ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~แวมเพอร์เรีย วิกฤติรักแวมไพร์( SUJU ) HanHyuk~ Yaoi

    ลำดับตอนที่ #78 : My Vampire 78

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 191
      1
      9 มิ.ย. 56

     

     







     

    ชายหนุ่มผมสีทองสวยในชุดเสื้อผ้าราคาแพงกำลังนั่งกระดิกเท้าอ่านนิตยาสาร ระหว่างรอให้สาวสวยผมสีขาวนวลจัดดอกไม้ในช่ออย่างอารมณ์ดี เขากำลังรอให้คนที่เรียกตามศักษ์แล้ว เป็นเหมือนมารดาของเขา ลังจากเวลาผ่านมาหลายร้อยปี ซึ่งโดยส่วนตัวเขาไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครๆในโลลกแวมไพร์ซักเท่าไร



    และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาคอยทำตามคำสั่งของท่านแม่ด้วย ในเมื่อก็แค่จะพาตัวน้องเล็กกลับไปอยู่ด้วยที่เยอรมันเหมือนเดิม ส่วนตัวเขาตอนนี้ควรจะต้องเดินแบบให้แบรนชั้นนำอยู่ที่ปารีสเสียมากกว่า เขาวางนิตยาสารลงในขณะที่หันไปจัดทรงผมที่เซ็ตมาอย่างดี พลางตรวจเช็คหน้าตาและร่างกายตัวเอง กางเกงยีนต์รัดรูปกับเสื้อแขนยาวสีดำเปิดไหล ช่างเข้ากับหน้าตาของเขาอย่างพอเหมาะพอดี



    “นาธาน เอาดอกกุหลาบมาเพิ่มหน่อยสิ”เขาได้ยินเสียงหวานดังขึ้นทำให้เขาต้องลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้



    “เสร็จแล้วข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้ามากมายนัก”เธอพูดอีก ทำให้เขาหยุดฝีเท้า “เหตุผลดีๆซักข้อว่าทำไมดวงตาของเจ้ายังคงเป็นสีแดงเข้มจนเกือบดำแบบนั่น มันไม่สวยเลยรู้ไหม เมื่อไรจะแดงสดแบบเหล่าชนชั้นสูงเสียที เจ้าทำให้ข้าผิดหวังน่ะ”เธอพูดต่อ



    “ขอโทษครับ...ท่านแม่”เขาพูดเบาๆ



    “เดิมทีข้าก็ไม่ได้ใส่ใจหรอกว่าเจ้าจะยังเดินบนเส้นทางที่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไปต่อ เพราะยังไงเจ้าก็ทำให้ข้าภูมิใจในตัวเจ้า ข้าไม่คาดหวังให้เจ้าทำตัวเป็นแวมไพร์ที่สมภาคภูมิ แต่แค่อย่าทำตัวให้เหมือนมนุษย์นัก เข้าใจไหมจ้ะ...”เขาเหลือบตามองหญิงสาวในชุดขาวก่อนจะหันหน้าหนี



    “ทีนี้ ไปเอาดอกไม้มาให้ข้า เราจะได้คุยกันต่อ”

















    ..............................










     

    ฮันกยองนั่งอยู่บนต้นไม้ต้นใหญ่อย่างชั่งใจ ในขณะมองผ่านกล้องส่องทางไกลไปยังบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า เขาคิดว่าในรอบๆนี้ไม่น่าจะมีแวมไพร์ตัวอื่นอยู่ อย่างน้อยๆก็ในระยะที่เห็นละน่ะ เขากำลังมองผ่านหน้าต่างบานโต ทำให้เห็นสาวสวยผมสีอ่อน เธอกำลังเดินไปเดินมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ในอ้อมกอด เหมือนกับกำลังจัดแจกันสำหรับงานเลี้ยงในคืนนี้



    ดูแล้วเธอคงจะคิดว่าฮยอกแจจะมาแน่ๆ แต่กลับเป้นเขาเสียเอง เขาคงต้องหาทางพาตัวเธอมาให้ได้ซะแล้ว พากลับไปให้ฮยอกแจ คิดว่าคงจะพอมีประโยชน์มากอยู่พอสมควร โอ้ยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขากำลังคิดวางแผนลักพาตัวผู้หญิงอยู่ ดูๆแล้วนี่มันแย่ชะมัด



    ฮันกยองลดกล้องลง ก่อนจะเอื่อมมือออกไปเพื่อกำรอบมีดเงินที่ข้างเอว ป่านนี้ฮยอกแจคงจะออกจากบ้านไปแล้วละมั้ง คงกำลังตามหาคังอินอยู่ ไม่มีทางจะว่างมาสนใจเขาแน่ๆ คิดแล้วก็เสียดายอยู่ม่ใช่น้อย ถ้าหากวันนี้ไม่รอดละก็ อย่างน้อยๆก่อนหน้านี้ก็น่าจะไปบอกลาฮยอกแจหน่อยก็ดี พ่อกับแม่ก็ยังไม่ได้บอกลาเลย เอาเป็นว่าอย่าพึ่งตายก็แล้วกัน



    ชายหนุ่มจัดเตรียมของเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งสร้อยเงินเส้นเล็กที่ไว้ในเสื้อนอก มีดเล่มเล็กที่เหน็บไว้สองเล่ม เล่มใหญ่อีกหนึ่ง ขายาวค่อยๆก้าวลงมาจากต้นไม้ผ่านความมืด ก่อนจะค่อยๆย่องไปตามแนวไม้อย่างเงียบเชียบที่สุด ตรงไปยังปีกซ้ายของบ้านหลังใหญ่ เพื่อจะได้แอบเข้าไปทางอื่นโดยไม่ให้สาวสวยเห็นตัว



    ที่เขาคิดไว้ในใจก็คือ ลอบเข้าไปในบ้าน ในเมื่อมีเธอเพียงคนเดียว คงจะไม่มีปัญหามากนัก ยังไงเขาก็คิดว่าคงทำเรื่องแบบนี้ได้สบายมาก แค่เอาโซ่พันรอบตัวหญิงสาว เท่านั่นคงจะพอไหว แม้จะยังกลัวอยู่บ้างที่มาทำเรื่องบ้าบอแบบนี้ ฮยอกแจคงจะไม่เอาเขาไว้แน่ แต่ยังไงเขาก็ปล่อยให้ฮยอกแจมาเจอเรื่องอันตรายแบบนี้คนเดดียวไม่ได้แน่ ร่างเล็กคงจะพยายามเลียงเพื่อออกมาคนเดียว แล้วคงจะยอมทุกอย่างเพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นอันตราย ซึ่งเขาก็จะทำเหมือนกันนั่นคือจะไม่ให้ฮยอกแจมีอันตรายอะไร



    ถึงได้ยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาทำแบบนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่าก่อนหน้านี้เขาพึ่งจะสาบานว่าจะไม่เป็นฮันเตอร์ แต่ดูตัวเขาเองตอนนี้สิ...จริงๆแล้วนึกอยากจะให้เป็นฮันเตอร์จริงๆด้วยซ้ำ อย่างน้อยๆก็จะได้รู้ว่ามันวรจะทำเรื่องอะไรก่อนอะไรหลัง ควรวางแผนยังไงถึงจะดี แต่ตัดสินใจไปแล้วมันก็ช่วยไม่ได้ เอาตามแผนเดิมนั่นและ เข้าไปในบ้านได้แล้วค่อยว่ากันที่หลังดีกว่า อย่างน้อยๆก็ถือว่าครึ่งทางแล้วกัน



    ร่างสูงค่อยๆหย่อนตัวลงมาจากหน้าต่างบานโต เขามายังห้องครัวที่มีสภาพที่น่ากลัวมากๆสำหรับเขา เกือบจะอดอาเจียนออกมาไม่ได้กับภาพที่มีหญิงสาวและชายวัยกลางคน ที่ทั่วทั้งตัวท่วมไปด้วยเลือดสดๆ ถูกขึงด้วยเหล็กอยู่บนกำแพงโดยที่ปล่อยให้เลือดหยดลงมาในโหลแก้วที่ตั้งอยู่บนพื้น สายตาคมพยายามไม่มองสบดวงตาที่ค้างเติ่งของทั้งสองคน ทั้งยังสวดมนต์ในใจเบาๆเพื่อสองคนที่น่าสงสาร



    เขาค่อยๆก้าวขาออกไปยังประตูบนโต แล้วเริ่มเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆจนกระทั้งได้ยินเสียงเพลงคลาสิคยุกเก่าดังขึ้นมาเบาๆจากห้องโถงใหญ่ ซึ่งตามทางถูกตกแต่งอย่างสวยงามไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงสด คาดว่าคงจะเป็นสีที่เธอชอบมากกว่า เขาเอื่อมมือออกไปคว้าโซ่เส้นใหญ่ขึ้นมา พร้อมกับหยิบมีดแหลมออกมาจากเอวตั้งท่าเตรียมพร้อม ฮันกยองเผลอสูดหายใจยาวเพื่อรวบรวมสมาธิ พลางพยายามฟังเสียงฝีเท้าที่เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยตามความรู้สึกของเขา ทำให้ชายหนุ่มหยุดเพื่อรอจังหวะ



    ฮันกยองมองลอดเข้าไปในห้องพลางมองผ่านกระจกที่สะท้อนภาพในห้องโถง ภาพที่เห็นมีเพียงเจกันดอกไม้ตั้งอยู่อย่างงดงามอยู่รอบๆห้อง คล้ายกับตกแต่งเป็นงานเต้นรำเล็กๆ แต่กลับไม่มีหญิงสาวในชุดขาวที่ควรจะยืนจัดดอกไม้อยู่ตรงนั่น ทำให้ฮันกยองกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่เมื่อเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีว่าเธอน่าจะรู้ตัวแล้ว ชายหนุ่มยกมีดขึ้นในท่าเตรียมพร้อมในขณะค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง



    ดวงตาคมกวาดดูโดยรอบอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่พบสิ่งที่ผิดสังเกตแต่กลับยังรู้สึกถึงบางสิง่ที่อันตราย ราวกับมันอยู่ใกล้ๆ เขาจึงหยุดเพื่อตั้งสมาธิทั้งที่หัวใจกลับเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นจนหูเขาอื้อไปหมด ความเงียบที่น่าอึดอัดผ่านไปชั่วอึดใจในขณะที่เขารู้สึกถึงสายตาเย็นวาบจนขนลุกชัน ทำให้เขาขยับหลบออกจากที่เขายืนทันทีเป็นเวลาเดียวกับที่เกิดเสียงดังลั่นดังมาจากที่ที่เขาเคยยืน



    ดวงตาคมมองมองสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อประมาวลผลเมื่อเห็นพื้นที่ปูพรมอย่างดีเป็นรอยคล้ายับรอยจากแรงกระแทก ตามด้วยใบหน้าของหญิงสาวที่เขาตามตัวอยู่ ดวงตตากลมโตสีแดงสดจ้องเป้งมาทางเขาขณะที่พุ้งตัวเข้ามาอย่างไวพร้อมกับกงเล็บแหลมสีดำ ก่อนที่มันจะตะปบลงมาบนคอเขาแต่เขาก็ใช้มีดเงินกันไว้ได้ทันในขณะเหวียงโซ่ใส่หญิงสาวจนเธอกระเดนไปติดผนังอีกฝั่งจนเขานึกตกใจกับแรงของตัวเอง



    “...ดูสิว่าใครมา เจ้าหนูน้อยฮันเตอร์ในตอนนั่นนี้เอง”เขาได้ยินเสียงหวานพูดในขณะที่เธอลงมายืนบนพื้นโดยที่ทิ้งรอยแตกไว้บนกำแพง มือเรียวเอื่อมออกมาปัดฝุ่นที่ตัวในขณะที่ฮันกยองยังคงตั้งท่าโจมตีแม้จะยังหอบอยู่กับเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้



    “ข้ามั่นใจว่าไม่ได้เชิญเจ้าแน่นอน...อันที่จริง มาซะเต็มยศขนาดนี้คิดจะมา..จับข้า?”เธอฉีกยิ้มกว้างอย่างไม่ปิดแววตื่นเต้นในดวงตาจนทำให้ฮันกยองอดสั่นไม่ได้



    “...”เขาไม่ตอบอะไรทั้งยังคงตั้งท่าอยู่แบบนั่น ดูทุกความเครื่อนไหวอย่างเอื่อยๆของหญิงสาวคนสวย



    “เจ้ามาขัดจังหวะข้าเอามากๆรู้ไหม ช่วงนี้ข้าอารมณ์ไม่ดีเลย ทุกครั้งที่ข้าต้องการจะเจอลูกชายของข้า ก็ต้องมีเจ้าพวกแมลงๆน่ารำคาณเข้ามาขวางตลอดเลย เจ้าก็ยังจะอีกคนหนึ่ง รอดตายจากข้าไปครั้งหนึ่งแล้ว ทำไมถึงยังอย่างจะกลับมาตายอีกละ”เธอถอนหายใจออกมายาวทำให้เขาเงียบ



    “ฮยอกแจจะไม่มาที่นี้..เธอพลาดแล้วละ”เขาพูดออกไปพลางยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคิ้วเรียวกระตุกเล็กๆ



    “...เจ้า...หยาบคายต่อข้ามาก”เธอพูดคล้ายกับต้องการระงับอารมณ์



    “เธอไม่มีทางได้ตัวเขาแน่ ตราบใดที่ฉันยังอยู่”เขาพูดออกไปอีก ทำให้หญิงสาวแยกเขี้ยวขาวออกมาก่อนจะกระโจนใสเขาจนกระทั้งฮันกยองต้องยกมือขึ้นป้องกันตัว แต่ก็ยังถูกหญิงสาวเหวี่ยงเขาออกไปจนกระทั้งเขากระเดนไปติดพนังห้อง แรงกระแทกทำให้โซ่เงินหลุดจากมือ ก่อนที่เขาจะพยายามตั้งหลักหญิงสาวก็ตามมาคว้าคอเสื้อเขาไว้แล้วออกแรงกระแทกจนติดกับพื้นห้อง



    “แกมันอวดดีอย่างน่ารังเกียจ!!! กับแค่การโชคดีทำร้ายข้าได้ เจ้าก็ผยองขนาดว่าตัวองเก่งกว่าข้า!!!”เธอคำรามในขณะจ้องเป้งมายังเขา สาวสวยที่ตอนนี้อยู่บนตัวเขาหล่อนกำคอเสื้อเขาแน่นในขณะที่จับเขากระแทกอัดกับื้นอีกจนฮันกยองร้องออกมาเบาๆ



    “...เจ้ามันแค่เด็กตัวเล็กๆที่กล้ามายุ่งกับชนชั้นสูง พวกทาสชั้นต่ำ!! แล้วแกยังมีหน้ามาพูถึงลูกชายข้าอีกงั้นหรือ? ช่างไม่เจียมเลยแม้แต่นิด!!” ฮันกยองมองดวงตาที่วาวโรดด้วยความโกรธในขณะที่เธอกระแทกเขาลงกับพื้นอีกจนเขาเริ่มมึนแต่ก็พยายามตั้งสติเท่าที่ทำได้ มือแข็งแรงกำรอบมีดแหลมไว้แน่น ก่อนจะเหวี่ยงมันลงไปที่ตัวหญิงสาว ซึ่งเธอก็คว้ามันไว้ได้ทันด้วยมือเดียว แม้ว่าเงนจะถูกตัวผิวขาวๆจนมันเริ่มแดงและไหม้แต่เธอก็ไม่สนใจมันแม้แต่น้อย



    “ชอบนักใช่ไหม อาวุธงี่เง่าที่พึ่งเดียวของพวกเจ้า”เธอกัดฟันในขณะที่บังคับมือเขาให้หันคมมีดมายังตัวเขาเอง ก่อนจะพยายามกดมันลงตรงตำแหน่งหัวใจ แต่เขาก็ใช่แรงเฮือกสุดท้ายจนกระทั้งมันพลาดถากไหลเขาเท่านั่น แต่ก็ยังเป็นแผลลึกอยู่ดี



    “ใช่ได้....ทีนี้ข้าจะขอถามเจ้าบ้าง ลูคัสอยู่ไหน!!!”เขาได้ยินเสียงร้องของเธอที่บงบอกอารมณ์ไม่พอใจอย่างชัดเจน ทำให้เขาเรื่องหาทางออก ในขณะที่พยายามสู้กับแรงที่แทบจะมากกว่าเขาแม้ว่าแขนเรียวๆนั่นจะไม่น่ามีแรงเลยก็ตาม



    “เธอจะไม่มีทางได้เจอเขา...ยัยบ้า”ฮันกยองกัดฟันแน่นเมื่อรวบรวมเรี่ยวแรงปัดมือของหญิงสาวออกไปได้ ก่อนจะออกแรงเพื่อแทงมีดลงไปบนเอวบางตรงหน้า แต่เธอก็ขืนไว้ได้



    “พวกแกไม่มีสิทธิมายุ่งเรื่องนี่!! พวกฮันเตอร์สกปรก พวกแกมันไม่มีค่าแม้แต่จะมาพูดด้วยแม้แต่น้อย!



    “ถึงเธอจะฆ่าฉันไป เธอก็ไม่มีทางได้เจอฮยอกแจอย่างที่ฉันบอกไป..เขาอยู่ในที่ที่เธอเข้าไม่ถึง”ร่างสูงพยายามกัดฟันพูดยั่วโมโหคนตรงหน้าเมื่อเธอเพิ่มแรงกดเพื่อหันมีดมาทางคอเขาอีกครั้ง



    “แกโกหก!! ลูกคัสไม่มีทางถุกฮันเตอร์จับไป พวกแกไม่มีสิทธิ!”เธอแยกเขี้ยวขาวคู่คนข้างใต้ ทำให้ฮันกยองมั่นใจว่าหญิงสาวคงเข้าใจว่าฮยอกแจถูกฮันเตอร์จับไปแน่ๆ นั่นอาจจะทำให้เธอไม่กล้าตามหาฮยอกแจอีกก็ได้



    “...หนุ่มน้อยผมแดง...เขาเป็นของฉัน...และเธอนั่นและที่...ไม่มีสิทธิ”ฮันกยองพูดเสียงเครียดเมื่อปลายมีดเริ่มเข้ามาใกล้ลำคอเขาขึ้นทุกที ทำให้เขาได้ยินเสียงกรีดของอริสซ่าอย่างเหลืออด ก่อนที่เธอจะกระชากมีดออกมาจากมือของฮันกยองแล้วปักลงบนไหลลาดจนเขานิ่วหน้าเพราะความเจ็บ



    “แก...ไม่ได้ตายดีแน่..”เธอคำรามลั่นก่อนจะเหวี่ยงมีดทิ้งไปแล้วจึงกระชากคอของฮันกยองให้ลุกตามเธอขึ้นมา














    ............................................................................................











    ชายหนุ่มผมแดงเริ่มจะหงุดหงิดมากขึ้นไปทุกที เมื่อเขาตามหาลูกชายสุดที่รักไม่เจอ แถมเจ้าบ้าฮันกยองก็ยังหายไปด้วยอีกคน มีเพียงแค่คิบอมที่ช่วงนี้ดูจะเหมือนมาสิงอยู่ที่บ้านเขาเสียมากกว่า แล้วเจ้าตัวยังจะคอยตามเขายังกับเป็นเจ้าฮันกยองสอง เช่นว่าจะไปไหน กลับเมื่อไหร ไปทำอะไร จนเขาเริ่มสงสัยว่าคิบอมจะดูว่างเกินไปหรือเปล่าถึงต้องมาคอยดูเขาชนิดที่ว่าแทบจะเดินตามตลอดเวลา



    และคืนนี้ก็อีกเช่นกัน เขายังหาคังอินไม่เจอ เลยตัดสินใจเลิกหาก่อนชั่วคราวแล้วกลับบ้าน ซึ่งเร็วกว่าปกติเพราะเขาจะกลับเช้า แต่นี้พึ่งจะยังไม่เที่ยงคืนดีเลยด้วยซ้ำ เขาก้าวเข้ามาในบ้านอย่างเซงๆทำให้เห็นว่าคิบอมยังคงนั่งอ่านหนังสือ แต่เจ้าตัวดูจะไม่ค่อยสนใจหนังสือตรงหน้าซักเท่าไร มั่วแต่จ้องโทรศัพท์เสียมากกว่า จนเขานิ่วหน้านิดๆ ไม่นานคิบอมก็สังเกตเห็นเขาทำให้ชายนุ่มยิ้มออกมาพลางเดินมาหาเขา



    “ทำไมกลับเร็วละ”เขาขมวดคิ้วนิดๆก่อนจะหันหน้านี



    “นายบอกว่าฮันกยองจะกลับมาคืนนี้ไม่ใช่หรือ ก็เลยจะรอพบเจ้านั่นแล้วออกไปกันอีกรอบ”เสียงหวานบอกเซงๆทำให้ใบหน้าคิบอมดูจะเครียดขึ้นเล็กน้อย แต่ก็หายไปทันทีเมื่อเขาหันมามอง



    “นายจะไปพักเลยใช่ไหม หรือจะหาอะไรกินก่อน”คิบอมถามอีกอย่างเปลี่ยนเรื่องนิดๆทำให้เขาส่ายหน้า



    “ไม่ละ ฉันเป็นแวมไพร์น่ะ ข้าวฉันไม่กิน ขอบใจ”เขาเบ้ปากนิดๆทำให้คิบอมรีบพยักหน้าเขาใจ



    “นายไม่กลับบ้านหรือไง หรือกะจะเฝ้าฉันแทนเจ้าฮันกยองไปพร้อมกับเฝ้าดงเฮ”เขาพูดขึ้นมาอีก ทำให้คิบอมอ้าปากเพื่อจะตอบ



    “เจ้าฮันบอกว่า...ให้ช่วยมาดูแลบ้าน เผื่อฮันเตอร์มาจะได้พอคุยได้”เขายิ้มกว้างออกมาในที่สุดทำให้ฮยอกแจจ้องใบหน้าหล่อเขม่ง ก่อนจะพยักหน้าในที่สุด



    “ไปแล้วน่ะ ฮันกยองมาก็บอกฉันหน่อย”ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปอย่างเซงๆ



    ดวงตากลมโตมองไปยังประตูไม้ห้องข้างๆซึ่งเป็นประตูห้องของร่างสูง ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจเดินละจากห้องตัวเอง ตรงมายังห้องของฮันกยองทันที ไหนๆก็ว่างแล้วหารื้ออะไรเล่นดีกว่า นอนอ่านหนังสือฆ่าเวลาไปคงจะดีกว่านอนนิ่งๆพยายามหลับเป็นไหนๆ ป่านนี้เจ้าบ้านั่นไปไหนก็ไม่รู้ ทิ้งเขาไว้วันกว่าๆแล้ว จะเกิดเรื่องอะไรไหมหน่อ ยิ่งซื่อๆ บื่อๆ อยู่ด้วยแบบนี่น่าเป็นห่วง...นิดๆ



    ฮยอกแจปล่อยให้ความคิดไร้สาระเข้าสู่หัวสมองอย่างปลงๆในขณะรื้อหนังสือของฮันกยองไปเรื่อยๆ ซึ่งมีแต่อะไรที่น่าเบื่อทั้งนั่นสำหรับเขา ไม่เข้าใจว่าจะอ่านอะไรที่มันดีกว่าหนังสือเรียนก็ไม่ได้ เขาเบ้ปากเมื่อคิดถึงใบหน้าหล่อในยามใส่แว่นที่ชอบนั่นอยู่ตรงนี้...โต๊ะอ่านหนังสือ ในขณะพยายามพูดคุยกับเขาที่ชอบเข้ามากวนเวลาอยู่เสมอ ว่าแต่เจ้านั่นอ่านอะไรค้างไว้น่ะ ไม่ได้เข้าในนี้มาซะนานดูสิขนาดแล็ปท๊อปก็ยังไม่ถอดปลั๊ก....



    ร่างเล็กชะงักทันทีในขณะที่สูดหายใจเข้าแรงขึ้นกับกลิ่นอะไรบางอย่างที่สะกิดต่อมเขาจนดวงตาสีเข้มแววขึ้นมาด้วยประกายสีแดงอย่างไม่ตั้งใจ กลิ่นนี้....ร่างเล็กกลื่นน้ำลายเฮือกในขณะก้มลงมองกองกระดาษมากมายบนโต๊ะของฮันกยอง และไม่รอช้าเพื่อเข้าไปกระชากกระดาษออกจากสายตา เพื่อหาสิ่งที่เป็นที่มาของกลิ่นนี้ กลิ่นที่เขาไม่เคยชอบมันเลยตั้งแต่แรก อยากจะลืมให้ได้แต่กลับฝั่งแนนในหัวพอๆกับที่รู้วิธีหายใจ



    เขาเผลอแยกเขี้ยวออกมาเมื่อเล็บยาวของตัวเองข่วนกระดาษสองสามแผ่นขาดเป็นทางในขณะพยายามเวี่ยงมันออกไปให้พ้นทาง จนสุดท้ายเขาก็เจอสิ่งที่เป็นต้นเหตุ บัตรเชิญสีแดงสดน่าขนลุกที่วางไว้ ใกล้ๆกันก็เป็นซองสีแดงไม่แพ้กัน เขาจำได้...กลิ่นเลือดของอริสซ่า วิธีส่งสารของแวมไพร์ที่บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นเรื่องสำคัญ หากไม่สังเกตให้ดีคงไม่รู้เลยว่าอริสซ่าใช่เลือดของตัวเองแทบจะอาบกระดาษแผ่นนี้อยู่แล้ว อย่าบอกนะว่าที่ฮันกยองหายไปเพราะเรื่องนี้



    มือเรียวกระชากบัตรเชิญให้เปิดออก ก่อนจะอ่านลายมือที่เขาจำได้แม่นว่าเป็นของเธอแน่ๆ มันเขียนไว้ถึงบทกวีของเธอ ตามด้วยการพรรณนาว่าอยากจะดินเนอร์กับเขาแค่ไหน และสุดท้ายเป็นสถานที่นัด ซึ่งเขามั่นใจล้านเปอร์เซนในตอนนี้ว่าที่นี้คงเป็นบ้านซักหลังที่เจ้าของน่าจะตายไปแล้ว อริสซ่าคงเบื่อที่จะปล่อยเขาไปแล้ว หล่อนต้องการจะพาเขากลับไปเยอรมัน เพื่อทรมานเขาต่ออย่างที่เธออยากจะทำใจจะขาด และเห็นอยู่ชัดๆว่าฮันกยองคงจะพอรู้เรื่องว่ายัยนั่นคิดจะทำอะไร และชายหนุ่มก็ล่วงหน้าไปแล้วและ...คิดจะไม่ให้เขารู้แน่นอน ฮยอกแจเหวี่ยงบัตรเชิญนั่นทิ้งก่อนจะกระโจนออกนอกหน้าต่างทันทีเพื่อตรงไปที่นั่น เขาต้องรีบไปไม่งั้นฮันกยองต้องตายแน่ๆ...

     












    ************************************



    รักทุกๆคนเลยค่ะ

    หลังจากนี้ เค้าจะเขียนคู่ของเดเนียลด้วยและ หุหุหุ

    เล็กๆน้อยๆ ขำๆ น่ะเจ้าค่ะ




    คุคิคุคิ




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×