ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My majic Mirror

    ลำดับตอนที่ #1 : เจ้าหญิงมีอาร่า

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 48


               นานมาแล้วในดินแดนรุ่งเรืองอันแสนไกล มีเมืองอยู่เมืองหนึ่งชื่อว่าเมืองกาเซฟาน ซึ่งปกครองโดยกษัตริย์ฟิลิสและราชินีเรย์อาห์เวลผู้มีจิตใจงดงาม , ทั้งสองมีพระราชธิดาที่แสนจะงดงามองค์หนึ่ง นามว่า “เจ้าหญิงมีอาร่า” เมื่อพระองค์โตขึ้น ก็ได้เป็นสาวงามที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง, มีเจ้าชายจากเมืองต่างๆมากมายหลงใหลในเจ้าหญิงมีอาร่า และต้องการจะอภิเษกสมรสกับเธอ แต่ เธอไม่เคยตกหลุมรักใครเลย จนกระทั่งช่วงฤดูร้อนที่หาดชาร์ไรน์บนเกาะเฟสปาร์



        ในระหว่างที่เจ้าหญิงมีอาร่ากำลังเดินเล่นอยู่ริมหาดชาไรน์นั้น... เธอได้พบกับ... เจ้าชายอาร์คมิสท์, เจ้าชายแห่งเมืองโฟเอลห์ เพียงแค่ทั้งสองสบตากัน  แบ๊งค์! มันเป็นรักแรกพบที่แสนวิเศษ  ทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกัน  และได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันที่เกาะเฟสปาร์ตลอดช่วงฤดูร้อน



        คืนหนึ่งที่หาดชาร์ไรน์,

        เจ้าหญิงมีอาร่าและเจ้าชายอาร์คมิสท์ได้ไปพบกันที่ชายหาดตามที่ได้นัดกันไว้ทุกๆคืน, ทั้งคู่นั่งลงบนผืนทรายใต้แสงจันทร์อันแสนอบอุ่น



        “มีอาร่า…” เจ้าชายอาร์คมิสท์เรียกเบาๆ  “ผมมีบางอย่างจะให้คุณ…” ทั้งสองยิ้ม

    “นี่... สำหรับคุณ” เจ้าชายอาร์คมิสท์ให้กระจกกับเจ้าหญิงมีอาร่า มันเป็นกระจกที่งดงามมากเลยทีเดียว มันเป็นกระจกแบบถือขนาดพอเหมาะ กรอบของกระจกและที่จับทำด้วยเงิน ซึ่งดูเหมือนจะตกแต่งด้วยโมเสกขนาดเล็กหลากสีที่ฝังลงไปในเนื้อเงิน แล้วที่ตัวกรอบก็มีรูปลักษณะโค้งไปมา นอกจากนี้ ตรงที่จับด้านบนก็ยังมีการตกแต่งด้วยไพลินสีฟ้ารูปดาวส่องประกาย มันส่องแสงเป็นประกาย และช่างงดงามเกินจะบรรยายได้



    “ว้าว, มันช่างสวยจริงๆเลย” ทั้งคู่ยิ้ม

    “ช่าย, มันสวยมากเลย” “มีอาร่า, ผมรักคุณ”

    “ฉันก็รักคุณเช่นกัน”

    ทั้งคู่รักกันมากเกินกว่าที่ใครจะมาพรากจากกันไปได้ มันเป็นความรักที่บริสุทธิ์และมีพลัง มันเหมือนกับพรอันประเสริฐจากนางฟ้า  เป็นอะไรที่แสนวิเศษ



        ช่วงฤดูร้อนบนเกาะเฟสปาร์ของทั้งสองหมดลง แต่ความรักที่ทั้งสองมีให้กันยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทั้งคู่ได้กลับมาที่เมืองของตนเองแล้ว เจ้าชายอาร์คมิสท์ก็ได้ส่งจดหมายมาให้กับเจ้าหญิงมีอาร่า เพื่อที่จะขออภิเษกสมรสด้วย และแน่นอนว่าเจ้าหญิงตอบตกลง, ทั้งสองเมืองได้ตกลงกันจัดงานอภิเษกสมรสขึ้นที่พระราชวังของเจ้าหญิงมีอาร่า  และได้เตรียมการกันอย่างดีเยี่ยม



        คืนวันอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงมีอาร่ากับเจ้าชายอาร์คมิสท์,

        ในระหว่างที่เจ้าหญิงกำลังแต่งตัวอยู่ในห้องบรรทม โดยมีหญิงรับใช้วัยใกล้เคียงกับเจ้าหญิงผู้ซื่อสัตย์ ที่เคยเป็นเพื่อนเล่นมาตั้งแต่ยังเล็ก ชื่อว่าทาร่าห์กำลังช่วยจัดการเรื่องแต่งตัวอยู่ด้วย



        “น๊อค! น๊อค! น๊อค!” เสียงเคาะประตูห้องบรรทมของเจ้าหญิงมีอาร่า

        “เข้ามาได้” เธอพูดอย่างอ่อนหวาน, หญิงรับใช้คนหนึ่งถือถาดน้ำชามาสำหรับเจ้าหญิงมีอาร่า แล้วส่งให้กับทาร่าห์ ในระหว่างที่เจ้าหญิงมีอาร่ากำลังวุ่นอยู่กับชุดแต่งงานของพระองค์อยู่นั้น ทาร่าห์ก็ได้ยกถาดน้ำชามาไว้ที่โต๊ะน้ำชาและแอบใส่ผงบางอย่างลงในถ้วยน้ำชาของเจ้าหญิงมีอาร่าถ้วยนั้น

        “ฉันกลัวจังเลยทาร่าห์” เจ้าหญิงมีอาร่าบอก

        “ดื่มน้ำชานี่ค่ะ เจ้าหญิงมีอาร่า, อาจจะทำให้พระองค์รู้สึกดีขึ้น”  “เชื่อดิฉันสิค่ะ ว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่งดงามที่สุดสำหรับพระองค์” ทาราห์พูด แล้วทั้งสองก็ยิ้มให้กันอย่างอบอุ่น ในขณะที่เจ้าหญิงกำลังจะดื่มน้ำชา

        “น๊อค! น๊อค! น๊อค!” เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง

        “นี่ฉันเอง, ฟอนดราห์” ทาร่าห์เดินไปเปิดประตูให้ญาติคนสนิทของมีอาร่า ที่เคยเป็นเพื่อนเล่นในสมัยเด็กเช่นกัน

        “ว้าว! เธอสวยมากเลย” ฟอนดราห์ชม

        “ขอบใจจ้ะ” พวกเธอกอดกัน

        “ตอนนี้ทุกคนรออยู่ข้างล่างกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วล่ะ” ฟอนดราห์เอ่ยขึ้น “ยังไงฉันก็ต้องลงไปก่อนล่ะนะ, โชคดีจ้ะ” ทั้งคู่ยิ้มให้กัน และฟอนดราห์ก็ออกจากห้องไป

        “ตอนนี้ฉันก็พร้อมแล้วล่ะ, ไปกันเถอะ” เจ้าหญิงมีอาร่าเอ่ยขึ้น

        “พระองค์ไม่ดื่มน้ำชาก่อนหรือเพคะ” ทาร่าห์ถาม

        “โอ้, ขอบใจจ้ะ” เจ้าหญิงเอ่ยขึ้น เธอดูมีความสุขและมีชีวิตชีวามากเลยทีเดียว

        “ถ้าอย่างนั้น, เดี่ยวดิฉันไปตามพระราชากับพระราชินีมาก่อนและกันนะเพค่ะ”

        “จ้ะ” ทาร่าห์ออกจากห้องไปอย่างมีความสุข เธอยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว



        ทันทีที่ทาราห์ออกจากห้องไป เจ้าหญิงมีอาร่าก็หยิบชาถ้วยนั้นขึ้นมาดื่ม เธอรู้สึกมีความสุขมากเลยทีเดียว  และสิ่งเดียวที่เธอกำลังนึกถึงอยู่ตอนนี้ก็คือ เจ้าชายอาร์คมิสท์  ชายเพียงผู้เดียวที่เธอรัก  ชายเพียงผู้เดียวที่เธออยากจะใช้ชีวิตที่มีค่าทั้งชีวิตด้วย  ชายเพียงผู้เดียวที่เธอต้องการ, เธอจึงหยิบสิ่งที่แสนจะมีค่าสิ่งหนึ่งขึ้นมา นั่นก็คือกระจกมีอาร่างดงามบานนั้นนั่นเอง, พระองค์หยิบกระจกบานนั้นขึ้นมาดู พระองค์ช่างงดงามเหลือเกิน ทันใดนั้น...



    “อแค็ก! อแค็ก!” เจ้าหญิงมีอาร่าไอ, เธอรู้สึกแย่มากเลยทีเดียว เธอแทบจะหายใจไม่ออก

    “ทาร่าห์! ทาร่าห์!” เธอร้องเรียกสาวใช้

    “อาร์คมิสท์! อาร์คมิสท์!” เธอร้องเรียกชายเพียงผู้เดียวที่เธอรักอย่างสุดเสียง เท่าที่เธอจะทำได้ เธอทนฤทธิ์ของยาพิษแทบจะไม่ไหวแล้ว แต่ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของความรักที่เจ้าหญิงมีอาร่าและเจ้าชายอาร์คมิสท์มีต่อกันทำให้เจ้าชายมีความรู้สึกแปลกๆ และรู้สึกเป็นห่วงเจ้าหญิงมีอาร่า เจ้าชายจึงขึ้นมาหาเจ้าหญิงอย่างเร่งรีบโดยไม่มีเหตุผลใดๆ, เจ้าชายได้ยินเสียงร้องเรียกของเจ้าหญิงมีอาร่า  จึงรีบเปิดประตูเข้าไปหา และได้พบเจ้าหญิงมีอาร่านอนอยู่ริมหน้าต่าง ซึ่งเธอดูเหนื่อยและอ่อนหล้ามากเลยทีเดียว

    “มีอาร่า!” เจ้าชายร้อง

    “อาร์คมิสท์”

    “ได้โปรดอย่าจากผมไป, ผมรักคุณ”

    “ฉัน... จะ... รักคุณ... ตลอด... ไป”

    “ไม่! ผมรักคุณ, มีอาร่า!” “มีอาร่า!!!!!!!!!”



         หลังจากที่เจ้าหญิงมีอาร่าได้สิ้นพระชนม์ไปในวันนั้นเจ้าชายอาร์คมิสท์ก็ไม่สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขอีกต่อไป รวมทั้งคนอื่นๆในเมืองทั้งสองเมืองนี้ด้วย เจ้าชายอาร์คมิสท์อยู่แต่ในห้องบรรทมของตนเองอย่างโดดเดี่ยว โดยไม่ออกไปไหน พระองค์ทรงเสียพระทัยที่เจ้าหญิงมีอาร่าได้จากไปอย่างยิ่ง  ทรงนึกถึงเจ้าหญิงมีอาร่าทุกวันและได้เก็บกระจกมีอาร่าไว้ตลอดเวลา เพียงแค่ไพลินที่กระจกบานนั้นได้ถูกขโมยไปตั้งแต่คืนที่เจ้าหญิงมีอาร่าสิ้นพระชนม์ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าใครทำ แต่พระองค์ก็ไม่สนใจเรื่องนั้นเพียงเท่าไหร่  เพราะในพระทัยของพระองค์มีเพียงแค่เจ้าหญิงมีอาร่าเท่านั้น ไปจนวันตาย



        ส่วนคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของเจ้าหญิงมีอาร่า, ทาร่าห์ ก็ได้หนีออกจากเมืองกาเซฟานตั้งแต่คืนที่เจ้าหญิงมีอาร่าสิ้นพระชนม์ โดยไม่มีใครรู้ว่าเธอหนีไปอยู่ที่ไหน และทุกคนในเมืองก็ต่างประนามกันว่าทาร่าห์เป็นคนวางยาพิษเจ้าหญิงมีอาร่า ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกอย่างในเมืองกาเซฟานต่างก็เสื่อมลงเรื่อยๆ, มีการฆ่ากันเพื่อแย่งชิงราชย์สมบัติ  ราชย์วงศ์จึงสิ้นสุดลงตั้งแต่นั้นมา, ผู้คนในเมืองมากมายย้ายไปอยู่เมืองอื่น  จนเมืองกาเซฟานกลายเป็นเมืองร้าง แต่เนื่องจากยังมีผู้คนอยู่ในเมืองนี้บ้างก็ทำให้มีผู้คนจากเมืองอื่นที่เดินทางผ่านมา เข้ามาในเมืองเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าชาวกาเซฟานจะไม่ต้อนรับผู้คนจากเมืองอื่นเอาซะเลย มีผู้คนจากเมืองอื่นมากมายต้องมาตายอย่างลึกลับมื่อเข้ามาในเมืองนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะอะไร มันเหมือนเป็นเมืองที่ต้องคำสาป และเราก็ต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีผู้สามารถเข้ามาแก้คำสาปอันลึกลับนี้ได้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×