ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~แวมเพอร์เรีย วิกฤติรักแวมไพร์( SUJU ) HanHyuk~ Yaoi

    ลำดับตอนที่ #52 : My Vampire 52

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 335
      2
      17 ก.พ. 56

     

     

     

    ลีทึมมองดูชายหนุ่มที่เดินมาอย่างเหนื่อยๆหลังจากหายไปนานจนกระทั้งจบการแข่งขัน และเริ่มเก็บของกันแล้ว ชายหนุ่มขวมดคิ้วก่อนจะมองยังคนมาใหม่อย่างคาดโทษโดยไม่ปิดบัง อ้างว่าเจ้บขาแล้วออกไปเลยเนี่ยน่ะ แต่ยังดีที่คิบอมเล่นได้ดีเลยทำให้พวกเขาชนะมาได้ และมีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่งของสาย   ว่าแล้วลีทึกจึงรีบเดินไปหาตัวต้นเหตุทันที ทำให้ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมา


    “หายไปไหนของนายเนี่ยฮัน! รู้ไหมว่าการแข่งมัน...”ชายหนุ่มพูดอย่างหัวเสียก่อนจะเงียบลงไปเมื่อเห็นรวยข่วนเป็นรอยแดงโผล่พ้นเสื้อบาสออกมา ทั้งยังรอยกัดเล็กๆที่เห็นอย่างชัดเจนบนไหล่กว้างอีก มันยิ่งทำให้ลีทึกเงียบ


    “เอ่อ...ผมไป...พอดีว่า...”ฮันกยองพยายามพูดเมื่อเห็นสายตาของลีทึกที่มองมายังรอยเล็บของอยอกแจบนไหล่ของเขา ก่อนที่จะกระแอมไอออกมาเพื่อหาทางแก้ตัว กับสายตาของลีทึกที่มองสำรวดตัวเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า


    “เฮ้ฮัน! ไปไหน...อู้ว...”เสียงยุนโฮดังขึ้นข้างหลังลีทึกก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองรุ่นน้องก่อนจะเดินเข้าไปตบไหล่ฮันกยองเบาๆ


    “บ๊อกเซอร์โผล่...แก้ตัวดีๆแล้วกัน”ยุนโฮกระซิบเสียงเบา ทำให้ร่างสูงก้มลงดึงชายเสื้อออกมาจากขอบบ๊อกเซอร์สีน้ำตาล ก่อนจะสบตาลีทึก


    “ฉันควรจะถามไหมว่าไปทำอะไรมา?”ลีทึกถามอีกอย่างไม่ค่อยแน่ใจ ทำให้ร่างสูงพยายามแก้ตัว


    “พอดีฮยอกแจมาหาผม...”


    “อ้อ!!! ฮยอกแจสิน่ะ”ลีทึกแสร้งทำเสียงสูงพลางมองเสื้อผ้าที่ยับยู้ยี่กับผมเผ้าที่ยุ้งเหยิงของฮันกยอง นั่นทำให้ชายหนุ่มพยายามพูดอย่างร้อนตัว


    “ไม่ใช่น่ะครับพี่...เราแค่คุยกัน คุย-เฉย-เฉย พี่กำลังเข้าใจผิด”ฮันกยองพยายามพูด


    “ฉันไม่สนหรอกว่าพวกนายจะมีบทสนธนาที่...รุนแรงแค่ไหน แต่เอ่อ...ฉันว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไรที่นายทิ้งการแข่งขันไปเพราะจะไป คุย กับฮยอกแจ”ลีทึกบ่นออกมา


    “ผมขอโทษครับ...”ฮันกยองบอกเสียงเศร้า ทำให้ลีทึกใจอ่อนลงมา


    “ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไป คนอื่นๆเริ่มทยอยเก็บกระเป๋าแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคิบอมเป็นคนทำคะแนนจนชนะละก็ ฉันจะบีบอุปกรณ์การคุยของนายให้สื่อสารกับใครไม่ได้อีกเลย” ลีทึกหน้าแดงขึ้นมานิดๆกับรวยข่วนเป็นแนวยาวที่หน้าอกของฮันกยอง เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง


    ฮันกยองอาบน้ำอย่างเหม่อลอยเพราะมัวแต่คิดถึงแต่เรื่องก่อนหน้านี้ เขาอุสาได้ตัวฮยอกแจแล้วเชียว แต่ดันปล่อยให้หนีไปได้ด้วยมุขเดิมๆ กี่ครั้งแล้วที่อยอกแจทำกับเขาแบบนี้ แต่ก็ยังเสียท่าเหมือนเดิมอีกจนได้ ร่างเล็กพูดถึงเรื่องสงครามของแวมไพร์กับฮันเตอร์ แล้วก็การที่จากไปเพื่อปกป้องเขา จากใครล่ะ? เธอ...ผู้หญิงคนนั่นเป็นใครกัน ถึงทำให้อยอกแจที่ดื้นรั้นกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้ อีกนิดเดียวแท้ๆ...เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องอะไรกันแน่


    “ซีวอน....”เสียงลีทึกเรียกเบาๆทำให้รุ่นน้องหนุ่มที่กำลังเช็ดผมตัวเองรีบเดินมาหาทันที


    “นายว่า นั่นรอยอะไรอ่ะ”เสียงหวานถามออกไป พลางชี้ไปที่แผ่นหลังกว้างของฮันกยองที่ตอนนี้เจ้าตัวยืนหันหลังเช็ดผมอยู่ โดยที่มีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แต่คำถามนั่นทำให้ซีวอนขำออกมาเบาๆในลำคอ ก่อนจะยกมือเสยผมตัวเองแล้วเท้าแขนออกไปเพื่อให้ลีทึกเงยหน้าขึ้นสบตาตัวเอง


    “จริงๆแล้วรอยแบบนั่นมันก็พูดยากนะพี่ อยากให้ผมพูดจริงๆหรือ”ซีวอนมองดูใบหน้าหวานที่ขึ้นสีอย่างเจ้าเลห์ ทำให้ลีทึกสอกไปยังหน้าท้องของซีวอนเบาๆ


    “ฉันรู้ว่ามันได้มายังไง แค่คิดว่ามันไม่ลึกไปหน่อยหรือ”ลีทึกเอียงคอเพื่อมองข้ามไหลของซีวอนไปยังฮันกยอง แต่ชายหนุ่มก็เดินมายืนบังไว้เหมือนเดิม ทำให้ลีทึกต้องเงยหน้าสบตาซีวอนอีกครั้ง


    “ให้ผมแสดงให้ดูไหมละ ว่าทำยังไง?”ซีวอนบอกยิ้มๆ ทำให้ชายหนุ่มสายหัวเซงๆ


    “ฉันไม่ชอบฝ่ายรับตัวใหญ่ๆ”ลีทึกบอกเสียงเหนื่อยก่อนจะเดินจากไป ทำให้ซีวอนดูจะเหวอนิดๆกับคำตอบของลีทึก ไอ้ที่เขาไม่เข้าใจคือรวยดูจะลึกมากเหมือนรอยข่วนของแมวมากกว่า แล้วอีกอย่าง ฮยอกแจไว้เล็บยาวขนาดนี้เขียวหรือ?









    .....................................................................................................................................................................................





    “ฉันบอกว่ามันไม่เป็นอะไรไง”ฮยอกแจเถียงออกไปเสียงแข็งพลางแยกเขี้ยวใส่คังอิน เมื่อทั้งสองยังคงยืนเถียงกันในเรื่องสำคัญสำหรับคืนนี้อยู่ ร่างสูงถอนหายใจออกมาเบาๆกับผู้สร้างตัวเล็กของเขาที่ดูจะแข็งแรงขึ้นเยอะกลังจากออกไปข้างนอกเมื่อกลางวันนี้


    “เป็นแน่นอนครับ ผมบอกว่าคุณพ่อเข้าไปไม่ได้ ยิ่งในฐานะที่จะไปหาข่าวก็ยิ่งแล้วใหญ่”คังอินว่า


    “ฉันจะไปหาข่าวของอริสซ่าด้วยตัวเอง! ไม่มีใครจำฉันได้หรอกน่า”ฮยอกแจบอก


    “คุณเป็นลูกชายของหล่อน แล้วจะเข้าไปหาข่าวของหล่อนเองเนี่ยน่ะ...ผมว่าคุณพ่อคงถูกจับตัวไปก่อนจะได้อ้าปากด้วยซ้ำ”ชายหนุ่มว่าอีก


    “ไม่มีใครจำฉันได้...”


    “บาร์เทนเดอร์ของที่นั่นความจำดีเป็นที่หนึ่ง หรืออย่างน้อยๆที่นี้ก็เต็มไปด้วยแวมไพร์ชั้นสูง คุณพ่ออาจจะเจอหล่อนนั่งอยู่ที่บาร์ด้วยซ้ำ”คังอินบอกอีก ทำให้ฮยอกแจเงียบไป


    “อริสซ่าจะจำนายได้ นายจะตาย ฉันปล่อยให้นายตายไม่ได้”ร่างเล็กว่า ทำให้ร่างสูงถอนหายใจออกมา


    “ผมจะเข้าไป ในฐานะหน่วยลับที่พึ่งย้ายมา แค่ถามความเคลื่อนไหวโดยรวม งานแบบนี้ผมถนัดกว่าคุณมาก ผมมั่นใจว่าไม่เป็นอะไร แค่ความเคลื่อนไหวต่อไปของอริสซ่า ว่าหล่อนตั้งใจจะทำอะไร แค่นั่น...เชื่อผมเถอะครับ”คังอินบอก ก่อนจะค่อยๆดันฮยอกแจให้เข้ามาติดกำแพงมากขึ้นเมื่อมีคนเดินผ่านมา


    “ถ้าภายในครึ่งชั่วโมงนายไม่ออกมา ฉันจะเข้าไป”ชายหนุ่มบอกอีก ทำให้คังอินพยักหน้า


    “คุณพ่อรออยู่ที่นี้ อย่าไปไหน...ผมจะรีบออกมา”


    ชายหนุ่มค่อยๆเดินหลบแวมไพร์หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่กำลังเมามันส์อยู่กับการกลีดเลือดของมนุษย์ผู้โชคร้ายคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะมองสำรวจไปรอบๆอย่างระวังตัว ที่นี้เป็นสถานที่ที่ไม่ผิดจากที่เขาคิดไว้มากนัก ไม่ต่างกับที่ญี่ปุ่นเท่าไร ดวงตาคมสีแดงมองดูแวมไพร์สาวสวยคนหนึ่งที่ส่งสายตายั่วยวนให้เขาก่อนที่เขาจะเบนสายตาแล้วตรงไปยังบาร์ขนาดยาวที่อยู่ใกล้ๆ


    “สวัสดีครับ”คังอินทักออกไปเบาๆ ทำให้บาร์เทนเดินหันมาก่อนจะเดินมายังเขา


    “รับอะไรดี?”ชายคนนั่นถามเสียงออกมาก่อนจะยิ้ม


    “เหล้า”คังอินบอกนิ่งๆ ทำให้บาร์เทนเดอร์หันหลังกลับไปเพื่อเอาเหล้าแก้วโตมาให้ชายหนุ่ม คังอินรับมาแต่ก็ยังคงไม่จ้องไปที่น้ำสีเหลือตรงหน้าโดยที่ยังไม่แตะต้องอะไร


    “นายไม่ใช่คนที่นี้ใช่ไหม? ฉันไม่คุ้นหน้านายเลย” ชายคนนั่นถามก่อนจะเท้าแขนลงมาเพื่อจ้องดวงตาคมสีแดง


    “ผมมาจากที่ญี่ปุ่น เพื่อมาช่วยงานของที่นี้...ผมก็ไม่คุ้นเคยเหมือนกัน”ชายหนุ่มว่าก่อนจะกระดกเหล้าเข้าไปเกือบครึ่งแก้ว นั่นทำให้สายตาของบาร์เทนเดอร์เปลี่ยนมาเป็นมิตรขึ้น


    “การปรับตัวก็ยากแบบนี้ คนที่ย้ายมาใหม่มีเยอะ..ให้ฉันช่วยอะไรได้บ้าง”บาร์เทนเดอร์ว่า


    “คนๆหนึ่งบอกฉันว่าให้มาถามข่าวโดยรวมที่บาร์นี้เพื่อความเข้าใจสถานการณ์ นายบอกฉันได้ไหม?”คังอินว่า ทำให้บาร์เทนเดอร์เบ้ปากนิดๆกับคำถามที่สุดแสนจะธรรมดาของคังอิน


    “ก็ไม่มีอะไรใหม่ๆเข้ามา เราก็สู้กับฮันเตอร์ทุกคืนนั่นและ ไอ้พวกนั่นอยู่ทุกๆที่...ก่อนหน้านี้ไม่นานก็ฆ่าแวมไพร์พี่น้องของเราไปสองคนใกล้กับสวนสาธรณะห่างจากที่นี้เกือบ4ไมล์ แต่อาจเป็นเพราะท่านอริสซ่าก็ได้ที่ทำให้เจ้าพวกฮันเตอร์โกรธจนควัญออกหู นายรู้ไหมเด็กใหม่..ท่านอริสซ่าของเราห่าเจ้าพวกนั่นไป4คนด้วยมือเปล่า แถมยังเอาหัวของพวกมันคนหนึ่งกลับมาด้วย เธอน่ะเก่งขนาดที่ว่าท่านเรย์ม่อนก็ยังสู้ไม่ได้เชียวน่ะ”


    “ฆ่าฮันเตอร์ไป4คน? ทำแบบนั่นจะไม่ยิ่งทำให้พวกฮันเตอร์เดือดหรือ?”คังอินถามอีก พลางคิดถึงอริสซ่าที่ดูจะกลายเป็นคนเด่นดังไปซะแล้ว


    “ใครจะไปสนกัน ให้พวกมันรู้ซะบ้างสิดี ให้พวกมันเลิกผยองว่าตัวเองเก่งกาจกว่าพวกเรา  นั่นไงล่ะท่านอริสซ่า...”บาร์เทนเดอร์พยักหน้าไปทางประตูฝั่งตรงข้ามที่มีหญิงสาวผมสีขาวเงินเด่นสง่าเดินเข้ามากับคนอื่นๆที่ดูอันตรายอีกสามคน ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินเข้ายังทางเดินอีกฝั่งหนึ่ง เขานึกขอบคุณตัวเองที่นั่งอยู่ในมุมที่หันหลังให้อริสซ่า ไม่งั้นหญิงสาวอาจจะสังเกตุเห็นเขาก็ได้


    “คนผมขาวน่ะหรือ..”คังอินว่า ทำให้บาร์เทนเดอร์พยักหน้า


    “เห็นว่าเธอมาที่นี้เพื่อมาพบลูกชายของเธอ มากกว่ามาร่วมต่อสู้เพราะคำสั่งจากเบื่องบนซะอีก ก่อนหน้านี้เธอก้มาขอที่อยู่ลูกชายของเธอ...คงวางแผนจะไปหาเด็กคนนั่นละมั้ง”บาร์เทนเดอร์ว่าขำๆ แต่คังอินกลับหน้าซีดขึ้นมา แต่กลับปรับสีหน้าให้เรียบเฉยเหมือนเดิมเมื่อบาร์เทนเดอร์หันมาหาเขาอีกรอบ


    “ชักอยากจะเห็นหน้าคนโชคดีคนนั่นซะแล้ว”คังอินพูดออกมายิ้มๆ ทำให้บาร์เทนเดอร์ขำออกมา


    “ใช่...หนุ่มๆก็พูดแบบนั่นกันเกือบหมด แต่น่าเสียดายที่เธอถูกใจเหล่าสตรีมากกว่าบุรุษเช่นเรา แต่บางครั้งเธอก็เลือกบุรุษ
    เหมือนกัน ก็ต้องค่อยดูว่าชายใดจะโชคดี”



    “งั้นฉันคงไม่คิดแข่งดีกว่า คงจะสู้ใครๆไม่ไหว”ร่างสูงบอก ได้เวลาเขาต้องไปแล้วสิน่ะ แม้จะอยากรู้ว่าอริสว่าจะไปหาฮยอกแจเมื่อไร แต่ของแบบนั่นบาร์เทนเดอร์คงไม่รู้หรอก คงจะตามใจเจ้าหล่อนเสียมากกว่า ชายหนุ่มกระดกแก้วเหล้าให้หมดก่อนจะลุกขึ้นเพื่อหยิบเงินออกมาสำหรับค่าเหล้า


    “สตีเฟน?”เสียงทักดังขึ้นทำให้เขาหันมามอง ก่อนจะพบกับชายหนุ่มนามว่าสก็อตที่ยืนยิ้มให้เขาอยู่ ก่อนที่จะรีบเข้ามากอดเขาทันที


    “เป็นยังไงบ้างสหายข้า ไม่นึกเลยว่าจะเจอเจ้าที่นี้”สก็อตบอกยิ้มๆทำให้คังอินยิ้มออกมานิดๆ


    “ข้าติดธุระ”


    “เจ้ามาทำอะไรที่นี้กัน ทำไมไม่บอกข้าว่าเจ้าจะมา”ชายหนุ่มบอกอีก


    “ข้าแค่แวะมาดื่ม ถามข่าวสารทั่วไป ไม่มีอะไรหรอก”คังอินหันไปยังแก้วเบียร์ของเขา ทำให้เขาเห้นสีหน้าของบาร์เทนเดอร์ที่ซีดลงไป


    “ถ้าเพียงแต่เจ้าบอกข้า มาสิข้าจะพาเจ้าไปที่ห้องชั้นสอง มีหลายคนเลยที่ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จัก”สก็อตบอกอีก แต่คังอินกลับถอนหายใจออกมา


    “จริงๆแล้วข้าอยากแค่อยู่กับท่านมากกว่า...แต่ช่างน่าเสียดายว่าถึงแม้ข้าจะมีโอกาสเช่นนั่น ข้าก็เกรงว่าคงจะไม่ได้ ข้าต้องกลับไปทำงานต่อ...ตอนนี้ข้ากำลังตามติดพวกฮันเตอร์อยู่ ข้าทิ้งงานมานานมากแล้ว”คังอินว่า


    “ช่างน่าเสียดาย ข้าหวังว่าจะได้พบเจ้าอีก”สก็อตบอก แต่เขาก้ยอมกอดคังอินเมื่อชายหนุ่มดึงคนตรงหน้าเข้าไปกอดเพื่อบอกลา

    “ข้าเกลียดตัวเองที่ทำให้ท่านผิดหวัง อภัยให้ข้าด้วย”คังอินบอกเสียงอ่อนก่อนจะก้มลงไปจูบเบาๆที่แก้มของชายหนุ่มที่เตี้ยกว่าเขาเพียงไม่กี่เซน


    หลังจากสก็อตเดินกลับไปแล้วคังอินจึงหันมาเพื่อจ่ายค่าเหล้าที่เขาดื่มไป แต่ร่างสูงก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาพบกับสีหน้าไม่สู้ดีของบาร์เทนเดอร์


    “ท่านควรจะบอกข้าซักนิดว่าท่านเป็นสหายของท่านสก็อต ไม่งั้นข้าคงไม่พูดกับท่านเยี่ยงคนสนิทแบบนั่น อภัยให้ข้าด้วย”บาร์เทนเดอร์บอก ทำให้คังอินโบกมือขึ้นมา


    “ฉันไม่ถือสาอะไรหรอก ขอบใจมากสำหรับข่าว”คังอินยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปจากบาร์ เพื่อตรงไปหาฮยอกแจที่รออยู่ ดุท่าว่ามันคงจะลำบากสำหรับเขาในการบอกข่าวแบบนี้กับฮยอกแจซะแล้วสิ จะพูดยังไงดีในเมื่อที่อริสซ่าจะไปหามันไม่ใช่ที่ที่ฮยอกแจอยู่อีกแล้ว แต่เป็นที่ที่ฮันกยองอยู่ต่างหาก

     





    ..............................................................................................................


     

     

    แถม


    ชายหนุ่มผมทองเดินเข้ามาในผับซึงเขาเป็นเจ้าของอย่างเหนื่อยๆแต่ก็ดีขึ้นเมื่อนึกถึงใบหน้าของเพื่อนของเขาที่เขาอดคิดถึงไม่ได้ ชายหนุ่มวางเชือกหนังซึ่งล่ามมนุษย์เอาไว้สีคนให้บาร์เทนเดอร์ก่อนที่จะนวดคอตัวเองเบาๆด้วยความเหนื่อยๆ นั่นทำให้บาร์เทนเดอร์รีบเดินมาหยิบเชือกเพื่อเอามนุษย์เหล่านั่นเข้าไปเก็บในกรงหลังร้าน


    “วันนี้เป็นยังไงบ้าง เบรนดอน”เรย์ม่อนเอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่ค่อยใส่ใจ พลางดื่มไวน์ที่บาร์เทนเดอร์เทให้เขา


    “ไม่มีอะไรผิดปกติครับท่านเรย์ม่อน มีแค่สหายของท่านสก็อตที่มาถามข่าวสารทั่วไป”บาร์เทนเดอร์บอก ทำให้ดวงตาคมสีแดงหันมามองด้วยความสนใจทันที


    “สหายของสก็อต? ใคร? ข้ารู้จักหรือเปล่า”


    “ไม่ครับ เป็นคนใหม่ที่ย้ายมาจากญี่ปุ่น ข้าได้ยินท่านสก็อตเรียกว่าสตีเฟน...เขาสองคนดูสนิทกันมาก ผมก็เลยไม่กล้าถามอะไรมาก”เขาบอก ทำให้เรย์ม่อนถึงกับกัดฟันด้วยความเคืองนิดๆ


    “สก็อตอยู่ไหน”เรย์ม่อนถามเสียงแข็ง


    “ชั้นสองครับ”ทันทีที่บาร์เทนเดอร์ตอนเสร็จ ขายาวจึงรีบตรงไปยังชั้นสองของสถานบันเทิงของเขาทันที ชายหนุ่มเปิดประตูเขาไปอย่างแรงก่อนที่จะพบกับชายหนุ่มผมสีอ่อนที่เขากำลังตามตัวอยู่กำลังหัวเราะอย่างอารมณ์ดีอยู่กับแวมไพร์สาวสองคนที่อยู่บนตักของชายหนุ่ม


    “ออกไป!!”เรย์ม่อนคำรามลั่น ทำให้หญิงสาวสองคนรีบตะกายลงจากตักของสก็อตตรงไปเก็บเศษเสื้อของพวกหล่อนแล้วรีบออกไปทันที


    “มีอะไรเรย์ม่อน?”สก็อตถามออกมาเซงๆก่อนจะลุกขึ้นเพื่อติดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองพร้อมกับแต่งตัวให้เรียบร้อย


    “ใครมาหาเจ้า...”ชายหนุ่มถามเสียงแข็ง


    “สหายข้า”


    “ข้าอยากพบมัน”เรย์ม่อนบอก ทำให้ชายหนุ่มหันมาขำแห้งๆ


    “เจ้าไม่ใช่เจ้าของข้าเรย์ม่อน อย่าสำคัญตัวผิดเพียงเพราะข้านอนกับเจ้าเยี่ยงชายหญิง...เจ้ายังไงก็เป็นเพียงแค่สหายข้า”สก๊อตบอกหน่ายๆ


    “งั้นข้าก็จะสำคัญผิดในเรื่องที่เจ้าปกป้องชายคนนั่นด้วย สก็อต...ถ้าข้าเจอมันเมื่อไร นั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เจ้าได้ข่าวมัน”เรย์ม่อนแยกเขี้ยวอย่างน่ากลัว แต่กลับทำให้สก็อตขำออกมา


    “เจ้าหึงข้า?”ชายหนุ่มยกยิ้มออกมา


    “...”


    “ข้าขอถอนคำพูดที่ว่าเจ้าเป็นเพียงสหายคนหนึ่ง ตามจริงการอยู่กับเจ้าก็ไม่เลวร้ายนัก”สก็อตบอก ก่อนจะค่อยๆปลอดกระดุมเสื้อของเรย์ม่อนออก เผยให้เห็นแผ่นอกแน่นตึงกับขนหน้าอกสีน้ำตาลนุ่มมือ


    “ข้าจะตามล่ามัน”ชายหนุ่มขบฟันแน่นเมื่อนึกถึงเรื่องของคนที่ชื่อสตีเฟน เขาจะต้องสืบให้ได้ว่ามันเป็นใคร





    ....................................................................................................................................................................................................................


    ที่หายไปเพราะ ตรุษจีนเจ้าค่ะ  ปีนี้ทางบานไหว้พิธีใหญ่ = =

    ขอให้ปีนี้ร่ำรวย มีแต่ความสุขนะ ค่ะทุกๆคนนนนน  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×