ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : smile for the camera !
my H E A R T grows along with it
getting bigger like a bubble gum, m y heart.
{ choerry - love cherry motion }
APPLICATION
" ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะยิ้มสู้ไว้ก่อนแหละค่ะ "
บท: รองประธานชมรมเมดคาเฟ่
ชื่อ: อุเมโมโตะ ไคริ
ชื่อเล่น: ไคริริน , ไคริ
อายุ: 17
ชั้น: ม.ปลาย ปี 2
เพศ: หญิง
สเปค: เธอค่อนข้างที่จะชอบผู้ชายช่างพูด เพราะว่าตนเองชอบเป็นผู้ฟังมากกว่าผู้พูด ยิ่งเป็นคนที่มีเสน่ห์เวลาพูดนี่ก็ยิ่งดีเลย
ส่วนสูง/น้ำหนัก: 167 ซม. / 52 กก.
ลักษณะภายนอก:
__อุเมโมโตะ ไคริจัดว่าเป็นหญิงสาวหน้าสะสวยวัย 17 ปี เธอมีดวงตาสีเขียวมรกตอัน่าหลงใหล คิ้วที่เรียวดุจพระจันทร์เสี้ยว ผิวพรรณขาวอมชมพู ริมฝีปากบางซึ่งถูกเคลือบด้วยลิปบาล์มเป็นประจำ และมักจะมีสีหน้ายิ้มแย้มประดับอยู่เสมอ เรือนผมสีบลอนด์ของเธอนั้นหยักศกยาวถึงระดับศอก และเธอไว้หน้าม้าซีทรู รูปร่างของไคริจัดอยู่ในประเภที่สมส่วน เอวคอดและเห็นสะโพกชัดเจน ท่อนขาเรียวสวยที่แลดูน่าอิจฉาในสายตาของคนรอบข้าง แต่เจ้าหล่อนไม่ค่อยจะภาคภูมิใจกับหน้าอกหน้าใจที่สู้เพื่อนร่วมชั้นปีไม่ได้สักเท่าไหร่นัก ไคริในชุดไพรเวทส่วนใหญ่จะเป็นการแต่งตัวด้วยเสื้อที่มีดีเทลตรงช่วงอก(จำพวกโบว์และระบาย)สีอ่อน กระโปรงเอวสูงสีเข้ม และรองเท้าแพลตฟอร์มที่ไม่สูงมากจนเกินไป เธอมักจะสวมใส่ต่างหูเมื่ออยู่นอกโรงเรียน
นิสัย:
the smiling plum;
__อุเมโมโตะ ไคริมีจุดที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวซึ่งก็คือรอยยิ้มที่มักจะประดับบนใบหน้าตลอดเวลา ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไรก็มักจะพยายามแย้มยิ้มให้คนรอบข้างได้เห็นอยู่เสมอ นิสัยนี้มาจากคำสอนของผู้เป็นแม่ที่ได้เคยเอ่ยกล่าวกับเธอไว้ว่าให้ยิ้มสู้ปัญหาในชีวิตแทนที่จะหนีมัน ซึ่งนั่นทำให้ไคริเลือกที่จะยิ้มสู้ทุกสถานการณ์ แม้กระทั่งตอนนี้กำลังฉุนเฉียวหรือเศร้าสร้อย กลับกลายเป็นว่าหากคุณไม่สังเกตดีๆก็อาจจะไม่ล่วงรู้ถึงอารมณ์ที่แท้จริงของเธอเลยก็เป็นได้ กลับกลายเป็นว่ามันคล้ายคลึงกับการทำสีหน้าโป๊กเกอร์เฟซเสียอย่างนั้น แต่เจ้าหล่อนก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ถืออคตต่อเธอมากมายซึ่งมีสาเหตุมาจากรอยยิ้มพิมพ์ใจนี่แหละ อีกทั้งทำช่วยให้เธอทำใจได้มากกว่าการแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยเวลาอารมณ์ดิ่งลงเสียในทางใดทางหนึ่ง(ตามความคิดของเธอ)
the polite plum;
__เธอไม่ได้ป็นทางการเสียจนเกินไป แต่ก็ยังคงความสุภาพอยู่ในระดับหนึ่ง กับคนที่ไม่รู้จักนั้นก็จะแทนอีกฝ่ายว่า 'คุณ' แต่ก็ยังคงแทนตนเองว่า 'ฉัน' ในขณะที่แทนตัวเพื่อนว่า 'เธอ' ไม่ก็ชื่อของอีกฝ่าย ไคริพูดจามีหางเสียงกับรุ่นพี่ รุ่นน้อง และผู้หลักผู้ใหญ่ เธอจะมีความเป็นกันเองกับคนรุ่นเดียวกันมากกว่า แต่ก็หาได้พูดจาห้วนสั้นหรือหยาบคายใส่พวกเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เรียกได้ว่ายังคงกาลเทศะในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะโมโหหรืออารมณ์เสียมากเพียงใด เพราะปกติเธอมักจะสบถหรือสาปแช่ง(เมื่ออารมณ์เสียถึงขีดสุด)ในใจเสียมากกว่าการพูดออกมา
the try to be optimistic plum;
__เธอพยายามที่จะมองโลกในแง่ดี แต่ไม่ได้โลกสวยถึงขั้นไม่รับรู้ถึงความเป็นจริงที่อาจจะโหดร้ายหรือขมขื่น ไคริเพียงแค่คิดว่าอย่างน้อยก็ควรจะหาด้านดีในแต่ละสถานการณ์ไว้บ้าง ยิ้มสู้ปัญหาทั้งหมดก็คงจะดีกว่าการจมทุกข์เพียงเพราะปัญหาเหล่านั้นเสียอยู่แล้ว ตามเดิมแล้วเธอเป็นคนที่คิดมากอยู่พอสมควร ทำให้จำเป็นจะต้องฝึกคิดบวกและมองโลกในด้านดีให้มากกว่าเดิมเสีย โดยปกติแล้วเธอจะมองเห็นคุณค่าและความสำคัญในตนเองและคนรอบข้าง คอยให้กำลังใจพวกเขา และเป็นที่ปรึกษาเวลาเขาเคร่งเครียดเสมอ โดยหวังว่าจะเป็นพลังงานบวกให้กับคนอื่นในขณะที่พยายามแก้ลักษณะนิสัยคิดมากของตนเองไปด้วย
the always prepare plum;
__เธอประหม่าได้ง่ายมาก นั่นทำให้ก่อเกิดนิสัยของการเตรียมคำพูดที่ควรจะพูดในแต่ละสถานการณ์กับคนแปลกหน้าขึ้นมา โดยเธอจะเขียนทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงซึ่งเธอนึกออกใส่ในสมุดโน๊ตส่วนตัว แล้วจึงค่อยๆเขียนคำตอบหลากหลายลงไปเพื่อหาคำพูดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์นั้น เนื่องจากเธอประหม่าและเครียดได้ง่าย ทำให้บางครั้งก็เกิดอาการหายใจได้ทั่วท้องหรือคลื่นไส้ เพราะฉะนั้นจึงต้องหาวิธีที่จะไม่ก่อปัญหาวิวาทซึ่งเริ่มมาจากคำพูด ความขัดแย้ง หรืออะไรก็ตามที่ทำให้คิดมากจนเครียดและออกอาการ การหายใจเข้าออกลึกๆก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เธอทำบ่อย
the friendly to close ones plum;
__เธอค่อนข้างที่จะสุภาพก็จริง แต่หากสนิทสนม้วยกันแล้วก็จะล่วงรู้ได้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นคนเฟรนด์ลี่ที่เป็นกันเองกับสนิทมากๆ ไคริใส่ใจในสิ่งที่เพื่อนของตนเองชื่นชอบเสมอ เธอยังเป็นคนที่ยิ้มแย้มและมักหัวเราะร่าออกมาเมื่อมีคนเล่นมุก แม้ว่ามันจะแป๊กก็ตาม ส่วนกับคนที่ไม่สนิทก็จะแตกต่างออกไปสักหน่อย ก็คงจะเป็นไปตามแผนการเตรียมคำพูดของเธอในสมุดโน๊ตนั่นแหละ แต่พอสนิทไปเรื่อยๆก็แทบจะโยนสมุดนั่นทิ้งไปเลยเชียว เธอค่อนข้างที่จะช่างจ้อด้วย ยิ่งกับประธานชมรมเมดคาเฟ่ที่สนิทสนมกันอยู่พอสมควรก็ยิ่งแล้วใหญ่
the slow learning plum;
__ไม่มีใครเพอร์เฟ็คหรอก เธอที่มีใบหน้าสะสวยและรอยยิ้มพิมพ์ใจประดับอยู่ตลอดเวลาก็เช่นกัน เพราะเมื่อถึงช่วงเปิดเทอม ยิ่งใกล้สอบกลางภาคหรือปลายภาคก็ต้องยิ่งอ่านหนังสือหรือนัดติวกับเพื่อนแบบเอาเป็นเอาตายกันเลยทีเดียว อุเมโมโตะ ไคริรู้ตัวดีว่าเธอเป็นมนุษย์จำพวกที่หัวช้าและจำเป็นจะต้องหมั่นทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอเพื่อความเข้าใจของตนเอง ถูกเพื่อนด่าไปว่าสมองทึบระหว่างที่กำลังติวให้เธอกี่รอบก็จำไม่ได้ คนที่เข้าใจบทเรียนยากแบบเธอก็ต้องมาทนลำบากแบบนี้แหละ แถมรอบไหนเทการอ่านหนังสือก็ได้รับผลกระทบเป็นคะแนนที่ดิ่งสุดๆไปอีกด้วย เล่นเอาไม่อยากจะปล่อยวางเรื่องการอ่านทบทวนแบบโต้รุ่งไปเลย
the hard to be rage plum;
__เธอเป็นมนุษย์จำพวกที่โกรธยาก แต่ถ้าหากโกรธแล้วก็จะหายได้ยากมาก อีกทั้งยังเป็นประเภทที่เสมือนว่าแผ่รังสีพลังงานลบออกมาอย่างร่างกายขณะที่ยังคงยิ้มใส่คู่กรณีอีกด้วย ทางที่ดีก็อย่าไปสะกิดต่อมของเจ้าหล่อนเลย โดยเฉพาะการตีกรอบหรือวิจารณ์คนในเมดคาเฟ่หลากหลายประเภทที่คุณไม่ชอบ เพราะผู้หญิงคนนี้เคร่งเรื่องการเคารพซึ่งกันและกันมากถึงที่สุด ดีไม่ดีก็อาจจะถูกไล่ออกจากห้องชมรมแบบสุภาพโดยที่เธอไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ประธานชมรมหรือใครต่อใครก็ไม่สามารถห้ามความฉุนเฉียวที่ก่อตัวภายในจิตใจของเธอซึ่งเนื่องมาจากการกระทำที่สกปรกของผู้มาเยือนได้ เธอที่อารมณ์ไม่ดีจะดื้อดึงและไม่ฟังใครทั้งนั้นแหละ
the creative plum;
__เธอมีความคิดสร้างสรรค์ที่สูงอยู่พอสมควร ไอเดียของธีมชมรมในแต่ละซีซั่นนั้นจะถูกเสนอโดยเธอเสียส่วนใหญ่ เวลาอยู่ที่บ้านก็จะแอบลองทำลาเต้อาร์ตหรือพยายามตกแต่งสมูทตี้ของพ่อแม่เสมอ แต่ความคิดสร้างสรรค์ที่ว่าจะมีไอเดียเด่นๆที่ยืนหนึ่งแตกต่างกันออกมาเพียงแค่อย่างสองอย่างในร้อยได้ ทำให้เวลาเลือกที่จะวาดชิ้นงานส่งอาจารย์ศิลปะจึงทำให้ใช้เวลานานและงานไม่ประณีตเท่าทีควร เนื่องจากต้องเร่งรีบทำส่งในคาบ อีกหนึ่งปัญหาหลักก็คือเธอค่อนข้างที่จะเรื่องมากในส่วนของชิ้นงานตนเองด้วยนั่นแหละ หากทำเล่นๆ(?)แบบธีมชมรมก็เพียงแค่เสนอไปเรื่อยๆจนถูกใจคนอื่นก็เท่านั้น แต่พอเป็นเรื่องที่ทำให้ต้องคิดหนักทีไรก็ได้ผลลัพธ์แย่ทุกที
the secretly an otaku plum;
__นอกเสียจากนิสัยที่ค่อนข้าจะแปลกไปจากผู้คนทั่วไปแล้ว เธอเองก็ยังมีความลับที่ว่าเป็นโอตาคุอนิเมะตัวยง ซึ่งเรื่องนี้จะมีแต่คนในครอบครัวที่รู้เท่านั้น เวลาไปติวหนังสือก็จะเลือกสถานที่ติวเป็นบ้านของเพื่อนสนิทเสมอเพื่อป้องกันความลับหลุดรั่ว สัคมนักเรียนมัธยมของญี่ปุ่นก็ใช่ว่าจะยอมรับในตัวของโอาคุสักเท่าไหร่นัก มิหนำซ้ำส่วนใหญ่ยังเหยียดอีกด้วย ทำให้เรื่องพวกนี้จะต้องถูกอุบเงียบไว้ตลอด แม้แต่กู๊ดซ์และโปสเตอร์ก็ต้องเก็บเข้าหิ้งตลอดไม่ให้โชว์เด่นหราอยู่ในห้อง เพลงริงโทนและรูปพื้นหลังหน้าจอโทรศัพท์ก็ไม่สามารถตั้งเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับความชอบของตนเองได้ สิงที่ยังพอแอบทำให้ในที่สาธารณะคือแอบส่องข่าวคราวองอนิเมะที่จะฉายในแต่ละซีซั่น ส่วนกิจวัตรประจำทุกสัปดาห์ก็คือพยายามดูอนิเมะแบบฉายสดให้ครบทุกเรื่องที่ติดตามของซซั่นนั้นให้ได้ เธอไม่ได้ัดเป็นพวกที่สุดโต่งขนาดนั้น พอจะมีหวีดเงียบๆบ้างเป็นบ้างครั้งบางคราว การเป็นโอตาคุของเธอจะซอฟท์กว่าคนอื่นหน่อย เนื่องจากต้องกันไม่ให้คนอื่นที่นอกเหนือจากคนในครอบครัวรู้เด็ดขาด
the secretly competitive plum;
__อุเมโมโตะ ไคริอาจจะดูเป็นคนที่ไม่น่าจะมีลักษณะนิสัยที่ชื่นชอบการแข่งขันสักเท่าไหร่ แต่เธอคือผู้ที่มีคำปฏิญาณประจำตัวว่าแพ้ไม่ได้เด็ดขาดตราหน้าไว้ตัวใหญ่ๆเลยต่างหาก เจ้าหล่อนไม่ใช่ผู้มีไขว่คว้าหาชัยชนะจนบ้าคลั่ง ออกจะรู้สึกเฉยๆกับมันเสียด้วยซ้ำ แต่การพ่ายแพ้ถือว่าเป็นสิ่งที่เธอยอมรับได้ยากอยู่พอสมควร(ยกเว้นเรื่องเรียน เพราะเรื่องนั้นเธอไม่ไหวจริง) เธอยอมการแข่งขันและจะไม่ปฏิเสธทุกคำท้าที่มีคนเอ่ยกับเธอ บางทีภายใต้รอยยิ้มอันเป็นมิตรนั่นกำลังมีความคิดว่า 'ฉันคนนี้จะไม่มีวันแพ้คนแบบคุณเด็ดขาด' ก็เป็นได้ แต่เมื่อพ่ายแพ้ก็ใ่ว่าจะโวยวายออกมาเสียหรอก อย่างมากสุดก็คงแค่ก่นด่าในใจและทำตัวซึมๆไปอยู่ช่วงหนึ่ง
ประวัติโดยคร่าวๆ:
was an anxious girl;
__อูเมโมโตะ ไคริเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น มีบุพการีที่มักจะคอยเป็นห่วงเป็นใยเธอเสมอ เรียกได้ว่าเมื่อเยาว์วัยนั้นอาจจะแลดูเหมือนถูกเลี้ยงดูแบบประคบประหงมมากไปเสียหน่อย จึงทำให้เจ้าหล่อนค่อนข้างที่จะประหม่า เมื่อต้องพบผู้คนมากมายที่ไม่รู้จักชื่อไม่รู้จักนาม และการเข้าหาคนอื่นก็ค่อนข้างที่จะลำบากไม่น้อยในวัยเด็ก ในเมื่อเธอเป็นเด็กนักเรียนคนเดียวที่ชอบวิ่งไปหาอาจารย์อนุบาลขณะที่มีน้ำตาคลอเบ้าเป็นประจำ เนื่องจากไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมของเพื่อนใหม่สักเท่าไหร่นัก จนมันเริ่มที่จะเป็นปัญหาใหญ่เมื่อขึ้นชั้นประถมศึกษา ในเมื่อเธอแทบจะต้องเขียนคำพูดใส่กระดาษแทนการสนทนากับคนอื่น เพราะว่ากลัวที่จะพูกติดอ่างหรือพูดตะกุกตะกัก นั่นทำให้ถูกอาจารย์ประจำชั้นเรียกตัวไปคุยเป็นการส่วนตัว
then started to prepare;
__แน่นอนว่าสำหรับเด็กในวัยประถมศึกษาแล้ว สังคมเพื่อนและมิตรภาพถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นพ่อแม่ของเธอจึงเริ่มหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ของเจ้าหล่อนด้วยวิธีการเล่นสวมบทบาทในแต่ละสถานการณ์ ให้ลูกสาวตัวเล็กของตนเองได้ฝึกการสนทนาในรูปแบบต่างๆ ว่าแบบไหนควรหรือไม่ควร และไคริก็สามารถที่จะพูดคุยกับเพื่อนวัยเดียวกันได้โดยที่ไม่มีปัญหาแล้ว แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปก็เริ่มที่จะทำกิจกรรมเดิมกับผู้ปกครองไม่ได้ พนักงานออฟฟิศวัยสามสิบกว่าปีนั้นถูกเลื่อนตำแหน่
เสียจนมีเวลาว่างน้อยลง ส่วนคาเฟ่ของพ่อเธอเองก็ค่อนข้างที่จะเป็นที่นิยมเสียจนมีลูกค้าจำนวนมากมาเยือนในแต่ละวันเสียแล้ว ไคริจึงซื้อสมุดมาเขียนคำพูดที่เธอคาดคิกไว้ว่าควรจะพูดในสถานการณ์ไหนมาเสียแทน เพื่อนำมาอ่านในเวลาว่าง กันไม่ให้ตนเองพลั้งเผลอพูดในเรื่องที่ไม่ควรออกมา
after that, finds her interests;
__สื่อบันเทิงและเด็กสาววัยรุ่นเป็นของคู่กัน เมื่อถึงวัยประมาณ 10 ปีก็ได้ยินเพื่อนร่วมห้องกำลังพูดคุยสนุกสนานเกี่ยวกับเรื่องซีรี่ส์โรแมนติก ด้วยความรู้ที่พอจะมีอยู่บ้างว่ามันอาจเป็นหนึ่งในประเด็นที่ใช้ในการสนทนากับเพื่อนได้ก็มุ่งตรงไปยังโน๊ตบุ๊คของพ่อ(ซึ่งขออนุญาตก่อนแล้ว)ทันทีที่กลับถึงบ้าน เธอกดดูแต่ละตอนของซีรี่ส์ไปเรื่อยๆเสียจนถึงตอนล่าสุดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ในใจแอบคิดไว้ว่าคงจะพูดคุยรู้เรื่องกับเพื่อนได้อย่างสนุกสนานในวันรุ่งขึ้น และในขณะที่กำลังครุ่นคิดถึงวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะได้พูดคุยกับเพื่อนก็พลั้งเผลอไปกดดูวีดีโอหนึ่งซึ่งอยู่ในรายการแนะนำ ปรากฎว่ามันเป็นหนึ่งตอนของอนิเมะเรื่องหนึ่งที่กำลังฉายอยู่ในซีซั่นนี้ด้วยความสงสัยจึงดูไปจนจบ กลับกลายเป็นว่าไคริหลงใหลในภาพกราฟฟิคสวยๆ อนิเมชั่นที่ลื่นไหล เสียงพากย์ และเพลงเปิดเพราะๆไปเสียอย่างนั้น คืนดังกล่าวจึงเริ่มไล่ดูจนถึงตอนล่าสุด และพบเจอเรื่องใหม่ที่น่าสนใจไปเรื่อยๆจนแทจะหยุดไม่ได้ นั่นคือจุดเร่มต้นของความชอบที่เกิดจากความบังเอิญ และวันรุ่งขึ้นก็ลืมที่จะไปคุยกับเพื่อนในเรื่องของซีรี่ส์เสียสนิท ในช่วงนั้น ภายในหัวเธอมีแต่อนิเมะเต็มไปหมด
and attended highschool;
__เธอที่กะจะแสดงออกถึงความชื่นชอบของตนเองจำเป็นจะต้องปกปิดมัน ส่วนสาเหตุนั้นเนื่องมาจากว่าไปพบเจอกระทู้ที่ตั้งถามถึงความเห็นเกี่ยวกับโอตาคุรอบข้าง และสิ่งที่เธอได้ล่วงรู้จากการอ่านความคิดเห็นของกระทู้ดังกล่าวนั้นทำให้เกิดเปลี่ยนใจในเรื่องนี้ไปโดยปริยาย คนส่วนใหญ่ไม่ได้ยอมรับบุคคลที่มีความชื่นชอบเฉกเช่นเดียวกับเธอมากนัก อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะเกิดการรังเกียจและเหยียดหยามอีกด้วย เพราะเหตุนั้นไคริจึงตัดสินใจที่จะปกปิดเรื่องนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด การที่พ่อแม่ของเธออุตส่าห์ช่วยเหลือและฝึกฝนให้เข้ากับเพื่อนวัยเดียวกันได้จะไม่เสียเปล่าเด็ดขาด เมื่อขึ้นชั้นมัธยมปลายก็ดูแลตนเองมากขึ้น ยิ้มแย้มมากขึ้น และพยายามทำตัวให้ดูปกติมากที่สุด และไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด จึงทำให้เป็นที่รู้จักในหมู่รุ่นเดียวกันและรุ่นพี่บางคนไปเสียได้
joined a maid cafe club;
__ชมรมเมดคาเฟ่ แค่ได้ยินชื่อครั้งแรกตอนปี 1 ก็กระตุกต่อมความอยากรูอยากเห็นของเธอไปเสียแล้ว แม้ว่าจะสนใจมากเพียงใด แต่ก็ต้องทำตัวให้ปกติ และไม่แสดงออกมากจนเกินไป หากมีคนเริ่มจับผิดเธอได้ก็คงจะจบสิ้นชีวิตนักเรียนม.ปลายอันปกติสุขไป จนกระทั่งได้ยินพวกรุ่นพี่ฮือฮากันถึงความนิยมของมัน ไคริก็ฉุดนึกขึ้นได้ว่ามันคงจะไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายในสายตาคนอื่นเสียหรอก การที่มีความสนใจเมดคาเฟ่ก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นโอตาคุสักหน่อย ในวันสุดท้ายของการเลือกชมรมจึงได้ลบส่วนที่เคยเลือกระบุไว้ว่าเป็นชมรมศิลปะมาเป็นชมรมเมดคาเฟ่แทนเสีย แน่นอนว่าการที่ได้มาเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมนั้นถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับชีวิตของเธอ ไคริแอบไปศึกษาเพิมเติมจากอนิเมะบางเรื่องและเมดคาเฟ่จริงในบางแห่งเพื่อความต้องการที่ไม่อยากจะทำให้พวกรุ่นพี่ผิดหวัง และด้วยทักษะที่เพิ่มพูนมาจากการศึกษาเพิ่มเติมก็ทำให้ความนิยมของเธอสูงกว่าเดิมเช่นกัน รู้ตัวอีกทีก็ถูกรุ่นพี่ตั้งให้เป็นรองประธานของชมรมนต่อไปเสียแล้ว เธอเองก็รับตำแหน่งนั้นมาแบบงงๆ แต่ก็รับคำไว้กับรุ่นพี่ที่กำลังจะจบไปว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
สิ่งที่ชอบ:
__อนิเมะ {{ มักจะติดตามเรื่องที่น่าสนใจสำหรับแต่ละซีซั่นเสมอ หากครั้งไหนดูไม่ทันก็จะตั้งอัดไว้ตลอด แต่ปกติแล้วจะปกปิดเรื่องนี้กับคนรอบข้าง
__คอสเพลย์ {{ มันเป็นสิ่งที่ชอบและหนึ่งในสาเหตุที่เข้าชมรมเมดคาเฟ่แหละนะ
__กลิ่นของกาแฟ {{ มันหอมจริงๆนะ โดยเฉพาะของธุรกิจบ้านเธอน่ะนะ
__ลิปบาล์ม {{ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ปกติดตัวตลอดเวลา การแต่งหน้าจัดไปอาจจะดูไม่ค่อยดีในสายตาคนอื่น แต่ถ้าเป็นลิปบาล์มก็คงไม่มีปัญหาใช่มั๊ยล่ะ?
__รอยยิ้ม {{ คุณแม่สอนเอาไว้ว่าเราควรจะยิ้มสู้ทุกปัญหาที่เข้ามาในชีวิต
__สมาชิกในชมรม {{ เธอผูกพันธ์กับพวกเขาอยู่พอสมควร มองทุกคนเป็นพี่สาวน้องสาวที่สนิทสนมกัน
สิ่งที่ไม่ชอบ:
__การพ่ายแพ้ {{ เธอไม่ได้รักในชัยชนะเสียขนาดนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะรู้สึกดีกับการพ่ายแพ้ อีกทั้งมันยังทำให้เธอแลดูอ่อนหัดในสายตาคนอื่นอีกด้วย
__การที่อนิเมะซึ่งติดตามจบ และเธอจะต้องรอซีซั่นถัดไปอีกพักใหญ่ {{ เธอมันไม่ใช่สายอ่านมังงะเลยสักนิด อย่างไรเสีย พวกเสียงพากย์และกราฟฟิคที่เคลื่อนไหวได้ก็ดีกว่า ทำให้เธอต้องอดทนรออย่างใจเย็นซึ่งไม่สนุกสักเท่าไหร่นัก
__เกรด {{ ถ้าไม่ตั้งใจจริงๆก็ตกแบบไม่ไว้หน้าตัวเธอเลย การที่เกิดมาเป็นคนหัวช้านี่มันเวรกรรมชัดๆ
__เกรด {{ ถ้าไม่ตั้งใจจริงๆก็ตกแบบไม่ไว้หน้าตัวเธอเลย การที่เกิดมาเป็นคนหัวช้านี่มันเวรกรรมชัดๆ
__คนที่ตีกรอบบางสิ่งบางอย่างตามความชื่นชอบของตนเอง {{ เธอไม่ชอบพวกที่ไม่มีการเคารพซึ่งกันและกัน เห็นแล้วอยากจะจับไปปรับทัศนคติเสียอย่างนั้น
__การที่ต้องเก็บด้านโอตาคุของตนเองเป็นความลับ {{ แต่ก็ช่วยไม่ได้ สังคมนี้เหยียดโอตาคุอยู่พอสมควร และถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไปก็จะส่งผลเสียต่อชมรมที่เธออยู่แน่นอน แม้ว่าอยากที่จะแสดงออกถึงตัวตนของตนเองมากเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำได้อยู่ดี
__การที่ต้องเก็บด้านโอตาคุของตนเองเป็นความลับ {{ แต่ก็ช่วยไม่ได้ สังคมนี้เหยียดโอตาคุอยู่พอสมควร และถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไปก็จะส่งผลเสียต่อชมรมที่เธออยู่แน่นอน แม้ว่าอยากที่จะแสดงออกถึงตัวตนของตนเองมากเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำได้อยู่ดี
__บ๊วย {{ สั้นๆเลยก็คือไม่อร่อย
สิ่งที่กลัว:
__กระต่าย {{ ใช่ มันอาจจะฟังดูแปลกๆ ไคริเคยเลี้ยงกระต่ายไว้ตัวหนึ่งเมื่อยังเล็ก และเพราะยังเด็กเกินไปจึงไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก สุดท้ายแล้วเจ้าสัตว์เลี้ยวตัวจ้อยก็ตรอมใจด้วยความเหงา มันยังคงเป็นเรื่องที่ตราตรึงใจเธออยู่จนถึทุกวันนี้ เมื่อเห็นกระต่ายที่ไหนก็แสดงออกโดยการร้องไห้และพยายามวิ่งหนีให้ไกลจากมันที่สุด เพราะหลังจากเหตุการณ์นั้นก็เริ่มที่จะกลัวการเลี้ยงสัตว์ไปเลย แถมช่วงนั้นก็ถูกพ่อชวนไปดูหนังเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงซอมบี้ด้วย เลยกลับกลายเป็นว่าเธอกลัวว่าเจ้ากระต่ายตัวนั้นจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาแก้แค้นเธอเสีย
เพิ่มเติม:
{{ ไคริแต่งหน้าโดยการทาแค่ลิปบาล์มเท่านั้น เครื่องสำอางอื่นเธอไม่เคยคิดที่จะแตะเลยแม้แต่น้อย
{{ ถึงนามสกุลเธอจะมีคำว่า 'บ๊วย' (อุเมะ) อยู่ก็ตาม แต่เธอก็ไม่ชอบให้ใครมาย่อนามสกุลแบบนั้นหรอกนะ เพราะเธอไม่ได้ชอบกินบ๊วย
{{ แอบถูกคนในชมรมไปลือกันเองเล่นๆว่าเป็นเจ้าแม่เกมอีแก่กินน้ำ เนื่องจากเจ้าตัวมักจะมีรอยยิ้มแบบเดิมประดับอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วไคริยังไม่เคยเล่นเกมแบบนั้นเลยสักครั้ง
{{ พ่อเปิดกิจการร้านคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อด้านกลิ่นกาแฟที่หอมกรุ่น ส่วนแม่เป็นหัวหน้าฝ่ายขายผู้เปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบของบริษัทแห่งหนึ่ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น