ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ทรงผมใหม่
ทรงผมใหม่
“เอาล่ะ  ว่าไงจ๊ะ  ใครจะเป็นคนแรก”
ดวงตาที่เปร่งประกายไปด้วยกากเพชรสีชมพูไล่มองไปที่พวกเราสองคน
“เออ..  ผมเองอ่ะ”
ผมยกมือขึ้นตอบอย่างลืมตัว
“เฮ้ย  แกจะยกมือขึ้นทำไมวะ”
“เย้ย  ลืมตัว  นึกว่าตอบคำถามครูที่โรงเรียน  มันได้อารมณ์สยองเหมือนกันนีหว่า”
ผมหันไปกระซิบกับวุธ
“นี่ตกลงกันเสร็จยังยะ  แซนดี้เริ่มเมื่อยแล้วนะ”
แซนดี้ท้าวเอวพร้อมกับเชิดขึ้นอย่างที่คนปกติทำแล้วดูน่ารัก  หากแต่พอเขาหรือเธอทำแล้วกลับดูทุเร-ศมากกว่า
“ตกลงเธอก่อนใช่มั้ย”
“เออ  ครับ  ผมก่อน”
“เออ  สุดหล่อจ๊ะ  ช่วยให้คนเอาผ้ามารองที่พื้น  แล้วก็เก้าอี้มาตัวหนึ่งทีสิจ๊ะ”
แซนดี้หันไปสั่งวุธด้วยท่าทีผิดจากที่ผ่านมา  ผมคิดว่าถ้าเธอทำตัวแบบนี้ไปตลอดได้ก็คงดี  เพราะมันดูเป็นผู้เป็นคนที่สุดแล้วตั้งแต่ที่ผมเจอเธอมา  วุธพยักหน้าก่อนจะปรบมือ 2 ครั้ง
“ได้ยินแล้วใช่มั้ย  จัดการซิ”
วุธตะโกนไปที่ประตูห้อง  เพียงเวลาไม่กี่นาทีพื้นห้องที่เคยว่างเปล่าก็มีพรมสีครีมปูอยู่  บนพรมมีเก้าอี้นวมสีดำอย่างดีตั้งไว้  ผมมองกระบวนการขนย้ายแล้วรู้สึกปวดหัวยังไงไม่ถูก  ตกลงว่าผมมาตัดผมหรือมานั่งบัญชาการการรบหรือไงเนี่ย
“เอาล่ะ  ไปนั่งที่เก้าอี้นั่นสิจ๊ะ”
“อะ  ครับ”
ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้อย่างเขิน ๆ (เขินทำไมฟระ?)  แซนดี้หยิบเอาผ้าคลุมสีขาวผืนใหญ่ขึ้นมาจากกระเป๋าหนังสีชมพูอ่อนที่วางอยู่บนโซฟาในห้อง  เขาหรือเธอสะบัดผ้าคลุม 2 3 ทีก่อนจะเอามาคลุมตัวผม
“จะตัดทรงไหนเอ่ย”
“เอาลองทรงก็ได้ครับ”
“ลองทรงเลยหรือ  ว้า~  เสียดายผมแทนจัง  ออกจะยาวสวยขนาดนี้”
หวา  อย่าเอามือมาลูบแถว ๆ ต้นคอผมสิ  มันสยองนะเฟ้ย
“เออ  แซนดี้ครับ”
“อะไรจ๊ะ”
แซนดี้ตอบกลับขณะที่ก้มลงค้นกระเป๋าตัวเองโดยไม่หันมามองผมก่อนจะหยิบหวีกับกรรไกรออกมา
“คือว่าแซนดี้มีวิกผมยาวสีเดียวกับสีผมของผมมั้ยฮะ”
“หือ?  เอาไปทำไมจ๊ะ”
“คือว่าแม่ของผมอยากให้ผมไว้ผมยาว  แต่ว่ามันผิดระเบียบ  ผมก็เลยว่าจะใส่วิกแทนน่ะฮะ”
ผมโกหกออกมา  รู้สึกว่าตั้งแต่ผมโดนรถชนมานี่ผมตอแหลเก่งขึ้นเยอะเลยแฮะ
“ต๊าย~  ทำอย่างนั้นไม่ได้นะจ๊ะ”
อยู่ ๆ แซนดีก็ร้องเสียงหลงเหมือนคว-ายออกลูกขึ้นมา  แอ๊ะ  หรือว่าผีโดนน้ำมนต์ก็ไม่รู้เพราะผมก็ไม่เคยได้ยินเสียงของทั้ง 2 อย่างนี้เหมือนกัน
“ทะ..  ทำไมหรือครับ”
“รู้มัยจ๊ะ  การใส่วิกนาน ๆ จะทำให้เกิดการอับชื้น  แล้วผู้ชายน่ะนะ  ถ้าปล่อยหัวอับชื้นนาน ๆ ล่ะก็..”
“ล่ะก็..?”
ผมเผลอลุ้นกับแซนดี้ที่อธิบายด้วยท่าทางที่เหมือนกับกำลังเล่าเรื่องผีมากกว่าอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ให้ใส่วิกผม
“หัวก็จะล้านน่ะสิ!!”
“เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ”
“ตายแล้ว  มันเป็นเรื่องใหญ่มากนะจ๊ะ  ผู้ชายหัวล้านน่ะ  น่าเกลียดจะตาย  ยิ่งเป็นเธอแล้วคงดูไม่จืดแน่”
“เฮ้ ๆ หมายความว่าไงห๊ะป้า”
“ต๊าย  ปากเสีย  แต่จะบอกให้ก็ได้  ก็เธอน่ะ  หน้าตาสวยเหมือนผู้หญิงซะขนาดนี้  ถ้าหัวล้านขึ้นมาคงแย่”
อ้า  นั่นสินะ  ผมพอจะนึกภาพออกขึ้นมาหน่อย ๆ ไม่ใช่น่าเกลียดหรอก  แต่มันคงอุบาทเลยล่ะ  คงต้องขอบคุณแซนดี้ที่ช่วยเตือนผมหน่อยแล้ว
“พูดถึงหน้าตาแล้ว  โชคดีจริง ๆ เลยที่เธอไม่ได้เป็นเหมือนแซนดี้  ไม่งั้นแซนดี้คงต้องแต่แน่ ๆ เลย  ก็เธอน่ะสวยซะขนาดนี้”
เอาล่ะ  ผมขอถอนคำพูดเรื่องที่จะขอบคุณแล้วล่ะ
“แล้วจะให้ผมทำยังไง”
“อยากได้ผมสั้นใช่มั้ย”
“อืม  เอาที่มันดูเป็นผู้ชาย ๆ น่ะ”
“ได้เลย  เดี๋ยวแซนดี้บริการพิเศษช่วยออกแบบทรงผมให้เอง”
ว่าแล้วแซนดี้ก็หยิบเอาสเปรย์  ไดร์เป่าผม  หวีซอยออกมาจากกระเป๋าใบเดิมก่อนจะลงมือตัดผมให้ผม (มันเป็นกระเป๋า 4 มิติหรือไงวะ) สุดท้ายผมของผมจากที่ยาวถึงหลังก็ถูกซอยจนเหลือประต้นคอแค่พอมัดได้  มอง ๆ ไปเหมือนทรงผมของตัวการ์ตูนที่ชื่อเนกิมะยังไงอย่างนั้น
“เรียบร้อยแล้ว  อ้า~  หล่อเริ่ด”
“เออ..  ผมขอกระจกหน่อยได้มั้ย”
“นี่จ๊ะ”
แซนดี้หยิบเอากระจกบานใหญ่เกือบเท่าหน้าผมออกมาจากกระเป๋าสารพัสนึกของเขาหรือเธอ (อีกแล้ว) ผมรับเอากระจกมาส่องตัวเอง  มันก็ยังดูเหมือนผู้หญิงอยู่ดีน่ะแหละ  แต่อย่างน้อยก็ดูเป็นผู้ชายกว่าเดิมมานิด  ไม่น่าเชื่อว่าแค่ตัดผมก็สามารถทำให้ใบหน้าคนดูเปลี่ยนไปได้  ผมส่งกระจกคืนแซนดี้หลังจากที่ส่องจนพอใจแล้ว
“นายจะตัดป่ะ  ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว”
ผมหันไปถามวุธเพื่อโดนมันด่ากลับมา
“ไอ้บ้า  หัวฉันเกรียนซะขนาดนี้แล้วยังจะให้ตัดอะไรอีกว่ะ  จะให้โกนหัวเลยหรือไง”
วุธพูดหร้อมกับชี้ไปที่ศีรษะที่โล่งเกรียนตามแบบฉบับร.ด.  ผมลืมไปเลยว่าผมของมันสั้นอยู่แล้ว
“ถ้าอยากโกนก็เชิญ”
โป๊ก!
“โกนมะเหงกแกดิ”
“มันเจ็บนะโว้ย  เขกมาได้  หัวคนนะไม่ใช่กะละมังถึงได้มาเขกกันแบบนี้น่ะ”
“ก็เพราะเป็นหัวคนน่ะสิถึงได้เขก  ถ้าหัวแกเป็นกะละมังล่ะก็ฉันใช้ฆ้อนทุบไปแล้ว”
อ้า  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเป็นลูกใคร  ผมว่ามันได้นิสัยโหด ๆ มาจากแม่มันเต็ม ๆ
“แซนดี้ครับ”
“อะไรจ๊ะ?”
ผมหันไปมองแซนดี้ที่กำลังยัดของลงกระเป๋า
“ขอบคุณนะครับ”
“ต๊าย~  น่ารัก  รู้จักขอบคุณด้วย  งั้นแซนดี้ไปก่อนนะจ๊ะ”
แซนดี้ยกกระเป๋าของตัวเองเดินนำออกจากห้องไปโดยมาผมและวุธเดินตามไปส่งที่หน้าประตูบ้าน
“อ๊ะ!  เกือบลืม”
“ลืมอะไร  เดี๋ยวผมจะให้คนไปเอาให้”
“ไม่ใช่ ๆ แซนดี้ไม่ได้ลืมของ”
แซนดี้ร้องห้ามวุธที่ทำท่าจะหันไปเรียกลูกน้องในชุดดำแถว ๆ นั้น
“อ้าว?  แล้วลืมอะ.....”
จุ๊บ
“เฮ้ย!”
“แล้วไว้มาใช้บริการแซนดี้ใหม่นะคะ  โฮ๊ะ  โฮ๊ะ โฮ๊ะ”
“อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค!”
ไอ้วุธร้องเสียงดังลั่นเล่นเอาผมปิดหูไม่ทัน  แต่ถ้าเป็นผม  ผมก็ร้องเหมือนกันล่ะนะ  ก็ยัยกระเทยแมนนี่เล่นจูบมาเต็ม ๆ ปากไอ้วุธก่อนจะเดินหน้าบานเป็นใบบัววิกตอเรียไปขึ้นรถสีแสบตาของตัวเองที่จอดไว้แล้วขับตะบึงแบบไม่ทิ้งฝุ่นออกไปอย่างรวดเร็ว  ผมยังรู้สึกถึงเสียงหัวเราะอันหน้าสยดสยองของแซนดี้ล่องลอยมาตามสายลม
“วุธ  วุธ  ไอ้วุธ”
ผมหันไปเขย่าตัววุธแรง ๆ แต่มันยังคงยืนนิ่งตาค้างเพราะช๊อคอย่างแรงที่โดนกระเทยจูบปาก
“ใครก็ได้  ใครอยู่แถวนี้  มาช่วยด่วน  ไอ้วุธแย่แล้ว!”
ผมแหกปากตะโกนเรียกให้คนมาช่วย  ก่อนที่จะมีใครมาช่วยหามวุธเข้าห้อง มันก็คว้าเอาแขนเสื้อผมมากำแน่นพร้อมกับพูดเสียงสั่น ๆ
“จะ..  จูบแรกของฉัน...  จูบแรกของฉัน  ฉันจูบกับกระเทย!”
“เอ่อ  ฉันเห็น  เสียใจด้วยว่ะเพื่อน  แล้วฉันจะให้คนไปซื้อแอลกอฮอร์มาล้างปากให้”
“ขอโทษครับคุณหนู  เกิดอะไรขึ้นครับ”
ชายชุดดำ 2 3 คนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาถามอย่างตกใจกับสภาพของวุธ
“ไม่มีอะไร  ไอ้วุธมันถูก อุ๊บ!”
วุธเอื้อมมือมาปิดปากผมก่อนที่ผมจะพูดจบ
“อย่าพูดอะไรทั้งนั้น  โอ้พระเจ้า  ชีวิตลูกจบแล้ว”
“เอ่อคือ...”
“ไม่มีอะไร  ตอนนี้ช่วยพาไอ้วุธเข้าบานก่อน”
“ได้ครับ”
“อ่อ  แล้วก็ให้ใครก็ได้ไปซื้อแอลกอฮอร์มาขวดหนึ่ง  เอาขวดใหญ่เลยนะ  ไม่สิ  เอามา 2 ขวดเลย”
เอาเครื่องไปทำใหม่มาฮะ  เครื่องผมโปรแกรมไมโครซอฟร์มีปัญหา  ข้อมูลหายเกลี้ยง TT-TT
“เอาล่ะ  ว่าไงจ๊ะ  ใครจะเป็นคนแรก”
ดวงตาที่เปร่งประกายไปด้วยกากเพชรสีชมพูไล่มองไปที่พวกเราสองคน
“เออ..  ผมเองอ่ะ”
ผมยกมือขึ้นตอบอย่างลืมตัว
“เฮ้ย  แกจะยกมือขึ้นทำไมวะ”
“เย้ย  ลืมตัว  นึกว่าตอบคำถามครูที่โรงเรียน  มันได้อารมณ์สยองเหมือนกันนีหว่า”
ผมหันไปกระซิบกับวุธ
“นี่ตกลงกันเสร็จยังยะ  แซนดี้เริ่มเมื่อยแล้วนะ”
แซนดี้ท้าวเอวพร้อมกับเชิดขึ้นอย่างที่คนปกติทำแล้วดูน่ารัก  หากแต่พอเขาหรือเธอทำแล้วกลับดูทุเร-ศมากกว่า
“ตกลงเธอก่อนใช่มั้ย”
“เออ  ครับ  ผมก่อน”
“เออ  สุดหล่อจ๊ะ  ช่วยให้คนเอาผ้ามารองที่พื้น  แล้วก็เก้าอี้มาตัวหนึ่งทีสิจ๊ะ”
แซนดี้หันไปสั่งวุธด้วยท่าทีผิดจากที่ผ่านมา  ผมคิดว่าถ้าเธอทำตัวแบบนี้ไปตลอดได้ก็คงดี  เพราะมันดูเป็นผู้เป็นคนที่สุดแล้วตั้งแต่ที่ผมเจอเธอมา  วุธพยักหน้าก่อนจะปรบมือ 2 ครั้ง
“ได้ยินแล้วใช่มั้ย  จัดการซิ”
วุธตะโกนไปที่ประตูห้อง  เพียงเวลาไม่กี่นาทีพื้นห้องที่เคยว่างเปล่าก็มีพรมสีครีมปูอยู่  บนพรมมีเก้าอี้นวมสีดำอย่างดีตั้งไว้  ผมมองกระบวนการขนย้ายแล้วรู้สึกปวดหัวยังไงไม่ถูก  ตกลงว่าผมมาตัดผมหรือมานั่งบัญชาการการรบหรือไงเนี่ย
“เอาล่ะ  ไปนั่งที่เก้าอี้นั่นสิจ๊ะ”
“อะ  ครับ”
ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้อย่างเขิน ๆ (เขินทำไมฟระ?)  แซนดี้หยิบเอาผ้าคลุมสีขาวผืนใหญ่ขึ้นมาจากกระเป๋าหนังสีชมพูอ่อนที่วางอยู่บนโซฟาในห้อง  เขาหรือเธอสะบัดผ้าคลุม 2 3 ทีก่อนจะเอามาคลุมตัวผม
“จะตัดทรงไหนเอ่ย”
“เอาลองทรงก็ได้ครับ”
“ลองทรงเลยหรือ  ว้า~  เสียดายผมแทนจัง  ออกจะยาวสวยขนาดนี้”
หวา  อย่าเอามือมาลูบแถว ๆ ต้นคอผมสิ  มันสยองนะเฟ้ย
“เออ  แซนดี้ครับ”
“อะไรจ๊ะ”
แซนดี้ตอบกลับขณะที่ก้มลงค้นกระเป๋าตัวเองโดยไม่หันมามองผมก่อนจะหยิบหวีกับกรรไกรออกมา
“คือว่าแซนดี้มีวิกผมยาวสีเดียวกับสีผมของผมมั้ยฮะ”
“หือ?  เอาไปทำไมจ๊ะ”
“คือว่าแม่ของผมอยากให้ผมไว้ผมยาว  แต่ว่ามันผิดระเบียบ  ผมก็เลยว่าจะใส่วิกแทนน่ะฮะ”
ผมโกหกออกมา  รู้สึกว่าตั้งแต่ผมโดนรถชนมานี่ผมตอแหลเก่งขึ้นเยอะเลยแฮะ
“ต๊าย~  ทำอย่างนั้นไม่ได้นะจ๊ะ”
อยู่ ๆ แซนดีก็ร้องเสียงหลงเหมือนคว-ายออกลูกขึ้นมา  แอ๊ะ  หรือว่าผีโดนน้ำมนต์ก็ไม่รู้เพราะผมก็ไม่เคยได้ยินเสียงของทั้ง 2 อย่างนี้เหมือนกัน
“ทะ..  ทำไมหรือครับ”
“รู้มัยจ๊ะ  การใส่วิกนาน ๆ จะทำให้เกิดการอับชื้น  แล้วผู้ชายน่ะนะ  ถ้าปล่อยหัวอับชื้นนาน ๆ ล่ะก็..”
“ล่ะก็..?”
ผมเผลอลุ้นกับแซนดี้ที่อธิบายด้วยท่าทางที่เหมือนกับกำลังเล่าเรื่องผีมากกว่าอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ให้ใส่วิกผม
“หัวก็จะล้านน่ะสิ!!”
“เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ”
“ตายแล้ว  มันเป็นเรื่องใหญ่มากนะจ๊ะ  ผู้ชายหัวล้านน่ะ  น่าเกลียดจะตาย  ยิ่งเป็นเธอแล้วคงดูไม่จืดแน่”
“เฮ้ ๆ หมายความว่าไงห๊ะป้า”
“ต๊าย  ปากเสีย  แต่จะบอกให้ก็ได้  ก็เธอน่ะ  หน้าตาสวยเหมือนผู้หญิงซะขนาดนี้  ถ้าหัวล้านขึ้นมาคงแย่”
อ้า  นั่นสินะ  ผมพอจะนึกภาพออกขึ้นมาหน่อย ๆ ไม่ใช่น่าเกลียดหรอก  แต่มันคงอุบาทเลยล่ะ  คงต้องขอบคุณแซนดี้ที่ช่วยเตือนผมหน่อยแล้ว
“พูดถึงหน้าตาแล้ว  โชคดีจริง ๆ เลยที่เธอไม่ได้เป็นเหมือนแซนดี้  ไม่งั้นแซนดี้คงต้องแต่แน่ ๆ เลย  ก็เธอน่ะสวยซะขนาดนี้”
เอาล่ะ  ผมขอถอนคำพูดเรื่องที่จะขอบคุณแล้วล่ะ
“แล้วจะให้ผมทำยังไง”
“อยากได้ผมสั้นใช่มั้ย”
“อืม  เอาที่มันดูเป็นผู้ชาย ๆ น่ะ”
“ได้เลย  เดี๋ยวแซนดี้บริการพิเศษช่วยออกแบบทรงผมให้เอง”
ว่าแล้วแซนดี้ก็หยิบเอาสเปรย์  ไดร์เป่าผม  หวีซอยออกมาจากกระเป๋าใบเดิมก่อนจะลงมือตัดผมให้ผม (มันเป็นกระเป๋า 4 มิติหรือไงวะ) สุดท้ายผมของผมจากที่ยาวถึงหลังก็ถูกซอยจนเหลือประต้นคอแค่พอมัดได้  มอง ๆ ไปเหมือนทรงผมของตัวการ์ตูนที่ชื่อเนกิมะยังไงอย่างนั้น
“เรียบร้อยแล้ว  อ้า~  หล่อเริ่ด”
“เออ..  ผมขอกระจกหน่อยได้มั้ย”
“นี่จ๊ะ”
แซนดี้หยิบเอากระจกบานใหญ่เกือบเท่าหน้าผมออกมาจากกระเป๋าสารพัสนึกของเขาหรือเธอ (อีกแล้ว) ผมรับเอากระจกมาส่องตัวเอง  มันก็ยังดูเหมือนผู้หญิงอยู่ดีน่ะแหละ  แต่อย่างน้อยก็ดูเป็นผู้ชายกว่าเดิมมานิด  ไม่น่าเชื่อว่าแค่ตัดผมก็สามารถทำให้ใบหน้าคนดูเปลี่ยนไปได้  ผมส่งกระจกคืนแซนดี้หลังจากที่ส่องจนพอใจแล้ว
“นายจะตัดป่ะ  ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว”
ผมหันไปถามวุธเพื่อโดนมันด่ากลับมา
“ไอ้บ้า  หัวฉันเกรียนซะขนาดนี้แล้วยังจะให้ตัดอะไรอีกว่ะ  จะให้โกนหัวเลยหรือไง”
วุธพูดหร้อมกับชี้ไปที่ศีรษะที่โล่งเกรียนตามแบบฉบับร.ด.  ผมลืมไปเลยว่าผมของมันสั้นอยู่แล้ว
“ถ้าอยากโกนก็เชิญ”
โป๊ก!
“โกนมะเหงกแกดิ”
“มันเจ็บนะโว้ย  เขกมาได้  หัวคนนะไม่ใช่กะละมังถึงได้มาเขกกันแบบนี้น่ะ”
“ก็เพราะเป็นหัวคนน่ะสิถึงได้เขก  ถ้าหัวแกเป็นกะละมังล่ะก็ฉันใช้ฆ้อนทุบไปแล้ว”
อ้า  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเป็นลูกใคร  ผมว่ามันได้นิสัยโหด ๆ มาจากแม่มันเต็ม ๆ
“แซนดี้ครับ”
“อะไรจ๊ะ?”
ผมหันไปมองแซนดี้ที่กำลังยัดของลงกระเป๋า
“ขอบคุณนะครับ”
“ต๊าย~  น่ารัก  รู้จักขอบคุณด้วย  งั้นแซนดี้ไปก่อนนะจ๊ะ”
แซนดี้ยกกระเป๋าของตัวเองเดินนำออกจากห้องไปโดยมาผมและวุธเดินตามไปส่งที่หน้าประตูบ้าน
“อ๊ะ!  เกือบลืม”
“ลืมอะไร  เดี๋ยวผมจะให้คนไปเอาให้”
“ไม่ใช่ ๆ แซนดี้ไม่ได้ลืมของ”
แซนดี้ร้องห้ามวุธที่ทำท่าจะหันไปเรียกลูกน้องในชุดดำแถว ๆ นั้น
“อ้าว?  แล้วลืมอะ.....”
จุ๊บ
“เฮ้ย!”
“แล้วไว้มาใช้บริการแซนดี้ใหม่นะคะ  โฮ๊ะ  โฮ๊ะ โฮ๊ะ”
“อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค!”
ไอ้วุธร้องเสียงดังลั่นเล่นเอาผมปิดหูไม่ทัน  แต่ถ้าเป็นผม  ผมก็ร้องเหมือนกันล่ะนะ  ก็ยัยกระเทยแมนนี่เล่นจูบมาเต็ม ๆ ปากไอ้วุธก่อนจะเดินหน้าบานเป็นใบบัววิกตอเรียไปขึ้นรถสีแสบตาของตัวเองที่จอดไว้แล้วขับตะบึงแบบไม่ทิ้งฝุ่นออกไปอย่างรวดเร็ว  ผมยังรู้สึกถึงเสียงหัวเราะอันหน้าสยดสยองของแซนดี้ล่องลอยมาตามสายลม
“วุธ  วุธ  ไอ้วุธ”
ผมหันไปเขย่าตัววุธแรง ๆ แต่มันยังคงยืนนิ่งตาค้างเพราะช๊อคอย่างแรงที่โดนกระเทยจูบปาก
“ใครก็ได้  ใครอยู่แถวนี้  มาช่วยด่วน  ไอ้วุธแย่แล้ว!”
ผมแหกปากตะโกนเรียกให้คนมาช่วย  ก่อนที่จะมีใครมาช่วยหามวุธเข้าห้อง มันก็คว้าเอาแขนเสื้อผมมากำแน่นพร้อมกับพูดเสียงสั่น ๆ
“จะ..  จูบแรกของฉัน...  จูบแรกของฉัน  ฉันจูบกับกระเทย!”
“เอ่อ  ฉันเห็น  เสียใจด้วยว่ะเพื่อน  แล้วฉันจะให้คนไปซื้อแอลกอฮอร์มาล้างปากให้”
“ขอโทษครับคุณหนู  เกิดอะไรขึ้นครับ”
ชายชุดดำ 2 3 คนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาถามอย่างตกใจกับสภาพของวุธ
“ไม่มีอะไร  ไอ้วุธมันถูก อุ๊บ!”
วุธเอื้อมมือมาปิดปากผมก่อนที่ผมจะพูดจบ
“อย่าพูดอะไรทั้งนั้น  โอ้พระเจ้า  ชีวิตลูกจบแล้ว”
“เอ่อคือ...”
“ไม่มีอะไร  ตอนนี้ช่วยพาไอ้วุธเข้าบานก่อน”
“ได้ครับ”
“อ่อ  แล้วก็ให้ใครก็ได้ไปซื้อแอลกอฮอร์มาขวดหนึ่ง  เอาขวดใหญ่เลยนะ  ไม่สิ  เอามา 2 ขวดเลย”
เอาเครื่องไปทำใหม่มาฮะ  เครื่องผมโปรแกรมไมโครซอฟร์มีปัญหา  ข้อมูลหายเกลี้ยง TT-TT
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น