ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    monster – assassination classroom fanfic

    ลำดับตอนที่ #9 : chapter 7 : and there goes my worth.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.55K
      18
      16 ต.ค. 64

      

    chapter 7
     

                   หน้าจอที่ยังสว่างอยู่ภายในห้องอันมืดมิดคือเรื่องปกติ...


                   จะไม่ปกติก็ตรงข้อมูลใหม่ที่ได้รับมาในค่ำคืนนี้นี่แหละ— โดยปกติแล้ว มันจะเป็นข้อมูลยิบย่อยที่ได้มา ทว่าครั้งนี้กลับเป็นอะไรที่ทำให้ไม่อยากจะหลับเสียอย่างนั้น


                   ใจหนึ่งที่ยโสนึกไม่อยากขอบคุณชิโระ ส่วนอีกใจกลับคิดว่าเป็นเรื่องดีที่เขาให้ข้อมูลคร่าวๆมาก่อน


                 เธอจะได้ย้ำเตือนตนเองบ้าง


                   ราวกับว่าโลกตั้งใจเหวี่ยงเรื่องที่มีอิทธิพลต่อตนเองเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน และสึมุกิ เลย์โกะที่ไร้ซึ่งเกราะอันแน่นหนาก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง...


                   น่าสมเพชอีกแล้ว


                   คำกล่าวเดิมๆนั้นถูกเอ่ยซ้ำไปซ้ำมาเสียจนคล้ายกับถูกสลักไว้อ่านเองบนฝ่ามือเสียแล้วถึงจะไม่ได้ต้องการเงินตอบแทนจากการลอบสังหารอาจารย์โคโระ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการสังเกตเห็นทักษะของตนเองที่น้อยกว่าหลายต่อหลายคนนั้นทำให้ไม่สบอารมณ์


                 ยิ่งปัจจุบันดันมีนักฆ่าซึ่งเป็นหุ่นป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติเข้ามาอีก


                   เหมือนกับว่าเห็นคุณค่าเล็กๆน้อยๆของตนเองค่อยๆสลายไปอีกรอบเลยแฮะสุดท้ายก็กลายเป็นองค์ประกอบที่จะมีหรือไม่มีก็ได้อยู่ดี


                 ถ้าทำได้ไม่ดีก็ไม่ควรจะทำหรอกนะ รู้อยู่แก่ใจใช่ไหมล่ะ?


                 เรื่องในอดีตกลายเป็นสิ่งที่ยอมแพ้ไปเสียแล้ว และเรื่องปัจจุบันก็คงจะจบลงคล้ายๆกัน... ความแตกต่างเดียวที่มีก็คงเป็นแค่ความพยายามที่ไม่มากเท่า และบทบาทที่ไม่ว่าอย่างไรก็น้อยกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด


                   ความจริงก็ไม่ได้คิดจะพยายามมากขนาดนั้นเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้


                 พิลึก...


                   ดวงตาสีอเมทิตส์เหลือบหน้าจอสมาร์ทโฟนของตนเองที่ยังคงเปิดค้างไว้ ของที่สั่งกำลังจะมาถึงในไม่ช้า


                   มันคงจะกลายเป็นของไร้ค่าที่สิ้นเปลืองทรัพยากร เหมือนกับดาบคาตานะและกู่เจิงที่ไม่ถูกหยิบขึ้นมาอีกต่อไปแล้วต้องขอบคุณจิตใจที่ไม่มั่นคงและแรงผลักเล็กๆน้อยๆที่ได้จากข้อมูลใหม่เกี่ยวกับนักฆ่าอีกคนที่รัฐบาลจะส่งมา


                 เหมือนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยนะ คาโอรุน่ะ


                 น่ารำคาญเหลือเกินตัวเธอที่มีความเห็นไม่มั่นคงและไขว้เขวได้ด้วยอิทธิพลของคนอื่นน่ะ


                   ได้แต่หวังว่าพอเริ่มต้นใหม่ ก็จะเชื่อมั่นในตนเองมากกว่านี้...


                 แต่อย่างไรเสีย ตัวตนเก่าจะกลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ถูกแตะร่วมกับของพวกนั้นอยู่ดี


                 บ้าเอ้ย


                   แม้ว่าเวลาจะค่อยๆล่วงเลยไป แต่ตากลับสว่างเสียจนมีความรู้สึกว่าเธอคงจะหลับตาไม่ลงไปถึงเช้าแน่ดีหน่อยที่ป้องกันการฝันร้ายถึงเรื่องราวเก่าๆได้ ทว่าความอ่อนเพลียก็ทำให้มันเป็นเรื่องน่าหนักใจประมาณหนึ่ง


                   ทีนี้... ทำไงดีล่ะ?


                   จะให้นั่งอ่านอีเมลเดิมซ้ำไปซ้ำมาหรือไถไทม์ไลน์ในโซเชียลมีเดียไปเรื่อยๆก็คงจะไม่เป็นประโยชน์อะไรมาก อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ความฟุ้งซ่านครอบงำจิตใจได้อีกรอบ...


                 ถ้าอย่างนั้นก็อ่านหนังสือ?


                   เป็นข้อเสนอประหลาดๆให้หยิบยื่นให้กับตนเอง และการที่เธอตัดสินใจรับมันมาก็พิลึกเช่นเดียวกัน

     

    ________

     

                   บางทีเลย์โกะก็คิดว่าตนเองมาโรงเรียนในสภาพดูดีแบบนับครั้งได้ในหัวเธอ ณ ตอนนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นและวิธีการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ปะปนกันเต็มไปหมด ใบหน้าต้องพึ่งพาเครื่องสำอางในการปกปิดรอยหมองคล้ำให้ดูเหมือนตอนปกติ การตอบสนองของร่างกายช้าลงกว่าเดิมเป็นเท่าตัว


                   และสิ่งที่ทำให้ดูแย่ลงไปกว่าเดิมก็...


                   ไหงทำหน้าแบบนั้นกันล่ะ?


                   ไม่เคยคิดว่าป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติจะมีอวาตาร์เป็นสาวน้อยน่ารักที่ทำให้โอคาจิมะนึกว่าเป็นคนจริงๆน่ะสิ


                   เรื่องนั้นก็อย่างหนึ่งชิโระไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของ เธอคนนั้นเลยแม้แต่น้อย อาจจะเพราะมันไม่สำคัญ แต่สุดท้ายมันก็ทำให้ตกใจประมาณหนึ่งอยู่ดี


                   ไม่ได้อยากจะมองโลกในแง่ร้ายมากนัก ทว่าหากตนเองที่อ่อนเพลียเหลือเกินจะเห็นภาพซ้อนทับของอวาตาร์หญิงกับคนคนหนึ่งก็คงไม่แปลกใจนัก...


                   จะว่าบุคลิกคล้ายกันก็ไม่เชิงแต่หากเทียบกับนักฆ่าอีกหนึ่งคนก็เรียกได้ว่ามีส่วนที่เหมือนกันมากกว่า


                 และรายนั้นก็สื่อสารกันรู้เรื่องกว่าด้วย


                   เห... ฉันนึกว่าเธอจะรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกเสียอีก


                   ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังก็แล้วกัน เธอแค่นหัวเราะ ก่อนจะเบนความสนใจไปยังอาจารย์โคโระที่อยู่หน้าห้องแทน


                   สภาพที่อ่อนล้าทำให้จับใจความในสิ่งที่เขาสอนไม่ค่อยได้เลย์โกะทำใจรับคำตักเตือนของอาจารย์ประจำชั้นที่มีแววว่าจะถูกเอ่ยขึ้นมาในอนาคตเรียบร้อย


                   มันต้องเป็น อย่าเพิ่งหลับสิครับคุณสึมุกิ!’ แน่นอน


                 อ่า...


                   แบบนี้แสดงว่าต้องดื่มกาแฟแล้วไหมนะ?


                   ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรทำนองนั้นจะมีคาเฟอีนในระดับที่ร่างกายเธอรับได้หรือเปล่า ขืนใจสั่นหรืออาเจียนขึ้นมาก็คงเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำอย่างแน่นอน


                 ภาพลักษณ์ที่มีอยู่ก็ใช่ว่าจะดีนัก


                   ...หรือว่าต้องหาอะไรที่ทำให้ง่วงนอนไวๆแทน?


                   ถึงจะไม่รู้ว่าได้ผลไหม แต่ก็คงมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าการเอาคาเฟอีนเข้าร่างกายที่นอนน้อยจนน่าเป็นห่วงแหละนะ


                 แล้วทำไมชีวิตเธอถึงได้น่าสมเพชถึงขนาดที่ทุกอย่างสามารถกลายเป็นเรื่องตลกร้ายไปได้กัน?


                   ตุบ..


                   ความเจ็บปวดบริเวณหน้าผากหลังจากโดนโต๊ะเข้าอย่างจังนั้นไม่ได้ทำให้หลุดเสียงโอดโอยออกมาเสียงการเตรียมพร้อมของป้อมปืนข้างๆก็เช่นกัน


                   เลย์โกะเงียบสนิท


                 คิดเรื่องตลกร้ายที่ไร้สาระพวกนั้นต่อไปก็ดีแล้ว...


                   ใบหน้าเย้ยหยันที่ถูกบดบังด้วยท่อนแขนบ่งบอกถึงความรู้สึก ณ ปัจจุบันได้เป็นอย่างดีความเจียมตนระดับหนึ่งถูกแสดงออกชัดเจน เมื่อผู้ที่นึกถึงนั้นไม่ใช่คนที่สามารถปั่นหัวเล็กๆน้อยๆให้เป็นความบันเทิงชั่วคราวแก่ตนเองได้


                   ว่าแล้ว


                   อย่างเท่!”


                   ปัง!


                   เสียงสาดกระสุนมากมายนั้นดังขึ้นในเวลาไม่นาน มันหนวกหูและวุ่นวายเสียจนทำให้เกิดเสียงตื่นตระหนกตามมา


                   ช็อตกัน 4 กระบอก ปืนกล 2 กระบอก เป็นการโจมตีที่แน่นหนา แต่เป็นเรื่องที่นักเรียนของที่นี่ทำกันเป็นปกติครับ


                   แต่กระนั้นทักษะของอาจารย์โคโระก็คงทำให้เขารอดพ้นจากการโจมตีส่วนใหญ่ได้อยู่ดีน้ำเสียงที่กล่าวระบุอุปกรณ์ของป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติอย่างสบายอารมณ์นั้นบ่งบอกความคิดตนเองอย่างชัดเจน


                   การยิงในระหว่างคาบเรียนเป็นเรื่องต้องห้ามนะครับ


                   จะระวังค่ะ


                   และนั่นคือเสียงสุดท้าย ก่อนที่จะมือจะเอื้อมไปหยิบหูฟังออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างของตนเอง


                   ต่อไปจะเข้าสู่การเตรียมการโจมตีค่ะ


                 จะเอาอะไรไปสู้กับป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติก่อนล่ะ?


                   มากสุดก็แค่ฝึกการใช้อาวุธและการต่อสู้ให้เป็นทักษะติดตัวเท่านั้นแหละ...


                   และต่อให้ทำได้ มันก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องน่าชื่นชมสักเท่าไหร่ในสายตาตนเองอยู่ดี


                   เธอฝืนทำแบบนั้นไม่ลงพอๆกับการทำตัวราวกับว่าไม่ได้ได้ยินเสียงกระสุนที่ยิงโดนหนวดของอาจารย์โคโระในเวลาต่อมา


                   ปลายหนวดซ้ายถูกทำลาย ยืนยันประสิทธิภาพปืนเสริม


                   ในเวลาเพียงเล็กน้อย ภาพซ้อนทับกับอดีตก็ปรากฏขึ้นในห้วงความคิด


                 คนเราควรทำงานให้เหมือนกับเครื่องจักรนะคงประสิทธิภาพเสมอต้นเสมอปลาย เป็นอันดับหนึ่งชั่วนิรันดร์ เป็นที่ต้องการของคนตลอดกาล


                   ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน พยายามข่มอารมณ์ของตนเองไว้ให้ได้มากที่สุด


                 ไม่น่าเสียบหูฟังช้าเลย


                   คราวนี้เธอไม่สามารถข่มตาหลับได้ไปพักหนึ่ง...


                   และเด็กสาวก็คิดโทษตนเองที่น่าสมเพชสำหรับผลกระทบนั่น

     

    ________

     

                   เป็นวันวันหนึ่งที่แทบนับครั้งการเอ่ยปากพูดได้ และเลย์โกะมั่นใจว่าเธอไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนั้น หากแต่ทุกประเด็นที่เคยกล่าวออกมาในแต่ละวันมันเลือนลางเหลือเกินในห้วงความคิด


                   ฉันทนไม่ไหวกับเรื่องนี้แล้วนะ!”


                   และอีกอย่างคาบเรียนก็ถูกขัดโดยการโจมตีมาตลอดทั้งเช้าอีกด้วย ตอนบ่ายก็คงเป็นเช่นเดียวกัน จะให้พูดเรื่องที่เรียนมาหรือประเด็นใกล้เคียงก็คงไม่ได้หรอก


                 เพราะฉะนั้นก็เงียบๆไปนี่แหละ


                   ใช่ไหมล่ะ? น่ารำคาญชะมัดยาด ไหนจะเรื่องที่ต้องมาเก็บกวาดให้อีก!”


                   ต้องทำอะไรสักอย่างกับมันแล้วล่ะมั้ง


                   ดวงตาสีอเมทิตส์คู่นั้นสบกับกลุ่มของเทราซากะหลังอาคารเรียนการบังเอิญได้ยินบทสนทนาของพวกเขาระหว่างช่วงพักกลางวันพอดิบพอดีทำให้สองขาหยุดลงอัตโนมัติ


                   เธอเริ่มร่างข้อสันนิษฐานในใจ...


                   เออดิ


                   พวกเขาคงกำลังจะวางแผนจัดการอะไรสักอย่างกับป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติที่สร้างความลำบากให้แก่ชีวิตประจำวันของตนเองทุกวันนี้ใช่ว่าจะสบายขนาดนั้น การมีอุปสรรคเพิ่มมาอีกก็คงรับได้หรอก


                   เธอเองก็รู้สึกคล้ายๆกัน...


                 แต่ก็ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นอคติขนาดย่อมที่ก่อตัวขึ้นหรือเปล่า


                   เลย์โกะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มือที่ถือกล่องข้าวอยู่นั้นสั่นมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าควรจะเมินเฉยบทสนทนาหลังจากนี้ไป และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายของตนเองต่อ


                   กะว่าจะเปลี่ยนบรรยากาศในตอนแรก ทว่าความร่มรื่นกลับจุดชนวนให้ฟุ้งซ่านยิ่งกว่าเดิม


                   ไปๆมาๆ การที่ได้เห็นคนอื่นอยู่ในระยะสายตามันทำให้รู้สึกควบคุมตนเองได้มากกว่าโป๊กเกอร์เฟซเธอมักจะพังลง ยามอยู่เพียงคนเดียวเงียบๆ


                   ความคิดริษยาของคนเราก่อตัวได้ง่ายกว่าที่คิด...


                   ยิ่งเมื่อมันข้องเกี่ยวกับสิ่งที่ชวนให้สมองตีความว่า ไม่ปลอดภัย


                 แลดูน่าสมเพช


                   การเชยชมคนที่เก่งกว่าตนด้วยความเคารพนับถืออาจจะเป็นเรื่องยาก พอๆกับการปฏิบัติต่อเขาราวกับว่าไม่ได้มีเส้นกั้นระหว่างกันอยู่หรือไม่ก็เป็นตัวเธอที่กำลังเหมารวมทุกอย่างไปอยู่หมวดหมู่เดียวกับประสบการณ์ในอดีต


                   สองเท้าชะงักงัน ขณะที่ตระหนักสิ่งหนึ่งได้


                   เสียงแค่นหัวเราะเบาๆเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปาก ก่อนที่มันจะดังขึ้นทีละน้อย


                   อยากจะกระชากฉันลงมาจากจุดที่ยืนอยู่สินะ


                   ร่างบางของเด็กสาวที่อ่อนเพลียคนนั้นเซไปมาเรี่ยวแรงที่พยุงตัวให้ยืนปกติขณะหัวเราะแทบไม่มี


                   ตุบ...


                   เลย์โกะเอนพิงผนังอาคาร สบถออกมาในใจให้กับสภาพอันน่าเวทนาที่เป็นอยู่


                   ก็เนอะ...


                   ดวงตาสีอเมทิตส์คู่นั้นหลุบลงมองมื้อกลางวันซึ่งยังไม่ได้ถูกแตะของตนเอง จ้องมันเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจ แล้วเดินต่อไปยังห้องเรียนในท้ายที่สุด


                   ในจุดๆนี้ สิ่งที่ควรจะให้ความสนใจเป็นพิเศษคือการที่ทุกการโจมตีแต่ละครั้งนั้นกระทบต่อการเรียนและสร้างความลำบากให้กับนักเรียนที่เป็นเวรประจำวัน


                   เรื่องอื่นนั้นไม่เกี่ยว...


                   ต่อให้เทราซากะวางแผนหยุดป้อมปืนนั่นอย่างไร ก็ไม่ใช่เพราะว่าตนเองกำลังจะถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่ดีกว่า— เขาอาจจะไม่ได้คิดไปถึงประเด็นนั้นเสียด้วยซ้ำ


                   เธอเองก็ควรแยกแยะ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเละไปกว่านี้


                   ย้ำเตือนตนเองอีกครั้ง ว่าต่อให้อยากได้ความสุขระยะสั้นมากเพียงใด ก็ไม่ควรจะลืมเป้าหมายตั้งแต่แรกของตนเอง


                 มือข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาลูบแผลเย็บใต้หน้าม้าตนเอง ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปนวดขมับตนเองเบาๆ


                 บางที... การที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ก็คงจะเป็นผลดีเรื่องสายสัมพันธ์ ณ ปัจจุบัน


                   ให้ตายเถอะ—”


                   ครืน!


                   และสุดท้ายก็หลุดออกจากห้วงความคิดด้วยเสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นในระยะประชิด


                   เลย์โกะสะดุ้ง แทบจะเผลอปล่อยกล่องข้าวตกพื้นไป หากไม่ได้รวบรวมสติไว้ทัน


                   อ้าวนากามุระอุทาน


                   อยู่นี่นี่เองเลย์โกะจัง


                   ฮะ—”


                   เรานัดกินข้าวกันไว้ไง ลืมแล้วเหรอ?


                   คิ้วเรียวเลิกขึ้น ก่อนจะขมวดเข้าหากันด้วยความสับสน

     

    ...

     

                   ก็ใช่ว่าปกติจะใช้ช่วงเวลาพักกลางวันอยู่ตัวคนเดียวหรอก...


                   มีโผล่ไปนั่นนี่บ้าง ล่องลอยไปมาตามประสาของคนที่ไม่ได้เกี่ยงเรื่องคนที่กินข้าวด้วยอีกนิดเธอว่าเธอคงกลายเป็นบุคคลสาธารณะในแวดวงกลุ่มช่วงพักกลางวัน


                   อย่างไรก็ตาม การที่นักเรียนหญิงทุกคนมาร่วมมื้อกลางวันด้วยกันก็เป็นเรื่องหายาก


                   และเลย์โกะก็ชักจะไม่แน่ใจว่าตนเองไปตกลงกับนากามุระตอนไหน


                   เราควรมีแบบนี้บ่อยๆน้า รอบหน้าชวนอาจารย์บิทช์ด้วยดีกว่า


                   หูข้างที่เสียบหูฟังอยู่นั้นพยายามจดจ่อกับเสียงอาหารจากสมาร์ทโฟนที่ได้ยิน ขณะคีบชิ้นหมูทงคัตสึเข้าปาก


                   มันเป็นวิธีเพิ่มความอยากอาหารที่สันนิษฐานไว้ว่าคงได้ผลมากกว่าเดิม กระนั้นก็ยังพิสูจน์ไม่ได้จนกว่าจะหมดกล่อง


                   ติดใจตั้งแต่การคุยเรื่องสาวๆตอนทัศนศึกษาสินะ...คาตาโอกะกล่าว


                   แหมๆ ก็เรายังคุยกันไม่ถึงไหนเลยนี่


                   เลย์โกะชำเลืองมองพวกหล่อนเล็กน้อย


                   ความอยากรู้อยากเห็นกำลังส่งผลให้ทำ 2 อย่างในคราเดียวกันฟังเงียบๆเหมือนกับทุกครั้งครา หากแต่ว่าในครั้งนี้นั้น สิทธิ์ที่จะเข้าร่วมบทสนทนามันดันชัดเจนกว่าทุกครั้ง


                   ความรู้สึกแปลกๆที่ก่อตัวขึ้นอีกครา


                   คงเพราะเพิ่งจะทบทวนตนเองว่า ที่ไม่ว่าอย่างไรก็สู้ไปอยู่ในจุดเดียวกันไม่ได้ ล่ะมั้ง ตอนนั้นก็แทบจะไม่เห็นใครอยู่ข้างกายเลยนี่

        

                   อ่า ไม่รู้สิ


                   เด็กสาวรีบจัดการมื้อกลางวันส่วนที่เหลือของตนเอง แล้วจึงเอ่ยตอบคนอื่นๆเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจออกจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง


                   นั่นน่ะสินะ—”


                   ไม่ต้องเลยเลย์โกะจัง คำตอบเรื่องสเปคนี่พวกฉันยังไม่ได้จากเธอเลยนะคายาโนะแย้ง


                   เธอแค่นหัวเราะ ก่อนจะถอดหูฟังข้างนั้นออกก่อนจะถอดหูฟังข้างนั้นออก


                   นั่นไม่นับสักหน่อย


                   อยู่ดีๆก็โยงมาแบบมั่วๆไม่ใช่หรือไง?


                 แล้วใครที่ไหนมันจะไปตอบคำถามที่ไม่เคยคิดแบบนั้นได้ก่อนล่ะ?


                   คำตอบของประเด็นความรักก็ยังคงเป็นไปตามที่เคยพูดกับนากามุระไว้ และความรู้สึกว้าวุ่นใจเหล่านั้นคงทำให้เธอกระวนกระวายมากกว่าอารมณ์


                   แต่ถ้านับตามประเภทโดยทั่วไปที่อยากเข้าหา (ในเชิงผลประโยชน์) ก็คงเป็น คนที่คุยรู้เรื่อง ล่ะมั้ง...


                 กว้างขวางสิ้นดี แถมยังดูเป็นคนละเรื่องกันด้วย


                   เพราะฉะนั้นก็คงไม่พูดออกไป...


                   ประสบการณ์ความรักของเธอก็น้อยพอๆกับเรื่องมิตรภาพทางที่ดีก็ควรเป็นเช่นนั้นไปจนจบปีการศึกษา


                 แล้วค่อยเริ่มคิดอีกทีตอนเริ่มทุกอย่างใหม่


                   คนที่ถูกถามจริงๆมันยูกิโกจจิต่างหาก


                   แต่พวกฉันก็อยากรู้เรื่องสเปคเธอนะ นากามุระโต้กลับ


                   ใช่ๆและคายาโนะก็เอ่ยสมทบต่อ


                   เลย์โกะหรี่ตามองพวกหล่อนด้วยความเคลือบแคลงใจ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นปม


                 อยากรู้ขนาดนั้นเชียว?


                 เธอชักจะไม่มั่นใจว่าเป็นเพราะประเด็นมันค่อนข้างน่าสนใจหรือพวกหล่อนแค่อยากได้ยินจากปากเธอที่ไม่ค่อยพูดเรื่องพวกนี้กันแน่...


                 แต่อย่างหลังนี่ดูแปลกเกินไป


                   เดี๋ยวเถอะพวกเธอ—”


                   ช่างเถอะเมงุจจิ ฉันบอกก็ได้ กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบพลางเก็บกล่องข้าวตนเองให้เรียบร้อย


                   มือประสานกันบนโต๊ะในเวลาต่อมา


                   ของแบบนั้นน่ะ...


                   ปรายตามองปฏิกิริยาของคนอื่นๆด้วยสีหน้าเรียบนิ่งครั้งหนึ่ง เลย์โกะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ


                   แล้วจึงเอ่ยออกมา


                 ไม่มีหรอก


                   . . .


                   “ยัยนี่!”


                   เธอกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่แทบจะเซตกเก้าอี้ไป ในตอนที่เห็นปฏิกิริยาของนากามุระและคายาโนะที่เว่อร์วังกว่าของคนอื่นหลายเท่า


                   ไม่คิดว่าจะผลมันจะออกมาน่าภูมิใจขนาดนี้


                   “ถ้าไม่มีตั้งแต่แรก แล้วจะทำให้ลุ้นทำไมกันเล่า!?


                   “เนอะ—”


                   “ไม่ต้องมา ‘เนอะ’ เลยยัยบ้า!”


                   เธอยังคุมสติไม่ให้ไหลลงไปกับพื้นได้ อีกทั้งมือยังเกาะด้วยแรงที่มากที่สุด ณ ตอนนี้


                   โอกาสที่ความซุ่มซ่ามแบบไม่ดูเวล่ำเวลาจะสร้างเรื่องให้ตนเองนั้นน้อยเสียยิ่งกว่าอะไร...


                 จนกระทั่งนากามุระกระโจนเข้ามาหา


                   เดี๋ย—”


                   แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าก็สลายไป


                   ตุบ!


                   “คุณสึมุกิ คุณนากามุระ!”


                   น้ำหนักที่มากเกินไป ณ จุดจุดหนึ่งทำให้เกาอี้เสียสมดุลในท้ายที่สุด


                   เลย์โกะไม่ทันได้อุทานออกมาเสียด้วยซ้ำ ร่างกายดันกระแทกกับพื้นไปก่อนที่จะเอ่ยประโยคจบ และในตอนที่จะพูดอีกครั้งก็โดนจั๊กจี้เข้าที่เอวพอดิบพอดี


                 ให้ตายเถอะ


                   เธอหัวเราะเสียงดังลั่น กอบโกยอากาศเข้าปอดไม่ทันเสียจนส่งเสียงประหลาดออกมา


                   ทุกความคิดเมื่อก่อนหน้าหยุดนิ่งและถูกแทนที่วิธีการรวบรวมสติในการหยุดนากามุระมากมาย


                   ทว่ามันยากตรงที่เธอไม่ได้เป็นคนคุมสถานการณ์นี้ไว้นี่สิ...


                   ยอมรับบทลงโทษไปเสียดีๆ


                   หมับ!


                   และเมื่อตระหนักได้เช่นนั้น จังหวะที่นากามุระหยุดจั๊กจี้เพียงชั่วครู่หนึ่งก็มาถึงพอดิบพอดีถือเป็นโชคของเธอ


                   “โอเค...” เลย์โกะหอบหายใจ


                   “พอได้แล้วริโอจจิ”


                 คนเขาคงรู้กันหมดห้องแล้วว่าเธอมีจุดอ่อนตรงเอว


                   ก็ได้ๆ อีกฝ่ายกลั้วหัวเราะ ก่อนจะลุกขึ้นและยื่นมือให้เธอ


                   ดวงตาสีอเมทิตส์เหลือบมองใบหน้าของเพื่อนร่วมห้อง คิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความฉงน


                   ทว่าก็รับความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆจากหล่อนไว้โดยดี...


                   ถ้าให้พูดตามตรง เธอก็ไม่ได้อารมณ์เสียการหัวเราะเมื่อครู่อาจจะเป็นวิธีระบายอารมณ์หรือวิธีคลายเครียดที่ได้ผลอย่างประหลาดล่ะมั้ง


                   เลย์โกะแทบจะไม่ได้สนเรื่องที่มีใครสักคนในห้องพูดออกมาว่า มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?’ เลยด้วยซ้ำเพียงแต่ลุกขึ้น ปัดยูนิฟอร์มตนเองเล็กน้อย และจัดวางเก้าอี้ตามเดิม


                   ทว่าก็หลุดหัวเราะแห้งออกมา หลังจากที่เห็นสีหน้าของเพื่อนร่วมห้องหญิงคนอื่นๆ


                   บางคนก็ดูเฮฮา บางคนก็ดูเป็นห่วง บางคนก็ดูเหนื่อยหน่ายใจ...


                   “ไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่ไหม?” คุราฮาชิเอ่ยถาม


                   “อืม... คิดว่าไม่นะ” เธอตอบพลางนั่งลง


                   แล้วมือก็เลื่อนไปกดปิดคลิปยังคงเล่นต่อจนใกล้จะจบในสมาร์ทโฟนตนเอง


                   “ไม่ว่าอย่างไรก็ควรจะระวังอยู่ดีนะ คุณนากามุระก็ด้วย”


                   “โทษทีๆ อารมณ์มันพาไปน่ะ”


                   เธอมองหน้าจอที่ใกล้จะดับทีละนิด ปลายนิ้วค้างอยู่เหนือเครื่องมือสื่อสารนั่นเพียงเล็กน้อย


                 จู่ๆก็รู้สึกลังเลขึ้นมาว่าควรจะหยิบมันขึ้นหรือปล่อยไว้เฉยๆ


                   เดิมทีก็ใช่ว่าเธอจะเป็นคนเริ่มบทสนทนาใดๆอยู่แล้ว การจะนั่งเลื่อนดูนั่นนี่บนไทม์ไลน์ระหว่างฟังคนอื่นคุยก็ไม่ได้ดูผิดแปลก


                   บางทีเธออาจจะหัวเราะมากเกินไป...


                   คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เนื่องด้วยความสับสนที่มี


                   “ประเด็นนี้มันอันตรายกว่าที่คิดแฮะ”


                   ทว่าการที่ได้ยินฟุวะ ยูสึกิเอ่ยดังนั้นออกมาก็ทำให้ดึงตนเองออกมาจากห้วงความคิด แล้วอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครกล่าวอะไรต่อในการเริ่มบทสนทนาหัวข้อใหม่ทันที


                 “จะว่าไป ฉันไปได้ยินมาว่า...”


                 ช่างมัน


                   ไหนๆก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้วนี่แถมมันก็น่าจะช่วยคลายเครียดได้มากกว่าเดิมด้วย


                   สมาร์ทโฟนถูกเก็บเข้ากระเป๋ากระโปรงไประหว่างนั้น


                   ทว่าในขณะเดียวกันก็เหล่มองอาวุธจากนอร์เวย์ที่อยู่มุมห้องเป็นครั้งคราวไปโดยไม่รู้ตัว

     

    ________

     

                   วันต่อมานั้นสงบลงกว่าเดิมเยอะป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติถูกเทราซากะพันเทปรอบตัว จำนวนการพยายามลอบสังหารจากมันเลยเป็นศูนย์ไปแบบช่วยไม่ได้


                   ไม่มีเสียงรบกวนใดๆระหว่างคาบเรียน ทว่าความสบายใจของเธอก็ยังไม่เต็มร้อย...


                 และนั่นคงจะเป็นสัญชาตญาณที่รู้สึกได้ถึงเหตุการณ์ในอนาคต


                   อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน


                   เลย์โกะแทบจะคุมสีหน้าตนเองไว้ไม่อยู่


                   ตรงหน้าเธอคือป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติที่บัดนี้ได้มีรูปอวาตาร์เต็มตัวอย่างชัดเจนบนจอแล้วหล่อน กำลังแย้มยิ้มหวานให้เธอและเพื่อนร่วมห้องที่มาโรงเรียนเช้า


                   วันนี้อากาศดีมากเลยนะคะ


                 ไม่นะ


                   จอภาพผลึกเหลวแบบเต็มตัว เพื่อดึงเอาความรู้สึกที่ใกล้ชิดออกมา กับซอฟต์แวร์โมเดลลิ่งร่างกายและเครื่องแบบ


                   เธอหันไปทางอาจารย์โคโระที่เดินเข้ามา


                   ไม่มีคำพูดใดๆสามารถอธิบายความรู้สึก ณ ปัจจุบันได้เต็มร้อย มือนั้นกำสมาร์ทโฟนแน่นยิ่งกว่าเคย และอยู่ๆก็รู้สึกว่าตนเองหายใจได้ไม่เต็มอิ่มเท่าเดิม


                   ทำเองทั้งหมด หมดไป 6 แสน 6 หันเยนเขากล่าวต่อ


                   นั่นไม่ได้ทำให้เลย์โกะรู้สึกดีแต่อย่างใดเลย...


                   อาจารย์ประจำชั้นเธอลงทุนปรับเปลี่ยนป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติให้ไม่ต่างอะไรกับนักเรียนในห้องคนหนึ่ง


                   ถึงจะยังยืนยันไม่ได้ว่าประสิทธิภาพของการลอบสังหารจะมากเท่าเดิมหรือไม่ แต่ใจก็เผลอคิดในแง่ลบไปเรียบร้อย


                   กรณีนี้มันต่างกับเรื่องที่เจอเมื่อตอนทัศนศึกษาพอประมาณอย่างน้อยก็ตรงที่เธอไม่พร้อมจะรับรู้กับคนที่เก่งกว่าแล้วหนึ่ง


                   ดีใจมากเลยที่ได้ใช้เวลาร่วมกับทุกคนในวันที่สดชื่นเช่นนี้ค่ะ


                   ยิ่งถ้าดูเป็นประเภทคงจะเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆคนได้อย่างง่ายดายแล้วด้วย...


                   สีหน้าจัดเต็มกับทักษะการสนทนาที่สดใส ซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่กับหน่วยความจำเสริมไว้ควบคุมเรื่องนั้นเช่นเดียวกัน 1 ล้าน 1 แสน 3 พันเยน


                 ถ้าต้องการก็พยายามต่อไปสิ


                   มันน่าสบอารมณ์ที่เป็นเช่นนี้น่าสบอารมณ์ที่แทบจะพยายามหาจุดเชื่อมต่อระหว่างเรื่องราวในอดีตกับปัจจุบันแบบต่อเนื่อง


                 วิถีคนขี้แพ้ชัดๆ


                   ปลายกระโปรงถูกมืออีกข้างกำแน่นจนยับยูยี่


                 ยอดคงเหลือในกระเป๋าเงินของอาจารย์... 5 เยน!”


                   ให้ตาย เธออยากจะหัวเราะสมเพชตนเองเสียดังลั่น


                 สุดท้ายก็เละเทะอยู่ดี ต่อให้พยายามจัดการอารมณ์ของตนเองแล้ว...


                   แม้แต่เรื่องเล็กน้อยขนาดนี้ก็ยังไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนทำอะไรสักนิดเลยเหรอ?


                   หรือเธอกำลังถูกลงโทษเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้กัน?


                   “ถ้าอย่างนั้น...


                   เลย์โกะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนสลัดความคิดเหล่านั้นออกไปชั่วคราว ขณะที่สองขาก้าวเดินเข้าไปใกล้ฟืนกลอัจฉริยะรูปแบบใหม่


                   ริมฝีปากแย้มรอยยิ้มหวาน


                   เธอพอจะให้ข้อมูลและประสิทธิภาพของตนเองในเวอร์ชั่นที่ผ่านการดัดแปลงแล้วได้หรือเปล่า?


                   แต่สุดท้ายข้อมูลก็คือข้อมูลไม่ว่าจะอยากรับรู้มากน้อยเพียงใด การที่ไม่ทราบก็ถือว่าเป็นข้อเสียเปรียบต่อผลประโยชน์ในอนาคตอยู่ดี


                   พอเรียบเรียงแบบนั้นแล้ว ก็รู้สึกดีกว่าเดิมขึ้นมาเล็กน้อย


                   เลย์โกะหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะกดเข้าแอพพลิเคชั่นอัดเสียง


                   ชักจะเหนื่อยกับเรื่องพวกนี้แล้วนะ...


                   ถ้าไม่เป็นการรบกวนน่ะนะ


                   ทว่าเดี๋ยวมันก็คงจะจบด้วยการที่เธอกลับไปทำเช่นเดิมเพื่อป้องกันไม่ให้อารมณ์ของตนเองมีอิทธิพลต่อการงานอื่นอีกล่ะมั้ง


                   มันก็วนๆอยู่เช่นนี้ตลอดนี่... ทุกๆเรื่องน่ะ


                 อย่างไรก็หนีความต้องการต่อความสุขทุกรูปแบบไม่ได้


                   “เอ่อคุณสึมุกิไม่คิดจะถามอาจารย์ตรงๆเหรอครับ?


                   เธอเงียบไปครู่หนึ่ง


                   ก็... อาจารย์กำลังไว้อาลัยเงินที่เสียไปอยู่นี่คะ

     

    ...

     

                   ข้อมูลคงเป็นสิ่งเดียวที่จะได้รับในสถานการณ์ทั้งหมดนี้


                   และเพราะแบบนั้นถึงได้โดดเรียนตั้งแต่คาบแรกปล่อยให้ตำแหน่งหนึ่งในห้องเรียนว่างไปชั่วคราว


                   อาจารย์โคโระเพิ่มนั่นนี่ไปตั้งหลายอย่างเลยแฮะ


                   เสียงอันสดใสของป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติที่อัดไว้นั้นถูกฟังเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ที่แน่ๆคือเธอแลดูจะไม่มีอารมณ์พิมพ์มันลงในไฟล์เอกสารเสียที


                   แล็ปท็อปก็อยู่ในกระเป๋าที่โต๊ะเรียนด้วย...


                   ตุบ!


                   เด็กสาวทิ้งตัวลงนอนราบไปกับพื้นที่ไม่เรียบนักเต็มแรง กล่าวสบถในเวลาต่อมาให้กับอาการปวดหลังที่มาจากเรื่องเมื่อวานซืนรอยฟกช้ำปรากฏขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน และคงใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะหาย


                   ป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติมีทักษะการปั้นพลาสติกชนิดพิเศษในตัวได้อย่างอิสระ... อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงข้อมูลจากหลากหลายแห่งได้ด้วย


                   นอกจากทักษะการลอบสังหารแล้ว ก็ยังจะโดนเรื่องที่คิดว่าเป็นเพียงข้อได้เปรียบเดียวของตนเองอีกสินะ


                   ถึงจะไม่ได้เหมือนกันเต็มร้อย แต่ความคล้ายก็สูงเสียจนประโยชน์ที่เธอสามารถทำได้ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย


                 ทีนี้คงเปรียบเทียบได้ว่าคล้ายกับกรณีในอดีตสุดๆแล้วแหละ


                   เลย์โกะตะแคงตัว แทบไม่สนความสะอาดของยูนิฟอร์ม ณ ปัจจุบัน


                   ไม่อยากจะนึกว่าเมื่อถึงคราวของโฮริเบะ อิโตนะ เธอจะเจอมรสุมอารมณ์ของตนเองในรูปแบบไหน


                   ณ ตอนนี้ก็ได้แต่พยายามกล่อมตนเองซ้ำๆว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นเองในท้ายที่สุด และ หลังจากนั้น มันจะไม่สำคัญอีกต่อไป แม้จะรู้อยู่แก่ใจถึงความต้องการของการอยากให้เรื่องทั้งหมดจบลงในเร็ววันมากกว่าการเฝ้ารอไปเรื่อยๆ


                 ให้ตายเถอะ


                   เธอเบื่อเรื่องซ้ำซากเช่นนี้เหลือเกิน...


                   เฮ้ นอนตรงนั้นมันสกปรกนะยะ


                   พรวด!


                   เผลอยันตัวขึ้นมานั่งเหมือนเดิมทันทีที่สบตากับอีรีน่าด้วยท่าทีตกใจ


                   ดวงตาเบิกกว้าง ทว่าก็ปรับสีหน้าให้กลับไปเป็นเช่นเดิมได้ในเวลาไม่ช้า


                   สมาร์ทโฟนในมือถูกใช้งานอีกคราคราวนี้เธอกดหยุดเล่นเสียงที่อัดไว้ แล้วเข้าไปดูเมลเก่าของตนเองเสียแทน


                   พยายามเปลี่ยนกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ด้วยความเป็นธรรมชาติมากที่สุด แม้ว่าในใจจะแย้งตลอดว่า คงมีแต่เด็กอนุบาลใสซื่อที่เชื่อ ก็ตาม


                   จะโดดทั้งทีก็ช่วยเลือกที่ที่มันเหมาะสมหน่อยสิหล่อนว่า ขณะปรายตามองบริเวณประจำของเธอ


                   พูดอย่างกับว่าแถวนี้มันมีที่ที่เหมาะจริงๆ


                   เลย์โกะมั่นใจว่าได้ยินเสียงพึมพำในเชิงเออออกับถ้อยคำของเธออย่างแผ่วเบา


                   แต่ก็ไม่คิดจะทักหรอกปล่อยเบลอไปเหมือนกับเรื่องอื่นๆนั่นแหละ


                   งั้นก็อย่านอนลงไปแบบนั้นสิ


                   เธอไหวไหล่ตอบกลับไป สายตายังคงจับจ้องไปยังเนื้อความที่ถูกส่งมาเมื่อ 2 วันก่อนไล่อ่านข้อมูลพื้นฐานของป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติที่ชิโระรวบรวมมาให้ ก่อนจะหยุดลงที่หน้าสุดท้ายของไฟล์


                   เหมือนเธอจะไม่ทันได้อ่านส่วนนี้แบบละเอียด...


                 ข้อมูลส่วนหนึ่งของอิโตนะที่ชิโระใส่มาให้เธอน่ะ


                   คาบต่อไปเป็นของฉันนะ


                   อืม


                   รู้ใช่ไหมว่าจะโดดทั้งวันไม่ได้น่ะ?


                   ดวงตาสีอเมทิตส์เบนกลับไปมองใบหน้าของนักฆ่าสาวตรงๆ แววตาที่เสมือนกับว่าเป็นห่วงและเหนื่อยหน่ายใจในคราวเดียวกันนั้นทำให้รู้สึกสมเพชตนเองยิ่งกว่าเดิม


                   เลย์โกะเอ่ยสบถในใจ


                   ค่อยเข้า 2 คาบสุดท้ายก่อนเลิกเรียน


                   โอ๊ย! ให้มันได้อย่างนี้สิ!”


                 เออ จริงๆก็ไม่ได้อยากนักอยากหนาหรอก


                   แล้วจึงพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ


                 อย่างน้อยก็คิดว่าควรจะจัดการความรู้สึกตนเองให้เข้าที่กว่านี้สักหน่อยถึงจะไม่ได้มีจุดมุ่งหมายว่าจะต้องเป็นที่รักหรืออะไรทำนองนั้นก็ตามเถอะ


                   แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ไม่ใช่ความผิดของป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติที่ถูกสร้างขึ้นและดัดแปลงให้มีประสิทธิภาพสูงแบบนั้นนี่


                   การแยกแยะอดีตและเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันไม่ใช่เรื่องถนัดของเธอเลยยิ่งเกิดขึ้นติดต่อกันมากกว่าหนึ่งครั้งก็ยิ่งแล้วใหญ่


                   ครืน...


                   บรรยากาศเงียบลงอีกครั้งหนึ่ง ในยามที่อีรีน่าเลือกจะไม่พูดอะไรต่อ


                   และเสียงสมาร์ทโฟนที่สั่นอยู่นั้นไม่สามารถเรียกร้องความสนใจทั้งหมดของเลย์โกะได้เธอเพียงแต่ชำเลืองมองมันครู่หนึ่ง ก่อนจะปัดแจ้งเตือนออก แล้วเปลี่ยนจ้องต้นหญ้าเล็กๆบนพื้นดินแทน


                   เหยียบครั้งเดียวก็อาจจะตายได้เลยล่ะมั้ง...


                   ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะย้ายที่ไปไหม หากเลือกได้น่ะ


                 แล้วถ้ายังคิดอยู่ที่เดิม... จะทนความหวาดกลัวของการโดนเหยียบได้สักกี่น้ำกัน?


                   เจ้าของสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักจิ๊ปากเป็นการระบายอารมณ์


                   พรวด!


                   แล้วจึงยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว


                   หือ?


                   เด็กสาวเพียงแต่ปัดกระโปรงที่เลอะเล็กน้อยให้สะอาดกว่าเดิม แล้วจึงใส่โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าละมือออกจากมันในท้ายที่สุด


                   อีรีน่า เจลาวิชไม่ได้คำตอบของข้อสงสัยที่แสดงออกผ่านสีหน้าตนเอง


                   ภาพที่สะท้อนผ่านดวงตาสีฟ้าอ่อนอันงดงามของนักฆ่าสาวชาวเซอร์เบียคือรอยยิ้มแค่นๆและการกลอกตาคราหนึ่งเท่านั้น...


                   เลย์โกะไม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายจะตีความภาษากายเธอแบบไหน กระนั้นก็รู้สึกว่าไม่ควรจะใส่ใจประเด็นดังกล่าวมากสักเท่าไหร่


                   เจ๊เองก็อย่าโดดสอนนะ เธอกล่าวออกไปโดยไม่สนบริบท


                 แล้วจึงเดินกลับไปยังอาคารเรียน


                   -อ้าว...


                   สองเท้าก้าวเดินอย่างสม่ำเสมอเธอย่ำเป็นจังหวะราวกับกำลังแสดงออกถึงอารมณ์ปรีดีจริงๆ แม้ว่าสีหน้าจะไม่ได้แสดงออกเช่นเดียวกัน


                   หากมองในแง่ดี อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ได้เจอการตอกย้ำเรื่องความย้อนแย้งจากอีรีน่า


                   อย่างสุดท้ายที่เธอต้องการคือคำพูดซ้ำเติมในสิ่งที่ตระหนักได้เองแล้ว...


                   แต่มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าได้ทบทวนตนเองเงียบๆโป๊กเกอร์เฟซมักจะทำงานในทุกช่วงที่อยู่ใกล้คนเสมอ


                   บางทีก็ได้ผล บางทีก็ไม่ได้ผล... ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจในช่วงเวลานั้น


                 และครั้งนี้ก็คงจะค่อนไปทางฝั่งอย่างหลังมากกว่า


                   ตึก!


                   กึ—”


                   สองขาชะงักงัน ทุกความคิดถูกสลัดออกไปทันทีทันใด


                   รอยยิ้มเหยเกปรากฏขึ้นบนใบหน้าในคราวที่รู้สึกตัวว่ายังคงลงน้ำหนักที่เท้ามากกว่าปกติ ทั้งๆที่ตนเองเข้ามาในตัวอาคารแล้ว


                   เผลอหันซ้ายหันขวาด้วยความกระวนกระวายเล็กน้อยเธอยังไม่ต้องการความสนใจในตอนที่อยู่ในสภาพนี้...


                 แถมเมื่อครู่ก็เผลอส่งเสียงแปลกๆออกมาด้วย


                   ...


                   และเมื่อไม่ได้ยินเสียงอะไรโต้ตอบกลับมา ความกังวลก็สลายไปประมาณหนึ่ง


                   จะติ๊ต่างไปว่าเสียงมันไม่ได้ดังขนาดนั้นก็แล้วกัน...


                   เอาล่ะ


                   เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินต่อไปยังห้องเรียนด้วยฝีเท้าที่เบากว่าปกติ


                   ก็แค่ต้องเข้าไปด้วยสีหน้าที่ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้... คุยกับคนอื่นด้วยน้ำเสียงทั่วไป แล้วก็ตั้งใจเรียนในคาบที่กำลังจะมาถึง


                 แค่นั้นเอง


                   เธอเลื่อนเปิดบานประตูอย่างระมัดระวังไม่ใช้แรงมากเกินไปจนก่อให้เกิดเสียงดังเหมือนกับคราวก่อนๆ


                   ครืน...


                   มือข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาทัดปอยผม สองขาก้าวไปยังตำแหน่งโต๊ะนักเรียนของตนเอง แย้มยิ้มบางๆให้กับอวาตาร์ของป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติที่ยังคงสีหน้าสดใสไว้อยู่


                   ไง หลับสบายไหม? คารุมะเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มยียวน


                   สบายสุดๆ เหมือนได้จำศึลเลยล่ะนะ


                 และเสียงหวานๆก็เป็นสิ่งที่เขาได้รับกลับไป


                   ยินดีด้วยก็แล้วกันส่วนนั่นก็ ริทสึ เขาบุ้ยหน้าไปยังสิ่งที่เธอเพิ่งจะยิ้มทักทายไป


                   ค่ะ! ริทสึค่ะ!”


                   ช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เกิดอะไรหลายๆอย่สงขึ้นได้สินะ...


                   อย่างไรก็ตาม คนคิดชื่อนี่ก็ค่อนข้างสิ้นคิดอยู่เหมือนกันดีหน่อยที่เจ้าหล่อนไม่ได้ดูชิงชังนามดังกล่าวนั้น แลดูชอบเสียด้วย


                   อาจารย์โคโระโปรแกรมความสดใสได้ออกมาดีจริงๆแหละนะ...


                   คงเป็นสีสันที่ดีสำหรับห้อง 3-E


                   อ๋อ...


                   เลย์โกะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ของตนเอง หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาวางราบกับโต๊ะ ก่อนหันไปทักทายเพื่อนร่วมห้องใหม่อีกครั้งหนึ่งด้วยรอยยิ้มที่กว้างกว่าเคย


                   งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักแบบเป็นทางการจริงๆนะริจจี้


                   ริจจี้... เหรอคะ?


                   ใช่ๆ เป็นชื่อเล่นไง เธอกลั้วหัวเราะ


                   คาโอจจิงั้นเหรอ?


                 ฉันชอบมันนะคะ ขอบคุณสำหรับชื่อเล่นค่ะ!”


                 น่ารักดีนะเรียกฉันแบบนั้นถาวรเลย โอเคไหม?

     

    ________

     

                   อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน


                   ความจริงเธอก็ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไหร่กับการหายตัวไปของ ริจจี้ ในวันต่อมาจะติดก็ตรงที่ช่วงสองสามวันนี้ดันรู้สึกหายใจไปทั่วท้องในทุกครั้งคราหันไปมองทางฝั่งซ้ายของตนเองตลอด


                   กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว...


                 ไม่รู้เลยว่าควรจะรู้สึกอย่างไร


                   สัญญาที่ห้ามทำร้ายนักเรียน... มีการฝากมาบอกว่า จากนี้ไป การดัดแปลงก็ถือว่าเป็นการทำร้ายด้วยคาราสึมะเอ่ยขึ้น สีหน้าเขายังคงเรียบนิ่งเหมือนทุกครั้งครา


                   กระนั้นมันก็ยังจะพอเดาอารมณ์ของเขา ณ ปัจจุบันได้แหละนะ...


                   มือนั้นเท้าคางบนโต๊ะ ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมคนนั้นและอาจารย์ประจำชั้นของตนเอง


                   พวกเธอก็ด้วย ดูเหมือนว่าถ้ามัดหรือทำเจ้าหล่อนพัง จะเรียกเก็บค่าเสียหาย


                   เทราซากะจิ๊ปากตามหลังคำชี้แจงนั่น


                   ปรายตามองบรรยากาศรอบห้องที่ไม่ได้ดูดีนักทุกคนคงต้องทำใจยอมรับการลอบสังหารทุกชั่วโมงเรียนที่ทั้งรบกวนและลำบากต่อการเก็บกวาด


                 อีกทั้งก็เหมือนจะเสียเพื่อนร่วมห้องที่เพิ่งจะได้รู้จักกันจริงๆไปแค่ 1 วันอีกด้วย


                   ส่วนตัวเธอก็อุตส่าห์คิดเผื่อไว้ว่าจะพยายามลดความอคติ และอาจจะขอยืมศักยภาพของริทสึในการช่วยหาข้อมูลแล้วแท้ๆ...


                   ก็คือดันเสียเวลาคืนหนึ่งไปกับการนั่งคิดทบทวนเรื่องที่ลึกๆในใจนั้นรู้ว่าคงเกิดขึ้นได้น้อยสินะ


                   เป็นความต้องการของเจ้าของ มีแต่ต้องทำตามเท่านั้น


                 บ้าชะมัด


                   “ทางเจ้าของมาสร้างเรื่องยุ่งยากให้อีกแล้วสินะ” อาจารย์โคโระเอ่ยพลางใช้หนวดลูบหน้าตนเอง


                   “แต่อยากให้ความสำคัญต่อความรู้สึกของนักเรียนมากกว่าพ่อแม่นะครับ”


                   ความจริงแล้ว เธอเองก็ไม่ได้คุยกับริทสึมากหรอก— โดดเรียนตั้งหลายคาบ อีกทั้งช่วงพักกลางวันก็เข้ามาแค่ครู่เดียว ช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงคงไม่สามารถยัดบทสนทนาล้านแปดเข้าไปได้ ยิ่งเมื่อเธอไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรแล้วด้วย


                   แต่จากที่สังเกตมา... ก็ใช่ว่าจะเป็นอะไรที่เลวร้าย


                   แถมด้วยความถูกโปรแกรมมา จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันอยู่เหนือมาตรฐานปกติเลย์โกะคงไม่เขม่นใส่ AI ที่ไม่รู้ลึกถึงบาดแผลของตัวเธอและค่อนข้างซื่อในด้านของความคิดกับค่าเรื่องละเอียดอ่อนของมนุษย์หรอก


                 ก็จัดการความรู้สึกตนเองมาแล้วนี่...


                   ดวงตาสีอเมทิตส์คู่นั้นเหล่มองป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติครู่หนึ่งหรี่ลงเมื่อกำลังพิจารณาสีหน้าของอวาตาร์เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน


                   “ไม่ทราบว่ามีข้อสงสัยอะไรหรือเปล่าคะ?” หล่อนเอ่ย


                   “เปล่า”


                   แล้วเธอก็เบนความสนใจไปยังสิ่งอื่นแทน...


                   “รับทราบค่ะ


                   เด็กสาวประจำตำแหน่งโต๊ะหลังห้องนั้นฟุบลงอีกครา ลอบไถสมาร์ทโฟนหาคนที่สามารถติดต่อได้เบื้องหลังท่อนแขนที่บดบังใบหน้าตนเอง


                 มันมีทางต่อรองกับทางฝ่ายคนสร้างหรือเปล่านะ?

     

    ...

     

                   คาบเรียนแรกมาถึงอย่างรวดเร็ว


                   และทุกคนก็ดูจะเตรียมพร้อมรับมือการลอบสังหารของป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติกันหมด...


                   เลย์โกะหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบเปล่าๆ หวังว่ามันจะช่วยกันเสียงรบกวนไปได้ ไม่มากก็น้อย— ระหว่างนั้นก็ทำไม้ทำมือขออนุญาตอาจารย์โคโระที่ต้องโอนอ่อนให้ชั่วคราว


                   เธอยิ้มขอบคุณเขา


                 ทว่าในใจไม่ได้รู้สึกปรีดีสักเท่าไหร่กับการที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้


                   เด็กสาวชำเลืองมองทางด้านฝั่งซ้านของตนเองอีกคราหนึ่ง ภาพของหน้าจอสีดำสนิทซึ่งเริ่มแปรเปลี่ยนไปนั้นทำให้มือกดหูฟังให้แน่นขึ้นกว่าเดิม


                   เธอไม่อยากจะได้ยินเสียงรบกวนยาวนานหลายนาทีเป็นคราที่สอง แต่มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้


                   ตึง...


                   ตึง!


                   ปัง!


                 —อย่างน้อยก็เคยคิดเช่นนั้น


                   ดวงตาสีอเมทิตส์คู่นั้นเบิกกว้าง


                 กลีบดอกไม้ที่ปลิวว่อนไปทั่วห้องทำให้เผลอขมวดคิ้วในเวลาต่อมา สายตาความสนใจจากเบื้องหน้าตนเองเบนไปยังป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติที่ได้แทนที่อาวุธทั้งหมดของตนเองด้วยช่อดอกไม้นานาชนิดความสับสนก่อตัวขึ้น


                   ...อะไร?


                   “ทำดอกไม้ให้ตามสัญญาแล้วค่ะ” เสียงราบเรียบของหล่อนเอ่ย


                   “อาจารย์โคโระทำการดัดแปลงตัวร่างของฉันไปทั้งหมด 985 แห่ง แล้วส่วนใหญ่ก็ถูกตัดสินโดยมาสเตอร์ว่าไม่จำเป็นต่อการลอบสังหาร— ทำการลบ ถอดถอน และได้ทำการเปลี่ยนให้เป็นค่าเริ่มต้นค่ะ”


                   เลย์โกะรู้ว่าการที่พวกเขาจะเปลี่ยนการโปรแกรมของริทสึอีกรอบโดยฉับพลันนั้นไม่สมเหตุสมผลยิ่งกว่าสิ่งใด


                   และการที่อาจารย์โคโระผู้ซึ่งจำยอมกับกฎเกณฑ์ใหม่จะทำการดัดแปลงอีกครั้งหนึ่งก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ ต่อให้มีศักยภาพและความเร็วมากเพียงพอก็ตาม


                   มันมีอยู่เพียงข้อสันนิษฐานเดียวที่เธอสามารถคิดได้ในตอนนี้...


                   “แต่จากสถานการณ์ในห้อง E ที่ได้เรียนรู้ สำหรับตัวฉันเอง ได้ตัดสินใจว่าความสามารถในการร่วมมือคือสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในการลอบสังหาร”


                 ให้ตายเถอะ—


                   “ก่อนหน้าที่จะถูกกำจัดไป ก็เลยซ่อนซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องไว้ที่มุมหน่วยความจำค่ะ”


                   ริมฝีปากเผลอแย้มยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว


                   “ยอดเยี่ยมมากครับ!” อาจารย์โคโระเอ่ยชม


                   “หรือก็คือคุณริทสึ—”


                   หน้าจอของป้อมปืนประมวลผลอัตโนมัติปรากฏขึ้นเป็นภาพของอวาตาร์ที่คุ้นเคยอีกครั้งหนึ่ง


                   “ค่ะ! ฉันขัดขืนมาสเตอร์ด้วยความตั้งใจของตนเอง”


                   อ่า...


                 อะไรที่น่าประทับใจแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ด้วยแฮะ


                   เธอหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ความรู้สึกชอบใจปรากฏชัดอยู่บนใบหน้า ขณะปลายนิ้วถูกลีบดอกไม้ซึ่งอยู่บนโต๊ะเล่นๆ


                   “อาจารย์โคโระ การกระทำแบบนี้เรียกว่าช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อใช่ไหมคะ? ริทสึเป็นเด็กไม่ดีหรือเปล่า?


                   “ไม่หรอกครับ เป็นผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่ที่สมกับเป็นนักเรียน ม.3 เลยครับ!”


                   สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี... สินะ


                   “แต่ว่านะริจจี้ ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นเด็กไม่ดีล่ะก็ แถวท้ายสุดของห้องก็ยินดีต้อนรับเสมอ—”


                   “นี่แกจะล่อลวง AI เหรอวะสึมุกิ!?


                   “เงียบน่าเทราซากะ ฉันกำลังร่างข้อเสนอปากเปล่าอยู่”


                 และดูเหมือนว่ามันจะแตกต่างกับเรื่องราวในอดีตเสียด้วย


                 “อีกอย่างนะ 2 ใน 3 ของพวกเราก็เป็นแค่ ‘เจ้ากล้ามยักษ์ขี้โมโหที่คงโดนคนหลอกใช้ง่าย’ กับ ‘ยัยคนติดโทรศัพท์ผู้ครอบครองลิสต์คนที่ตนเองใช้งานได้’ เอง” คารุมะเอ่ยเสริม


                   “และฉันจะใช้ใครสักคนในจำนวนนั้นมาซัดนายสักวันนี่แหละ”


                   น่ากลัวจัง


                   เธอกลอกตาใส่เขาไปคราหนึ่ง แล้วจึงหันกลับมาทางริทสึแย้มยิ้มอีกครั้ง


                   “อย่างไรก็ตามเถอะ ฉันว่าถ้าเราสองคนร่วมงานกัน ก็น่าจะได้พวกข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการลอบสังหารเยอะอยู่”


                   “นั่นสินะคะ


                   “ใช่ไหมล่—”


                   “อาจารย์โคโระก็เคยบอกว่าคุณเลย์โกะค่อนข้างเลื่องชื่อเรื่องการหาพวกข้อมูลหลักฐานผ่านเส้นสายน่ะค่ะ


                   เธอชะงัก กะพริบตาปริบๆขณะมองริทสึด้วยความงวยงงอยู่ครู่หนึ่ง


                 เขาโปรแกรมให้ริทสึเรียกชื่อต้นเธอเหรอ?


                   “อืม— ความจริงก็ใช้ตอนอยู่ห้องนี้ไม่กี่ครั้งนะ”


                   “แต่ก็ยังน่าประทับใจอยู่ดีค่ะ”


                   “อ่า... ขอบคุณ”


                 เอาเสียเกือบทำตัวไม่ถูกเลย


                   เลย์โกะหัวเราะเบาๆ กลบเกลื่อนความรู้สึกอันไม่ชินชาซึ่งก่อตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง


                   จะว่าอบอุ่นก็ไม่เชิง ที่ชมเธอก็ไม่ใช่มนุษย์สักหน่อยนี่ มันอาจจะเป็นฝีมือของอาจารย์โคโระก็เป็นได้ ในเมื่อเขาเป็นคนโปรแกรมหล่อน


                   แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ...


                   มันจะถือว่าดีหรือไม่ดีกันล่ะ?


                   เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยสรุปข้อตกลงระหว่างกันและกัน


                   “งั้นดีลนะ?


                   “ค่ะ!” ริทสึตอบรับ


                   “อ่าฮะ..."


                   แล้วสมาร์ทโฟนที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นถูกหยิบขึ้นมา เลย์โกะกดปิดทุกไฟล์รายชื่อที่เปิดค้างไว้เมื่อก่อนหน้า


                   แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีเมลหนึ่งจากชิโระที่ยังไม่ได้เช็ค เพียงแต่ปัดแจ้งเตือนป๊อปอัพออกไป— หัวข้อนั้นไม่ได้ถูกระบุ เธอจึงไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากมายในตอนนั้น


                   เลย์โกะกดเข้าไปอ่านมัน


                   ‘เป็นไง?


                   เนื้อความทั้งหมดมีเพียงถ้อยคำห้วนสั้นไร้ซึ่งบริบทที่ทำให้รู้สึกเคลือบแคลงใจในคราแรกที่อ่าน


                   และ ‘โล่งใจอย่างน่าประหลาด’ ก็คือคำตอบ... ที่ซึ่งคนรู้นั้นมีเพียงตัวเธอคนเดียว


                 เรื่องอะไรจะตอบกลับไปกันเล่า?






    _ _ _ _

    หายไปนานพอสมควรเลยค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ;;
    ตอนแรกกะจะมาต่อตอนเดือนพฤษภาแล้วค่ะ แต่ติดตรงที่สุขภาพจิตค่อนข้างหนักหน่วงอยู่ พอแต่งๆแล้วก็รู้สึกว่าต้องเซฟตัวเองก่อน
    แต่ว่าตอนที่กลับมาแต่งต่อก็คือไม่ได้คิดเลยค่ะ ว่าเนื้อหาจะเยอะขนาดนี้ คือดันบรีฟซีนไว้อีกสักสองสามซีนด้วย
    ต้องตัดกับจัดไทม์ไลน์ใหม่เล็กน้อย บทเดบิวต์แบบออฟฟิเชียลของตลคซับคาร์อีกคนก็ถูกเลื่อนไปก่อน--
    เอาจริงๆก็คิดว่าถ้าไม่เลื่อนนี่ต้องมากกว่าสามหมื่นอักขระแน่ๆค่ะ คือขนาดตัดยังเยอะมากๆเลยเนี่ย


    การบรรยายอาจจะต่างกว่าเดิมเล็กน้อยด้วยค่ะ เหตุผลก็เพราะไม่ได้แตะมานาน ไม่รู้ว่าตรงที่ควรเน้นนี่เหมือนเดิมมั้ย ;;
    สไตล์การแต่งแต่ละเรื่องก็มีรายละเอียดนิดหน่อยที่ต่างกันน่ะค่ะ พอเครสสลับแต่งไปมาเลยจูนสมองจนมึน
    (เคยเบลอแต่งเรื่องนึงด้วยสไตล์อีกเรื่องด้วยแหละค่ะ ตอนตรวจคือแก้ยับเลย55555555)
    ไม่ค่อยมั่นใจกับตอนนี้สักเท่าไหร่ แต่คิดว่าพอเริ่มกลับมาแอคทีฟกับเรื่องนี้มากขึ้นก็น่าจะดีขึ้นแหละค่ะ
    ยังไงก็ตาม ถ้ามีตรงไหนติดขัดก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ;;

    ในตอนนี้ก็คือมีลงลึกถึงอีกส่วนนึงของแบคสตอรี่ยัยค่ะ เชื่อมกับคอนเวอที่เคยใส่ไว้ในบทนำนิดๆ
    ตัวละครสำคัญอีกตัวที่ไม่รู้ว่าจะมีบทบาทยังไงในอนาคต (เพราะยังไม่เฉลย-- แค่ก)
    แต่ที่แน่ๆคืออยากเขียน relationship development ของเค้ากับเลย์โกะแล้วค่ะ สนุกแน่555555555

    ส่วนรายละเอียดที่ว่าทำไมเลย์โกะไม่เมนชั่นเรื่องที่ตัวเองเทียบคนกับป้อมปืนหรือเอะใจความคิดตัวเองเหมือนกับเรื่องอื่นๆ
    นี่เป็นการปูสำหรับอนาคตนะคะ แง้มไว้สักนิด-- ความจริงก็มีใบ้นั่นนี่ผ่าน interaction กับริทสึเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ
    เป็นส่วนเล็กๆน้อยๆที่เก็บรายละเอียดกับเดาทางเรื่องไปก่อนได้นะคะ

    จริงๆเรื่องนี้ก็รีไรท์มาหลายรอบ กว่าจะมาเป็นเวอร์ชั่นนี้ก็คือผ่านมาหลายปีมาก แถมปัจจุบันก็ยังอัปเดทช้าด้วย
    ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆคนที่ยังติดตามอยู่นะคะ เครสจะพยายามเข็นให้จบแน่นอนค่ะ ;;
    ยังมีอีกหลายซีนเลยที่อยากเขียน ที่มากสุดก็พวกซีนอารมณ์กับโมเม้นต์หวาน ช่วงตอนแรกๆนี่คือยิ่งแต่งยิ่งอยากพาลูกสาวไปหาหมอเร็วๆ ฮือ
    สโคปปมกว้างจนแต่งไปมึนไป ตรวจทีก็นานมาก เพราะต้องดูรายละเอียดตอนอื่น แต่ก็ถือว่าคุ้มในแง่ของสตอรี่นะคะ
    เครสชอบอะไรที่มันขม/หวานปนขมมากๆเลยล่ะค่ะ--

    สุดท้ายนี้ขอจบด้วยรูปยัยน้องที่ไปสั่งคอมมิชชั่นกับคุณ @hikritos_ss ในทวิตเตอร์มานะคะ
    อยากให้ทุกคนได้เห็นมากๆเลยค่ะ ตกหลุมรักงานของคุณค้าอย่างจังเลย ;;;


    (เป็นลุคโรงเรียนผิดระเบียบที่ยังดูเป็นยูนิฟอร์มอยู่--)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×