ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My majic Mirror

    ลำดับตอนที่ #3 : กระจกบานใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 48






    “กริ๊ง! กริ๊ง!” ฉันโทรศัพท์ไปหาแอมเบอร์



    “ฮัลโหล” แอมเบอร์พูด



    “เอ่อแอมเบอร์ นี่เอริก้านะ สรุปว่าปิดเทอมนี้เราจะไปเที่ยวไหนกันดีหละ” ฉันถาม



    “ใช่นะสิ, ฉันอยากไปเที่ยวทะเลมากเลย แต่คงยาก” แอมเบอร์ตอบ



    “เหมือนกัน เฮ่อ! หนีไปเลยม่ะฮ่ะฮ่ะ”



    “น่าจะมันส์ดีเหมือนกันนะ ฮ่ะฮ่ะ”



    “งั้นไปเที่ยวห้างชาเรนเทิลล่ะ” แอมเบอร์เสนอ



    “ก็ดีนะ” ฉันตอบ



    “งั้นเอาเป็นวันพุธหน้าและกัน ดีมั้ย” ฉันถาม



    “ดีๆ”



    “เย้ๆ” เราทั้งสองต่างดีใจ



    “งั้นเดี่ยวฉันโทรไปบอกเดนิสและกัน แล้วให้เดนิสโทรไปบอกโคลอี้  โคลอี้โทรไปบอกจูดิธ” ฉันบอก



    “โอเค แล้วเดี่ยวฉันโทรไปหาเมแกนให้ แล้วให้เมแกนโทรไปหาแอนนา ” แอมเบอร์พูดทันที



    “เจ๋ง! แล้วเจอกันนะจ้ะ”



    “จ้ะ, บาย”



    “บาย”





    เช้าวันพุธ,

    ที่ห้างชาเรนเทิล,



           เมื่อเราเข้ามาในห้าง เราก็แวะไปร้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้า ร้านรองเท้า ร้านกระเป๋า ร้านนาฬิกา ร้านหมวก  ร้านเครื่องประดับ ซึ่งมันดูเหมือนว่าจะเป็นการช๊อปปิ้งที่นานที่สุดที่ฉันเคยมีมา และสนุกที่สุดด้วย



    “หิวจัง” จูดิธบ่น

    “เดี่ยวไปกินร้านไหนกันดีล่ะ”  แอมเบอร์ถาม

    “เอ่อ....” นั่นคือเสียงที่ทุกคนในกลุ่มทำ เมื่อเราต้องการความคิดเห็น, ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย  ทุกคนยืนเฉยและมองไปรอบๆตัวเอง

    “ไปกินพิซซ่ากันมั้ยล่ะ” ฉันเสนอ

    “ก็ดีนะ” โคลอี้ตอบ

    “ไปเถอะ” แอมเบอร์พูด, แล้วเราก็ตรงไปที่ร้านพิซซ่าทันที





            ระหว่างทางที่เรากำลังเดินไปร้านราเมนนั้น,  ก็มีแสงสว่างเจิดจ้าแยงตาฉัน  

    “ฮื้ย”  ฉันหรี่ตา และ พยายามมองไปตามลำแสง,  ฉันเห็นกระจกบานหนึ่งในร้านขายของแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลไปจากร้านพิซซ่า,   กระจกบานนั้นมันช่าง... สวยงามเหลือเกิน, แล้วแสงสว่างก็หายไป



    “เฮ้ย, ฉันเข้าไปดูร้านนั้นก่อนนะ เดี่ยวตามไป” ฉันบอกเพื่อนๆ

    “โอเคจ้ะ”

    “จ้ะ” จากนั้นฉันก็เดินเข้าไปในร้านทันที



            มันเป็นร้านเงียบๆ คนน้อยๆ ที่สวยมากเลยด้วย แบบนี้เนี่ยแหละที่ต้องการ ว้าว! ในร้านมีของต่างๆมากมายที่ดูเหมือนจะออกแนว... เอ่อ ไม่รู้สิ... ออกแนวอียิปต์  แนวยิปซี และก็ดูเหมือนเผ่าอะไรต่างๆมั้ง เหอะๆ ไม่รู้มันเกี่ยวกันรึเปล่า แต่ฉันชอบของแบบนี้มากเลยหละ





    “สวัสดีจ้ะ”  เจ้าของร้านหันมาทักฉันพร้อมกับยิ้มให้เราอย่างเป็นมิตร

    “สวัสดีค่ะ” ฉันทักเขาแล้วยิ้มตอบ,



             เจ้าของร้านคนนี้ดูท่าทางใจดีและเป็นมิตรมากเลย อีกอย่างเธอก็สวยมากด้วย เธอดูดีจริงๆเลย, ฉันเดินดูของไปรอบๆร้าน ฉันอยากจะได้ทุกอย่างในร้านนี้เลยนะเนี่ย, ถ้าโตขึ้นฉันได้เป็นดีไซน์เนอร์ ฉันก็จะออกแบบเสื้อผ้าหลายๆแนว รวมทั้งแนวนี้ด้วย แล้วฉันกับฮิลก็จะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ตั้งชื่อว่า “แพนเลย์”



    “อุ้ย! ผ้านี้สวยจังเลย, ผืนใหญ่ด้วย, สีขาวดีกว่า” ฉันพูดพึมพำกับตัวเอง ฉันซื้อดีกว่า  และฉันก็เดินไปดูของรอบๆร้าน

    “ว้าว! กระจก... กระจกใบนั้นนี่นา  มันสวยมากเลย” ฉันพูดเบาๆกับตัวเอง เมื่อเห็นกระจกงามบานหนึ่ง



             มันเป็นกระจกแบบถือขนาดพอเหมาะ ที่กรอบของกระจกและที่จับทำด้วยเงิน ซึ่งดูเหมือนจะตกแต่งด้วยโมเสกขนาดเล็กหลากสีที่ฝังลงไปในเนื้อเงิน แล้วที่ตัวกรอบก็มีรูปลักษณะโค้งไปมา เก๋จริงๆ วู้! นอกจากนี้ ตรงที่จับด้านบนก็ยังมีการตกแต่งด้วยโมเสกแบบพิเศษที่แตกต่างจากโมเสกอันอื่นๆ คือใหญ่กว่า มีลักษณะเหมือนสามเหลี่ยมสองอันมาประสานกันเป็นรูปดาวสีฟ้าเข้ม ในขณะที่โมเสกอันอื่นๆเป็นโมเสกขนาดเล็กว้าว! มันส่องแสงเป็นประกาย และช่างงดงามเกินจะบรรยายได้  ว้าว! มันเยี่ยมมากเลย  ฉันอยากได้กระจกแบบนี้มาตั้งนานแล้วด้วย  อีกอย่าง ฉันชอบโมเสกมากเลย  ที่ห้องนอนฉันแต่ของที่ตกแต่งด้วยโมเสกทั้งนั้น





    “เอาสองอย่างนี้ค่ะ” ฉันพูดกับเจ้าของร้านทันที, เอ้ย! ฉันลืมดูราคาของไป แต่ช่างเถอะ เป็นไงเป็นกัน

    “ได้จ้ะ, ทั้งหมดสิบสองเหรียญจ้ะ” ว้าว! ไม่แพงด้วย, ดีใจจัง

    “ขอบคุณค่ะ” ฉันพูด

    “โชคดีนะจ้ะ” เจ้าของร้านพูด ฉันยิ้มให้เธอ, จากนั้นฉันก็เดินออกจากร้าน แล้วไปหาเพื่อนๆที่ร้านพิซซ่าทันที   แล้วกลับบ้านกัน



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×