันแสนอบอุ่นและแข็งแกร่งเป็นเพราะผมได้เบียดตัวเองติดเคาเตอร์
    หินอ่อนเย็นเฉียบเรียบร้อยแล้ว และนั่นมันหมายถึงผมได้เบียดตัวเองเข้ากับเรือนกายหอมกรุ่นของคนตรงหน้าด้วยเช่นกัน

     

    นัยน์ตาแดงก่ำช้อนมองมองคล้ายมีคำถาม  แต่ผมไม่ได้สนใจจะตอบคำถามนั้นหรอกครับเพราะตอนนี้เซลล์สมองทั้งหมดของผมกำลังทุ่มเทกับการเก็บภาพวงหน้าขาวเปื้อนน้ำตา ประดับด้วยดวงตากลมสวยแดงช้ำ จมูกโด่ง กับปากแดงก่ำจากการขบกลั้นเสียงสะอื้น  น้องพีช่างดูน่าทะนุถนอม บอบบาง  อา..... อยากเป็นคนคอยดูแลคนๆนี้จังเลย   นิ้วมือเผลอแตะกลีบปากแดงเมื่อคิดกลัวว่าพีระกานต์จะเจ็บไหมหนอ   อยากจูบซับน้ำตาให้คนตรงนี้นี้จังเว้ย.....  รู้ตัวอีกที  กระผมก็แนบริมฝีปากกับแก้มใสนั้นเสียแล้วซิ.

     

    ...เหอ  เหอ   ผมไม่ได้คิดอะไรไม่ดีเลยจริง ๆ น๊า..... เชื่อผมเถอะครับ  บริสุทธิ์ใจ....เอ่อ...อย่างน้อยก็จนกระทั่งเมื่อกี้นี้ล่ะนะครับ  แหะ  แหะ

     

    ผีน้อยเจ้าเสน่ห์ของผมยังหลับตาพริ้ม หัวคิ้วขมวดเล็กน้อยเมื่อตอนที่ผมผละออก เสียงลมหายใจยังเจือรอยสะอื้นแต่สิ่งที่รบเร้าจนผมต้องจุมพิตปลอบโยนอีกครั้ง คือเรียวปากซึ่งสั่นระริก  ผมเลยต้องหยุดอาการนั้นด้วยการแตะริมฝีปากอุ่นชื้นด้วยปลายลิ้นของผม ละเลียดเล็มก่อนจะประกบปากปิดทับอย่างแนบแน่นหวังจะช่วงชิงลมหายใจเจือรอยเศร้าหมองนั้น  พร้อมส่งผ่านความรู้สึกบางอย่างให้เจ้าของร่างโปร่งบางซึ่งกระชากหัวใจผมตั้งแต่แรกเห็นได้รับรู้
     

    อ่ะฮ้า....ผมว่า  ผมทำสำเร็จประมาณนึงนะ   ก็ตอนนี้เรียวแขนขาวเนียนซึ่งโผล่พ้นแขนสั้นของเชิ๊ตผ้าฝ้ายสีน้ำเงินเข้มขับความวิ๊งของผิว ได้ย้ายตำแหน่งของมันมาโอบรัดอยู่รอบคอสุดหล่ออย่างกระผมแล้วน่ะซิครับ      เอาละเว้ยยย....หมอดูทายไว้จะได้ลาภสัตว์สองเท้าจากสถานที่ปลดเปลื้องทุกข์   กรูก็นึกว่าจะไปเจอกันที่วัด.... เหอ เห

     

    เราสองต่างตอบสนองจูบนั้นเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆ เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัด ดูดดุนรุนแรงบ้าคลั่ง  ทุกครั้งที่ฝ่ายใดจะผละออก อีกฝ่ายต้องไขว่คว้ากลับมากระชับกอดแลกลิ้นและริมฝีปากอย่างโหยหา  แน่นอนครับว่าตอนนี้เราสองคนบดเบียดเนื้อตัวแทบจะแหลกหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว  จากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้นคงเดากันได้นะครับ......

     

    .....................................................................................................

     

    อ่า.....ว่าไงนะ    จะให้ผมบรรยายเหรอครับ    เขินจัง....อุก  อืมมม  ฮ่า 


                แต่จะ..บรรยาย... ก็..ก็ อ๊ะ...อะ  โอ้วว  ซ..ได้...อาซ์..  นะครับ


                แต่ไม่แน่ใจนะว่าผมจะสามารถบรรยายได้จบ อื้ออ  ...ครบถ้วนดีหรือเปล่า.. อะ  อ่า  อา
     ฮ๊า

     

    มือขวาของกระผมกดแนบแผ่นหลังบางเข้าแนบชิด ในขณะที่แขนขวากระชับเอวบางกดแน่นกระชับเข้ากับกึ่งกลางกายของผมที่เริ่มทักทายเพื่อนใหม่ผ่านเนื้อผ้าและแนวซิป   น้องพีก็ไม่น้อยหน้าครับ ต้นขาแข็งแกร่งนั้นหนีบสะโพกผมแน่นช่วงขายาวไขว้รัดสะโพกราวกับความสนิทชิดเชื้อที่สัมผัสอยู่ตอนนี้มันยังไม่เพียงพอ

     

    อื่อ   พี่ก้อง  ฮะ..อา   พี่ก้องครับ เสียงครางหวาน เมื่อผมละจูบย้ายตำแหน่งมามอบสัมผัสแก้มเนียน ไล่ละแนวสันกรามสวย  กลิ่นแก้มหอมกรุ่นคลอเคลียอยู่ที่ปลายจมูก  ทำให้ผมมันเขี้ยวและอดไม่ได้ที่จะคบลำคอขาวนั้นเบา ๆ  

     

    อ๊ะ...  คงตกกะใจละซี่น้องพี  แหม...แต่มือน้องนี่กดหัวพี่แน่นเลยน๊า

     

    พี่ก้องครับ   อื๊อ...ผม  น้องพีพูดอะไรไม่เป็นประโยคแล้วครับ  มีเพียงการแสดงออกที่บ่งบอกว่าหวานใจหมาด ๆ ของผมคนนี้ต้องการอะไร   ร่างเร้าร้อนที่พยายามขยับเข้าชิดและเสียดสีกลางกายให้มากที่สุดเท่าที่ท่วงท่าจะอำนวย  ผมเลยละมือข้างหนึ่งเพื่อปลดกระดุมเสื้อของพีระกานต์อย่างร้อนรน แล้วก้มลงหยอกเย้ายอดตุ่มไตสีเชอรี่ที่ล่อตาอยู่ก่อน

     

    อ๊า... ตรงนั้น  อ๊า  แผ่นอกแอ่นรับสัมผัสโดยอัตโนมัติ

     

    ตรงไหนเหรอครับพี เสียงพร่าด้วยแรงอารมณ์จนน่าตกใจเหมือนไม่ใช่เสียงผมเอง   อา....

     

    อี้อ  พี่ก้องแกล้งอ๊ะ คำตัดพ้อ..ขาดห้วงเมื่อผมเริ่มลงลิ้นละเลงปุ่มนูนอีกข้างรุนแรง  ส่วนอีกข้างก็มีนิ้วขยันกำลังช่วยขยี้อย่างเมามันไม่แพ้กัน   แล้วไม่นานก็เหมือนมีอะไรมาขยุกขยิกอยู่ที่ขอบกางเกงของผม....นั่นแน๊ เดาถูกล่ะเซ่

     

    ครับมือขาวเนียนสองข้างของน้องพี พยายามแกะแพ็คเกจจิ้งเพื่อผลโฉมแท้ ๆ ของเจ้าก้องจูเนียร์  ถึงจะติดๆ ขัด ๆ แต่ในที่สุด้วยความร่วมมือของเราทั้งคู่  ไอ้หนูลูกพ่อก็ออกมาเชิดหน้าท้าโลกอย่างภาคภูมิ  มือผู้มีพระคุณยังคงประคับประคองลูกชายผมอย่างถนุถนอม แล้วค่อย ๆ บีบเน้น  อื่อ...อ....  เสียวน้ำตาเล็ดแล้วที่รัก

     

    พี่ก้องครับ   พี่ก้อง...  ใบหน้าหวานเว้าวอนอ่อนหวาน พลางขยับมือรูดรั้งหนักหน่วง   อื่อม..ม. ตอนนี้ร่างกายเรามีช่องไฟไว้เว้นวรรคหายใจ   เมื่อผมต้องยันมือทั้งสองข้างกับเคาเตอร์หินอ่อน พยายามสะกดความสุขสมที่ไต่ระดับอย่างรวดเร็ว   ส่วนน้องพีแม้จะบริการเจ้าก้องจูเนียร์อยู่ แต่กลับหอบหายใจกระชั้นราวกับถูกปรนเปรอเสียเอง  ใบหน้าหวานอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งทรงเสน่ห์เพิ่มพูน  เมื่อมันแดงซ่านจากฤทธิ์พิศวาส   และแล้วนิ้วมือเรียวสวยของเจ้าตัวก็แบ่งหน้าที่กันเสียที  เมื่อมือขวากอบกำวัตถุอุ่นร้อนพลางวนย้ำส่วนปลายสุดเพื่อละเลงน้ำเหลวใสเล่น ขณะมือซ้ายส่งนิ้วเรียวไม่ผิดลำเทียนเข้าปากตัวเอง 

     

    อื่อ   อื่อ.. ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง  ก่อนที่จะแปรผันเป็นความตื่นเต้น  กลีบปากชมพูสวยกำลังดูดนิ้วตัวเองเอาเป็นเอาตาย น้ำใสวาวล้นจากขอบปาก  หากมันกลับดู...เร้าอารมณ์  ผมจะไม่ไหวแล้วครับ..แต่

     

    พี่ก้องครับ  พีขอ...อึก  ขอได้ไหมครับ  เฮ้ย!... ขอไรวะ  น้องพีอย่ามาขอซี้ซั้วนา

     

    ข..ขอ อะไรครับ  ถามไปก็ยังหวั่น ๆ กับคำตอบ  แต่แล้วก็โล่งครับเมื่อน้องรักกระชับของในมือของเขาแน่น

     

    มันเป็นของพีแล้วครับผม หึ หึ  ว๊ายอายจัง

     

    ยังไม่ทันได้เขินร่างโปร่งก็กระโดดตุ๊บลงมายืนแล้วผลักผมให้เป็นฝ่ายยืนพิงหลังกับเคาเตอร์แทน จากนั้นจึงรูดกายลงเพื่อจัดการกับสิ่งที่ ขอ  โอ้วว..ว...ว  สวรรค์รำไร   อ่ะฮ้า  พีครับ...ที่รัก  ดาร์ลิงค์  ได้พี่แล้วอย่าทิ้งนะคร๊าบบ อ๊าซ์..ซ์..ซ์

     

    พีระกานต์จัดการกับเจ้าก้องจูเนียร์ด้วยความหนักหน่วงรุนแรงทั้งขบเม้ม  ดูดดุนและไล้เลียราวกับไม่เคยพบเคยเห็น ผมสังเกตว่ามือโปรแกรมเมอร์หน้าสวย  หายวูบเขาไปในขอบกางเกงที่เจ้าตัวปลดซิปลงเรียบร้อย  อึดใจต่อมาสิ่งเดียวกันต่างเพียงขนาดและสีสันก็เผยตัวให้ผมได้ประทับใจอีกครั้ง  อ่า.....น่ากิน  เง้อ 

     

    ปากก็เร่ง มือก็รูด  ไม่ได้แล้ว...ถ้าปล่อยให้ดำเนินต่อไปผมต้องเสียชาติเกิดเป็นชายรุกน่ะซิ   ตัดใจสอดแขนรั้งตัวคนสวยใจดีขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกันอีกครั้ง  แล้วเอ่ยประโยคอ้อนวอน

     

    พีระกานต์ครับ....พี่จะไม่ไหวแล้ว พี่ก้องขอ...............ขอเป็นหนึ่งเดียวกับพี   ..นะครับ  นะ นะ เค้าไม่ไหวแล้วนะตัวเอง 

     

    เราสบตากันนิ่งหากนานชะมัดในความรู้สึก  คำตอบคือ....รอยยิ้มบาง  กับใบหน้าเขินอายและสายตาหลุบต่ำแค่นี้  ก็เกินพอ..

     

    กางเกงสแล็คถูกรูดลงพร้อมทั้งชั้นในพ้นตัวอย่างง่ายดายทั้งของเขาและของผม  หลังจากขจัดรองเท้าถุงเท้าที่กีดขวางไปล่วงหน้า  ตอนนี้เราเสมอกันด้วยเสื้อเชิ้ตตัวเดียว   กับร่างกายผุดผาดที่ได้เห็นเต็มตาเป็นครั้งแรก  ร่างกายที่แดงเรื่อด้วยเลือดสูบฉีดแผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงเพราะหอบหายใจ  ทนต่อไปไม่ไหวแล้วโว้ยย

     

    อ่า......ตัดฉากไปที่ต้นพลูด่างข้างอ่างล้างมือครับ...แหะ

     

    เสียงอือ  อา  อ๊าวว โอ้วว  อ๊าซ์..ซ...ซ   ดีครับดี  แรงอีก...อ๊า    พี่ก้องลึก ๆ...  แรงอีก โอ้วว  พี่ก้องครับ ผม..ผม  อ๊าาาา  เสียงครวญครางดังวนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะบนพื้นสะอาดๆ, บนเคาเตอร์ล้างมือ, ห้องน้ำริมสุด  สุดแล้วแต่ว่ากระผมจะนึกได้นั่นหละ 

     

    รู้ตัวอีกทีก็....3 รอบน่ะซิครับผม

     

     

                    เสียงหอบหายใจของเราดังก้องในห้องน้ำรวม  ฟังดูลามกแต่ก็เร้าใจอย่างปะหลาดตอนนี้ผมลืมตาไม่ขึ้นแล้วครับ 3 รอบเนี่ยมันเหนื่อยนะครับผม  ถึงแม้จะแข็งแรงฟิตปั๋งขนาดไหน  แต่กิจกรรมที่เพิ่งผ่านพ้นมันก็สุดยอดเกินกว่าที่ผมเคยได้พบมาเกือบทั้งชีวิต  ตอนนี้ก็เลยได้แต่กึ่งนั่งกึ่งนอนพิงกำแพง  หลับตากกกอดร่างชื่นเหงื่อซึ่งทอดระทวยอยู่ในวงแขนไว้ด้วยกิริยาหวงแหน   ฮือ ฮือ  ยายครับ  ...หลานยายพบเนื้อคู่แล้วครับ

     

                    ผมว่า...ผมลืมอะไรไปสักอย่างนะ    เอ!...แต่อะไรกันล่ะ...เอาเถอะ คิดไม่ออกหรอกตอนนี้ผมเบลอไปหมดแล้ว ขอหลับเอาแรงสักงีบ  แล้วค่อยตื่นมายืดอกรับผิดชอบ  คุยเรื่องสินสอดทองหมั้นเตรียมสู่ขอน้องพีดีกว่า   ....หวังว่าพ่อตา แม่ยายคงไม่ใจร้ายกับเขยมือใหม่อย่างผมนะครับ 

     

     

                    ..........................................................................................................

     

                    อืม...ม...  แสงไฟสว่างจ้าแยงตา  พร้อมกับใบหน้าคนหลายหน้าชะโงกมองเหนือตัวผม.... มองไรฟร๊ะ  ไม่เคยเห็นคนหรือไงแต่เมื่อตั้งสติลำดับเหตุการณ์... ตายห่..เอ่อ...อหิวา

     

                    ผมกับที่รักนอนโป๊กันอยู่ไม่ใช่เหรอวะ   เฮ้ย....เมื่อกี้ลืมคิด  ตูจ้ำจี้กันในห้องน้ำอาคารสำนักงานนี่หว่า  ตายห่...ง่า  อหิวาแล้วกรู สะดุ้งลุกพรึบก่อนจะรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง  จนต้องค่อย ๆ หงายลงนอนใหม่  โอย...ทำไมมันหนักหัวงี้ว้า  น้องพีของกรูล่ะ  น้องพีครับ  ผมสอดส่ายสายตาหาภรรยาหมาด ๆ อย่างร้อนใจแต่กิริยากลับอ่อนระโหยขัดกันกับความร้อนรุ่มในใจมากนัก

     

                    ไอ่ก้อง  เฮ้ย...เป็นไงบ้าง เสียงคุ้น ๆ อ่อ...พี่วิทย์  ผมกระจ่างใจเมื่อหันมาเห็นสายตาเป็นห่วงเป็นใยของแก

     

                    อะไรพี่... โอย.. ใครเป็นไร  ผมป่าวไม่รู้ ตอบไปผิด ๆ ถูก ๆ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าไม่มีน้องพีอยู่ข้างกาย  สงสัยจะอายหนีไปแล้ว เอ...แล้วทำไมไม่ปลุกผมวะ  เจอคราวหน้าต้องลงโทษสัก 2-3 รอบ  ฮึ้ยย

     

                    ก็เอ็งนะซิ..ว่าพลางพยุงผมให้ลุกนั่ง   เออ...เพิ่งมองเห็นตัวเอง  กรูแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนิหว่าอย่างน้อยน้องพีก็คงไม่อยากให้ผมขายขี้หน้ามากนัก   ทำหน้าที่ภรรยาใช้ได้...

     

                    หายเข้ามาขี้  กรูนึกว่าเมิงโดนใครเอาขี้ยัดปากตายไปแล้ว ป่าวโดนเอาขี้ยัดปาก  แต่เอา...ยัดปากคนอื่นอ่ะพี่
     

               “พอเข้ามาตาม แมร่งนอนเกร็งกลิ้งอยู่บนพื้น ตาเหลือกตาปริ้นอยู่คนเดียว  กรูเกือบจะเอาแปลงขัดส้วมยัดปากเมิงกันกัดลิ้นตัวเองซะแล้ว  ดีนะว่าเมิงสงบเสียก่อน  เออ...นั่นดิ   ไม่งั้นผมคงตายห่ เพราะปากแหกนี่แหละ  แต่เอ๊ะ..!!  นอนกลิ้งอยู่บนพื้นคนเดียวเหรอ 

     

                    แล้ว... เอ่อ   พี่วิทย์เห็นใครอีกป่ะ ผมถามขึ้นหลังจากนั่งได้เอง เหลือเพียงอาการมึน ๆ ที่ศีรษะเท่านั้น

     

                    ใครวะ.. กรูไม่เห็นใคร   เจอผีละซิเมิง  .....ไม๊ล่ะกรูว่าแล้ว  พี่วิทย์ตบเข่าฉาด  ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันทำหน้าเอาเรื่อง...เมิงกล้าเอาเรื่องเขาเหรอไอ่พี่วิทย์

     

                    ไม่ใช่....ผมหมายถึงน้องอีกคน  ขาว ๆ หน้าใส ๆ น่ะ  ผมหงุดหงิด คิดถึงเมีย

     

                    ผีไอ่ทัตของพี่น่ะ  ผมยังไม่เจอมันหรอก...แต่ถ้าเจอก็ดี   จะได้ขอมันซะเลย ขอน้องพีเป็นกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวครับ

     

                    เมิงพูดอะไรของเมิง  พี่วิทย์หน้าฉงน จ้องผมแปลก

     

                    อ่อ  ขอหวยน่ะ...ขอหวย  ไม่มีอะไร  แหะ แหะ

     

                    ไม่ใช่  กรูหมายถึงผีไอ่ทัตอะไรน่ะ  เมิงไปเอามาจากไหน  ไอ่พี่คนดีมันมองผมเหมือนถาม....ไอ่ฟาย พูดเรื่องไรเมิง

     

                    เอ้า  ก็ผีเกย์ ที่พี่บอกว่ามันกินยาตายเพราะอกหักไง... พอดีผมเจอพีเพื่อนเขาด้วยน่ะ  ผมเริ่มงงเหมือนกันแล้วครับ

     

                    ไอ่ก้อง.... พี่วิทย์เรียกผมเสียงเจื่อน  ก่อนจะทำท่าล๊อกแล๊ก  ซึ่งคนอื่น ๆ ที่เข้ามาดูผมอีก 2-3 คน ก็เริ่มมีอาการเดียวกัน

     

                    พี่ว่า  พี่พาเอ็งไปคุยข้างนอกกันก่อนดีกว่านะก้องนะ  ....เชื่อพี่เหอะ  ไป ๆ พี่วิทย์รีบพยุงผมขึ้นยืน แล้วประคองผมซึ่งยังรู้สึกขาอ่อนจากการออกกำลังในร่ม ออกไปจากห้องน้ำสวรรค์สวาทนั้นอย่างรวดเร็ว  

     

                    แล้วในอีก 15 นาทีต่อมาในที่ทำงานของพวกเรา   พี่พงษ์ซึ่งเพิ่งทราบเรื่องก็เข้ามาดูแลพร้อมเฉลยความข้องใจของผมแทนพี่วิทย์ซึ่งกำลังนั่งปลุกพระบนหิ้งเหนือเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์อย่างเอาเป็นเอาตาย

     

                    ก้อง....ผีไอ่ทัตที่ก้องว่าน่ะนะ  เมิงไม่มีทางเจอมันได้หรอก พี่พงษ์มองผมด้วยสายตาปราณี...  หรือสมเพชวะ

     

                    ไมอ่ะพี่!?  

     

                    ก็ไอ่ทัตน่ะ  มันกินยาตายเพราะทะเลากับแฟนในห้องน้ำนั้นก็จริง...  แต่มันไม่ตาย!!?”

     

                    เฮ้ย...จริงอ่ะ  ตกใจครับ  อันนี้ตกใจจริง ๆ แล้ว

     

                    จริง....เพราะตอนนั้น  แฟนมันกับกรูนี่แหละเป็นคนพามันไปโรงพยาบาล  แต่อาการมันหนักมากเหมือนกันเพราะมันมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว  ถึงจะล้างท้องทัน แต่ก็คาบลูกคาบดอกนอนอยู่ ไอซียู เป็นอาทิตย์  ...แต่มัน  ไม่ตายว่ะ

     

                    ตอนนี้ไม่มีคำถาม หรือคำอุทานใดออกจากปากผม   ....ครับ  ผมกำลังกังวลอะไรสักอย่าง ที่ผมก็ยังไม่แน่ใจ

     

                    แล้วถ้าเอ็งจะพอจำได้   พี่เคยเล่าว่าผีเฮี้ยนที่ตายในห้องน้ำน่ะ....มันกรีดข้อมือฆ่าตัวตายนะเว้ย  อ่า....ใช่แล้ว  นั่นซิผมจำได้แล้ว  แล้ว ๆ ทำไมน้องพี.....   แล้วน้องพี

     

                    เท่าที่พอจะรู้......  แฟนมันที่ชื่อพีระกานต์ เสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากไอ่ทัตอะไรนั่นเข้าไอซียูได้ 2 หรือ 3 วันนี่แหละมั๊ง  ก็มีคนไปเจอแฟนมันอีกทีตอนเช้า   พีระกานต์กรีดข้อมือฆ่าตัวตายที่ห้องน้ำห้องท้ายสุด  ตอนที่พบตัวเขาเย็นชืดแล้วเลือดงี้เจิ่งนองเต็มไปหมด   อะ....อะไร  ใครนะ  ใครกรีดข้อมือ  ใคร...ใครตาย

     

                    เหลือแค่จดหมายสั้น ๆ เขียนแสดงความในใจ   กรูอ่านแล้วแทบน้ำตาร่วง พี่พงษ์นั่งนึกถึงเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง ราวกับพยายามที่จะรำลึกถึงข้อความไม่กี่บรรทัดที่บั่นทอนหัวใจผู้ชายอย่างเขาได้  ตอนนี้กระผมสุดหล่อก้องกังวานใบ้สนิทครับ

     

                    ผมมีเรื่องอยากบอกคุณ  เราควรจบกันแค่นี้ เลิกจมปลักกับคนอย่างผมเถอะ

                    คุณยังมีอนาคตสดใสนะครับ   คู่หมั้นของคุณ  เธอเป็นผู้หญิงที่ดีเธอจะทำให้คุณลืมผมได้เอง

                ผมหวังว่าอย่างน้อย  ผมจะได้มองเห็นคุณไกล ๆ ได้รับรู้ว่าคุณมีความสุขทุกวันก็ดีใจแล้ว

     

                    แต่ไม่รู้ว่าวันนี้  มันจะสายเกินไปหรือเปล่า   คุณทำอะไรโง่ๆ อย่างนั้นลงไปทำไมนะ   

                    ถ้าโลกนี้ไม่มีคุณ  แล้วผมจะทนรับความสูญเสียนี่ได้อย่างไรกัน 

                    ผมจะทนมองเห็นคุณจากไปในที่ที่ผมเอื้อมไม่ถึงได้ยังไง

                ผมทนไม่ได้  พีทนไม่ได้หรอกนะทัต

    ทัต...พีรักทัตนะ

                   

     

                    ตายไปโดยไม่รู้ว่า  ไอ่ทัตมันรอด...ไอ่นั้น พอรู้เรื่องก็ลาออกหนีไปเลียแผลใจที่เมืองนอกเห็นว่า คงไม่กลับเมืองไทยอีกแล้ว”  ข้อมูลแน่นเปรี๊ยะ ซึ่งภายหลังผมจึงได้ทราบว่าพี่แกไปจีบประชาสัมพันธ์ตึกไว้  เลยได้รู้ข่าวแบบเจาะลึกจากเจ้าหล่อน

     

                    สรุปคือ  ไอ่เกย์รักคุดที่พวกกรูเล่าให้เมิงฟังน่ะ  ชื่อ พีระกานต์  เข้าใจ๋   เออ...เข้าใจ แต่ยังไม่อยากยอมรับ   ชิบหาไม่เจอ...นี่กรูฟันผีเสียแล้วเหรอวะเนี่ย   3 รอบเลยนะเมิง   ฮือ  ฮืออ  ยายครับผมขอโต๊ดด

     

                    ตกลง  นี่เมิงเจอผีไอ่พีหลอกเอาละซินะ.....เฮ้อ....ซวยชิบ  เออ...แล้วมันหลอกเมิงไงวะ  พี่พงษ์หลุดจากโหมดรำลึกชาติหันมากระตือรือร้นถามผม  เรียกให้พี่วิทย์ที่วนคาถาชินบัญชรครบ3จบ  ให้หันมาสนใจด้วย

     

                    เอ่อ..  เอาไงดีวะ   ก็....แค่เจอ...อื่อ  แค่เจอก็คุยกันเฉย ๆ แล้วก็วูบไป...เออ ๆ ใช่  วูบไป..ก็  แค่นั้น ผมอึกอักตอบ  เง้อเชื่อผมเต๊อะ  พรีสส

     

                    เมิงแน่จายยยยยย   คู่ดูโอประสานเสียงถามพลางจิกสายตาคาดคั้นโดยเฉพาะพี่วิทย์น่าขอยืมแก้มดำ ๆ ของแกเป็นที่ฝากรองเท้าชะมัด

     

                    แน่ใจดิ่  วู้...ไรเนี่ย ไม่คุยละ ๆ ไปทำงานดีกว่า  ลุกหนีจากสถานการณ์น่าอึดอัดจนได้... โถ  แล้วจะให้ผมไปบอกใครได้เล่าว่าโดนผีหลอกฟัน   แถมไม่ใช่แค่รอบเดียวเสียด้วย   แง๊ ๆ 

     

     

                    ฮือ  ฮือ   เอ..... แล้วถ้าพรุ่งนี้ผมจะไปเข้าห้องน้ำตอนเช้าอีกครั้ง   ผมจะเจอวิญญาณหนุ่มน้อยร้อนสวาทดวงนั้นอีกไหมเนี่ย  กระผมนายก้องกังวาน  หยุดไตร่ตรอง.....ก่อนจะค่อย ๆ นั่งลงกับโซฟานุ่มในห้องทำงานส่วนตัว

     

                    พรุ่งนี้ผมคงต้องไปพิสูจน์อีกสักครั้งน่าจะดีนะ ...หรือคุณ ๆ ว่าไง

    [End.]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×