คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1
*ยังไม่ตรวจคำผิดหรือคำตก*
...ฤดูใบไม้ร่วง อากาศอบอุ่นและแสงแดดที่สาดส่องไปทั่วทั้งเมืองเอนคันโต ใบไม้เริ่มผลัดสีเพื่อย่างเข้าสู่ช่วงฤดูถัดไป, ดวงตาสีลูกโอ๊คเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างบานเล็ก
วันนี้ชาวเมืองเอนคันโตก็ยังคงครึกครื้นกันอย่างเช่นทุกวันที่ผ่านมา ทั้งเสียงหัวเราะสนุกสนานและเสียงร้องเพลงที่ดังขึ้นทุกครั้งที่มีเด็กช่างสงสัยถามไถ่ถึงพรวิเศษของครอบครัวมาดรีกัล ทุกครั้งอย่างเช่นวันนี้
รอยยิ้มน้อยๆ ผลุบขึ้นบนใบหน้าแล้วดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อมีใครบางคนโผล่ขึ้นมาที่หน้าต่าง ผมสีดำหยิก ดวงตาสีเฮเซลนัทและผิวสีเข้ม ผ้าคลุมสีส้มแกมเหลืองทับอยู่บนเสื้อเชิ้ตสีขาว
“คามิโล!!” เขาโผล่มาที่หน้าต่างพร้อมรอยยิ้มซุกซนเฉกเช่นทุกครั้ง และเป็นทุกครั้งที่พินาร์ต้องใจเต้นไม่จำเป็นจังหวะเพราะอีกฝ่าย, ใครกันเล่าจะไม่ตกใจที่จู่ๆ ก็มีใครบางคนผลุบขึ้นโผล่ที่หน้าต่างห้องนอนเช่นนี้?
“ฮ่าๆ ดูหน้านายสิ” พินาร์มุ่นคิ้วเข้าหากันและยู่ปากลงอย่างคนไม่พอใจแต่คนตรงข้ามหน้าต่างนั้นกลับดูพอใจนักที่ได้เห็นเขาแสดงท่าทีแบบนี้ “ออกไปข้างนอกหรือเปล่า?” ทุกวัน และทุกวันที่เรารู้จักกัน
“วันนี้ก็ฝากด้วยนะ” พินาร์ระบายยิ้มอ่อนและตอบรับคำถามนั้น, คามิโลมักจะพาเขาออกไปที่นอกตัวบ้าน พาออกไปจากเตียงนอนที่เขามักอุดอู้อยู่บนนั้น ออกจากห้องแสนคับแคบนี้เพื่อได้ออกไปมองยังทิวทัศน์ภายนอกหน้าต่างบานเล็ก
“ไว้ใจฉันได้เลย!!” คามิโลเข้ามาที่หน้าต่างช้อนตัวเขาขึ้นบนแผ่นหลังแล้วออกไปทางหน้าต่างอย่างเช่นทุกครั้งที่ทำ คามิโลพาเขาเดินไปตามทางของถนน สวัสดีและทักทายกับชาวเมือนเอนคันโต
“พินาร์นายรู้หรือเปล่าว่าวันนี้น่ะนะเป็นวันที่น้องชายของฉันจะได้รับพรวิเศษแล้วล่ะน่ะ!” เขาส่ายหน้าและถามคำถามกับคามิโลอย่างใคร่รู้ “วันนี้งั้นเหรอ? นายรู้หรือเปล่าเขาจะได้พรเป็นอะไร!?”
“ฮ่าๆ ใครจะไปรู้แต่นั่นน้องชายฉัน! ไม่ว่าพรแบบไหนก็ต้องวิเศษอยู่แล้ว! แต่อาจน้อยกว่า—โอ๊ย!” พินาร์รู้อยู่แล้วว่าคามิโลก็แค่พูดหยอกเล่นแต่ก็อดที่จะตีไหล่เขาอย่างหมั่นไส้ไม่ได้
แต่ก็จริงอย่างว่า...ไม่ว่าจะเป็นพรวิเศษแบบไหนก็วิเศษทั้งนั้น แต่น่าเสียดายที่พรวิเศษของคุณนายฮูเลียตต้า มาดรีกัลนั้นกลับสามารถใช้ได้แค่เพียงการยืดยาวอายุขัยและบรรเทาอาการของเขาลง, ใช่ว่าพินาร์จะไม่อยากใช้ชีวิตปกติ แต่ร่างกายของเขาก็อ่อนแอเกินกว่าจะได้ออกมาวิ่งเล่นรวมไปถึงขาสองข้างที่ไม่อาจใช้การได้ตั้งแต่เกิดมา
...มันอาจเป็นคำสาป...หรืออะไรก็ตาม
“พินาร์!” เขาสะดุ้งเฮือกในขณะที่ขานรับเสียงเรียกนั้นไปอย่างตกใจ เสี้ยวหน้าของคามิโลเหลือบมองเขาเล็กน้อย “นั่นนาย…ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
"แน่นอน! ฉันไม่เป็นอะไร...แบบว่านายเรียกฉันทำไมงั้นเหรอ?"
“เปล่า ฉันแค่จะถามว่าจะไปเอาอาหารกับคุณน้าฮูเลียตต้าหรือเปล่า อย่างน้อยนายควรไปเอา...ถ้ามันหมดแล้ว” พินาร์พินิจตามคำพูดของคามิโอเล็กน้อย ก็จริงอยู่ถ้าหากมันหมดแล้วเขาก็ควรไปเอาเพื่ออย่างน้อยก็บรรเทาอาการเจ็บป่วยให้ทุเลาลง
"ไปสิ ไปหาเธอ" คามิโลดูมีสีหน้าที่ดีขึ้นมากจากเมื่อครู่ที่ดูหมองลง เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมองเห็นว่าเขาแสดงสีหน้าแบบไหนแต่พอได้เห็นสีหน้าที่ดูแจ่มใสนั่นพินาร์เองก็พลอยรู้สึกดีตามไปด้วย
ผ่านตาไปเป็นมิราเบลพร้อมเด็กๆ อีกสามคนที่เดินตามเธอต้อยๆ เพื่ออยากรู้ถึงพรวิเศษของเธอและของครอบครัวมาดรีกัล แต่เมื่อมาคิดๆ ดูแล้ว “คามิโล”
“ว่าไง?”
“บรูโน ทำไมเราถึงไม่ควรพูดถึงเขา?” ในเนื้อเพลงของมิราเบลมักมีคำนี้เสมอ และเราไม่ควรกล่าวถึงเขา คามิโลชะงักเล็กน้อยและก้าวเท้าเดินไปต่อ “เราไม่ควรพูดถึงเขาไม่ว่ายังไงก็ตาม” พินาร์ค่อนข้างรู้ดีว่าต่อให้ซักไซร้ถามไปก็ไร้คำตอบ
พวกเรารับอาหารจากคุณนายฮูเลียตต้าเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่คามิโลต้องพาพินาร์กลับมาสู่เตียงนอนภายในห้องคับแคบนั่นอีกครั้ง เขาวางพินาร์ลงบนเตียงนอนนุ่มอย่างเบามือที่สุด ดึงผ้าห่มผืนหนามาคลุมที่ตัวเขาเอาไว้แล้วเดินไปที่หน้าต่าง ทำตัวราวกับตัวเองเป็นปีเตอร์แพนในหนังสือนิทราอย่างงั้น
“ถึงเวลาฉันจะมารับนายไปที่งานรับพรของอันโตนิโอในคืนนี้ นายต้องพักผ่อนจนกว่าจะถึงตอนนั้นและฉันจะไปช่วยงานที่บ้าน” พินาร์พยักหน้าเข้าใจ
“ถ้างั้น...ฉันจะรอนะ” คามิโลยกยิ้มกว้างแล้วผลุบหายไปจากหน้าต่าง เห็นอย่างนั้นเขาคงโดดลงไปที่ด้านล่างแล้ว, พินาร์ถอนสายตาออกจากหน้าต่างบานเล็กแล้วหันใบหน้ามามองยังเก้าติดล้อที่สามารถเคลื่อนที่ได้ที่ข้างเตียงนอน
ก็ไม่ใช่ว่าทำไมคามิโลถึงต้องเข้าออกทางบานหน้าต่าง พินาร์เคยถามและได้คำตอบกลับมาว่า “เข้าออกจากทางนั้นมันสะดวกและเร็วกว่าการที่ฉันต้องขึ้นบันไดมาซะอีก! และก็ถ้าเกิดอะไรขึ้นทางนี้มันเร็วกว่าเป็นไหนๆ !” ใช่นั่นแหละคำตอบของคามิโล
และเขาก็ยังคงสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่างที่เจ้าตัวว่า ชาวเมืองเอนคันโตแห่งนี้นั้นแสนดีเป็นไหนๆ และจริงๆ แล้ว...พ่อและแม่ของเขาเสียไปเมื่อนานมาแล้ว คนที่คอยดูแลก็เป็นคุณย่าและท่านก็เพิ่งจะเสียได้เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ทั้งที่ยังไม่ถึงฤดูหนาวแต่เมื่ออยู่ต่อหน้ารูปภาพของคนที่จากไปเขากลับรู้สึกหนาวคล้ายกับนั่งอยู่ในช่องแช่แข็งไม่มีผิด
มีชาวเมืองเอนคันโตบางคนที่มีเวลาว่างเหลือพอจะมาช่วยดูแลเขาในบางส่วนที่เขาไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และมีคามิโลที่คอยทำให้แต่ละวันของเขาไม่ได้หม่นหมอง
พินาร์ยังคงจำได้ดีในวันที่ได้พบกับลูกชายจากบ้านมาดรีกัลคนนั้น เขาเป็นคนขี้เล่นแต่ในขณะเดียวกันเขาก็ช่างเป็นคนเอาใจใส่จนน่าเสียดายที่ทำไมเขาถึงต้องยอมสละเวลามากมายเหล่านั้นเพื่อพาเขาออกจากห้องนอนคับแคบและเดินเตร็ดเตร่อยู่บนถนนทางเดิน, พินาร์รู้ดีว่ามีสาวในเมืองมากมายที่พร้อมจะแต่งงานกับคามิโล มาดรีกัลคนนั้น
พินาร์ไม่อาจรู้ได้เลยว่าชีวิตของเขาจะอยู่ยืดยาวได้นานมากขนาดไหน ไม่รู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้นแล้วจะเป็นอย่างไร, บนหน้าหนังสือที่เขาเคยได้อ่านมา และมากมายที่คามิโลเคยนำมาให้กับเขา
‘ในบรรดาความสุขทั้งหลายนั้นย่อมมีความทุกข์ปนอยู่ภายในนั้น’ เหมือนกับรสชาติของขนมหวานที่มีรสชาติหวานของน้ำตาลและอมเปรี้ยวของผลไม้และน่าเสียดายที่พินาร์ไม่ชอบทานขนมหวานนั้นเสียเท่าไหร่นัก หรือแม้แต่รสชาติเปรี้ยวที่ติดอยู่ปลายลิ้น
แต่อย่างไรแล้ว...คนที่สมควรมีความสุขจริงๆ ก็ควรเป็นคามิโล ควรเป็นเขาคนนั้นแน่นอนอยู่แล้ว, หากให้ย้อนกลับไปในตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรกก็คงต้องย้อนกลับไปในฤดูกาลของฤดูหนาวเมื่อหลายปีก่อนที่อากาศเย็นเหยียบและชาวเมืองเอนคันโตสวมชุดเสื้อผ้าหนาๆ เพื่อให้ร่างกายนั้นอบอุ่นกัน
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ติดล้อสวมใส่เสื้อคลุมผืนหนาและผ้าคลุมทับอีกชั้นหนึ่ง มองชาวเมืองเอนคันโตที่เดินขวักไขว่ไปมาที่หน้าประตูบ้านของตัวเอง, แล้วมีเด็กที่ท่าทางอายุใกล้เคียงกันเดินเข้ามาหาเขาพูดคุยเรื่องต่างๆ นาๆ โดยที่เขายังไม่ได้ถามอะไรแล้วจบลงด้วยการเอ่ยปากแนะนำตัว
ในตอนนั้น...พินาร์คิดว่าเจ้าเด็กคนนั้นนี่มันพูดมากเสียจริงๆ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงเลือกที่จะยกมือขึ้นจับมือตอบกลับแล้วแนะนำตัวบ้าง “ฉันพินาร์...พินาร์ เดลกาโด, ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันคามิโล”
— ยินดีที่ได้พบนายคามิโล
Talk to the writer :
จริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจจะพิมพ์ให้เป็นแนวดราม่าหรอกค่ะ แหะ จริงๆ คือจะพิมพ์ให้เป็นแนวอบอุ่นหัวใจต่างหากล่ะ! ยังไงก็ขอฝากน้องพินาร์คนนี้ไว้กับทุกคนด้วยนะคะ !
TBC.
ความคิดเห็น