คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #69 : My Vampire 69
ซองมินพยักหน้ารับน้อยๆกับคุณหมอเจ้าของไข้ในชุดสีขาว พลางหันไปมองใบหน้าคมที่บ่งบอกว่าเคลียดจนทำให้คนป่วยอย่างเขานึกเคลียดแทนไปด้วย มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่คุณหมอเข้ามาเช็คอาการของเขา ไม่เข้าใจจริงๆว่าไอ้หน้าตาหล่อๆที่ตอนนี้งอลงจนไม่มีใครเข้าใกล้ ไม่เข้าใจว่าคยูกลุ่มใจอะไรนักหน้า?หรือจะเป็นเรื่องที่เขาบาดเจ็บ? คงเป็นที่ว่าเจ้าตัวไม่อยากจะอยู่เฝ้าซะมากกว่า พักหลังๆนี้ดงเฮก็ดูเหมือนจะไร้วิญญาณยังไงชอบกลอยู่ด้วย
“...แผลก็ท่าทางดีขึ้นมาก...ไม่อาการแทรกซ้อน...ไม่แพ้ยา...”เขาหันมาเมื่อได้ยินเสียงคุณหมอพึมพำพลางจดอะไรๆลงในกระดาษสีขาว พลิกไปพลิกมา ทำให้ซองมินลอบถอนหายใจนิดๆ จะอยู่ทีนี้อีกนานไหมหนอ
“อีกกี่วันถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้...ครับ”คยูกระแอมไอออกมา ทำให้คุณหมอเงยหน้ามามองขา
“เปลี่ยนเฝือกวันพรุ้งนี้แล้วหมอจะบอกว่าจะใช้เวลานานเท่าไร แต่ดูจากอาการแล้วคงจะไม่นาน ไปพักฝื้นที่บ้านได้...ทานอาหารเยอะๆก็แล้วกัน”คุณหมอหันมายิ้มให้เขาในท้ายที่สุด ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้เขาอยู่กับคนตัวสูงอย่างอึดอัด
ดวงตากลมเงยขึ้นมองขาตัวเองที่ตอนนี้ถูกพันไว้ด้วยผ้าสีขาวจนหนา กำลังห้อยติดอยู่กับตะขอเพื่อกันกระแทก กับแขนซ้ายที่ถูกพันผ้าไว้ไม่แพ้กัน จริงๆแล้วสภาพขนาดนี้เขาน่าจะตายไปแล้วจริงๆนะเนี่ย
“เอ่อ...หิวน้ำครับ”เสียงหวานพูดออกไปเบาๆ ทำให้คยูรีบลุกขึ้นมาเพื่อรินน้ำใส่แก้วแล้วเอามาให้เขาทันที ซึ่งยังดีที่แขนขวาไม่เป็นไร เลยพอช่วยตัวเองได้บ้าง เขารับแก้วน้ำมาอย่างไวพลางคิดว่าร่างสูงประชดตัวเองอยู่หรือเปล่า แค่เขาอ้าปากคยูก็รีบลุกแล้ว มันเป็นการดูแลคนป่วยที่...เร้าใจไปหน่อย
“ขอบคุณครับ”เขาพึมพำเบาๆทำให้มือหนารีบเอื่อมออกไปรับแก้วมาตั้งไว้ใกล้เตียง
“หิวไหม?”เสียงทุ้มถามอีกแต่ไม่รอฟังคำตอบเมื่อเขาหันไปหยิบจานแอปเปิ้ลที่นางพยาบาลปวกให้ขึ้นมาแล้วเดินมายังเขา สายตาคมที่จ้องมาอย่างจริงจังจนคนป่วยไม่กล้าปฏิเสธ และนี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขากังวลแต่ไม่กล้าพูดออกไป...ก็คยูเล่นจะให้เขาทานผลไม้และอะไรอีกหลายๆอย่างเกือบทุกครึ่งชั่วโมง ถ้าเขาไม่หลับหรือแกล้งหลับ
“ขอบคุณครับ..”เขายิ้มรับแห้งๆแล้วรับจานแอปเปิ้ลมา
“เมื่อวานฮันกยองซื้อน้ำองุ่นมาให้ แต่นายหลับอยู่ ดื่มไหม...”ไอ้ประโยคคำถามที่ออกไปทางบังคับนี้มันทำให้ร่างเล็กรีบยิ้มออกมาทันที
“แน่นอนครับ”คยูพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะรีบหันไปเทน้ำผลไม้ลงแก้วใบโตทันที นี้จะขุนเขาให้อ้วนแล้วค่อยฆ่าทิ้งหรือเปล่าเนี่ย?
“ไม่เจ็บแขนหรือขาแล้วน่ะ”เสียงทุ้มถามอีก ขณะที่เอาจานแอปเปิ้ลออกจากมือเรียว แทนที่ด้วยแก้วน้ำองุ่นทำให้วองมินรีบดูดอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณที่ช่วยอยู่เป็นเพื่อนครับ...จริงๆแล้ว...นายไปพักซักหน่อยก็ได้น่ะ”ซองมินบอก ทำให้ร่างสูงสายหน้า
“ฉันไม่เป็นไร..”คยูบอกพลางนั่งลงข้างเตียงของซองมิน จริงๆแล้วเขาก็ไม่แน่ใจจริงๆว่าตัวเองทำอะไรอยู่? ดูแลซองมิน...แต่มันดูต่างไปยังไงชอบกล ดูตัวเขากระตือรือร้นมากผิดปกติที่จะดูแลคนตรงหน้า นี่ถ้าคนที่บ้านมาเจอเข้าละก็ มีหวังเขาถูกไล่ออกจากตระกูลแน่ๆ ดูแลแฟรี่ไม่ให้ตาย แทนที่จะฆ่าทิ้ง แต่มันอดไม่ได้นิ
ทุกครั้งที่เห็นเฝือกสีขาวที่ขาของซองมิน ทำให้ให้เขาคิดย้อนถึงเห็นการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเขาแท้ๆทำให้ซองมินเกือบตาย เพราะตัวเขาคนเดียวเลยจริงๆ...และเป็นครั้งแรกที่เขาทั้งรู้สึกผิด รู้สึกโกรธวองมินที่ไม่รอเขา โกรธตัวเองที่ไม่ตามใจคนตรงหน้า หรือไปช่วยให้เร็วกว่านี้ แต่ตั้งแต่วันนั่นซองมินก็ไม่เคยว่าเขา แม้จะมีโอกาสคุยกันหลายครั้งในรอบหลายวันที่อยู่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่มีคำพูดต่อว่าอะไรออกมาเลย
“..ขอโทษที่ทำให้เหนื่อยแบบนี้นะ ถ้าฉันไม่เจ็บก็ดีสิ..”เขาได้ยินเสียงหวนว่า ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง
“ต้องเสียเวลานายมาคอยอยู่เป็นเพื่อน ขอโทษนะที่วันนั่นกลับมาก่อนจน...”ซองมินถอนหายใจยาว ทำให้เขาย่างรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่
“มันไม่ใช่ความผิดนาย เป็นความผิดฉันต่างหาก...ถ้าครั้งนั่นฉันไม่ปล่อยนายไป คงไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้”คยูบอกเสียงอ่อนพลางกำหมัดแน่น เมื่อนึกถึงใบหน้าสวยของแวมไพร์สาวตัวนั่น
“อย่าคิดแบบนั่นสิ..”
“ฉันยังไม่ได้เล่าอะไรมากมายนักให้พวกฮันกยองฟัง รู้สึกว่าฮยอกแจจะกลับมาแล้วด้วย เจ้านั่นก็มาเยี่ยมนาย แต่นายนอนอยู่..”คยูบอก
“แวมไพร์คนนั่นเธอมาหาคุณฮยอกแจครับ..เธอพูดเหมือนกับต้องการพบคุณฮยอกแจ”ซองมินบอก ทำให้คยูมองหน้าเขานิ่ง
“เพราะเจ้าบ้านั่นอีกแล้วหรือ?”คยูแยกเขี้ยวขาวออกมา ทำให้ซองมินใจหล่นวูบทันที
“ไม่ครับ หมายถึง...คุณฮยอกแจไม่น่าจะรู้เรื่อง เราควรบอกเรื่องนี้ให้คุณฮันกยองรู้ดีไหม”ร่างเล็กว่า ทำให้คยูนิ่งคิดเรื่องต่างๆ เจ้าบื่อนั่นท่าจะยังไม่รู้เรื่องอะไร อธิบายเรื่องแบบนี้ไปอาจจะไม่เข้าใจด้วยซ้ำ
“เย็นนี้เจ้านั่นจะมา ยังไงก็คงถามนายอยู่ดี...ก็เล่าไปนั่นและ”คยูถอนหายใจยาว ทำให้ซองมินพยักหน้าเข้าใจ
“..ยังไงซะนายต้องทำตัวให้หายไว้ๆเข้าใจไหม ฉันไม่อยากอยู่โรงพยาบาลนานนักหรอก”เสียงทุ้มพูดอีกพลางเอื่อมมือออกไปเช็ดหยดน้ำที่ติดปากบาง จนทำให้ซองมินหันมามองดวงตาคมที่จ้องอยู่ที่ปากของเขา
“นายจะตายไม่ได้ เพราะมีฉันเท่านั่นที่จะฆ่านายได้...เข้าใจ?”เสียงทุ้มบอกอีก ทำให้ซองมินหน้าซีดลงไปนิดหนึ่ง ก่อนจะยิ้มแห้งๆออกมา นี่กะจะขุนให้อ้วนแล้วฆ่าทิ้งจริงๆสิน่ะ = =
“อีกไม่นานก็หายแล้วครับ..”ซองมินบอกแห้งๆ เป้นเวลาเดียวกับที่คยูโน้มหน้าลงมายังริมฝีปากนุ่มสีชมพู ลิ้นชื้นไล่เลียเบาๆเอาหยดน้ำหวานๆจากน้ำผลไม้ที่ติดตรงมุมปากออก ก่อนจะค่อยๆล่วงล้ำเข้าไปในปากนุ่มสีชมพูหวานของซองมิน ดวงตากลมโตขึ้นมาอย่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พลางถอนหายใจยาวออกมาเมื่อรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ทัน กับรสจูบนุ่มหวานของคนตัวสูง ซึง่ตอนนี้แทบจะคร่อมเขาอยู่แล้ว คยูค่อยๆถอนจูบออกมาพลางมองสำรวจใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงระเรือ
“...ถ้าญาติฉันมาที่บ้านอีก ฉันจะพานายไปหลบแถวๆสวนสนุกดีไหม? มั่นใจว่าคนแบบนายคงไม่เคยไปแน่ๆ เพราะงั้นฉันจะสงเคราะห์พานายไปเอง บางทีอาจจะยอมให้นายได้ขื้นชิงช้าสวรรค์เป็นบุญซักครั้ง”เสียงทุ้มพูดออกไป ทำให้ดวงตากลมหลุบลงต่ำทันที
“ญ..ญาตินายจะมาอีกหรือ? เมื่อไรล่ะ”ซองมินถามออกไป ทำให้คยูลุกขึ้นเพื่อเอาแกว้ไปล้าง
“ทันทีที่นายหายดี”คยูพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะหายไปในห้องน้ำ ทำให้ร่างเล็กบนเตียงนั่งหน้าแดงยิ่งกว่าเดิมกับคำพูดของคยู นี่ร่างสูงจะพาเขาไปเที่ยวจริงๆหรือเนี่ย?? ยิ่งคิดก็ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่ แบบนี้เขาเป็นอะไรกันแน่น่ะ ถึงได้ใจเต้นเป้นบ้าเป็นหลังกับแวร์วูฟ ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่งกับชีวิตของเขา แบบนี้เรียกว่าชอบหรือเปล่าน่ะ..
“ซองมิน...”เสียงเรียกเบาหวิวดังมาจากประตู ทำให้เขาหันไปมองแต่ก้อดสะดุ่งเล็กๆไม่ได้เมื่อหันมาเจอใบหน้าหวานที่อิดโรยอย่างสุดๆของดงเฮ กับขอบตาที่ดำและบวมเหมือนไม่ได้นอนมาหลายคืน หรือไม่ก็ร้องไห้อย่างหนัก ดงเฮพยายามยิ้มให้เขาก่อนจะเดิน(ลอย)มานั่งที่เก้าอีข้างเตียง
“เป็นยังไงบ้าง...ดีขึ้นแล้วสิน่ะ...อาการดีแล้วสิน่ะ..”ดงเฮบอกด้วยน้ำเสียงที่ดูจะบั่นทอนกำลังใจคนป่วยมากไปหน่อย ก่อนจะเอื่อมมือออกมาจับมือเขา ในขณะที่น้ำตาคลอนิดๆ
“ซองมิน...ดีแล้วที่ใกล้จะหายดี...จะได้กลับบ้านกัน..”ดงเฮพูดในขณะที่พยายามกลั่นน้ำตาไว้ ทำให้เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะหายดีหรือเปล่า
“ดงเฮ ฉันยังไม่ตายน่ะ อย่าร้องไห้สิ”ซองมินบอกพยายามบีบมือของคนข้างๆทำให้ดงเฮปล่อยโฮออกมาเล็กๆ
“ซองมินนนนนน...ฉัน...ฉัน...”และมันก็เป็นแบบนี้มาสามหรือสี่วันแล้วเนี่ยและ ที่จู่ๆดงเฮก็กลายเป็นพวกเจ้าน้ำตา แทบจะร้องไห้ตลอดเวลา ไม่ยอมบอกเขาว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แรกๆเขาก็ตกใจที่ตัวเองเป็นต้นเหตุ แต่พักหลังๆเริ่มจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องอื่นมากกว่า ยิ่งกับฮันกยองยิ่งแล้วใหญ่..ไล่ว่าร่างสูงอย่างงั้นอย่างงี้ จนฮันกยองเองก็งงไปเหมือนกันว่าเรื่องอะไร
“ดงเฮ ทำอะไรไม่ทราบ?”เสียงทุ้มของคยูดังออกมาทำให้คนข้างๆเขาหันไปมอง ก่อนจะรีบวิ่งไปกอดร่างสูงจนคยูตาโตนิดๆ แต่ก็ยอมกอดตอบ
“ยังร้องไห้อยู่อีกหรือ? บอกทีได้ไหมว่าเรื่องอะไร ทำยังกับว่าโดนแฟนทิ้ง”
“แง๊งงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!”
“โอเค...โอเค...อย่าร้องๆๆ ผมขอโทษ..”คยุรีบปลอบเสียงเบาทันทีเมื่อเห็นว่าพี่ชายตัวเองร้องไห้หนักขึ้น
“คยู...ฉันน่ารักไหม ฉัน่ารักใช่ไหม? ฉันเท่ห์ใช่ไหม ฮือออ”เสียงหวานบอกออกมาอู้อี้ในขณะที่ซุกหน้าลงกับไหลกว้าง ทำให้คยูถอนหายใจออกมาเบาๆ
“พี่มันขี้แย...ตาบวมแบบนี้ไม่น่ารักเลยซักนิด...ไม่เทห์ด้วย...บอกผมมาว่าเกิดอะไรขึ้น พี่เป็นงี่มาสามวันแล้วน่ะ ผมจะไปจัดการให้ พี่จะได้เลิกร้องไห้ซักที”ร่างสูงบอกอีก ทำให้ดงเฮเงยหน้าขึ้นมา
“นายมันใจร้ายที่สุดเลย...อือ...คนบ้า...ไอ้บ้า!!!”ดงเฮร้องออกมาแล้ววิ่งกลับมาข้างเตียงของซองมิน
“อย่าร้องไห้สิดงเฮ...นายน่ารักน่ะ แต่นายร้องไห้ คยูเลยบอกว่านายไม่น่ารักไง”ซองมินบอกเสียงอ่อน ทำให้ดงเฮเงยหน้าขึ้นมา
“นายเนี่ยดีที่สุดแล้วซองมิน นายไม่กลัวฉันใช่ไหม...ฉันไม่น่ากลัวใช่ไหม??”
“ไม่น่ากลัวเลยซักนิด นายนิสัยดี น่ารัก..อย่าร้องไห้เลยนะ...บอกหน่อยสิว่ามีเรื่องอะไร”ซองมินบอกอีก ทำให้ดงเอกัดปากเล็กๆอย่างน่ารัก
“จะมีเรื่องอะไร คงเป็นเรื่องเจ้าบ้าคิบอมนั่นและ ยังคืนดีกันไม่ได้ก็ดีแล้ว...”คยูบอกทำให้ดงเอหันควับไปมองทันที
“อยากตายใช่ไหมเจ้าบ้า!!”ดงเฮหันไปแว๊ดเสียงดัง ทำให้คยูแกล้งลอยหน้าลอยตาไปจัดชุดผลไม้ให้ซองมินต่อ
“ทะเลาะกันหรืแ? แรงมากเลยหรือนายถึงร้องไห้แบบนี้..”ซองมินถามอีก ทำให้ดงเฮหันมา พยายามพูดอะไรซักอย่างแล้วก็เงียบลงไป
“...ฉันว่าคิบอมคงจะไม่มาเจอฉันอีกแล้วนะสิ”ดงเฮบอกเสียงอ่อน ในขณะที่นี้ตาก็รือขึ้นมาอีกจนซองมินรีบปลอบใจเป็นการใหญ่ แบบนี้ท่าจะเรื่องใหญ่นะเนี่ย..
***************************************************************************************
ขอบคุณทุกๆกำลังใจเจ้าค่ะ ซาบวึ่งสุดๆเยยยยยยย
ความคิดเห็น