ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : อีกหนึ่งวันกับเรื่องวุ่น
อีกหนึ่งวันกับเรื่องวุ่น
“เฮ้อ! ในที่สุดก็หมดไปอีกวัน”
“คิก คิก”
“หัวเราะอะไร?”
ผมหันไปถามนิดขณะที่เดินลงบันไดมาด้วยกันโดยมีเคเดินตามมาห่าง ๆ  วันนี้ทั้งวันผมโดนเคเดินตามเป็นเงาตามตัวไปตลอด  ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน  เคก็จะเดินตามผมห่าง ๆ  ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาเดินกวนใจอยู่ใกล้ ๆ แต่ไอ้การเดินตามอยู่ห่าง ๆ ตลอดทั้งวันอย่างนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกันสักเท่าไหร่ 
“ก็ซากุระน่ะสิ”
“หือ?  ฉันทำไม?”
“บ่นเป็นคนแก่ไปได้”
“ก็คนมันแก่”
“โอ๋ ๆ อย่างอนนะ”
นิดหันมาแหย่ผมที่เริ่มทำหน้างอ  ผมไม่ได้งอนอะไรหรอก  แต่ที่ทำหน้างอเพราะเวลาที่เราได้สวีทกันแบบนี้ดันมีไอ้เคเดินมามาติด ๆ แถมยังจ้องเขม่งซะอีก  สงสัยคงหึงนิด  จะว่าไปแล้วผู้หญิงนี่สนิทกันได้เร็วจริง ๆ ถึงแม้ว่าผมจะพึ่งเข้ากลุ่มได้ไม่นาน  แต่ไม่ว่าจะเป็นนิด  โบว์หรืออัน  กลับพูดคุยกับผมราวกับรู้จักกันมาเป็น 20 ปี (แกพึ่ง 15 เองไม่ใช่เรอะ) ถึงแม้ผมจะไม่ได้ทำตัวสนิทด้วยมากเท่าไหร่ก็เถอะ
“พ่อนิดยังไม่มานี่”
ผมหันไปบอกนิดเมื่อไม่เห็นพ่อของเธออย่างทุกที  จริงสินะ  ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าเคยเห็นพ่อของเธอที่ไหนมาก่อน  แต่ก็ช่างเถอะ  ผมอาจจะจำคนผิดก็ได้
“หือ?  สงสัยจะมาช้า  ซากุระกลับไปก่อนก็ได้  เดี๋ยวนิดรอคนเดียวได้”
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่งซากุระเอง”
เครีบเสนอหันและเสนอตัวเข้ามาทันที  ผมทำหน้าเมื่อก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นใครบางคนในชุดนักเรียนแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำกับเนคไทสีเดียวกับกางเกงเดินเข้ามาในโรงเรียน
“วุธ!”
ผมตะโกนเรียกวุธพร้อมกับโบกมือเรียก  วุธหันมาตามเสียงเรียกก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงมาที่พวกผม
“ไง”
“เดี๋ยวนะ  วุธนี่นิด  และวก็นั่งเค”
ถ้าตาผมไม่ได้ฝาดหรือรู้สึกไปเอง  ผมว่าผมเห็นเจ้าวุธทำหน้าเหมือนจะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินชื่อเคก่อนจะทำหน้าเป็นปกติได้อย่างแนบเนียน
“สวัสดีครับนิด  นี่เหรอเค”
วุธทักนิดก่อนจะหันไปทางเคที่ทำท่าไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นผมคุยกับวุธอย่างสนิทสนม
“ซาระเล่าเรื่องของนายให้ฉันฟังเยอะเลย”
เออ  เอาเข้าไป  ไอ้คนพวกนี้นี่ชอบเปลี่ยนชื่อให้ชาวบ้านจริง ๆ เลย
“ขอบใจนะที่คอยเทคแคร์คู่หมั่นของฉันให้”
เฮ้ย  คู่หมั่นอะไร  ผมทำตาเหลือกหันไปมองวุธ  เจ้าหมอนั้นแอบขยิบตาข้างหนึ่งเป็นสัญญาณให้ผมทำท่าเออออไปด้วย  ผมหันไปมองหน้าเคที่ตอนนี้ทำหน้าช็อคสุด ๆ
“คะ..  คู่หมั่น!”
“ว้าว!  ซากุระมีคู่หมั่นด้วย  รู้จักกันตอนไหนเหรอค่ะ”
ง่ะ  นิด  อย่าทำท่าทางเหมือนเป็นเรื่องสนุกอย่างนั้นสิ
“เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วครับ”
วุธหันไปตอบเธอพร้อมกับเก็กหล่อจนผมต้องใช้ศอกกระทุ้งเข้าให้ก่อนจะหันไปกระซิบเบา ๆ
“อย่าเชียวนะ  นี่ของฉัน”
“เออน่า  รู้แล้ว  แค่ล้อเล่น”
“ล้อได้  แต่อย่าให้มันบ่อย”
“ฉันไม่ยอม!”
อยู่ ๆ เคก็ตะโกนขึ้นมาเลยเอาผมกับวุธสะดุ้ง  คงเป็นเพราะท่าทางสนิทสนมของเราที่เหมือกับคู่รักสวีทกันมันไปกระแทกหัวเคล่ะมั้งถึงได้เกิดคลั่งขึ้นมา
“ไม่ยอมอะไร?”
“ฉันไม่ยอมรับหรอก  ฟังนะซากุระ  ฉันรักเธอ  ถึงเธอจะมีคู่หมั่นอยู่แล้ว  ฉันก็จะทำให้เธอรักฉันและเป็นของฉันให้ได้  ส่วนนาย  ระวังให้ดีเถอะ  ฉันจะแย่งซากุระไปให้ได้”
เคประกาศเสียงกร้าวก่อนจะเดินจะไป  ผม  นิดแล้วก็วุธยืนตะลึงแข็งทื่อไป 21.34 วินาที
“หมอนั่นนี่บ้าดีจริง ๆ  เชื่อเรื่องแบบนั้นได้ไง”
“อ้าวนี่  ตกลงที่บอกว่าเป็นคู่หมั่นกันนี่ล้อเล่นเหรอคะ”
“แน่อยู่แล้ว  ก็เจ้านี่เป็นผู้. อุ๊บ”
ผมปิดปากได้ทันก่อนที่วุธจะพูดมากไปกว่านี้
“คือ  เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก  วุธน่ะไม่เคยเห็นว่าเราเป็นผู้หญิงหรอก  ใช่มัย”
“อือ  อือ  อ๋อยอือ  อายใออายออก  เอว”
“แกพูดอะไร”
“อ๋อยอือ”
วุธเริ่มดิ้น  มือทั้ง 2 ข้างที่พยายามง้างมือผมออกทำให้ผมรู้สึกตัวว่ามือของผมไม่ได้ปิดแค่ปากเท่านั้น  มันปิดถูกจมูกของวุธไปด้วย
“เฮ้อ  เกือบตาย  แกจะฆ่าฉันหรือไง ห๊ะ”
“น่า น่า  คนมันไม่ได้ตั้งใจ”
“คิก คิก  2 คนนี้สนิทกันจัง  พ่อนิดมาแล้ว  ไปก่อนนะ  เสาร์นี้ ซากุระไม่ได้เรียนใช่มัย”
“อืม”
“ถ้าอย่างนั้น  เจอกันวันจันทร์นะ”
นิดโบกมือให้พวกผมก่อนจะวิ่งตรงไปที่รถที่จอดรอเธออยู่  ส่วนผมก็หันไปชวนวุธกลับบ้าน
“แกบอกแม่ฉันยัง”
ผมหันไปถามวุธหลังจากที่เรานั่งรถกันมาได้สักพัก  วันนี้วุธไม่ได้ให้รถที่บ้านมารับ  เราจึงต้องเรียกแท็กซี่กัน  ผมสังเกตเห็นว่าคนขับแท็กซี่แอบมองผมผ่านกระจก  แน่ล่ะ  ผมรู้ว่าทำไม  เพราะผมไม่ได้กระแดะ ดัดจริตทำเสียงแหลมสูงเหมือนตอนอยู่ที่โรงเรียน  เพราะงั้นเสียงของผมตอนนี้ฟังยังไงมันก็เป็นเสียงผู้ชายชัด ๆ ซึ่งมันไม่ได้ไปกับหน้าผมเลย  แต่ผมก็ไม่สนใจเขาหรอก
“แกบอกแม่ฉันยัง”
ผมถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นวุธไม่ตอบผม  แต่เขาก็ยังเงียบ  ผมหันไปมองวุธที่กำลังนั่งหน้าซีดตัวแข็ง  เหงื่อแตกเต็มหน้า  ลืมไปว่ามันเมารถ  ผมสะกิดวุธอย่างเป็นห่วง
“หา?  อ๋อ  ยังไม่ได้บอก”
วุธตอบผมเสียงเรียบ  ใครมาเห็นท่าทางมันตอนนี้คงคิดว่ามันกำลังโกรธใครอยู่แน่  ใบหน้าที่มันจะยิ้มแย้มอยู่ตลอดบูดบึ้ง  คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน 
“บอกเรื่องอะไร?”
เออให้มันได้อย่างนี้สิ  ตอบมาแต่ไม่รู้ว่าถามเรื่องอะไรเนี่ย
“เรื่องที่ฉันจะตัดผม”
“อ๋อ  บอกแล้ว  อันที่จริง  แม่ฉันเป็นคนไปบอก  วันนี้”
“นี่แกเล่าเรื่องฉันให้แม่นายฟังแล้วเหรอ”
“เปล่า  ฉันแค่บอกว่าแกอยากจะตัดผมแต่แม่แกไม่ยอม  ก็แค่นั้น  ส่วนเรื่องแก  ฉันคิดว่าแกน่าจะเป็นคนพูดเอง  เพราะถึงฉันพูดไป  แม่คงไม่เชื่อ  เผลอ ๆ อัดฉันเละอีกที่ไปพูดจาใส่ความแก”
“เอาเถอะ “
“ถึงแล้ว”
วุธจ่ายเงินและลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว  ผมรีบเดินตามวุธที่เดินโซเซเหมือนคนเมาเหล้าเข้าไปในบ้าน
“เดี๋ยวฉันจะไปบอกแม่นะว่านายมาแล้ว”
“อืม”
วุธเดินไปอีกทางหนึ่งส่วนผมก็เดินไปตรงห้องนั่งเล่น  อย่างที่เคยบอกบ้านผมกับบ้านวุธสนิทกันมาก  ก็มาค้างที่บ้านนี้บ่อยมากด้วย  ทำให้ผมรู้จักบ้านหลังนี้เป็นอย่างดีเลยเดินได้เหมือนกับเป็นบ้านของตัวเอง 
“เธอเป็นใคร”
เสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของผม  ชายในชุดสูทสีดำสวมแว่นกันแดดท่าทางโหด ๆ เดินมาอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  อ๊ะ  คนคนนี้เป็นลูกน้องของคุณป้าหนิ (หรือพูดให้ถูกคือลูกน้องของคุณลุง)  ผมรู้จักลูกน้องของคุณป้าเกือบทุกคน  ถ้าผมจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะชื่อ หลาง อะไรเนี่ยแหละ
“ผมเอง ซากุราเอะไงคุณหลาง”
“คุณหนูซาค่อนเป็นผู้ชาย  ถ้าแกคิดจะปลอมตัวก็หันศึกษาข้อมูลให้มันดีกว่านี้หน่อย”
หลางหยิบปืนพกสีดำออกมาจากเสื้อสูทเล็งมาที่ผมอย่างไม่ไว้ใจ
“เอาหล่ะ  ใครส่งแกมา”
แล้วจะให้ผมตอบว่าอะไรล่ะ  สิ่งเดียวที่ผมคิดได้ในตอนนี้คือรีบเผ่นออกจาตรงนี้ให้เร็วที่สุด  เพราะคนของคุณป้าเหมือนกันหมด  เก็บก่อนค่อยถาม  ปกติแล้วที่หลบภัย (คุณป้า) ของผมในบ้านนี้คือห้องของวุธ  แต่งานนี้ผมคงต้องไปที่ห้องทำงานของคุณป้า  หวังว่าป้าแกคงอยู่ในห้องนะ
“หยุดนะ”
เรื่องอะไรจะหยุดให้โง่  แต่พอผมหันกลับไปอีกทีไหงคนที่ไล่ผมอยู่มันเพิ่มขึ้นมาได้ล่ะ  หรือว่าเฮียแกแบ่งตัวได้เหมือนเซลล์ในร่างกายมนุษย์
ปัง
“จ๊าค!!”
ลูกตะกั่วสีเงินพุ่งเฉียดไหล่ผมไปนิดเดียว  ถึงมันจะไม่ฝังหรือพุ่งทะลุตัวผมแต่มันก็ทำให้ไหล่ผมเป็นแผลถาก ๆ  ผมวิ่งเลี้ยวเข้าห้องที่อยู่ตรงหน้า  ห้องทำงานของคุณป้า  ดูเหมือนผมจะโชคดีและโชคร้ายในคราวเดียวกัน  โชคดีคือผมมาถึงที่หมายได้เกือบจะสวัสดิภาพ  และโชคร้ายคือ คุณป้าแกไม่ได้อยู่ในห้อง!
“เอาหล่ะ  เลิกเล่นไล่จับได้แล้ว  บอกมาซะดี ๆ ว่าใครส่งแกมา  แล้วเราจะทำศพให้ดูดีที่สุด”
“เดี๋ยวก่อน  นี่ผมซากุราเอะ  ตัวจริงและก็ไม่ได้ปลอมตัวมาด้วย”
“อย่ามาตอแหลซะให้ยาก  บอกมาซะดี ๆ ว่าใครส่งแกมา”
“จับมันไปซ้อมดีกว่าครับคุณหลาง  ทีนี้จะได้บอกสักทีว่าใครส่งมันมา”
ลูกน้องของหลางอีกทีเสนอความคิดออกมา  หนอยแนะแก  เสนอความคิดได้ดีนักนะ  ถ้าฉันรอดไปได้ล่ะก็  ฉันจะฟ้องคุณป้า  และแล้วผมก็ถูกมัดอยู่กับเก้าอี้แข็ง ๆ ในห้องโล่ง ๆ ห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยเครื่องทรมาณนานับประการ (มันเป็นห้องโล่ง ๆ ตรงไหนฟระ)
“บอกมาซะดี ๆ ว่าใครส่งแกมา”
“ก็บอกแล้วไงว่าผมน่ะคือซากุราเอะ”
“ยังจะมาปากแข็งอีก”
หลางจิกหัวผมขึ้นมาพร้อมกับชกเข้าที่ท้องผมซะหลายที  เล่นเอาซะผมจุก  ลูกน้องตัวดีของหลางเดินเข้ามากระซิบกระซาบกับอะไรซักอย่างกับหลาง  เขาพยักหน้า 2 3 ทีก่อนจะหันมาทางผม
“แกนี่โชคดีจริง ๆ รู้มัย  คุณนายจะมาสอบสวนแกด้วยตัวเองเลยนะ  บอกไว้ก่อนว่าแกตายแน่ ๆ เพราะคุณนายแกใจดีกว่าฉันตั้งเยอะ  เขาไม่ปล่อยให้แกทรมาณนานหรอก”
อันนั้นผมเชื่อ  แต่ไม่ได้เชื่อว่าคุณนายชางแกใจดีหรอกนะ  ผมเชื่อที่ว่าผมตายแน่ ๆ  ร่างสง่างามของหญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาในห้องโดยมีชายชุดดำอีก 2 คนเดินตามมาติด ๆ เธอคือ คุณนายชางนั้นเอง  หลางวิ่งเข้าไปก้มหัวทำความเคารพเธอหนึ่งทีก่อนจะพูดอะไรบางอย่างให้เธอฟังแล้วค่อยพาเธอเดินมาหาผม
“ใครเป็นคนสั่งให้พาเขามาที่นี่!”
“เฮ้อ! ในที่สุดก็หมดไปอีกวัน”
“คิก คิก”
“หัวเราะอะไร?”
ผมหันไปถามนิดขณะที่เดินลงบันไดมาด้วยกันโดยมีเคเดินตามมาห่าง ๆ  วันนี้ทั้งวันผมโดนเคเดินตามเป็นเงาตามตัวไปตลอด  ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน  เคก็จะเดินตามผมห่าง ๆ  ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาเดินกวนใจอยู่ใกล้ ๆ แต่ไอ้การเดินตามอยู่ห่าง ๆ ตลอดทั้งวันอย่างนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกันสักเท่าไหร่ 
“ก็ซากุระน่ะสิ”
“หือ?  ฉันทำไม?”
“บ่นเป็นคนแก่ไปได้”
“ก็คนมันแก่”
“โอ๋ ๆ อย่างอนนะ”
นิดหันมาแหย่ผมที่เริ่มทำหน้างอ  ผมไม่ได้งอนอะไรหรอก  แต่ที่ทำหน้างอเพราะเวลาที่เราได้สวีทกันแบบนี้ดันมีไอ้เคเดินมามาติด ๆ แถมยังจ้องเขม่งซะอีก  สงสัยคงหึงนิด  จะว่าไปแล้วผู้หญิงนี่สนิทกันได้เร็วจริง ๆ ถึงแม้ว่าผมจะพึ่งเข้ากลุ่มได้ไม่นาน  แต่ไม่ว่าจะเป็นนิด  โบว์หรืออัน  กลับพูดคุยกับผมราวกับรู้จักกันมาเป็น 20 ปี (แกพึ่ง 15 เองไม่ใช่เรอะ) ถึงแม้ผมจะไม่ได้ทำตัวสนิทด้วยมากเท่าไหร่ก็เถอะ
“พ่อนิดยังไม่มานี่”
ผมหันไปบอกนิดเมื่อไม่เห็นพ่อของเธออย่างทุกที  จริงสินะ  ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าเคยเห็นพ่อของเธอที่ไหนมาก่อน  แต่ก็ช่างเถอะ  ผมอาจจะจำคนผิดก็ได้
“หือ?  สงสัยจะมาช้า  ซากุระกลับไปก่อนก็ได้  เดี๋ยวนิดรอคนเดียวได้”
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่งซากุระเอง”
เครีบเสนอหันและเสนอตัวเข้ามาทันที  ผมทำหน้าเมื่อก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นใครบางคนในชุดนักเรียนแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำกับเนคไทสีเดียวกับกางเกงเดินเข้ามาในโรงเรียน
“วุธ!”
ผมตะโกนเรียกวุธพร้อมกับโบกมือเรียก  วุธหันมาตามเสียงเรียกก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงมาที่พวกผม
“ไง”
“เดี๋ยวนะ  วุธนี่นิด  และวก็นั่งเค”
ถ้าตาผมไม่ได้ฝาดหรือรู้สึกไปเอง  ผมว่าผมเห็นเจ้าวุธทำหน้าเหมือนจะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินชื่อเคก่อนจะทำหน้าเป็นปกติได้อย่างแนบเนียน
“สวัสดีครับนิด  นี่เหรอเค”
วุธทักนิดก่อนจะหันไปทางเคที่ทำท่าไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นผมคุยกับวุธอย่างสนิทสนม
“ซาระเล่าเรื่องของนายให้ฉันฟังเยอะเลย”
เออ  เอาเข้าไป  ไอ้คนพวกนี้นี่ชอบเปลี่ยนชื่อให้ชาวบ้านจริง ๆ เลย
“ขอบใจนะที่คอยเทคแคร์คู่หมั่นของฉันให้”
เฮ้ย  คู่หมั่นอะไร  ผมทำตาเหลือกหันไปมองวุธ  เจ้าหมอนั้นแอบขยิบตาข้างหนึ่งเป็นสัญญาณให้ผมทำท่าเออออไปด้วย  ผมหันไปมองหน้าเคที่ตอนนี้ทำหน้าช็อคสุด ๆ
“คะ..  คู่หมั่น!”
“ว้าว!  ซากุระมีคู่หมั่นด้วย  รู้จักกันตอนไหนเหรอค่ะ”
ง่ะ  นิด  อย่าทำท่าทางเหมือนเป็นเรื่องสนุกอย่างนั้นสิ
“เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วครับ”
วุธหันไปตอบเธอพร้อมกับเก็กหล่อจนผมต้องใช้ศอกกระทุ้งเข้าให้ก่อนจะหันไปกระซิบเบา ๆ
“อย่าเชียวนะ  นี่ของฉัน”
“เออน่า  รู้แล้ว  แค่ล้อเล่น”
“ล้อได้  แต่อย่าให้มันบ่อย”
“ฉันไม่ยอม!”
อยู่ ๆ เคก็ตะโกนขึ้นมาเลยเอาผมกับวุธสะดุ้ง  คงเป็นเพราะท่าทางสนิทสนมของเราที่เหมือกับคู่รักสวีทกันมันไปกระแทกหัวเคล่ะมั้งถึงได้เกิดคลั่งขึ้นมา
“ไม่ยอมอะไร?”
“ฉันไม่ยอมรับหรอก  ฟังนะซากุระ  ฉันรักเธอ  ถึงเธอจะมีคู่หมั่นอยู่แล้ว  ฉันก็จะทำให้เธอรักฉันและเป็นของฉันให้ได้  ส่วนนาย  ระวังให้ดีเถอะ  ฉันจะแย่งซากุระไปให้ได้”
เคประกาศเสียงกร้าวก่อนจะเดินจะไป  ผม  นิดแล้วก็วุธยืนตะลึงแข็งทื่อไป 21.34 วินาที
“หมอนั่นนี่บ้าดีจริง ๆ  เชื่อเรื่องแบบนั้นได้ไง”
“อ้าวนี่  ตกลงที่บอกว่าเป็นคู่หมั่นกันนี่ล้อเล่นเหรอคะ”
“แน่อยู่แล้ว  ก็เจ้านี่เป็นผู้. อุ๊บ”
ผมปิดปากได้ทันก่อนที่วุธจะพูดมากไปกว่านี้
“คือ  เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก  วุธน่ะไม่เคยเห็นว่าเราเป็นผู้หญิงหรอก  ใช่มัย”
“อือ  อือ  อ๋อยอือ  อายใออายออก  เอว”
“แกพูดอะไร”
“อ๋อยอือ”
วุธเริ่มดิ้น  มือทั้ง 2 ข้างที่พยายามง้างมือผมออกทำให้ผมรู้สึกตัวว่ามือของผมไม่ได้ปิดแค่ปากเท่านั้น  มันปิดถูกจมูกของวุธไปด้วย
“เฮ้อ  เกือบตาย  แกจะฆ่าฉันหรือไง ห๊ะ”
“น่า น่า  คนมันไม่ได้ตั้งใจ”
“คิก คิก  2 คนนี้สนิทกันจัง  พ่อนิดมาแล้ว  ไปก่อนนะ  เสาร์นี้ ซากุระไม่ได้เรียนใช่มัย”
“อืม”
“ถ้าอย่างนั้น  เจอกันวันจันทร์นะ”
นิดโบกมือให้พวกผมก่อนจะวิ่งตรงไปที่รถที่จอดรอเธออยู่  ส่วนผมก็หันไปชวนวุธกลับบ้าน
“แกบอกแม่ฉันยัง”
ผมหันไปถามวุธหลังจากที่เรานั่งรถกันมาได้สักพัก  วันนี้วุธไม่ได้ให้รถที่บ้านมารับ  เราจึงต้องเรียกแท็กซี่กัน  ผมสังเกตเห็นว่าคนขับแท็กซี่แอบมองผมผ่านกระจก  แน่ล่ะ  ผมรู้ว่าทำไม  เพราะผมไม่ได้กระแดะ ดัดจริตทำเสียงแหลมสูงเหมือนตอนอยู่ที่โรงเรียน  เพราะงั้นเสียงของผมตอนนี้ฟังยังไงมันก็เป็นเสียงผู้ชายชัด ๆ ซึ่งมันไม่ได้ไปกับหน้าผมเลย  แต่ผมก็ไม่สนใจเขาหรอก
“แกบอกแม่ฉันยัง”
ผมถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นวุธไม่ตอบผม  แต่เขาก็ยังเงียบ  ผมหันไปมองวุธที่กำลังนั่งหน้าซีดตัวแข็ง  เหงื่อแตกเต็มหน้า  ลืมไปว่ามันเมารถ  ผมสะกิดวุธอย่างเป็นห่วง
“หา?  อ๋อ  ยังไม่ได้บอก”
วุธตอบผมเสียงเรียบ  ใครมาเห็นท่าทางมันตอนนี้คงคิดว่ามันกำลังโกรธใครอยู่แน่  ใบหน้าที่มันจะยิ้มแย้มอยู่ตลอดบูดบึ้ง  คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน 
“บอกเรื่องอะไร?”
เออให้มันได้อย่างนี้สิ  ตอบมาแต่ไม่รู้ว่าถามเรื่องอะไรเนี่ย
“เรื่องที่ฉันจะตัดผม”
“อ๋อ  บอกแล้ว  อันที่จริง  แม่ฉันเป็นคนไปบอก  วันนี้”
“นี่แกเล่าเรื่องฉันให้แม่นายฟังแล้วเหรอ”
“เปล่า  ฉันแค่บอกว่าแกอยากจะตัดผมแต่แม่แกไม่ยอม  ก็แค่นั้น  ส่วนเรื่องแก  ฉันคิดว่าแกน่าจะเป็นคนพูดเอง  เพราะถึงฉันพูดไป  แม่คงไม่เชื่อ  เผลอ ๆ อัดฉันเละอีกที่ไปพูดจาใส่ความแก”
“เอาเถอะ “
“ถึงแล้ว”
วุธจ่ายเงินและลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว  ผมรีบเดินตามวุธที่เดินโซเซเหมือนคนเมาเหล้าเข้าไปในบ้าน
“เดี๋ยวฉันจะไปบอกแม่นะว่านายมาแล้ว”
“อืม”
วุธเดินไปอีกทางหนึ่งส่วนผมก็เดินไปตรงห้องนั่งเล่น  อย่างที่เคยบอกบ้านผมกับบ้านวุธสนิทกันมาก  ก็มาค้างที่บ้านนี้บ่อยมากด้วย  ทำให้ผมรู้จักบ้านหลังนี้เป็นอย่างดีเลยเดินได้เหมือนกับเป็นบ้านของตัวเอง 
“เธอเป็นใคร”
เสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของผม  ชายในชุดสูทสีดำสวมแว่นกันแดดท่าทางโหด ๆ เดินมาอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  อ๊ะ  คนคนนี้เป็นลูกน้องของคุณป้าหนิ (หรือพูดให้ถูกคือลูกน้องของคุณลุง)  ผมรู้จักลูกน้องของคุณป้าเกือบทุกคน  ถ้าผมจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะชื่อ หลาง อะไรเนี่ยแหละ
“ผมเอง ซากุราเอะไงคุณหลาง”
“คุณหนูซาค่อนเป็นผู้ชาย  ถ้าแกคิดจะปลอมตัวก็หันศึกษาข้อมูลให้มันดีกว่านี้หน่อย”
หลางหยิบปืนพกสีดำออกมาจากเสื้อสูทเล็งมาที่ผมอย่างไม่ไว้ใจ
“เอาหล่ะ  ใครส่งแกมา”
แล้วจะให้ผมตอบว่าอะไรล่ะ  สิ่งเดียวที่ผมคิดได้ในตอนนี้คือรีบเผ่นออกจาตรงนี้ให้เร็วที่สุด  เพราะคนของคุณป้าเหมือนกันหมด  เก็บก่อนค่อยถาม  ปกติแล้วที่หลบภัย (คุณป้า) ของผมในบ้านนี้คือห้องของวุธ  แต่งานนี้ผมคงต้องไปที่ห้องทำงานของคุณป้า  หวังว่าป้าแกคงอยู่ในห้องนะ
“หยุดนะ”
เรื่องอะไรจะหยุดให้โง่  แต่พอผมหันกลับไปอีกทีไหงคนที่ไล่ผมอยู่มันเพิ่มขึ้นมาได้ล่ะ  หรือว่าเฮียแกแบ่งตัวได้เหมือนเซลล์ในร่างกายมนุษย์
ปัง
“จ๊าค!!”
ลูกตะกั่วสีเงินพุ่งเฉียดไหล่ผมไปนิดเดียว  ถึงมันจะไม่ฝังหรือพุ่งทะลุตัวผมแต่มันก็ทำให้ไหล่ผมเป็นแผลถาก ๆ  ผมวิ่งเลี้ยวเข้าห้องที่อยู่ตรงหน้า  ห้องทำงานของคุณป้า  ดูเหมือนผมจะโชคดีและโชคร้ายในคราวเดียวกัน  โชคดีคือผมมาถึงที่หมายได้เกือบจะสวัสดิภาพ  และโชคร้ายคือ คุณป้าแกไม่ได้อยู่ในห้อง!
“เอาหล่ะ  เลิกเล่นไล่จับได้แล้ว  บอกมาซะดี ๆ ว่าใครส่งแกมา  แล้วเราจะทำศพให้ดูดีที่สุด”
“เดี๋ยวก่อน  นี่ผมซากุราเอะ  ตัวจริงและก็ไม่ได้ปลอมตัวมาด้วย”
“อย่ามาตอแหลซะให้ยาก  บอกมาซะดี ๆ ว่าใครส่งแกมา”
“จับมันไปซ้อมดีกว่าครับคุณหลาง  ทีนี้จะได้บอกสักทีว่าใครส่งมันมา”
ลูกน้องของหลางอีกทีเสนอความคิดออกมา  หนอยแนะแก  เสนอความคิดได้ดีนักนะ  ถ้าฉันรอดไปได้ล่ะก็  ฉันจะฟ้องคุณป้า  และแล้วผมก็ถูกมัดอยู่กับเก้าอี้แข็ง ๆ ในห้องโล่ง ๆ ห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยเครื่องทรมาณนานับประการ (มันเป็นห้องโล่ง ๆ ตรงไหนฟระ)
“บอกมาซะดี ๆ ว่าใครส่งแกมา”
“ก็บอกแล้วไงว่าผมน่ะคือซากุราเอะ”
“ยังจะมาปากแข็งอีก”
หลางจิกหัวผมขึ้นมาพร้อมกับชกเข้าที่ท้องผมซะหลายที  เล่นเอาซะผมจุก  ลูกน้องตัวดีของหลางเดินเข้ามากระซิบกระซาบกับอะไรซักอย่างกับหลาง  เขาพยักหน้า 2 3 ทีก่อนจะหันมาทางผม
“แกนี่โชคดีจริง ๆ รู้มัย  คุณนายจะมาสอบสวนแกด้วยตัวเองเลยนะ  บอกไว้ก่อนว่าแกตายแน่ ๆ เพราะคุณนายแกใจดีกว่าฉันตั้งเยอะ  เขาไม่ปล่อยให้แกทรมาณนานหรอก”
อันนั้นผมเชื่อ  แต่ไม่ได้เชื่อว่าคุณนายชางแกใจดีหรอกนะ  ผมเชื่อที่ว่าผมตายแน่ ๆ  ร่างสง่างามของหญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาในห้องโดยมีชายชุดดำอีก 2 คนเดินตามมาติด ๆ เธอคือ คุณนายชางนั้นเอง  หลางวิ่งเข้าไปก้มหัวทำความเคารพเธอหนึ่งทีก่อนจะพูดอะไรบางอย่างให้เธอฟังแล้วค่อยพาเธอเดินมาหาผม
“ใครเป็นคนสั่งให้พาเขามาที่นี่!”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น