ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้าชื่อ......ซากุราเอะ

    ลำดับตอนที่ #11 : งานโรงเรียน

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 49


    งานโรงเรียน



    เช้าวันจันทร์ผมก็มานั่งอยู่จุ้มปุ๊กอยู่ที่โต๊ะในห้องเรียน  โชคดีที่พลังคนหนุ่มสาวทำให้รอยช้ำบนหน้าผมจางหายไปอย่างรวดเร็ว  อาจจะเหลือร่อยรอยอยู่อีกนิดหน่อยแต่ด้วยการช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณนายชางบวกกับเครื่องสำอางอีกที่ละเลงอยู่บนหน้าผมอีกนิดหน่อยรอยพวกนั้นก็เลือนหายไปราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่  ดูเหมือนทรงผมของผมจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของใครหลายคนยกเว้นแต่มารชีวิตของผม



    “ซากุระจาง~  ผมของเธอ!”



    นั่นไง  เสียงโหยหวนเหมือนคว-ายออกลูก  ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าเคที่ผู้อ่านหลาย ๆ คนแอบคิดถึงกัน  แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน



    “ตัดทำไม  ผมยาวออกจะสวยน่ารักขนาดนั้น”



    “ชอบเหรอ  ผมยาวนะ”



    “ชอบสิ  ชอบมากด้วย”



    “งั้นก็ดีแล้วล่ะที่ตัด”



    เคอ้าปากค้าง  มีใครเคยบอกมันมั้ยเนี่ยว่าทำแบบนี้แล้วดูทุ เรศมาก



    “ซากุระไปตัดผมมาเหรอ”



    เสียงนิดดังมาจากข้างหลังผม  ถึงคำถามจะบื้อไปหน่อยเพราะก็เห็น ๆ อยู่ว่าผมของผมถูกตัดมาแล้วยังจะถามอีกแต่ถ้าเป็นนิด  ต่อให้คำถามงี่เง่ากว่านี้ผมก็รับได้



    “อืม  รำคาญน่ะ เลยไปตัด”



    “น่าเสียดายออก  ผมยาวขนาดนั้น  แถมผมสวยด้วย”



    “เดี๋ยวมันก็ยาวใหม่ได้น่า  นี่แกไปห่าง ๆ ได้มั้ย”



    ผมหันไปแว๊ดใส่เคที่เริ่มมาเกาะแกะอยู่ข้างหลังผม



    “หง่ะ  เธออย่าพูดแบบนี้สิ  มันทำร้ายจิตใจอันแสนจะบอบบางของฉันนะ”



    เอามันเข้าไป  เคทำท่าเหมือนคำพูดของผมไปเสียดแทงมันจนโอเว่อร์  มอง ๆ ไปแล้วอยากจะยกเท้าขึ้นมากระทืบหน้ากวน ๆ ของมันซะจริง



    “วันก่อนนั้นเธอก็ทำร้ายฉันไปที่  แล้ววันนี้อีก”



    “ฉันไปทำอะไรให้นายอีกล่ะ”



    “ก็ความสวยของเธอไง เอ๊ย ไม่ใช่  ที่เธอมีคู่หมั่นไง”



    “ไปไกล ๆ เลยไป๊!”



    “โอ๊ย!”



    เคบิดไปมาเหมือนผีโดนน้ำมนต์ราด  มือข้างหนึ่งก็กุมหน้าอกข้างซ้าย  ส่วนอีกข้างชูขึ้นเหมือนขอความช่วยเหลือ



    “อย่าไล่กันอย่างนี้สิมันทำร้ายจิตใจดวงน้อย ๆ ของฉันนะ”



    “ไป  ไปเลย  ไปไกล ๆ เลยไป๊! ชิ้ว ๆ ไป๊! ชิ้ว ๆ”



    “อ๊าคคคคคค!”



    คราวนี้เคมันลงไปนอนดิ้นกับพื้นห้องเหมือนหมาถูกวางยาเบื่อแล้วลงไปนอนชักกับพื้น  ตกลงว่าผมกำลังเล่นอะไรกับมันอยู่ล่ะเนี่ย ( - -“)



    ....................................................................................................................................................



    “อกหักเหรอ?”



    “หา?!”



    ผมมองไปรอบ ๆ ตัวผมเพื่อดูตรวจสอบว่าคำถามนั้นเป็นของผมแน่ ๆ



    “ไม่ต้องหาหรอก  ฉันถามแกน่ะ”



    ดีจริง ๆ เลย  ผมพึ่งรู้นะเนี่ยว่าคนเราเขาทักทายกันด้วยคำถามแบบนี้  พอปล่อยพักปุ๊บ  ผมกับนิดก็รีบดิ่งมาที่ฐานลับของเราหรือสนามเล็ก ๆ ที่นิดเคยพาผมมาในวันแรกที่ผมเข้าเรียนที่นี่  ทันทีที่ยัยอันเห็นหน้าผม  เธอก็ถามผมแบบที่พวกคุณอ่านไปข้างบนน่ะแหละ  จริงสิ  แล้วโบว์ล่ะ  ผมไม่เห็นเธอเลย  เห็นแต่อันนั่งอยู่คนเดียว  ปกติ 2 คนนี้ตัวติดกันเป็นหมากฝรั่งติดเสื้อ  ไหงวันนี้ฉายเดี่ยวได้ล่ะ



    “แล้วโบว์ล่ะ?”



    “นี่  อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ  โบว์ไปซื้อน้ำเดี๋ยวมา  ตกลงว่าอกหักใช่ป่ะ”



    “เปล่า  รำคาญเลยตัด”



    ผมตอบพร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ นิดที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือของอัน  ซึ่งตำแหน่งที่ผมนั่งอยู่ตรงข้ามกับอันพอดี  เว้นที่ไว้ให้โบว์นั่งทางซ้ายมือต่อจากผม ถ้าเธอมา พูดคือเรานั่งล้อมวงกันน่ะแหละ (อธิบายให้งงเล่นเฉย ๆ)



    “อย่างงี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ”



    อันแสดงสีหน้าผิดหวังสุด ๆ ที่ผมไม่ได้ตัดผมเพราะอกหัก  มันสนุกตรงไหนฟระ



    “น้ำมาแล้วจ้า”



    โบว์ถือขวดน้ำเปล่าพร้อมหลอดและน้ำแข็งเปล่า 2 แก้วมานั่งข้าง ๆ ผม



    “อ้าว  อกหักมาเหรอซากุระจัง”



    ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมยัย 2 คนนี้ถึงเป็นเพื่อนกันได้ ( - -“)



    “เปล่า  รำคาญเลยตัด  ซื้ออะไรมากิน”



    ผมพึ่งสังเกตว่าตรงหน้าผมมีถุงของกินอยู่ถุงหนึ่ง



    “เปล่า  เอามาจากบ้าน  มีแยมสตอเบอรี่  เนย  นมข้น”



    “แล้วขนมปังล่ะ”



    ผมถามอันที่เป็นเจ้าของถุงเพราะพอค้นดูแล้วเจอแต่ขวดแยม เนยกับนมข้นอย่างเดียว



    “หือ?  เอามาทำไม?”



    “อ้าว  ก็เอามาทากับไอ้พวกนี้ไง”



    ผมชี้ไปที่ของในถุง



    “ใครบอกว่าฉันจะเอามากินกับขนมปัง”



    “หรือว่าเธอจะกินพวกนี้เปล่า ๆ “



    “บ้าสิ  ใครเขาจะกินกันเปล่า ๆ  ฉันเอามากินกับไอ้นี่ตะหาก”



    อันหยิบถ้วยสีขาวเล็ก ๆ ที่วางอยู่ใกล้ ๆ ถุงขึ้นมาตรงหน้าผม



    “ถ้วย?”



    “ก็ถ้วยน่ะสิ  โบว์”



    โบว์เทน้ำแข็งลงชามใบนั้นทันทีที่อันเรียกสมกับที่เป็นคนรู้ใจกัน  พูดคำเดียวก็รู้เรื่อง



    “ฉันจะกินกับไอ้นี้”



    ว่าแล้วคุณเธอก็จัดการควักเนยและแยมจากกระปุกแก้วใส่ลงไปและราดตามด้วยนมขนจนชุ่มกลบเอาแยมและนมข้นที่ใส่ลงไปก่อนหน้านี้หายไปหมด



    “น้ำแข็งเนี้ยนะ!?”



    “เห็นเป็นพิซซ่าหรือไงล่ะ  ก็น้ำแข็งน่ะสิ  รู้จักป่ะน้ำแข็งอ่ะ”



    เอามันเข้าไป  หวานตายชัก  กินเข้าไปได้ไงวะยัยนี่



    “กินป่ะ?”



    อันยื่นถ้วยน้ำแข็งเวอร์ชั่นพิศดารของเธอมาให้ผม  อันที่จริงจะเรียกเป็นน้ำแข็งไสคงไม่ได้  เพราะน้ำแข็งที่เธอใช้เป็นน้ำแข็งหลอด ( - -“ )



    “ไม่ล่ะ  เราไม่ชอบของ (โคตร) หวาน  แล้วนิดล่ะกินอะไร”



    ผมหันไปถามนิดที่นั่งเงียบแบบไม่มีตัวตนมานาน  พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ไปสนใจกับคนตรงหน้าผม



    “...”



    “หลับ!?”



    รู้แล้วว่าทำไมเธอถึงเงียบ  นิดนั่งพับเพียบทำความเคารพอากาศอย่างเรียบร้อยทั้ง ๆ ที่มือกำลังแกะซองขนมปัง (ที่ไม่รู้ว่าไปเสกมาจากไหน)  นี้ถ้าผมคบกับคนพวกนี้ไปเรื่อย ๆ ผมจะประหลาดตามไปด้วยมั้นเนี่ย  แค่ตอนนี้ผมก็แปลกมากเกินอยู่แล้ว



    “นิด นิด”



    “อย่าไปปลุกเลย”



    “ช่วงนี้นิดคงเหนื่อย”



    “นั่นสิ  ก็รับตั้งหลายงาน”



    ยัยโบว์ กับยัยอันเริ่มสร้างโลกส่วนตัว  พูดกันรู้เรื่องแค่ 2 คน



    “งานไร?”



    “อ๋อ  ลืมไปว่าซากุเพิ่มเข้ามา  เลยไม่รู้เรื่อง  เล่าดิ้โบว์”



    “คือว่า  อาทิตย์หน้าจะมีงานนิทรรศการ  แล้วทุก ๆ ห้องจะต้องมีการแสดงหรือจัดกิจกรรม  จะเป็นพวกร้านค้า  บ้านผีสิง  หรือไม่ก็โชว์ผลงานของห้องอะไรพวกเนี้ย  ห้องเราจะโชว์ผมงานของนักเรียนเพราะมันง่ายดี  ส่วนห้องเธอรู้สึกว่าจะเป็นแสดงละครล่ะมั้ง  เพราะว่านิดเป็นคนเขียนบทละครและก็เลือกตัวแสดงเอง”





    “รู้สึกว่าจะมีปัญหาเรื่องบท  นิดเลยต้องแก้แล้ว  แก้อีก  เรื่องมากชะมัด  ทำไมไม่เขียนเองไปเลยว่ะ!”



    อ้าวเฮ้ย  อย่ามาลงที่ผมเสะ  ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยนะเฟ้ย



    “แล้วเขาเลือกตัวแสดงไปแล้วเหรอ  ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย”



    “คิดว่านะ  เห็นว่าต้องแสดงทั้งห้อง  แต่ซากุระจังเพิ่งเข้ามาคงไม่เกี่ยว”



    “เชื่อสิ  เดี๋ยวเฮียศักแกก็หาเรื่องให้เกี่ยวได้อยู่ดี”



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×