ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~แวมเพอร์เรีย วิกฤติรักแวมไพร์( SUJU ) HanHyuk~ Yaoi

    ลำดับตอนที่ #44 : My Vampire 44

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 324
      1
      30 ม.ค. 56

     

     

     
     

    ร่างสูงนั่งเงียบมองดูเซี้ยวหน้าหวานของที่ที่นั่งอยู่ข้างๆ บรรยากาศที่สุดแสนอึมครึมตั้งแต่ที่เขาถูกคังอินต่อยมา มือเรียวค่อยๆทายากที่มุมปากเขาเบาๆก่อนจะวางสำลีนั่นลง และเริ่มเอาสำลีก่อนใหม่ออกมา ชายหนุ่มก้มมองตามมือเรียว แต่ก็ยังไม่พูดอะไร จริงๆแล้วเขาไม่รู้จะพูดอะไรเสียมากกว่า


    ตั้งแต่ร่างเล็กและคังอินหายไปลีทึกก็พาเขาขึ้นมาทำแผลข้างบนห้อง เขาละไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ทำไมอยู่ดีๆฮยอกแจถึงเปลี่ยนท่าทางไปขนาดนี้ หรือว่าจริงๆแล้ว...ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ในทางนั่นมาตั้งนานแล้ว แต่เขาไม่รู้ หรือทั้งสองคนไม่ยอมบอกเขา ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาไม่มีทางยอมแน่


    ฮันกยองขบกรามแน่น ก่อนจะหลับตาลงเพื่อระงับอารมณ์ พวกแวมไพร์นี้เป็นแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่า? แล้วยิ่งเรื่องนั่นอีก จริงหรือที่ฮยอกแจและคังอินมีความสัมพันพ์กันถึงขนาดนั่น เขานี้สมน้ำหน้าตัวเองจริงๆที่ทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่มานั่งกัดฟันกรอดๆมองดูทั้งคู่จากไป


    “ฮัน...หันหน้ามาหน่อยสิ”เสียงวานเรียกขึ้นมาเบาๆ ทำให้เขาเงยหน้าขึ้น นั่นทำให้เขาพบว่าตัวเองอยู่ห่างจากคนตรงหน้าเพียงไม่กี่นิ้ว ดวงตากลมโตมองเขานิ่งก่อนที่จะพลุบตาลงต่ำเพื่อทำแผลให้เขาต่อ


    “พี่ไม่เป็นอะไรน่ะ..”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างเป็นห่วง นั่นทำให้ลีทึกหยุดมือ ก่อนจะทำแผลต่อเหมือนไม่ได้ยินอะไร


    “ใกล้เสร็จแล้ว แปปนึงน่ะ”ลีทึกทำเป็นไม่ได้ยิน ทั้งยังทำแผลต่อนั่นทำให้มือหนาเอื่อมขึ้นมาจับมือเรียวไว้


    “พี่ไม่เป็นอะไรน่ะ...”ร่างสูงจ้องดวงตากลมโตนั่นทำให้ลีทึกหันหน้าหนีไปอีกทาง


    “นายต่างหากคนที่ถูกต่อย ไม่ใช่ฉัน”ลีทึกบอก นั่นทำให้ฮันกยองปล่อยมือ


    “หน้าพี่ซีดมากเลย ผมว่าพี่...”


    “ฉันไม่เป็นอะไร! นี้มันก็ดึกมากแล้ว...นายกลับไปเถอะ”ร่างเล็กว่า ก่อนจะเก็บของแล้วลุกขึ้น เดินเข้าห้องครัวไป


    “...”ฮันกยองมองดูแผ่นหลังเล็กที่ตอนนี้ยืนนิ่งอยู่ที่อ่างล้างจาน เขาคิดว่าขืนเป็นแบบนี้ ถามอะไรไปก็คงไม่ตอบอยู่ดีเพราะฉะนั่น เขาว่าวันนี้เขาไปดีกว่า


    ลีทึกยืนนิ่งมองดูอ่างล้างจานสีเงินตรงหน้า ในขณะที่เสียงประตูบ้านปิดลง แสดงให้เห็นว่าฮันกยองได้ออกไปแล้ว ทันทีที่เสียงประตูบ้านปิดลง น้ำตาเม็ดโตก็ไหลออกมาทันที ใช่ว่าเขาจะไม่เป็นอะไรเลยซักหน่อย เขาเจ็บมากเลยต่างหาก ที่คังอินไม่แม้แต่จะหันหลังหลับมามองด้วยซ้ำ


    เห็นอยู่โต้งๆว่าเขาชอบคังอิน และเจ้าตัวก็ไม่ได้ใยดีเขาแม้แต่น้อย เขาผิดหวังจากฮันกยองเพราะฮยอกแจ แล้วยังผิดหวังจากคังอินเพราะฮยอกแจอีก เขาไม่รู้เลยว่าทำไมพระเจ้าถึงได้ทำแบบนี้กับเขา แบบนี้ก็ได้ ในเมื่อมันเลวร้ายนักเขาก็จะตัดใจ หันมารักตัวเองเหมือนเดิม แม้จะคิดแบบนั่น แต่มันก็อดที่จะคิดเรื่องแย่ๆไม่ได้อยู่ดี








    .................................................................................................................................................................................





    ฮันกยองกลับมาบ้านในเวลาเกือบเทียงคืนครึ่ง หวังอยู่ลึกๆว่าจะเจอคนตัวเล็กวิ่งลงมาจากชั้นบนแล้วบอกว่าทุกอย่างเป็นเรื่องตลก หรืออะไรก็ได้ แต่นี้บ้านกลับเงียบกริบเหมือนไม่มีใครอยู่เลย ทั้งบ้านปิดไฟเงียบ เงียบเสียจนเขาได้ยินเสียงเปิดประตูรั่วเป็นครั้งแรก


    เดิมทีแล้วเขาก็อยู่คนเดียวมานานขนาดไหนแต่จูๆกลับกลายเป็นไม่ชินซะอย่างนั่น เขาควรจะต้องอ่านหนังสือ สอบ เล่นกีฬา นอน นั่นคือชีวิตปกติสุขของเขาก่อนหน้านี้หลายเดือน แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่ ดวงตาคมมองดูรอบๆอย่างเซงๆ พร้อมกับคิดในแง่ดีว่าซองมินก็ยังอยู่ แล้วฮยอกแจก็จะกลับมา ขนาดครั้งนั่นที่หนีไปกับคังอินยังกลับมาเลย


    ...แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกันนิ มันเหมือนกับฮยอกแจอยากให้เขาเห็นฉากแบบนั่น เหมือนกับว่าจงใจทำให้เขาเสียใจ นี้คนตัวเล็กเกลียดเขาแล้วหรือ ถึงได้จงใจทำร้ายจิตใจเขาขนาดนี้ ฮันกยองสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆออกไป ก่อนจะเอื่อมมือไปเปิดไฟ นี้ขนาดซองมินก็ทิ้งเขาไปอีกคนหรือเนี่ย


    “ซองมินฉันกลับมาแล้ว...ซื้อน้ำผลไม้มาด้วยน่ะ”ร่างสูงพูด พลางเดินดูรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นวี่แวววของร่างเล็กเลย ฮันกยองเลยตัดสินใจเอาน้ำผลไม้ในกระเป๋าไปแช่เย็น ก่อนจะเดินลงไปห้องใต้ดินที่ตอนนี้เป็นห้องนอนของซองมิน


    “ซองมินครับ?”ดวงตาคมมองดูรอบๆแต่ก็ไม่เจอใคร บางทีซองมินอาจจะไปอยู่บ้านดงเฮก็ได้ แต่นี้ก็ดึกแล้วไม่คิดกลับบ้านหน่อยหรือไง ฮันกยองคิดเซงๆก่อนจะเดินไปมองผ่านหน้าต่าง แต่บ้านดงเฮก็ปิดไฟเงียบเหมือนกัน ฮันกยองจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำ


    ดวงตาคมมองดูประตูไม้ที่อยู่ข้างห้องเขา ที่ตอนนี้เจ้าของห้องไม่รู้หายไปไหนซะแล้ว บางทีวันนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ ที่เขาจะได้เจอกับร่างเล็ก ฮันกยองถอนหายใจยาวก่อนจะถอดเสื้อออกแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว แต่ความรู้สึกเหมือนกับมีคนอื่นอยู่ที่นี้มันก็ทำให้เขาหันกลับมาทันที แต่สิ่งที่พบก็มีเพียงความว่างเปล่า


    “ใครน่ะ?”ร่างสูงเสี่ยงถามออกไป ก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องเพื่อเปิดออกไปดู แต่ทั้งบ้านก็ยังมีแต่ความเงียบ ร่างสูงจึงเอื่อมมือไปหยิบแจกันใบเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเพื่อเป็นเครื่องมือป้องกัน


    “ซองมิน??? กลับมาแล้วก็ส่งเสียงหน่อยสิ”ฮันกยองตะโกนถามลงไปแต่ก็ได้รับเพียงความเงียบเชียบเหมือนกับไม่มีใครอยู่ เขาเองก็คิดอยู่ว่าอาจจะคิดมากไปเองหรือก็ระแวงไปเอง แต่ความรู้สึกเหมือนกับบ้านนี้ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวนั่นก็ยิ่งทำให้เขากำแจกันแน่นขึ้น ขโมยหรือ?




    ฟุบ !







    เพล้ง!!!




    ทันทีที่ฮันกยองรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวข้างหลัง เขาก็ออกแรงฟาดแจกันไปยังสิ่งนั่นอย่างแรง แต่ผลที่ได้ก็คือมือเขาถูกปัดออกอย่างง่ายดายจนกระทั้งแจกันปลิวไปตกแตกใกล้ๆ ส่วนตัวเขาก็ถูกขัดขาให้ล้มลงโดยใครคนหนึ่ง ก่อนที่มีดคมกริบปลายแหลมจะปักลงมาที่เขา แต่ไวเท่าความคิดร่างสูงจึงยกแขนขึ้นกันแขนอีกฝ่าย ทำให้ปลายมีดหยุดอยู่เพียงแค่เหนื่อหัวใจเขาเพียงนิ้วเดียวเท่านั่น


    ฮันกยองหอบหายใจถี่ทั้งยังความรู้สึกตื่นตระหนก ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ฝึกวิชาต่อสู้มาตั้งแต่เด็กๆพร้อมๆกับญาติๆของเขาละก็ เห็นอยู่ชัดๆว่าเขาคงตายไปแล้วจริงๆแน่ ดวงตาคมมองดูดวงตาสีนิลที่อยู่ตรงหน้าเขาซึ่งตอนนี้ถูกปิดไว้เกือบครึ่งเห็นอยู่ชัดๆว่าขนตายาวสีดำกับใบหน้าเรียวเล็กนี้เป็นของผู้หญิงแน่ๆ



    หญิงสาวหรี่ตามองเขาอย่างพินิจ ก่อนจะตาโตขึ้นมาอย่างตกใจ เธอเอื่อมมือออกมาเพื่อดึงผ้าปิดหน้าออกก่อนจะค่อยๆลุกออกมาจากตัวของฮันกยอง


    “พี่ลี??”ร่างสูงถอยออกมาทันทีที่หญิงสาวปล่อยเขา


    “ฮันกยองจริงๆด้วย! นายมาทำอะไรที่บ้านหลังนี้ ออกไปที่นี้มันอันตราย”หญิงสาวยืนขึ้นเต็มความสูงพลางมองสำรวจรอบบ้านอย่างระวังภัย


    “พี่พูดเรื่องอะไร พี่นั่นและทำไมมาอยู่ที่นี้ พ่อบอกว่าพี่ได้ทุนไปเรียนต่อที่ประเทศจีน”ชายหนุ่มว่าพลางมองตามหญิงสาวที่เดินสำรวจบ้านเขาอย่างระแวง ใช่แล้ว...คนตรงหน้าเป็นเหมือนญาติห่างๆของเขา พ่อแม่เคยเล่าให้ฟังว่าญาติของเรามีเยอะมาก และต่างกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลก แต่อาจจะเป็นเพราะว่าแต่ละคนล้วนเก่งกาจถึงขนาดนี้พูดได้อย่างต่ำ4ภาษาและสอบไปเรียนต่างประเทศกันทั้งนั่น


    เขาไม่ค่อยรู้จักใครนักหรอก มีเพียงลูกพี่ลูกน้องไม่กี่คนที่เขาเคยเจอตอนเป็นเด็ก อาจจะยอมรับก็ได้ว่าเขาคงจะอ่อนที่สุดในตระกูลเขาจึงเลือกเรียนกฏหมายเพื่อชอบพ่อกับแม่ ที่เป็นแค่ชาวนาจนๆต่างกับญาติคนอื่นๆ


    “พี่ตอบผมหน่อยสิ ผมเกือบตายแล้วรู้ไหม พี่เอามีดนั่นมาแทงผมน่ะ! ของจริงหรือเปล่า”ร่างสูงพูดต่ออย่างตื่นๆนั่นทำให้หญิงสาวหยุดก่อนจะหันกลับมาหาร่างสูง แล้วเก็บมีดเล่มยาวเข้าข้างเอว


    “นายคงมาที่นี้ก่อนพี่สิน่ะ...สายเราบอกว่าที่นี้มีศัตรูอาศัยอยู่ ก่อนหน้านี้ไม่นานคนของเราถูกฆ่าไป4คน เพื่อนพี่รอดมาได้คนหนึ่ง นายต้องกลับไปรายงานว่าเจออะไรที่นี้บ้าง...เราต้องตามล่าไอ้ปลิงที่มันกล้ามาฆ่าคนของเรา”หญิงสาวพูด


    “อะไรน่ะ? มีคนตาย?? ใครตายครับ”คำพูดของฮันกยองทำให้หญิงสาวหันมามองอย่างงงๆแล้วเธอก็ตาโตขึ้นมา


    “ท่านลุงไม่ได้...เออ...บอกอะไรนาย? เรื่องปลิง?...อาชีพของพวกเรา?”สาวสวยถามอย่างไม่แน่ใจ


    “พ่อผมทำไม ถ้าพี่จะถามว่าทำไมผมอยู่ที่โซลละก็ มาได้ทุนมาเรียนกฎหมายที่นี้แล้วก็บังเอิญได้มาอยู่บ้านหลังนี้ครับ”ชายหนุ่มว่า


    “ตายโหง...”หญิงสาวอุทานออกมาเบาๆ


    “พี่บอกว่ามีคนตาย..ใครตายครับ?”ฮัยกยองหันมาถามหญิงสาว นั่นทำให้เธอหันมายิ้มหวานให้เขาอีกรอบ


    “คือ..พี่อ่านข่าวมาน่ะจ้ะ เห็นว่ามีคนถูกฆ่าตาย พี่พึ่งกลับมาจากจีน พี่เป็นห่วงเรามากเลยก็เลยมาหา...แถวนี้อันตรายมากเลย พี่กลัวมากเลยจ้ะ”หญิงสาวทำเสียงอ่อนต่างกับก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง


    “พี่กลับมาจากจีนเนี่ยน่ะ ทำไมผมไม่รู้ข่าวเลย”ฮันกยองถามอย่างไม่ค่อยไว้ใจ นั่นทำให้หญิงสาวปั้นหน้ายิ้ม


    “คือพี่...”


    “คุณลีครับ! ทุกห้องเครียครับ ไม่มีแว...”


    “ที่รักค่ะ!!!! เดียวลีจะลงไปแล้ว เราเจอน้องฮันแล้วเดียวที่รักไปรอที่รถเลยก็ได้ค่ะ”กว่าที่คนข้างล่างจะตะโกนเสร็จหญิงสาวก็ชิงตอบไปก่อน นั่นทำให้ฮันกยองรีบชะโงกหน้าลงไปที่ชั้นสอง


    “พี่ค้นบ้านผม!?!”ฮันกยองร้องออกมาเสียงหลง พลางมองหน้าหญิงสาวที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นี้ถ้าฮยอกแจกับซองมินอยู่ละก็


    “ตายจริง นี้ก็ดึกมากแล้ว พี่ว่าพี่กลับดีกว่า...ตั้งใจเรียนน่ะจ้ะน้องพี่ เราภูมิใจในตัวนาย”หญิงสาวรีบตัดบนก่อนจะดึงใบหน้าคมลงมาจูบไปยังหน้าผาก แล้วหญิงสาวก็รีบวิ่งลงบันไดไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


    “เดียวครับ!”ชายหนุ่มตะโกนไล่หลังพร้อมกับวิ่งตามลงมา แต่กลับไม่เจอใครเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งบ้านยังคงเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอยู่เหมือนเดิม ประตูก็ยังคงล็อกไว้แบบที่เขาเข้ามา หน้าต่างก็ยังคงปิด แล้วลุกพี่ลูกน้องสาวของเขาไปไหนแล้วละ ไม่สิ...ต้องถามว่าเข้ามายังไงมากกว่า


    “นี่มันเรื่องอะไรว่ะเนี่ย...”ฮันกยองบ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะเอื่อมมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเองอย่างอ่อนใจ ไม่ไหวแล้ว...วันนี้เขาไปนอนก่อนแล้วกัน อาบน้ำนอน แล้วพรุ้งนี้ค่อยว่ากันอีกที





    **********************************************************************************************************************




    -0-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×