ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~แวมเพอร์เรีย วิกฤติรักแวมไพร์( SUJU ) HanHyuk~ Yaoi

    ลำดับตอนที่ #82 : My Vampire 82

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 192
      1
      18 มิ.ย. 56

     

     










     

    คังอินคำรามลอดไรฟันมองดูใบหน้าของชายหนุ่มผมทองที่ตอนนี้ลงไปนั่งอยู่ที่พื้น สายตาคมสีแดงยังคงวาวโรดด้วยความโกรธหลังจากที่รู้เรื่องทุกอย่างมาจากซองมินว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงตามกลิ่นของฮันกยองและฮยอกแจจนกระทั้งมาถึงบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ห่างออกมาพอสมควร ถ้าเพียงแต่ไม่ติดแขนของฮันกยองที่ยกขึ้นมาจับแขนทั้งสองของเขาไว้ละก็ปานนี้เขี้ยวของเขาคงไปฝังอยู่ที่ลำคอขาวๆของชายหนุ่มบนพื้นไปแล้ว



    “คังอิน...ใจเย็นก่อน...”ฮันกยองกัดฟันแน่นขณะรวบรวมเรียวแรงเพื่อมายันตัวคังอินเอาไว้หลังจากที่เมื่อไม่กี่วิที่แล้ว เมื่อสิ้นเสียงของนาธานเขาก็หันมาประเชิญหน้ากับคังอินที่มีแต่ความอาฆาตแค้น ทั้งดวงตาสีแดงที่เด่นชัดขึ้นมากับเขี้ยวยาวอย่างแวมไพร์กระหายเลือด ทำให้เขาแทบเสียหลักอยู่เหมือนกันกับคนตรงหน้า



    “แกทำอะไรคุณพ่อ!!!!”คังอินคำรามอีกทำให้นาธานสะดุ้งขึ้นมาขณะพยายามถ่อยไปอีกแม้จะติดกำแพงแล้วก็ตาม



    “คังอิน!...บ้าจริง..หยุดก่อน..ฟังฉัน..”ร่างสูงพยายามพูดในขณะพยายามต้านแรงของชายหนุ่มเอาไว้



    “ฉันจะฆ่ามัน แล้วก็ตามด้วยฆ่านาย!!!”แววตาสีแดงวาวโรดขึ้นมาอีกครั้งในขณะแยกเขี้ยวขู่คนบนพื้น แต่ก็ถูกฮันกยองพลักออกไปได้ในที่สุด



    “ถ้านาธานตาย ฮยอกแจจะตายไปด้วย!!!!!!!”ฮันกยองคำรามออกมาเมื่อคังอินตั้งท่าจะกระโจนใส่นาธานอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ก้าวเข้ามาขวางคนตัวเล็กเอาไว้



    “อะไรน่ะ..”คังอินตวัดดวงตาสีแดงมามองฮันกยองทำให้ร่างสูงหยิบมีดขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อม หากคังอินเข้ามาโจมตีเขา



    “อริสซ่า...หล่อนพาฮยอกแจไปแล้ว และบอกว่าถ้าเจ้าหล่อนตายนาธานจะเป็นคนฆ่าฉัน แต่ถ้านาธานตายหล่อนจะฆ่าฮยอกแจ”ฮันกยองบอกทำให้คังอินคว้าคอเสื้อของฮันกยองขึ้นมา เป็นเวลาเดียวกับที่ร่างสูงจ่อมีดไปยังหน้าอกของคังอิน ทำให้ทั้งคู่หยุดทำได้เพียงมองหน้ากันทำนั่น



    “ทั้งที่แกก็อยู่...”คังอินกัดฟันแน่น “...ทั้งที่แกสาบานว่าจะปกป้องคุณพ่อด้วยชีวิต แล้วทำไมถึงยังปล่อยให้นังบ้านั่นพาคุณพ่อไปได้ ทำไมถึงยังปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นมาอีก ไอ้ฮันเตอร์..”นี่น่าจะเป้นครั้งแรกที่คังอินพูดจาน่ากลัวแบบนี้กับเขา เพราะปกติออกจะวางมาทไว้ตลอด นั่นทำให้ฮันกยองยอมลดมีดลง



    “ถ้าฉันไม่ปล่อยไป ฮยอกแจคงจะตายไปแล้วในตอนนี้ อย่างน้อยๆฉันก็พยายามยื้อเวลาเอาไว้ เพื่อไปช่วยเขาที่หลัง”คังอินขบฟันแน่น เพราะเขาก็เข้าใจดีว่าผู้หญิงคนนั่นคงจะทำแน่ๆ นั่นทำให้เขายอมปล่อยมือจากคอเสื้อของฮันกยอง นี่ไม่ใช่เวลามาตีกันเอง ควรจะต้องคิดให้ดี



    “ฉันก้นึกว่าเพื่อนที่นายบอกจะเป็นฮันเตอร์หรืออะไรแบบนั่นซะอีก”คังอินตวัดสายตาลงมาตามเสียงของคนที่พูด ชายหนุ่มชาวต่างชาติผมทอง ในเสื้อแขนยาวรัดรูปสีดำกับกางเกงรัดรูปพอๆกัน คงเป็นพวกคนที่ถูกตามตัวมาแน่ๆ และต้องเกียวกับยัยอริสซ่าแน่ๆเพราะกลิ่นที่คล้ายกับคุณฮยอกแจ



    “โอเคๆๆขอโทษ...”



    “นายเป็นใคร”เขาถามออกไปเสียงแข็งหลังจากดึงคนตัวเล็กขึ้นมาอัดติดกำแพงด้วยมือเดียว



    “ไม่ว่าอริสซ่าจะทำอะไร ฉันไม่เกี่ยวโอเคไหม...ฉันถูกบังคับมา ถึงแม้เธอจะหวังให้ฉันคอยคุ้มเจ้าฮันเตอร์ตัวโตนั่นแต่ฉันทำไม่ได้อยู่แล้ว และเจ้าหล่อนก็รู้ เธอแค่กำลังรอว่าฉันจะตายเมื่อไรจะได้ฆ่าลูคัส นั่นคือแผนจริงๆ...”ชายหนุ่มคิดตามคำพูดของคนตัวเล็กที่พยายามดันตัวเขาออกไปห่างๆด้วยมือสองข้างที่ถูกมัดเอาไว้



    “ทำไมถึงไม่เอาโซ่เงินมัดเอาไว้ แบบนี้แวมไพร์ที่ไหนก็ดิ้นหลุด”คังอินหันมามองร่างสูงทำให้นาธานตาโตขึ้นมา



    “แบบนั่นผิวฉันเจ็บจะทำยังไง ก็ไม่ขัดขืนแล้วไงเล่า ยังจะทรมานกันอีกหรือไง แบบนี้มันผิดกฎหมายชัดๆ”คนตัวเล็กบอกทำให้เขานิ่วหน้า



    “เชือกธรรมดามัดแวมไพร์ไม่ได้ ฉันรู้แผนนาย”คังอินว่า ทำให้คนตัวเล็กกลอกตาอย่างเซงๆ



    “ขอโทษน่ะ! ฉันเป็นแวมไพร์ที่ค่อนข้างนิสัยดี ถ้าฉันทำตัวน่ากลัวแบบนายได้ละก็คิดว่าฉันจะยืนบื่อรอให้นายมาเค้นคอฉันทำไม สู้หนีไปตอนนี้ฮันเตอร์นั่นอยู่คนเดียวไม่ดีกว่าหรือ คิดมั่งสิเจ้าคนเอเชีย”นาธานขู่ออกมาเล็กๆทำให้คังอินหันไปมองหน้าฮันกยอง



    “กลับไปที่บ้านก่อนเถอะ แล้วค่อยคิดว่าจะเอายังไง”ฮันกยองพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าท่าไม่ดีเท่าไร ทำให้คังอินหันมามองก่อนจะพยักหน้า















    ...............................................................................................................................















    คังอินรีบเดินตามหลังฮันกยองเข้ามาในบ้านทันทีหลังจากที่คนตัวสุงเปิดประตูให้เขาอย่างร้อนรน ทั้งสองหนุ่มรีบเดินตรงเข้าไปข้างในเป็นเวลาเดียวกับที่คยูลุกขึ้นมาเดินตรงมายังพวกเขา ซึ่งฮันกยองเองก็ทำได้แต่เพียงยิ้มให้กับสายตาของคยูและซองมินที่ถามออกตาโต้งๆว่าเกิดอะไรขึ้น คงเป็นเพราะเจ้าแวมไพร์ที่ตอนนี้เขาจับพาดบ่าอยู่เริ่มร้องโวยวายต่างหาก



    “ซองมิน ขอใช้ห้องนายหน่อยน่ะ นายย้ายไปนอนห้องฮยอกแจซักพักหนึ่งแล้วกัน”ฮันกยองบอกยิ้มๆในขณะเปิดประตูห้องซองมินให้คังอินนำเข้าไปก่อน พร้อมกับสายตาที่บอกว่าจะอธิบายที่หลัง ร่างสูงปิดประตูล๊อกก่อนจะรีบเดินลงบันไดตามคังอินมา สู่ห้องใต้ดินที่ตอนนี้เป็นห้องของซองมินไปแล้ว



    “เบาๆก็ได้ฉันเจ็บน่ะ”นาธานอดที่จะบ่นอุบออกมาเบาๆไม่ได้เมื่อถูกแวมไพร์ตัวสูงโยนลงมาบนเตียงจนเขาแทบหน้าทิ่ม ชายหนุ่มหันมามองคนสองคนที่ตอนนี้ยืนกอดอกมองเขาอยู่ก่อนจะหันหนีไปอีกทาง



    “บอกมาว่ายัยนั่นพาคุณพ่อไปไหน”คังอินถามเสียงแข็ง



    “ไม่รู้”เขาบอกพลางสะบัดหน้าหนี ทำให้คังอินตรงเข้ามาคว้าคอเขากระแทกกับผนังข้างหลัง




    “รู้ไหมว่าตอนนี้เหตุผลเดียวที่นายยังมีชีวิตอยู่เพราะฮันกยองบอกว่าถ้านายตายจะเป็นอันตรายต่อคุณพ่อ แล้วนายรู้ไหมว่าแวมไพร์มันตายยากแค่ไหน วิธีทรมานนายก็มีตั้งเยอะ ยากจะลองถูกตัดแขนขาเหลือแต่ตัวดูไหม แบบนั่นก็ถือว่านายยังไม่ตายเหมือนกัน”คังอินแยกเขี้ยวออกมาทำให้คนบนเตียงยู้หน้าขณะพยายามขัดขืน



    “ก็คนมันไม่รู้นิ แค่นี้พวกนายสองคนก็น่ากลัวจะตายอยู่แล้วไม่ต้องมาขู่เพิ่มหรอก แค่นี้ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วแหกตาดูสภาพฉันหน่อยสิ!”นาธานบอกเสียงแข็งทำให้คังอินยอมปล่อยคนตรงหน้าให้เป็นอิสระ ก่อนจะหันไปมองฮันกยอง



    “เอาไงต่อ”ชายหนุ่มว่า “ดูท่าเจ้านี่จะไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก”



    “คงต้องขังเอาไว้ก่อน ถ้าเป็นอย่างที่อริสซ่าพูดจริงๆ ถ้าหากนาธานไม่ตายเจ้าหล่อนอาจจะส่งคนมาฆ่าเขาก็ได้”ร่างสูงบอกขณะมองคนที่นั่งหน้าหักอยู่บนเตียง




    “ฉันจะออกไปตรวจดูรอบๆ”คังอินตวัดสายตามามองชายหนุ่มก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องทันที




    ฮันกยองยังคงมองสำรวจชายหนุ่มผมทองที่อยู่บนเตียง ยังคงคิดว่าจะเอายังไงต่อไปดี แบบนี้มีหวังเขาก็คงทำได้แค่เฝ้าไม่ให้นาธานตาย แล้วฮยอกแจเล่า แบบนี้ถ้าหากว่าฮยอกแจคิดเหมือนเขา เจ้าตัวคงไม่กล้าฆ่าอริสซ่าแน่ๆ แล้วจะหนีออกมาได้ยังไง จะทำยังไงให้ได้เจอกันอีก แล้วยัยบ้านั่นพาฮยอกแจไปไหนก็ไม่รู้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ทำไมเจ้าตัวเล็กนั่นถึงไม่ยอมอยู่บ้านเฉยๆ ทำไมต้องตามตัวเขาจนเจอด้วย



    “ขอถามได้ไหมว่าทำไมนายยังอยู่ในห้องนี่ ฉันเป็นนักโทษนะ ควรจะอยุ่คนเดียวในนี้สิ”เขาหลุดจากความคิดตัวเองเมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่ม นั่นทำให้เขาลุกขึ้นมาเพื่อเดินตรงไปหาคนบนเตียง



    “จะทำอะไร ถามแค่นี้ต้องโกรธด้วยหรือ โอเคๆๆ ใจเย็นๆอย่า-“



    “นาธาน”เขาเรียกเสียงอ่อนขณะนั่งลงปลายเตียง ทำให้คนที่กำลังพยายามขยับหนีหยุดทันที



    “ตอนนี้ฉันอยากจะขอร้องให้นายช่วยฉันซักนิด ถ้าเพียงแต่นายช่วย ฉันสัญญาจะไม่ทำอันตรายนาย”เขาพูดต่อ ทำให้ดวงตากลมโตหลุบต่ำก่อนจะมองเขาอีกรอบ



    “เดี่ยว...ถ้าฉันไม่ช่วยละ”เขาถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ ทำให้ฮันเตอร์หนุ่มถอนหายใจออกมานิดๆ



    “...อย่าทำให้ฉันไม่มีทางเลือกสิ”เขามองสบสายตาคมที่มองมายังเขาอย่างแน่วแน่ ก่อนที่ดวงตาสีดำจะเลื่อนลงมามองสำรวจตัวเขาอย่างไม่ปิดบังความคิดเลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้เขาขนลุกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกก่อนจะพยายามขยับตัวหนี แต่ก็ถูกท่อนแขนของชายหนุ่มรั้งให้เขาเข้ามาใกล้




    “นายนั่นและที่ดูจะไม่ให้ทางเลือกฉันเลย”เขากลืนน้ำลายเฮือก “รู้ไหมว่าฉันไม่อยากยุ่งกับพวกนายเลยแม้แต่น้อย สงครามระหว่างฮันเตอร์กับแวมไพร์ฉันก็ไม่อยากยุ่ง ฉันแค่อยากจะอยู่อย่างสงบๆที่ฝรั่งเศส เดินแบบ ถ่ายปกนิตยาสาร หรือปาร์ตี้ในตอนกลางคืน ไม่ใช่ถูกจับเป็นนักโทษอยู่ฝั่งตะวันออกโดยฮันเตอร์บ้ากามแบบนี้”




    “เดี่ยว...บ้ากาม?”





    “ใช่ แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง ฉันต้องมาติดแหงกกับนายแล้วก็แวมไพร์ตัวโตบ้าเลือดข้างบนนั่น ถ้าฉันไม่ตายเพราะพวกนายก็ต้องตายเพราะอริสซ่า ขอร้องเถอะ อย่ามาขู่กันเลยดีกว่ายังไงชีวิตฉันก็ไม่มีอะไรแย่กว่านี้แล้ว”ชายหนุ่มบอกก่อนจะสะบัดหน้าหนี ทำให้ฮันกยองถอนหายใจออกมา




    “ฉันไม่ได้ขู่...แค่กำลังขอร้อง ถ้าเรื่องจบเร็วเท่าไร นายจะได้กลับบ้านนายเร็วเท่านั่น ไม่ดีหรือไง ฉันจะฆ่าอริสซ่าก่อนที่ยัยนั่นจะทันได้ทำอะไรนาย แบบนี้ก็จะไม่มีใครคอยวุ่นวายกับนายอีกหลังจากนี้”





    “...”




    “ขอแค่ช่วยพวกฉันหน่อย นายคิดว่าพวกฉันมันไม่น่าไว้ใจเลยหรือไง คิดว่าคนอื่นจะยอมมัดนายไว้ด้วยเชือกแทนโซ่เงินหรือ หรือแม้แต่ขังนายซึ่งเป็นนักโทษในห้องนอนที่มีชั้นหนังสือและปูผ้าไว้อย่างดี ไม่เอาน่านาธาน นายอยากจะกลับฝรั่งเศสหรือเปล่า”ทั้งคู่เงียบไปชั่วอึดใจก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะเหลือบตาขึ้นมามองเขาอย่างชั่งใจ




    “...ฉันไม่รู้ว่าอริสซ่าอยู่ที่ไหน แต่เธอมีปราสาทอยู่ที่ตอนใต้ของเยอรมัน เธอน่าจะพาลูคัสไปที่นั่น แต่อาจจะยังไปไม่ได้ เพราะตอนนี้ติดสงครามกับพวกฮันเตอร์อยู่ แต่หลังจากนี้อาจจะไม่แน่..”ชายหนุ่มพูดออกมาทำให้ฮันกยองคิดตาม




    “หมายความว่า ฉันอาจจะไม่ได้เจอฮยอกแจอีกงั้นหรือ”




    “ตอนนี้เธอยังอยู่ในเกาหลี คงเพราะติดงานจากเบื่องบน...นายเป็นฮันเตอร์ก็ต้องรู้สิ ถ้าหากว่าอริสซ่าทำงานใหญ่ๆไปเธออาจจะมีข้ออ้างในการขอกลับเยอรมัน ซึ่งเบื่องบนคงไม่บ่นอะไร เช็กข่าวเอาสิ หลังจากนี้ถ้ามีเหตุโจมตกลุ่มฮันเตอร์กลุ่มใหญ่หรืออะไรที่มันดูร้ายแรงแล้วอริสซ่าเป็นคนทำก็อาจจะเป็นแผนของเธอ”นาธานบอกต่อไป ทำให้ร่างสูงนิ่ง แสดงว่าเขายังพอมีเวลาที่จะหยุดยัยนั่น




    “ฉันจะออกไปและปล่อยให้นายอยู่คนเดียว อย่าพยายามคิดหนี้ละ คังอินจะคอยเฝ่านายอยู่ข้างนอกนั่น”เขาบอกก่อนจะลุกขึ้นตรงไปยังประตูที่อยู่ห่างออกไป คงต้องขึ้นไปอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนอื่นๆฟัง ร่วมทั้งต้องบอกแผ่นการของอริสซ่าด้วย ยังพอมีเวลาที่จะพาฮยอกแจกลับมา
















    ************************************************************************************************






    ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะค่ะ



    เม้นให้บ้าง อิอิ



    รักทุกคน จุ๊บๆๆๆ





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×