ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My majic Mirror

    ลำดับตอนที่ #4 : วันพักผ่อนอันแสนสุข

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 48




          วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขมากๆเลย  เพราะฉันและครอบครัวกำลังจะไปเที่ยวทะเลกัน  เราจะไปให้ไกลจากความวุ่นวาย  และความเศร้าหมอง  เรากำลังจะไปเที่ยวกันที่ชายหาดเดย์นีช เย้!   ซึ่งขับรถออกไปไม่ไกลจากเมืองเวกด้า  และเป็นชายหาดที่เราชอบไปพักผ่อนกันบ่อยๆ  ฉันชอบที่นี่มากเลย  มันเป็นหาดนอกเมืองที่เงียบสงบ และสวยงามมากเลยทีเดียว  ฉันยังเคยคิดว่าอยากจะอยู่ที่นี่ตลอดไปเลยด้วย,

      

    “ว้าว” ฉันเปิดกระจกรถ แล้วลมเย็นสบายก็พัดเข้ามา



    ถึงแล้ว,

    เราพักที่โรงแรมชั้นเยี่ยมด้วยกัน  โดยฉันพักห้องเดียวกับฮิล แน่นอน มันเป็นห้องที่มีประตูเชื่อมกับห้องพ่อแม่ฉัน  ซึ่งพ่อกับแม่ก็เปิดประตูนั้นไว้ตลอดเวลาเลย



    “ไปว่ายน้ำกันเถอะ” ฮิลชวนฉัน

    “จ้า”

    “จะบ่ายสองแล้วด้วย, เราต้องรีบตักตวงเวลาพักผ่อนอันแสนสุขให้มากที่สุด” ฉันตอบ

    “ฮ่ะฮ่ะ” ฮิลหัวเราะ, แล้วเราก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงไปว่ายน้ำที่สระของโรงแรมกัน



    “ตุ้ม!” ฮิลกระโดดลงน้ำ

    “เฮ้ย เดี่ยว!”





            ฉันกับฮิลว่ายน้ำเล่นกัน, ฉันรู้สึกสบายมากเลย  แต่เนธานก็กลับมาวนเวียนอยู่ในหัวฉันอีกเหมือนเคย  ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ด้วย  ฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้นักหรอกนะ  คือ เนธานเป็นคนที่ฉันชอบน่ะ  ที่โรงเรียนนั่นแหละ  เขาเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลคนดังของโรงเรียนด้วย  แต่ฉันก็ไม่รู้นะว่าเขาคิดยังไง  บางทีเขาอาจจะไม่คิดอะไรเลยก็ได้  ฉันไม่อยากเสียใจนะ    ที่จริงแล้ว  เขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นหรอกนะ  แต่ไม่รู้สิ  มีบางอย่างทำให้ฉันรู้สึกชอบเขา  ชอบเขามากเลยทีเดียว



    “ตุ้ม!”  ฉันหันไปทันที, เด็กผู้ชายรุ่นเดียวกับฮิลเพิ่งกระโดดลงมาในสระน้ำ, ว้าว!  เขาดูน่ารักดีนะ, ผมสีทอง  ตาสีเขียว... ฮ่ะฮ่ะ

    “ตุ้ม!” เด็กผู้ชายอีกคนที่ดูแก่กว่าฉันปีหนึ่ง  กระโดดตามลงมา, เขาดู... น่ารักมากเลยทีเดียว มากๆเลยด้วย   เขาผมสีน้ำตาลเข้ม  ตาสีน้ำตาล, แต่ ยังไงฉันก็ไม่กล้าเข้าไปคุยกับพวกเขาอยู่ดีนั่นแหละ เฮ่อ....





    ฉันหันกลับมา, แล้วฮิลก็ยิ้มให้ฉัน  ฉันยิ้มตอบ,  ฉันว่าเราต้องคิดเหมือนกันแน่เลย ว่าสองคนนั้นน่ารักแค่ไหน

    “น่ารักอ่า” ฉันพูดเสียงเล็กแหลมเบาๆกับฮิล

    “ใช่ๆ” ฮิลตอบ, เรายิ้มตาหยี  



            แล้วเราก็ว่ายน้ำเล่นกันต่อในสระ,  ฉันหันไปมองเขา ซึ่งฉันหมายถึงหนุ่มหล่อลากดินคนนั้น... ก็...เป็นพักๆนะ แต่ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกเหมือนว่าเขาหันมามองฉันก่อนเลย  แต่ช่างเถอะ...เขากำลังเล่นจานบินกันอยู่ และใช่ ฉันก็หันไปมองเขาอีก  ว้าว, เขากำลังมองฉันอยู่ เขายิ้มด้วย  พอเขาเห็นฉันหันไปเขาก็หันหน้าหนีไป  ฉันงงมากเลยนะเนี่ย  ฉันเลยยิ้มงงๆคนเดียว  แล้วว่ายน้ำเล่นกับฮิลต่อ



    “แป็ก!” จานบินสีเขียวตกลงบนผิวน้ำข้างๆฉัน, ฉันรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก  ฉันทำอะไรไม่ถูกจริงๆนะเนี่ย   เอาล่ะ ฉันได้สติแล้ว   ฉันหยิบจานบินนั้นแล้ว... เขา..คนนั้นก็เดินมาเอาจานบิน



    “ขอบใจครับ”  เขาพูดแล้วยิ้ม, หน้าเขาแดงมากเลยด้วย  ฉันก็เหมือนกัน แต่อาจจะเป็นเพราะแดด ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ฮ่ะฮ่ะ

    “ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันตอบ, เรายิ้ม  

    “อยากเล่นด้วยกันมั้ย” เขาถามอย่างเขินๆ

    “ก็ดี...”  ฉันตอบอย่างเขินๆเช่นกัน

    “ผมแบรนดอน…” เขายิ้มเขินๆ

    “ฉัน...เอริก้า, แต่... เรียกว่าริกกี้ก็พอ” ฉันแนะนำตัว

    “ฉันน้องสาวริกกี้... ฮิลารี่ค่ะ, เรียกแค่ฮิลเฉยๆก็ได้”  ฮิลแนะนำตัว

    “นั่นน้องชายผม..., เฮ้ยฌอน!” แบรนดอนเรียกน้องชายของเขา หรือฌอน  ซึ่งกำลังว่ายน้ำมาหาเรา,  เขายิ้มแล้วทัก เขาน่าเอ็นดูมากเลย

    “ หวัดดีครับ” เขาทัก

    “หวัดดี”  ฉันกับฮิลทักตอบ

    “ผมฌอน” เขาทักอย่างคล่องแคล่ว ต่างจากแบรนดอนมากเลย

    “ฉันฮิลารี่... แค่ฮิลก็พอ”

    “ฉันเอริก้า, แค่ริกกี้ก็พอ...” เราทุกคนยิ้ม

    “พวกคุณมาจากไหนกันหรอ” ฮิลถามแบรนดอนกับฌอน

    “อ้อ, เรามาจากเเคลิฟลอเนียน่ะ”  ฌอนตอบ, ว้าวเขาเป็นคนต่างประเทศนั่นเอง

    “ว้าว”   “เรามาจากเวกด้าน่ะ” ฉันบอก

    “ว้าว, เราเพิ่งไปเที่ยวเวกด้ากันมาเมื่อสามวันที่แล้วเอง  แล้วเราก็มาเที่ยวที่หาดเดย์นีชต่อ”  แบรนดอนเล่า

    “เราชอบที่นี่มากเลย” เขาเสริมต่อ

    “ช่ายๆ” ฌอนเสริมอีกแรง

    “เราก็ชอบเหมือนกัน” ฉันบอก

    “ไปคุยตรงนั้นกันมั้ย” ฌอนเสนอให้เราไปคุยกันตรงน้ำพุใกล้กับสระเล็ก ฉันว่าเขาเหนื่อยแน่เลย ที่ต้องทรงตัวอยู่ในน้ำตลอดเวลา  เพราะตรงนั้นมีที่เกาะได้สบายเลย หรือจะนั่งในสระเล็กตื้นๆก็ได้  ฉันว่านี่เยี่ยมกว่าเล่นจานบินซะอีก



            เราไปเกาะขอบสระตรงนั้น แล้วคุยกัน   สองคนนั้นน่ารักมากเลย, ฉันชอบแบรนดอนมากเลยด้วย  เขาเป็นคนขี้อายมากเลย  เขาน่ารักมากๆจริงๆ  แบรนดอนอายุสิบห้าเท่าฉัน   ส่วนฌอนก็อายุสิบสาม มากกว่าฮิลหนึ่งปี,  แบรนดอนบอกว่าเขาคลั่งกระดานโต้คลื่นสุดๆเลยล่ะ  ฌอนก็ด้วย  แค่ฌอนไม่บ้าเท่าแบรนดอน  พวกเขาไปเล่นกระดานโต้คลื่นด้วยกันทุกสัปดาห์เลยด้วย  ฉันล่ะอิจฉาอย่างหนักเลย



            ใช่สิ, แล้วฌอนก็ชอบเล่นกีตาร์ด้วยนะ  เขาเรียนมาปีกว่าแล้วล่ะ   ฌอนบอกว่าเขาแบกกีตาร์มาที่นี่ด้วย  เดี่ยวจะเอามาเล่นให้ฟัง   พอฉันบอกเขาว่าฉันชอบร้องเพลง ดูท่าทางเขาดีใจใหญ่เลยด้วย   จะได้มีคู่ดูโอสักที  ฌอนบอกว่าแบรนดอนร้องเพลงได้ห่วยอย่าบอกใครเลยทีเดียว  แบรนดอนก็แก้ตัวว่าเขาไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ ฮ่ะฮ่ะ   แบรนดอนบอกว่าเขาก็สนใจดนตรีเหมือนกัน เขาชอบฟังเพลงด้วย   แต่เขาสนใจกีฬามากกว่าน่ะสิ  เขาบอกว่าเขาบ้ากระดานโต้คลื่นอย่างหนักไปแล้ว ฮ่ะฮ่ะ  





             ฉันกับแบรนดอน และฌอนชอบฟังเพลงแนวเดียวกันเลย  แล้วฉันกับแบรนดอนชอบวง Switchfoot  มากด้วย   แถมยังชอบฟัง Maroon5, The Calling, Travis, Steriophonics   แนวๆนี้เหมือนกันอีก   แต่สองคนนั้นไม่ได้มีใครฟังฮิลารี่  ดัฟฟ์เหมือนฉันหรอกนะ  มีฮิล  แต่ที่จริงเราทุกคนก็ฟังเพลงได้หมดนั่นแหละ ทุกแนวเลย



    เราคุยกันนานมากเลย  แล้วเราก็ว่ายน้ำเล่นกันต่อเป็นชั่วโมงเลยล่ะ ไม่มีใครมาขัดขวางเลยด้วย  ฉันสนุกมากจริงๆ  เหมือนไม่เคยสนุกอย่างนี้มาก่อนเลยด้วย   ฉันมีความสุขมากเลย



    “ฉันชักหิวแล้วล่ะ, ไปหาซื้ออะไรกินกันเถอะ” ฌอนเสนอ

    “เอาสิ” ฮิลพูด แล้วเราก็ขึ้นจากสระ แล้วไปร้านขายขนมเล็กๆในโรงแรมกัน



    เราเลือกไอติมกัน  ฉันรู้สึกดีมากเลยเวลาอยู่ใกล้กับแบรนดอน  ว้าว! ฉันไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย   ฉันมีความสุขมากเลยนะเนี่ย





            ฉันมองผ่านผนังกระจกออกไปข้างนอกร้าน แล้วฉันก็เห็นแสงสว่าง เหมือนกับแสงส่องเป็นประกายมาจากพื้นทรายบนหาด  แล้วแสงนั้นก็หายวับไป  มันอะไรกันเนี่ย  ช่างเถอะ ฉันอาจจะตาฟาดไปมั้ง



             เราไปเล่นวอลเลย์บอล   แบรนดอนสอนฉันเล่นกระดานโต้คลื่น ซึ่งมันเยี่ยมเป็นบ้าเลย  แล้วเราก็ถ่ายรูปกันต่อที่ชายหาด  ฉันสนุกจนลืมเรื่องแสงจากพื้นทรายนั้นไปเลยด้วย   เราไปว่ายน้ำที่สระต่อ  พอหกโมงเย็น พ่อกับแม่ฉันก็มาหาเราที่สระน้ำ



    “ริกกี้! ฮิล!” แม่เรียกฉันกับฮิล

    “ไปเถอะจ้ะ  เดี่ยวจะพาไปกินข้าวข้างนอก”

    “ค่ะ” เราบอกแม่, แล้วพ่อกับแม่ก็ยิ้มเมื่อเห็นเราคุยกับแบรนดอนและฌอน



    “เฮ้ย,  เราต้องไปก่อนนะ  พ่อกับแม่เราจะพาไปกินข้างข้างนอกโรงแรมน่ะ  แต่เดี่ยวก็กลับมาค่ำๆ”  ฉันบอกแบรนดอนกับฌอน

    “เดี่ยวเราก็จะออกไปกินข้าวเย็นข้างนอกเหมือนกัน, หวังว่าจะได้เจอกันนะ” แบรนดอนบอก

    “อืมช่าย” ฉันบอก

    “งั้นคืนนี้พวกเรานัดเจอกันดีมั้ยล่ะ” ฌอนเสนอ, ว้าว ฉันชอบเขาจริงๆเลย

    “เยี่ยมเลย” แบรนดอนบอก

    “ใช่ๆ” ฉันกับฮิลพูด

    “งั้นเจอกันที่ล๊อบบี้ตอนสองทุ่มครึ่งและกัน”

    “เจ๋ง”

    “โอเค”

    “งั้นบาย”

    “บาย” เราบอกลากัน

    “แล้วเจอกันนะ”

    “โอเค”  เรายิ้ม  ใช่, ฉันยิ้ม ยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดในโลกเลย



             ตั้งแต่ขึ้นจากสระน้ำในหัวฉันก็มีแต่แบรนดอนทั้งนั้นเลย  ฉันเลิกนึกถึงเขาไม่ได้จริงๆนะเนี่ย   ส่วนเนธานน่ะเหรอ ลืมไปเลยล่ะ ดีเหมือนกันนะเนี่ย



            ฉันกับฮิลไปอาบน้ำแต่งตัว  เราเล่าเรื่องแบรนดอนกับฌอนให้พ่อกับแม่ฟังด้วย  พ่อกับแม่ก็ยิ้มๆอ่ะนะ แล้วถามเกี่ยวกับพวกเขาด้วย ฉันก็ดีใจเรื่องนั้นเหมือนกัน  แต่เรายังไม่ได้ขอพ่อกับแม่เรื่องที่พวกเรานัดเจอกันคืนนี้เลยล่ะสิ  ฉันไม่กล้าขอน่ะ  กลัวว่าพ่อกับแม่จะตอบซะยาว  และอาจเป็นคำตอบที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ด้วย  ช่วยฉันที ช่วยด้วย



    “เอาล่ะ”  ฉันกับฮิลตกลงขออนุญาตพ่อกับแม่ทันที  พ่อกับแม่ก็ให้เราไปนะ แต่ มีพูดต่อซะยาวเลยน่ะสิ   บอกว่าอย่าไปอยู่กันที่มืดๆ   ให้ระวังตัว.... เยอะแยะเลย  ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจแบรนดอนกับฌอนหรอกนะ แต่ประมาณว่ากลัวพวกสภาพแวดล้อมอันตรายมากกว่า  แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ไปและกัน  เย้! ฉันดีใจที่สุดในโลกเลย





             เมื่อฉันกับครอบครัวกลับมาถึงที่โรงแรม หลังจากไปกินอาหารเย็นและช๊อปปิ้งซะนาน  เราก็ลงจากรถแล้วไปที่ล๊อบบี้ทันที  ถึงจะยังไม่ถึงสองทุ่มครึ่งก็เถอะ  แต่ก็ใกล้แล้ว



    “อ้าว” นั่นแบรนดอนกับฌอนนี่นา  เขาถือกีต้าร์อยู่ด้วย ท่าทางเขาเพิ่งจะมาถึงโรงแรมเหมือนกัน  เพราะพ่อกับแม่เขากำลังเอากุญแจอยู่ที่เคาท์เตอร์

    “หวัดดีฮิล ริกกี้” ฌอนวิ่งมาทักเรา

    “หวัดดี” เราทักตอบ

    “หวัดดี” แบรนดอนทัก หลังจากที่เขาเดินมาอย่างมาดแมน

    “หวัดดี”

    “นี่พ่อแม่เราเอง” ฉันบอก

    “หวัดดีครับ”

    “หวัดดีจ้ะ” “หวัดดี”  ทั้งสองทักทายพ่อกับแม่เรา แล้วพ่อกับแม่ของแบรนดอนและฌอนก็เดินมา  ทักทายฉัน ฮิล และพ่อกับแม่เรา พวกเขาน่ารักและดูเป็นมิตรมากเลย

    “เราไปนั่งตรงนั้นนะครับ” ฌอนบอกกับพ่อกับแม่ของเราทั้งหมด

    “จ้ะ” แม่ของฌอนและแบรนดอนพูด  พวกเขายิ้ม, พวกเราสี่คนเดินไปนั่งที่โซฟาใหญ่ในล๊อบบี้  ส่วนพ่อแม่ของพวกเราก็คุยกันไม่หยุดเลย ดีจัง





             ฌอนเล่นกีต้าร์แล้วร้องเพลงให้เราฟังใหญ่เลย แล้วแบรนดอนก็บอกให้ฉันเป็นคนร้องบ้าง  พอเพลงหลังๆเราก็ร้องกันทุกคนเลย  มันสนุกมากเลย  บางทีเราเสียงดังจนพนักงานโรงแรมที่เคาท์เตอร์หันมามองเลยด้วยซ้ำ  ฮ่ะฮ่ะ



    “พ่อกับแม่ไปที่ห้องก่อนนะ, แล้วเจอกัน”

    “อย่าดึกนักล่ะ”

    “ค่ะ/ครับ”

    “ราตรีสวัสดิ์ครับ”

    “ฝันดีนะคะ”

    “จ้ะ” พ่อกับแม่พวกเราเดินกลับห้องพักไป



    “เฮ้ย  ไปซื้ออะไรกินกันเถอะ หิวน่ะ” ฌอนบ่น

    “ไปกันเถอะ” ฮิลพูด แล้วเราก็ไปที่ร้านขายขนมนั้นที่เราไปเมื่อตอนบ่ายกัน



            ที่ร้านขายขนม, ฮิลกับฌอนเข้าไปเลือกขนมในร้าน  แล้วฉันกับแบรนดอนก็บอกสองคนนั้นว่าเราจะไปเดินเล่นด้วยกัน  ให้เจอกันที่ล๊อบบี้



    “ดีเลย” ฌอนพูด เขายิ้มใหญ่  สงสัยเขาคงชอบฮิลมั้ง ฮ่ะฮ่ะ





    ฉันกับแบรนดอนไปนั่งคุยกันที่สระว่ายน้ำ เพราะตรงนั้นเปิดไฟสว่างอยู่  เขาคุยสนุกมากเลย เขาน่ารักมากจริงๆ แก้วเขาก็แดงตลอดเวลาเลยด้วย  ว้าว



    “เฮ้ย, อยากไปเดินเล่นที่ชายหาดกันมั้ย” แบรนดอนชวนฉัน

    “เอาสิ”

    เราไปเดินเล่นที่ชายหาดกัน  ฉันมีความสุขมากเลย แต่ฉันก็ยังรู้สึกแปลกๆนะ ฉันดีใจเรื่องแบรนดอนมาก แต่ฉันยังรู้สึกว่าเนธานกลับมาวนเวียนอยู่ในหัวฉันอีกแล้วน่ะสิ  เฮ่อ  แปลกจัง  ในเมื่อฉันได้พบกับคนที่ดีกว่าเนธานแล้วนะเนี่ย   ฉันไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ

    “อะไรน่ะ”  ฉันเห็นแสงวาบมาจากพื้นทรายตรงนั้นอีกแล้ว

    “มีอะไรหรอ” แบรนดอนถามฉัน

    “ฉันเห็นแสงวาบมาจากพื้นทรายตรงนั้นน่ะ” ฉันบอก ทำหน้างง

    “โอ้! ผีในชุดคลุม!”   “หนีเร็ว!” แบรนดอนพูดหน้าตกใจ  เขารีบวิ่งทันที  

    “แบรนดอน!” ฉันตะโกน แล้ววิ่งตามแบรนดอนเข้าไปในพุ่มไม้ วิ่ง วิ่ง วิ่ง  

    “แบรนดอน!”  ฉันกลัว  ฉันกลัว ฉันกลัวมากเลย   ช่วยฉันด้วย

    “ฮะ”ฉันหยุดยืนท่ามกลางแสงสว่าง  เขาหันมามองฉัน   ฉันจ้องเขา  หัวใจฉันเต้นแรงขึ้น เร็วขึ้น  เขาทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย  ฉันดีใจเหลือเกินที่พบเขา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×